ตอนที่ 22 : [แก้บนโฮลิน] Nice to meet you, BIGBIKE! 1/3
มาแก้บนค่ะ
Nice to meet you, BIGBIKE!
ลูกคลื่น – ควานลิน / บิ๊กไบค์ – แบคโฮ / พี่มินทร์ – มินฮยอน
“นี่น้องเราเอง นายอย่าไปแกล้งน้องมากนะ”
มินทร์ผายมือไปที่เด็กหนุ่มตัวสูงที่นั่งมองมาตาแป๋ว ลูกคลื่นสนอกสนใจแขกพิเศษของบ้านเป็นพิเศษ เพื่อนพี่ชายที่ขอมาพักอาศัยชั่วคราวเพราะต้องซ้อมกีฬาจนดึกเตรียมตัวไปเป็นตัวแทนของโรงเรียนในการแข่งขันฟุตบอลระดับเขต และพี่มินทร์ของลูกคลื่นเองก็เป็นหนึ่งในนักกีฬาเหล่านั้นด้วย ตอนแรกก็เห็นพี่มินทร์กลับบ้านดึกๆ ทุกวันไม่คิดว่าวันนี้จะเอาเพื่อนมานอนที่บ้านด้วย
“ลูกคลื่นครับ” เด็กหนุ่มส่งยิ้มตาหยีไปให้พี่ชายตัวโต คนถูกยิ้มใส่ผงะถอยหลังไปก่อนใบหน้าหล่อจะยกยิ้มแหยส่งมาให้ “ยิ้มตอบก็เอาแบบที่เต็มใจหน่อยนะพี่ มันเป็นมารยาทน่ะ แล้วพี่ชื่ออะไร?”
“บิ๊กไบค์” ตอบสั้นๆ ก่อนจะวางกระเป๋าเสื้อผ้าลงข้างโซฟา
“บิ๊กไบท์แท่งยาวๆ อะเหรอพี่ ใหญ่จริงป่าว?” ลูกคลื่นจอมกะล่อนพูดพร้อมทำหน้าตากรุ่มกริ่มมองต่ำลงไปที่ส่วนกลางลำตัวของอีกฝ่ายทำเอาคนที่ถูกลวนลามทางสายตาต้องเอามือมากุมเป้ากางเกงของตัวเองเอาไว้ทันที เขารู้ว่าต้องมาเจอกับญาติของเพื่อนแต่ไม่คิดว่าจะเป็นเด็กผีทะเลขนาดนี้ ถึงเขาจะไม่ใช่คนที่หวงเนื้อหวงตัวเท่าไหร่แต่สำหรับคนที่พึ่งเจอกันครั้งแรกมันก็จะแปลกๆ หน่อยนะ
ลูกคลื่นหัวเราะออกมาลั่นก่อนจะโบกมือไปมาพร้อมบอกว่า “ล้อเล่นน่ะพี่ แค่อยากสนิทกันไวๆ อยู่บ้านด้วยกันจะได้ไม่อึดอัดไง”
“ไม่ต้องห่วงว่าจะอึดอัดหรอกน้องคลื่น พวกพี่ซ้อมบอลเสร็จก็เกือบสามสี่ทุ่มแล้ว” มินทร์ที่เดินออกมาจากห้องครัวพร้อมกับน้ำอัดลมกระป๋องก่อนจะโยนส่งไปให้เพื่อนสนิทที่รับได้อย่างแม่นยำเหมือนจับวาง ลูกคลื่นมองด้วยหน้าตาเหลือเชื่อปากเล็กๆ อ้ากว้างร้องว้าวเสียงดัง บิ๊กมองเด็กแปลกที่เล่นใหญ่เกินเบอร์แล้วหันกลับไปมองเพื่อนด้วยสายตาที่ถามว่าน้องมึงเป็นอะไร
“ลูกคลื่นก็ชอบแกล้งแบบนี้แหละ ตอนที่จ็อบมาบ้านก็โดนกระโดดเกาะเป็นลูกลิงแถมแอบหอมแก้มพวกนั้นอีก ของนายนี่สบายใจได้เลย ลูกคลื่นไม่กล้าเล่นแบบนั้นหรอก” บิ๊กถอนหายใจด้วยความโล่งอก ถ้าเขาถูกลูกคลื่นจู่โจมแบบนั้นคงได้ช็อคตายแน่ๆ เลย
“แล้วอะไรที่ทำให้พี่มินทร์มั่นใจว่าคลื่นจะไม่กล้าทำแบบนั้นกับพี่บิ๊กอะ?”
เด็กน้อยวางมือถือลงแล้วถามลูกพี่ลูกน้องด้วยสีหน้าจริงจัง มินทร์ไม่ตอบอะไรเพียงแต่ส่งยิ้มขำไปให้ก่อนจะเปิดฝากระป๋องน้ำอัดลมทำลายความเงียบ บิ๊กกลืนน้ำลายลงคอรู้สึกเสียงสันหลังแปลกๆ ทำไมความคิดคำพูดคำจาของเด็กนี่ถึงแก่แดดแก่ลมนักนะ ถึงเขาจะอายุห่างกันไม่กี่ปีแต่ก็รู้สึกว่าลูกคลื่นเป็นเด็กที่ไม่ธรรมดาและคิดจริงทำจริงซะด้วย
ลูกคลื่นที่เอาแต่จ้องมินทร์เพื่อรอคำตอบ ส่วนคนที่จุดประเด็นก็หาได้สนใจลูกพี่ลูกน้องของตัวเองเลย เอาแต่กระดกน้ำอัดลมลงคอ มือก็หยิบรีโมทมาเปลี่ยนช่องทีวีเพื่อหารายการที่ตัวเองชอบ ลูกคลื่นเห็นท่าทีเฉยชาของพี่ชายจึงเริ่มมีอาการเคืองใจขึ้นมา ปากเล็กยู่ขึ้น คิ้วเริ่มขมวดเข้าหากัน แปรงร่างเป็นลูกคลื่นคนเอาแต่ใจในเวลาไม่กี่วินาที
“พี่มินทร์เป็นงี้ตลอดเลย เวลาคลื่นคุยด้วยก็ไม่ชอบพูดด้วย ชอบทำอะไรให้มันค้างคาใจ” ลูกคลื่นพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเคืองๆ บิ๊กมองใบหน้าหวานที่แสดงออกอย่างชัดเจนว่ากำลังโกรธและใกล้จะระเบิดอารมณ์เป็นภูเขาไฟปะทุ
“แล้วทำไมเรื่องแค่นี้น้องคลื่นต้องงอแงด้วยครับ เนี่ยแหละผลเสียที่พี่เอาใจน้องมาเกินไปทำให้คลื่นกลายเป็นเด็กเอาแต่ใจแบบนี้ไง” ฝ่ายมินทร์เองก็ไม่ยอม ก่อสงครามน้ำลายเล็กๆ ขึ้นมา สวนกลับทันทีที่ลูกคลื่นพูดจบทำเอาคนฟังหน้างอหนักกว่าเดิมเสียอีก
“พี่มินทร์นิสัยไม่ดี คลื่นจะฟ้องป้าฟ้า” ป้าฟ้าที่พูดถึงก็คือแม่ของมินทร์นั่นเอง ลูกคลื่นเป็นลูกคนเดียว และเป็นลูกของน้าฝน น้องสาวแม่ของมินทร์กับคุณหมิง นักธุรกิจชาวไต้หวันที่พบรักกันตอนน้าฝนอกหักจนต้องหนีไปพักใจที่ไต้หวัน ตอนแรกก็กะจะเอาขำๆแต่ดันเจอผู้ชายหน้าตาดีคนหนึ่งแล้วพลาดท่าได้เสียเป็นผัวเมียเพียงชั่วข้ามคืน
น้าฝนเองก็ไม่ได้ติดใจอะไรแต่ฝ่ายชายดันรู้สึกจริงเหมือนโดนดีดน้ำมันพรายใส่ บินตามกลับมาที่ไทยพร้อมกับเริ่มรุกจีบอย่างจริงจังสุดท้ายก็มีลูกคลื่นออกมา แต่ตอนนั้นทั้งคู่ยังไม่ได้แต่งงานกัน รอจนลูกคลื่นอายุได้ 5 ขวบถึงจัดพิธีแต่งงานอย่างเป็นทางการด้วยว่าอยากให้ลูกของพวกเขามาเป็นสักขีพยานในงานและของขวัญด้วย ฟังดูจะโรแมนติกแต่ป้าฟ้าชอบแซ็วว่ามันเป็นความแรดจนได้ดีของน้องสาวเธอต่างหากไม่ใช่นิยายรักสีชมพู กว่าจะเจอคนนี้ก็หมดน้ำตาไปหลายถังเหมือนกัน
ด้วยความที่ลูกคลื่นเป็นน้องสุดท้องและหลานคนเล็กของบ้านทำให้ทุกคนเอาใจและเลี้ยงดูมาแบบไข่ในหิน อยากได้อะไรก็ได้หมดทุกอย่าง พอโตมาก็ติดนิสัยเอาแต่ใจแม้จะเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ตอนเด็กๆ ชอบแกล้งเพื่อนจนคุณครูประจำชั้นต้องเรียกน้าฝนไปพบบ่อยๆ
และพอดีกับที่น้าฝนและน้าหมิงกำลังยุ่งๆ จัดการเรื่องธุรกิจส่วนตัวที่ต้องเดินทางบ่อยๆ ทำให้ไม่มีเวลาอยู่ดูแลลูกคลื่น น้าฝนและแม่ของมินทร์เลยตกลงกันว่าจะให้ลูกคลื่นย้ายเข้ามาเรียนในตัวเมืองจะได้อยู่ในความดูแลของป้าฟ้าที่เจ้าระเบียนและเข้มงวดกว่า
อ่อ.. ลืมบอกว่าป้าฟ้าเป็นคุณครูภาษาไทย แถมยังเป็นนางงามเก่าเดินสายประกวดทุกเวที แน่นอนว่าลูกหลานที่ถูกเลี้ยงดูโดยป้าฟ้าจะต้องเรียบร้อยเหมือนผ้าที่ส่งซักรีดชิ้นละ 35 บาท จับกลีบอย่างดีคมกริบจนบาดมือเลือดสาดแน่นอน ทั้งมินทร์และมายด์ลูกสาวคนโตนั้นโตมาด้วยไม้บรรทัด เลี้ยงด้วยเหตุผล คำพูดคำจากิริยาสวยงามเหมือนชาววัง แต่ด้วยความที่มินทร์เองก็เป็นผู้ชายจึงทำให้เรียบร้อยได้แค่ต่อหน้าแม่เท่านั้น พอลับสายตาก็มีเฮฮาตามประสาบ้างแต่ก็ยังถือว่าเรียบร้อยกว่าเด็กผู้ชายทั่วไปอยู่ดี
แต่พอป้าฟ้ารับเจ้าลูกลิงมาดูแลก็ได้ปวดหัวกันทั้งบ้าน เพราะลูกคลื่นดื้อมากชนิดที่เรียกได้ว่าอยากเอาหมอนอุดปากเอาไว้ไม่ให้พูดเลย แต่อะไรที่สอนได้ก็สอนอะไรที่มันบังคับจิตใจหลานมากเกินไปป้าฟ้าก็ไม่ทำ ถึงจะอยู่ในกฎระเบียบแค่ไหนแต่ก็ต้องมีหย่นหย่อนกันบ้างเพื่อความสุขและไม่ลืมความเป็นตัวเองของเด็กๆ
นี่ก็เข้าปีที่ 3 แล้วที่ลูกคลื่นอยู่ที่บ้านของมินทร์ แต่สำหรับเพื่อนๆ เขาก็ไม่ค่อยได้มาเจอน้องเสียเท่าไหร่ เพราะไม่มีเหตุผลอะที่ต้องเจอ เพื่อนของเขาแค่รู้ว่ามีลูกพี่ลูกน้องอยู่ด้วยเท่านั้น แต่ด้วยความเป็นกลุ่มผู้ชายเลยไม่ได้ถามอะไรมาก และบิ๊กก็เป็นคนสุดท้ายในกลุ่มที่ได้เจอล”กคลื่นตัวเป็นๆ
“ไม่เอาสิลูกคลื่น ถ้าน้องไปบอกป้าฟ้ายังไงก็โดนถามอยู่ดีว่าทำไมพี่มินทร์ถึงดุน้อง ไม่กลัวป้าฟ้าเหรอครับ?”
ลูกคลื่นนิ่งไป ฉุกคิดขึ้นมาทันทีว่าถ้าเอาไปฟ้องก็ต้องถูกถามและไล่ต้อนให้ตอบอยู่ดี และดูเหมือนจะเป็นเขาเองที่จะต้องโดนป้าฟ้าดุเพราะงั้นอยู่เงียบๆ แบบเดิมดีกว่า
ลูกคลื่นคว้ามือถือพร้อมกับลุกขึ้นเดินหนีเข้าห้องไป บิ๊กมองตามเด็กหนุ่มที่ทำตัวแปลกๆ คิดว่าจะดื้อหันชนฝามากกว่านี้เสียอีก แต่พอพูดถึงแม่ของมินทร์กลับยอมแพ้เข้าห้องไปง่ายๆ ซะอย่างนั้น
ห้องของลูกคลื่นอยู่ชั้นเดียวกับห้องนั่งเล่น แต่ถูกยกพื้นสูงขึ้นไปมีบันไดเล็กๆ สามขั้นพอเป็นพิธี และอยู่ติดกับห้องรับแขกของบ้านซึ่งเป็นห้อที่มินทร์จัดเตรียมไว้ให้บิ๊กพัก ส่วนลูกชายเจ้าของบ้านอย่างมินทร์ก็นอนอยู่ชั้นสองข้างบ้านสวยๆ ครอบครัวของมินทร์ถือว่ามีฐานะพอสมควรและนี่เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่บิ๊กขอมาพักอาศัยที่บ้านของเพื่อนสนิทมากกว่าจะเทียวกลับหรือไปค้างที่อื่น เพราะเพื่อนของเขาน่ะสามารถเลี้ยงเขาได้ทั้งเดือนเลย พ่อมันรวย
“นายก็เข้าห้องนอนได้เลยนะ พรุ่งนี้จะได้ตื่นแต่เช้าไปวิ่งกัน” มินทร์บอกเพื่อนพร้อมกับเดินเอากระป๋องเปล่าไปทิ้งที่ถังขยะมุมห้อง บิ๊กพยักหน้าตอบรับพร้อมกับแบกกระเป๋าเสื้อผ้าขึ้นหลัง เดินเลี่ยงออกมาที่ห้องพักของตัวเอง
ตอนนี้พ่อกับแม่ของมินทร์อยู่ต่างจังหวัด และจะไม่อยู่บ้านซักประมาณอาทิตย์กว่าๆ สะสางงานให้เรียบร้อยก่อนถึงจะกลับมา ทำให้บิ๊กไม่ต้องเกร็งว่าจะต้องใช้ชีวิตอยู่กับครูฟ้าจอมเนี้ยบเพราะกว่าพ่อแม่จะกลับมาเขาก็หมดเวลาเก็บตัวนักกีฬาพอดี
“เอ้อบิ๊ก คือว่-”
“มีมึงผ้าเช็ดตัวป่ะ กูลืมเอามา”
เหมือนจังหวะในละครมินทร์ที่กำลังจะบอกอะไรบางอย่างถูกขัดขึ้นด้วยเสียงของเพื่อนขี้ลืม คำพูดที่จะบอกนั้นหายไปพร้อมกับสายลมทันที พยายามคิดเท่าไหร่ก็คิดไม่ออก ได้แต่ตอบคำถามและชี้บอกถึงผ้าเช็ดตัวละข้าวของต่างๆ ที่เตรียมเอาไว้ให้พร้อมแล้วอยู่ในห้อง
ช่างเถอะ ถ้าคิดออกเมื่อไหร่ค่อยบอกแล้วกัน
ความเย็นจากน้ำที่ชำระล้างร่างกายทำให้บิ๊กรู้สึกผ่อนคลายจากความเหน็ดเหนื่อยและลืมความหงุดหงิดเพราะอากาศร้อนของวันนี้ มือใหญ่ถูกสบู่เหลวไปทั่วผิวกาย ปล่อยตัวเองให้จมหายไปกับความเย็นฉ่ำ ลืมเรื่องหนักใจและความกดดันในฐานะกัปตันทีมไปเสียสนิทตอนนี้เขาต้องการเพียงแค่อาบน้ำให้สบายตัวและเข้านอน เหยียดแขนขาให้สบายๆ เท่านั้น
จะว่าไปก็นานแล้วที่เขาไม่ได้สร้างความสุขให้กับร่างกายของตัวเอง... อืม ในแบบของผู้ชายน่ะ
มือใหญ่ลูบไล้ลงไปตามหน้าอก ลดระดับลงไปเรื่อยๆ จนถึงหน้าท้องที่แน่นไปด้วยกล้ามเนื้อ ก่อนจะสัมผัสเข้าที่ส่วนกลางลำตัวที่ยังหลับสนิทอยู่ บิ๊กใช้มือคลึงส่วนนั้นเบาๆ ปลุกลูกชายคนเล็กให้ลืมตาขึ้นมาทักทายอากาศเย็นๆ ปลุกปั่นอารมณ์ไม่นานจากเด็กที่เคยอ่อนปวกเปียก ตอนนี้บิ๊กน้อยที่ไม่น้อยได้กลายเป็นเด็กแข็งแรงและตัวโตกว่าเดิมมาก เหมือนแม่จะรู้ว่าใหญ่จริงเลยตั้งชื่อว่าบิ๊กไบค์
หนุ่มนักกีฬาหลับตาจินตนาการถึงสายสวยในแบบที่ชอบก่อนจะเริ่มสาวมือรูดรั้งช้าๆ สร้างความรู้สึกเสียวซ่านให้ตัวเองก่อนจะเร่งจังหวะให้เร็วขึ้นเมื่อความต้องการของเขาเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิม เสียงทุ้มครางต่ำด้วยความรู้สึกดี แขนที่เกร็งชักอยู่ทำให้เห็นกล้ามแขนได้ชัดเจน
หลายคนบอกว่านักกีฬาที่ผ่านการฝึกฝนอย่างหนักจะมีความอึดทนมากกว่าผู้ชายปกติ ส่วนจะจริงหรือไม่นั่นเขาไม่รู้แต่ที่รู้ตอนนี้คือสัมผัสจากน้องอุ้มที่เสียดสีรูดชักได้หลายนาทีแล้วแต่ก็ไม่มีที่ท่าว่าจะเดินไปถึงเส้นชัยเสียที บิ๊กน้อยยังคงบวมเป่งและสู้มืออยู่เหมือนเดิม
ภาพสาวสวยในจินตนาการอ้าขารอจนเมื่อยไปหมดแล้ว ไม่นานภาพมโนนั่นก็ลอยหายไปกับม่านหมอกแห่งศีลธรรม น้องลิลลี่คงรอพี่บิ๊กจนเบื่อเลยหนีไปละมั้ง มือใหญ่กุมส่วนนั้นทั้งสองมือเพิ่มความอุ่นร้อนเข้าไปอีกเพื่อหวังให้ตนเสร็มสมเร็วขึ้น ใช้นิ้วแม่มือคลึงส่วนหัวไปด้วย และดูเหมือนความคิดนั้นจะสำเร็จผล บิ๊กขบกรามแน่นสกัดกั้นเสียงครางด้วยความพึงพอใจ ร่างกายเกร็งกระตุกลดความเร็วของมือลงพร้อมกับน้องบิ๊กที่จามออกมาเลอะเต็มมือ น้ำสีขุ่นไหลไปตามสายน้ำที่เปิดทิ้งไว้ บิ๊กพรูลมหายใจออกมาก่อนจะจัดการล้างมือให้สะอาด
เสียงก๊อกแก๊กที่ดังแทรกเสียงน้ำกระทบพื้นทำให้บิ๊กแปลกใจก่อนจะหันขวับไปมองที่กระจกบานเลื่อนของอีกฝั่งประตูและก็ต้องเบิกตาโตเมื่อเห็นแขกที่ไม่ได้รับเชิญกำลังยืนกอดอกมองเขาหน้าซื่อๆ
ลูกคลื่นที่เอาแต่จับจ้องไปที่ร่างกายของเพื่อนพี่ชายโดยเฉพาะส่วนกลางลำตัว ดวงตากลมโตทอประกายวิบวับ เม้มริมฝีปากเบาๆ ถ้ามองไม่ผิดเขาเห็นว่าลูกคลื่นแอบกลืนน้ำลายด้วย ไม่มีใครรู้ว่าเด็กหนุ่มมายืนอยู่ตรงนี้นานแค่ไหนเพราะบิ๊กเองก็มัวแต่เพลิดเพลินกับน้องอุ้งจนไม่ได้สังเกตอะไร
บิ๊กหันกลับไปมองประตูหองน้ำที่เป็นกระจกเลื่อนบานใหญ่ก็เห็นว่าปิดสนิทดี แต่ประตูฝั่งที่ลูกคลื่นยืนอยู่นั่นต่างหากที่ถูกเปิดค้างไว้อยู่
แม่งเอ้ย ห้องน้ำมีประตูสองบาน!
นึกโมโหที่เพื่อนสนิทไม่เตือนว่าห้องน้ำในห้องรับรองนั้นสามารถเดินทะลุและใช้ได้ทั้งสองห้อง ซึ่งก็คือห้องของลูกคลื่นและห้องของเขา แสดงว่าหนังสดเมื่อกี้ก็อยู่ในสายตาของน้องหมดน่ะสิ รู้ถึงไหนหายถึงนั่น ถึงจะไม่เสียหายอะไรแต่การมาxโชว์ต่อหน้าคนที่พึ่งเจอกันวันแรกมันก็น่าอายชะมัดเลย
บิ๊กใช้มือกุมส่วนนั้นของตัวเองเอาไว้ด้วยความอาย แต่สายตาของลูกคลื่นก็เหมือนจะสามารถมองทะลุฝ่ามือของเขาเสียอย่างนั้น
“ชื่อบิ๊กไบค์ไม่ได้มาเพราะโชคช่วยนะเนี่ย ใหญ่จัง”
น้องโชว์ยิ้มแฉ่งจอมทะเล้น เสียงนุ่มพูดเบาๆ แต่ดันก้องอยู่ในหัวของเขาอย่างชัดเจน บิ๊กรีบปิดน้ำพร้อมกับมองหาผ้าเช็ดตัวที่แขวนเอาไว้ตรงผนัง แล้วก็ต้องตกใจเป็นครั้งที่เท่าไหร่ไม่รู้ของวันเมื่อลูกคลื่นชูผ้าเช็ดตัวในมือขึ้นมาก่อนจะเหวี่ยงมันออกจากห้องน้ำเข้าไปในห้องของตัวเอง
“ไม่ต้องใส่หรอกพี่ ผมยังอยากดูอยู่”
คำพูดที่บอกความต้องการของตัวอย่างอย่างชัดเจนทำเอาบิ๊กต้องกุมขมับ ทำไมเขาต้องมาเจอเด็กที่พูดจาตรงไปตรงมาแบบนี้ด้วยนะ ตกที่นั่งลำบากของจริงคือนายานา
“อะ ออกไปก่อนได้มั้ย แล้วก็ขอผ้าเช็ดตัวคืนด้วย” บิ๊กเอ่ยขึ้น ยื่นมือข้างที่ว่างไปหาน้อง ลูกคลื่นห่อปากก่อนจะผิวปากอย่างอารมณ์ดี เอียงคอไปมาอย่างยียวน โชว์ยิ้มหวานจนแก้มใสบุ๋มลงไปอย่างน่ารัก จะน่ารักกว่านี้ถ้าน้องยอมคืนผ้าเช็ดตัวให้เขา
“ไม่เล่นดิลูกคลื่น ไม่งั้นพี่กลับเข้าห้องตัวเองแล้วนะ” พูดจบก็เดินกลับจริงๆ แต่เด็กหนุ่มดันไวกว่าวิ่งเอาตัวมาบังประตูเอาไว้พอดีทำให้ทำให้ตอนนี้หน้าของทั้งคู่ห่างกันไม่กี่เซนติเมตร บิ๊กมองใบหน้าน่ารักของคนน้องแล้วก็ต้องรีบหันหนี ลูกคลื่นเห็นพี่แสดงอาการเขินอายออกมาก็ยิ่งได้ใจ เอื้อมมือไปแตะมือใหญ่ที่กุมส่วนสงวนเอาไว้แล้วลูบเบาๆ
“ในนี้มีของเล่นน่าสนุกใช่มั้ย... ให้ผมเล่นด้วยสิ” ดวงตากลมโตมองลงไปที่ส่วนล่างชี้บอกจุดที่ต้องการ บิ๊กกลืนน้ำลายลงคอก้าวเท้าถอยหลังเพื่อหนีเด็กจอมแสบ
ลูกคลื่นใช้แรงทั้งหมดที่มีดันคนตัวโตให้ชิดผนังด้วยความยากลำบาก แต่บิ๊กเองก็ไม่ได้ขัดขืนอย่างจริงจังเลยทำให้ตอนนี้แผ่นหลังของเขาชิดผนังและยืนประจันหน้ากับลูกคลื่นที่ยิ้มกรุ่มกริ่มมาที่เขา
“จะหนีทำไมอะ ให้ผมทักทายน้องด้วยสิ”
พูดจบก็จับมือใหญ่ออกจากส่วนนั้น บิ๊กยอมให้น้องกระทำกับร่างกายของตัวเองโดยไม่ขัดขืน มองตามเด็กตัวสูงที่ค่อยๆ ย่อตัวลงนั่งคุกเข่าต่อหน้าเขา โดยที่ไม่กลัวว่ากางเกงวอร์มขายาวนั่นจะเปียกน้ำที่เจิงนองอยู่ที่พื้นเลย
ช่างเหอะ เดี๋ยวก็คงได้ถอดออกละมั้ง....
มาแก้บนแล้วค่ะกัปตัน แต่เขินอะ เลยขอตัดไปอีกตอนนะคะกัปตัน
ถ้ามีโมเม้นอีกก็จะมาแก้บนอีกค่ะกัปตัน เรือจะไม่มีวันตายจ้าาา
ใครว่าเรือล่มฉันจะเอาบิ๊กไบท์ฟาดหล่อนนนน ฮือออออ
สมพรปากค่ะ บนไว้ก็ได้แก้จริงๆ โฮลินชิปเปอร์นี่ดวงควานลินอุปถัมภ์มากๆ
อยากได้อะไรก็ได้ สู้ต่อไปควานลิน วาเลนไทน์นี้พี่ไม่ได้หวังเลยน้อง...
ขอบนหนักๆ อีกรอบจ้า
เป็นกำลังใจในการแก้บนให้หนูหน่อยเด้อ ฮริ้ง
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ลูกคลื่นนี่เด็กแสบชัดๆ พี่บิ๊กไบค์จะเสียท่าให้น้องใช่มั้ัืย