ตอนที่ 20 : โดดเด่นไม่เหมือนใคร end
03
วันนี้วันเสาร์ แน่นอนว่าลิ้นจี่จะไม่ยอมให้วันหยุดเลยผ่านไปเฉยๆ เขารีบตื่นแต่เช้าอาบน้ำแต่งตัวด้วยชุดที่ใหม่และคิดว่าหล่อที่สุด ก่อนจะไลน์ไปปลุกพี่เด่นให้ตื่นขึ้นมาด้วยคำว่า
ลิ้นจี่ ลภัสธรณ์
ตื่นได้ละพี่
มีคนคิดถึง
ผมเอง
ตอนนี้เขากับพี่เด่นพูดกันมากขึ้น พี่เด่นยิ้มและหัวเราะให้เขามากกว่าเดิม รู้สึกดีที่ได้ตำแหน่งน้องชายคนสนิท แต่ก็อย่างที่ว่าลิ้นจี่ไม่ได้ต้องการแค่นั้น ต่อให้ใครว่าเขาเป็นเด็กโลภมากก็ยอม ถ้ามันทำให้เขาเป็นมากกว่าน้องชายสำหรับพี่เด่น
เด็กหนุ่มหยิบเจลขึ้นมาเซ็ทผมหน้ากระจกอย่างตั้งใจ ลิ้นจี่บรรจงจัดแต่งทรงผมสั้นๆ ของตัวเองถึงแม้ว่าตอนที่เสร็จแล้วมันจะไม่ได้แตกต่างจากเดิมมากนักก็ตาม วันนี้เขาชวนพี่เด่นไปเดท... เดทสำหรับเขาคนเดียวน่ะนะ ส่วนพี่เด่นก็ให้เข้าใจว่าเป็นการไปเที่ยวธรรมดาของพี่น้องคนสนิท
ตรวจเช็คความเรียบร้อยในกระจกอีกรอบก่อนจะเดินไปคว้ากระเป๋าสะพายข้างใบเก่ง วิ่งลงไปชั้นล่างของบ้านทันที เสียงฝีเท้าดังตึงตังจากข้างบนทำให้แม่ปุ๋ยที่กำลังตรวจบัญชีอยู่หน้าทีวีต้องเอ่ยปรามเสียงแข็ง
“ตัวเล็ก อย่าวิ่งเสียงดังสิลูก”
ลิ้นจี่ทำเป็นไม่ได้ยินคำบ่นของคุณแม่แต่ก็ขอโทษด้วยการวิ่งเข้าไปหอมแก้มนุ่มๆ นั่นสองทีซ้ายขวา ยกมือไหว้บอกลาและรีบออกมาจากบ้านทันที รถคลิกไอสีขาวเจ้าเดิมที่ทำหน้าที่เป็นพาหนะสำหรับการเดทข้างเดียวของลิ้นจี่ในวันนี้ ไม่นานเด็กหนุ่มก็มาถึงหน้าหอพักบ้านเหนือของพี่เด่น
ทันทีที่จอดรถลิ้นจี่ก็มองหาคนตัวโตทันที หน้าหอก็ไม่มี ตรงม้านั่งไม้ก็ไม่เจอ ลื่นจี่มองไปรอบๆ ก่อนจะสะดุดตากับแผ่นหลังกว้างที่คุ้มเคย พี่เด่นยืนอยู่ตรงสปอร์ตไบท์คันโตก้มๆ เงยๆ มองสำรวจอยู่อย่างนั้น และด้วยความสงสัยลิ้นจี่ลงจากมอไซต์ของตัวเองเดินเข้าไปหาอีกฝ่ายที่ยังไม่รู้ตัว
“พี่เด่น จะขโมยรถคนอื่นเหรอ?”
โดดเด่นสะดุ้งโหยงหันกลับมาหาน้องด้วยหน้าตาตื่น ตาโตเลิ่กลั่กไม่รู้จะทำหน้ายังไง ลิ้นจี่หรี่ตามองคนตัวโตอย่างจับผิด เขาไม่เชื่อหรอกว่าคนเด๋อๆ แบบพี่เด่นจะขโมยรถของคนอื่น แต่ที่ทำก็เพราะอยากแกล้งอีกฝ่ายเท่านั้น
“มะ ไม่ พี่ไม่ได้ขโมยนะครับ แค่เห็นว่ารถเขาสวยดี” เด่นโบกมือปฏิเสธพัลวัน “แล้ววันก่อนพี่ก็เห็นน้องลิ้นจี่มองรถคันนี้ด้วย เลยอยากจะมาดูใกล้ๆ น่ะ”
“แน่นะพี่เด่น... ไม่ใช่ว่าจะแอบถอดอะไหล่ไปขายหรอกนะ”
โดดเด่นเหงื่อแตก ใช้หลังมือเช็ดออกลวกๆ พร้อมกับพูดต่อด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก “จริงๆ ครับ พี่ทำแบบนั้นไม่ได้หรอก เดี๋ยวตำรวจจับเอานะ”
“ฮ่าๆ ผมแกล้งเล่นเฉยๆ รู้อยู่แล้วว่าคนอย่างพี่เด่นไม่มีวันทำเรื่องไม่ดีหรอก” ลิ้นจี่พูด ยิ้มตาหยีไปให้ โดดเด่นส่งยิ้มแห้งกลับมา ความเงียบและความอึดอัดที่อยู่ๆ ก็เดินเข้ามาทักทายทั้งคู่ ลิ้นจี่เองก็ตกใจที่พี่เด่นเงียบไป ไอ้อาการอึดอัดแบบนี้มันไม่ควรเกิดขึ้นกับพวกเขาทั้งสองสิ
ผมเป็นน้องชายคนสนิทของพี่แล้วนี่นา...
“พี่เด่น เราไปกันเถอะ เดี๋ยวแดดจะร้อน” ลิ้นจี่ยังคงทำหน้าที่ผู้ทำลายความเงียบได้ดี เอื้อมมือไปคว้าแขนของอีกคนพร้อมออกแรงลากออกมา
วันนี้พี่เด่นใส่เสื้อเชิ้ตลายขวางกับกางเกงยีนส์ธรรมดา อาจจะไม่ค่อยต่างกับชุดธรรมงานเท่าไหร่ แต่มันก็ดูแปลกตาสำหรับลิ้นจี่มาก เส้นผมของพี่เด่นไม่ได้ถูกเคลือบด้วยสเปรย์แข็งที่ปกติแล้วจะถูกหวีเรียบให้สุภาพจนกลายเป็นพี่เด๋อผู้จัดการธนาคาร ลิ้นจี่ชอบทรงผมของพี่เด่นที่ไม่ถูกทำอะไรเลย ผมสีน้ำตาลเข้มที่ทิ้งตัวลงมาปรกหน้าผากเอาไว้ ทำให้เจ้าตัวดูหน้าเด็กลงไปมากกว่าปกติ
ลิ้นจี่ชอบพี่เด่นในชุดทำงาน แต่พี่เด่นในตอนนี้ทำให้หัวใจของลิ้นจี่เต้นแรงมากกว่าเดิมหลายเท่า
ถ้าจมูกเขาไม่เพี้ยนวันนี้พี่เด่นเปลี่ยนกลิ่นน้ำหอมด้วย ปกติจะเป็นกลิ่นหอมอ่อนๆ ที่ไม่แรงนัก ทำให้คนที่ได้กลิ่นรู้สึกสดชื่น สบายราวกับได้ล่องลอยในอากาศ เป็นกลิ่นที่เข้ากับเด่นมากๆ แต่วันนี้มันเป็นกลิ่นที่ดูเป็นผู้ชายมากขึ้น เป็นเสน่ห์แบบที่ตั้งใจมาจากบ้านแล้วว่าเดินผ่านหนึ่งครั้งต้องตกเหยื่อได้หนึ่งคน
ลิ้นจี่ทำจมูกฟุดฟิดๆ อยากจะสูดดมให้แน่ใจว่าจมูกของเขายังทำงานปกติอยู่ พลางนึกว่าอาจจะเป็นกลิ่นน้ำหอมของคนอื่นที่เดินผ่านก็ไป แต่เมื่อหันซ้ายหันขวาแล้วกลับไม่เห็นใครซักคน โดดเด่นมองน้องที่หันไปมาด้วยความสงสัย เลกคิ้วสูงสะกิดหัวไหล่เพื่อนถามอีกคน “เป็นอะไรครับ?”
“กลิ่น.. ผมได้กลิ่นน้ำหอมแปลกๆ มันเป็นของพี่เหรอ?” พูดพร้อมกับเขยิบเข้ามาใกล้พี่ตัวโตมากขึ้น จมูดโด่งสูดดมเข้าใกล้คอเสื้อก่อนจะเลื่อนลงมาเรื่อยๆ ตามแขน พอได้กลิ่นใกล้ๆ แบบนี้แล้วมันทำให้ลิ้นจี่แน่ใจว่าน้ำหอมแปลกๆ ที่ได้กลิ่นนั้นเป็นของโดดเด่นไม่ใช่ใครที่ไหน
“กลิ่นน้ำหอมพี่เองครับ พอดีขวดเดิมมันหมดก่อนก่อนเดินตลาดแล้วก็เลยหยิบมาแบบไม่ได้ดมดูน่ะ” โดดเด่นยกข้อมือมาดมกลิ่นน้ำหอมของตัวเอง “มันไม่หอมเหรอครับ?”
“มันหอมพี่ แต่แค่แปลกใจน่ะ ปกติแล้วมันไม่ใช่กลิ่นนี้”
“น้องลิ้นจี่แอบดมกลิ่นน้ำหอมพี่บ่อยขนาดจำได้เลยเหรอครับ?” โดดเด่นตาโต ต้องคนน้องไม่กระพริบ เด็กหนุ่มที่ถูกจับได้นิ่งค้างไป ก็บอกแล้วว่าเขาน้ำชอบทึกอย่างที่เป็นพี่เด่น แค่กลิ่นน้ำหอมทำไมจะจำไม่ได้กันเล่า
โดดเด่นส่งยิ้มบางมาให้น้อง พร้อมกับใช้มือลูบผมนุ่มอย่างเบามือ สัมผัสอ่อนโยนที่ได้รับพร้อมกับกลิ่นน้ำหอมที่พร้อมจะหลอมละลายเขาให้อ่อนระทวยทำเอาลิ้นจี่เคลิ้มไปชั่วขณะ
“เราไปกันดีกว่านะ เดี๋ยวแดดจะร้อนเอา” โดดเด่นพูดทวนคำพูดของเด็กหนุ่ม ก่อนจะเดินนำไปที่คลิกไอสีขาวของน้อง ลิ้นจี่เดินตามไปด้วยหน้าแดงๆ รู้สึกเขินอายที่ถูกอีกคนจับได้ว่าเขาสนใจพี่เด่นมากแค่ไหน
ลิ้นจี่ที่มัวแต่เขินจนไม่ได้ทันสังเกตว่าคนที่กำลังซ้อนท้ายตนนั้นปรากฏรอยยิ้มเจ้าเล่ห์บนใบหน้า มุมปากที่ยกขึ้นเหมือนเสือร้ายในคราบหมูขาวตัวโต มือใหญ่เลื่อนมาจับเอวคนขับเอาไว้เพราะวันนี้ไม่มีกระเป๋าสะพายใบโตมาขวางทางทำให้โดดเด่นสัมผัสเอวบางๆ ของน้องได้เต็มมือ
เจ้าเสือร้ายห่มหนังหมีเอนตัวเข้าไปชิดน้องมากขึ้น มากพอที่จะทำให้อกแกร่งของตนสัมผัสกับแผ่นหลังเล็กของลิ้นจี่ กลิ่นแป้งเด็กหอมๆ ถูกลมพัดมาทำให้โดดเด่นรู้สึกคุ้มที่ต้องตื่นเช้าแม้จะเป็นวันหยุด
เขาควรได้นอนอยู่ห้อง หรือไม่ก็เตรียมตัวออกไปหาเพื่อนในคืนนี้
แต่ถ้าแลกกับการที่ได้กอดเอวนุ่มๆ และดมกลิ่นหอมๆ ของน้อง เขาก็โอเคที่จะทิ้งวันหยุดที่รอคอยมาทั้งอาทิตย์
ทั้งคู่แวะกินข้าวมันไก่ร้านหน้าธนาคารที่โดดเด่นทำงานกันก่อนที่จะขับรถมาที่สวนสาธารณะใกล้บ้าน เป็นสวนที่กว้างมากและมีเกาะกลางน้ำพร้อมทั้งเรือเป็ดที่ให้คนที่มาพักผ่อนได้เข้ามาเช่าไปปั่นเล่นกันอย่างสนุกสนาน พอลงรถได้เป็นลิ้นจี่ที่ดูตื่นเต้นกว่าทุกครั้งที่ได้มา ก็เพราะครั้งนี้เขาไม่ได้มากับพ่อแม่ พี่สาวหรือกลุ่มเพื่อน
มาเที่ยวกับพี่เด่น อะไรที่ธรรมดามันก็พิเศษทั้งนั้นแหละ
โดดเด่นมองเด็กน้อยที่เดินนำหน้าไป ลิ้นจี่หันกลับมากวักมือเรียกพร้อมกับวิ่งกลับมาลากมือเขาให้รีบเดิมตาม คนตัวโตสวมบทบาทโดดเด้งผู้อ่อนแออีกครั้ง ทำท่าทางอืดอาดเดินตามไม่ทันเพื่อให้น้องจับมือเขาเดิน แกล้งเหนื่อยเพื่อที่จะให้น้องหยุดพักและบ่นออกมาไม่หยุด ลิ้นจี่น่ารักจะตายเวลาที่หงุดหงิดและแกล้งเขา
ไม่ใช่ว่าเขาพึ่งรู้จักน้อง แต่เขาเองก็เห็นเจ้าเด็กตัวสูงที่ชอบเอาลูกฟุตบอลมาเดาะเล่นอยู่หน้าบ้าน และชอบมองตามเขาที่ขับรถผ่านอยู่เสมอ ตาโตๆของน้องในยามที่มองเขามันน่ารักและน่าแกล้งมากๆ วันนี้ก็เกือบทำความลับแตกไปหลายรอบ เจ้าของสปอร์ตไบท์ราคาเท่าบ้านนั่นคือโดดเด่นเอง มันอาจจะลำบากหน่อยที่ต้องย้ายมาประจำการที่นี่กะทันหัน ไม่ทันเตรียมการเรื่องที่พักจึงได้แค่เช่าหอพักอยู่ก่อน ด้วยพื้นที่ที่จำกัดทำให้เขาต้องจอดลูกรักเอาไว้ลานจอดรถแต่โดดเด่นก็ให้เงินค่าจ้างพิเศษกับพี่รปภ.ประจำหอพัก ด้วยการให้นอนเฝ้าเช้าเฝ้าเย็นจนเมียที่บ้านบ่นว่าทำงานเกินหน้าที่
โดดเด่นที่แพลนจะซื้อคอนโดที่มีระบบรักษาความปลอดภัยมากกว่านี้ แต่ก็ไม่มีคอนโดไหนถูกใจ จนเมื่ออาทิตย์ก่อนเขาได้เข้าไปดูห้องและสั่งตกแต่งแล้วแต่ยังไม่เรียบร้อยจึงย้ายเข้าไม่ได้ แล้วถ้าพึงวันนั้นเขาจะบอกเด็กน้อยคนนี้ว่ายังไงดีนะว่าพี่โดดเด่นคนนี้ไม่เหมือนไอ้โดดเด้งที่น้องรู้จักหรอกนะ
โดดเด่นมองเด็กที่ยัดลูกชิ้นปลาเข้าปากจนแก้มพองเหมือนกระรอกแล้วก็นึกขำ ในวันที่เขาไปซื้อมะม่วงน้ำปลาหวานแล้วเจอเด็กแสบนั่งหัวร้อนกับเกมอยู่เป็นวันที่เขายังไม่ได้นอนและโหมงานหนักจน จ้องคอมนานจนแพ้แสงและต้องใส่แว่นกรองแสงตลอด หน้าตาโทรมๆ รวมทั้งแก้มที่บวมเพราะแพ้อากาศมันทำให้ดูแย่มากๆ วันนั้นโดดเด่นใส่ชุดธรรมดาๆ และนั่งรถประจำทางกลับเพราะเหนื่อยเกินกว่าจะพยุงเจ้าสปอร์ตไบค์ไปด้วย มีหวังหลับในแล้วไถลงคลองแน่ๆ
แต่ไม่คิดเลยว่าจะต้องติดอยู่ในร่างเด๋อๆ นั่นเกือบเดือน เพราะเห็นว่าน้องดูชอบใจตัวเขาที่เป็นแบบนี้ล่ะมั้ง เลยกะจะลองแกล้งสวมรอยเป็นโดดเด้งดูซักหน่อย และมันก็ทำให้ชีวิตของเขาสีสีสันมากขึ้นจริงๆ แต่มันจะลำบากตรงที่ต้องอดกลั้นไม่ให้พูดหยอกล้อกลับ ไม่ส่งยิ้มหวานให้ ไม่เลื้อยมือไปเกาะแกะน้อง เป็นตัวของตัวเองไม่ได้เลย
“พี่เด่น จากนี่ไปไหนต่อป่าว?” ลิ้นจี่หันมาถามเขาด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม ดูจะมีความสุขกับลูกชิ้นปลามากกว่าอยู่กับเขาเสียอีก
“ไม่รู้สิครับ กลับกันมั้ยล่ะ?” โดดเด่นแกล้งตอบไปอย่างนั้นทั้งที่รู้ดีว่าน้องต้องไม่ยอมและไม่พอใจแน่ๆ
“ไม่เอาอะ ได้ออกมาด้วยกันทั้งทีก็ต้องเที่ยวให้คุ้มสิ”
“อยากอยู่กับพี่นานๆ เหรอครับ” เผลอหลุดปากหยอดน้องไปอีกแล้ว แก้มกลมขึ้นสีระเรื่อขึ้นมาทันทีลิ้นจี่ทำตาโตก่อนจะแกล้งหันหน้าหนีเพื่อซ่อนใบหน้าเขินอายของตัวเองเอาไว้
เห็นแบบนี้แล้วมันน่าแกล้งชะมัดเลย...
“ปากเปื้อนหมดแล้วครับ มาเดี๋ยวพี่เช็ดให้” โดดเด่นประคองใบหน้าของน้องให้หันมาหาตนก่อนจะบรรจงใช้นิ้วโป้งเช็ดคราบน้ำจิ้มที่เลอะขอบปากเล็ก ถ้าเป็นปกติเขาจะเลือกใช้ปากเช็ดแทนนิ้วแต่สำหรับตอนนี้เอาแค่นี้ไปก่อนแล้วกัน เดี๋ยวน้องตกใจ
“กินเลอะเหมือนดูดีเลย ดูดีก็ชอบกินลูกชิ้นปลาแถมยังเลอะปากจนพี่ต้องเช็ดให้เหมือนลิ้นจี่นี่แหละครับ”
และอีกสิ่งที่เขาสังเกตได้คือลิ้นจี่ไม่ชอบให้พี่เด่นพูดถึงน้องชาย หรือเปรียบเทียบความเหมือนของลิ้นจี่และดูดี ครั้งก่อนที่งอนจนไม่ยอมมารับและไม่ตอบไลน์เกือบวัน แต่โดดเด่นก็ชอบที่น้องงอนแบบนี้เพราะแก้มกลมๆ นั่นพองลมขึ้นมานิดๆ แถมปากยังยื่นน่ากัดด้วย
น้องเงียบไปทันที ก้มหน้าก้มตากินลูกชิ้นที่เหลือในมือต่อ โดดเด่นยกยิ้มก่อนจะเดินหน้าแกล้งต่อไป
“จะว่าไปแล้วพี่ก็คดถึงดูดีจังเลยครับ ขอตัวไปโทรศัพท์หาดูดีก่อนนะ ลิ้นจี่นั่งรอพี่อยู่นี่นะครับ เดี๋ยวพี่มา”
น้องพยักหน้าหงึกหงัก หันไปมองผู้คนที่มาพักผ่อนอยู่ใกล้ๆ เขารู้แหละว่าน้องกำลังคิดอะไรอยู่ซักอย่าง ถ้าไม่ด่าเขาก็คงจะตัดพ้ออยู่ในใจ
คนตัวโตล้วงโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วกดโทรออกหาน้องชายตัวดีที่เขาอ้างถึงบ่อยๆ ดูดีไม่ได้น่ารักเหมือนลิ้นจี่อย่างที่เขาชอบพูด และมันก็ไม่ได้ชอบกินลูกชิ้นปลา มันเป็นเด็กเวรธรรมดาคนหนึ่งนี่แหละ
‘โทรมามีไร’ ไม่นานเสียงตอบรับจากปลายสายก็ดังขึ้น ยังคงคาแรกเตอร์สวนส้นเท้าอยู่ตลอดเวลาตั้ลแต่ออกมาจากท้องแม่
“ไหนมึงลองทำท่าถือสายไว้ซักชั่วโมงสองชั่วโมงหน่อย”
‘มึงจะบ้าเหรอเฮีย กูมีงานมีการทำ’
“ช่วงนี้อยากได้อะไรมั้ย?” โดดเด่นงัดท่าไม้ตายออกมาใช้กับน้องชาย ยังไงซะถ้าเจอมุขนี้ไอ้ดีมันต้องยอมแน่ๆ
‘จะให้ถือสายกี่ชั่วโมง ว่ามา’
นั่นไง พี่น้องก็ต้อช่วยเหลือกันสิเนอะ ถือว่าได้ประโยชน์ทั้งคู่
ลิ้นจี่กำลังหงุดหงิด พี่เด่นออกไปคุยโทรศัพท์นานเป็นชั่วโมงจนเขาทนไม่ได้และหนีกลับก่อน มันอาจจะดูเป็นเด็กไม่ดีแต่เขาทนไม่ไหวหรอกที่ต้องนั่งรอพี่เด่นคุยโทรศัพท์กับคนอื่นแบบนี้ คุยไปยิ้มไปหัวเราะไป มันเป็นภาพบาดตาบาดใจเขามากๆ เลย
เด็กน้อยนั่งกอดหมอนอยู่บนเตียงของตัวเอง เมินเสียงแม่ปุ๋ยที่ตะโกนเรียกลงไปกินข้าว ถึงแม้พี่เปิ้ลจะเดินขึ้นมาตามเขาก็ยืนยันที่จะอยู่บนห้องและอ้างไปว่าปวดหัวอยากพักมากกว่า
ลิ้นจี่กำลังไม่สบาย ลิ้นจี่ป่วยที่หัวใจ
ทำไมพี่เด่นคนซื่อต้องทำตัวใจร้ายแบบนั้นกับน้องด้วย บอกว่าให้รอเขาก็นั่งรอด้วยความสงบเสงี่ยมเป็นเด็กดีให้พี่เด่น แต่คนตัวโตกลับหายไปเป็นชั่วโมง ความหงุดหงิดมันมีมากกว่าความภัคดี หนีกลับก่อนโดยที่ไม่บอกซักคำ พอมาถึงบ้านไลน์จากพี่เด่นก็เด้งจนเครื่องแทบค้าง พอเขาดื้อไม่ตอบก็เงียบไปเอง
เป็นสัญญาณที่ว่าพี่เด่นไม่ง้อแล้ว
อยากจะอัพสเตตัสแชร์เพลงอกหักน้อยใจลงในเฟสบุ๊คแต่ก็กลัวคอมเม้นจากเพื่อนๆ ที่ขยันแทงใจดำเขาเหลือเกิน ทำไมเขาต้องมาน้อยใจนั่งซึมอยู่คนเดียวในห้องแบบนี้นะ
ตากลมเหลือบไปมองมือถือที่นอนจอดำสนิทอยู่ข้างๆ ก่อนจะคว้ามาเปิดดูเพื่อเช็คข้อความที่คนใจร้ายส่งมา
เด่น
น้องลิ้นจี่กลับก่อนทำไมไม่อกครับ
พี่ขอโทษที่คุยโทรศัพท์นานนะ
พอดีคิดถึงดูดีมากไปหน่อยน่ะ
ดูดีอีกแล้ว หายใจเข้าเป็นดูดีหายใจออกเป็นดูดี จะมีซักครั้งไหมที่สนใจเขามากกว่า พูดไปแล้วก็เหมือนงี่เง่ามากกว่าเดิม ทำไมพี่เด่นต้องมาสนใจเด็กที่ไหนก็ไม่รู้มากกว่าน้องในไส้ของตัวเอง คิดไปแล้วขอบตาก็เริ่มร้อนผ่าว ลิ้นจี่เงยหน้ามองเพดานหวังว่ามันจะทำให้น้ำตาของเขาไม่ร่วงไหลลงมา
เด่น
น้องลิ้นจี่ไม่โกรธพี่นะครับ
เพราะพี่ไม่รู้จะง้อยังไงดี
ตอบพี่หน่อยนะ
พี่อยากคุยกับลิ้นจี่นะครับ
พออ่านจบเด็กตัวสูงก็กระเด้งตังลุกออกมาห้องทันที สร้างความตกใจให้พ่อแม่และพี่สาวที่กำลังนั่งดูรายการช่วงดึกกันข้างล่าง ลิ้นจี่คว้ากุญแจรถที่โต๊ะเตียวหน้าทีวี แอปเปิ้ลตะโกนถามน้องชายด้วยความประหลากใจกับท่าทางของน้อง “ตัวเล็กจะไปไหน มันจะเที่ยงคืนแล้วนะ”
“น้องจะไปหาพี่เด่น!”
พูดจบก็ขับรถออกไปทันที อากาศตอนกลางคืนที่ค่อนข้างเย็นทำให้เด็กหนุ่มต้องห่อไหล่เล็กน้อย ตอนนี้ลิ้นจี่ใส่แค่กางเกงบอลและเสื้อกล้ามตัวใหญ่เพราะตอนแรกเด็กหนุ่มเตรียมตัวที่จะนอนแล้วจริงๆ ไม่คิดว่าตัวเองจะร้อนใจและค้างคาใจถึงขนาดขับรถออกมาหาพี่เด่นกลางดึกแบบนี้ หนาวชิบหายเลย
ไม่นานนักคลิกไอสีขาวก็จอดเทียบที่หอพักบ้านเหนือ น้องเดินเข้าไปหาคุณลุงผู้ดูแลและบังเอิญคุณลุงจำหน้าลิ้นจี่ได้เพราะมารับพี่เด่นบ่อยๆ ตอนเช้าทำให้ลิ้นจี่ได้เข้าไปในหออย่างง่ายดาย
“พอดีเลยคุณเด่นก็พึ่งกลับมาเมื่อกี้นี่เอง” คุณลุงบอก ลิ้นจี่ยกมือไหว้ขอบคุณก่อนจะขึ้นลิฟต์ไปยังชั้น 5 ที่พี่เด่นเคยบอกเอาไว้ ความจริงแล้วเป็นลิ้นจี่เองที่แอบถามเลขห้องของพี่เด่น
เด็กหนุ่มยืนอยู่หน้าห้อง 501 หอพักนี้มีทั้งหมด 5 ชั้นและทั้งชั้นนี้พิเศษหน่อยที่มีอยู่แค่สี่ห้องดูเหมือนจะเป็นห้องใหญ่ที่ราคาแพงที่สุดด้วย ไหนที่เด่นบอกว่าทำงานเงินเดือนปกติไง แล้วทำไมถึงต้องเช่าห้องใหญ่ขนาดนี้ด้วย หรือว่าจะแชร์กับเพื่อน... แต่พี่เด่นเคยบอกว่าเขาอยู่คนเดียวนี่นา
ลิ้นจี่ปัดความสงสัยของตัวเองตกไป ก่อนจะเคาะประตูสีดำบานโต แต่ก็เงียบ ไม่มีใครมาเปิด ไม่มีแม้แต่เสียงคนเดินอยู่ในห้อง เด็กหนุ่มไม่ละความพยายามเคาะประตูอีกครั้งและครั้งนี้ใช้แรงมากกว่าครั้งก่อน
“เฮ้ย!” ลิ้นจี่ร้องลั่นเมื่ออยู่ๆ ประตูก็ถูกกระชากเปิดออกมาทำให้มือของเขาพลาดไปโดนแขนเจ้าของห้องที่ปรากฏตัวขึ้น ใบหน้าหล่อของโดดเด่นฉายแววไม่พอใจอย่างมากที่อีกฝ่ายรบกวนเขาด้วยเสียงเคาะประตูรัวๆ แต่เมื่อเห็นว่าเป็นลิ้นจี่คิ้วเข้มก็คลายออกกลายเป็นสีหน้าปกติ
ลิ้นจี่ตกใจมากที่พี่เด่นที่ยืนอยู่ตรงหน้าดูไม่เหมือนพี่โดดเด้งคนเด๋อที่เขารู้จัก คนตัวโตที่อยู่ในชุดกางเกงยีนส์และเสื้อเชิ้ตที่ไม่ได้ติดกระดุมโดดเด่นเพียงแค่นำมันมาสวมทับตัวเท่านั้น เผยให้เห็นกล้ามหน้าอกมีเปื้อนรอยหมึกสีดำที่ลิ้นจี่เคยเข้าใจว่ามันเป็นรอยเปื้อนของเสื้อพี่เด่นเท่านั้น
“อ่า ลิ้นจี่เองเหรอครับ เข้ามาก่อนซิ” โดดเด่นเปิดประตูให้กว้างและผายมือเชิญน้องเข้าไปในห้องอย่างสุภาพ ลิ้นจี่ที่ยังช็อคกับโดดเด่นในเวอร์ชันนี้อยู่เดินตัวลีบตามเข้ามา เจ้าของห้องจัดการปิดประตูเรียบร้อย เสียงล็อคห้องทำเอาลิ้นจี่สะดุ้งตามเล็กน้อย มองประตูบานโตที่ถูกเจ้าของห้องยืนบังอยู่
โดดเด่นใช้มือติดกระดุมสองสามเม็ดเพื่อไม่ให้น้องเกร็งมากกว่าเดิม อยู่ๆ ก็ได้มาเจอเขาที่กึ่งเปลือยอยู่น้องคงตกใจ ความลับที่ปิดบังมานานคงต้องแตกในวันนี้แหละ
แตกก็แตก เขาก็พร้อมแล้วเหมือนกัน
“เอ่อ ผมแค่...” เหมือนแอเรียลที่โดนขโมยเสียงไป ลิ้นจี่ไม่รู้ว่าจะเริ่มพูดยังไงดีทั้งที่มีคำถามมากมายอยู่ในใจ กวาดสายตามองไปรอบๆ ห้องของโดดเด่นที่ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์สีเข้ม ดูต่างจากที่เขาจินตนาการเอาไว้อย่างมาก
พี่เด่นไม่ใส่แว่นแล้ว ผมสีน้ำตาลนั่นเซทขึ้นเป็นทรงที่ทำให้ใบหน้าหล่อดูหล่อและมีเสน่ห์มากขึ้นไปกว่าเดิมล้านเท่า กลิ่นน้ำหอมแปลกๆ ที่เขาได้กลิ่นวันนั้นถูกใช้อีกครั้ง แต่ครั้งนี้มันมีกลิ่นของบุหรี่และแอลกอฮอล์อ่อนๆเจืออยู่ ทำให้ความหอมของกลิ่นนั่นเพิ่มความน่าหลงใหลมากขึ้นไปอีก อยู่ๆ ลิ้นจี่ก็หน้าแดงซ่าน รู้สึกเหมือนตกอยู่ในอันตราย ทั้งที่คนตรงหน้าคือพี่เด่น คนที่เขาชอบนักหนา
“ทำไมนั่งตัวแข็งทื่อแบบนั้นล่ะครับ?” โดดเด่นเดินเข้ามาหา มือใหญ่วางลงที่ไหล่เล็กก่อนจะพาน้องมานั่งที่โซฟายาวหน้าทีวี ห้องของเด่นมีพนังกั้นระหว่างห้องนอนและห้องนั่งเล่นเอาไว้ แต่ไม่มีมีประตูให้มันยุ่งยาก นี่คืออีกหนึ่งอย่างที่ทำให้เด่นเลือกจะมาอยู่ที่นี่ชั่วคราว เขาไม่ชอบอะไรที่มันยุ่งยาก ต้องมาเปิดประตูซ้ำๆ ทำไม
ลิ้นจี่เกร็งตัวหนักกว่าเดิมเมื่อมืออุ่นๆ ย้ายลงจากหัวไหล่ไปที่แผ่นหลังของตน ไม่คุ้นเลย ไม่คุ้นกับภาษากายของพี่เด่นคนนี้ โดดเด่นยกยิ้มส่งมาให้เมื่อเห็นน้องนั่งลงแล้วเขาจึงเดินออกมาเพื่อหาน้ำและขนมมาให้น้องทานเล่น
เด็กหนุ่มระวังตัวมากขึ้น นึกอยากด่าตัวเองที่ไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่ถึงได้วิ่งออกจากบ้านมาหาพี่เด่นถึงที่ห้อง ถ้าเป็นลูกสาวแม่ปุ๋ยคงตีจนขาลายแน่ๆ และแม่ก็รู้จักพี่เด่นคงไม่เป็นห่วงจนออกตามหาและลากเขากลับบ้านหรอก
“มาหาพี่ถึงนี่มีอะไรหรือเปล่า?” โดดเด่นถาม ทิ้งตัวลงนั่งพื้นที่ว่างข้างๆ น้องเอนตัวลงพิงโซฟาและวาดแขนไปข้างหลังเด็กหนุ่มที่ตอนนี้หดตัวเล็กลงกว่าเดิมอีก ท่าทางเกร็งกลัวของน้องทำให้เขาหลุดยิ้มออกมา
ลิ้นจี่เอ่ยถามเสียงกุกกัก “พะ พี่ทำไมแต่งตัวแบบนี้ ไปไหนมาเหรอ?”
“ออกไปหาเพื่อนมาน่ะ ความจริงว่าจะอยู่ถึงเช้าแต่มีลางสังหรณ์ว่าจะมีแขกเลยรีบกลับมา และก็มีคนมาหาพี่จริงๆด้วย” คำพูดและจังหวะการพูดของเด่นเปลี่ยนไปจากเดิม เหมือนตอนนี้ลิ้นจี่กำลังนั่งคุยอยู่กับพี่เด่นอีกคนที่ไม่ใช่พี่เด่นเด๋อคนเดิม แต่ด้วยความสงสัยที่เก็บไว้ไม่ได้ ทำให้ลิ้นจี่เลือกที่จะถามออกไปให้หายคาใจ
“พี่ดูไม่เหมือนเดิมนะ”
“พี่หล่อขึ้นเหรอ?”
อือ หล่อขึ้น และดูอันตรายมากขึ้นด้วย
“พี่ดูแปลกไปจนผมลืมเรื่องที่จะมาพูดด้วยวันนี้เลย” ลิ้นจี่บอกออกไปตามตรง ความแสบในตัวลดน้อยลงเมื่อเจอโดดเด่นคนนี้ ความมั่นใจก็เช่นกัน ตอนนี้จะหายใจยังรู้สึกยากลำบากเลย
โดดเด่นหยิบจานคุกกี้ที่เตรียมมาและส่งมาตรงหน้าน้อง ใช้สายตาบอกให้ลิ้นจี่หยิบและกินเข้าไปซะ หวังว่าขนมตรงหน้าจะทำให้น้องเลิกเกร็งเสียที ลิ้นจี่หยิบคุกกี้เข้าปากอย่างว่าง่าย แต่ดูเหมือนเด็กก็ยังเป็นเด็ก เศษคุกกี้ที่หล่นร่วงลงมาขนเสื้อและมีบางส่วนที่ติดขอบปากน้อง เป็นจุดโฟกัสให้สายตาของโดดเด่นมากๆ โดยเด็กดื้อก็ไม่ได้สนใจมันซักนิด
“กินยังไงให้เลอะไปหมดแล้ว” ใบหน้าหล่อเลื่อนเข้ามาใกล้พร้อมใช้มือปัดเศษคุกกี้ที่หล่นติดเสื้ออกให้น้อง ลิ้นจี่กลั้นหายใจทันทีเมื่อรู้สึกถึงใบหน้าคมที่ใกล้กับหน้าของตนมากเกินไป
ดวงตาดุเลื่อนมาจับจ้องที่ริมฝีปากอิ่มที่มีเศษคุกกี้ติดสลับกับหน้าตาตื่นๆ ของน้อง ยังไงวันนี้เขาก็ต้องบอกความจริงและเผยธาตุแท้ให้น้องรู้อยู่แล้ว เพราะงั้นถ้าจะขอรางวัลนักแสดงดีเด่นให้ตัวเองเป็นริมฝีปากนิ่มๆ นั่นก็คงได้....
สัมผัสนุ่มที่บรรจบทาบทับลงมาที่ริมฝีปากสีสวยทำเอาเด็กหนุ่มตาโต ตั้งตัวไม่ทันกับสิ่งที่เกิดขึ้น โดดเด่นบดเบียดริมฝีปากให้หนักขึ้น เผยอเม้มปากล่างของน้องไล่ชิมรสชาติของคุกกี้ที่ติดอยู่บนนั้น ไม่มีการรุกล้ำเข้าไปในโพรงปากแต่อย่างใด โดดเด่นจุมพิตที่แก้มเนียนใสหลายต่อหลายครั้ง กลิ่นหอมหวานประจำตัวของลิ้นจี่ทำเอาเขาใจเต้นแรงจนควบคุมตัวเองไม่อยู่
มือขาวถูกคนเป็นพี่กุมเอาไว้และนำมันมาวางไว้ที่อกของตน ลิ้นจี่รับรู้ถึงก้อนเนื้อในอกข้างซ้ายของคนตรงหน้าว่ามันเต้นแรงและเร็วแค่ไหน จังหวะของมันรวนไปหมด ลิ้นจี่สบตากับคนตัวโตที่ผละริมฝีปากออกไปแล้ว สายตาที่เต็มไปด้วยความอบอุ่นและรักใคร่ที่ไม่น้องไม่เคยได้รับจากโดดเด่นเลย มันแปลกใหม่และชวนให้เลือดทั้งตัวไหลมากองรวมที่แก้มทั้งสองข้าง ความร้อนเห่อไปถึงใบหูและลำคอ แม้ก้มหน้าซ่อนเอาไว้ก็ปิดไม่มิด
“ถ้าเป็นพี่เด่นคนที่ใส่แว่น เขาจะใช้มือเช็ดให้ลิ้นจี่นะ...” โดดเด่นพูดทั้งๆ ที่ยังไม่ละสายตาไปจากดวงหน้าน่ารักของน้อง เขารู้สึกชอบใจกับใบหน้าแดงๆ ที่เกิดจากความเขินอาย แม้จะรู้ว่าไม่ควรล็อกห้องและออกตัวรุกน้องขนาดนี้ แต่มันอดไม่ได้นี่นา ก็ลิ้นจี่น่ารักขนาดนี้จะให้เขาอดใจไหวได้อย่างไร
“แต่ลิ้นจี่อยู่ในห้องพี่ จะไม่มีพี่เด่นคนเด๋อด๋าคนนั้นอีกแล้วนะ”
“.............” ลิ้นจี่ก้มหน้างุด รู้สึกอยากจะร้องไห้ออกมาซะตอนนี้ ที่ผ่านมาเขาโดนพี่เด่นต้มซะเปื่อยเลย แต่เขาไม่ได้ถือโทษโกรธอะไรเลยซักนิด ตอนนี้ในหัวมีแค่ทำยังไงถึงจะรอดออกไปได้เท่านั้น
“พี่จะบอกทุกอย่างลิ้นจี่เอง พี่ก็คือโดดเด่นคนเดิมนั่นแหละ พี่ไม่ได้เป็นคนเรียบร้อย พี่ไม่ได้เป็นคนดีเท่าไหร่แต่ก็ไม่ได้เป็นคนไม่ดีนะ น้องชายพี่ชื่อดูดี มันไม่ได้น่ารักเหมือนลิ้นจี่หรอก แต่ที่พูดถึงบ่อยๆเพราะอยากแกล้งเราเล่น” ลิ้นจี่สะบัดหน้าหนีไปอีกทางเมื่อได้ฟังคำสารภาพของคนเป็นพี่ โดดเด่นใช้มือประคองใบหน้าของน้องเอาไว้และเชยขึ้นมาสบตากัน “พี่เป็นเจ้าของ Kawasaki ที่ลิ้นจี่ชอบ และพี่.. ก็อยากเป็นเจ้าของลิ้นจี่ด้วย”
“พี่ พี่หยุดพูดก่อนได้มั้ย” น้องดันตัวออกจากเขา พร้อมกับเขยิบลุกออกห่างไป อ้าปากกอบโกยเอาอากาศเข้าปอดให้ได้มากที่สุด ตอนนี้เขาดูเหมือนจะระเบิดตัวเองได้เลย มันร้อนเห่อไปหมด พี่เด่นไม่อ่อนโยนกับเขาซักนิด
ใบหน้าหล่อของเด่นแสดงออกถึงความสงสัยอย่างชัดเจนกับท่าทางของน้อง ลิ้นจี่หันมาค้อนให้เบาๆ ก่อนจะตอบให้หายสงสัย “หยุดพูดก่อน ผมเขินจนหายใจไม่ทันแล้ว!”
โดดเด่นหัวเราะออกมาเบาๆ ก่อนจะลุกขึ้นมากอดน้องจากด้านหลังลำแขนแกร่งที่โอบรัดเอาไว้ทำให้หน้าอกและหลังของทั้งคู่สัมผัสกันชิดมากกว่าตอนนั่งซ้อนท้ายกันเสียอีก แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นแน่นอนว่าการกอดครั้งนี้มันชวนให้คิดดีไม่ได้เลย มันไม่เหมือนกับการซ้อนท้ายเลย
“ไหน มีอะไรจะคุยกับพี่” เด่นกระซิบถามที่ข้างหู ลิ้นจี่ย่นคอหนีก่อนจะตอบกลับบ้าง
“แค่จะมาคุยด้วย วะ วันนี้ไม่ได้ตั้งใจจะหนีกลับก่อน ก็แค่... น้อยใจ” เสียงเด็กหนุ่มเบาลงในประโยคท้าย “ก็พี่มัวแต่คุยกับดูดี ทิ้งผมให้นั่งอยู่คนเดียว เป็นใครก็งอนทั้งนั้นแหละ แล้วทำไมคนที่งอนต้องเป็นฝ่ายวิ่งมาง้อพี่ถึงนี่ด้วยวะ”
เหมือนคิดได้ก็สายไปเสียแล้ว เจ้าเสือร้ายอุ้มเด็กหนุ่มลอยหวืดในอากาศ เท่าที่จำได้โดดเด่นคือคนที่แค่เดินเร็วก็ยังเหนื่อยแล้วแต่นี่สามารถอุ้มเขาที่ตัวสูงกว่าให้ลอยได้ในครั้งเดียวแบบนี้ โกหกแม้กระทั่งเวลาเหนื่อยงั้นเหรอ แขนเล็กกอดคออีกฝ่ายเอาไว้เพราะกลัวตก ไม่นานลิ้นจี่ก็ถูกวางไว้บนเตียงนุ่มในห้องนอนของโดดเด่น
คนตัวโตทิ้งลงตัวนอนหงายข้างๆ น้องมือก็เลื่อนไปกุมของน้องเอาไว้ นิ้วโป้งไล้ลูบไปตามหลังมือเนียนของเด็กน้อยก่อนที่โดดเด่นจะตะแคงข้างแล้วจ้องมองเสี้ยวหน้าของเด็กที่มีอิทธิพลต่อความคิดของเขามากที่สุดในตอนนี้
“พี่จะง้อยังไงดีนะ... พี่ไม่ถนัดอะไรแบบนี้เสียด้วยซิ”
ลิ้นจี่นอนตัวแข็งทื่อไม่กล้าขยับตัวไปไหน เดาใจพี่เด่นไม่ออกว่าต้องการอะไรและจะทำอะไรกับเขา
“ที่เคยเลื่อนให้เป็นน้องชายคนสนิทน่ะ ล้อเล่นนะ”
ได้ยินดังนั้นลิ้นจี่ก็กระเด้งตัวลุกขึ้นก่อนจะมองอีกฝ่ายเขม็ง ทำไมให้เขาแล้วถึงต้องมาเอาคืน นิสัยไม่ดีจริงๆ เลย โดดเด่นดึงแขนคนที่กำลังจะลุกหนีและออกแรงกระชากจนเด็กหนุ่มเซล้มลงมาทับบนตัวของเขา น้ำหนักของน้องก็ใช่ว่าจะเบาแต่มันก็ไม่ได้ทำให้เขาเจ็บปวดเท่าไหร่นัก โดดเด่นพลิกตัวให้ตนเป็นฝ่ายคร่อมร่างของน้องแทน
ดูเหมือนว่าคนที่ซื่อบื้อจะไม่ใช่โดดเด่นคนนี้หรอก เป็นลิ้นจี่ต่างหากที่ยังไม่เข้าใจในสิ่งที่เขาพูดออกไป
“คบกันมั้ย?”
ลิ้นจี่ตาโตขึ้นมาทันทีที่ได้ยิน ทำตัวไม่ถูกเมื่อถูกอีกฝ่ายรุกหนักขนาดนี้ ทั้งเสียจูบและถูกขอเป็นแฟน มันรวดเร็วเกินกว่าหัวใจจะรับไหว ดีไม่ดีพี่เด่นต้องไปส่งเขาที่โรงพยาบาลในคืนนี้แน่ๆ
“พี่ล้อเล่นหรือเปล่า มันเร็วเกินไป” ลิ้นจี่เอ่ยเสียงแผ่ว ขยับตัวและพยามดันอกของอีกฝ่ายให้ถอยห่าง แต่ด้วยมารยาที่สะสมมาตั้งแต่เริ่มชอบโดดเด่น ทำให้แรงที่เด็กหนุ่มผลักนั้นเบาหวิวยิ่งกว่าปุยนุ่น เขาแค่ผลักและขัดขืนพอเป็นพิธีเท่านั้นแหละ ถ้าเกินสมยอมง่ายๆ เดี๋ยวแม่ปุ๋ยจะหาว่าใจง่ายเกินงาม
“มันไม่เร็วไปหรอก ตอนนี้ก็เป็นแฟน เดี๋ยวอีกซักพักก็เป็นเมีย”
คำพูดของเด่นทำเอาเด็กหนุ่มหน้าร้อนขึ้นมาอีกครั้ง ในหัวคิดข้ามไปถึงสถานะสุดท้ายที่พึ่งถูกกล่าวถึง การที่จะใช้คำว่าเมียมันต้องผ่านพิธีดื่มน้ำอมฤตก่อนไม่ใช่หรือไง ยิ่งพูดก็ยิ่งอาย ไม่น่าเอาตัวเองเข้ามาเล่นกับไฟเลย
เหมือนสุภาษิตไทยที่สอนไว้ว่า
อย่าเห็นกรงจักรเป็นดอกบัว
อาจจะมีผัวไม่รู้ตัวถ้าเล่นผิดคน
ฉากคัท ตามหาได้ที่ไบโอทวิตเตอร์
หรือ #อาชีพโฮลิน ค่ะ
อาการเดินชัดๆ และเจ็บระบมช่วงล่างอยู่กับลิ้นจี่หลายวัน ไม่รวมถึงรอยแดงๆ ตามตัวที่ใช้เวลานานกว่าจะหาย ยังดีที่พี่เด่นฉลาดไม่ทำมันนอกร่มผ้าทำให้เขาไม่ต้องถูกเพื่อนสงสัยและเซ้าซี้ให้น่ารำคาญ
หลังจากคืนนั้นพี่เด่นเป็นคนพาลิ้นจี่มาส่งที่บ้าน ทั้งที่ใจจริงอยากให้น้องอยู่ต่อก็ตาม เพราะกลัวว่าคุณแม่และคนอื่นๆ จะเป็นห่วงน้องและแจ้งตำรวจว่าลูกชายหายไป ส่วนเรื่องความสัมพันธ์ของทั้งคู่ลิ้นจี่เป็นคนเสนอความให้พี่เด่นเข้ามามีส่วนร่วมในครอบครัวอีกซักพักค่อยบอกที่บ้านไป เพื่อที่จะให้พ่อแม่ได้รู้จักนิสัยและชอบพี่เด่นก่อน จะเป็นการเปิดทางที่ดีกว่าอยู่ๆ ก็เดินเข้าไปบอกว่าตกลงคบกันแล้วได้กันเลย เจ๊ปุ๋ยต้องลมจับและหามส่งโรงพยาบาลกันแน่ๆ
รถสปอร์ตไบทค์คันโตราคาเท่าบ้านแล่นเข้ามาจอดเทียบที่หน้าอาคารเรียน เสียงเครื่องยนต์ที่ดังกังวานทำให้นักเรียนทุกคนต่างมองและสนใจเป็นตาเดียว ลิ้นจี่เบิกตากว้างตกใจกับภาพตรงหน้า คนขับจอดรถและเปิดหน้ากากหมวกกันน็อคออกทำให้รู้ว่าเจ้าคนรถไม่ใช่ใครที่ไหน แฟนหมาดๆ ของลิ้นจี่เอง
เด็กหนุ่มรีบบอกลาเพื่อนและคว้ากระเป๋าวิ่งไปหาแฟนหนุ่มอย่างรวดเร็ว ความรีบร้อนนั้นทำให้ลืมอาการขัดๆ ที่ช่วงล่างไปเสียสนิท พรุ่งนี้เพื่อนของเขาต้องซักเป็นการใหญ่แน่ว่าใครมารับและเป็นอะไรกัน คงได้เปิดโต๊ะแถลงข่าวถามมาตอบไปลิ้นจี่สุดหล่อมีแฟนขับสปอร์ตไบค์แน่ๆ
“พี่เด่น น้องบอกแล้วว่าไม่ต้องมารับ คนอื่นเขามองหมดแล้ว” มือเรียวฟาดเข้าไปที่กลางแผ่นหลังของคนรัก ใบหน้าน่ารักยุ่งเหยิงด้วยความไม่พอใจ
“จะอายทำไมแฟนหล่อขนาดนี้” โดดเด่นแกล้งหยอกน้อง ก่อนจะยื่นหมวกกันน็อคอีกใบที่พึ่งไปถอยมาสำหรับลิ้นจี่โดยเฉพาะ รักรถรักแฟนเพื่อความปลอดภัย
“ไม่ได้อายซะหน่อย แต่แค่ขี้เกียจขี้เกียจตอบคำถามคนอื่น”
ลิ้นจี่ยื่นปากใส่ มือก็กอดเอวของคนรักแน่น โดดเด่นเอี้ยวตัวหันมาส่งยิ้มหวานให้ด้วยความเอ็นดูก่อนจะพูดว่า
“บอกไปเลยว่าเป็นแฟนพี่ จะได้ตัดปัญหาคนมาจีบไง” ลิ้นจี่ยิ้มตาหยีก่อนจะหันไปเจอนักเรียนหญิงกลุ่มหนึ่งที่กำลังมองมาที่แฟนของเขาพร้อมกับชี้ให้เพื่อนดูด้วยท่าทางชื่นชอบนักหนา ตากลมมองไปยังเพื่อนร่วมโรงเรียนเขม็งก่อนจะโน้มตัวลงไปกอดเอวแฟนหนุ่มพร้อมกับซบหน้าแนบลงที่แผ่นหลังกว้างนั่น
มองให้ตายยังไง ความจริงก็คือพี่เด่นเป็นแฟนของเขา
ถ้าถามว่าเด่นคนไหน ก็คนที่หล่อๆ คนที่โดดเด่นไม่เหมือนใครไง
end.
ฮ่าาา ฮ่าาา ฮ่าาาา โดนเด่นไม่เหมือนใครมั้ยล่ะ
เคยคิดไว้ว่าอยากลองแต่งบ้าง เลยลองแต่งดู
มันอาจจะไม่ดีมากนะคะ เดี่ยวครั้งหน้าจะปรับปรุงตัวค่ะ คึคึ
มีคน พิมพ์ 99 สนใจเล่มด้วยงะ ดีใจจังงง เดี๋ยวแบมกำลังหาคนทำปกให้อยู่
เพราะไม่ถนัดเรื่องอะไรแบบนี้เลยค่ะ ใครมีแนะนำเมนชั่นมาหาได้เด้อ @pingpolar
ฝากเม้นฝากติชมได้นะคะ เป็นกำลังให้เดินเรือต่อไป
ช่วงไหนที่ฟิคไม่อัพจริงๆ เราก็เหงา เลยแต่งเองเลย อยากให้คนอ่านมีความสุข
แล้วเราเองก็มีความสุขเช่นกันที่มีคนชอบ แม้มันจะไม่ได้ดีมาก แต่ทำด้วยความตั้งใจนะฮัฟ
เรามาไหว้พระสวดมนต์ให้โฮลินมีโมเม้นไวๆ กันเนอะ ต้องถึงทางธรรมและผลบุญแล้วล่ะค่ะ สาธุ
พิมพ์ 00 แล้วคนในรูปจะเข้าฝัน
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

/เรื่องนี้น่ารักม๊ากกก อ่านเม้นคุณพิ้งแล้ว เห็นคุณพิ้งยอกมันอาจจะไม่ดีมาก อาจจะไม่สนุก คือไม่เลยนะ เรื่องนี้สนุกม๊ากกก เราชอบ น่ารัก เรื่อยๆ. แต่ไม่เรียบจนเกินไป คุณพิ้งเก่งมากแล้วค่ะ ชอบสำนวน ชอบทุกเรื่องที่แต่งเลย ขอบคุณที่แต่งฟิคให้อ่านเสมอ ขอบคุณช่วยกันพายเรือค่ะ!!!!!
00 สาธุขอให้คืนนี้ฝันถึงพี่โดดเด่น
น้องร้ายแบบเด็กๆจะไปทันเสือได้ไง จริงมั้ยยย