ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    japanese club ชุมนุมภาษาญี่ปุ่น

    ลำดับตอนที่ #11 : (อ) เลิฟๆ love you forever

    • อัปเดตล่าสุด 15 มิ.ย. 53


    เริ่มคันจิตัวแรกพี่ก็อยากให้ทุกคนรักในตัวหนูคันจิให้มากๆ มาเรียนเรื่องหวานๆกัน อันที่จริงพี่ไม่ค่อยถนัดเรื่องราวรักๆหวานๆหรอกนะ แต่เพื่อนพี่อีกคนมันช้อบชอบเลยล่ะ ส่วนพี่ชอบอกหักมากกว่า ดูและสะใจ ก๊ากกก (ออกแนวเถื่อนๆอะ) เอ้าไปดูกันเถอะ เผื่อจะได้เขียนสารภาพรักหนุ่มญี่ปุ่นกันบ้าง อิๆ

                                                       

     ai kanji new 300pt.jpg
                                                    

    あい ความรัก



    สงวนลิขสิทธิ์ ความคิดเกี่ยวกับนิทานต่างๆที่โพสในโรงเรียนเด็กวัดปรียา เป็นคันจิที่ครูประจำชั้นปรียาพยายามคิดค้นจากหัวสมองน้อยๆ เพราะท้าทายดี อาจารย์ชอบคิดอะไรที่แปลกแหวกแนวไม่มีใครเหมือนและไม่ชอบเหมือนใคร เรีัยนแล้วต้องสนุกและจำไปใช้ได้เลย เด็กวัดจะได้เรียนและเขียนคันจิได้สนุก แบบเพลินไปเลย แถมเอาไปคุยให้เพื่อนๆฟังได้ด้วย คันจิอาจารย์รับรองได้ว่าเป็นต้นตำหรับที่อาจารย์แต่งนิทานขึ้นมาเอง เพื่อให้เด็กวัดเรียนและจำคันจิได้ บางคำอาจจะอ่านจากความเป็นมาในประวัติศาสตร์ อันไหนใช้ได้ก็เอามาประยุกต์ใช้และแต่งเรื่องให้เข้าจะได้เขียนได้

           ใครที่อ่านแล้วติดใจนิทานคันจิของครูปรียาถ้าจะนำไปถ่ายทอดเล่าให้เพื่อนๆฟัง เป็นการแบ่งปันไม่ว่าเลย แต่ขอความกรุณาให้รู้จักมารยาทและการให้เครดิตอาจารย์ซึ่งนั่งคิดค้นนิทานคันจิ ด้วย ไม่เห็นจะน่าอายใช่ไหมคะ เราต้องรู้จักเคารพความคิดที่เกิดจากมันสมองของคนอื่น ไม่ใช่ลอกเลียนแบบ เอาความคิดที่เกิดจากมันสมองคนอื่น แล้วเอาไปใช้หน้าตาเฉยราวกับว่าเป็นความคิดของตัวเอง โดยไม่รู้สึกกระดากใจ คนเห็นเข้าก็เสียชื่อตัวเองนะคะ
          

    ....................

    สวัสดีค่ะ แฟนหนังสือ และเด็กวัดทุกคน
         อาจารย์ต้องขอลัดคิวมาเล่านิทานคันจิ เกี่ยวกับ คำว่า ซึ่งแปลว่า ความรัก ตามคำขอของเด็กวัด เพราะแต่ละคนเวลาที่เรียนภาษาต่างประเทศ ไม่ว่าชาติไหน ทุกคนก่อนอื่น อยากจะรู้ว่า ในภาษานั้นๆเขาสารภาพรักกันยังไง

        แต่ตามที่เรารู้ๆกัน วัฒนธรรมดั้งเดิมของเอเชีย ไม่ว่าจะเป็นจีน หรือญีปุ่น ส่วนใหญ่ไม่มีการสารภาพรัก หรือรักกันจึงค่อยแต่งงาน เหมือนในหนังฝรั่งที่พูด

       ‘I love you’ วันละสามเวลาไม่ต่างกับคำทักทาย พูดวันละสามเวลา แล้วก็หย่าร้างกันไปเ็ป็นเรื่องธรรมดา

       แต่ปัจจุบัน วัยรุ่นไทย จีน ญีปุ่น หรือแม้แต่เกาหลีก็ตาม ต่างได้รับอารยธรรมและได้รับอิทธิพลจากการดูหนังฝรั่งมาก คำว่า รัก แม้ในชีวิตจริงจะยังกระดากปากที่จะใช้ก็ตาม แต่ก็มักจะไปแอบระบายความรู้สึกที่มีต่ออีกฝ่ายกันมากมายในเพลง จนทำให้คำนี้เป็นคำที่คนหนุ่มสาวใฝ่ฝันว่าสักวันคงจะมีชายหนุ่ม หรือหญิงสาวบอกรักกับตนก็ได้ ความรักเป็นเสมือนน้ำทิพย์ที่ทำให้หัวใจกระชุ่มกระชวย แม้ในสภาพความเป็นจริง ความรักไม่ได้หวานจ๋อย หรือโรแมนติกเหมือนในหนัง เพราะบางครั้งก็อาจจะจบลงด้วยความขมขื่นก็ได้ แต่ถึงกระนั้นก็ตาม คนทั่วโลกก็ยังใฝ่หา ใฝ่คว้า อยากได้ความรัก


          ความรักมีหลายรูปแบบ นับตั้งแต่ ความรักที่ลูกมีต่อพ่อแม่ ความรักที่มีต่อเพื่อน ความเคารพและรักที่มีต่อพ่อแม่ ครูบาอาจารย์ ความรักที่มีต่อเพื่อนมนุษย์ร่วมโลก ความรักที่มีต่อพี่น้องในสายเลื่อดเดียวกัน และที่สำคัญที่สุด ความรักของคนหนุ่มสาว ความรักของสามีภรรยา ตลอดจนความรัก ความเทอดทูนที่มีต่อพระเจ้า เป็นต้น

          อาจารย์ขอสารภาพว่า เนื่องจากคำว่า รัก นี้ ไม่ใช่วัฒนธรรมดั้งเดิมที่มีอยู่แต่ไหนแต่ไรของทั้งประเทศจีน และญี่ปุ่น ทำให้คันจิที่แสนจะเขียนยากนี้ ไม่มีเรื่องอะไรเลยที่พอจะนำมาเล่าให้เด็กวัดฟัง เพราะคำว่า รัก นี้ เป็นคำที่คนญีปุ่น เอาแต่เสียงอ่านในภาษาจีน หรือ เสียงอง มาใช้ เท่านั้น จึงไม่มีอะไรที่นำมาเล่าให้ตื่นเต้นได้

        เมื่อไม่มีเรื่องตื่นเต้นที่จะนำมาเล่าเกี่ยวกับคำที่แสนจะโรแมนติกนี้ คำที่เด็กวัดที่แอบชอบสาว หรือหนุ่มอยากรู้เรื่องราว อาจารย์ใจดีรู้ใจนะคะ

       อาจารย์ก็ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ ต้องไปนั่งคิดนอนคิด ดูคันจิตัวนี้ แล้วในที่สุดก็แต่งเรื่องใหม่นี้ให้เราได้อ่าน ได้เรียน และจำไปเขียนได้ เพราะอย่างน้อยก็คุ้มกับการคิดนิทานสำหรับคำนี้ซึ่งจะต้องเขียนถึึง 13 เส้น กว่าจะได้คำว่า ความรัก หนึ่งคำ

        วันนี้อาจารย์ปรียาจะเล่าเรื่อง ความรัก ทีี่เด็กวัดอ๊อฟคุง อยากรู้อาจารย์ก็เลยต้องแต่งเรื่องความรักนี้ให้เด็กวัดทุกคนและแฟนๆหนังสือเป็นพิเศษ จะได้รู้กันสักทีนะคะ ว่าทำไมความรักมันช่างยากเย็นอะไรอย่างนี้กว่าจะได้คันจิตัวนี้ ต้องเขียนถึง
    13 เส้น กว่าจะได้คำว่า รัก สักคำ
    J




    นิทานสำหรับการเขียนคันจิ ก็คือ

    1.ส่วนบนสุดของคันจิ จะขีดจากข้างบนลงมาข้างล่าง ในภาพคือ กามเทพกำลังถือศรรักในมือ เวลาที่เขียน เส้นจะต้องลากจากข้างบนลงมาข้างล่าง จึงจะถูกต้อง

    2.ส่วนของคันจิต่อไปภาพที่เห็นก็คือ กามเทพเริ่มแผลงฤทธิ์ด้วยการเอาศรรักเล็งยิงลงไปในโลกมนุษย์ เขียนคล้ายตัวอักษรคะตะคะนะ  

    3. ส่วนของคันจิต่อไป ก็คือ ในที่สุด กามเทพเล็งศรรัก และยิงลูกศรไปยังบ้านของค คันจิที่เห็นคือ หลังคาบ้าน หรือบ้าน   ที่กามเทพสุ่มยิงลงไปในโลกมนุษย์

    4. ส่วนของคันจิต่อไป ข้างใต้หลังคาหรือบ้านคน จะมีหัวใจ หรือจิตใจ ซึ่งเราคุ้นเคยเรียนกันจนช่าชอง ซึ่งก็คือ   หรือ  こころ

    5. ส่วนของคันจิต่อไปก็คือ หลังจากที่กามเทพแผลงศรรักยิงผ่านหลังคาบ้าน ไปโดนหัวใจของคนในบ้าน ภาพที่เห็นก็คือ เห็น คนสองคนโอบรัดกันแน่นมองไม่ค่อยชัด ไม่ได้เจตนานะคะ  ตามในภาพ

        ผลจากการที่กามเทพ แผลงศรรัก สุ่มยิงลงมายังโลกมนุษย์ ไปตกลงที่บ้านใคร ศรรักของกามเทพก็จะวิ่งกระทบหัวใจ หรือจิตใจของคนในบ้านนั้น ผลก็คือ ทำให้คนสองคนในบ้านนั้น เกิดความรู้สึกผูกพัน โอบรัดกันแน่น ก่อให้เกิดเป็น ความรัก ซึ่งเ็ป็นที่มาของคันจิ
    ซึ่งเมื่อผสมกันก็จะเป็นตัวคันจิ


    ถ้าเด็กวัดจำเรื่องราวที่อาจารย์เล่าเป็นตอนๆตั้งแต่แรก แล้วก็ค่อยๆหัดเขียนตามขั้นตอนของนิทาน ก็จะเขียนคำว่า ความรัก ได้อย่างง่ายดาย ไม่สับสน สนุก และไม่ต้องท่องจำด้วย จริงมั้ยคะ



    คันจิ

    คำอ่าน
    ความหมาย

    อ่านเป็นเสียง    くん




    อ่านเป็นเสียง

      おん


     あい

    1.ความรัก


    ตัวอย่าง วิธีการใช้เมื่อเป็นเสียง
    くん เช่น


    Yamada san wa totemo shinsetsu nano de minna ni ai sarete imasu.
    山田(やまだ)さんはとても親切(しんせつ)なので、みんなに愛(あい)されています。
    (จากการที่) คุณยะมะดะเป็นคนใจดี จึงเป็นที่รักของทุกคน

    Mikako wa jun kun no aijin desu yo.

    美香子(みかこ)純(じゅん)君(くん)愛人(あいじん)ですよ。


    มิคะโคะเป็นเมียเก็บ(หรือเป็นชู้) ของจุน



    เป็นไงคะ ในที่สุด เด็กวัดก็ได้เรียนรู้วิธีพิชิตคันจิ เกี่ยวกับ ความรัก ที่กว่าจะไปสารภาพรัก ด้วยคันจิตัวนี้ได้ต้องเขียนให้ครบ 13 เส้น ไม่ใช่เรื่องหมูๆนะคะ

       เรียนนิทานเรื่องที่อาจารย์แต่งแล้วเป็นยังไงคะ พรุ่งนี้จะรีบไปสารภาพรักกับคนที่เราแอบรักหรือเปล่าคะ


    เป็นยังไงๆ พอจะเขียนกันได้หรือเปล่า ถ้าตอนนี้ยังไม่มีใครที่แอบชอบล่ะกัน เขียนมาให้พี่ก็ได้นะ พี่ยินดีรับทุกแผ่นวะฮ่ะฮ่าๆๆ




    นิทานคันจิโดย ศ. ดร. ปรียา อิงคาภิรมย์


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×