ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ฝันจะเป็นเด็กศิลป์ เตรียมฯ

    ลำดับตอนที่ #4 : วิธีการอ่านหนังสือในแบบของพี่

    • อัปเดตล่าสุด 8 มิ.ย. 55


         สำหรับน้องๆที่เพิ่งเริ่มอ่านหนังสือ  อาจไม่รู้ว่าตัวเองต้องเพิ่มอะไรยังไง ตอนพี่เริ่มอ่านพี่ก็เป็นค่ะน้อง และวิธีอ่านหนังสือของพี่ก็ไม่ค่อยจะเหมือนคนอืนด้วย 555
        ปกติแล้วรุ่นพี่หลายๆคนคงจะแนะนำให้น้องทำตารางอ่านหนังสือ  แล้วก็อ่านตามตารางกันใช่ไหมคะ  วิธีนี้มันก็มีข้อดีคือมันทำให้เรามีความรับผิดชอบ  ต้องทำตามตารางให้ได้ มีตารางไว้คอยเตือนสติเสมอ แต่เชื่อไหมว่าพี่ใช้วิธีนี้ไม่ได้ผล ไม่ว่าจะปรับยังไงก็แล้วแต่ พี่ไม่เหมาะกับคำว่าตารางอ่านหนังสือเลย
        ส่วนวิธีอ่านหนังสือของพี่เป็นยังไงนะหรอ
    พี่จะจดลิสต์หัวข้อเรื่องของแต่ละวิชาที่จะออกสอบ ส่วนมากก็จะหามาจากแนวข้อสอบที่รุ่นพี่บอกเนี่ยแหละ ไว้วันหลังพี่จะเอามาลงให้นะ หรือไม่ก็ดูจากสารบัญหนังสือ คือหนังสือแต่ละเล่มหัวข้อเรื่องก็จะเหมือนๆกัน เนี่ยหละคือสิ่งที่เราต้องอ่านให้จบก่อนสอบเตรียมฯ วิธีนี้จะช่วยให้น้องไม่ต้องอ่านหนังสือหลายๆเล่มได้ เพราะหนังสือแต่ละเล่มใช้ภาษาไม่เหมือนกัน เหมาะกับคนที่แตกต่างกัน น้องก็เลือกเล่มที่น้องอ่านแล้วเข้าใจก็พอ เชื่อไหมว่าพี่อ่านหนังสือภาษาไทยไปสอบแค่สองเล่ม แต่พี่เน้นอ่านครบทุกเรื่อง 

      ส่วนแผนการอ่านของพี่ เนื่องด้วยพี่ไม่มีตาราง พี่ไม่ชอบกฎเกณฑ์ พี่ไม่ชอบการถูกบังคับ พี่ไม่ชอบกรอบ(ติสท์มาก 555) นิสัยพี่มันเหมาะกับเรียนสายภาษามากอะ อาร์ทตัวแม่ที่สุดอะ 555
       ดังนั้น พี่จะเตือนตัวเองด้วยจิตสำนึกตัวเอง คือพี่จะบอกตัวเองได้ว่า เวลานี้ฉันควรจะอ่านหนังสือนะ  ฉันควรจะทำแบบฝึกหัดนะ พี่ไม่จำเป็นต้องไปนั่งมองตารางเผื่อดูว่าเวลานี้เราควรทำอะไร เพราะเราควรจะรู้ได้ด้วยตัวเอง  
        สำหรับวิธีนี้ต้องใช้ความรับผิดชอบต่อตัวเองขั้นสูงกว่าตารางนิดหน่อย เพราะมันไม่มีขอบเขตอะไรมาบอกเรา ว่าต้องทำอะไร  น้องก็จะเผลอตัวได้ง่าย  น้องอาจจะคิดว่าพี่เมพอะ ทำได้ไง หนูทำไม่ได้หรอก หนูห้ามตัวเองไม่ได้ขนาดนั้น ความจริงแล้วพี่ไม่ได้เมพคะน้อง พี่เองก็เผลอบ่อย แต่ทุกครั้งที่พี่เผลอ พี่ก็จะย้อนคิดได้ทุกครั้งว่า เราเสียเวลาไปเท่าไหร่ เราตั้งใจจริงๆหรือเปล่า  สิ่งไหนกันแน่ที่สำคัญกับเรามากที่สุดในตอนนี้ การ์ตูน เฟซบุค หรือ เตรียมอุดม พี่ชายของพี่ บอกพี่ว่า  "ถ้าเรารู้ว่าอะไรที่สำคัญสำหรับเรา  เราก็จะรู้ว่าเวลานี้เราควรทำอะไร"

        พี่คิดว่าทุกคนรู้ว่าอะไรสำคัญ แต่ทุกคนจะตระหนักหรือเปล่ามันอีกเรื่องนึง มันก็เหมือนกับเวลาที่เรามีการบ้าน  น้องบางคนก็อาจจะบอกว่า รอเสาร์-อาทิตย์ว่างๆก่อนค่อยทำ อันนี้คือน้องรู้ว่ามีการบ้าน  แต่น้องไม่ตระหนัก  แต่สำหรับบางคนพอมีการบ้านปุ๊บก็ทำเลย เนี่ยแหละคือคนที่ตระหนัก  พี่ก็ไม่ได้ตั้งใจจะว่าอะไรนะคะน้อง  เพราะพี่ก็เป็นคนขี้เกียจมาก่อน ไม่ได้เป็นเด็กเก่ง ไม่ใช่ท็อปของห้อง ไม่ใช่คนขยัน แต่สิ่งหนึ่งที่พี่เชื่อว่่าพี่มีมากๆๆเลยก็คือ ความมุ่งมั่น และไม่ท้อถอย และพี่ไม่โง่ที่จำทำร้ายตัวเองด้วยการทำลายฝัน ด้วยการผลัดวันประกันพรุ่งไปวันๆ เพราะเมื่อถึงวันพรุ่งนี้ น้องก็ไม่มีสิทธิ์มาแก้ไขวันนี้แล้ว ชีวิตคนเรามันไม่มีปุ่มอีดิทเสมอไปนะคะน้องรัก ทำทุกนาทีของน้องให้มีค่า

    น้องอาจจะเห็นว่ามันอีกหลายวัน มันอีกหลายเดือน แต่เวลามันเดินเร็วนะค่ะน้อง ผ่านไปไม่นานก็อาจจะจบไปอีกวันนึงแล้ว  พี่ไม่ได้บอกให้น้องเครียด  ไม่ได้บอกให้น้องตั้งใจอ่านทุกวัน เพราะพี่ก็ไม่ใช่แบบนั้น แต่พี่จะบอกกับตัวเองเสมอว่า  ขอให้ทุกวันของฉัน ฉันได้เติบโตขึ้น  ฉันมีความรู้มากขึ้น  ฉันก้าวไปใกล้เตรียมมากขึ้น แม้จะก้าวไปได้แค่สองเซนหรือสามเซน แต่พี่ก็พอใจที่พี่ยังได้ก้าวไปข้างหน้า


          มาพูดเรื่องการอ่านหนังสือต่อดีกว่าเนาะ สำหรับเรื่องเวลาอ่านหนังสือ พี่ไม่สามารถบอกได้ว่าน้องควรจะเริ่มอ่านวันไหน เพราะแต่ละคนมีลักษณะที่แตกต่างกัน พี่ยอมรับว่าพี่เตรียมบางคนอ่านหนังสือแค่เดือนเดียวก็สอบติด  แต่น้องจะมารอแค่เดือนเดียวทำไมละ ในเมื่อน้องมีเวลามากกว่าอยู่แล้ว จะปล่อยเวลาให้มันเสียปล่าไปทำไม

          แต่พูดแล้วก็เหมือนด่าตัวเอง พี่ก็มาอ่านหนังสือจริงๆจังๆตอนปิดเทอมเหมือนกัน(อีเกรียนนี่ 555)  แต่ว่าก่อนหน้านี้พี่ก็อ่านหนังสือมาเรื่อยๆนะ เพราะว่าพี่อ่านเก็บเป็นเรื่องๆ พออ่านจบก็ทำมายแม็บ หรือบางคนถนัดสมุดจดย่อเองก็แล้วแต่คะ จดไว้เพื่อที่ใกล้สอบน้องจะได้อ่านทวนได้ไวๆ พออ่านเนื้อหาจบแล้ว สิ่งที่สำคัญมากกกกกก มากกว่าการอ่านเนื้อหาความรู้ก็คือ การลงมือทำข้อสอบ ระหว่างที่น้องอ่านหนังสือ น้องอาจจะทำแบบฝึกหัดท้ายบทไปเรื่อยๆ  แต่ว่าน้องควรจะทำแบบฝึกหัดเพิ่มเติมอีก เพื่อที่ว่าเราจะได้ชินกับข้อสอบ   ส่วนหนังสือแนะนำ รอบทต่อไปนะน้องรัก มันอาจจะมาพร้อมกับหัวข้อเรื่อง 555


    สรุปวิธีการอ่านหนังสือของพี่โดยย่อ
    1.จดรายการหัวข้อเรื่องที่จะต้องอ่านของแต่ละวิชา
    2.ลงมืออ่าน อาจจะทำพรีเทสหรือข้อสอบเตรียมจากหนังสือเล่มเก่าๆก่อนเพื่อให้รู้ว่าเราอ่อนด้านไหน หรือจะเริ่มตั้งแต่ต้นก็แล้วแต่คนคะ
    3.ทำแบบฝึกหัดท้ายบท
    4.ทำมายแม็บสรุปเรื่องที่อ่านเก็บไว้ทวนตอนใกล้สอบ***  อันนี้สำคัญนะคะน้อง บางคนอ่านมาเยอะจริง แต่พอไม่ทวนมันก็ลืมนะคะ 
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×