japanese club ชุมนุมภาษาญี่ปุ่น

บทความนี้เป็นบทความของชุมนุมภาษาญี่ปุ่น โรงเรียนสตรีสมุทรปราการ จะรวบรวมเกี่ยวกับข้อมูลต่างๆ และก็จะหาข้อมูลอื่นๆมาเพิ่มด้วย ประมาณว่าเป็นเว็บหรือบล๊อกของชุมนุมประมาณนั้นล่ะมั้ง  ยังไงก็ยินดีต้อนรับทุกคนเลยนะที่สนใจอยากจะเรียนภาษาญี่ปุ่น เราจะเริ่มเรียนไปพร้อมๆกัน
KiT Ta

  

ที่มาของข้อมูลส่วนใหญ่มาจาก www.japaneseisfun.com
ขอขอบพระคุณอาจารย์ปรียาผู้ไขข้อข้องใจและปัญหาให้กับเด็กวัดแนนคนนี้ อาจจะมีบางตอนของบทความที่ไม่ได้ลงที่มา เพราะคนเขียนลืม แต่ก็เอาเป็นว่าข้อมูลได้มาจากเว็บข้างบนนี้ล่ะกันนะค่ะ

มีคนร้องเรียนมาว่าพี่ไม่แยกหมวดหมู่เลย เดี๋ยวหาอ่านไม่ตรงเป้าหมาย โอเคพี่จะแยกให้ ตอนนี้จะแยกแบบนี้ แต่ในอนาคตอาจจะมีเพิ่มเติมพี่ก็จะมาเพิ่มให้ทีหลัง
(อ) มาจากตัวอักษร ก็เช่นพวกคันจิ ฮิรางานะ พี่จะเอามารวมกันอยู่ตรงนี้นะขอรับ
(ว)วัฒนธรรม อาจจะมีส่วนเกี่ยวกับวัฒนธรรมญี่ปุ่นอะไรแบบนี้ เช่นวัฒนธรรมการกินข้าวหรือวัน ประเพณีต่างๆ
(ก)คือเกร็ดความรู้เล็กๆน้อย เป็นสำนวนชั้นต้นอะไรแบบนี้
(ยูโด)หรือก็คือห้องไวยากรณ์ แต่พี่ย่อเป็น ว ไม่ได้เพราะมันจะไปซ้ำกับห้องวัฒนธรรม
(น)ห้องนิยายนั่นเอง จะเป็นห้องเกี่ยวกับนิทานญี่ปุ่นในสมัยก่อนอะไรแบบนี้
(ร)อ๊ะ พี่สร้างห้องพิเศษให้ ห้องรีเควสคำถาม ถามได้ตามสบาย ไม่ว่าเรื่องอันใดก็ตาม หรือจะเรียกอีกอย่างก็คือห้องระบายอารมณ์

อ้อมีเรื่องหนึ่งอยากจะบอก ที่บอกให้ทุกคนช่วยกันเม้นช่วยกันแสดงความคิดเห็นนะ ไม่ใช่เพราะอยากให้มียอดเม้นเยอะๆหรอกนะ จะไม่เคยเขียนให้กำลังใจกันไม่ว่า แต่สิ่งที่อยากได้ก็คือ อยากให้ทุกคนรู้จักการแสดงความคิดเห็นอย่างมีสาระ เป็นเด็กไทยที่กล้าแสดงความคิดเห็น การคิด กล้าสงสัย และก็กล้าถาม บทความพี่จะไม่โหวตหรือไม่อะไรก็ได้ พี่ไม่ว่า ขอเพียงแค่คุณเข้ามาแล้วช่วยบอกทีว่า ที่อ่านไปได้อะไรบ้าง จะได้รู้ว่าเข้าใจถูกผิดยังไง มีอะไรจะได้ช่วยเสริม เพราะบางเรื่องมันก็เอามาเขียนตรงๆไม่ได้ มันเป็นเรื่องที่ต้องมาจากการสงสัยใคร่รู้เสียก่อน พี่คงบอกได้แค่นี้ เหลือก็แต่ภาวนาให้ทุกคนเข้าใจในสิ่งที่พี่ต้องการจะสื่อ


++++++++++++++++++
ประชาสัมพันธ์เรื่องค่ะ อันนี้สำหรับทุกคนที่เข้ามาเยี่ยมเยียนบทความนี้นะค่ะ มีใครสนใจอยากจะอ่านนวนิยายญี่ปุ่นข้ามศตวรรษ 3 เรื่อง 3 รส 3แบบ กันบ้างหรือเปล่า มันเป็นนิยายญี่ปุ่นในสมัยเมจิ เป็นเรื่องที่แฝงแนวคิดและวัฒนธรรมญี่ปุ่นไว้ คือเราจะได้เรียนวัฒนธรรมจากการอ่านนิยายไปด้วย เพราะเขาเขียนให้คนญี่ปุ่นอ่านใช่ไหม มันต้องมีบรรทัดฐานความเข้าใจ วัฒนธรรม แล้วก็ความรู้สึกแบบคนญี่ปุ่น ถ้าเราจะอ่านเอาความเพลิดเพลินเฉยๆมันคงจะไม่ได้อะไรมาก แต่ถ้าเราอ่านแล้วนึกถึงในจุดนี้ด้วย พี่ว่าเราต้องได้อะไรกับไปมากมายเลยล่ะ สำหรับราคาหนังสือ ก็คือ199 บาท แต่แนนจะลดให้ 10 เปอร์เซน จากราคาปก (ขาดทุนสุดๆ) แล้วก็ไม่ต้องกลัวนะค่ะว่ามันจะอ่านไม่รู้เรื่อง นิยายเล่มนี้แปลไทยแล้วค่ะ สนไหม ได้อ่านตั้งสามเรื่องในราคาเพียง179 บาท (ใครใจดีให้ทิ๊ปแม่ค้าเป็น 180 ได้ไม่ว่า แต่อย่าให้ถีบล่ะกัน เพราะแม่ค้าคงกระเด็นไปไกล555)
ฝากไว้ด้วยนะค่ะสำหรับใครที่สนใจ ติดต่อได้ที่มายไอดีแนน หรือขี้เกียจเข้าก็โพ้สทิ้งไว้ที่นี่แหละค่ะ (แต่จะเป็นพระคุณอย่างสูงถ้าไปโพ้สที่มายไอดีแนน เพราะไม่อยากให้มันปะปนกัน)
==================
ประกาศเรื่องต่อไป บทต่อไปที่แนนจะเอามาลงคือเรื่องของการผันคำกริยา เรื่องนี้จะต้องใช้เวลาในการเรียนติดต่อกันนะค่ะ เพราะเรื่องมันจะยาว สำหรับใครที่อยากเรียนก็เตรียมตัวให้ดีนะค่ะ จะมาอัพในสองสามวันนี้ถ้ามีคนต้องการ

ต่อจากการเรียนผันคำกริยา แนนจะเอานิทานคันจิมาฝากเพื่อนๆนะค่ะ เพื่อนๆอาจจะแปลกใจ เอ๊ะทำไม เพิ่งผ่านศึกใหญ่อย่างการผันคำกริยามา ก็ดันมาจอกำแพงหนาหนักแน่นออย่างคันจิจากเมืองจีนเสียแล้ว แต่คันจิที่แนนนำมาสอนมันไม่ได้ใหญ่และยากขนาดนั้นค่ะ เป็นคันจิเล็กๆน้อยๆมาฝากเพื่อนๆกัน และขอบอกว่า แนนยกขโยงมาทีเดียว 7 ตัว มีชื่อชุดว่า กลยุทธ์พิชิตคันจิ 7 ข้อเจ้าค่ะ ใครสนใจ โปรดติดตามต่อในตอนต่อๆๆๆๆๆไปของต่อๆๆไปอีก 5555+++

Music Playlist at MixPod.com