ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ภารกิจ(ไม่)ลับ รักนี้ต้องมีผี!

    ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่ 1 : เรื่องย่ำแย่และผู้ชายกวนประสาท

    • อัปเดตล่าสุด 11 ธ.ค. 53



    1

    เรื่องย่ำแย่และผู้ชายกวนประสาท

     

    สามเดือนต่อมา 

    เช้าที่อากาศสดใส บ้านคอนกรีตทรงยุโรปสีเทาหลังใหญ่ตั้งตระง่านอยู่กลางจัตุรัสแห่งหนึ่งในอังกฤษ เสียงสูงของหญิงสาวสองที่กำลังเถียงกันอยู่ลอยแว่วออกมา ถ้าพูดถึงระดังความดังเสียงของสองคนนี้ ผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมาใกล้ๆ บ้าน ก็คงจะได้ยินถ้อยคำที่พวกเธอพูดออกมาไม่ยากนักหรอก

    นี่เวนิส เธอต้องไปช่วยพี่ทำงานที่ร้านนะ

    ยังไงฉันก็ไม่ทำ

    ต้องทำเอล่าขึ้นเสียงสูง

    ไม่ทำ

    ต้องทำ!” เอล่าตะโกนเสียงดังกว่าเดิม เอาเอามือทั้งสองข้างบีบไหล่ฉันไว้แน่น หน้าตาของเอล่าในตอนเดียวคงไม่ต่างอะไรกับนางมารร้ายเลยทีเดียว

    ฉึก... เล็บของเอล่าค่อยๆ จิกลงไปที่ชุดนักเรียนจนค่อยๆ ดันเข้าไปที่ไหล่ฉันเรื่อยๆ อ้าก! แสบไหล่เป็นบ้าเลย

     ฉันยอมทำก็ได้ TTOTT ”

    ดีมาก เอล่าทำเสียงหึในลำคอหนึ่งที ปล่อยมือออกจากไหล่ฉันแล้วตบบ่าเบาๆ ก่อนจะเดินสะบัดก้นเข้าไปข้างในห้องครัวเพื่อไปทำอาหารเช้า ฉันเขามือลูปไหล่แล้วใช้ปากเป่าลมใส่ตรงจุดที่โดนจิก

    เฮ้อ.....!!

    ฉันถอนหายใจเฮือกใหญ่ออกมาอย่างแรงแต่ตัวเองหนึ่งทีด้วยความเหนื่อยจิต

     ปวดหมองชะมัด ทำไมชีวิตนางฟ้าตัวเล็กๆ แสนสวยของยัยเวนิสคนนี้(แกไปเป็นนางฟ้าตั้งแต่เมื่อไหร่กันยะ =_=”) จะต้องพบกับเรื่องที่แสนจะย่ำแย่แบบนี้ด้วย เพราะงานที่ฉันจำใจตอบตกลงกับเอล่าไปเมื่อกี้นี้คือการต้องไปทำงานที่ ควินส์เฮ้าร้านเกี่ยวกับสิ่งเร้นรับหรือเรียกกันว่าร้านหมอผีที่เอล่าสร้างขึ้นมาก่อนที่พ่อของเราจะเสียชีวิตลงด้วยโรคชราเมื่อสามเดือนที่แล้ว

    เอล่าเป็นพี่น้องบุญธรรมต่างขั้วของฉัน ฉันเป็นน้อง ส่วนเอล่าเป็นพี่ พ่อรับพวกเรามาจากสถานสงเคราะห์เด็กที่เดียวกัน แล้วพามาอาศัยอยู่ที่บ้านหลังนี้และเลี้ยงดูพวกเราเหมือนกับเป็นลูกแท้ๆ ของท่านซะเอง ฉันเรียนอยู่มหาวิทยาลัยปี 1 ส่วนเอล่าทำงานหารายได้โดยกันเปิดร้านควินส์เฮ้าขึ้นมาแต่ด้วยชื่อร้านที่ดูจะแปลกๆ และของในร้านที่ไม่น่าชมนักก็เลยทำให้กิจการของเอล่าไม่ค่อยรุ่งสักเท่าไหร่อันเป็นเหตุที่ฉันต้องมารับกรรมแบบนี้ TT_TT

     

    หลังจากเอล่าทำมื้อเช้าฉันจัดก็การรับประทานเข้าห้องซะจนอิ่มแปล้ แล้วเดินออกมาที่โรงรถ เอล่าจัดการกดปุ่มบนรีโมตคอนโทรเพื่อเปิดประตูรถ ทันทีที่ประตูเปิดเสร็จ ขาสวยๆ งามๆ ของฉันก้าวเข้าไปนั่งในรถ แล้วเดินทางไปมหาวิทยาลัยโดยมีเอล่าเป็นคนขับ

    รู้สึกว่าเหมือนตัวเองลูกคุณหนูมีคนขับรถพาไปส่งที่มหาวิทยาลัยก็ไม่ปาน


    หลังจากเอล่าทำมื้อเช้าฉันจัดก็การรับประทานเข้าห้องซะจนอิ่มแปล้ แล้วเดินออกมาที่โรงรถ เอล่าจัดการกดปุ่มบนรีโมตคอนโทรเพื่อเปิดประตูรถ ทันทีที่ประตูเปิดเสร็จ ขาสวยๆ งามๆ ของฉันก้าวเข้าไปนั่งในรถ แล้วเดินทางไปมหาวิทยาลัยโดยมีเอล่าเป็นคนขับ

    รู้สึกว่าเหมือนตัวเองเป็นลูกคุณหนูที่มีคนขับรถพาไปส่งที่มหาวิทยาลัยก็ไม่ปาน

    เวลาผ่านไปไวเหมือนิยาย

    รถที่ฉันนั่งมาแล่นมาเข้ามาจอดใกล้ๆ กับหน้าประตูทางเข้ามหาวิทยาลัย ฉันก้าวขาลงมาจากรถ โบกมือบ๊ายบายเอล่าแล้วเดินเข้าไปข้างในมหาวิทยาลัย

    ฉันเดินกรอกตาไปมาตลอดทางจนมาถึงที่โรงอาหารเพื่อมองหาพวกเพื่อนๆ ของฉัน แต่มันก็ไม่ง่ายนัก เพราะมีนักศึกษาเดินกันพลุกพล่านลายตาไปหมด โดยเฉพาะโรงอาหารคนก็น่าจะยิ่งแน่นกันเข้าไปใหญ่ -*-

    ยัยเวนิส พวกเราอยู่ทางนี้ เสียงตะโกนใสๆ พร้อมกับชื่อฉันดังขึ้นมาจากทางขวามือ

    เมื่อฉันหันไปมองตามต้นเสียงก็พบว่าคนที่เรียกฉันคือ เจสซี่นักศึกษาน่ารักตามสไตล์ลูกผู้ดีเจ้าของบริษัทคอมพิวเตอร์ยักษ์ใหญ่...และที่สำคัญ เธอเป็นเพื่อนสนิทของฉันเองล่ะ! >_<

    ฉันยิ้มหน้าบานแล้วเดินแทรกฝูงชนพลุกพล่านไปยังโต๊ะที่พวกเพื่อนๆ นั่งทานอาหารเช้ากันอยู่

    สวัสดีเจสซี่ สวัสดีจ้ะเกวน พูดจบฉันก็ทิ้งตัวนั่งลงข้างๆ เกวน

    นี่เวนิส

    มีอะไรเหรอเกวน ^ ^” ฉันขานรับเสียงใส

    ครืด...

    เกวนเลื่อนจานบนโต๊ะโล่งๆ สองใบมาตรงหน้าฉัน

    ไปเก็บจานให้พวกเราหน่อยสิ

    “=[]=;;”

    อ้าปากค้างทำไม =_=^”

    ก็พวกเธอกินกันเอง เธอก็ไปเก็บเองสิเกวน ฉันเพื่อมาถึงฉันไม่เกี่ยวข้องอะไรกับจานพวกนี้

    ก็เพราะเธอมาช้านี่แหละ ฉันก็เลยคิดว่าเธอสมควรทำหน้าที่นี้

    แต่...!”

    ไม่มีแต่ เกวนหันมาหาฉันแล้วจ้องหน้าฉันตาเขม็ง  ฉันกลืนน้ำลายอึกใหญ่ลงคอแล้วหยิบจานมาแต่โดยดี

     

    เฮ้ออออ

    ฉันถือจานเดินจ้ำอ้าวไปตามทางเดิน แล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่แด่ตัวเองอีกรอบหนึ่ง

     นี่ก็ครั้งที่สองของวันแล้วที่ฉันต้อง(จำใจ)ทำในสิ่งที่ฉันไม่อยากจะทำเอาซะเลย นี่ชีวิตฉันจะต้องเจอเรื่องแย่ๆ ไปถึงเมื่อไหร่กัน

    อุ๊บ!

    เพล้ง!

    ผู้ชายคนหนึ่งเดินเข้ามากระแทกฉันจนถลา ทำให้จานหลุดมือแล้วตกกระแทกพื้นกระจายเป็นเสี่ยงๆ O_O

    กึก...

    ผู้ชายคนนั้นหยุดชะงัก แล้วมองซากจานบนพื้นอย่างไม่แยแสอะไรแล้วเดินต่อ

    ฉันรีบคว้าเขวนเสื้อของอีตานั้นเอาไว้แล้วตะโกนใส่ นี่นาย! ไม่คิดจะขอโทษฉันบ้างรึไง

    ก็ฉันไม่ได้ผิด เธอน่ะซุ่มซ่ามมาเดินชนฉันเอง

    ให้มันน้อยๆ หน่อย นายนั่นแหละที่เดินมาชนฉันเอง ฉันเอามือเท้าเอว ขมวดคิ้วนิดๆ แล้วเชิดจะจมูกใส่

    ฉันพูดว่าไม่ได้ผิดก็คือไม่ได้ผิด เขาพูดเสียงเรียบ แต่ก็ทำให้ความโกธรของฉันมันปรี๊ดขึ้นมาทันที

    นี่นาย!!”  ฉันคำได้แต่อ้ำอึ้ง คำด่ามากมายมันผุดเข้ามาในหัวแต่ก็ไม่รู้ว่าจะด่าด้วยคำไหนดี แต่เมื่ออีตานั่นเห็นว่าฉันมัวแต่อ้ำอึ้งก็สะบัดหน้าแล้วเดินไปอย่างหน้าตาเฉย O_O

    ฮึ่ย!!! อีตาคนนี้ มันน่าโมโหจนอยากฆ่าหมกส้วมนัก!


                   

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×