คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่ 1 : เรื่องย่ำแย่และผู้ชายกวนประสาท
1
เรื่องย่ำแย่และผู้ชายกวนประสาท
สามเดือนต่อมา
เช้าที่อากาศสดใส บ้านคอนกรีตทรงยุโรปสีเทาหลังใหญ่ตั้งตระง่านอยู่กลางจัตุรัสแห่งหนึ่งในอังกฤษ เสียงสูงของหญิงสาวสองที่กำลังเถียงกันอยู่ลอยแว่วออกมา ถ้าพูดถึงระดังความดังเสียงของสองคนนี้ ผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมาใกล้ๆ บ้าน ก็คงจะได้ยินถ้อยคำที่พวกเธอพูดออกมาไม่ยากนักหรอก
“นี่เวนิส เธอต้องไปช่วยพี่ทำงานที่ร้านนะ”
“ยังไงฉันก็ไม่ทำ”
“ต้องทำ” เอล่าขึ้นเสียงสูง
“ไม่ทำ”
“ต้องทำ!” เอล่าตะโกนเสียงดังกว่าเดิม เอาเอามือทั้งสองข้างบีบไหล่ฉันไว้แน่น หน้าตาของเอล่าในตอนเดียวคงไม่ต่างอะไรกับนางมารร้ายเลยทีเดียว
ฉึก... เล็บของเอล่าค่อยๆ จิกลงไปที่ชุดนักเรียนจนค่อยๆ ดันเข้าไปที่ไหล่ฉันเรื่อยๆ อ้าก! แสบไหล่เป็นบ้าเลย
“ฉันยอมทำก็ได้ TTOTT ”
“ดีมาก” เอล่าทำเสียงหึในลำคอหนึ่งที ปล่อยมือออกจากไหล่ฉันแล้วตบบ่าเบาๆ ก่อนจะเดินสะบัดก้นเข้าไปข้างในห้องครัวเพื่อไปทำอาหารเช้า ฉันเขามือลูปไหล่แล้วใช้ปากเป่าลมใส่ตรงจุดที่โดนจิก
เฮ้อ.....!!
ฉันถอนหายใจเฮือกใหญ่ออกมาอย่างแรงแต่ตัวเองหนึ่งทีด้วยความเหนื่อยจิต
ปวดหมองชะมัด ทำไมชีวิตนางฟ้าตัวเล็กๆ แสนสวยของยัยเวนิสคนนี้(แกไปเป็นนางฟ้าตั้งแต่เมื่อไหร่กันยะ =_=”) จะต้องพบกับเรื่องที่แสนจะย่ำแย่แบบนี้ด้วย เพราะงานที่ฉันจำใจตอบตกลงกับเอล่าไปเมื่อกี้นี้คือการต้องไปทำงานที่ ’ควินส์เฮ้า’ ร้านเกี่ยวกับสิ่งเร้นรับหรือเรียกกันว่าร้านหมอผีที่เอล่าสร้างขึ้นมาก่อนที่พ่อของเราจะเสียชีวิตลงด้วยโรคชราเมื่อสามเดือนที่แล้ว
เอล่าเป็นพี่น้องบุญธรรมต่างขั้วของฉัน ฉันเป็นน้อง ส่วนเอล่าเป็นพี่ พ่อรับพวกเรามาจากสถานสงเคราะห์เด็กที่เดียวกัน แล้วพามาอาศัยอยู่ที่บ้านหลังนี้และเลี้ยงดูพวกเราเหมือนกับเป็นลูกแท้ๆ ของท่านซะเอง ฉันเรียนอยู่มหาวิทยาลัยปี 1 ส่วนเอล่าทำงานหารายได้โดยกันเปิดร้านควินส์เฮ้าขึ้นมาแต่ด้วยชื่อร้านที่ดูจะแปลกๆ และของในร้านที่ไม่น่าชมนักก็เลยทำให้กิจการของเอล่าไม่ค่อยรุ่งสักเท่าไหร่อันเป็นเหตุที่ฉันต้องมารับกรรมแบบนี้ TT_TT
หลังจากเอล่าทำมื้อเช้าฉันจัดก็การรับประทานเข้าห้องซะจนอิ่มแปล้ แล้วเดินออกมาที่โรงรถ เอล่าจัดการกดปุ่มบนรีโมตคอนโทรเพื่อเปิดประตูรถ ทันทีที่ประตูเปิดเสร็จ ขาสวยๆ งามๆ ของฉันก้าวเข้าไปนั่งในรถ แล้วเดินทางไปมหาวิทยาลัยโดยมีเอล่าเป็นคนขับ
รู้สึกว่าเหมือนตัวเองลูกคุณหนูมีคนขับรถพาไปส่งที่มหาวิทยาลัยก็ไม่ปาน
หลังจากเอล่าทำมื้อเช้าฉันจัดก็การรับประทานเข้าห้องซะจนอิ่มแปล้ แล้วเดินออกมาที่โรงรถ เอล่าจัดการกดปุ่มบนรีโมตคอนโทรเพื่อเปิดประตูรถ ทันทีที่ประตูเปิดเสร็จ ขาสวยๆ งามๆ ของฉันก้าวเข้าไปนั่งในรถ แล้วเดินทางไปมหาวิทยาลัยโดยมีเอล่าเป็นคนขับ
รู้สึกว่าเหมือนตัวเองเป็นลูกคุณหนูที่มีคนขับรถพาไปส่งที่มหาวิทยาลัยก็ไม่ปาน
เวลาผ่านไปไวเหมือนิยาย
รถที่ฉันนั่งมาแล่นมาเข้ามาจอดใกล้ๆ กับหน้าประตูทางเข้ามหาวิทยาลัย ฉันก้าวขาลงมาจากรถ โบกมือบ๊ายบายเอล่าแล้วเดินเข้าไปข้างในมหาวิทยาลัย
ฉันเดินกรอกตาไปมาตลอดทางจนมาถึงที่โรงอาหารเพื่อมองหาพวกเพื่อนๆ ของฉัน แต่มันก็ไม่ง่ายนัก เพราะมีนักศึกษาเดินกันพลุกพล่านลายตาไปหมด โดยเฉพาะโรงอาหารคนก็น่าจะยิ่งแน่นกันเข้าไปใหญ่ -*-
“ยัยเวนิส พวกเราอยู่ทางนี้” เสียงตะโกนใสๆ พร้อมกับชื่อฉันดังขึ้นมาจากทางขวามือ
เมื่อฉันหันไปมองตามต้นเสียงก็พบว่าคนที่เรียกฉันคือ เจสซี่นักศึกษาน่ารักตามสไตล์ลูกผู้ดีเจ้าของบริษัทคอมพิวเตอร์ยักษ์ใหญ่...และที่สำคัญ เธอเป็นเพื่อนสนิทของฉันเองล่ะ! >_<
ฉันยิ้มหน้าบานแล้วเดินแทรกฝูงชนพลุกพล่านไปยังโต๊ะที่พวกเพื่อนๆ นั่งทานอาหารเช้ากันอยู่
“สวัสดีเจสซี่ สวัสดีจ้ะเกวน” พูดจบฉันก็ทิ้งตัวนั่งลงข้างๆ เกวน
“นี่เวนิส”
“มีอะไรเหรอเกวน ^ ^” ฉันขานรับเสียงใส
ครืด...
เกวนเลื่อนจานบนโต๊ะโล่งๆ สองใบมาตรงหน้าฉัน
“ไปเก็บจานให้พวกเราหน่อยสิ”
“=[]=;;”
“อ้าปากค้างทำไม =_=^”
“ก็พวกเธอกินกันเอง เธอก็ไปเก็บเองสิเกวน ฉันเพื่อมาถึงฉันไม่เกี่ยวข้องอะไรกับจานพวกนี้”
“ก็เพราะเธอมาช้านี่แหละ ฉันก็เลยคิดว่าเธอสมควรทำหน้าที่นี้”
“แต่...!”
“ไม่มีแต่” เกวนหันมาหาฉันแล้วจ้องหน้าฉันตาเขม็ง ฉันกลืนน้ำลายอึกใหญ่ลงคอแล้วหยิบจานมาแต่โดยดี
เฮ้ออออ…
ฉันถือจานเดินจ้ำอ้าวไปตามทางเดิน แล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่แด่ตัวเองอีกรอบหนึ่ง
นี่ก็ครั้งที่สองของวันแล้วที่ฉันต้อง(จำใจ)ทำในสิ่งที่ฉันไม่อยากจะทำเอาซะเลย นี่ชีวิตฉันจะต้องเจอเรื่องแย่ๆ ไปถึงเมื่อไหร่กัน
อุ๊บ!
เพล้ง!
ผู้ชายคนหนึ่งเดินเข้ามากระแทกฉันจนถลา ทำให้จานหลุดมือแล้วตกกระแทกพื้นกระจายเป็นเสี่ยงๆ O_O
กึก...
ผู้ชายคนนั้นหยุดชะงัก แล้วมองซากจานบนพื้นอย่างไม่แยแสอะไรแล้วเดินต่อ
ฉันรีบคว้าเขวนเสื้อของอีตานั้นเอาไว้แล้วตะโกนใส่ “นี่นาย! ไม่คิดจะขอโทษฉันบ้างรึไง”
“ก็ฉันไม่ได้ผิด เธอน่ะซุ่มซ่ามมาเดินชนฉันเอง”
“ให้มันน้อยๆ หน่อย นายนั่นแหละที่เดินมาชนฉันเอง” ฉันเอามือเท้าเอว ขมวดคิ้วนิดๆ แล้วเชิดจะจมูกใส่
“ฉันพูดว่าไม่ได้ผิดก็คือไม่ได้ผิด” เขาพูดเสียงเรียบ แต่ก็ทำให้ความโกธรของฉันมันปรี๊ดขึ้นมาทันที
“นี่นาย!!” ฉันคำได้แต่อ้ำอึ้ง คำด่ามากมายมันผุดเข้ามาในหัวแต่ก็ไม่รู้ว่าจะด่าด้วยคำไหนดี แต่เมื่ออีตานั่นเห็นว่าฉันมัวแต่อ้ำอึ้งก็สะบัดหน้าแล้วเดินไปอย่างหน้าตาเฉย O_O
ฮึ่ย!!! อีตาคนนี้ มันน่าโมโหจนอยากฆ่าหมกส้วมนัก!
ความคิดเห็น