คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ตอนทที่ 1 สิ่งเล็กๆ ที่เรื่องไม่เล็ก
ตอนทที่ 1
สิ่งเล็กๆ ที่เรื่องไม่เล็ก
ซอยเล็กๆ แห่งหนึ่งในกรุงเทพ
“ขอบใจมากเลยนะหนูกอบัว ช่วงนี้ที่ร้านน้างานยุ่งมาก โชคดีจริงๆ ที่ได้หนูมาด้วย” คุณน้าปลายฟ้าพูดหลังจากที่ฉันยกลังดอกไม้ลงมาจากท้ายรถครบทั้งหมด
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะน้าปลาย หนูเต็มใจช่วยเสมอ” ฉันว่าพลางปาดเหงื่อ แต่ใบหน้าก็ยังคงความยิ้มแย้มอยู่แสดงความจริงใจกับคุณน้าว่าฉันไม่ได้เหนื่อยอะไรนัก “แต่วันนี้หนูคงช่วยน้าปลายจัดดอกไม้ไม่ได้หรอกนะคะ ช่วงนี้หนูมีอ่านหนังสือเตรียมสอบ ขอโทษด้วยจริงๆ ค่ะ” ก้มลงขอโทษ
คุณน้าส่งยิ้มหวานมาให้ฉัน “น้าไม่ว่าหรอก แต่ไหนๆ หนูก็มาช่วยน้าทุกวันแบบนี้น่ะ น้าเองก็มีอะไรจะบอกหนู”
“บอกอะไรหนูเหรอคะ”
“หนูช่วยน้าบ่อยแบบนี้น้าเลยอยากเอาสิ่งนี้มาตอบแทนให้หนูน่ะ” พูดจบคุณน้าปลายฟ้าก็ควานหาอะไรบางอย่างในกระเป๋าหิ้วที่ตนคล้องไว้กับแขน
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะน้า หนูเต็มใจช่วยจริงๆ” ฉันปฏิเสธไป แล้วโบกมือปัดๆ คุณน้าส่ายหน้า วางขวดขนาดเล็กที่หยิบออกมาไว้ในมือฉัน
“ขวดใบนี้มันเคยเป็นของน้า แต่ตอนนี้น้าไม่ต้องการจะใช้มันแล้วก็เลยให้หนูต่อเพื่อเป็นการตอบแทนยังไงล่ะจ๊ะ” คุณน้าพูดต่อพร้อมยิ้มแย้มส่งไมตรี แต่ดวงตาของคุณน้าแอบแฝงความเศร้าปนเหงายังไงก็ไม่รู้
แต่คราวนี้ฉันปฏิเสธไม่ลงจริง จึงยกมือไหว้ขอบคุณอย่างงงๆ เท่านั้น ก่อนจะยกมันขึ้นมาดูอย่างสนอกสนใจ ฉันไม่เคยเห็นขวดแบบนี้มาก่อน มันคือขวดแก้วใสที่ฝาทำด้วยจุกค๊อกสีน้ำตาลเข้ม และมีแท่งแก้วสีเขียวมรกตโปร่งแสงกับม้วนกระดาษสาสีหวานเล็กๆ ที่ส่งเสียงกรุ๊งกริ๊งกระทบกันเบาๆ อยู่รวมกันข้างใน
“มันคืออะไรเหรอคะน้า”
“ขวดช่างฝันจ้ะ”
“ชื่อแปลกดีนะคะ”
กริ๊ง! เสียงเตือนดังขึ้นจากมือถือ
“ตายจริง หนูตั้งเวลาอ่านหนังสือไว้น่ะค่ะ ขอตัวกลับอาพาร์ตเมนท์ก่อนนะคะ โชคดีค่ะ”
“โชคดีจ้ะหนู”
…และขออย่าให้หนูเจอกับสิ่งเดียวที่น้าเจอนะ...
จีรพรรณ อาพาร์ตเมนท์
“สวัสดีค่ะน้าจี”
“สวัสดีจ้ะหนูกอบัว”
ฉัน กลับมาที่อาพาร์ตเมนท์ที่ฉันพักอยู่ไม่ห่างจากบ้านของคุณปรายฟ้ามากนัก แล้วกล่าวทักทายน้าจีผู้เป็นเจ้าของอาพาร์ตเมนท์ตามมารยาทเมื่อเห็นน้าจี ยืนพิงระเบียงอยู่ข้างๆ กับประตูห้องของฉัน
ฉันพยักหน้ารับคำทักทายที่ตอบรับมา ก่อนยิ้มหนึ่งครั้งแล้วไขกุญแจเข้าห้องไปตามปกติ
ฟุ่บ...
“อือ....” ฉันครางพร้อมกับทิ้งตัวลงบนที่นอนอย่างแรงเหมือนกับทุกๆ วัน ในหัวเอาแต่คิดถึงขวดที่ได้มาจากคุณน้าปลายฟ้า
ขวดช่างฝันงั้นเรอะ....มันเป็นขวดแบบไหนกันนะ...
ฉันลุกพรวดขึ้นมาจากเตียงแล้วเดินไปเอามันออกมาจากกระเป๋าสะพายที่วางไว้บนลิ้นชักวางขอข้างๆ
เมื่อหยิบมันออกมาแล้วมองมันอยู่พักใหญ่ก่อนที่จะจัดการเปิดจุกค๊อกออก สิ่ง แรกที่ฉันหยิบออกมาก็คือม้วนกระดาษแผ่นเล็ก เมื่อฉันคลี่มันออกมาอ่าน แล้วก็พบว่ามีชื่อคนอยู่เต็มไปหมด และสายตาฉันก็ไปสะดุดเข้ากับชื่อหนึ่ง ‘ปลายฟ้า’ จริง สินะคุณน้าปลายฟ้าบอกว่าเคยเป็นเจ้าของขวดใบนี้นี่นา ชื่อทุกคนในนี้คงจะเป็นชื่อคนที่เคยเป็นเจ้าของขวดแน่ๆ ชักน่าสนุกซะแล้วสิ ฉันเขียนชื่อตัวเองลงไปบ้างดีกว่า
‘กอบัว’ ฉันคว้าปากกาที่อยู่ใกล้ๆ เขียนชื่อของฉันลงไปอย่างลวกๆ ด้วยอาการตื่นเต้น
ทัน ใดแสงสีทองก็สาดส่องเข้ามาในห้องของฉัน ฉันยกมือขึ้นมาบังตาไว้เพราะความแสบตา และได้แต่ตกตะลึง แต่ที่น่าตกตะลึงยิ่งซะกว่าคือสิ้นแสงก็พบว่าข้อความในกระดาษมันเปลี่ยนไป!
…ผู้ใช้ขวดแก้วใบนี้สามารถขอพรได้เท่าจำนวนแท่งแก้วที่อยู่ข้างใน
สามารถขอพรได้อย่างไรก็ได้ตามใจนึก
คำเตือน ด้วยอำนาจแห่งสิ่งศักดิ์นี้อาจจะมีผลข้างเคียงตามาด้วย ....
ฉันอ่านข้อความที่ปรากฏขึ้นมาแล้วหันควับไปที่ขวดแก้ว ในนั้นมีแท่งแก้วอยู่สามแท่งหมายความว่าฉันสามารถขอพรได้สามข้องั้นเหรอ
คิ้วขมวดกันเป็นปม แทบจะไม่เชื่อกับเรื่องที่เกิดขึ้นในตอนนี้ แต่....เอาก็เอา ลองขอดูเล่นๆ ก็ไม่น่าจะเสียหายอะไร
“ขวด ช่างฝันเอ๋ย ฉันจะลองขอพรข้อแรกล่ะนะ เอาล่ะฉันขอให้ฉันพบเนื้อคู่ที่เป็นคนเกาหลี หน้าตาหล่อๆ คล้ายๆ กับนักร้องนักร้องบอยแบนด์ ด้วยเถิดสาธุ” ฉันยกขวดขึ้นแล้วประนมมือท่วมหัว แสงสีทองเจิดจ้าขึ้นมาอีกครั้ง ฉันรีบหลับตาปี๋ ในหัวหมุนคว้างไปหมดและหลังจากนั้นฉันก็ไม่รับรู้อะไรอีกเลย
“ตอนนี้อาการดีขึ้นมากแล้วครับ” เสียงของใครบางคนทำให้ฉันตื่น แต่ฉันคงหูฝาดไปเองมั้ง... เพราะฉันอยู่ในห้องคนเดียวนี่นา
“ปวดหัวชะมัดเลย” ฉันยกมือขึ้นก่ายหน้าผากที่เริ่มส่ออาการอาการปวดหัวสุดขีด มันปวดจริงๆ นะ ราวกับไปล้มหน้าทิ่มดินที่ไหนสักที่มาเลย
“ฟื้นแล้ว” อ๊ะ! มีเสียงผู้ชายอีกคนด้วยเหรอ ในนห้องฉันเนี่ยนะ!
“คนไข้ฟื้นแล้วครับหมอ”
“ไหนหมอขอหนูอาการเธอหน่อยซิ” เสียงผู้ชายสองคนคุยกันลอยเข้ามาในหูของฉันอีกแล้ว ใครกันนะบังอาจเข้ามาคุยกันในห้องฉัน เดี๋ยวแม่จะตบให้กลิ้ง! แถมอีกคนเหมือนจะเดินมาทางเตียงฉันอีก
“กรี๊ดดด!!!”
ฉันหลับตาปี๋แล้วกรี๊ดออกมาสุดเสียง
“เฮ้ย!” เสียงผู้ชายคนหนึ่งในนั้นอุทานขึ้น ส่วนชายอีกคนรีบเร่งตรงมาที่ฉันเร็วกว่าเดิม
“พวกนาย พวกนายจะเค้ามาข่มขืนฉันเหรอ กรี๊ด”
“คุณ คุณครับใจเย็นๆ ไว้” ชายชุดขาวท่าทางดูมีอายุพูดขึ้นจับไหล่ฉันไว้กับเตียงอย่างเบามือ แต่มันก็ไม่ทำให้อาการตกใจของฉันหายไปหรอกนะ! แต่...เดี๋ยวสิ!
ฉันกวาดมองซ้ายมองขวาแล้วก็พบว่ามีผู้ชายสองคนยืนคุยกันอยู่จริงๆ ด้วย แต่ทำไมฉันถึงได้รู้สึกแปลกๆ กันนะ
ฉันลองกวาดสายตาเพ่งพินิจไปอีกรอบ ที่นี่มันไม่ใช่ห้องของฉันนี่นา!
“กรี๊ดดดด!!”
“หมอบอกให้ใจเย็นๆ ครับคุณ ใจเย็นๆ ครับ”
“ค...คุณเป็นใคร ล....แล้วนี่ฉันอยู่ทีไหน” ฉันพูดเสียงสั่น แล้วมองหน้าเขาด้วยสายตาหวาดๆ
“ใจเย็นๆ ก่อนนะครับคุณ” เขาพูด ฉันก็ได้แต่พยักหน้ารับอย่างงๆ ก่อนที่เขาจะพูดต่อ
”ผมเป็นหมอชื่อลีอินจองครับ คุณถูกรถชนสลบไปสามวันแล้วแต่ไม่ได้บาดเจ็บอะไรมากมายนัก ผมเองก็ประหลาดใจเหมือนกันที่คุณถูกรถชนแต่กลับไม่เป้นอะไรเลย ตอนนี้คุณอยู่ที่โรงพยาบาลรัฐบาลกรุงโซล”
“กรุงโซล” ฉัน ได้ยินก็แทบจะไม่เชื่อหูตัวเอง ก็ตอนที่ฉันสลบไปฉันก็อยู่ที่อาพาร์ตเมนท์ของฉันนี่นา แถวนั้นมีโรงพยาบาลที่ชื่อพิลึกๆ เหมือนชื่อเกาหลีด้วยเหรอ แต่ถ้านี่ไม่ใช่ที่ประเทศไทยแล้วทำไมฉันถึงมาอยู่ที่เกาหลีจริงๆ ได้ล่ะ แต่ก่อนที่ฉัน...ที่ฉันจะสลบมันมีแสงสีฟ้าออกมาจากขวดช่วงฝัน หรือว่าจะเป็นเพราะขวดช่างฝันนั่น!!
และอีกความคิดหนึ่งก็แล่นเข้ามาในหัวฉัน “คุณหมอคะ คุณพูดภาษาไทยได้ด้วยเหรอคะ”
“ภาษาไทยอะไรครับ ตอนนี้ผมกับคุณก็พูดภาษาเกาหลีอยู่ไม่ใช่หรอครับ” คุณหมอขมวดคิ้ว “ผู้ชาย คนนี้คือคนที่ขับรถชนคุณ ตอนนี้คุณก็ไม่ได้เป็นอะไรมากแล้วคุณสามารถกลับไปกับเขาแล้วไปดำเนินคดีตาม กฎหมายเพื่อเรียกร้องค่าเสียหายและค่ารักษาได้ครับ เพราะเขาได้บอกกับทางโรงพยาบาลไว้แล้วว่าหากคุณฟื้นเมื่อไหร่เขาจะรับผิดชอบ ที่ทำให้คุณได้รับอันตรายเอง” คุณหมอพูดต่อแล้วมองไปที่ผู้ชายรุ่นราวคราวเดียวกับฉันที่ยืนอยู่ข้างเตียง ผู้ป่วยที่ฉันนอนอยู่ ผมสีดำซอยสั้น ดวงตาสี้น้ำตาลอบอุ่น ใบหน้าของเขาหล่อใสราวกับนักร้องบอยแบนด์ก็ไม่ปาน
แสงประหลาด ต่างประเทศ หนุ่มหล่อ หรือว่า....ผู้ชายคนนี้จะเป็นเนื้อคู่ของฉันดังพรที่ขอไว้กันนะ!
ความคิดเห็น