ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Knb][KuroFuri] Book Rain Love เพราะหนังสือและสายฝน

    ลำดับตอนที่ #2 : ของหวานแสนหลงใหล...

    • อัปเดตล่าสุด 29 พ.ค. 57


                   กว้าแรกที่เยื่องย่างเหยียบพื้นที่ เฉอะแฉะ เต็มไปด้วยน้ำจากสายฝน ร่างบางสองร่างเดินเคียงคู่กันภายในร่มคันเล็กๆคัน หนึ่ง ท่ามกลางสายฝนที่โปรยปราย ไม่สิ กระหน่ำ เทลงมาอย่างไม่หยุดสาย ทั้งสอง เดินออกจากร้านหนังสือมาได้ระยะหนึ่งแล้ว โดยที่เด็กหนุ่มผมฟ้า เป็นผู้ถือร่มให้เด็กชายผมน้ำตาล ซึ่งเป็นไปตามมารยาทของตน......

     

    เอ่อ.....คุโรโกะ..ชั้นว่าชั้นถือร่มให้ดีกว่านะ

     

    เอ๊ะ...ไม่เป็นไรครับ ฟุริฮาตะคุง เดิน ระวังอย่าให้เปียกก็พอครับ....เด็กหนุ่มผมฟ้าปฏิเสธความช่วยเหลือจากเพื่อนที่เดินมาด้วยกัน เพราะอะไรน่ะหรอ..........เพราะเขาเป็นห่วงงัยล่ะ...

     

    ไม่เอาอ่ะ!...ให้ชั้นถือเถอะ รบกวนนายมามากเลยวันนี้น่ะ ให้ชั้นถือเถอะนะเด็กหนุ่มขี้กลัวยื่นมือไปจับด้ามร่มที่คนตัวเล็กกว่า2เซนถืออยู่....

     

    ไม่เป็นไรจิงๆครับ ไม่ลำบากเลยคุโรโกะพูดปฏิเสธอีกครั้งพร้อมยื่อร่มไว้ไม่ให้ฟุริฮาตะถือ.

     

    นายน่ะ! หัดขอความช่วยเหลือจากคนอื่นซะมั้ง เซ่!!!!” ฟุริฮาตะฟิวขาดเล็กน้อย แล้วตะคอกออกมาด้วยความไม่ทันระวัง เผลอสะบัดร่มออกไปจากมือ ของคุโรโกะและมือของตน

    ด้วยความแรงทำให้ร่างของคุโรโกะลื่นและล้มลงกับฟื้นที่เปียกแฉะ....

     

    เฮ๊ะ! เหหหหหห!!! ช...ชั้นขอโทษนะคุโรโกะ!! ช..ชั้นไม่ได้ตั้งใจ เป็นอะไรรึป่าว?เด็กหนุ่มผมน้ำตาล ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดจากฝีมือของตนเอง

     

    คุโรโกะที่ล้มนั่งบนพื้นยันตัวขึ้นยืนอย่างระวัง

     

     

    ผมไม่เป็นไรครับ ขอโทษนะฟุริฮาตะคุง ผมแค่อยากให้ฟุริฮาตะคุงเดินข้างๆผมไม่ต้องทำอะไรก็พอ ผมน่ะเป็นห่วงฟุริฮาตะคุง ผมอยากดูแลฟุริฮาตะคุงนะครับ!!!......”เด็กหนุ่มผมฟ้าตะโกนออกมาด้วยหน้าที่แดงระเรื่อต่อหน้าเด็กหนุ่มผมน้ำตาลที่ตอนนี้ทั้งคู่ยืนอยู่กลางสายฝนที่ไม่มีสิ่งใดมากันกระแสน้ำที่เทลงมาจากฟ้าแม้แต่น้อย........

     

    เมื่อสิ้นเสียงคุโรโกะ.............

     

    ฟุริฮาตะที่ได้ยินคำพูดจากเพื่อนร่วมทีมบาส ถึงกับอึ้งกิมกี่ ยืนอ่าปากค้าง ภายในหัวประติดประต่ออะไรไม่ได้แม้แต่นิดเดียว......

     

    เอ๊ะ? เห๊ะ มะ...... เมื่อกี้ น..นายพูดอะไรออกมา? เด็กขี้ตกใจยังคง งง งวยกับคำพูดที่ออกมาจากปากของคุโรโกะที่หน้าเริ่มขึ้นสี เช่นเดียวกัน ฟุริฮาตะรู้สึกถึงใบหน้าที่เริ่มร้อนขึ้นของตน

     

    ก็อย่างที่บอกไปครับ ผมน่ะเป็นห่วงฟุริฮาตะคุง.....พูดจบก็หยิบร่มขึ้นมากางให้อีกรอบ..

     

    “’งะ...งั้นหรอ เมื่อกี้ขอโทษนะ.... เด็กขี้กลัวทำหน้าสลดเล็กน้อย แล้วเอ่ยอีกครั้ง

     

    เปียกขนาดนี้แล้วจะกางร่มทำไมล่ะ คุโรโกะ

     

    อย่างน้อยก็ต้องกันหนังสือเปียกนะครับ ถึงจะใส่ถุงห่อปกพลาสติกแต่ก็ต้องป้องกันไว้ก่อนนะ อีกอย่างกางไปแบบนี้ก็ลดความเสี่ยงที่จะป่วยด้วยนะครับ....

     

    น่ะ..นั่นสิเนอะโทษที.....

     

    ครับ...งั้นรีบไปกันเถอะเด็กหนุ่มผมฟ้า ทำหน้าปกติอีกครั้งแล้วยื่นร่มให้สูงขึ้น

    ..........................................

     

    ถ้างั้นฟุริฮาตะคุงก็ถือร่มด้วยกันสิครับ

     

    เอ๊ะ?...

    ไม่ทันตั้งตัวเด็กหนุ่มผมฟ้าก็ยื่นมือเรียวอีกข้างไปจับมือของเด็กหนุ่มอีกคนมาไว้ที่คันร่มแล้วเอามือข้างที่ถือร่มของตน มาจับทับที่มือของเด็กหนุ่มผมน้ำตาลแทน

     

    แบบนี้ก็ได้ถือร่มด้วยกันแล้วนะครับเด็กผมฟ้าทำหน้าตายแล้วพูดไปเนียนๆ

    การกระทำที่ถูกจับมือนั้นทำให้ฟุริฮาตะเกิดอาการใจเต้นแรงอีกครั้ง และเร็วขึ้นเรื่อยๆ.........

     

    เอ๊ะ!.....น...นั่นสิทำไมกันทั้งที่เป็นผู้ชายแต่เรากลับไม่อยากให้เขาปล่อยมือออกจากเราไปเลย อยากดูแล. งั้นหรอ ทำไมคำๆนั้นช่างหวานซึ้งอย่างนี้นะ อบอุ่นจัง..............

             

             ฝนยังคงตกอยู่ไม่ขาดสาย ร่างทั้งสองเดินต่อไปเรื่อยๆ โดยภายในร่มนั้น มือเรียวได้โอบล้อมมือของเพื่อนที่เดินข้างกันไว้ที่คันร่มตลอดเวลา................

             เด็กหนุ่มทั้งสองตอนนี้หน้าแดงกล่ำ ทั้งคู่ต่างเขินอายในการกระทำของตน ภาวนาเพียงว่า ถึงบ้านทีเถอะ แต่การภาวนาเช่นนั้นจะทำให้มือของทั้งคู่ต้องออกจากกัน.......

     

             เมื่อคิดได้แบบนั้น คุโรโกะ และฟุริฮาตะ ก็หันมาพูดพร้อมกัน พักกันก่อนดีมั้ย(ครับ)?

    ทั้งสอง ชะงักกับคำถามที่ถามพร้อมกันและเหมือนกันไปครู่ แล้วคุโรโกะก็เอ่ยถาม..

     

    ฟุริฮาตะคุง จะพักรึป่าวครับ?

     

        ด้วยความเขินอายของฟุริฮาตะ เขาจึงตอบไปไม่ทันคิด(อีกแล้ว) ไม่ดีกว่า รีบกลับให้ถึงบ้านกันเถอะนะ

     

    ครับ

     

    ทั้งสองเดินต่อไป จนถึงบ้านของฟุริฮาตะ......

     

    ถึงแล้วล่ะ!”

     

     ฝนนั้นยังคงตกอยู่ ฟุริฮาตะเดินไปเปิดประตูหน้าบ้านโดยไม่ทันระวัง เขาลื่นโครนตรงประตูหน้าบ้าน .......พรืดดดด..!!

     

    อ๊ะ!! หวา จะล้มแล้ว จะล้มแล้ว จะล้มแล้ว!!!!” เขาร้องออกมาด้วยความตกใจ

     

     

     ฟุริฮาตะคุง!!!ระวังครับเด็กหนุ่มผมฟ้าคว้างร่มทิ้ง แล้ววิ่งไปรั้งร่างของเด็กหนุ่มที่กำลังจะลื่นล้มลงไป     ฟึ๊บ!! มือเรียวคว้าแขนของเพื่อนและกระชากอย่างรวดเร็วเข้ามาหาตน

     

     ตอนนี้ฟุริฮาตะ อยู่ภายในอ้อมกอดที่อบอุ่นของเด็กหนุ่มผมฟ้า........... เป็นอะไรรึป่าวครับ?

     

       น....นึกว่าจะตายซะแล้ว T^T” (แค่ลื่นเองนะ)  เด็กหนุ่มขี้ตกใจ ถึงกับน้ำตาเล็ดเพียงเพราะจะลื่นล้ม แล้วซบหน้าลงไปที่อกของเพื่อนที่โอบกอดเขาอยู่

     

        โอ๋ๆ ไม่เป็นไรแล้วครับอย่าร้องไห้เลย...........ฟุริฮาตะคุงเด็กหนุ่มผู้โอบกอดลูบหัวและเรียกชื่อผู้ถูกกอด จนเงยหน้ามอง ช่วยหลับตาลงหน่อยได้มั้ยครับ?

     

        “อะ...อื๊ม เมื่อเด็กหนุ่มขี้กลัวหลับตาลง.........จุ๊ปป.......... เขารู้สึกถึงความร้อนที่มากระทบริมฝีปาก

     

       ทันใด ตาเขาก็เปิดออกแล้วเบิกกว้างขึ้น เมื่อเขาเห็นว่า คุโรโกะ กำลังจุมพิต ที่ปากของเขา

    การกอดรัดแน่นขึ้น เขาไม่สามารถขยับได้ เพียงแต่หลับตาลงแล้วปล่อยไปตามน้ำ ท่ามกลางสายฝนที่ยังคงโปรยปรายอยู่ที่หน้าบ้านของเขา

     

      พั๊บๆ เสียงตีหลังเบาๆดังเล็กน้อย คุโรโกะ ปล่อยปากออกมา.....

       แฮ่กๆ ร....รีบเข้าบ้านกันก่อนเถอะ เดี๋ยวไม่สบายเด็กหนุ่มขี้กลัว หน้าแดงกล่ำ เรียกให้รีบเข้าบ้าน คุโรโกะปล่อยให้เขาหลุดออกจากพันธนาการ แล้วเปิดประตูบ้าน

    .

    .

    ……………’

    ช..เชิญ รีบเข้ามาสิฟุริฮาตะยังคงเขินอายกับการกระทำของเพื่อนแต่ก็พยายามคุมสติ

     

    เปียกหมดเลย…..เดี๋ยวชั้นเอาชุดมาให้เปลี่ยนนะ นายน่าจะใส่ชุดชั้นได้

     

    ขอรบกวนด้วยนะครับเด็กหนุ่มตอบเรียบๆ

     

    “’งั้น......ขึ้นไปที่ห้องของชั้นก่อนแล้วกันนะ หน้าห้องมีป้ายชื่ออยู่น่ะ

     

    ครับ

       เด็กหนุ่มผมฟ้าเดินขึ้นบันได ไปยังห้องของเพื่อนที่กล่าวเอาไว้ เจอแล้ว.......โคคิ(โ.........เอ๊ะ!”เขาเหลือบไปเห็นอะไรบางอย่างที่ท้ายชื่อ (โคจัง) ฮะๆ น่ารักจังเลยนะครับฟุริฮาตะคุงเขาบ่นเบาๆ แล้วเปิดเข้าไปในห้อง ห้องนั้นแสนดูเรียบๆธรรมดา ดูเป็นระเบียบ โทนสีอ่อนๆ อาจฉายเป็นสีส้มยามแสงแดดส่อง ที่นอนโทนสีน้ำตาลปนส้มลายสก็อต..เรียบง่ายดูผ่อนคลาย …….

    คุโรโกะมองสำรวจแล้วเดินไปนั่ง บนเตียง บนเตียงนั้น มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ทำให้รู้สึกสบาย....กลิ่นของฟุริฮาตะคุงรึป่าวน้าาาาาาาาา..............

     

    ตึกๆ เอ้า ขอโทษที่ให้คอย นี่ชุด......... ไปเปลี่ยนสิฟุริฮาตะเดินมาที่ห้องของตนพร้อมชุดของตัวเองเพื่อให้คุโรโกะเปลี่ยนใส่

     

     

    อ๊ะ! ขอบคุณมากครับคุโรโกะหลุดจากการจินตนาการ แล้ว เอาชุดไปเปลี่ยน....

     

    ทำไมเราถึงตื่นเต้นจังนะ............คุโรโกะคิดในใจแล้วเดินออกจากห้องไปเปลี่ยนชุด

     

    เราจะทำงัยดี ที่ถูกคุโรโกะทำแบบั้น หรือเขาแค่ปลอบเรากันนะเด็กหนุ่มที่อยู่ในห้องก็คิดไม่ตกเช่นกัน ถึงการกระทำที่เขาไม่เข้าใจ และคำพูดที่ได้ยินตอนกลับบ้าน......

     

    หรือเขาจะชอบเรา......กันนะ(น้องเข้าข้างตัวเองมากครับ)  คิดไปต่างๆนาๆ จนคุโรโกะเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้วเดินกลับมาที่ห้อง เห็นฟุริฮาตะนั่งเหม่อบนเตียงของตน จึงค่อยๆเดินเข้ามาใกล้ๆยื่นหน้าเขาไปแล้วกระซิบเบาๆ

     

    กำลังคิดอะไรอยู่หรอครับ

    เด็กหนุ่มที่ถูกถาม ถึงกับสดุ้ง เมื่อหน้าขาวใสอยู่ใกล้ไม่กี่เซน

     

    อะ…..เหวออออ....ย...อย่ามาแบบนี้สิ เดี๋ยวหัวใจก็วายตายกันพอดี

     

    ถ้างั้น....ผมจะขอรับ หัวใจของฟุริฮาตะคุงมาฝากไว้กับผมได้มั้ยครับ?คำพูดนั้นทำให้เด็กหนุ่มที่นั่งอยู่ หน้าเริ่มร้องผ่าวๆ ตอนนี้ก็แดงอีกครั้ง จนคนที่ถามมองเห็นได้ชัด

     

    ว่างัยครับ? ได้รึป่าว?

     

    เอ๊ะ เอ๋.....ระ..เรื่องนั้น.......

     

    ไม่ทันพูดจบจมูกเป็นสันของใบหน้าขาวใสก็เริ่ม ขยับไปทั่ว ทั้ง ต้นคอ และตามตัว แล้วไล่ขึ้นมาที่แก้ม..  กลิ่นนี้......ของฟุริฮาตะคุงจิงๆด้วยสินะครับ

     

    ว....หวา ...ทำอะไรน่ะคุโรโกะ?เด็กหนุ่มตกใจ ดันคุโรโกะออกแล้วเดินอย่างรวดเร็วออกจากห้อง.... ด........เดี๋ยวชั้นเตรียมข้าวเย็นให้นะ!” เขาตะโกนแล้วลงไปด้านล่างด้วยความเขินอาย....

     

    ฮะๆ ข้าวเย็นอะไรกันครับ นี่พึ่งจะเลยเที่ยงเองนะ น่ารักจิงๆเลยนะครับ ฟุริฮาตะคุงเขาพูดคนเดียวเบาๆกับยิ้มอย่างมีความสุข

    .

    .

    .

    .

    ไม่นานนัก………………………………..

    .

    .

    .

    ท...โทษที ชั้นลืมเวลาน่ะเห็นฟ้ายังครึ้มฝนก็ยังไม่หยุดเลยนึกว่าเย็นแล้วฟุริฮาตะเดินกลับมาที่ห้อง

     

    ไม่เป็นไรครับ...เอ่อ..หนังสือน่ะ อยากฟังรึป่าวครับ

     

    เอ๊ะ..หนังสือ?.......อ๋อ! ลืมไปเลย ถ้างั้น....ฟุริฮาตะเดินเข้ามานั่งข้างๆโดยไม่พยายามคิดอะไร

     

    จนกว่าจะถึงเวลาทำข้าวเย็น ช่วยเล่าให้ฟังหน่อยนะ(แล้วจะซื้อหนังสือมาทำไม)

     

    ไม่มีปัญหาครับ

     

          เด็กหนุ่มทั้งสองนั่งพูดคุยเกี่ยวกับหนังสือไปเรื่อยๆ จนฟุริฮาตะหลับไปบนที่นอนโดยที่ข้างๆคุโรโกะยังคงเล่าเรื่องของหนังสือที่ซื้อมาอยู่......

     

    ฟุริฮาตะคุง ฟุริฮาตะคุง .......

    .

    .

    .

    ........................................................................ไม่มีสัญญาณตอบรับ

     

    สงสัยคงจะเหนื่อย......... งั้นสี่โมงเย็นผมจะปลุกก็แล้วกันนะ.............. โคจังง.....เขาก้มลงกระซิบเบาๆที่ข้างหู แล้วหอมแก้มเบาๆอีกหนึ่งที (ลักหลับนี่หว่า!!!)

    .

    .

    .

    .

    .

    16.00น...................................

     

    ฟุริฮาตะคุง ฟุริฮาตะคุง

    .......................................................เงียบกริบ

     

    โคจางงงงง!!!!” เขาตะโกนใส่ฟุริฮาตะที่หลับสบายอยู่บนเตียง

     

    เฮือก!” ฟุริฮาตะสดุ้งขึ้นมากับเสียงที่เรียกชื่อเล่นของเขา

     

    ค..คุโรโกะเองหรอ..............................ดะ..เดี๋ยวนะ โคจัง... น....นาย! นาย! เรียกชื่อเล่นชั้นหรออออ!!!!...”

     

    ครับ ก็ผมเรียก ฟุริฮาตะคุง ไม่ตื่นซักที เลยเรียกชื่อเล่นครับ

     

    ขอร้องล่ะ อย่าเรียกชื่อนั้นเลยนะฟุริฮาตะหน้าแดงเล็กน้อย

     

    ทำไมล่ะครับ?

     

    ก..ก็มันน่าอายนี่หน่า.......

     

    ฮะๆ งั้นผมไม่เรียกชื่อเล่นก็ได้ครับ โคคิคุง.........เด็กหนุ่มเรียกชื่อต้นของอีกฝ่ายแบบ แซวเล่นๆ

     

    เอ๊!!!!!......ร.เรียก ช..ชื่อต้นแบบ นั้นชั้นก็ตกใจนะ(เรื่องมาก)

     

    ขอโทษครับไม่แซวแล้ว นี้ก็เย็นแล้วนะครับ ไปทำอาหารเย็นเลยมั้ยครับเด็กหนุ่มผมฟ้าพูดด้วยความอารมณ์ดี

     

    อ๊ะเย็นแล้วจิงๆด้วย เดี๋ยวชั้นไปเตรียมข้าวเย็นให้นะ เด็กหนุ่มลุกขึ้นจากเตียงแล้ววางเท่าที่พื้นเตรียมเดินออกจากห้อง

     

    เดี๋ยวครับ ฟุริฮาตะคุง หมับ! คุโรโกะคว้าแขน เพื่อนผมน้ำตาล แล้วดึงมาประกบจูบอีกครั้ง...............

     

    ฟุริฮาตะตกใจดันตัวคุโรโกะออกทันที

     

    แฮ่กๆ น..นายทำอีกแล้ว ช ...ชั้นหายใจไม่ออกนะเด็กผมน้ำตาลพูดบ่นใส่เพื่อนผมฟ้า ผู้ที่จุมพิตเขา

     

    ก็ผมน่ะ....อยากลิ้มรสของฟุริฮาตะคุงก่อนทานข้าวเย็นนี่ครับ เขาพูดปนเจ้าเล่ห์เล็กน้อย

    ฟุริฮาตะที่ตกใจหน้าแดง หมั่นไส้ กับท่าทีของคุโรโกะ สวนกลับไปอย่างไม่ทันคิด(รอบที่สาม)

     

    จ.....เจ้าบ้า!!! ต้องกินข้าวก่อนกินของหวานสิ!!!”>///< หน้าคนพูดแดงกล่ำแล้ววิ่งออกจากห้องอย่างรวดเร็ว.......

     

    คุโรโกะสะพรึ่งกับคำพูดของฟุริฮาตะเล็กน้อย... ก่อนจะบ่นเบาๆแล้วเดินตามลงไป...


    ผมน่ะ........ชอบของหวานที่สุดเลยล่ะครับ................” “โคจัง….”.......


    จ .....จ....จบ Part2 แล้วคร้าบบบบบ   2 B Cอน 3 นิววว>>>>>>>>>>>>>>>

    ////////////////////////////////////////////////////////////

    สวัสดีครับ เจอกันใน พาร์ททูแล้ว ผู้แต่งอยากจะบ้าตาย กลัวแต่งไม่ได้เรื่องมากครับ (เก๊าแต่ไม่เปนอ่าT^T) สถานการณ์นี้ น้องดำเริ่ม รุก แบบ โรแมนติก กับ หื่นนิดๆ ผู้แต่งคิดว่า น่าจะชอบกันนะฮัป อยากจะบอก ตอนแต่งได้ฟิวมาก ฉากฝนตก บ้านผู้แต่ง โดนฝนถล่ม ฝนสาดโน้ตบุ๊ค ผู้แต่งกันเลยทีเดียว....เอาล่ะ ไหนๆก็ไหนๆแล้ว พาร์ท สามจะสิ้นสุดเรื่องแล้วนะครับ ข้าน้อยจะไม่พยายามดองนะเจ้ามะฮะ ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกันครับ^^ จะตั้งใจเรียนและแต่งฟิค มากๆครับ...

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×