คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ของหวานแสนหลงใหล...
กว้าแรกที่เยื่องย่างเหยียบพื้นที่ เฉอะแฉะ เต็มไปด้วยน้ำจากสายฝน ร่างบางสองร่างเดินเคียงคู่กันภายในร่มคันเล็กๆคัน หนึ่ง ท่ามกลางสายฝนที่โปรยปราย ไม่สิ กระหน่ำ เทลงมาอย่างไม่หยุดสาย ทั้งสอง เดินออกจากร้านหนังสือมาได้ระยะหนึ่งแล้ว โดยที่เด็กหนุ่มผมฟ้า เป็นผู้ถือร่มให้เด็กชายผมน้ำตาล ซึ่งเป็นไปตามมารยาทของตน......
“เอ่อ.....คุโรโกะ..ชั้นว่าชั้นถือร่มให้ดีกว่านะ”
“เอ๊ะ...ไม่เป็นไรครับ ฟุริฮาตะคุง เดิน ระวังอย่าให้เปียกก็พอครับ....” เด็กหนุ่มผมฟ้าปฏิเสธความช่วยเหลือจากเพื่อนที่เดินมาด้วยกัน เพราะอะไรน่ะหรอ..........เพราะเขาเป็นห่วงงัยล่ะ...
“ไม่เอาอ่ะ!...ให้ชั้นถือเถอะ รบกวนนายมามากเลยวันนี้น่ะ ให้ชั้นถือเถอะนะ”เด็กหนุ่มขี้กลัวยื่นมือไปจับด้ามร่มที่คนตัวเล็กกว่า2เซนถืออยู่....
“ไม่เป็นไรจิงๆครับ ไม่ลำบากเลย” คุโรโกะพูดปฏิเสธอีกครั้งพร้อมยื่อร่มไว้ไม่ให้ฟุริฮาตะถือ.
“นายน่ะ! หัดขอความช่วยเหลือจากคนอื่นซะมั้ง เซ่!!!!” ฟุริฮาตะฟิวขาดเล็กน้อย แล้วตะคอกออกมาด้วยความไม่ทันระวัง เผลอสะบัดร่มออกไปจากมือ ของคุโรโกะและมือของตน
ด้วยความแรงทำให้ร่างของคุโรโกะลื่นและล้มลงกับฟื้นที่เปียกแฉะ....
“เฮ๊ะ! เหหหหหห!!! ช...ชั้นขอโทษนะคุโรโกะ!! ช..ชั้นไม่ได้ตั้งใจ เป็นอะไรรึป่าว?” เด็กหนุ่มผมน้ำตาล ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดจากฝีมือของตนเอง
คุโรโกะที่ล้มนั่งบนพื้นยันตัวขึ้นยืนอย่างระวัง
“ผมไม่เป็นไรครับ ขอโทษนะฟุริฮาตะคุง ผมแค่อยากให้ฟุริฮาตะคุงเดินข้างๆผมไม่ต้องทำอะไรก็พอ” “ผมน่ะเป็นห่วงฟุริฮาตะคุง ผมอยากดูแลฟุริฮาตะคุงนะครับ!!!......”เด็กหนุ่มผมฟ้าตะโกนออกมาด้วยหน้าที่แดงระเรื่อต่อหน้าเด็กหนุ่มผมน้ำตาลที่ตอนนี้ทั้งคู่ยืนอยู่กลางสายฝนที่ไม่มีสิ่งใดมากันกระแสน้ำที่เทลงมาจากฟ้าแม้แต่น้อย........
เมื่อสิ้นเสียงคุโรโกะ.............
ฟุริฮาตะที่ได้ยินคำพูดจากเพื่อนร่วมทีมบาส ถึงกับอึ้งกิมกี่ ยืนอ่าปากค้าง ภายในหัวประติดประต่ออะไรไม่ได้แม้แต่นิดเดียว......
“เอ๊ะ? เห๊ะ มะ...... เมื่อกี้ น..นายพูดอะไรออกมา?” เด็กขี้ตกใจยังคง งง งวยกับคำพูดที่ออกมาจากปากของคุโรโกะที่หน้าเริ่มขึ้นสี เช่นเดียวกัน ฟุริฮาตะรู้สึกถึงใบหน้าที่เริ่มร้อนขึ้นของตน
“ก็อย่างที่บอกไปครับ ผมน่ะเป็นห่วงฟุริฮาตะคุง.....” พูดจบก็หยิบร่มขึ้นมากางให้อีกรอบ..
“’งะ...งั้นหรอ เมื่อกี้ขอโทษนะ....” เด็กขี้กลัวทำหน้าสลดเล็กน้อย แล้วเอ่ยอีกครั้ง
“เปียกขนาดนี้แล้วจะกางร่มทำไมล่ะ คุโรโกะ”
“อย่างน้อยก็ต้องกันหนังสือเปียกนะครับ ถึงจะใส่ถุงห่อปกพลาสติกแต่ก็ต้องป้องกันไว้ก่อนนะ อีกอย่างกางไปแบบนี้ก็ลดความเสี่ยงที่จะป่วยด้วยนะครับ....”
“น่ะ..นั่นสิเนอะโทษที.....”
“ครับ...งั้นรีบไปกันเถอะ”เด็กหนุ่มผมฟ้า ทำหน้าปกติอีกครั้งแล้วยื่นร่มให้สูงขึ้น
..........................................
“ถ้างั้นฟุริฮาตะคุงก็ถือร่มด้วยกันสิครับ”
“เอ๊ะ?...”
ไม่ทันตั้งตัวเด็กหนุ่มผมฟ้าก็ยื่นมือเรียวอีกข้างไปจับมือของเด็กหนุ่มอีกคนมาไว้ที่คันร่มแล้วเอามือข้างที่ถือร่มของตน มาจับทับที่มือของเด็กหนุ่มผมน้ำตาลแทน
“แบบนี้ก็ได้ถือร่มด้วยกันแล้วนะครับ”เด็กผมฟ้าทำหน้าตายแล้วพูดไปเนียนๆ
การกระทำที่ถูกจับมือนั้นทำให้ฟุริฮาตะเกิดอาการใจเต้นแรงอีกครั้ง และเร็วขึ้นเรื่อยๆ.........
“เอ๊ะ!.....น...นั่นสิ” ทำไมกันทั้งที่เป็นผู้ชายแต่เรากลับไม่อยากให้เขาปล่อยมือออกจากเราไปเลย “อยากดูแล”. งั้นหรอ ทำไมคำๆนั้นช่างหวานซึ้งอย่างนี้นะ อบอุ่นจัง..............
ฝนยังคงตกอยู่ไม่ขาดสาย ร่างทั้งสองเดินต่อไปเรื่อยๆ โดยภายในร่มนั้น มือเรียวได้โอบล้อมมือของเพื่อนที่เดินข้างกันไว้ที่คันร่มตลอดเวลา................
เด็กหนุ่มทั้งสองตอนนี้หน้าแดงกล่ำ ทั้งคู่ต่างเขินอายในการกระทำของตน ภาวนาเพียงว่า ถึงบ้านทีเถอะ แต่การภาวนาเช่นนั้นจะทำให้มือของทั้งคู่ต้องออกจากกัน.......
เมื่อคิดได้แบบนั้น คุโรโกะ และฟุริฮาตะ ก็หันมาพูดพร้อมกัน “พักกันก่อนดีมั้ย(ครับ)?”
ทั้งสอง ชะงักกับคำถามที่ถามพร้อมกันและเหมือนกันไปครู่ แล้วคุโรโกะก็เอ่ยถาม..
“ฟุริฮาตะคุง จะพักรึป่าวครับ?”
ด้วยความเขินอายของฟุริฮาตะ เขาจึงตอบไปไม่ทันคิด(อีกแล้ว) “ไม่ดีกว่า รีบกลับให้ถึงบ้านกันเถอะนะ”
“ครับ”
ทั้งสองเดินต่อไป จนถึงบ้านของฟุริฮาตะ......
“ถึงแล้วล่ะ!”
ฝนนั้นยังคงตกอยู่ ฟุริฮาตะเดินไปเปิดประตูหน้าบ้านโดยไม่ทันระวัง เขาลื่นโครนตรงประตูหน้าบ้าน .......พรืดดดด..!!
“อ๊ะ!! หวา จะล้มแล้ว จะล้มแล้ว จะล้มแล้ว!!!!” เขาร้องออกมาด้วยความตกใจ
“ฟุริฮาตะคุง!!!ระวังครับ” เด็กหนุ่มผมฟ้าคว้างร่มทิ้ง แล้ววิ่งไปรั้งร่างของเด็กหนุ่มที่กำลังจะลื่นล้มลงไป ฟึ๊บ!! มือเรียวคว้าแขนของเพื่อนและกระชากอย่างรวดเร็วเข้ามาหาตน
ตอนนี้ฟุริฮาตะ อยู่ภายในอ้อมกอดที่อบอุ่นของเด็กหนุ่มผมฟ้า........... “เป็นอะไรรึป่าวครับ?”
“น....นึกว่าจะตายซะแล้ว T^T” (แค่ลื่นเองนะ) เด็กหนุ่มขี้ตกใจ ถึงกับน้ำตาเล็ดเพียงเพราะจะลื่นล้ม แล้วซบหน้าลงไปที่อกของเพื่อนที่โอบกอดเขาอยู่
“โอ๋ๆ ไม่เป็นไรแล้วครับอย่าร้องไห้เลย...........ฟุริฮาตะคุง”เด็กหนุ่มผู้โอบกอดลูบหัวและเรียกชื่อผู้ถูกกอด จนเงยหน้ามอง “ช่วยหลับตาลงหน่อยได้มั้ยครับ?”
“อะ...อื๊ม” เมื่อเด็กหนุ่มขี้กลัวหลับตาลง.........จุ๊ปป.......... เขารู้สึกถึงความร้อนที่มากระทบริมฝีปาก
ทันใด ตาเขาก็เปิดออกแล้วเบิกกว้างขึ้น เมื่อเขาเห็นว่า คุโรโกะ กำลังจุมพิต ที่ปากของเขา
การกอดรัดแน่นขึ้น เขาไม่สามารถขยับได้ เพียงแต่หลับตาลงแล้วปล่อยไปตามน้ำ ท่ามกลางสายฝนที่ยังคงโปรยปรายอยู่ที่หน้าบ้านของเขา
พั๊บๆ เสียงตีหลังเบาๆดังเล็กน้อย คุโรโกะ ปล่อยปากออกมา.....
“แฮ่กๆ ร....รีบเข้าบ้านกันก่อนเถอะ เดี๋ยวไม่สบาย” เด็กหนุ่มขี้กลัว หน้าแดงกล่ำ เรียกให้รีบเข้าบ้าน คุโรโกะปล่อยให้เขาหลุดออกจากพันธนาการ แล้วเปิดประตูบ้าน
.
.
……………’
“ช..เชิญ รีบเข้ามาสิ” ฟุริฮาตะยังคงเขินอายกับการกระทำของเพื่อนแต่ก็พยายามคุมสติ
“เปียกหมดเลย…..เดี๋ยวชั้นเอาชุดมาให้เปลี่ยนนะ นายน่าจะใส่ชุดชั้นได้”
“ขอรบกวนด้วยนะครับ”เด็กหนุ่มตอบเรียบๆ
“’งั้น......ขึ้นไปที่ห้องของชั้นก่อนแล้วกันนะ หน้าห้องมีป้ายชื่ออยู่น่ะ”
“ครับ”
เด็กหนุ่มผมฟ้าเดินขึ้นบันได ไปยังห้องของเพื่อนที่กล่าวเอาไว้ “เจอแล้ว.......โคคิ(โ.........เอ๊ะ!”เขาเหลือบไปเห็นอะไรบางอย่างที่ท้ายชื่อ “(โคจัง)” “ฮะๆ น่ารักจังเลยนะครับฟุริฮาตะคุง” เขาบ่นเบาๆ แล้วเปิดเข้าไปในห้อง ห้องนั้นแสนดูเรียบๆธรรมดา ดูเป็นระเบียบ โทนสีอ่อนๆ อาจฉายเป็นสีส้มยามแสงแดดส่อง ที่นอนโทนสีน้ำตาลปนส้มลายสก็อต..เรียบง่ายดูผ่อนคลาย …….
คุโรโกะมองสำรวจแล้วเดินไปนั่ง บนเตียง บนเตียงนั้น มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ทำให้รู้สึกสบาย....”กลิ่นของฟุริฮาตะคุงรึป่าวน้าาาาาาาาา..............”
ตึกๆ “เอ้า ขอโทษที่ให้คอย นี่ชุด......... ไปเปลี่ยนสิ” ฟุริฮาตะเดินมาที่ห้องของตนพร้อมชุดของตัวเองเพื่อให้คุโรโกะเปลี่ยนใส่
“อ๊ะ! ขอบคุณมากครับ”คุโรโกะหลุดจากการจินตนาการ แล้ว เอาชุดไปเปลี่ยน....
“ทำไมเราถึงตื่นเต้นจังนะ............”คุโรโกะคิดในใจแล้วเดินออกจากห้องไปเปลี่ยนชุด
“เราจะทำงัยดี ที่ถูกคุโรโกะทำแบบั้น หรือเขาแค่ปลอบเรากันนะ”เด็กหนุ่มที่อยู่ในห้องก็คิดไม่ตกเช่นกัน ถึงการกระทำที่เขาไม่เข้าใจ และคำพูดที่ได้ยินตอนกลับบ้าน......
“หรือเขาจะชอบเรา......กันนะ”(น้องเข้าข้างตัวเองมากครับ) คิดไปต่างๆนาๆ จนคุโรโกะเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้วเดินกลับมาที่ห้อง เห็นฟุริฮาตะนั่งเหม่อบนเตียงของตน จึงค่อยๆเดินเข้ามาใกล้ๆยื่นหน้าเขาไปแล้วกระซิบเบาๆ
“กำลังคิดอะไรอยู่หรอครับ”
เด็กหนุ่มที่ถูกถาม ถึงกับสดุ้ง เมื่อหน้าขาวใสอยู่ใกล้ไม่กี่เซน
“อะ…..เหวออออ....ย...อย่ามาแบบนี้สิ เดี๋ยวหัวใจก็วายตายกันพอดี”
“ถ้างั้น....ผมจะขอรับ หัวใจของฟุริฮาตะคุงมาฝากไว้กับผมได้มั้ยครับ?” คำพูดนั้นทำให้เด็กหนุ่มที่นั่งอยู่ หน้าเริ่มร้องผ่าวๆ ตอนนี้ก็แดงอีกครั้ง จนคนที่ถามมองเห็นได้ชัด
“ว่างัยครับ? ได้รึป่าว?”
“เอ๊ะ เอ๋.....ระ..เรื่องนั้น.......”
ไม่ทันพูดจบจมูกเป็นสันของใบหน้าขาวใสก็เริ่ม ขยับไปทั่ว ทั้ง ต้นคอ และตามตัว แล้วไล่ขึ้นมาที่แก้ม.. “กลิ่นนี้......ของฟุริฮาตะคุงจิงๆด้วยสินะครับ”
“ว....หวา ...ทำอะไรน่ะคุโรโกะ?”เด็กหนุ่มตกใจ ดันคุโรโกะออกแล้วเดินอย่างรวดเร็วออกจากห้อง.... “ด........เดี๋ยวชั้นเตรียมข้าวเย็นให้นะ!” เขาตะโกนแล้วลงไปด้านล่างด้วยความเขินอาย....
“ฮะๆ ข้าวเย็นอะไรกันครับ นี่พึ่งจะเลยเที่ยงเองนะ น่ารักจิงๆเลยนะครับ ฟุริฮาตะคุง”เขาพูดคนเดียวเบาๆกับยิ้มอย่างมีความสุข
.
.
.
.
ไม่นานนัก………………………………..
.
.
.
“ท...โทษที ชั้นลืมเวลาน่ะเห็นฟ้ายังครึ้มฝนก็ยังไม่หยุดเลยนึกว่าเย็นแล้ว”ฟุริฮาตะเดินกลับมาที่ห้อง
“ไม่เป็นไรครับ...เอ่อ..หนังสือน่ะ อยากฟังรึป่าวครับ”
“เอ๊ะ..หนังสือ?.......อ๋อ! ลืมไปเลย ถ้างั้น....”ฟุริฮาตะเดินเข้ามานั่งข้างๆโดยไม่พยายามคิดอะไร
“จนกว่าจะถึงเวลาทำข้าวเย็น ช่วยเล่าให้ฟังหน่อยนะ” (แล้วจะซื้อหนังสือมาทำไม)
“ไม่มีปัญหาครับ”
เด็กหนุ่มทั้งสองนั่งพูดคุยเกี่ยวกับหนังสือไปเรื่อยๆ จนฟุริฮาตะหลับไปบนที่นอนโดยที่ข้างๆคุโรโกะยังคงเล่าเรื่องของหนังสือที่ซื้อมาอยู่......
“ฟุริฮาตะคุง ฟุริฮาตะคุง .......”
.
.
.
........................................................................’ไม่มีสัญญาณตอบรับ
“สงสัยคงจะเหนื่อย......... งั้นสี่โมงเย็นผมจะปลุกก็แล้วกันนะ.............. “ โคจังง.....”เขาก้มลงกระซิบเบาๆที่ข้างหู แล้วหอมแก้มเบาๆอีกหนึ่งที (ลักหลับนี่หว่า!!!)
.
.
.
.
.
16.00น...................................
“ฟุริฮาตะคุง ฟุริฮาตะคุง”
.......................................................เงียบกริบ
“โคจางงงงง!!!!” เขาตะโกนใส่ฟุริฮาตะที่หลับสบายอยู่บนเตียง
“เฮือก!” ฟุริฮาตะสดุ้งขึ้นมากับเสียงที่เรียกชื่อเล่นของเขา
“ค..คุโรโกะเองหรอ..............................ดะ..เดี๋ยวนะ “โคจัง...” น....นาย! นาย! เรียกชื่อเล่นชั้นหรออออ!!!!...”
“ครับ ก็ผมเรียก ฟุริฮาตะคุง ไม่ตื่นซักที เลยเรียกชื่อเล่นครับ”
‘ขอร้องล่ะ อย่าเรียกชื่อนั้นเลยนะ’ ฟุริฮาตะหน้าแดงเล็กน้อย
“ทำไมล่ะครับ?”
“ก..ก็มันน่าอายนี่หน่า.......”
“ฮะๆ งั้นผมไม่เรียกชื่อเล่นก็ได้ครับ โคคิคุง.........”เด็กหนุ่มเรียกชื่อต้นของอีกฝ่ายแบบ แซวเล่นๆ
“เอ๊!!!!!......ร.เรียก ช..ชื่อต้นแบบ นั้นชั้นก็ตกใจนะ” (เรื่องมาก)
“ขอโทษครับไม่แซวแล้ว นี้ก็เย็นแล้วนะครับ ไปทำอาหารเย็นเลยมั้ยครับ”เด็กหนุ่มผมฟ้าพูดด้วยความอารมณ์ดี
“อ๊ะ…เย็นแล้วจิงๆด้วย เดี๋ยวชั้นไปเตรียมข้าวเย็นให้นะ” เด็กหนุ่มลุกขึ้นจากเตียงแล้ววางเท่าที่พื้นเตรียมเดินออกจากห้อง
“เดี๋ยวครับ ฟุริฮาตะคุง” หมับ! คุโรโกะคว้าแขน เพื่อนผมน้ำตาล แล้วดึงมาประกบจูบอีกครั้ง...............
ฟุริฮาตะตกใจดันตัวคุโรโกะออกทันที
“แฮ่กๆ น..นายทำอีกแล้ว ช ...ชั้นหายใจไม่ออกนะ” เด็กผมน้ำตาลพูดบ่นใส่เพื่อนผมฟ้า ผู้ที่จุมพิตเขา
“ก็ผมน่ะ....อยากลิ้มรสของฟุริฮาตะคุงก่อนทานข้าวเย็นนี่ครับ” เขาพูดปนเจ้าเล่ห์เล็กน้อย
ฟุริฮาตะที่ตกใจหน้าแดง หมั่นไส้ กับท่าทีของคุโรโกะ สวนกลับไปอย่างไม่ทันคิด(รอบที่สาม)
“จ.....เจ้าบ้า!!! ต้องกินข้าวก่อนกินของหวานสิ!!!”>///< หน้าคนพูดแดงกล่ำแล้ววิ่งออกจากห้องอย่างรวดเร็ว.......
คุโรโกะสะพรึ่งกับคำพูดของฟุริฮาตะเล็กน้อย... ก่อนจะบ่นเบาๆแล้วเดินตามลงไป...
“ผมน่ะ........ชอบของหวานที่สุดเลยล่ะครับ................” “โคจัง….”.......
จ .....จ....จบ Part2 แล้วคร้าบบบบบ 2 B Cอน 3 นิววว>>>>>>>>>>>>>>>
////////////////////////////////////////////////////////////
สวัสดีครับ เจอกันใน พาร์ททูแล้ว ผู้แต่งอยากจะบ้าตาย กลัวแต่งไม่ได้เรื่องมากครับ (เก๊าแต่ไม่เปนอ่าT^T) สถานการณ์นี้ น้องดำเริ่ม รุก แบบ โรแมนติก กับ หื่นนิดๆ ผู้แต่งคิดว่า น่าจะชอบกันนะฮัป อยากจะบอก ตอนแต่งได้ฟิวมาก ฉากฝนตก บ้านผู้แต่ง โดนฝนถล่ม ฝนสาดโน้ตบุ๊ค ผู้แต่งกันเลยทีเดียว....เอาล่ะ ไหนๆก็ไหนๆแล้ว พาร์ท สามจะสิ้นสุดเรื่องแล้วนะครับ ข้าน้อยจะไม่พยายามดองนะเจ้ามะฮะ ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกันครับ^^ จะตั้งใจเรียนและแต่งฟิค มากๆครับ...
ความคิดเห็น