เรื่องสุดท้าย
อยากให้ลองเข้ามาอ่านกันมากๆนะครับ
ผู้เข้าชมรวม
104
ผู้เข้าชมเดือนนี้
3
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
“ตื่นได้แล้ว...สายแล้วนะลูก” เสียงปลุกของผู้เป็นพ่อดังแว่วเข้ามาทำลายความฝันของผมไปจนหมด ผมหยิบนาฬิกาข้อมือเรือนหรูขึ้นมาดูเวลา 8.23 น.
“จะปลุกทำไมว้า ไหนๆก็ไปสายอยู่แล้วไม่เห็นต้องรีบเลย” ผมบ่นกับพฤติกรรมหน้าเบื่อของพ่อ ก่อนจะเดินทำหน้างัวเงียไปเข้าห้องน้ำ ครอบครัวของผมก็เป็นแบบนี้แหละครับพ่อจะเป็นคนดูแลเรื่องงานบ้านทั้งหมดส่วนแม่จะออกไปขายของตั่งแต่เช้ามืดในทุกๆวัน วันไหนฝนตกก็ต้องไป ผมเคยบอกแม่หลายครั้งแล้วว่าหยุดทำบ้างก็ได้อายุก็ไม่ได้เลข2เลข3เหมือนแต่ก่อนแล้ว แต่แม่ก็จะตอบมาด้วยคำตอบเดิมเหมือนทุกๆครั้งก็คือ “ไม่เป็นไร...แม่ยังไหว”
“วันนี้จะกลับบ้านกี่โมงละลูก” “ไม่รู้...วันนี้อาจจะกลับดึกๆหน่อยจะไปทำรายงานต่อที่บ้านเพื่อน” ผมตอบกลับไป ที่จริงแล้วรายงานอะไรนั้นผมไม่สนใจหรอกรู้จักแต่ โยกัง dota sf sa พวกนี้ตั่งหาก ผมเดินมาที่โต๊ะหน้าทีวีเห็นแบงค์100วางอยู่หนึ่งใบ ที่ตรงนี้จะเป็นที่จ่ายเงินสำหรับของทุกๆวันแต่วันนี้ผมต้องการมากกว่า100บาท เพราะว่าผมจะไปดูคอนเสิร์ตกับแฟน ในตอนเย็น
“วันนี้รุ่นพี่จะเก็บค่ากิจกรรมขอตังเพิ่มอีก500ร้อย” “ดะ...ได้ลูก นี้อะ” พ่อยื่นแบงค์500ให้เพิ่มให้อีกใบ ผมรับมาแล้วเดินไปสตาร์ทรถมอไซต์เพื่ออุ่นเครื่อง “จะไม่กินข้าวก่อนหรือลูก” “กับข้าวค้างปีแบบนั้นนะใครจะกินลง” “เอ่อ...งั้นเดียวพ่อทำให้ใหม่เอาไหม” “ไม่ต้อง!” ผมตะคอกใส่ด้วยอารมณ์รำคาญ ก่อนจะหันกลับมาบิดคันเร่งรถ พุ้งทะยานไปข้างหน้า
ผมเดินทางมาถึงโรงเรียนในเวลาเกือบ9โมงเช้า เมื่อผมเอารถไปจอดเรียบร้อยผมก็รีบเดินไปที่ห้องเรียน แต่พอผมไปถึงผมก็ต้องงงเต๊ก “หายไปไหนกันทั้งห้องเลยหว่า” ไม่นานผมก็นึกขึ้นมาได้วันนี้มีกิจกรรมทำบุญเข้าพรรษา นักเรียนห้องผมจะไปทำบุญที่วัดข้างๆนี้กัน เมื่อผมนึกได้ดังนั้นก็รีบวิ่งไปวัดนั้นทันที
“เอาล่ะนักเรียนทุกๆคนเดียวเราจะมาไหว้พระกันนะค่ะ” ครูสอนพระพุทธศาสนาบอกนักเรียนทุกๆคน “ทำไมไอ่สิงค์มันยังไม่มาว่ะ” “นั้นดิ...นี้ก็นานแล้วนะโว้ยทุกทีมันจะตื่นสายก็จริง แต่ก็ไม่เคยมาสายขนาดนี้” ในขณะที่ทุกๆคนกำลังไหว้พระสวดมนต์อยู่นั้นจู่ๆโทรศัพท์มันก็สั่นขึ้นมา “อ้าวเชี้ ยยแล้วไง เดียวครูก็จับได้กันพอดี ใครโทรมาตอนนี้ว่ะ” ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู มันโชว์เบอร์ สิงค์ ผมมองไปรอบๆห้องก่อนเพื่อเช็คให้แน่ใจว่าไม่มีครูอยู่แถวๆนี้
“เอ่อว่าไงว่ะ” “เฮ้ยพวกเมิงอยู่ไหนกันกุเดินมาหาทั่ววัดแล้วไม่เห็นเจอ” “อ้าวไอ่นี้นิ พวกกุก็อยู่ในวิหารนี้ไงว่ะ” “ไม่...มะ มะ...ตรู้ดๆๆ” “อ้าวเฮ้ย!” “เป็นยังไงบ้างว่ะ”เพื่อนผมหันมาถาม “กุกำลังคุยอยู่ดีๆสายหลุดไปเฉยเลยว่ะ”
“อ้าวไอ่คอป...เฮ้ย ได้ยินกุเปล่า ตรู้ดๆๆ” เว รจริงๆแล้วกุจะทำยังไงดีว่ะเนี้ย งั้นไม่ลงไม่เรียนมันล่ะ เล่นเกมส์ดีกว่าโว้ยยย
เวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ผมก็ไม่รู้ ผมมารู้สึกตัวอีกทีตอนที่วิทยุในร้านเกมส์เปิดเพลงชาติดังไปทั่วร้าน “ประเทษไทย รวมเลือดเนื้อชาติเชื้อไทย~” ทำไมเวลามันผ่านไปเร็วอย่างงี้ว่ะ รีบไปรับแฟนดีกว่า ผมลุกออกจากเก้าอี้เตรียมตัวที่จะเดินทางไปรับแฟน...
เมื่อผมมาถึง ผมเห็นแฟนของผมยืนคุยอยู่กับผู้ชายอื่นอยู่พอดีอารมณ์โกรษมันก็เดือดขึ้นมา ผมรีบจอดรถลงมาแล้วเดินเข้าไปหาไอ่ผู้ชายคนนั้น “เมิงเป็นใครว่ะมายุ้งกับแฟนกุ” “สิงค์อย่าน่ะ”น้ำหวานเดินเข้ามาบังไว้ “หลีกไป” ผมพลักน้ำหวานกระเด็นไปด้านข้าง แล้วเดินเข้าไปชกที่หน้าของมัน ตุ๊บ! ทันทีที่หมัดของผมโดนหน้ามัน ตัวของมันก็สลายหายไปราวกับเป็นฝุ่น!! ไม่เพียงเท่านั้นบรรยากาศรอบๆตัวผมก็เริ่มเปลี่ยนไป ทุกๆอย่างเริ่มสลายหายไปตั่งแต่ ท้องฟ้า บ้านเรือน ป้ายโฆษณา ถนน หรือแม้แต่ตัวของผมเองมันก็เริ่มสลายลอยหายไป...
อ๊าก!!!! ผมตื่นขึ้นมา รอบตัวของผมเป็นห้องแคบๆมีชักโครกที่ผมนั่งทับอยู่แล้วผมเข้ามาได้ยังไง? ผมเก็บความสงสัยเอาไว้ ผมเดินออกมาเห็นผู้คนมากมายเดินกันทั่วไปหมด ไม่ช้าก็มีมือหนึ่งเข้ามาจับแขนผมไว้ ผมรีบหันไปดูพบว่ามันเป็นมือของน้ำหวาน “เข้าห้องน้ำช้าจังเลยคอนเสิร์ตจะเริ่มแล้วปะๆ” เธอดึงตัวของผมวิ่งผ่านฝูงชนเข้าไปให้ใกล้ๆกับเวทีให้มากที่สุด ดนตรีที่บรรเลงไปเรื่อยๆ มันชักทำให้ผมรู้สึกผ่อนคลายลืมเริ่มที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ไปได้ ผมหลับตาลงค่อยๆปล่อยให้ความสุขผ่านไปช้าๆ
ไม่นาน เสียงดนตรีก็ค่อยๆเบาลงๆไปเรื่อยๆจนผิดสังเกต ผมเงยหน้าขึ้นมาดู พบว่าจากวงค์ดนตรีที่กำลังร้องเพลงอยู่เมื่อครู่นี้พวกเขาทุกๆคนได้หายไป! เสียงผู้คนที่มากมายเริ่มหายไปๆ จนในที่สุดคอนเสิร์ตก็เหลือเพียงแต่พื้นที่ว่างเปล่า มีผมเพียงคนเดียวยืนอยู่ลำพัง สายลมพัดเข้ามาปะทะที่หน้าของผม มันยิ่งทำให้ผมสับสนและเหงาขึ้นมาอย่างมหาศาล
“นี้มันเกิดอะไรขึ้นอีกละเนี้ย” ผมนั่งขุกเข่าลงไปกับพื้นหญ้า น้ำตาของผมเริ่มไหลออกมา ความรู้สึกนี้มันอธิบายไม่ได้จริงๆว่ามันคืออะไร ความรู้สึกที่แสนเงียบเหงาและเปล่าเปลี่ยว...
ผมกำลังนั่งทำการบ้านอยู่ แต่แล้วก็มีเสียงๆหนึ่งดังเข้ามาทำลายความคิดของผม “เป็นเพราะเธอนั้นแหละ!! บอกกี่ครั้งแล้วก็ไม่ฟัง” เสียงของผู้เป็นพ่อตะคอกใส่ดังไปทั่วบ้าน “อะไรกัน นี้ฉันก็ทำหน้าที่ของฉันดีที่สุดแล้วน่ะ คุณนั้นแหละไม่รู้จักเก็บเงินเก็บทองไว้บ้างได้มาเท่าไหร่ก็เอาไปลงกับเหล้าหมด!!” เสียงพ่อแม่ทะเลาะกันอีกแล้ว ได้ยินทีไรก็รู้สึกใจไม่ดีเลย ผมวางดินสอลงกับพื้นค่อยๆยกเข่าทั้งสองข้างขึ้นมากอดไว้...เผื่อว่ามันอาจจะอบอุ่นกว่าที่เป็นอยู่ขึ้นมาบ้าง
ผมกำลังมีความรักครั้งแรกครับ ผมแอบชอบเธอมานานแล้วแต่ก็ไม่กล้าจะเข้าไปจีบเธอซักที เพราะคนอื่นๆที่ชอบเธอก็มีเยอะเหมือนกัน จนกระทั้งวันหนึ่ง เป็นวันงานกีฬาสีผมลงวิ่งแข่ง500เมตร ในตอนที่ผมกำลังจะเริ่มวิ่งอยู่นั้นเอง สายตาของผมก็มองไปที่เธอคนนั้น แล้วไม่อยากจะเชื่อว่าเธอคนนั้นก็กำลังมองผมอยู่ นั้นเป็นครั้งแรกที่ผมรู้สึกได้ถึงคำว่าความสุข ในไม่ช้าผมกับเธอก็เริ่มคบกันจริงจังมากขึ้น ความสัมพันธ์ของเราทั้งสองก็เป็นไปได้ด้วยดีจนกระทั้งวันหนึ่ง...เป็นวันแข่งกีฬาสีอีกครั้งผมก็ลงวิ่งแข่ง500เมตรเช่นเดิม ผมมองไปที่เธอ เธอก็มองมาที่ผมเหมือนกับปีก่อนๆ ปัง! เสียงปืนดังขึ้นผมรีบวิ่งไปพร้อมๆกับคนอื่นๆ เมื่อผมวิ่งไปได้ซักพักขาผมก็ไปสะดุดกับสายรองเท้าของผมเอง ผมเสียการทรงตัวมันทำให้ผมล้มลงไปนอนกองกับพื้น ในตอนนั้นเองสายตาของผมก็มองไปที่เธอคนนั้นพอดี แต่ไม่อยากจะเชื่อว่าภาพที่ผมเห็นจะเป็นเรื่องจริง เธอกำลังคุยอยู่กับผู้ชายคนหนึ่งก่อนจะลุกเดินไปพร้อมๆกับผู้ชายคนนั้น โดยที่ปล่อยให้ผู้ชายคนนั้นโอบเอวเธอไปด้วย! น้ำตาของผมก็เริ่มไหลออกมา...ไม่ใช่เพราะเจ็บขา แต่เจ็บใจ ที่เธอและเขาทำกับผมได้ลงคอ
กลับมาในปัจจุบัน...มีชายสองคนเดินออกมาจากความมืด เขาทั้งสองคนดูตัวใหญ่มาก มีดวงตาที่ดุดัน เขาทั้งสองถือโซ่เหล็กมาด้วย ดวงตาของผมเบิกโพรงทันที แขนขาชาไปหมดทำอะไรไม่ถูก...มันคงถึงเวลาของผมแล้วซิน่ะ.
ในตอนที่ผมกำลังขี่รถให้มาทันเวลาเรียนอยู่นั้นเองจู่ๆก็มีรถบรรทุกขับมาชนเข้าที่ด้านข้างของผม นั้นคือภาพสุดท้ายที่ผมจำได้
ถ้าเกิดว่าคนเราสามารถย้อนเวลากลับไปได้ ผมอยากจะย้อนเวลากลับไปบอกพ่อกับแม่ว่าอยากทะเลาะกันเลย เพราะคนที่รับความทุกข์นั้นไม่ได้มีเพียงแต่พ่อกับแม่ ถ้าเกิดว่าย้อนเวลากลับไปได้ผมอยากจะย้อนเวลากลับไปตอนที่อกหัก ไม่ยอมกินข้าว เอาแต่ขังตัวเองอยู่ในห้องร้องไห้ทุกๆวันจนตาบวม โดยไม่คิดเลยว่า ยังมีพ่อและแม่อีกคนที่ยังรักและเป็นห่วงเราเสมอไม่ว่าเราจะเป็นยังไงก็ตาม ถ้าเกิดว่าย้อนเวลากลับไปได้ผมจะทำตัวให้ดีกว่านี้จะบอกพ่อกับแม่ว่าผมรักท่าน จะไม่กินจะไม่เที่ยว จะตั่งใจเรียน...ถ้าเกิดว่าย้อน...เวลากลับไปได้...ละก็น่ะ.
ทุกๆคนอาจจะเกิดมามีแขนและขาไม่เท่ากัน อาจจะมีความคิดไม่เท่ากัน อาจจะรวยไม่เท่ากัน อาจจะเป็นคนดีคนเล ว แตกต่างกัน แต่สุดท้ายเรื่องที่เหมือนกันคือ ความตาย...
แล้วคุณล่ะ ถ้าวันนี้เป็นวันสุดท้ายของคุณ คุณจะทำอะไร.
ผลงานอื่นๆ ของ bankkoky ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ bankkoky
ความคิดเห็น