NC

คำเตือนเนื้อหา

เนื้อหาของเรื่องนี้อาจมีฉากหรือคำบรรยายที่ไม่เหมาะสม

  • มีการบรรยายฉากกิจกรรมทางเพศ
  • มีการบรรยายเนื้อหาที่เกี่ยวกับความรุนแรงสูง
  • มีเนื้อหาที่เครียดหรือหดหู่มาก ซึ่งอาจกระทบต่อภาวะทางจิตใจ

เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน

กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา หรือ อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (Fic Muv-Luv กับ AII Anime) Osea Federation In Muv-Luv Cold War

    ลำดับตอนที่ #13 : OFSOC In Rescue Hostages Summer Olympics Munich 1972 - I

    • อัปเดตล่าสุด 25 ก.พ. 67


    หลังจากสงครามเวียดนามจบลงไปเป็นเวลาแล้ว 3 ปี รัฐบาลสหรัฐภายใต้ประธานาธิบดีริชาร์ด นิกสัน ถูกวิพากษ์วิจารณ์เรื่องที่ทหารส่งไปรบเพื่อช่วยเวียดนามใต้ แต่กลับไปทำร้ายชาวเวียดนามใต้กับเหนือ ยังไปถึงเครื่องบินรบของกองทัพอากาศสหรัฐโจมตีใส่หมู่บ้านที่ไม่มีส่วนรวมในสงราม ส่วน CIA เองก็โดนวิจารณ์ไปด้วยเนื่องจากข่าวการข่มขืนสาวเวียดนามใต้กับเหนือ ทำให้ทางต้นสังกัดสั่งให้รีบสอบสวนทันที ส่วนทางกองทัพสหรัฐก็รีบสอบสวนเหตุการณ์ที่ทหารสหรัฐที่ได้โจมตีหมู่แห่งหนึ่งเวียดนามใต้กับเหนือ รวมไปถึงเครื่องบินรบสหรัฐได้โจมตีใส่หมู่บ้านด้วย ส่วนเชลยทหารสหรัฐในเวียดนามใต้กับเหนือทางโอเซียก็ส่งพวกเขากลับสหรัฐหลังจากเวียดนามใต้ยอมจำนนแล้วไป หลังจากการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติจบหลังลงไปเพียงแค่ 1 นาทีเดียว

    .

    .

    .

    วันที่ 16 การประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติจบหลังลงไปเพียงแค่ 1 วัน ในประเทศเกาหลีใต้ประชาชนต่างออกมาประท้วง เหตุการณ์ที่ทหารเกาหลีใต้ทำร้ายประชาชนเวียดนาม ทั้งๆที่ไม่มีส่วนร่วมในสงครามครั้งนี้เลยการประท้วงในกรุงโซลเมืองหลวงเกาหลีใต้มีความรุนแรงเป็นอย่างมาก เนื่องจากรัฐบาลของเกาหลีใต้ภายใต้การนำของประธานาธิบดีพัก จ็อง-ฮี (Park Chung Hee) ส่วนเหตุผลที่ประธานาธิบดีพัก จ็อง-ฮี ส่งทหารไปช่วยเวียดนามใต้เพื่อ

    จงเสียสายตาซะ

    ป้องกันลัทธิคอมมิวนิสต์รามเข้าสู่ประเทศอื่นๆในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่กลับเป็นว่าทหารเกาหลีใต้ไปทำร้ายประชาชนเวียดนามใต้กับเหนือ ทำให้ประชาชนชาวเกาหลีใต้โดยเฉพาะแม่พ่อกับภรรยาที่ไปรบ เรียกร้องให้ผู้นำพัก จ็อง-ฮี เจรจาเวียดนามเหนือกับโอเซียให้รีบปล่อยตัวทหารเกาหลีใต้ที่ถูกจับเป็นเชลยอยู่ แต่ไม่นานหลังจากนั้นก็ได้มีข่าวจากสำนักข่าวแห่งหนึ่งของเกาหลีใต้ได้ข่าวว่ามีเครื่องบินจากโอเซียได้พาทหารเกาหลีใต้มายังที่ ท่าอากาศยานนานาชาติคิมโพ (Gimpo International Airport)  ซึ่งกำลังจะถึงในอีกไม่ช้านี้ 

     

     

    ประชาชนชาวเกาหลีใต้โดยเฉพาะแม่พ่อกับภรรยาที่ได้ทราบข่าวก็ต่างรีบไปที่ท่าอากาศยานนานาชาติคิมโพทันที เมื่อประชาชนชาวเกาหลีใต้ถึงท่าอากาศยานนานาชาติคิมโพทันทีก็ได้หาเครื่องบินขนส่งของกองทัพอากาศโอเซียจำนวน 3 กับเครื่องบินพาณิชย์ของสายการบินอย่างแอร์ไลน์โอเซีย (Airlines Osean) จำนวน 3 กับสายการบินแอร์ไลน์ เบลล์ (Airlines Bell) จำนวน 3 รวมของทัพอากาศและพาณิชย์ทั้งหมด 9 ลำ แต่จะมาเพิ่มอีกในอีก 1 ชั่วโมง

    .

    .

    .

    ส่วนที่ทางสหรัฐอเมริกาทัพอากาศและพาณิชย์ทั้งหมด 9 ลำ ของโอเซียก็ได้ลงจอดที่ท่าอากาศยานจอห์น เวย์นกับท่าอากาศยานนานาชาติลอสแอนเจลิส โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจในสนามบินกับกองกําลังป้องกันชาติสหรัฐแห่งรัฐแคลิฟอร์เนีย คอยควบคุมฝูงชน ส่วนฟิลิปปินส์กับนิวซีแลนด์และออสเตรเลีย โอเซียก็ได้ส่งเครื่องบินทั้งทหารและพาณิชย์ส่งทหารกลับสู่บ้านเกิด

    .

    .

    .

    วันอังคาร 6 กันยายน ปี 1972 (พ.ศ 2515) เวลา 11:30 นาที มิวนิค (Munich) สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมันตะวันตก (Federal Republic of West Germany) ณ อาคารบัญชาการ ซึ่งใกล้กับบ้านพักกีฬา เพียงแค่ 100 กิโลเมตร 

     

     

    นายกวิลลี: มีใครแนะนำวิธีจัดสถานการณ์นี้
     

     

    ผบ.ตร FRG: เราสามารถบุกช่วยเหลือตัวประกันได้ แต่คนร้ายมีอาวุธปืนที่ร้ายมากถึง แต่อย่างน้อยเรามีรถหุ้มเกราะ แต่ถ้าเราบุกพวกนั้นจะฆ่าตัวประกันทันที

     

     

    กห.เฮ็ลมูท: ท่านเฮ็ลมูทแจ้งว่า รัฐบาลอิสราเอลจับตาดูแลอย่างใกล้ชิดตั้งแต่เมื่อวานที่เรื่องเกิดขึ้น แถมยังประชาชนอิสราเอลโดยเฉพาะครอบครัวของนักกีฬาอิสราเอลที่มาแข่งเรียกร้องให้เรารีบช่วยเหลือครับ

     

     

    ผบ.ตร FRG: ขอพูดตามตรงนะครับท่าน ตำรวจกับสวาตของเราไม่สามารถจัดการสถานการณ์แบบนี้ได้เนื่องจากเราไม่เคยเจอเหตุการณ์จับตัวประกันแบบนี้เลยแบบนี้มาก่อน เราสามารถขอความช่วยเหลือจากต่างชาติไหนได้ไหม

     

     

    กห.เฮ็ลมูท: ได้แต่ ไม่มีกองกำลังพิเศษชาติไหนเลยที่สามารถจัดการเหตุการณ์นี้ได้เลย

     

     

     

    ในขนาดที่นายกรีวิลลีกับกก.อ็อทโทและหัวหน้าตำรวจ FRG กำลังเครียดอยู่ก็ได้มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นภายในห้อง ก่อนที่จะเป็นกห.เฮ็ลมูทเป็นคนรับสายนี้ 

     

     

    กห.เฮ็ลมูท: {โทรศัพท์: มีอะไรครับ ท่านวัลเทอร์เองเหรอครับ ว่าไงนะครับ โอเคผมจะบอกนายกเลย} ท่านนายกมีประเทศจะส่งหน่วยรบพิเศษมาช่วยเราครับ

     

     

    นายกรีวิลลี: ชาติไหนล่ะ 

     

     

    กห.เฮ็ลมูท: ท่านคงแปลกใจเท่าไหร่นะครับประเทศนั้นคือสหพันธรัฐโอเซียครับ

    .

    .

    .

    ณ ห้องแถลง ในอาคารบัญชาการ

    นักข่าวทั้งในและต่างประเทศกำลังรอนายกรีวิลลี บรันท์ เนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเยอรมันตะวันตกแจ้งว่านายกรีวิลลีแถลงคือความช่วยเหลือจากสหพันธรัฐโอเซียครับ

     

     

    นายกวิลลี: อย่างที่ได้ทราบกันนะครับรัฐบาลเราได้ขอความช่วยเหลือจากสหพันธรัฐโอเซีย

     

     

    เมื่อนายกวิลลี บรันท์พูดแบบนั้นมาสื่อมวลชนทั้งในประเทศกับต่างประเทศก็เรื่มกันถามนายกทันที

     

     

    นักข่าวชาย FRG#1: ทำไมขอความช่วยจากโอเซียครับ

     

     

    นายกวิลลี: เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจของเราไม่มีความสามารถมากพอ ในการรับมือกับสถานการณ์แบบนี้ เราจำเป็นต้องขอความจากโอเซียในการจัดการผู้ก่อการร้าย

     

     

    เมื่อนายกวิลลี พูดคำว่าผู้ก่อการร้ายสื่อมวลชนทั้งในประเทศกับต่างประเทศ ต่างมึนงงกับคำนี้

     

     

    นักข่าวชาย UK: ผู้ก่อการร้าย คืออะไรครับท่าน

     

     

    นายกวิลลี: เป็นคำที่ยังไม่มีการจำกัดความในกฎหมายอาญาของโลกเดิมที่สหพันธรัฐโอเซียถูกย้ายมา การก่อการร้ายเป็นการกระทำโดยองค์กรการเมืองอย่างกว้างขวางเพื่อสนับสนุนเป้าหมายของตนเอง ซึ่งมีการดำเนินการทั้งพรรคการเมืองฝ่ายซ้ายและฝ่ายขวา กลุ่มชาตินิยม กลุ่มศาสนา กลุ่มปฏิวัติ และรัฐบาลซึ่งปกครอง ลักษณะทั่วไปคือการใช้ความรุนแรงอย่างขาดการพิจารณาต่อผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องเพื่อจุดประสงค์ในการเพิ่มความเป็นที่รู้จักให้กับกลุ่ม แนวคิด หรือบุคคล ซึ่งการกระทำของกลุ่มปาเลสไตน์คือการจับตัวประกันกับก่อการร้าย

     

     

    นักข่าวหญิง USA: ท่านนายกทำไมถึงขอความช่วยเหลือจากสหพันธรัฐโอเซียที่ช่วยคอมมิวนิสต์ในสงครามเวียดนามกับกลุ่มคอมมิวนิสต์อื่นๆในประเทศต่างๆคะ

     

     

    นายกวิลลี: ทางผมทราบเร่ื่องดีครับ แต่ตอนนี้ทางประชาชนอิสราเอลโดยเฉพาะครอบครัวของนักกีฬาอิสราเอล ต้องการให้เราเข้าช่วยเหลือ ซึ่งตามที่ผมพูดก่อนหน้านี้ว่าตำรวจของเราไม่สามารถรับมือกับสถานการณ์นี้ได้จริงๆ ตอนนี้โอเซียได้ส่งหน่วยรบพิเศษแล้วซึึ่งจะถึงในอีก 1 ชั่วโมง เครื่องบินขนส่งของกองทัพอากาศโอเซียจะลงลงจอดที่สนามบินซาลซ์บูร์กในออสเตรียเนื่องจากสนามบินในประเทศของเราไม่ใกล้มิวนิค ส่วนรายละเอียดที่เหลือทางโอเซียจะมาอธิบายเองนะครับ

     

     

     

    หลังจากนั้นนายกวิลลี บรันท์ พูดสำเร็จก็เดินออกจากห้องโดยไม่ตอบนักข่าวอะไรอีก
    .

    .

    .

    สนามบินซาลซ์บูร์ก เมืองซาลซ์บูร์ก รัฐซัลทซ์บวร์ค สาธารณรัฐออสเตรีย

    ภาพท่าอากาศยานซาลซ์บูร์กในช่วงปี 70

     

    เจ้าหน้าที่สนามบินซาลซ์บูร์กกับตำรวจ กำลังรอการมาของเครื่องบินจากกองทัพอากาศโอเซียที่จะมาที่นี้ที่รันเวย์

     

     

    เจ้าหน้าที่ภาพพื้นสนามบินซาลซ์บูร์ก#1: ให้ตายสิตำรวจเพียบเลย

     

     

    เจ้าหน้าที่ภาพพื้นสนามบินซาลซ์บูร์ก#2: ครับหัวหน้า เป็นเครื่องบินของกองทัพโอเซียใช่มั้ยครับ

     

     

    เจ้าหน้าที่ภาพพื้นสนามบินซาลซ์บูร์ก#1: ใช่ ประเทศประชาธิปไตยที่ช่วยเหลือคอมมิวนิสต์

     

     

    เจ้าหน้าที่ภาพพื้นสนามบินซาลซ์บูร์ก#2: มันแปลกนะครับที่ประเทศเป็นระบบการปกครองประชาธิปไตยแต่กลับไปช่วยเหลือประเทศที่เป็นคอมมิวนิสต์

     

     

    เจ้าหน้าที่ภาพพื้นสนามบินซาลซ์บูร์ก#3: ฉันอยากรู้ว่ารัฐบาลโอเซียคิดยังไงถึงทำแบบนี้

     

     

    เจ้าหน้าที่ภาพพื้นสนามบินซาลซ์บูร์ก#1: คงมีแต่พระเจ้าที่รู้ว่าโอเซียจะทำอะไร

     

     

    เจ้าหน้าที่ควบคุมทางอากาศสนามบินซาลซ์บูร์ก#1: {วิทยุ: ถึงเจ้าหน้าที่ภาพพื้นเครื่องบินของกองทัพอากาศโอเซียกำลังจะลงจอดแล้วเตรียมตัว}

     

     

    เจ้าหน้าที่ภาพพื้นสนามบินซาลซ์บูร์ก#1: {วิทยุ: รับทราบ} เอาละเตรียมตัวพวกเขาจะลงจอดแล้ว

     

     

     

    ผ่านไปไม่นานเครื่องบินจากกองทัพอากาศโอเซียก็ลงจอดบนรันเวย์สนามบินซาลซ์บูร์ก ซึ่งเครื่องที่กองทัพอากาศโอเซียใช้เจ้าหน้าที่และอาวุธยุทโธปกรณ์ คือ เครื่องบินขนส่ง OCA-103G Supe Ground (AC-130J) จำนวน 2 ลำ กับ เครื่องบินขนส่ง OCA-190AM (Ilyushin Il-76MD/MD-90A) จำนวน 1 ลำ OCA-103G ลำแรกลงจอดถึงพื้นเครื่องบินขนส่งขนาดใหญ่รันเวย์ หลังจาก OCA-103G ลำแรกก็เคลื่อนที่ไปพื้นที่เขตการบิน โดยมีเจ้าหน้าที่สนามบินภาคพื้นคอยให้อำนวยความสะดวกในการเคลื่อนที่ จนถึงลานจอดเครื่องบิน หลังจากถึงลานจอดเครื่องบิน ก็เปิดประตูด้านหลังกับด้านข้างของเครื่องบินขนส่ง OCA-103G ก็เปิดออกเผยให้เห็นเจ้าหน้าที่หน่วยพิเศษโอเชียจำนวน 15 คน พร้อมกับยานพาหนะของหน่วยพิเศษโอเชียจำนวน 2 คัน ซึ่งเจ้าหน้าที่ภาพพื้นสนามบินกับเจ้าหน้าที่ควบคุมทางอากาศและตำรวจออสเตรียกำลังให้ความสนใจชุดของหน่วยพิเศษโอเซียความแปลกประหลาดเป็นอย่างมาก

     

    ภาพประกอบ

     

    เครื่องบินขนส่ง OCA-103G ลำที่สอง ก็แลนดิ้งลงรันเวย์ก่อนจะเคลื่อนที่ไปถึงลานจอดเครื่องบินก็เปิดประตูด้านหลังกับด้านข้างของเครื่องบิน เปิดออกเผยให้เห็นเจ้าหน้าที่หน่วยพิเศษโอเชียจำนวน 15 คน พร้อมกับยานพาหนะของหน่วยพิเศษโอเชียจำนวน 2 คันซึ่งกัน อีกไม่กี่นาทีต่อมาเครื่องบินขนส่ง OCA-190AM ก็แลนดิ้งลงรันเวย์ซึ่งกันก่อนจะเคลื่อนที่ไปถึงลานจอดเครื่องบินก็เปิดประตูด้านหลัง ก่อนที่จะเผยให้เห็นเจ้าหน้าที่หน่วยพิเศษโอเชียจำนวน 10 คน กับยานพาหนะของหน่วยพิเศษโอเชียจำนวน 2 คัน 

     

    ภาพประกอบ

     

    เหล่าเจ้าหน้าที่สนามบินซาลซ์บูร์กกับตำรวจของออสเตรียกำลังตกะลึงกับการเห็นเครื่องบินของกองทัพอากาศโอเซีย เป็นครั้งแรกโดยเครื่องบินขนส่ง OCA-103G Supe Ground ที่เหมือนเครื่องบินขนส่ง C-130 เป็นอย่างมาก หลังจากลงจอดครบทั้ง 3 ลำแล้วเจ้าหน้าที่หน่วยพิเศษโอเชียก็เริ่มเช็คของต่างๆ ก่อนจะเสร็จลงไม่กี่นาทีต่อมา หลังจากนั้นไม่นานเจ้าหน้าที่หน่วยพิเศษโอเชียก็เริ่มขึ้นยานพาหนะ ก่อนที่เริ่มจะเคลื่อนที่เป็นขบวนโดยมีรถตำรวจของออสเตรีย 1 คันคอยนำขบวน

    .

    .

    .

    ณ ชายแดนระหว่างออสเตรีย กับ เยอรมนีตะวันตก

    ภาพประกอบ

    ชายแดนระหว่างออสเตรียกับเยอรมนีตะวันตก เต็มไปด้วยเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองของออสเตรียกับเยอรมนีตะวันตก รวมถึงรถตำรวจคันหนึ่งของเยอรมนีตะวันที่ได้รับคำสั่งจากหัวหน้าตำรวจให้นำขบวนหน่วยรบพิเศษโอเชียไปยังเมืองมิวนิก พร้อมสื่อมวลชนในออสเตรียกับเยอรมนีตะวันตกและต่างๆประเทศ

     

     

    เจ้าหน้าที่สตม.ออสเตรีย#1: พวกสื่อมวลชนมากันเด็มเลย

     

     

    เจ้าหน้าที่สตม.ออสเตรีย#2: ก็รอดูพวกทหารโอเชียที่จะไปข่วยเหลือนักกีฬาอิสราเอลที่ถูกพวกนั้นจับ

     

     

    เจ้าหน้าที่สตม.ออสเตรีย#1: ใช่ดูดูเหมือนพวกเขาจะมากันแล้วนะ

     

     

     

    ซึ่งที่เจ้าหน้าที่สตม.ออสเตรียกับเยอรมนีตะวันตก กำลังเห็นคือรถติดปืนจำนวน 7 คันจากรโอเชีย เมื่อข้ามชายแดนจากออสเตรีย เข้าสู่เยอรมนีตะวันตกรถตำรวจจากฝั่งเยอรมนีตะวันตกนำขบวนไปยังมิวนิค

    .

    .

    .

    มิวนิค สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมันตะวันตก 

    ตำรวจเยอรมนีตะวันตกยังคงตรึงกำลัง รอดูสถานการณ์ของคนร้ายส่วนสื่อมวลชนก็คงรอดูเหตุการณ์เพื่อรายงาน จนกระทั่งข่าวการช่วยเหลือจากสหพันธรัฐโอเซียทำให้สื่อมวลชนทั้งในเยอรมนีตะวันตกกับต่างประเทศสนใจ เพราะหลังจากเหตุการณ์การช่วยเหลือเวียดนามเหนือกับแดงจีนและโซเวียต โอเซียก็เริ่มจัดการประเทศต่างๆ ประเทศที่ถูกสหรัฐ เปลี่ยนประเทศนั่นเป็นประชาธิปไตยเหรอเผด็จในแบบที่สหรัฐต้องการ 

     

    โดยการปลุกปั่นประชาชนในประเทศนั้นๆว่าคนในรัฐบาลของประเทศนั้นๆ สนับสนุนคอมมิวนิสต์ แล้วเอาคนในคนชาตินั้นที่ทางสหรัฐแต่ตั้งให้ผู้นำของประเทศนั้น จนกระทั่งโอเซียได้เข้ามาจัดการประเทศต่างๆ ช่วยฝ่ายต้องการหยุดการแทรกแซงของสหรัฐ จนไปถึงจัดการเจ้าหน้าที่ CIA ที่ได้จำการอยู่ในประเทศนั้น ทำให้สหรัฐสูญเสียประเทศที่เป็นรัฐบาลหุ่นเชิดไปหลายประเทศ รวมถึงการเปิดเผยข้อมูลการแทรกแซงของสหรัฐยังรวมถึงไปอังกฤษที่ก็ได้ทำการแทรกแซงเหมือนกัน

     

    หลังจากนั้นนานเสียงไซเรนรถตำรวจของเยอรมันตะวันตก คนทุกก็ได้เห็นขบวนรถของหน่วยปฏิบัติการพิเศษโอเชีย จำนวน 6 คัน ก็ได้เข้าไปยังที่เกิดเหตุแต่ก่อนที่จะเข้าไปพร้อมกับให้ความสนใจกับชุดที่หน่วยพิเศษโอเซียใส่กับอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ใช้กัน ก่อนที่รถของหน่วยปฏิบัติการพิเศษโอเชียคันหนึ่งหยุด ก่อนเจ้าหน้าที่หน่วยรบพิเศษโอเชีย จำนวน 4 คนลงจากรถแล้ววิ่งเข้าไปยังตึก OlyNet e.V. ซึ่งทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเยอรมันตะวันตกกับประชาชนเยอรมันตะวันตกและสื่อมวลชนในกับต่างประเทศ สงสัยกันว่เจ้าหน้าที่หน่วยรบพิเศษโอเชีย จำนวน 4 ทำไมถึงเข้าไปยังตึก OlyNet e.V.

    .

    .

    .

    บริเวณบ้านพักนักกีฬา มิวนิค สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมันตะวันตก 

    ขบวนรถของหน่วยรบพิเศษโอเชียลงที่หน้าทางเข้ายังไปบ้านพักกีฬาอิสราเอลหน่วยรบพิเศษโอเชีย ก่อนที่หัวหน้าที่ของหน่วยรบพิเศษโอเชียลงจากรถสั่งให้เตรียนอุปกรณ์ ก่อนจะมองไปยังเข้ายังไปบ้านพักกีฬาอิสราเอล แล้วพูดออกมาว่า

     

    ???: เอาละมาดูกันสิว่า พวกนี้เก่งแค่นั้นกัน

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ตัดจบแบบละครไทย

    กก. = กระทรวงการต่างประเทศ

    กห = กระทรวงกลาโหม

    FRG = Federal Republic of West Germany (สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีตะวันตก)

    UK = United Kingdom (สหราชอาณาจักร)

    USA = United States of America (สหรัฐอเมริกา)

    สตม. = สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง

    นายกรัฐมนตรีแห่งเยอรมันตะวันตก วิลลี บรันท์ (Willy Brandt)

    ตั้งแต่ปี 1969 (พ.ศ 2512) ถึงปี 1974 (พ.ศ 2517)

    รัฐมนตรีกลาโหมเยอรมันตะวันตก เฮ็ลมูท ชมิท (Helmut Schmidt)

    ตั้งแต่ปี 1969 (พ.ศ 2512) ถึงปี 1972 (พ.ศ 2515)

    รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเยอรมันตะวันตก วัลเทอร์ เชล (Walter Scheel)

    ตั้งแต่ปี 1969 (พ.ศ 2512) ถึงปี 1974 (พ.ศ 2517)
    ข้อความจากแอดมิน(ไรท์)

     

    ลิงค์ข้อมูล: https://en.wikipedia.org/wiki/Munich_massacre 

    เตรียนตัวรอ อัญเชิญสหพันธ์ยุโรป ญี่ปุ่น และ ไทย ตอนใหม่ได้เลย จะลงในเดือนนี้ ไม่ก็เดือนหน้า

     

    ของฝาก

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×