ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ไทฟอน (yaoi)

    ลำดับตอนที่ #12 : บทที่ 12

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 13
      0
      25 เม.ย. 64

    ในห้องอับชื้นของตึกร้างแห่งหนึ่งมีชายผิวเข้มนั่งคุกเข่าอยู่ที่พื้นมือทั้งสองข้างของเขาถูกมัดไว้ทางด้านหลัง หน้าขาวซีดเต็มไปด้วยคราบเลือดและรอยฟกช้ำ รอบกายมีชายร่างกำยำยืนล้อมรอบอยู่ยี่สิบกว่าคนได้

    "ให้ไปเล่นงาน คนคนเดียว..." เสียงนุ่มลึกพูดขึ้นก่อนจะยกบุหรี่ในมือขึ้นมาสูบ เมื่อควันสีขาวลอยออกจากจมูกและปากหนาก็พูดต่อว่า "กลับต้องเสียลูกน้องไปมากกว่าห้าสิบหกสิบคน!"

    อรั๊ก!!

    ชินยุที่ถูกมัดกลิ้งลงไปนอนที่พื้นเมื่อโดนรองเท้าหนังของชายตรงหน้ากระแทกเข้าที่อกเต็มแรงเขาจึงกลิ้งลงไปนอนอยู่ที่พื้นด้วยความเจ็บปวด แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ทำได้เพียงแค่นอนนิ่งให้คนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นหัวหน้าแก๊งอัดเล่น

    "ไร้ค่า...!!" เจไดหัวหน้าแก๊งหมาในพ่นคำสบถสกปรกหยาบคายไม่น่าฟังออกมาจากปากพร้อมกับใช้เท้าเตะลูกน้องที่ตนแต่งตั้งให้เป็นรองหัวหน้าแก๊งเพราะเขาคู่ควรกับมันที่สุด แต่มาบัดนี้เหมือนว่าฝีมือในด้านการต่อสู้ของชินยุจะดูด้อยลงกว่าเมื่อก่อนมาก เป็นเพราะอายุที่มากขึ้นหรือเป็นเพราะว่าเขาไม่มีฝีมือกันแน่ "จากนี้ไปชินยุ ไอ้หมาชินยุตัวนี้... จะไม่ใช่รองหัวหน้าแก๊งหมาในอีกต่อไป"

    พวกหมาในคนอื่น ต่างพากันยืนนิ่งเงียบ ถึงแม้ว่าชินยุจะเป็นแค่รองหัวหน้าแก๊ง ไม่สิ อดีตรองหัวหน้าแก๊ง แต่ชินยุก็ได้อยู่คลุกคลีกับลูกน้องของตัวเองมากกว่าหัวหน้าตัวจริงเสียอีก เลยมีหลายคนยืนช็อกไม่อยากจะเชื่อหู ที่วันนี้ลูกพี่ของตนได้ถูกปลดจากการเป็นรองที่ครองตำแหน่งมาตลาด 6 ปี

    "เอามันออกไป" บุหรี่ในมือของเจไดถูกโยนลงพื้นก่อนที่ลูกน้องคนสนิทของหัวหน้าแก๊งจะยื่นเท้ามาเขี่ยบุหรี่ที่พื้นให้ดับลง ลูกน้องของชินยุห้าคนวิ่งไปแบกลูกพี่ของตนออกจากชายน่ากลัวคนนั้น แก๊งหมาในเป็นแก๊งมาเฟียที่มีจำนวนสมาชิกสามหมื่นกว่าคน แต่ละแก๊งจะถูกแยกออกเป็นกลุ่ม จะมีอาณาเขตเป็นของตัวเอง อย่างเช่นเมืองนี้ชินยุเป็นคนดูแล เขาคุมทุกอย่างที่นี่และมีตำแหน่งที่ไม่ด้อยกว่าหัวหน้าแก๊งก็คือการเป็นรองนั้นเอง

    ส่วนเจไดเป็นผู้สืบทอดตำแหน่งในรุ่นที่สาม ใครที่เข้ามาในวงการนี้แล้วคิดจะออกจะต้องมีเหตุผลเพียงสองข้อคืออยากตายกลับอยากตายเท่านั้น เมื่อรองหัวหน้าอย่างชินยุถูกปลดออกนั้นก็หมายความว่า "เริ่มได้!.."

    พวกนักเลงปลายแถวมองหน้ากันเลิ่กลั่กก่อนจะหันไปมองชินยุที่พึ่งถูกแก้มัด สายตาของพวกมันเหมือนกระหายเลือดและอยากจะฉีกชินยุออกเป็นชิ้นๆ โชคดีที่ตอนนี้มีสมาชิกอยู่แค่เพียงยี่สิบกว่าคนเท่านั้น การล่ากำลังจะเริ่มขึ้น เพื่อชิงตำแหน่งรองหัวหน้าแก๊งคนใหม่ คือคนที่สามารถล้มอดีตรองหัวหน้าได้เท่านั้น

    ชินยุยืนนิ่งคิ้วกระตุกพร้อมกับหันไปมองลูกน้องอีกห้าคนที่พึ่งแก้มัดให้ตนด้วยสายตาผิดหวัง นี่น่ะหรือจุดจบ... แม้แต่ลูกน้องคนสนิทก็ยังพร้อมที่จะฆ่าเขาเพื่อจะได้ครองตำแหน่งที่ยิ่งใหญ่นี้ไป ภาพในอดีตที่ชินยุเคยฆ่ารองหัวหน้าแก๊งรุ่นเก่าเมื่อหกปีก่อนปรากฏขึ้น... ก่อนที่จะเลวร้ายไปมากกว่านี้ร่างสูงก็ส่ายหัวไปมาเพื่อสะบัดภาพในหัวออกแล้วตั้งสติ ถ้าขืนยังอยู่ตรงนี้คงได้ตายแน่..

    ทุกอย่างเป็นไปตามกฎธรรมชาติ วัฏจักรของโลกดังเช่นสุภาษิตที่ว่า ปลาใหญ่กินปลาเล็ก ชินยุเคยเป็นใหญ่อยู่ในวงการนี้มาตลอด แต่ก็ใช่ว่าเขาจะใหญ่ที่สุด บัดนี้เขากำลังโดนปลาตัวที่ใหญ่กว่าไล่งับโดยใช้ฝูงปลาตัวเล็กที่มีจำนวนมากมารุมตอมเขา ชินยุวิ่งหนีฝูงปลาจำนวนมากลงจากตึกก็ไปเจอปลาอีกฝูงหนึ่งรออยู่ข้างล่าง ... ข่าวแพร่ไปไวฉิบ...

    ปลาตัวน้อยอยากจะเป็นใหญ่ต่างพากันกรูเข้ามา นี่คงเป็นโอกาสที่พวกนี้รอมาเป็นเวลานาน เขาไม่รอช้ากระโดดลงบันไดไปต่อสู้กับคนที่รออยู่ข้างล่าง พวกมันมีจำนวนสิบกว่าคน ถึงแม้ฝีมือในด้านการต่อสู้ของชินยุจะเทียบเท่าบาร์เธอร์ไม่ได้ แต่ถ้ากับพวกลูกกระจ๊อกพวกนี้ เขาถือว่ามีฝีมือมาก หมัดแรกถูกปล่อยใส่พวกแก๊งหมาในคนหนึ่ง ร่างกำยำที่พึ่งโดนอัดมาเมื่อครู่พลิ้วไหวดังสายลม เขาไม่รู้สึกเจ็บหรือล้า เพราะทางข้างหน้ามีความตายรออยู่ พวกลูกน้องของแก๊งหมาในล้มกลิ้งไม่เป็นท่า พวกมันสิบกว่าคนถูกชินยุอัดจนน่วม อดีตรองหัวหน้าแก๊งหมาในหันไปมองฝูงปลาอีกยี่สิบกว่าตัวกำลังวิ่งมาทางเขา เขาจึงใช้โอกาสนี้วิ่งหนีออกจากตึกร้างเข้าไปในป่าทันที

    หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะเพราะความกลัว เขาทิ้งชีวิตทั้งชีวิตอยู่ในแก๊งหมาในมาตลอด เคยคิดอยู่แล้วว่าต้องมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นสักวัน แต่ไม่คิดว่ามันจะเร็วขนาดนี้ ร่างสูงวิ่งเข้าไปในดงหญ้า ก่อนจะนั่งพักหอบหายใจ ไอบาร์เธอร์ ไอ้เลวเอ๊ย ชินยุเจ็บใจที่ตัวเองต้องมาเป็นแบบนี้เพราะศัตรู เขาไม่รู้ว่าทำไมเจไดถึงอยากกำจัดบาร์เธอร์นัก เขาทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะเข้าใกล้บาร์เธอร์แต่ก็แพ้ไม่เป็นท่ากลับมาทุกที

    ผ่านไปห้านาทีคนในดงหญ้าก็โผล่หัวขึ้นไปมอง ตรงหน้าเขามีแก๊งหมาในอยู่สามสี่คนในมือพวกมันมีแค่ไม้หน้าสามกับไม้เบสบอล เมื่อเห็นจำนวนคนที่น้อยและอาวุธธรรมดา ชินยุจึงตัดสินใจวิ่งออกไปทางป่าด้านหนึ่ง... ตอนที่ขากำลังยกก้าวเพื่อวิ่งไปข้างหน้าก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้น

    ปั่งงงงงงงงงงงงงง

    เสียงกระสุนปืน 9 มม. เจาะเข้าไปกลางหลังของชินยุ ที่กำลังจะวิ่งหนีไปอีกทาง คนที่มั่นใจในตัวเองล้มหน้าคว่ำลงไปนอนกับพื้นอย่างเฉียบพลัน แขนขาขยับไม่ได้เหมือนเป็นอัมพาต ทำได้เพียงแค่นอนมองดินและดงหญ้าก่อนที่น้ำตาใส่จะไหลนองหน้า เคยคิดว่าการเลือกทางเดินในสายนักเลงจะทำให้เขาต้องพบจุดจบเช่นนี้ แต่เขาก็ยังเลือกที่จะเข้าวงการนี้ตั้งแต่อายุเพียง 17 ปีเท่านั้น

    ตำนานของชินยุได้จบลงเมื่อถูกกระสุนปืนพกยิงเข้าที่ขมับซ้ายของเขาจนตายคาที่ ไม่มีแม้แต่โอกาสที่จะได้เห็นหน้าคนที่ยิงตน แม่จ๋า...ถ้าเกิดใหม่ผมจะขอเป็นคนดี ภาพสุดท้ายก่อนจากโลกนี้ไปคือภาพของหญิงวัยกลางคนที่ค้าขายผักอยู่ในตลาดสด ชินยุยืนหลบอยู่มุมกำแพงชะโงกมองแม่บังเกิดเกล้า เขาไม่กล้าเข้าไปสู้หน้าแม่ที่ตนรัก เพราะเข้ามายุ่งเกี่ยวกับมาเฟีย แม่จึงตัดขาดจากเขา แต่ไม่ใช่เพราะว่าแม่เลือกที่ตัดขาด แต่เป็นเพราะความดื้อรั้นของตัวเองที่ทำให้แม่ต้องเจ็บปวด

    "ถ้าอยากใช้หนี้ให้พ่อ แกก็ต้องทำงาน" อดีตรองหัวหน้าแก๊งหมาในรุ่นที่สอง ชาลอายุสามสิบปลายๆเอ่ยขึ้น โดยที่มีคราบเลือดอยู่มุมปาก เสื้อสีเทาเลอะไปด้วยเลือดที่ถูกแทงตรงหน้าท้อง เขานั่งหมดสภาพอยู่ในบ้านที่ทรุดโทรมหลังหนึ่ง โดยที่มีเด็กหนุ่มวัย 17 อยู่ในชุดนักเรียนยืนตาค้างมองเขาด้วยความตกใจ

    "ผะ...ผม ผม.." เด็กหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือนัยต์ตาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว ทำไมชายแปลกหน้าคนนี้ถึงพูดจาแปลกๆ...

    "พ่อนายเคยมีบุญคุณกับฉันมาก แต่เป็นเพราะฉันไม่ดีเอง แค่ก ๆ ถ้าฉันไม่หักหลังเขาละก็"

    "คุณพูดอะไรของคุณ" ชินยุยืนสับสน เขาไม่เข้าใจคำพูดของชายผู้นี้เลยสักนิด

    "ถ้านายมาร่วมแก๊ง... หนี้ที่พ่อแกสร้างไว้ให้แกกับแม่จะหมดไป" เสียงของชาลเบาลงทุกทีแต่ชายแปลกหน้าก็พูดต่อด้วยน้ำเสียงแหบพร่า... "ถ้านายยอมรับข้อเสนอนี้ก็หยิบมีดที่พื้นนั้นขึ้นมาซะ แต่ถ้าไม่ก็แค่ยืนดูฉันตายไปเงียบๆ" น้ำสีแดงสดไหลทะลักออกจากร่างกายของคนตรงหน้า กลิ่นอายของคาวเลือดอบอวนไปทั่วห้องจนชินยุแทบจะอ้วก

    "จริงหรอ ถ้าผมหยิบมีดขึ้นมาแม่ผมจะหมดหนี้ใช่ไหม" เพราะความซื่อและไร้เดียงสาเด็กหนุ่มจึงก้มตัวลงไปหยิบมีดขึ้นมาอย่างไม่คิด เพราะหวังอยากจะให้แม่สบาย เลยไม่รู้ว่าตัวเองจะต้องไปเจออะไรในอนาคต ชาลพยักหน้าเป็นคำตอบก่อนที่หนังตาจะปิดลงไม่นานชายแปลกหน้าคนนี้ก็หมดลมหายใจ ร่างตรงหน้ากลายเป็นแค่ร่างไร้วิญญาณ

    ผ่านไปไม่กี่นาทีแก๊งหมาในที่กำลังตามล่าชาลก็ได้วิ่งเข้าไปในบ้านหลังหนึ่งที่อยู่ในสลัม พวกมันชะงักเมื่อเห็นชินยุนั่งอาเจียนอยู่ข้างศพอดีตรองหัวหน้าแก๊งโดยที่มือข้างหนึ่งถือมีดปลายแหลมไว้ พวกมันก็อึ้งไปชั่วขณะ ก่อนจะพากันวิ่งไปเอาร่างไร้วิญญาณออกไป หนึ่งในสมาชิกแก๊งหมาในหันมาบอกชินยุว่า "อีกสองวันพวกฉันจะมารับนาย"

    หลังจากพวกนั้นออกจากบ้านไปแล้ว ชินยุก็วิ่งไปเอาผ้ามาเช็ดคราบเลือดที่พื้น พร้อมกับเอามีดที่เลอะเลือดไปล้างทำลายหลักฐานแล้วเอาไปซ่อนไว้อย่างมิดชิด เขาไม่รู้ว่าชายคนนั้นไปโดนใครทำร้ายมา และไม่รู้ว่าเรื่องหนี้สินจะหมดไปจริงไหม แต่การที่มีคนตายคงไม่ใช่เรื่องเล่นๆ ถ้าเกิดพวกนั้นใส่ร้ายว่าเขาเป็นฆาตกรจะทำยังไง... เด็กหนุ่มในชุดนักเรียนนั่งชันเข่าอยู่ในห้องเล็กของตนด้วยความกระวนกระวายใจ เขาไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรต่อไป ไม่รู้เลยว่าอีกสองวันจะเกิดอะไรขึ้น ....ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ฉันจะหยิบมีดเล่มนั้นไหมนะ...

    ผ่านไปหนึ่งวันพวกเจ้าหนี้ของพ่อก็มาที่บ้าน แล้วบอกว่าหนี้ของพ่อตอนนี้มีคนมาใช้ให้แล้ว พ่อที่หายสาบสูญไปตั้งแต่ชินยุยังจำความไม่ได้ ได้สร้างหนี้ไว้ให้เขากับแม่มากมาย แม่เคยบอกว่าเป็นเพราะพ่อไปกู้เงินและหนีไปอยู่ต่างประเทศกับผู้หญิงคนใหม่ ป่านนี้คงสร้างครอบครัวอยู่ที่ไหนสักแห่ง ตอนที่ผมได้ยินแม่บอกอย่างนั้นผมก็โกรธพ่อมาก ทำไมเขาถึงได้ใจร้ายกับแม่กับผมขนาดนี้ ผมโตมาโดยไม่มีพ่อมีหลายครั้งที่ผมมองเด็กคนอื่นที่ได้รับความรักจากพ่อแม่ มันจึงทำให้ผมน้อยใจ แต่ในขณะที่ผมกำลังคิดว่าทำไมตัวเองถึงไม่สมบูรณ์แบบเหมือนครอบครัวคนอื่น ก็มีมือบางที่แสนอบอุ่นยื่นออกมาโอบกอดผมไว้ ในที่สุดสิ่งที่ผมขาดหายไปก็ถูกเติมเต็มเพราะผู้เป็นแม่ ผมจึงสัญญากับตัวเองว่าผมจะไม่ทำให้แม่ต้องลำบาก ผมจะไม่ให้แม่รู้สึกเสียใจที่ผมขาดพ่อ หลังจากวันนั้นผมก็ตั้งใจเรียนมาโดยตลอด ถึงจะมีโดนแกล้งบ้างแต่คะแนนของผมก็ไม่เคยตกเลย

    เกรดเฉลี่ยของชินยุไม่เคยต่ำกว่า 3.50 นั่นจึงเป็นความภาคภูมิใจแรกของแม่ เนื่องจากลูกชายที่ตนเองรักเรียนเก่ง ดารินผู้เป็นแม่จึงต้องทำงานหนักเพื่อหาเงินส่งเสียชินยุเข้าเรียนมหาลัยดีๆ แต่เพราะมีภาระหนี้สินท่วมตัว ทำให้เงินที่หามาหมดไปกับการใช้หนี้ แต่ดารินก็ไม่คิดที่จะท้อหรือให้ชินยุออกจากโรงเรียน ชินยุที่เห็นว่าแม่ทำงานหนักมากเกินไปจึงจะขอลาออกเพื่อไปหางานทำช่วยแม่ใช้หนี้ แต่ดารินก็ค้านหัวชนฝาว่าจะไม่มีวันให้ชินยุออกจากโรงเรียนเด็ดขาด นั่นจึงทำให้ชินยุเกลียดพ่อหนักเข้าไปอีก

    ชินยุที่มองเห็นแม่ตัวเองเหนื่อยกับการหาเงิน เขาจึงมีความฝันใหม่ ความฝันของเขาคือการที่เห็นแม่อยู่สบาย ไม่ต้องทำงานจนอดหลับอดนอนเพื่อเขาและหนี้สินที่พ่อสร้างไว้อีกต่อไป ทันทีที่ชาลรองหัวหน้าแก๊งหมาในรุ่นที่สองบอกวิธีปลดหนี้ ชินยุจึงไม่รังเรเลยสักนิดที่จะหยิบมีดเล่มนั้นขึ้นมา...

    วันที่หนึ่งผ่านไป... ในที่สุดวันที่สองก็มาถึง

    "เป็นอะไร เหม่ออยู่ได้" เสียงคุ้นเคยของผู้เป็นแม่ถามลูกชายที่พักนี้เอาแต่นั่งเหม่อลอย "กังวลเรื่องนั้นเหรอ... สงสัยพ่อเขาคงคิดได้เลยเอาเงินมาใช้หนี้ให้มั้ง" แม่ที่เข้าใจว่าลูกกำลังคิดมากเพราะสงสัยเรื่องที่มีคนมาใช้หนี้ ถึงแม้ดารินจะรู้อยู่เต็มอกว่ายังไงก็ไม่ใช่พ่อของชินยุแน่ แต่เธอก็เลือกที่จะพูดออกไปแบบนั้นหวังให้ลูกชายสบายใจ

    ในขณะที่กำลังนั่งกินข้าวอยู่หน้าบ้านในสลัมก็มีชายแปลกหน้าคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้น เขาอยู่ในชุดสูทเต็มยศและเซตผมเป็นทรงดูเรียบร้อย ด้านหลังของเขามีชายอีกสามคนเดินตามหลังมาด้วย และเหมือนทางข้างนอกจะมีกลุ่มผู้ชายน่ากลัวยืนเรียงแถวอยู่นอกประตูรั้วหน้าสลัมอีกหลายสิบคน..

     

    "แกมาที่นี่ทำไม!!" ดารินวางชามข้าวลงก่อนจะลุกขึ้นยืนมองชายแปลกหน้าคนนั้นด้วยความตกใจ 


     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×