ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เกิดใหม่อีกทีกลายเป็นผู้หญิงเฉยเลยครับ

    ลำดับตอนที่ #7 : Ep7 ทำไมทุกคนถึงอยากเป็นคนของพระราชา

    • อัปเดตล่าสุด 28 ส.ค. 64


    มินอา

    หนึ่งอาทิตย์แล้วสินะที่ผมได้อยู่บนโลกใบใหม่ในร่างใหม่ ตอนนี้เริ่มคุ้นชินกับการเป็นผู้หญิงอยู่บ้าง แต่ว่าผมก็ไม่ค่อยระวังตัวเพราะหลงคิดว่าตัวเองเป็นผู้ชายอยู่ตลอด ขณะที่กำลังเดินเล่นอยู่ที่ลานกว้างทางหลังปราสาทวูโบเนีย ก็มีลูกบอลจากนักเรียนที่กำลังเตะมันอยู่ที่สนามหญ้าลอยมาทางผม 

    สัญชาตญาณของเมื่อชาติที่แล้วจึงแวบเข้ามา ก่อนจะยกขาขึ้นกระโดดเตะด้วยท่วงท่าที่สวยงาม โดยลืมไปเลยว่าตัวเองนั้นนุ่งกระโปรงตัวสั่นเหนือหัวเข่าอยู่ ทุกสายตามองมาทางผมด้วยสีหน้าตกใจ เด็กสาวและชายหนุ่มบริเวณนั้นแก้มเริ่มขึ้นสี 

    ทุกคนมองผมด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรู้สึกแปลกใหม่ กระบวนท่ากระโดดเตะเมื่อกี้ทำให้พวกเขารู้สึกว่าผมในตอนนี้ดูเท่และแมนมาก เลยไม่แปลกใจว่าทำไมทุกคนถึงเอาแต่จ้องผมด้วยสายตาแบบนั้น รู้สึกภูมิใจชะมัด

    "เขาเห็นกางเกงในเธอต่างหากล่ะ" เอ๊ะ ผมหันไปตามเสียงก็พบชายร่างสูงผมสีน้ำเงินยืนอยู่ข้างขอบสนาม บนหัวหน้าของเขามีแว่นตากรอบสี่เหลี่ยมสะท้อนแสงอยู่บนนั้น 

    "นายแอบดูกางเกงในฉันหรอ"

    ".....!" แก้มขาวใต้แว่นตากรอบสี่เหลี่ยมเริ่มร้อนผ่าว ผมจึงคลี่ยิ้ม

    "นายมันลามกจริงๆ" ผมตอบไปอย่างไม่จริงจังนัก จากนั้นก็เดินจากไปพร้อมรอยยิ้มจางๆ 

    หมอนั่นคือคนที่ผมเดินชนเมื่อวันแรกที่มาเกิดบนโลกนี้ ใบหน้าที่แสนเย็นชานิ่งสงบตอนเขินดูน่ารักแฮะ ผมคิดในใจก่อนจะเดินกลับไปที่ห้องเรียน 

    การแข่งขันใกล้เข้ามาทุกที แต่ผมก็ยังฝึกไปได้ไม่ถึงไหน บางทีผมอาจจะไม่มีพรสวรรค์ด้านนี้ก็ได้ ดังนั้นจึงถอดใจ ใครจะไปอยากเป็นคนของพระราชากัน ถ้าได้ไปทำงานที่นั่นมีหวังลำบากแย่

    "ตอนนี้พลังเวทของฉันเริ่มแข็งแกร่งแล้วล่ะ" เอมิลี่กล่าว

    "จริงหรอ" เพื่อนในห้องที่นั่งรวมกลุ่มกับพวกเธอเอ่ยถาม สาวผมบอร์นจึงยิ้มมุมปากอย่างชอบใจ

    "ใช่ เมื่อวานฉันเห็นองค์หญิงของพวกเราใช้พลังต่อสู้กับพวกนักเลงที่ตลาด" ลินดาเป็นคนตอบ เด็กนักเรียนคนอื่นๆ จึงทำตาลุกวาวเป็นประกาย

    "ไอ้พวกนั้นมันพยายามจะมาหาเรื่องเรา แต่โชคดีที่ตอนนั้นเอมิลี่อยู่ด้วย พอมันเห็นพลังของเอมิลี่ พวกนักเลงก็วิ่งหนีหางจุกตูดเลย ฮ่าๆ" เสียงหัวเราะชอบใจจากคนกลุ่มนั้นดังขึ้นเมื่อเอ็มม่าเล่าถึงวีรกรรมต่างๆ ของพวกนักเลง ก่อนจะจบด้วยการโดนเอมิลี่จัดการ

    ผมจึงชำเลืองตาไปมองเอมิลี่ก็เห็นว่ายัยนั่นนั่งเชิดหน้าพร้อมกับคลี่ยิ้มภูมิใจ ที่มีคนรู้สึกตื่นเต้นกับพลังของเธอ

    "แต่โรงเรียนเรามีกฎว่าห้ามใช้พลังตอนอยู่นอกรั้วโรงเรียนไม่ใช่หรอ" เด็กผู้หญิงถาม เอมิลี่กับเพื่อนจึงหน้าถอดสีก่อนจะบอกว่า

    "ถ้าโดนรังแกไม่นับ" เอมิลี่ตอบก่อนจะเหลือบตามองมาทางผม "ก็ในเมื่อพวกมันไม่รู้จักหัวนอนปลายเท้าก็สมควรแล้วล่ะที่โดนแบบนี้"

    เสียงหัวเราะดังขึ้นอย่างชอบใจ ผมจึงทำเป็นไม่สนใจคนพวกนั้น ผ่านไปหลายนาทีศาสตราจารย์นิโคลัสก็เปิดประตูเข้ามา ทำให้เสียงเจี๊ยวจ๊าวภายในห้องเรียนเงียบสงบ เขากล่าวทักทายนักเรียนจบ ก็พูดถึงเรื่องการฝึกซ้อมและการแข่งขันในอีกไม่กี่วันข้างหน้า

    "พวกเจ้าก็รู้ดี ว่าการจะเป็นคนของพระราชาไม่ใช่เรื่องง่าย ในหนึ่งปีมีจะมีเพียงแค่ห้าคนเท่านั้นที่จะถูกส่งตัวไปในวัง และจากนั้นก็จะไปแข่งขันในวังเพื่อเลื่อนยศ"

    ทุกคนต่างนิ่งเงียบตั้งใจฟังสิ่งที่ศาสตราจารย์กล่าว เพราะความสงสัยผมจึงยกมือขึ้น ทุกคนในห้องเรียนจึงมองผมด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยคำถาม

    "สงสัยอะไรหรือมินอา"

    "ทำไมทุกคนถึงอยากเป็นคนของพระราชาละคะ" หลังถามคำถามนี้ออกไปทุกสายตาก็เบิกโพลง

    "........"

    "อะไรกัน เธอเข้ามาเพราะเส้นใหญ่จริงๆ สินะ" เอ็มม่าทำเสียงเยาะ

    "ใครกันที่เป็นเส้นสายให้คนไร้พลังอย่างยัยนั่น ช่างโง่เง่าที่ส่งคนไม่มีหัวนอนปลายเท้าเข้ามาที่วูโบเนีย" เอมิลี่มองผมด้วยสายตาสมเพช ก่อนจะมีเสียงซุบซิบมากมายตามมา 

    "เป็นคำถามที่ดี" ท่ามกลางเสียงของนักเรียนคนอื่นๆ ดังไปทั่วห้อง ศาสตราจารย์ก็เอ่ยขึ้นทำให้ทุกคนหุบปากของตัวเองแล้วกลับมาสนใจศาสตราจารย์อีกครั้ง "มินอา เจ้าคิดว่าพระราชามีไว้เพื่ออะไร"

    ผมอึ้งกับคำถามที่ศาสตราจารย์ถามกลับมา ก่อนจะตอบความคิดของตัวเองออกไปอย่างไม่คิด "ผมคิดว่าพระราชาเป็นสิ่งมีชีวิตที่เหมือนกับยุง"

    ทุกคนในห้องตกใจกับคำตอบของผมรวมไปถึงศาสตราจารย์ด้วย 

    "เขาต้องสูบเลือดจากชาวบ้านเพื่อให้ตัวเองมีชีวิต แต่ขณะเดียวกันก็ต้องระวังว่าตัวเองจะโดนตีตายวันไหน" ในตอนนั้นผมคิดว่าทุกคนในห้องจะพากันลุกขึ้นมาด่าประณามผม ที่พูดเรื่องนี้ออกมา บางทีหัวผมอาจจะหลุดออกจากบ่าวันนี้ก็ได้ ทำไมเราถึงได้พูดสิ่งที่คิดออกมาอย่างไม่คิดเลยนะ

     

    ......!

    "ฉันจะทำเป็นไม่ได้ยินสิ่งที่เธอพูดก็แล้วกัน" ศาสตราจารย์กล่าวจบก็เดินไปหยิบสมุดเล่มใหญ่เท่ากรอบรูปขึ้นมาถือไว้ข้างเอว จากนั้นก็กล่าวลาพร้อมกับเดินออกไปโดยไม่หันกลับมามองผม

    จังหวะนั้นเองทุกสายตาก็มองผมด้วยสายตาไม่อยากจะเชื่อ ก่อนจะมีเสียงของไอหนุ่มหัวทองเอ่ยขึ้น "เธอพูดแบบนั้นไปได้ยังไง"

    "ฉันไม่ได้ตั้งใจน่ะ" ผมไม่ได้ตั้งใจจริงๆ นะ

    "รู้ไหมว่าศาสตราจารย์คือน้องชายของพระราชาองค์ก่อน" ผมเบิกตาโพลง "หลังจากโลกัสถูกยึดครองจากพวกไนร์ก้า นิโคลัสที่เป็นน้องชายของพระราชาองค์ก่อนจึงถูกส่งตัวมาที่นี่เพื่อคัดสรรนักเรียนที่มีฝีมือส่งไปให้พวกมัน แลกเปลี่ยนกับความปลอดภัยของชาวโลกัส แต่ว่า..."

    "แต่อะไร" 

    "ก็ไม่เคยมีใครได้กลับออกมาจากราชวังสักคน"

    "หมายความว่ายังไง ทำไมถึงไม่มีใครกลับออกมา" ผมขมวดคิ้วเข้าหากัน เจ้าหัวทองนั่นก็ทำหน้าตาจริงจัง 

    "เขาว่ากันว่า บททดสอบก่อนจะได้เข้าไปในวังต้องต่อสู้กับสัตว์เลี้ยงของพระราชา ถ้าหากมีคนรอดไปถึงตัวพระราชา ถึงจะได้ยศนักรบของพระราชา ในรอบสิบปีที่ผ่านมามีคนจำนวนมากถูกส่งตัวไปแต่ก็ไม่เคยมีใครได้เลื่อนยศสักคน"

    "นายพอจะรู้ไหมว่าพวกเขาหายไปไหนกันหมด"

    "ก็ตายน่ะสิ" คนตอบกลับเป็นเสียงจากเด็กสาวอีกคนที่เดินมาร่วมสนทนาด้วย เธอมีรูปร่างผอมบางตัวค่อนข้างเล็ก เส้นผมของเธอออกสีแดงสดและดูดีไม่ต่างจากเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่ง

    "แอนนา เธออย่ามายุ่งได้ไหม" เจ้าหัวทองดุผู้มาใหม่

    "ฉันไม่ได้เข้ามายุ่งสักหน่อย ก็แค่อยากคุยด้วย" เธอตอบก่อนจะยกยิ้มให้ผม นี่เป็นครั้งแรกที่มีคนในห้องยิ้มให้ผมด้วยสายตาเป็นมิตร นั่นจึงทำให้ผมเริ่มหน้าขึ้นสี "เธอโอเคไหมมินอา"

    "อื้อ" เธอเรียกชื่อผมด้วยล่ะ เด็กผู้หญิงคนนี้เป็นอันตรายต่อหัวใจผมจริงๆ "ถ้ารู้ว่าเข้าไปแล้วจะต้องตาย ทำไมถึงมีแต่คนอยากเข้าไปอยู่อีกล่ะ"

    "ความจริงแล้วก็ไม่มีใครอยากไปที่นั่นหรอก แต่คนที่นี่โดนปลูกฝังมาตั้งแต่เด็กเพื่อให้เป็นนักรบ ทุกคนเลยหมกมุ่นแต่กับการเอาชนะ โดยฉะเพราะยัยนั่น" ผู้ชายหัวทองแซะแอนนาอย่างไม่จริงจังนัก เด็กผู้หญิงคนนั้นจึงถลึงตาใส่

    "อย่างน้อยฉันก็เหนือกว่านายนะแจ็ค"

    "เหอะ ก็แค่การฝึกต่อสู้ธรรมดา มาดวลกันวันประลองดีกว่าไหม" ไม่รู้ว่าผมคิดไปเองหรือเปล่าว่าตรงนี้เริ่มมีอากาศมาคุ เด็กหนุ่มกับเด็กสาวยืนจ้องตากันโดยมีผมอยู่ตรงกลาง ในตอนนั้นก็คิดในใจว่าจะห้ามดีไหมนะ 
     

    "อย่าวิ่งหนีหางจุกตูดก่อนล่ะ"

    "เหอะ"

    (  *--)(--*  ) "--!"

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×