ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เกิดใหม่อีกทีกลายเป็นผู้หญิงเฉยเลยครับ

    ลำดับตอนที่ #6 : Ep6 ไอแซ็คสังเกตเห็นการเปลี่ยนไปของมินอา

    • อัปเดตล่าสุด 26 ส.ค. 64


    มนุษยสัมพันธ์ของผู้หญิงคนนี้ไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ ผมจึงใช้การแอบฟังหรือการเผือกอยู่เงียบๆ จึงได้รู้มาว่า โรงเรียนเวทมนตร์แห่งนี้ จะฝึกให้นักเรียนที่มีพลังเวทไปเป็นนักรบหรือคนของพระราชา วูโบเนียคือโรงเรียนเวทมนตร์ที่ใหญ่ที่สุดของโลกเวทมนตร์ ผู้คนที่จะเข้ามาเรียนที่นี่ใช่ว่าคนที่มีเวทมนตร์ทุกคนจะเข้ามาได้

    พวกเขาต้องมีคุณสมบัติมากพอ และต้องมีพรสวรรค์กับความสามารถด้านการใช้เวทหรือการต่อสู้ ผมคิดไม่ออกเลยจริงๆ ว่าผู้หญิงธรรมดาอย่างมินอาทำไมถึงได้เข้ามาเรียนที่โรงเรียนแห่งนี้ได้ หรือจะเป็นเพราะเส้นสายของพ่อแม่ไอแซ็คกันนะ...

    มือข้างขวากำธนูไว้แน่น ส่วนอีกข้างก็จับที่ปลายธนู ผมตั้งท่ามองไปข้างหน้าด้วยสายตาที่มั่นคง พอง้างธนูและเล็งจุดหมายได้แล้ว ผมก็ปล่อยลูกธนูให้ตรงดิ่งไปข้างหน้า แต่ผลปรากฏว่า ลูกธนูแทนที่จะตรงไปที่ต้นไม้ที่อยู่ห่างจากผมประมาณไม่กี่เมตร กับหล่นลงที่พื้นตรงหน้าผมซะงั้น

    "เฮ้อ..." เมื่อเห็นลูกธนูอยู่ที่พื้นตรงปลายเท้า ผมก็ก้มลงไปเก็บด้วยสีหน้าเหนื่อยใจ จากเป็นมนุษย์เงินเดือนกลายมาเป็นนักเรียนที่อยู่ในโรงเรียนเวทมนตร์ที่ใช้เวทไม่ได้ แถมทักษะการต่อสู้หรือความสามารถอะไรก็ไม่มี แล้วแบบนี้ผมจะเอาตัวรอดบนโลกนี้ได้หรอวะ

    ตอนนี้ผมยืนอยู่ในป่าเดอะทีที่อยู่ในรั้วของวูโบเนีย ศาสตราจารย์นิโคลัสสั่งให้พวกเราฝึกใช้อาวุธในมือให้ชิน เพราะอีกไม่กี่สัปดาห์จะมีการสอบการแข่งขันใช้อาวุธเพื่อขึ้นเป็นอันดับหนึ่งของวูโบเนีย ซึ่งแน่นอนว่าผมไม่เคยคิดที่จะเป็นที่หนึ่ง

    "การเป็นคนของพระราชามันดีตรงไหนกัน" ผมพึมพำกับตัวเอง ตั้งใจว่าจะไม่ซ้อมยิงต่อแล้ว

    "เธอก็คิดว่าการเป็นนักรบของพระราชามันไร้สาระเหมือนกันหรอ" ร่างสูงของผู้มาใหม่เดินออกมาจากต้นไม้ใหญ่ที่ผมพยายามทำให้มันเป็นเป้าของธนูในมือ ซึ่งลูกศรของผมก็ไม่เคยไปถึงต้นไม้ต้นนั้นได้เลยสักครั้ง

    "........."

    "ฉันชื่อโอเว่น" ไม่ได้ถามสักหน่อย "เธอ..."

    "มินอา" ผมตอบเขาก่อนจะสังเกตว่าผู้ชายร่างสูงคนนี้หน้าตาคุ้นๆ ผมยืนเพ่งมองเขาอยู่นานก็จำได้ว่าเขาคือคนดังเมื่อวันก่อน ที่เดินไปไหนมาไหนก็จะมีกลุ่มแฟนคลับเดินตาม ชายหัวดำคนนั้นนี่เอง ว่าแต่เขามาทำอะไรในป่า

    "ฉันหลบพวกสาวๆอยู่น่ะสิ ยัยพวกนั้นน่ารำคาญชะมัด"

    "อ้อ" 

    "เธอกำลังฝึกยิงธนูอยู่หรอ"

    "ใช่ แต่ฉันรู้สึกว่าธนูอันนี้ไม่ค่อยเหมาะกับฉันสักเท่าไหร่น่ะ" ผมบอกเขาด้วยน้ำเสียงไม่จริงจังนัก ดังคนไม่แคร์หรือแยแสอะไร

    "ลองตั้งใจใช้มันโดยคิดว่ากำลังปกป้องใครสักคนดู แล้วเธอจะรู้วิธีการใช้มันเอง"

    "......" เขาแนะนำพร้อมกับคลี่ยิ้ม

    "ว่าแต่ทำไมเธอถึงไม่สนใจเป็นคนของพระราชาล่ะ" 

    "นายเคยเห็นพระราชาหรอ" ทำไมถึงเอาแต่ถามเรื่องนี้กันนะ

    "อื้อ"

    "ฉันไม่สนใจเรื่องแบบนั้นหรอก แค่มีชีวิตรอดไปวันๆ แค่นั้นแหละที่ฉันต้องการ" ร่างสูงชำเลืองตามองผม ก่อนจะบอกว่าขอตัวก่อน จากนั้นก็โบกมือลา ผมมองตาแผ่นหลังของเขาที่เดินออกจากป่าด้วยใบหน้านิ่งสงบ ก่อนจะเดินเข้าไปในป่าให้ลึกกว่าเดิม น่าขายหน้าจริง ไม่รู้ว่าหมอนั่นเห็นตอนธนูตกลงพื้นหรือเปล่านะ... อายชะมัด ผมเริ่มหน้าแดงพร้อมกับบ่นตัวเองในใจ เมื่อกี้เก๊กแทบตาย ไอ้บ้าเอ๊ย

     

     

    ไอแซ็ค

    หมาป่าส่งเสียงคำรามก่อนจะแยกเขี้ยวขู่ชายฉกรรจ์ที่ดูน่ากลัว มันพยายามจะปกป้องเด็กสาวที่เป็นเจ้านายของมันโดยด้านหน้าก็มีเหล่าชายทั้งหลายอยู่ในชุดเสื้อหนังสัตว์เนื้อตัวดูสกปรกมอมแมมเล็บดำไร้การดูแลรักษา กลิ่นสาบของพวกมันลอยเข้ามาแตะที่จมูกเด็กสาว เธอจึงแสดงสีหน้ารังเกียจ โจรป่าพยายามจะวิ่งเข้าไปฉุดร่างเด็กผู้หญิงที่มีอายุวัยเพียงสิบห้าปี และในตอนนั้นเองหมาป่าก็กระโจนใส่พวกมันที่กล้าเข้ามาลองดีกับเจ้านายของตัวเอง

    ขณะที่กำลังตั้งใจอ่านหนังสือนวนิยายเล่มโปรดอยู่นั้น ก็มีลูกธนูลอยมาตกที่ขาของผม ตอนแรกมันก็มีดอกเดียว แต่สักพักก็หล่นลงมาอีก รู้สึกตัวอีกทีก็เต็มทั้งสองฝากฝังจนแทบไม่เหลือทางเดิน ผมจึงต้องละสายตาจากหนังสือหันไปมองลูกธนู จากนั้นก็ลุกจากพื้นและเดินออกมาดูโฉมหน้าของคนที่ไร้ฝีมือ

    พอเดินออกมาพ้นต้นไม้ใหญ่ก็เห็นใบหน้าที่คุ้นเคยของมินอา เธอยืนอยู่ในสภาพเงอะงะ โดยที่ในมือก็เล็งธนูมาทางผม เพราะความตกใจที่เห็นผมเดินออกมา เด็กสาวก็ปล่อยลูกธนูให้พุ่งมาตรงหน้าผมอย่างไม่ได้ตั้งใจ ปลายลูกศรเหล็กพุ่งตรงมาตรงหน้า ผมก็เอื้อมมือไปคว้ามันเอาไว้

    "ทีงี้แม่นเฉยเลยวุ้ย" เด็กสาวพึมพำเบาๆ พร้อมกับทำหน้าตกใจเมื่อเห็นผม

    "ของเล่นของเธอมันรบกวนสมาธิฉัน" ผมบอกก่อนจะโยนลุกศรเด็กเล่นไปที่พื้น

    "ของเล่นหรอ" 

    พอรู้ว่าคนตรงหน้าเป็นใครผมก็ตั้งท่าจะเดินหนีเพราะไม่อยากไปยุ่งกับเธอ แต่มินอากลับยกธนูขึ้นมาเล็งใส่ผมอีกครั้ง พอเห็นแบบนั้นผมก็เลิกคิ้วมองพร้อมกับยืนเป็นเป้านิ่งให้ผู้หญิงคนนั้น

    "ฉันจะทำให้นายเห็น ว่าของเล่นชิ้นนี้สามารถฆ่านายได้"

    "......."

    พริบตาเดียวลูกศรจากธนูไม้ธรรมดาก็ลอยเฉียดตัวผมไปไกลหลายเมตร ผมจึงทำหน้าเย้ยหยันใส่เด็กสาว

    "เสียเวลาชะมัด" พูดจบผมก็เดินออกจากเดอะทีไปอย่างผู้ชนะ ปล่อยให้มินอายืนมองผมอย่างเจ็บใจ

    มาพักนี้เธอดูเปลี่ยนไป กล้าต่อล้อต่อเถียง และดูแกร่นขึ้น เธอไม่เคยกล้าแม้แต่จะสบตาผม แต่ตอนนี้กับจ้องมองผมตาไม่กะพริบ ไม่เคยเดินเข้าหาผมก่อนหรือทักผมก่อน เพราะรู้ว่าผมไม่ชอบขี้หน้าเธอ ดังนั้นเธอมักจะตีตัวออกหาก และไม่เคยมายุ่งในชีวิตของผม 

    ตั้งแต่พ่อแม่เสียไปจากการโดนยึดครองเมืองจากพวกไนร์ก้า ผมก็ตั้งใจฝึกซ้อมเพื่อที่จะได้ไปเข้าเฝ้าพระราชา และทำการแก้แค้น พระราชาองค์ก่อนอ่อนปวกเปียกเกินไป เขาไม่แข็งแกร่งพอที่จะปกป้องคนในอาณาจักรโลกัสได้ จึงยอมยกบัลลังก์ให้กับพวกไนร์ก้า ที่เป็นพระราชาในปัจจุบัน

    พอคิดถึงพวกมันแล้วใบหน้าที่เย็นชาตลอดเวลาก็เปลี่ยนเป็นขุ่นมัว นัยน์ตามีแต่ความเครียดแค้น... 

     

     

    เมื่อเดินทางกลับมาที่คฤหาสน์ ผมก็อาบน้ำแต่งตัวก่อนจะลงไปกินอาหารที่ป้าเมย์จัดหาไว้ให้ หลังจากทานเสร็จผมก็ออกมาเดินเล่นที่ด้านหน้าคฤหาสน์ กวาดสายตามองไปรอบด้านก็รู้สึกเหงาและโดดเดี่ยว นานมากแล้วที่ผมใช้ชีวิตอยู่ตัวคนเดียว ถึงแม้ว่าจะมีมินอา แต่ผมก็ไม่เคยมองว่าเธอเป็นคนในครอบครัวเลยสักครั้ง

    เพราะนิสัยยอมคนและทำตัวอ่อนต่อโลกของเธอมันทำให้ผมหงุดหงิด ทั้งๆ ที่โดนแกล้งขนาดนั้นกับเอาแต่นั่งเฉย พอผมได้เห็นเธอเป็นแบบนั้นผมจึงยิ่งเกลียดเธอเข้าไปใหญ่

    "แกเองก็คิดแบบฉันใช่ไหมล่ะ" ขาของผมหยุดชะงักเมื่อได้ยินเสียงเด็กสาวดังมาจากมุมหนึ่ง พอหันไปดูก็พบว่าเธอกำลังนั่งคุยกับอะไรบางอย่างอยู่ที่ริมกำแพง เพราะความอยากรู้ ผมจึงก้าวขาเดินไปหยุดทางด้านหลังก็ได้ยินเสียงแหลมเล็กได้ชัดเจนมากกว่าเดิม "ฉันคิดไว้แล้วล่ะ ว่าจะเอามีดไปปาดคอหมอนั่นตอนที่เขาหลับ จากนั้นก็ยึดครองบ้านหลังนี้ซะเลย ฮ่าๆ"

    "......" ยัยนี่

    "อะไรนะ เป็นความคิดที่ดีหรอ ฮ่าๆ" เธอดูสดใสร่าเริงขณะที่พูดเรื่องการฆาตกรรมหรือจะยึดบ้านโดยไม่รู้ตัวเลยว่าคนที่เธอคิดจะฆ่าปาดคอยืนอยู่ทางด้านหลัง

    "ถ้าฉันเป็นนักฆ่า เธอคงตายไปตั้งแต่วินาทีแรกแล้ว"

    "เอ๊ะ" ผีเสื้อสีสันสดใสบินออกไปจากตรงนี้ ตามด้วยมินอาที่กำลังตกใจหันมามองผมด้วยใบหน้าซีดเผือด

    "......."

    "คะ...คือว่า เมื่อกี้ไม่ได้พูดเรื่องจะยึดครองบ้านนายเลยนะ ไม่เคยคิดเลยสักครั้ง" หน้าด้านจริงๆ

    "ฉันยังไม่ได้ว่าอะไรเลย" 

    "แฮะๆ อย่าเก็บไปใส่ใจเลยนะคุณชาย" เธอหัวเราะแห้งพร้อมกับเกลี้ยกล่อมผม "จริงสิ พึ่งจะเคยเห็นคุณไม่ใส่เครื่องแบบครั้งแรก"

    "ครั้งแรก?" 

    "เอ่อ" เธอมีท่าทีเลิ่กลั่กก่อนจะแก้ตัวว่า "หมายถึงนานที จะเห็นคุณแต่งตัวแบบนี้ มันเลยรู้สึกแปลกๆ ไง"

    ผมมองสำรวจชุดตัวเองก็พบว่าเป็นชุดเสื้อผ้าสบายตัวเนื้อบาง ที่ผมใส่ประจำตอนที่อยู่บ้าน 

    "ขอถามอะไรหน่อยได้ไหม"

    "......" 

    "อาวุธประจำตัวนายคืออะไรหรอ"

    "เธอจะลอบฆ่าฉันจริงๆ สินะ" ผมถามไปอย่างนั้น เด็กสาวก็ทำหน้าตกใจพร้อมอธิบายว่า

    "ถึงแม้ว่าฉันจะคิดแบบนั้น แต่ก็ไม่คิดจะทำจริงๆ สักหน่อย ถึงจะรู้สึกหมั่นไส้ และเกลียดนิสัยของนายที่ชอบทำตัวหยิ่งยโส แต่ฉันก็ฆ่านายไม่ลงหรอก" ผมยังคงมองมินอาด้วยใบหน้านิ่งเรียบ "ฉันแค่สงสัย ก็เห็นตอนที่เขาเลือกอาวุธกัน ไม่เห็นนายจะได้อาวุธอะไรกับเขาเลย อย่าบอกนะ ว่าอาวุธไม่เลือกนายน่ะ"

    "นี่เธอไม่รู้จริงๆ หรอ" ดวงตาคมหรี่มองเด็กสาวตรงหน้าก่อนจะถามย้ำว่า "เธอเป็นใครกันแน่"

    "......."

    ทำไมถึงทำตัวไม่เหมือนมินอา นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเราสนทนากันยาวขนาดนี้ แม้ว่าเราสองคนจะไม่ถูกกัน แต่ไม่มีทางที่เธอจะไม่รู้เรื่องอาวุธประจำกายของผม 

    "ฉันขอตัวก่อนนะ ต้องรีบกลับไปทำการบ้านน่ะ" พูดจบมินอาก็วิ่งหนีเข้าไปในคฤหาสน์ ทำให้ผมยืนมองเธอด้วยสีหน้าแปลกใจ 

    "แล้วการบ้านคืออะไร..."

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×