ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เกิดใหม่อีกทีกลายเป็นผู้หญิงเฉยเลยครับ

    ลำดับตอนที่ #4 : Ep4 ไดอารี่ของมินอา

    • อัปเดตล่าสุด 24 ส.ค. 64


    "เอาล่ะ วันนี้เราจะมาเรียนเมจิเคิลเปลี่ยนให้สิ่งของธรรมดาพวกนี้กลายเป็นสิ่งมีชีวิต" ผมตั้งใจมองสิ่งที่ครูกำลังทำ เธอหยิบดินสอขึ้นมาถือไว้ในมือจากนั้นก็พูดต่อว่า "ตั้งจิตให้แน่วแน่ แล้วนึกถึงสิ่งมีชีวิตตัวเล็กๆ เป็นสัตว์ชนิดไหนก็ได้"

    เพียงพริบตาเดียว ดินสอในมือของเธอก็หายไปก่อนจะมีหนูสีขาวตัวเล็กขยับตัวดุ๊กดิ๊กอยู่บนนั้น ที่นี่เป็นโลกเวทมนตร์จริงๆ สินะ ขณะที่กำลังอึ้งกับสิ่งตรงหน้า เด็กนักเรียนคนอื่นก็เริ่มเสกให้ยางลบกลายเป็นแมว บางคนก็ได้หนูบ้านมาแทน หรือไม่ก็กระรอกหลากหลายสายพันธุ์ บางคนก็ได้สัตว์หน้าตาแปลกประหลาด ผมจึงชำเลืองตาไปมองคนหัวเงิน ก็พบว่าหมอนั่นเอาแต่นั่งอ่านหนังสือ ไม่เห็นจะสนใจการเรียนตรงไหน

    ดังนั้นผมจึงหยิบดินสอของตัวเองขึ้นมาบ้าง เอาล่ะ... ตั้งจิตให้แน่วแน่ แล้วนึกถึงสิ่งมีชีวิตตัวเล็กๆ อื้ม แล้วสิ่งมีชีวิตตัวเล็ก มันมีอะไรบ้างฟะ มด ผึ้ง ปลวก ทำไมมันถึงได้มีเยอะแยะไปหมด 

     

    ตู้มมมมมมม.....

     

    ท่ามกลางเสียงตกใจ ควันสีดำขนาดใหญ่ก็ลอยฟุ้งอยู่ล้อมรอบตัวผม เมื่อหันไปมองรอบด้านก็พบว่าทุกสายตากำลังจ้องมาที่ผมรวมถึงครูที่สอนเวทมนตร์คนนั้นด้วย ผมจึงก้มสำรวจตัวเองก็พบว่าเสื้อผ้าเลอะเทอะไปด้วยขี้เถ้า ส่วนดินสอในมือก็แตกกระจายเพราะแรงระเบิดเมื่อครู่

    "ยัยอามิน เธอทำอะไรของเธอเนี่ย" ยัยผู้หญิงผมบอร์นนั่นโวยวาย

    "ไม่มีเวทก็นั่งเฉยๆ ไปสิ จะทำเป็นอยากลองใช้เวททำไม"

    "ไม่รู้จักเจียมตัวเลยว่ะยัยนั่น" ฮ่าๆ

    เสียงเยอะเย้ยของทุกคนเริ่มดังขึ้น ก่อนจะมีเสียงครูบอกให้ผมออกไปล้างเนื้อล้างตัว ขณะที่กำลังตั้งท่าจะลุกเดิน หางตาของผมก็ไปสะดุดเข้ากับชายหัวเงินที่กำลังยิ้มมุมปากอย่างสะใจ

     

     

    กลับมาถึงบ้าน ผมก็พยายามหาทางติดต่อพระเจ้าหรือเจ้ายมทูตนั่น แต่ก็ไม่มีสัญญาณตอบรับ หรือวี่แววของพวกเขาเลยสักนิด 

    ผมจึงเดินออกมาที่หน้าคฤหาสน์หลังใหญ่ ในลานกว้างของสนามหญ้ามีแสงไฟจากคฤหาสน์ส่องให้แสงสว่างเพียงริบหรี่ ตั้งแต่มาที่นี่ก็ยังไม่เคยเห็นใครนอกจากผู้ชายคนนั้นกับคุณป้าแม่บ้านคนเมื่อเช้า

    "นี่ ตาแก่" เสียงแหลมเล็กของเด็กผู้หญิงดังไปทั่วบริเวณสนามหญ้า โดยที่ใบหน้าของผมก็แหงนขึ้นไปมองบนฟ้า "ผมรู้ว่าพวกคุณได้ยินผมนะเฮ้ย"

    พระเจ้าก็พระเจ้าเถอะ มาทำให้คนอื่นเขาเดือดร้อนมันไม่เกินไปหน่อยหรอฟะ ผมโวยวายอยู่นานจนในที่สุดก็มีร่างของชายแก่ที่นุ่งขาวห่มขาวปรากฏขึ้น 

    "มาสักทีนะ"

    "ที่จริงพระเจ้าอย่างข้าไม่ใช่จะลงมาหาใครง่ายๆ หรอกนะ"

    "อย่ามาทำเป็นพูดดีเลยเหอะ ไอ้ร่างนี้มันคืออะไรกัน" ผมถามเขาโดยที่ตัวเองก็อยู่ในร่างของเด็กสาว ชุดที่สวมใส่ก็เป็นยูนิฟอร์มเครื่องแบบนักเรียน 

    "เจ้าไม่ชอบรึ"

    "ชอบกับผีเส้ เอาร่างเดิมผมคืนมาไม่ได้หรือไง มันลำบากนะโว้ยที่ต้องมาเป็นผู้หญิง ถ้าจะเอาร่างผู้หญิงมาให้ก็ขอคนที่มันรวยๆ หน่อย ไม่ใช่ยาจกแบบยัยนี่" แถมมีคนเกลียดมากมายอีกต่างหาก

    "ไม่ได้"

    "ฮะ" 

    "โลกเดิมของเจ้าการเปลี่ยนถ่ายอวัยวะยังต้องหาคนที่มียีนเหมือนกันถึงจะเปลี่ยนได้ใช่หรือไม่"

    "......." ทำไมมีเรื่องการแพทย์เข้ามาล่ะเฮ้ย

    "การเปลี่ยนร่างของเจ้าก็เช่นกัน"

    "เอ๋"

    "ผู้หญิงคนนี้เลือกที่จะตายเอง ส่วนเจ้าก็เลือกที่จะเกิดใหม่ เพราะฉะนั้นก็จงยอมรับมันซะ"

    "ไอ้คนไม่โดนเองก็พูดได้ดิเฮ้ย นี่ตูเป็นพระเอกนะ"

    "อ้อ อีกเรื่อง" ผมเลิกคิ้วมองและตั้งใจฟังสิ่งที่เขาพูด "ห้ามให้ใครรู้เป็นอันขาดว่าเจ้าไม่ใช่เจ้าของร่างเดิม"

    "ทำไมล่ะ" 

    "นี่มันโลกเวทมนตร์นะ ถ้าพวกนั้นรู้เข้าละก็เจ้าคงจะไม่ได้มีชีวิตยืนยาวจนครบอายุขัย"

    "โหดร้ายชะมัด" ก่อนที่ตาแก่นั่นจะวาร์ปหายไป ผมก็ถามอีกคำถามขึ้นมา "ถ้าผมมาอยู่ในร่างนี้ แล้วผู้หญิงคนนี้เธอไปอยู่ที่ไหนล่ะครับ"

    "เธอได้ลงไปรับโทษที่ฆ่าตัวตายแล้วล่ะ ไม่ต้องเป็นห่วงร่างนี้จะเป็นของเจ้าไปตลอดชีวิต"

    "อย่าตอกย้ำได้ไหมฟะ" 

    "พอเห็นเจ้ามาอยู่ในร่างนี้มันก็รู้สึกแปลกๆพิลึก โฮะๆๆ!!" สิ้นเสียงหัวเราะชายแก่ผู้นั้นก็จางหายไปในอากาศ ทำให้ผมที่ยิ่งได้คำตอบรู้สึกเครียดกว่าเดิม แต่ยังไงก็เถอะ ผมต้องอยู่ในร่างนี้ไปตลอดจริงเหรอเนี่ย

    หลังจากที่คุยกับพระเจ้าเสร็จผมก็เดินกลับเข้ามาในคฤหาสน์ ภายในถูกตกแต่งอย่างหรูหรา พอถึงในครัวก็ได้กลิ่นที่ไม่คุ้นเคยจากชาต่างถิ่น 

    ถึงแม้ว่าสถานะจะไม่ได้ต่างจากชาติที่แล้วนัก แต่มันก็ดีกว่าการทนอาศัยอยู่ในห้องเช่าโทรมๆ ในตัวเมือง แถมการเดินทางไปทำงานก็ลำบากเพราะรถติด ต่างจากที่นี่ที่การเดินไปเรียนไม่ต้องเร่งรีบเหมือนกับตอนไปทำงาน 

    ใช้เวลาไม่นานผมก็เดินกลับเข้ามาในห้องนอนของเจ้าของร่าง และเริ่มทำการสำรวจสิ่งของภายในห้อง สังเกตเห็นว่าห้องนอนมีขนาดเล็กแต่ก็ไม่ได้แคบเกินไปสำหรับผู้หญิง

    ขณะที่กำลังเดินดูสิ่งของน้อยชิ้นของมินอา ผมก็ไปเจอเข้ากับสมุดเล่มหนึ่ง เป็นสมุดจดบันทึกขนาดเท่าสมุดเรียน แต่หน้าปกของหนังสือเป็นสีแดงสด 

    นิ้วมือเรียวเล็กของผมจึงหยิบมันขึ้นมาเปิดดู ก็พบว่าด้านในมีเนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องราวชีวิตของเธอ หรืออีกโลกหนึ่งเรียกว่าไดอารี่

    เนื้อความด้านในเขียนด้วยตัวบรรจง ภาษาของที่นี่ไม่ต่างจากโลกเดิมของผมเสียเท่าไหร่ ดังนั้นการอ่านเขียนหรือพูดจึงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับผม

    หน้าแรกหญิงสาวบรรยายถึงตัวเอง ว่าเธอเกิดมาเพราะความผิดพลาด พ่อแม่จึงไม่ต้องการเธอ ตอนแรกที่เธอเกิดมา พวกท่านตั้งใจจะฆ่าเจ้าของร่างนี้ตั้งแต่เธอยังเด็ก

    "แต่พอเห็นรอยยิ้มไร้เดียงสาจากฉันพวกเขากลับวางฉันลงที่หน้าคฤหาสน์หลังนี้ จากนั้นก็พากันหนีหายไปตลอดกาล"

    ที่แท้เธอก็ถูกเอามาวางทิ้งไว้เองสินะ...

    ผมอ่านต่อไปนิดหน่อยจึงรู้แล้วว่าทำไมคุณชายของบ้านถึงได้รังเกียจเจ้าของร่างนี้นัก เป็นเพราะพ่อแม่ของเขารับเลี้ยงมินอาเหมือนดังลูกในไส้ ซึ่งพวกท่านอยากมีลูกสาวอยู่แล้วพอได้เก็บสาวน้อยน่ารักผู้นี้มาเลี้ยงดูจึงรู้สึกราวกับว่าได้ลูกสาวมาเพิ่มอีกหนึ่งคน เพราะว่ามีลูกยากจึงมีแค่เจ้าหัวเงินนั่นคนเดียว

    ไอแซคไม่ค่อยชอบมินอาเสียเท่าไหร่ เพราะเด็กสาวมักจะได้ความรักความเอาใจใส่จากพวกท่านเสียมากกว่า ซึ่งความจริงแล้วพวกเขาแค่รู้สึกสงสารจึงเอ็นดูเป็นพิเศษ

    เขาคนนั้นเคยได้ความรักจากพ่อแม่มาโดยตลอด พอมีสมาชิกใหม่เข้ามาจึงรู้สึกเหมือนโดนแย่งความรักไป ตั้งแต่นั้นเขาก็เกลียดเธอมาโดยตลอด พอเด็กสาวเริ่มโตขึ้น ก็พบว่าตัวเองไร้พลังเวท ทั้งที่คนอื่นพลังเวทตื่นตัวตั้งแต่อายุ 8 ขวบกันเสียส่วนใหญ่ มีบ้างบางคนที่พลังมักจะมาช้า แต่มาช้าสุดก็แค่อายุ 15 ปี แต่ตอนนี้มินอามีอายุครบ 18 ปีแล้ว แต่พลังของเธอก็ไม่เคยตื่นเลย

    ดังนั้นคนไร้พลังจึงเป็นที่น่ารังเกียจและโดนดูแคลนไม่ต่างจากชาวบ้านธรรมดาในแถบชานเมือง นี่จึงเป็นสาเหตุให้เด็กสาวเป็นที่น่ารังเกียจและเป็นตัวประหลาดสินะ

    แต่มันไม่ไร้สาระไปหน่อยหรอ คิดว่ายัยนี่จะชอบไปทำร้ายคนอื่น หรือเป็นนางมารร้ายเสียอีก... มันไม่ถูกต้อง ถึงจะเป็นคนธรรมดาก็เป็นคนเหมือนกัน

    เจ้าเด็กพวกนั้นวิเศษวิโสแล้วยังไง ก็ไม่มีสิทธิ์เอาพลังที่วิเศษมารังแกผู้ที่อ่อนแอกว่า พออ่านมาถึงตรงนี้ผมก็เริ่มกำหมัดเมื่อได้รู้ว่าสิ่งที่มินอาเจอมันไม่ยุติธรรม 

    แต่ยังไงก็เถอะ เธอไม่ควรถอดใจ ไม่ควรจากโลกนี้ไปเพราะเหตุผลบ้าๆพวกนี้ พึมพำในใจก็เดินมายืนอยู่หน้ากระจก ผมมองเจ้าของร่างในชุดนักเรียนด้วยสายตาหนักแน่นก่อนจะบอกกับเจ้าของร่างนั้นว่า

    "ฉันจะทำให้เธอเห็นเอง ว่าคนไร้พลังอย่างเธอไม่ได้ต่ำต้อยกว่าคนพวกนั้นเลยแม้แต่น้อย"

     

     

     

     

     

     

     


     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×