คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : Ep4 ไดอารี่ของมินอา
"เอาล่ะ วันนี้เราจะมาเรียนเมจิเคิลเปลี่ยนให้สิ่งของธรรมดาพวกนี้กลายเป็นสิ่งมีชีวิต" ผมตั้งใจมองสิ่งที่ครูกำลังทำ เธอหยิบดินสอขึ้นมาถือไว้ในมือจากนั้นก็พูดต่อว่า "ตั้งจิตให้แน่วแน่ แล้วนึกถึงสิ่งมีชีวิตตัวเล็กๆ เป็นสัตว์ชนิดไหนก็ได้"
เพียงพริบตาเดียว ดินสอในมือของเธอก็หายไปก่อนจะมีหนูสีขาวตัวเล็กขยับตัวดุ๊กดิ๊กอยู่บนนั้น ที่นี่เป็นโลกเวทมนตร์จริงๆ สินะ ขณะที่กำลังอึ้งกับสิ่งตรงหน้า เด็กนักเรียนคนอื่นก็เริ่มเสกให้ยางลบกลายเป็นแมว บางคนก็ได้หนูบ้านมาแทน หรือไม่ก็กระรอกหลากหลายสายพันธุ์ บางคนก็ได้สัตว์หน้าตาแปลกประหลาด ผมจึงชำเลืองตาไปมองคนหัวเงิน ก็พบว่าหมอนั่นเอาแต่นั่งอ่านหนังสือ ไม่เห็นจะสนใจการเรียนตรงไหน
ดังนั้นผมจึงหยิบดินสอของตัวเองขึ้นมาบ้าง เอาล่ะ... ตั้งจิตให้แน่วแน่ แล้วนึกถึงสิ่งมีชีวิตตัวเล็กๆ อื้ม แล้วสิ่งมีชีวิตตัวเล็ก มันมีอะไรบ้างฟะ มด ผึ้ง ปลวก ทำไมมันถึงได้มีเยอะแยะไปหมด
ตู้มมมมมมม.....
ท่ามกลางเสียงตกใจ ควันสีดำขนาดใหญ่ก็ลอยฟุ้งอยู่ล้อมรอบตัวผม เมื่อหันไปมองรอบด้านก็พบว่าทุกสายตากำลังจ้องมาที่ผมรวมถึงครูที่สอนเวทมนตร์คนนั้นด้วย ผมจึงก้มสำรวจตัวเองก็พบว่าเสื้อผ้าเลอะเทอะไปด้วยขี้เถ้า ส่วนดินสอในมือก็แตกกระจายเพราะแรงระเบิดเมื่อครู่
"ยัยอามิน เธอทำอะไรของเธอเนี่ย" ยัยผู้หญิงผมบอร์นนั่นโวยวาย
"ไม่มีเวทก็นั่งเฉยๆ ไปสิ จะทำเป็นอยากลองใช้เวททำไม"
"ไม่รู้จักเจียมตัวเลยว่ะยัยนั่น" ฮ่าๆ
เสียงเยอะเย้ยของทุกคนเริ่มดังขึ้น ก่อนจะมีเสียงครูบอกให้ผมออกไปล้างเนื้อล้างตัว ขณะที่กำลังตั้งท่าจะลุกเดิน หางตาของผมก็ไปสะดุดเข้ากับชายหัวเงินที่กำลังยิ้มมุมปากอย่างสะใจ
กลับมาถึงบ้าน ผมก็พยายามหาทางติดต่อพระเจ้าหรือเจ้ายมทูตนั่น แต่ก็ไม่มีสัญญาณตอบรับ หรือวี่แววของพวกเขาเลยสักนิด
ผมจึงเดินออกมาที่หน้าคฤหาสน์หลังใหญ่ ในลานกว้างของสนามหญ้ามีแสงไฟจากคฤหาสน์ส่องให้แสงสว่างเพียงริบหรี่ ตั้งแต่มาที่นี่ก็ยังไม่เคยเห็นใครนอกจากผู้ชายคนนั้นกับคุณป้าแม่บ้านคนเมื่อเช้า
"นี่ ตาแก่" เสียงแหลมเล็กของเด็กผู้หญิงดังไปทั่วบริเวณสนามหญ้า โดยที่ใบหน้าของผมก็แหงนขึ้นไปมองบนฟ้า "ผมรู้ว่าพวกคุณได้ยินผมนะเฮ้ย"
พระเจ้าก็พระเจ้าเถอะ มาทำให้คนอื่นเขาเดือดร้อนมันไม่เกินไปหน่อยหรอฟะ ผมโวยวายอยู่นานจนในที่สุดก็มีร่างของชายแก่ที่นุ่งขาวห่มขาวปรากฏขึ้น
"มาสักทีนะ"
"ที่จริงพระเจ้าอย่างข้าไม่ใช่จะลงมาหาใครง่ายๆ หรอกนะ"
"อย่ามาทำเป็นพูดดีเลยเหอะ ไอ้ร่างนี้มันคืออะไรกัน" ผมถามเขาโดยที่ตัวเองก็อยู่ในร่างของเด็กสาว ชุดที่สวมใส่ก็เป็นยูนิฟอร์มเครื่องแบบนักเรียน
"เจ้าไม่ชอบรึ"
"ชอบกับผีเส้ เอาร่างเดิมผมคืนมาไม่ได้หรือไง มันลำบากนะโว้ยที่ต้องมาเป็นผู้หญิง ถ้าจะเอาร่างผู้หญิงมาให้ก็ขอคนที่มันรวยๆ หน่อย ไม่ใช่ยาจกแบบยัยนี่" แถมมีคนเกลียดมากมายอีกต่างหาก
"ไม่ได้"
"ฮะ"
"โลกเดิมของเจ้าการเปลี่ยนถ่ายอวัยวะยังต้องหาคนที่มียีนเหมือนกันถึงจะเปลี่ยนได้ใช่หรือไม่"
"......." ทำไมมีเรื่องการแพทย์เข้ามาล่ะเฮ้ย
"การเปลี่ยนร่างของเจ้าก็เช่นกัน"
"เอ๋"
"ผู้หญิงคนนี้เลือกที่จะตายเอง ส่วนเจ้าก็เลือกที่จะเกิดใหม่ เพราะฉะนั้นก็จงยอมรับมันซะ"
"ไอ้คนไม่โดนเองก็พูดได้ดิเฮ้ย นี่ตูเป็นพระเอกนะ"
"อ้อ อีกเรื่อง" ผมเลิกคิ้วมองและตั้งใจฟังสิ่งที่เขาพูด "ห้ามให้ใครรู้เป็นอันขาดว่าเจ้าไม่ใช่เจ้าของร่างเดิม"
"ทำไมล่ะ"
"นี่มันโลกเวทมนตร์นะ ถ้าพวกนั้นรู้เข้าละก็เจ้าคงจะไม่ได้มีชีวิตยืนยาวจนครบอายุขัย"
"โหดร้ายชะมัด" ก่อนที่ตาแก่นั่นจะวาร์ปหายไป ผมก็ถามอีกคำถามขึ้นมา "ถ้าผมมาอยู่ในร่างนี้ แล้วผู้หญิงคนนี้เธอไปอยู่ที่ไหนล่ะครับ"
"เธอได้ลงไปรับโทษที่ฆ่าตัวตายแล้วล่ะ ไม่ต้องเป็นห่วงร่างนี้จะเป็นของเจ้าไปตลอดชีวิต"
"อย่าตอกย้ำได้ไหมฟะ"
"พอเห็นเจ้ามาอยู่ในร่างนี้มันก็รู้สึกแปลกๆพิลึก โฮะๆๆ!!" สิ้นเสียงหัวเราะชายแก่ผู้นั้นก็จางหายไปในอากาศ ทำให้ผมที่ยิ่งได้คำตอบรู้สึกเครียดกว่าเดิม แต่ยังไงก็เถอะ ผมต้องอยู่ในร่างนี้ไปตลอดจริงเหรอเนี่ย
หลังจากที่คุยกับพระเจ้าเสร็จผมก็เดินกลับเข้ามาในคฤหาสน์ ภายในถูกตกแต่งอย่างหรูหรา พอถึงในครัวก็ได้กลิ่นที่ไม่คุ้นเคยจากชาต่างถิ่น
ถึงแม้ว่าสถานะจะไม่ได้ต่างจากชาติที่แล้วนัก แต่มันก็ดีกว่าการทนอาศัยอยู่ในห้องเช่าโทรมๆ ในตัวเมือง แถมการเดินทางไปทำงานก็ลำบากเพราะรถติด ต่างจากที่นี่ที่การเดินไปเรียนไม่ต้องเร่งรีบเหมือนกับตอนไปทำงาน
ใช้เวลาไม่นานผมก็เดินกลับเข้ามาในห้องนอนของเจ้าของร่าง และเริ่มทำการสำรวจสิ่งของภายในห้อง สังเกตเห็นว่าห้องนอนมีขนาดเล็กแต่ก็ไม่ได้แคบเกินไปสำหรับผู้หญิง
ขณะที่กำลังเดินดูสิ่งของน้อยชิ้นของมินอา ผมก็ไปเจอเข้ากับสมุดเล่มหนึ่ง เป็นสมุดจดบันทึกขนาดเท่าสมุดเรียน แต่หน้าปกของหนังสือเป็นสีแดงสด
นิ้วมือเรียวเล็กของผมจึงหยิบมันขึ้นมาเปิดดู ก็พบว่าด้านในมีเนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องราวชีวิตของเธอ หรืออีกโลกหนึ่งเรียกว่าไดอารี่
เนื้อความด้านในเขียนด้วยตัวบรรจง ภาษาของที่นี่ไม่ต่างจากโลกเดิมของผมเสียเท่าไหร่ ดังนั้นการอ่านเขียนหรือพูดจึงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับผม
หน้าแรกหญิงสาวบรรยายถึงตัวเอง ว่าเธอเกิดมาเพราะความผิดพลาด พ่อแม่จึงไม่ต้องการเธอ ตอนแรกที่เธอเกิดมา พวกท่านตั้งใจจะฆ่าเจ้าของร่างนี้ตั้งแต่เธอยังเด็ก
"แต่พอเห็นรอยยิ้มไร้เดียงสาจากฉันพวกเขากลับวางฉันลงที่หน้าคฤหาสน์หลังนี้ จากนั้นก็พากันหนีหายไปตลอดกาล"
ที่แท้เธอก็ถูกเอามาวางทิ้งไว้เองสินะ...
ผมอ่านต่อไปนิดหน่อยจึงรู้แล้วว่าทำไมคุณชายของบ้านถึงได้รังเกียจเจ้าของร่างนี้นัก เป็นเพราะพ่อแม่ของเขารับเลี้ยงมินอาเหมือนดังลูกในไส้ ซึ่งพวกท่านอยากมีลูกสาวอยู่แล้วพอได้เก็บสาวน้อยน่ารักผู้นี้มาเลี้ยงดูจึงรู้สึกราวกับว่าได้ลูกสาวมาเพิ่มอีกหนึ่งคน เพราะว่ามีลูกยากจึงมีแค่เจ้าหัวเงินนั่นคนเดียว
ไอแซคไม่ค่อยชอบมินอาเสียเท่าไหร่ เพราะเด็กสาวมักจะได้ความรักความเอาใจใส่จากพวกท่านเสียมากกว่า ซึ่งความจริงแล้วพวกเขาแค่รู้สึกสงสารจึงเอ็นดูเป็นพิเศษ
เขาคนนั้นเคยได้ความรักจากพ่อแม่มาโดยตลอด พอมีสมาชิกใหม่เข้ามาจึงรู้สึกเหมือนโดนแย่งความรักไป ตั้งแต่นั้นเขาก็เกลียดเธอมาโดยตลอด พอเด็กสาวเริ่มโตขึ้น ก็พบว่าตัวเองไร้พลังเวท ทั้งที่คนอื่นพลังเวทตื่นตัวตั้งแต่อายุ 8 ขวบกันเสียส่วนใหญ่ มีบ้างบางคนที่พลังมักจะมาช้า แต่มาช้าสุดก็แค่อายุ 15 ปี แต่ตอนนี้มินอามีอายุครบ 18 ปีแล้ว แต่พลังของเธอก็ไม่เคยตื่นเลย
ดังนั้นคนไร้พลังจึงเป็นที่น่ารังเกียจและโดนดูแคลนไม่ต่างจากชาวบ้านธรรมดาในแถบชานเมือง นี่จึงเป็นสาเหตุให้เด็กสาวเป็นที่น่ารังเกียจและเป็นตัวประหลาดสินะ
แต่มันไม่ไร้สาระไปหน่อยหรอ คิดว่ายัยนี่จะชอบไปทำร้ายคนอื่น หรือเป็นนางมารร้ายเสียอีก... มันไม่ถูกต้อง ถึงจะเป็นคนธรรมดาก็เป็นคนเหมือนกัน
เจ้าเด็กพวกนั้นวิเศษวิโสแล้วยังไง ก็ไม่มีสิทธิ์เอาพลังที่วิเศษมารังแกผู้ที่อ่อนแอกว่า พออ่านมาถึงตรงนี้ผมก็เริ่มกำหมัดเมื่อได้รู้ว่าสิ่งที่มินอาเจอมันไม่ยุติธรรม
แต่ยังไงก็เถอะ เธอไม่ควรถอดใจ ไม่ควรจากโลกนี้ไปเพราะเหตุผลบ้าๆพวกนี้ พึมพำในใจก็เดินมายืนอยู่หน้ากระจก ผมมองเจ้าของร่างในชุดนักเรียนด้วยสายตาหนักแน่นก่อนจะบอกกับเจ้าของร่างนั้นว่า
"ฉันจะทำให้เธอเห็นเอง ว่าคนไร้พลังอย่างเธอไม่ได้ต่ำต้อยกว่าคนพวกนั้นเลยแม้แต่น้อย"
ความคิดเห็น