ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เกิดใหม่อีกทีกลายเป็นผู้หญิงเฉยเลยครับ

    ลำดับตอนที่ #3 : Ep3 สายตาที่ดูแคลน

    • อัปเดตล่าสุด 23 ส.ค. 64


    ใช้เวลาอยู่นานในการหาห้องของตัวเอง ถ้ามีใครสักคนที่ยอมพูดกับผม ป่านนี้ผมคงไปนั่งอยู่ในห้องเรียนแล้วมั้ง ตั้งแต่มาถึงก็ยังไม่เห็นครูสักคน ผมเดินบ่นพึมพำไปรอบปราสาทของโรงเรียนจนมาหยุดที่ทางด้านข้างปราสาท ก็พบชายผมเงินคนเมื่อเช้ากำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ที่ม้านั่ง รอบข้างเงียบสงบไร้ผู้คน 

    ผมมีท่าทีลังเลเล็กน้อย หากเดินเข้าไปถามเขาจะเดินหนีผมเหมือนคนอื่นหรือเปล่า แต่พวกเราอยู่บ้านหลังเดียวกันนะ เขาคงไม่ใจร้ายไส้ระกำขนาดนั้นหรอกมั้ง เอาวะ...

    "นี่" ร่างสูงยังคงนั่งไขว่ห้างอยู่ที่ม้านั่งโดยที่ดวงตาก็จดจ่ออยู่กับตัวหนังสือที่ตนเองกำลังอ่าน "ได้ยินไหม"

    เฮ้ ยกมือขึ้นโบกแต่หมอนั่นกับทำเป็นไม่ได้ยินหรือเห็นผมที่อยู่ตรงหน้าเขาเลย ดังนั้นผมจึงเบะปากใส่เขาเพราะความหมั่นไส้ ร่างสูงจึงตอบกลับโดยที่สายตายังอยู่กับหนังสือในมือ "มีอะไร"

    เขาตอบแล้ว ผมรู้สึกตะลึงเล็กน้อย คิดว่าเจ้าคนเย็นชานี่จะทำเหมือนผมเป็นแมลงตัวหนึ่งเสียอีก "นายพอจะรู้ไหมว่าห้องเรียนฉันอยู่ตรงไหน"

    พูดจบเจ้าของใบหน้าเย็นชาก็ละสายตาจากหนังสือเหลือบมองมาที่ผมด้วยสายตาว่างเปล่า ริมฝีปากของเขาเหยียดตรงมองผมด้วยสายตาเย็นชา

    "คือ ฉันจำห้องของตัวเองไม่ได้น่ะ ไปถามใครก็ไม่มีใครคุยด้วย แฮะๆ" 

    "บอกกี่รอบแล้วว่าอย่าทำเป็นรู้จักฉัน"

    "เอ๊ะ" เขาปิดหนังสือในมือลง ก่อนจะลุกขึ้นยืนประชันหน้ากับผม 

    ไม่รู้ว่าเพราะอะไรเมื่อสบตาคู่นั้นผมก็รู้สึกชาวาบไปทั้งตัว เมื่อเขาก้าวขามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ ร่างกายของผมก็ถอยหลังไปอัตโนมัติ ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไหร่ แผ่นหลังของผมก็ถึงทางตันเมื่อชนเข้ากับกำแพง 

    จังหวะนั้นเองสองมือของเขาก็เอื้อมมายันกำแพงอย่างแรง ผมจึงสะดุ้งเล็กน้อย "ผะ...ผม"

    "ไปให้พ้นหน้าฉันซะ" 

    ".........."

    พอเขาละสายตาตั้งท่าจะเดินออกไปจากตรงนี้ ผมก็พูดขึ้น

    "เหอะ คิดว่าเท่มากมั้งที่ทำแบบนี้" ร่างสูงหยุดชะงัก "จะบอกให้ว่าสมัยนี้สาวๆเขาไม่ชอบคนเย็นชานิสัยหยิ่งผยองกันแล้วเฟ้ย"

    "........"

    "นายมันก็แค่ไอ้คนไม่มีเพื่อนคบ ที่แกล้งทำตัวหยิ่งไม่สนใจใครเพื่อกลบเกลื่อนความเหงาก็เท่านั้นแหละ"

    "เธอว่าไงนะ"

    บ้าจริง ดันหลุดพูดในสิ่งที่คิดออกมาเสียหมด หมอนั่นเป็นเจ้านายเรานี่หว่า ถ้าเกิดเขาไล่ออกจากบ้านจะทำไงละฟะ ก่อนที่ร่างสูงจะเดินกลับมาถึงตัว ผมก็รีบวิ่งหนีกลับไปที่ด้านหน้าของปราสาท ขณะที่กำลังจะก้าวขาขึ้นบันได ใบหน้าของผมก็ไปชนเข้ากับอะไรบางอย่าง เมื่อเงยหน้าขึ้นไปมองก็พบแสงสะท้อนมาจากกรอบแว่นตาบนใบหน้าของเขา ชายร่างสูงผมสีน้ำเงินมองผมตาไม่กะพริบ ดังนั้นผมจึงกล่าวขอโทษขอโพยแล้ววิ่งขึ้นไปด้านบนทันที

     

     

    ราฟ

    "เฮ้อ" ผมนั่งเท้าคางพร้อมกับถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง

    "เป็นอะไรของนาย" เลียมเพื่อนของผมถาม

    "ฉันรู้สึกว่าพลังของฉันกำลังลดลง"

    "พลังของนายเนี่ยนะ" เพื่อนของผมขมวดคิ้วเข้าหากันก่อนจะถามต่อว่า "ทำไมถึงคิดแบบนั้นวะ"

    "ก็เมื่อเช้าน่ะสิ ฉันเจอผู้หญิงคนหนึ่งยืนอยู่ตรงบันได ตอนแรกเธอดูสนใจฉันนะ แต่พอฉันเดินเข้าไปใกล้เธอกลับเดินหนีเฉยเลย"

    "........." ผมถอนหายใจอีกครั้ง "นายแน่ใจนะว่าเธอคือผู้หญิง"

    "แน่ใจดิ เธอใส่กระโปรงนะเว้ย"

    "คนที่มีพลังที่อันตรายต่อผู้หญิงอย่างนายมันสมควรเครียดหรอวะ"

    "........" 

    "ก็ลองไปทดสอบกับผู้หญิงคนนั้นดูอีกครั้งสิ บางทีตอนนั้นพลังในกายอาจไม่เสถียรก็ได้"

    "เออว่ะ"

    "ฉันล่ะอยากจะเห็นหน้าผู้หญิงคนนั้นชะมัดเลย" เลียมกล่าวจบ ผมก็หันหลังไปบอกเพื่อนอีกสองคนที่นั่งอยู่ทางด้านหลัง พร้อมกับสั่งให้พวกมันไปตามหาผู้หญิงคนเมื่อเช้าและเน้นย้ำว่าต้องรู้ให้ได้ว่าเธอชื่ออะไรและอยู่ห้องไหน

     

     

    มินอา

    โชคดีที่พอขึ้นมาเจออาจารย์อยู่ในห้องโถงพอดี เขาเลยบอกทางมาห้องเรียนให้กับผม แต่พอได้เข้ามานั่งในห้องผมกลับรู้สึกอยากออกไปอยู่ข้างนอกเสียมากกว่า รู้สึกอึดอัดชะมัด 

    ตอนที่ผมเดินเข้ามาเสียงเจี๊ยวจ๊าวของคนในห้องก็เงียบลงก่อนจะหันมามองผมด้วยสายตาดูแคลน ผมเลือกเดินไปนั่งที่ด้านริมสุดเพราะรู้สึกอึดอัด แต่พอนั่งลงที่นั่งของตัวเอง คนที่นั่งอยู่ด้านหน้าหรือด้านหลังของผมก็ลุกหนีเดินไปนั่งที่อื่นกันทันที

    บางทีผมก็เริ่มจะรู้ตัวแล้วว่าผู้หญิงคนนี้เป็นที่น่ารังเกียจต่อคนพวกนี้ขนาดไหน ขณะที่กำลังทำเป็นไม่สนใจสายตาพวกนั้น ก็มีหญิงสาวกลุ่มหนึ่งเดินมาจ้องมองผมก่อนจะยกมือขึ้นกอดอก 

    "พวกเราได้กลิ่นสาบอะไรไหม" สาวผมสีบอร์นกล่าวพร้อมกับยกมือขึ้นมาแตะปลายจมูก

    "ฮื๊อ เหม็นเหมือนกลิ่นอะไรเน่าๆ เลยอะแก" เจ้าพวกนั้นทำจมูกฟุตฟิตก่อนจะมาหยุดที่หัวของผม "อี๋ กลิ่นหัวเน่านี่เอง"

    ทุกคนทำหน้าขยะแขยง ผมจึงเลิกคิ้วมองเจ้าพวกนั้นด้วยสายตาไม่เข้าใจ ผู้หญิงพวกนี้ต้องการอะไรกันแน่ และอีกอย่างหัวตูก็สระแล้วนะเฟ้ย

    "เมื่อวานใครนะพูดว่าจะไม่มาเหยียบที่นี่อีก" เด็กสาวผมบอร์นพูดอีกครั้ง ผมจึงถามกลับไปว่า

    "ว่าแต่เธอเป็นใครหรอ เป็นเพื่อนฉันหรือไง"

    "........" ทุกคนเงียบกริบมองผมด้วยสายตาไม่อยากจะเชื่อ บางคนก็นั่งเงียบจ้องมองมาทางพวกเราอย่างตื่นเต้น

    "แกรู้ไหมว่าพูดอะไรออกมา" เด็กสาวที่ทำท่าดมหัวผมเมื่อครู่เอ่ย

    "ถ้าไม่รู้ฉันจะพูดออกมาได้ยังไงล่ะ" 

    "เดี๋ยวนี้ปากเก่งขึ้นนี่ " สาวผมบอร์นกล่าว "คนไร้เวทอย่างเธอไม่มีสิทธิ์มาเสนอหน้าอยู่ที่นี่หรอกนะ"

    กล่าวจบเด็กสาวสองคนที่อยู่ทางด้านหลังของเธอก็เดินมาจับตัวผม พยายามจะลากตัวผมออกไปจากห้อง ผมจึงเหวี่ยงรั้งตัวเองเอาไว้ พร้อมกับโวยวายออกมาเสียงดังลั่น "เป็นเด็กช่างกลหรือไงกันฮะ ถึงมาทำเรื่องปัญญาอ่อนแบบนี้"

    เพราะตอนนี้ผมอยู่ในร่างของเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ จึงมีแรงไม่มากเหมือนแต่ก่อน เด็กสาวทั้งสองคนยังคงลากผมไปกลับพื้น จนมาถึงหน้าประตูห้องเรียน 

    "เลิกทำเรื่องบ้าๆสักทีเหอะ โถ่เว้ย" ผมล่ะหงุดหงิดตัวเองชะมัดที่สู้แรงพวกนั้นไม่ได้ พวกในห้องคนอื่นๆก็ต่างมองมาที่ผมด้วยแววตาสะใจ ก่อนที่ร่างของผมจะถูกเหวี่ยงออกไปทุกคนก็หยุดชะงัก ก่อนที่สายตาจะไปหยุดเข้ากับใครบางคนที่ยืนอยู่หน้าประตู

    หลังจากนั้นคนที่กำลังล็อกแขนของผมก็ผละมือออก จากนั้นก็เดินไปหลบที่ด้านหลังสาวผมบอร์น ก่อนจะได้ยินเสียงของเด็กสาวพึมพำเบาๆ "ราฟ"

    "พวกเธอทำบ้าอะไรกันอยู่" ร่างสูงที่อยู่ทางด้านหลังผมกล่าวเสียงเรียบ ผมจึงพยุงตัวเองขึ้นพร้อมกับปัดฝุ่นที่ชุดกระโปรงไปมา เส้นผมที่สระมาอย่างดีก็ยุ่งเหยิงไปหมด 

    "พวกเราก็แค่จะไล่แมลงหวี่แมลงวันน่ะ" เธอตอบพร้อมกับชำเลืองมองมาที่ผม ดังนั้นเจ้าของหัวผมสีชมพูก็มองมาที่ผม ไม่กี่นาทีต่อมาดวงตาก็เบิกโพลง

    "เธอนี่!"

    "......." อะไรของเขา 

    "นายรู้จักกับเธอด้วยหรอ" 

    "ฉันมาที่นี่เพราะมาหาเธอโดยเฉพาะ" ร่างสูงตอบ ทุกคนในห้องก็ต่างพากันทำหน้าตกใจ 

    "ยัยนี่เนี่ยนะ"

    "มากับฉันหน่อยสิ" ท่ามกลางความสับสน นิ้วมือเรียวของเขาก็ยื่นมาจับที่ข้อมือของผมอย่างแผ่วเบา จากนั้นก็ลากผมออกมาจากห้องเรียนแล้วตรงไปยังชั้นบนของปราสาท ผมไม่เข้าใจว่าเขาเป็นใคร หรือว่าเขาเคยเป็นเพื่อนของยัยนี่กันนะ แต่ผู้ชายอย่างเขาน่ะหรอจะมาเป็นเพื่อนกับคนที่มีแต่คนรังเกียจ

    ไม่กี่นาทีต่อมา ผมก็มายืนอยู่ริมระเบียงกับร่างสูง เขายืนหอบหายใจอยู่ครู่หนึ่งผมก็ถามเขาว่า "เราเป็นเพื่อนกันหรือเปล่า"

    "เพื่อน?" เขาเงยหน้ามองผมพร้อมกับคลี่ยิ้ม "น่าสนใจแฮะ"

    "......."

    "ฉันขอพิสูจน์อะไรหน่อยได้ไหม"

    "เอ๋" 

    "มองตาฉันนะ ตั้งใจมองดีๆ" กล่าวจบก็เอื้อมมือทั้งสองข้างมาเกาะที่หัวไหล่ของผม จากนั้นก็จ้องตามาสบตาของผมด้วยใบหน้านิ่งเรียบ นัยน์ตาสวยคู่นั้นสะท้อนร่างของผมในคราบผู้หญิง ผ่านไปครู่หนึ่งเขาก็เอ่ยถาม "เธอรู้สึกยังไงบ้าง"

    "ฮะ" อะไรฟะ

    "ฉันถามว่ารู้สึกอะไรบ้าง ใจเต้นแรงไหม หรือรู้สึกหวั่นไหวอะไรทำนองนี้"

    "จะบ้าหรือไง ใครเขาจะไปหวั่นไหวกับอีแค่จ้องตา" แล้วอีกอย่างตูเป็นผู้ชายนะเฟ้ย

    "........." 

    "ไร้สาระชะมัดเลย" ผมปัดแขนของเขาออก ก่อนจะเดินกลับไปที่ห้องเรียนของตัวเอง โดยไม่รู้ตัวเลยว่าคนที่ยืนอยู่ทางด้านหลังกำลังทำสีหน้ามึนงงและแปลกใจ

    พอเดินกลับเข้ามาในห้องอีกครั้ง ทุกคนก็มองหน้าผมด้วยสายตาดูแคลนไม่ต่างจากเดิม ขณะที่กำลังจะละสายตาจากคนกลุ่มนั้นผมก็ได้สบตากับเจ้าคนผมเงินอีกครั้ง ในมือของเขายังถือหนังสือเล่มเดิม ทันทีที่ผมสบตากับเขา เจ้าของใบหน้าเย็นชาก็ละสายตากลับไปอ่านหนังสือในมือต่อ ผมจึงเดินกลับไปนั่งที่ของตัวเองโดยไม่สนใจสายตาของคนพวกนั้น

     

     

     

     

     


     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×