คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : บทที่ 3
บาร์เธอร์ที่อดอยากปากแห้งนั่งคีบเส้นราเม็งเข้าปากแล้วเข้าปากอีก เขานั่งซดน้ำซุปจนหมดถ้วยโดยที่ไม่สนใจคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม ถึงจะแอบเกรงใจอยู่บ้าง แต่ความหิวไม่เคยปราณีใคร วันนี้ทั้งวันเขายังไม่ได้มีอาหารลงท้องเลย
“นายก็กินสิ.....” บาร์เธอร์เงยหน้าขึ้นบอกเคนวิลล์ที่เอาแต่นั่งมองตน
“....”
“ถ้านายไม่กิน ฉันกินนะ”
เคนวิลล์พยักหน้าเป็นคำตอบ เมื่อคนตรงหน้าอนุญาตแล้ว คนหน้าหนาก็ยกถ้วยที่มีเส้นราเม็งเต็มชามมาเป็นของตน ผ่านไปไม่กี่นาทีน้ำซุปในชามราเม็งก็หมดเกลี้ยง
“ได้กินราเม็งสักที ปกติกินแต่บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ที่มีแค่เส้นกับน้ำใสๆ” อิ่มแปล้เลย “เราสองคนก็คุยกันมาตั้งนานแล้วฉันว่าเรามาเป็นเพื่อนกันดีไหม จะบอกให้ว่าฉันน่ะมีเพื่อนมากมายเลยนะ มีเยอะมากๆ เลยแหละ” ความจริงแล้วไม่มีสักคน
“เพื่อน? ....” อสูรไทฟอนทำหน้าครุนคิดมองมนุษย์ตรงหน้าอย่างไม่เข้าใจ
“อือออ..”
“เจ้าหมายถึงเพื่อน ที่เป็นมากกว่าคนรู้จักน่ะหรือ? ...”
“ใช่ นายอยากเป็นเพื่อนกับฉันไหมล่ะ” นานเท่าไหร่แล้วนะที่ไม่ได้ยินคำนี้ เคนวิลล์มองบาร์เธอร์ที่ตอนนี้มีใบหน้าของเด็กผู้ชายคนหนึ่งทับซ้อนอยู่ //เจ้าอยากเป็นเพื่อนกับข้าไหม//
“ไม่!! ....” เมื่อมีเสียงของเด็กผู้ชายในอดีตลอยเข้ามาท่าทางของเคนวิลล์ก็เปลี่ยนไป เขาลุกขึ้นยืน มองบาร์เธอร์ด้วยความโกรธ บาร์เธอร์เบิกตาโพลงมองจ้องเข้าไปนัยต์ตาสีรัลติกาลแสนลุ่มลึกที่สั่นไหววูบหนึ่ง
“เฮ้ ไม่เห็นต้องแสดงท่าทีรังเกียจขนาดนั้นเลยนี่” บ้าจริง เราดูน่ารังเกียจขนาดนั้นเลยเหรอฟะ แววตาสงบนิ่งเยือกเย็นหลุบมองบาร์เธอร์ ออร่าอสูรแพร่กระจ่ายไปทั่วร้าน ทำให้ผู้คนที่รับประทานอาหารอยู่รอบข้างรู้สึกสะท้านเย็นวาบไปทั้งตัว จนไม่กล้าตักอาหารเข้าปากกันเลยทีเดียว บาร์เธอร์อึ้งค้างรู้สึกเย็นวาบไปครู่หนึ่งแต่ก็แค่ครู่หนึ่งเท่านั้น ทันทีที่เคนวิลล์หันหลังเพื่อที่จะเดินออกจากร้าน มือหนาของนักเลงก็ยื่นมาคว้าแขนเขาไว้
“นายยังไปไม่ได้” เคนวิลล์หันไปมองบาร์เธอร์ด้วยสายตาว่างเปล่า “ค่าราเม็งล่ะ” คิ้วหนาขมวดเข้าหากันเล็กน้อย อะไรคือค่าราเม็ง ค่าราเม็งคืออะไร หน้าตาเป็นเช่นไร มนุษย์ผู้นี้ต้องการแค่ค่าราเม็งหรือ ข้าจะทำอย่างไรดี
“เอ่อ... คือว่า ช่วยจ่ายเงินด้วยค่ะ” เจ้าของร้านเดินมาทางผู้ชายสองคนที่ตอนนี้ดูเหมือนกำลังจะมีปัญหา
“อย่าบอกนะ ว่านายไม่มีเงิน”
“.....” เคนวิลล์ผู้ไม่รู้จักเงินทำได้แต่ยืนเงียบมองหญิงสาวกับมนุษย์หน้าหนาตรงหน้าสลับกันไปมา
“โธ่เอ๊ย จริง ๆ เลย ที่ทำเป็นโกรธเพราะจะกลบเกลื่อนเรื่องนี้ใช่ไหมล่ะ แต่งตัวก็ออกจะดูดีไม่มีเงินได้ไงฟะ” บาร์เธอร์ปล่อยมือเคนวิลล์ ก่อนจะล้วงกระเป๋ากางเกงเพื่อดูเงินของตัวเอง ไม่นานเขาก็ทำหน้าผิดหวัง
“อุ๊ย...หล่อมากเลย/นั่นพนักงานใหม่เหรอ/งานดีมากถ่ายรูปไปโพสต์อวดดีกว่า” เสียงกล้องและเสียงแฟลชดังเป็นระยะ พร้อมกับเสียงลูกค้าสาวน้อยสาวใหญ่พากันซุบซิบชมพนักงานใหม่
“หมั่นไส้ชะมัด” ฉันก็อยากโดนสาวๆ ชมบ้างเหมือนกันนะ ในขณะที่บาร์เธอร์ต้องมาล้างจานแต่ไอ้หน้าหล่อกับได้ไปนั่งเฉยๆ เรียกลูกค้าอยู่หน้าร้านแทนและใครจะไปคิดว่าหมอนั่นจะทำหน้าที่นี้ได้ดีสะด้วย นี่มันสองมาตรฐานชัดๆ
เคนวิลล์นั่งไขว่ห้างอยู่ที่เก้าอี้หน้าประตูทางเข้าร้านราเม็ง สาวน้อยสาวใหญ่ที่เดินผ่านไปผ่านมาต่างพากันกรูเข้ามาในร้านเพราะหักห้ามใจตัวเองจากใบหน้าหล่อแสนเย็นชานั้นไม่ได้ บางคนก็แวะถ่ายรูปเพื่อโพสต์อวดเพื่อนในโลกออนไลน์ โดยมีเนื้อหาในรูปว่า
[แม่จ๋าหนูเจอเนื้อคู่แล้ว กรี๊ดๆ(รูปภาพ)]
[เป็นชายที่มีหน้าตางดงามที่สุดเท่าที่ฉันเคยเจอมาทั้งชีวิตเลย(รูปภาพ)]
[พระเจ้า แบบนี้เขาเรียกว่ารักแรกพบหรือป่าวนะ(รูปภาพ)] พวกเธอจะรู้ไหมนะว่าชายหนุ่มที่พวกเธอตกหลุมรักเขาเป็นสิ่งมีชีวิตที่อันตรายที่สุดในโลกนี้แล้ว
ไม่นานรูปภาพก็ถูกแชร์ส่งต่อกันไปในหมู่มนุษย์ที่คลั่งไคล้ชายหนุ่มหน้าตาดี มีหลายคอมเม้นรู้สึกอิจฉาที่พวกเธอได้ถ่ายรูปคู่กับหนุ่มหล่อ ถึงแม้ว่าชายในรูปจะนั่งไขว่ห้างอยู่บนเก้าอี้ เขาดูหยิ่งทะนง สีหน้าท่าทางเย็นชาดุจเจ้าชายที่โดนแช่แข็งอยู่ท่ามกลางหิมะที่เหน็บหนาว แม้ผู้คนมากมายจะแสดงอาการอยากใกล้ชิดและสัมผัสเขาสักแค่ไหนเคนวิลล์ก็ไม่มีปฏิกิริยาใดตอบสนองกลับเลยแม้แต่น้อย
สมาคมนิยมคนหน้าตาดี : [เป็นชายที่มีหน้าตางดงามที่สุดเท่าที่ฉันเคยเห็นมาทั้งชีวิตเลย(รูปภาพ)] โพสต์เมื่อ 25 นาทีที่แล้ว มีการแชร์แล้ว 1,809 ครั้ง
หลังจากได้ทำงานที่ร้านราเม็งโดยไม่ได้ตั้งใจ เคนวิลล์กับบาร์เธอร์ก็เดินออกจากร้านมาพร้อมกัน มนุษย์หนุ่มหงุดหงิดอยู่ในใจนิดหน่อย ไม่คิดเลยว่าผู้ชายที่แต่งตัวดูดีคนนี้จะเป็นยาจก ให้ตายสิ เรานี่ตาต่ำชะมัด นี่คงเป็นที่มาของสุภาษิตที่ว่าดูคนอย่าดูที่ภายนอก บางคนแต่งตัวดูดีก็อาจจะไม่ได้รวย ส่วนคนที่แต่งตัวจนๆ เขาอาจจะจนจริงๆ ก็ได้ อย่างเช่นตัวผมเองเป็นต้น นักเขียน : (เดี๋ยวสิมันมีสำนวนนี้ที่ไหนกันบาร์เธอร์)
“จะบ้าตาย” บาร์เธอร์หันไปมองเคนวิลล์ที่เดินอยู่ข้างตนก่อนจะถามว่า “นายจะไปไหนต่อ”
“ข้าจะไปหาคำตอบ”
“คำตอบอะไรของเอง” บาร์เธอร์ยกมือขึ้นเกาหัวแกร๊กๆ หรือว่าไอนี้จะสมองไม่ดี
“.....”
ถ้าเกิดว่านายคนนี้เป็นลูกของคนรวยล่ะ คงเป็นคุณหนูความจำเสื่อมสินะ ใช่ ต้องใช่แน่เลย เพราะแบบนี้เขาก็เลยไม่รู้จักเงิน อืม.. ใบหน้าชั่วร้ายของบาร์เธอร์ทำหน้าครุ่นคิดพร้อมกับหันไปมองสำรวจชายที่เดินอยู่ข้างตัว ...แต่งตัวดูดีขนาดนี้จะไม่มีเงินได้ยังไงกัน ถ้าเกิดเรารับดูแลแล้วพ่อแม่เขามาเจอ เหตุการณ์แบบนี้ต้องเกิดขึ้นแน่...
บาร์เธอร์ : //ลูกชายคุณอยู่กับผมครับ ผมเลี้ยงดูเขามาเป็นอย่างดีเลย ถึงผมจะจนแต่ผมก็มีน้ำใจนะครับคุณนาย// หลังจากนั้นผมก็จะโดนตอบกลับมาว่า
แม่เคนวิลล์ : //นี่จะหนู นี่จะเอาไปเลย พอไหมจ๊ะนี่แค่เศษเงินนะ ถ้าอยากได้มากกว่านี้เดี๋ยวฉันจะเสกมาให้ จะเอากี่ฟอนก็ว่ามาได้เลยนะ โฮ๊ะๆ ขอบคุณที่ช่วยดูแลลูกฉันมาเป็นอย่างดี//
บาร์เธอร์ : “ฮะฮ่ะฮ่ะฮ่ะ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ก๊ากๆๆๆๆๆๆๆ รวยเละแน่ๆ”
นักเขียน : (ใครก็ได้บอกบาร์เธอร์ทีว่าเขาควรเลิกคิดไปเองได้แล้ว)
“ถึงจะเล็กไปหน่อยแต่ก็พอซุกหัวนอนได้อยู่นะ เข้าไปสิ” บาร์เธอร์หันไปบอกเคนวิลล์ที่ยืนสำรวจสภาพห้องนอนเห่ยๆ ของชายผู้นี้ ด้วยแววตาไร้ความรู้สึก
“....”
“อย่าดูถูกเชียวนะเฟ้ย ห้องนี้ 3000 บาทต่อเดือนเลยนะจะบอกให้” เมื่อได้ยินคำว่าเงิน สีหน้าอสูรเย็นชาก็เปลี่ยนไป เขาจำได้ว่าในร้านอาหารของโลกมนุษย์ ชายผู้นี้ได้ขอค่าราเม็งกับเขา ตอนนั้นเคนวิลล์ไม่เข้าใจว่าอะไรคือค่าราเม็ง แต่หลังจากที่เขาต้องทำงานเพื่อแลกกับอาหาร หญิงสาวที่เป็นเจ้าของร้านก็ยื่นเงินให้เป็นค่าตอบแทน แล้วพูดอีกว่า //ฉันหักค่าราเม็งของพวกนายไปแล้วนะ//
“เงินเป็นสิ่งจำเป็นหรือ” เคนวิลล์ถาม
“ก็ใช่น่ะสิ ถ้าไม่มีเงินก็เท่ากับไม่มีชีวิต นายรู้ไหมว่าการมีชีวิตอยู่ต้องซื้อด้วยเงิน เพราะเงินสามารถแลกอาหารเพื่อประทังชีวิตได้ ถ้าไม่มีอาหารก็อดตาย รู้ไหมทำไมฉันถึงไม่มีแฟน” บาร์เธอร์เดินบ่นเข้ามาในห้อง พร้อมกับเคนวิลล์ที่เดินตามเขาเข้ามา “เพราะฉันมัวแต่เอาเวลามาหาเงินน่ะซี้ ถึงยังโสดยังซิงอยู่ทุกวันนี้ไง พูดแล้วเศร้าจริงๆนายอย่าไปบอกใครล่ะ ว่าฉันยังซิงน่ะ เข้าใจไหม” ถึงเคนวิลล์จะไม่เข้าใจแต่เขาก็พยักหน้ารับปาก
“ฉันบาร์เธอร์แล้วนายชื่ออะไร” บาร์เธอร์ทำตัวเป็นกันเอง เขาแนะนำตัวก่อนจะเดินไปนั่งลงบนเตียงนอนขนาดสามฟุต
“เคนวิลล์”
“งั้นตอนนี้เราก็เป็นเพื่อนกันแล้วนะ อยากทำอะไรก็ตามสบายเลย” เพราะความเหนื่อยล้า พูดจบบาร์เธอร์ก็โยนผ้าห่มกับหมอนให้เพื่อนใหม่แล้วนอนหลับไปทันที เตียงนอนตรงหน้ามีขนาดเล็กเกินไปเจ้าของใบหน้าเย็นชาจึงเดินไปลากเก้าอี้ที่มุมหนึ่งของห้องมาตั้งไว้ข้างเตียง ร่างสูงหย่อนกายนั่งไขว่ห้างมองมนุษย์ที่นอนหันหลังให้ตนอยู่บนเตียงด้วยใบหน้านิ่งสงบ ...คำตอบนั่นอยู่ที่ไหนกันนะ...
ความคิดเห็น