ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ไทฟอน (yaoi)

    ลำดับตอนที่ #2 : บทที่ 2

    • อัปเดตล่าสุด 23 เม.ย. 64


    เคนวิลล์เดินอยู่ท่ามกลางหมอกหนา ที่ปกคลุมเมืองเอาไว้ตลอดเวลา ตอนนี้เขามีอายุมากกว่าหนึ่งพันปี เพราะเป็นอสูรร่างกายจึงเจริญเติบโตช้ากว่ามนุษย์ทั่วไปหลายเท่า แต่เมื่อไทฟอนโตเต็มที่ ร่างกายก็จะหยุดการเจริญเติบโต ซึ่งนั่นหมายความว่า เคนวิลล์ไม่มีวันแก่หรือที่มนุษย์เรียกกันว่าอมตะ

    ร่างสูงของเคนวิลล์ เดินเข้ามาในเมืองมรณะ เขาเดินฝ่าหมอกหนาเข้าไปกลางเมืองร้างก่อนจะหยุดเดินตรงสถานที่คุ้นเคย ไม่นานภาพในอดีตก็ลอยเข้ามาในหัว เมืองแห่งนี้ก่อนจะมีชื่อเรียกว่าเมืองมรณะ เคยเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยป่าเขาสีเขียวขจีเป็นเมืองที่สวยที่สุดในโลกปีศาจที่มีชื่อเดิมว่า Natural healing เพราะมีธรรมชาติที่สวยงามเลยเหมาะให้ปีศาจและอสูรทั้งหลายเข้ามาเยี่ยมชมอยู่อาศัยและได้พักผ่อนจิตใจไปด้วย

    เคนวิลล์น้อยวิ่งเล่นอยู่กับเด็กอสูรตนอื่น ในตาของเด็กผู้ชายเปี่ยมไปด้วยความสุข ในขณะที่วิ่งไล่จับด้วงยักษ์ ก็มีทหารกลุ่มหนึ่งขี่ม้าอสูรตรงมายังบ้านของเขา เคนวิลล์เงยหน้ามองทหารที่เดินเข้าไปในบ้านตน ไม่นานทหารจากวังชนชั้นสูงก็โยนร่างบางของจีอาผู้ที่เปรียบเสมือนแม่ของเขาออกมาจากตัวบ้าน

    เคนวิลล์ในตอนนั้นตกใจและโกรธมาก จึงวิ่งเข้าไปยืนขวางและต่อว่าพวกทหารแต่เพราะเขายังเด็ก พวกทหารเลยบอกให้เคนวิลล์หลบไป แต่เด็กตัวเล็กไม่เชื่อฟังเขาวิ่งเข้าไปกอดจีอาและขอร้องให้ทหารปล่อยเธอ

    “ข้าไม่เป็นไร” จีอายิ้มให้เคนวิลล์ด้วยรอยยิ้มที่อบอุ่น แต่ในตาของจีอานั้นเต็มไปด้วยความเศร้าหมองและหวาดกลัว 

    “ท่านจะไม่เป็นไรได้เยี่ยงไร” เคนวิลล์มองทหารด้วยความโกรธ “พวกเจ้ากล้าดียังไงมาทำร้ายแม่ข้า”

    ทหารทำหน้าตกใจ พวกเขาต่างคิดว่าเคนวิลล์คือลูกของจีอา ทหารที่นั่งอยู่บนม้าอสูรกล่าวกับเขาด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด “แม่เจ้าทำเรื่องผิดมหันต์ พวกข้าต้องลงโทษนาง เจ้าอย่ามาขัดขวางการทำงานของข้าเลยนะเด็กน้อย”

    “ไม่ แม่ข้าเป็นคนดี ใช่ไหมจีอา” เคนวิลล์เงยหน้ามองจีอา ในตาของเขาเริ่มมีน้ำใส่ไหลคอ

    “เจ้าอย่าร้องไห้เชียวนะ” จีอาพูดเสียงดุแต่ในตาเต็มไปด้วยความห่วงใย

    “ข้าจะไม่ร้องถ้าทหารพวกนี้ปล่อยท่าน”

    “ดื้อด้านจริง! ...” ทหารคนเดิมกล่าว ไม่นานทหารอีกสองคนก็เข้าไปดึงเคนวิลล์ออกจากจีอา

    “ปล่อย! ปล่อยข้า จีอา เจ้าอย่าทำร้ายนางนะ จีอา” เคนวิลล์ถูกสั่งห้ามมาตั้งแต่เด็กว่าห้ามร้องไห้ เขาไม่รู้ว่าเพราะอะไรทำไมจีอาถึงสั่งแบบนั้น แต่เมื่อถูกห้ามเคนวิลล์ก็ไม่เคยร้องไห้ เขาไม่เคยมีน้ำตาไหลออกจากดวงตาเลยสักหยด “จีอา!...”

    แต่บัดนี้เขาคงกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่แล้ว เมื่อทหารคนเดิมชักดาบออกมาจากฝัก เขามองหญิงสาวตรงหน้าด้วยสายตาเวทนา ก่อนที่ดาบยาวจะถูกยกขึ้นไม่นานก็ถูกตวัดฟาดฟันลงไปที่ต้นคอของหญิงสาวจนเกือบขาด เลือดของผู้มีพระคุณพุ่งกระจายไปทั่วตัวของทหารชนชั้นสูง ปีศาจและอสุรกายทั้งเด็กและผู้ใหญ่ที่ยืนล้อมอยู่ตะโกนร้องออกมาด้วยความตกใจ

    ไม่นานน้ำตาที่เก็บกดไว้นานหลายร้อยปีก็ไหลทะลักออกจากดวงตาอสูรน้อย เคนวิลล์ ลุกขึ้นยืนมองทหารคนนั้นด้วยความแค้นโดยที่ไม่สนใจเสียงร้องโหยหวนของปีศาจรอบข้างที่ร้องกังวานด้วยความเจ็บปวดจากน้ำตาที่ไหลนองท่วมพื้น ทหารที่ยืนถือดาบมองเคนวิลล์ด้วยความหวาดกลัว “พลังนี้มัน ไทฟอ....”

    พูดยังไม่ทันจบพื้นดินที่ปิดสนิทก็เปิดแยกเป็นสองส่วนดูดร่างทหารคนนั้นลงไปในลาวา ไฟป่าลุกพรึบแผดเผาเมืองทั้งเมืองจนย่อยยับ จนบรรยากาศรอบด้านอบอวลไปด้วยกลิ่นอายเลือด เคนวิลล์มารู้ตัวอีกที ทุกอย่างก็มอดไหม้ไปหมดแล้ว ทั้งจีอา เพื่อน และสัตว์อสูรมากมาย ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาเคนวิลล์ถึงรู้ตัวว่าทำไมจีอาถึงสั่งไม่ให้เขาร้องไห้

    เขาจำเรื่องราวของผู้มีพระคุณได้ เธอมีหน้าตาที่สะสวย มีผิวขาวผ่องเหมือนเทพธิดา ในตาเธอมีแต่รอยยิ้ม เธอมักจะยิ้มให้เคนวิลล์แทบจะตลอดเวลา พวกเขาอยู่ด้วยกันมาครึ่งชีวิตเหมือนแม่กับลูก หลังจากเสียจีอาไปแล้ว เคนวิลล์ก็ไม่เคยใกล้ชิดหรือสนิทสนมกับใครอีกเลย

    ร่างสูงยืนมองพื้นดินที่แยกเป็นเสี่ยง เขายืนมองมันนิ่งอยู่แบบนี้มา 3 ชั่วโมงแล้ว ภายใต้แววตาที่นิ่งสงบเยือกเย็นนั้นมีคำถามมากมาย เหตุใดเล่า จีอาถึงต้องมาจากเขาไป จีอาทำผิดอะไรนะ ทำไมพวกชนชั้นสูงถึงต้องฆ่านาง

    ข้ามีคำถามมากมายอยากจะถามเจ้า จีอา……

    “เจ้าอยากรู้คำตอบหรือ?” ชายแก่ถือไม้เท้าเดินมาจากทางข้างหลังเอ่ยขึ้น

    “.....”

    “ที่นั่นมีคำตอบ...” สถานที่นี้เป็นเมืองร้าง ไม่ใช่ว่าใครจะเข้ามาก็ได้ ผู้ที่ไม่รู้จักสถานที่นี้ดีไม่มีทางที่เข้ามาแล้วจะออกไปได้โดยง่าย ส่วนใหญ่แล้วล้วนตายอยู่ในวงกตนี้ทั้งนั้น แล้วชายแก่ผู้นี้เป็นใครกัน เขาเข้ามาได้อย่างไร “โลกมนุษย์”

    “เจ้า......” เคนวิลล์ตั้งใจจะหันไปถามผู้เฒ่าที่อยู่หลังตนเมื่อครู่ แต่เมื่อหันไปร่างชายแก่ก็ได้หายไปเสียแล้ว

    เขาทิ้งปริศนาให้ไทฟอนแล้วก็จากไป ...โลกมนุษย์? ที่นั่นจะมีคำตอบให้ข้าจริงหรือ.... ถึงจะไม่รู้ว่าชายแก่ผู้นั้นเป็นใคร แล้วอ่านใจอสูรไทฟอนได้อย่างไร แต่ถ้าเขาอ่านใจไทฟอนได้ ก็ถือว่าไม่ใช่ปีศาจธรรมดาแน่

     

     

     

    โลกมนุษย์

    “ไปไกลๆ เลยพวกเอง” มาทำให้คนอื่นเขาเดือดร้อนแล้วยังไม่สำนึกอีก

    พวกลูกน้องของแก๊งหมาใน รอบนี้ยกพวกมากันห้าสิบกว่าคน ชินยุต้องการล้างแค้นที่บาร์เธอร์ทำให้เขาต้องอับอาย “วันนี้แกเสร็จฉันแน่”

    “เฮ้อ... จะนอนพักผ่อนหย่อนใจสักหน่อยเถอะ” บาร์เธอร์ที่นอนอาบแดดอยู่ริมแม่น้ำบ่นพึมพำก่อนจะลุกขึ้นนั่งบิดขี้เกียจ ภาพตรงหน้าทำให้ชินยุโกรธเข้าไปอีก ทำไมหมอนั่นยังใจเย็นอยู่ได้ นี่พาพวกมาตั้งห้าสิบคนเลยนะเว้ย ถ้าพวกเราแพ้คนคนเดียว มันก็คงเป็นปีศาจแล้วล่ะ 

    “เฮ้ย! พวกเรา ลุย!”นักเลงห้าสิบคนถือไม้หน้าสามและอาวุธมากมายวิ่งเข้าใส่บาร์เธอร์ ไม่ถึงสิบนาที พวกลูกกระจ๊อกก็ล้มลงไปนอนร้องโอดโอยอยู่ที่พื้น ชินยุไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง ทำไมบาร์เธอร์ผู้นี้ถึงได้บ้าระห่ำนัก “น่าขายหน้าชะมัด แค่คนคนเดียวทำไมถึงสู้มันไม่ได้วะ” ชินยุตะโกนด่าลูกน้องด้วยท่าทีลุกลี้ลุกลน เขาเตรียมตัวที่จะวิ่งหนีแต่ดูทรงจะหนีไม่พ้นแน่ ในขณะนั้นเองก็มีชายร่างสูงคนหนึ่งเดินผ่านพวกเขาไป ชินยุจึงใช้โอกาสนี้วิ่งไปคว้าตัวชายแปลกหน้าคนนั้นมาไว้ในอ้อมแขน พร้อมกับเอามีดจี้คอ

    “เฮ้ย เกินไปมั้งแบบนี้” อย่าเอาคนที่ไม่เกี่ยวข้องมายุ่งด้วยสิฟะ

    “ถ้ามึงเข้ามาไอ้นี่ตายแน่” ชินยุตอนนี้ไม่อายแล้ว เพราะกลัวตายมากกว่า จึงต้องเอาคนแปลกหน้ามาเป็นโล่กันไว้ บาร์เธอร์ยืนมองคนในอ้อมแขนของชินยุด้วยความเป็นห่วง ไม่คิดเลยว่าชินยุจะเล่นสกปรกด้วยวิธีนี้

    “.......”

    “ฉันบอกแกแล้วใช่ไหมว่าฉันเกลียดพวกขี้โกงที่สุด!!” บาร์เธอร์วิ่งเข้าไปดึงชายแปลกหน้าคนนั้นออกจากแขนชินยุด้วยความว่องไว ทำให้ชินยุที่ยืนไม่ทันตั้งตัวโดนหมัดพิฆาตฟาดลงตรงหน้าจนสลบไปอีกครั้ง “เหอะ”

    หลังจากจัดการพวกหมาในเสร็จ บาร์เธอร์ก็เดินไปหาชายแปลกหน้าที่ตนได้ช่วยเอาไว้ พร้อมกับถามด้วยความเป็นห่วง

    “นายเป็นอะไรไหม”

    “.......”

    “คงตกใจอยู่สินะ ฮะๆ สงสัยอยู่ล่ะสิว่าฉันทำได้ยังไง ฉันจะบอกให้นะ ที่ฉันทำได้เพราะฉันเป็นยอดมนุษย์ยังไงล่ะ ฮะๆ” บาร์เธอร์พูดอวดตัวเองด้วยความภาคภูมิใจอยู่ท่ามกลางพวกหมาในที่นอนสลบอยู่ ช่างเป็นภาพที่สยดสยองยิ่งนัก

    “ยอดมนุษย์” เคนวิลล์ มองบาร์เธอร์ด้วยความไม่เข้าใจ ข้าพอจะรู้มาบ้าง ว่ามนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่อ่อนแอ แต่กับชายผู้นี้แตกต่างออกไป คงเป็นเพราะว่าเขาเป็นยอดมนุษย์สินะ “แล้วยอดมนุษย์ คืออะไรหรือ”

    “!!!....” ไม่รู้จักยอดมนุษย์ได้ไงฟะ การแต่งตัวก็แปลกพิลึก คงจะเป็นพวกนักคอร์สเพลย์ล่ะมั้ง “เป็นคอร์สเพลย์แท้ๆ แต่ไม่รู้จักยอดมนุษย์ได้ยังไงกัน”

    “คอร์สเพลย์?”

    บาร์เธอร์ยืนมองเคนวิลล์ พร้อมกับพิจารณาคนตรงหน้า เขาเป็นชายหนุ่มที่หน้าตาดี หน้าตาดีจริงๆ อิจฉาแฮะ แต่ว่าดูอ่อนแอไปหน่อย หรือว่าหมอนี่จะเป็นลูกของมหาเศรษฐี บ้านต้องรวยแน่ ชุดคอร์สเพลย์ชุดนี้คงราคาหลายหมื่น ช่วงนี้ตกงานอยู่ด้วย เงินซื้อข้าวก็ไม่มีหรือจะขอให้เขาเลี้ยงข้าวสักมื้อเป็นการตอบแทนดี เมื่อคิดได้ดังนั้นคนหน้าหนาอย่างบาร์เธอร์ก็กระแอมหนึ่งทีก่อนจะพูดว่า “อะแฮ่ม! ... ไหนๆ ก็ไหนๆแล้ว เลี้ยงข้าวฉันสักมื้อสิ”

    เมื่อตกงานก็ไม่มีเงิน ไม่มีเงินก็ไม่มีข้าวกิน ตอนนี้แหละโอกาส บาร์เธอร์กอดคอเคนวิลล์ ชายที่ตนพึ่งช่วยชีวิตไว้เดินออกไปพร้อมกับเล่าเรื่องราวน่าเศร้าที่ตนพึ่งประสบพบมาให้คนแปลกหน้าฟังหวังให้เขาจะสงสารและเมตตาตน ช่างเป็นคนที่มีแผนสูงเสียจริง ถึงเคนวิลล์จะไม่เข้าใจมนุษย์คนนี้เท่าไหร่ แต่ก็ยอมเดินตามไปแต่โดยดี

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×