ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เกิดใหม่อีกทีกลายเป็นผู้หญิงเฉยเลยครับ

    ลำดับตอนที่ #1 : Ep1 นี่ผมกลายเป็นผู้หญิงหรอวะเนี่ย

    • อัปเดตล่าสุด 21 ส.ค. 64


    "ยัยคนประหลาด"

    "คนไม่มีเพื่อนคบ"

    "น่าสมเพช"

    "ได้ข่าวว่าพอเกิดมาเธอก็โดนพ่อแม่เอามาวางทิ้งไว้ข้างถนน คงเพราะพ่อแม่จะรู้ว่าลูกตัวเองน่าสมเพชขนาดไหนเลยเอามาทิ้งสินะ"

    "ฮะ ฮ่าๆๆ ตลกชะมัด"

    "คงคิดว่าตัวเองสวยมากมั้ง"

    "มีคนเก็บมาเลี้ยงก็บุญแล้ว"

    บลาๆๆ เสียงของผู้คนจำนวนมากดังเข้ามาในโซนประสาททำให้ฉันที่นั่งอยู่ในมุมห้องนอนของตัวเองยกมือขึ้นปิดป้องหู ในใจก็คิดแต่ว่าฉันเกิดมาทำไม ทำไมถึงไม่มีใครเข้าใจฉัน ทำไมถึงต้องเกลียดฉัน ฉันผิดอะไร ฉันผิดอะไร 

    ในห้องนอนที่คับแคบมืดสลัวไร้แสงไฟได้ปรากฏร่างของเด็กสาวมินอานั่งชันเข่าส่งเสียงสะอื้นออกมาอย่างกลั้นเอาไว้ไม่อยู่ หรือว่าบางที... "ความตายจะนำความสงบสุขมาให้ฉันกันนะ"

     

     

    อามิน

    วันนี้ผมก็ยังคงนอนตื่นเช้าและรีบตรงไปออฟฟิศของบริษัทโดยไม่ได้กินอาหารเช้าเหมือนทุกที เพราะต้องรีบไปที่ทำงาน ถ้าไปสายรถก็ติดอีก ไปช้าก็โดนหักเงินเดือน มนุษย์เงินเดือนอย่างผมจึงทำอะไรไม่ได้นอกจากอดทน 

    พ่อแม่ของผมเสียไปตั้งแต่ผมยังเด็ก ผมจึงโตมากับคุณย่าที่ต่างจังหวัด พอเรียนจบคุณย่าของผมก็เสีย หลังจากนั้นผมก็ใช้ชีวิตคนเดียวมาโดยตลอด จนมาถึงวันนี้...

     

    โครม....

     

    วิ้งงงงง เสียงวิ้งดังก้องอยู่ในหู เมื่อร่างกายของผมกระเด็นลงมานอนที่พื้น ทักอย่างมันเกิดขึ้นไวมากจนผมมึนงงไปหมด เมื่อกี้มันเกิดอะไรขึ้นกับผมกันนะ ตอนนั้นผมกำลังเดินข้ามถนนเพื่อไปอีกทางไม่ใช่หรือ แต่ทำไม ผมถึงมานอนอยู่ตรงนี้ล่ะ

    ผู้คนจำนวนมากวิ่งมามุมล้อมรอบตัวผม ใบหน้าของทุกคนเบลอจนไม่รู้ว่าใครเป็นใคร ได้ยินเพียงเสียงโวยวายกับอุทานตกใจอยู่ข้างกาย จากนั้นก็มีเสียงของใครบางคนตะโกนบอกว่า "โทรเรียกรถโรงพยาบาลเร็ว"

     

    ติ๊ด...ติ๊ด.... 

    "ผมเคลียร์!" พอเห็นคลื่นหัวใจผิดปกติคุณหมาในชุดกาวน์ ก็รีบกดปุ่มชาร์จไฟฟ้าจากนั้นก็หันไปบอกทีมคนอื่นว่า "คุณเคลียร์"

    "ทุกคนเคลียร์" กล่าวจบก็กดปุ่มช็อค ทำให้ร่างผมดีดตัวขึ้นตามเครื่องปั๊มหัวใจ แต่ร่างกายของผมก็ยังแน่นิ่ง

    "ปั๊มต่อเลยครับ" 

    "1-2-3 เคลียร์!"

    ติ๊ดดดดดดดดดดดดดดดดด

     

    เสียงคลื่นหัวใจในจอมอนิเตอร์ดังลากยาวทำให้หมอและพยาบาลที่กำลังช่วยชีวิตผมหน้าถอดสี คุณหมอส่ายหัวไปมาก่อนจะบอกเวลาการเสียชีวิตกับพยาบาลสาว ผมยืนมองร่างของตัวเองที่ไร้ลมหายใจด้วยสายตาอาลัยอาวรณ์

    นี่ผมตายแล้วจริงๆ หรือ ชาตินี้ยังไม่มีอะไรเป็นของตัวเองเลยสักอย่าง แม้แต่บ้านก็ยังต้องเช่าเขาอยู่ เงินเดือนที่ติดอยู่ในบัญชีก็มีไม่ถึงสี่หลักด้วยซ้ำ

    "ซวยชะมัด ตั้งแต่เกิดมาก็ไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน เมียก็ไม่เคยมีอย่างใครเขา แถมตัวเองยังมาจากโลกนี้ไปตั้งแต่อายุวัยเพียงยี่สิบปีอีก" และที่น่าปวดใจที่สุดคือวันนี้เป็นวันเกิดของผม

    "ตามฉันมา" ชายในชุดสูทสีดำกล่าวหลังจากพยาบาลและคุณหมอออกจากห้องไปแล้ว

    "คุณมองเห็นผมเหรอเนี่ย" 

    "......" เขาไม่ตอบแต่กลับเดินทะลุกำแพงออกไป ในตอนนั้นเองผมถึงรู้ว่าเขาเป็นผีเช่นกัน ดังนั้นจึงวิ่งทะลุกำแพงตามร่างสูงออกมา 

    "เดี๋ยวสิคุณ คุณก็เป็นผีเหมือนกันหรอ"

    "หน้าตาฉันดูเหมือนผีหรือไงฮะ" 

    "......" ไม่เห็นต้องทำหน้าดุใส่ผมเลยนี่ครับ ผมกะพริบตามองดวงวิญญาณที่บอกว่าตัวเองไม่ใช่ผี ร่างสูงจึงปรับสีหน้าให้เป็นปกติ

    "ฉันตั้งใจจะให้รถคันนั้นไปชนกับเสาไฟฟ้า เพราะเขาหมดอายุขัยแล้ว แต่ไม่คิดว่า คนซื่อบื้ออย่างนายจะเดินเข้ามา" เขาอธิบาย

    "หมายความว่าคุณเป็นคนฆ่าผมหรอ" ผมทำหน้าตกใจ ร่างสูงจึงตอบกลับมาว่า

    "เพราะนายทำตัวเองต่างหาก ถ้าไม่เดินข้ามถนนมาตอนนั้นฉันก็คงไม่ต้องมาเจอปัญหานี้"

    "อ่าวไอ้นี่! แล้วใครเขาจะไปรู้ละวะว่ารถมันจะเลี้ยวมาน่ะ คุณต้องรับผิดชอบ"

    "เฮ้อ" ร่างสูงถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะเดินออกไปด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ผมเห็นแบบนั้นก็รีบตรงดิ่งตามร่างสูงไปทันที

     

     

    พอพ้นจากประตูโรงพยาบาลผมกับเขาก็มายืนอยู่ท่ามกลางหมอกสีขาวมากมาย เมื่อก้าวขาเดินมาข้างหน้าอย่างเชื่องช้าก็พบว่ารอบข้างเต็มไปด้วยสวนดอกไม้นานาชนิด มันช่างสวยสดงดงามกว่าที่ผมเคยพบเจอ หรือว่าที่นี่คือสวรรค์

    "เอาใครมาด้วยล่ะ" เสียงทุ้มต่ำจากชายวัยกลางคนผู้หนึ่งดังขึ้น ร่างสูงในชุดสูทจึงโค้งหัวคำนับ ก่อนจะตอบกลับไปว่า

    "ข้าเผลอทำเขาเสียชีวิตขณะปฏิบัติภารกิจขอรับ"

    "โฮ ฮ่าๆๆๆ ยมทูตอันดับหนึ่งก็มีข้อผิดพลาดเหมือนกันสินะ ฮ่าๆๆ" พอได้ยินคำว่ายมทูตผมก็เบิกตาโพลง มองหน้าทั้งสองคนสลับกันไปมา "เอาล่ะๆ เดี๋ยวข้าจัดการเอง"

    ได้ยินดังนั้นยมทูตอันดับหนึ่งก็โค้งคำนับชายวัยกลางคนผู้นี้อีกครั้งก่อนจะเดินจากไป ผมตั้งท่าจะเดินตามเขา แต่ชายตรงหน้าก็รั้งผมไว้เสียก่อน

    "มานั่งสิ"

    "เอ๊ะ!"

    ถึงจะไม่เข้าใจแต่ผมก็เดินตามชายที่นุ่งขาวห่มขาวเดินไปนั่งที่เก้าอี้กลางสวนดอกไม้ ถ้าไม่นับว่าตอนนี้ตัวเองกำลังเป็นวิญญาณอยู่ ผมคงคิดว่าตัวเองกำลังมานั่งชมวิวทิวทัศน์อยู่ที่ไหนสักแห่ง

    "เจ้ามีชื่อว่าอามินสินะ"

    "ครับ" 

    "ข้าขอโทษแทนเขาด้วย ช่วงนี้เขาไม่ค่อยเป็นตัวของตัวเองจึงมีเรื่องผิดพลาดกันได้"

    "คุณพูดเหมือนเป็นเรื่องเล็กเลยนะครับ" คนตายทั้งคนเลยนะเฮ้ย

    "เอาน่าๆ อย่าแค้นเคืองกันเลย เดี๋ยวข้าจะทำให้เจ้ากลับไปมีชีวิตอีกครั้งเป็นการไถ่โทษก็แล้วกัน"

    "เกิดใหม่หรอ"

    "ใช่ เจ้าจะไปเกิดในอีกโลกหนึ่งจนกว่าอายุขัยของเจ้าจะหมด"

    "แล้วโลกใหม่ที่ว่าเป็นยังไงหรือครับ" ถ้าหากเป็นโลกใหม่ก็ต้องไม่ใช่โลกเดิมน่ะสิ

    "ฮ่าๆๆ ที่นั่นน่ะรับรองว่าเจ้าต้องชอบแน่" จะทำให้มันดูลึกลับทำไมฟะตาแก่นี่

    "ข้าได้ยินที่เจ้าคิดนะ" --!

    "แล้วทำไมไม่บอกมาเลยเล่าว่ามันเป็นสถานที่แบบไหน"

    "ฮึ่ม คือแบบนี้" ชายตรงหน้าเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะอธิบายต่อว่า "โลกใบนั้นก็ไม่ต่างจากโลกของเจ้าเท่าไหร่หรอก เพียงแค่ที่นั่นจะมีเมืองและอาณาจักรมากมาย มีทั้งเจ้าชายและเจ้าหญิง และก็เวทมนตร์"

    "เวทมนตร์"

    "ใช่ เจ้าฟังไม่ผิดหรอก"

    "ผมต้องเข้าไปอยู่ในโลกแฟนตาซีหรือครับ"

    "อื้ม" เขาพยักหน้าก่อนจะกล่าวต่ออีกว่า "ถ้าตายอีกรอบ เจ้าจะไม่ได้กลับไปเกิดใหม่แล้วนะ เพราะฉะนั้นจงดูแลตัวเองดีๆ"

    "......" เอาจริงดิ นี่ผมต้องไปอยู่ในโลกแฟนตาซีจริงๆ หรอ แต่ก็เอาวะ ดีกว่าตายไปทั้งอย่างนี้

    พอพูดคุยกันเสร็จ เขาก็พาผมมายืนอยู่หน้าประตูบานหนึ่งที่อยู่กลางสวนดอกไม้ พอเปิดประตูแล้วชะโงกหน้าออกดู ก็พบว่าข้างนอกของประตูเป็นท้องฟ้าขนาดใหญ่และด้านล่างก็ไม่มีพื้นให้เหยียบ ถ้าก้าวขาออกไปผมต้องตกแน่

    กำลังจะอ้าปากถาม ก็รู้สึกได้ถึงแรงกระแทกจากบางอย่างที่บั้นท้าย จากนั้นร่างของผมก็ร่วงหล่นออกมาจากประตูบานนั้น เสียงร้องตกใจดังไปทั่วท้องฟ้า แต่กับไม่มีใครได้ยิน "ว๊ากกกกกก ไอ้แก่นั่นกล้าดียังไงถึงถีบตูดผมลงมาฟะ อ๊ากกกกกกก"

     

     

    แฮก ๆ ดวงตาของผมขยับเปิดขึ้นมองเพดานของห้องนอนพร้อมกับเสียงเหนื่อยหอบ เมื่อกี้คือความฝันเหรอ คิดว่าตายจริงๆแล้วเสียอีก นอนคิดอะไรอยู่นาน ก็ลุกขึ้นนั่ง

    "โอ๊ยยยยยย" จังหวะที่ลุกนั่งบนเตียงนอน ความเจ็บปวดรุนแรงก็ถาโถมเข้ามาในหัวของผม ทำให้ผมรู้สึกเจ็บจี๊ดทรมานจนแทบจะทนไม่ไหว จากนั้นก็อาเจียนออกมาเต็มพื้น

    พอได้สติผมก็หรี่ตามองคราบอ้วกของตัวเอง ก็พบว่าในอาเจียนมีแต่น้ำสีใสของน้ำย่อย ผมรู้สึกขมปาก จึงจะลุกขึ้นไปล้างปากในห้องน้ำ ขณะที่กำลังตั้งท่าจะลุกขึ้นผมก็หยุดชะงักเมื่อหางตาไปสะดุดเข้ากับกระปุกยาสีขาวบนเตียงนอน พอหยิบขึ้นมาอ่านก็พบว่านี่คือยานอนหลับ 

    หัวคิ้วของผมขมวดเข้าหากันเมื่อเห็นสิ่งในมือ ถึงแม้ว่าผมจะเหนื่อยจากงาน ชีวิตไม่ได้มีความสุขอะไรมากแต่ผมก็ไม่เคยกินยานอนหลับ ท่ามกลางความสับสน ก็มีกระดาษใบหนึ่งปลิวลงมาจากกำแพงของห้อง เนื้อหาในนั้นเขียนเอาไว้ว่า

    "ฉันเกลียดโลกใบนี้"

    อ่านเนื้อหาในกระดาษจบ ผมก็กวาดสายตามองไปรอบห้องนอนที่คับแคบ จึงรู้ตัวว่านี่ไม่ใช่ห้องของตัวเอง ผมในตอนนี้รู้สึกสับสนมากกว่าเดิมจึงลุกเดินก้าวขาออกไปสำรวจห้องอย่างเชื่องช้า จนมาหยุดที่หน้ากระจกบานใหญ่ 

    ในตอนแรกที่เห็นตัวเองในกระจกผมก็คิดว่านั่นอาจจะเป็นรูปภาพ แต่พอนิ้วมือของผมขยับตามผมไปมา ดวงตากลมโตก็เบิกโพลง เมื่อเส้นผมที่เคยเป็นรองทรงตอนนี้ได้ยาวพันกันยุ่งเหยิง แถมชุดที่ใส่อยู่ก็เป็นชุดกระโปรงยาวสีชมพูคลุมไปจนถึงหัวเข่า และที่น่าตกใจไปมากกว่านั้นก็คือตรงหน้าอกของผมนูนเป็นภูเขา 

    "ว๊ากกกกกกกก" นี่ผมกลายเป็นผู้หญิงหรอวะเนี่ย ผมตะโกนแหกปากร้องโวยวายออกมาอย่างไม่รู้ตัวพร้อมกับยกมือขึ้นบีบทั้งสองเต้าของตัวเองเพื่อเช็กให้แน่ใจ ขณะที่กำลังตกใจ ผมก็นึกถึงน้องชายสุดที่รัก พอคิดมากถึงตรงนี้ในใจผมก็คิดไว้แล้วว่าไม่นะ ไม่จริง เป็นไปไม่ได้

    สุดท้ายผมก็แหกปากร้องมาอีกครั้งเมื่อเอื้อมมือไปจับที่หว่างขาก็ไม่พบน้องชายของตัวเองแล้ว "พระผู้เป็นเจ้า มันหายไปแล้ว น้องชายผมหายไปแล้ว"

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×