ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Angelic Wars เล่มที่ 3 การต่อสู้ที่แท้จริงเริ่มต้น

    ลำดับตอนที่ #5 : น้องสาวอีกคนหนึ่ง

    • อัปเดตล่าสุด 14 ต.ค. 56


    เพียงสามวันหลังจากที่พวกฮิซาชิเอาชนะปลาประหลาดนั้นได้ ถึงแม้ว่าสถานการณ์การต่อสู้จะซบเซาลงไปจนถึงขั้นขาดช่วงไปเข้าสู่ช่วงเวลาแห่งความปกติสุข เหตุการณ์ภายในและสภาวะจิตใจของชายหนุ่มผู้เป็นแกนนำของกองกำลังป้องกันตัวเองที่มีสมาชิกเพียงสี่ก็เข้าสู่สภาวะที่เรียกว่า"หายนะ"ทันที...




         "ฉันว่าฉันให้เธอไปซื้อปลาโอมาทำข้าวเย็น... ใช่ไหม!" 

    ฮิโรมิพยักหน้าตอบชายหนุ่มที่มีสีหน้าเกรี้ยวเหมือนร็อตไวเลอร์หิวลูกอมยี่ห้อ"สมองเด็ก"ด้วยสีหน้าราบเรียบ ราวกับสิ่งที่เธอทำไปนั้นไม่มีอะไรผิดพลาด

     

    "ฉันบอกให้เธอไปซื้อปลาโอมาทำอาหารเย็นสำหรับเอามาผัดกับข้าว!! เธอจะซื้อปาท่องโก๋มาทำเสน่ห์ยาแฝดรึไงฟะ!! หรือว่าระดับสมองที่ต่ำเกินกว่ามนุษย์ปกติของเธอจะทำพิษขึ้นสมองซะแล้วหา!!"




         ฮิซาชิเอานิ้วจิ้มลงไปบนหน้าผากที่ไม่มีเค้าโครงของรอยโหนกนูนขึ้นมาตามแบบฉบับของคนที่มีความรู้อักแน่นอยู่ภายในของฮิโรมิรัวๆเป็นกระสุนปืนก่อนจะยัดของทุกอย่างที่เธอซื้อมาเข้าไปในช่องเก็บมือถือเวลากระเป๋าเต็มอย่างเจ็บแค้น จากนั้นจึงออกคำสั่งให้ทุกๆคนภายในบ้านอยู่กับที่ไม่ให้ขยับไปไหนทั้งสิ้น


              ซึ่งนั่นเป็นสัญญาณบอกว่าฮิซาชิจะเป็นผู้วิ่งรอกการตลาดด้วยตัวเองนับจากนี้ไป...




         แต่ในระหว่างที่สถานการณ์ภายในกำลังตึงเครียดหลังจากที่ฮิโรมิเผยรอยยิ้มรูปตัววีออกมาอย่างไม่สะทกสะท้านนั้นเอง อาสาสมัครที่จะทำลายบรรยากาศอันเงียบขรึมนั้นก็ได้บังเกิดขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ


         "ไม่ต้องไปหรอกน่า... เดี๋ยวฉันไปเอง"


         เสียงสดใสของแองเจลอยด์ที่มีจิตใจเป็นเด็กรุ่นๆประถมศึกษาตอนปลายดังขึ้นมาขัดจังหวะก้าวเท้าของฮิซาชิจนหยุดกึก ทำให้ชายหนุ่มที่กำลังมีอารมณ์โมโหต้องหันกลับมาตามเสียงเรียกนั้น


         และในจังหวะนั้นเองที่ถุงผ้าในลำแขนของเขาถูกหยิบออกไปโดยที่ฮิซาชิไม่รู้สึกตัวแม้แต่น้อย... กว่าที่เขาจะรู้สึกในความเบาอย่างประหลาดนั้นก็ในตอนที่โยโซระยกถุงผ้าเหี่ยวๆในมือขึ้นมาโบกซ้ายขวาให้เจ้าของรู้สึกเบื่อหน่ายเล่นๆ


    และเพราะเช่นนั้นเองที่ทำให้ฮิซาชิต้องฝากหน้าที่ในการจ่ายตลาดให้สาวน้อยคนนั้นรับผิดชอบ ด้วยสายตาที่มองกลับไปยังถุงใส่ปาท่องโก๋ที่หนีบอยู่บนช่วงอกที่ใหญ่จนไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นของเด็กสาวช่วงเริ่มรุ่น...และอุ้งมือที่ยกขึ้นไปสัมผัสเส้มผมสีน้ำตาลอ่อนของนางฟ้าที่อยู่เบื้องหน้าราวกับคำพยากรณ์หายนะครั้งใหญ่



                        "แล้วอย่าซื้ออะไรแปลกๆมาอีกล่ะ!"




         แม้ว่าโยโซระจะมีความสามารถในการเข้าหาผู้อื่นได้เป็นอันดับรองลงมาจากมิคาสะก็ตาม ทั้งอย่างนั้นด้วยระดับสมองที่ไม่ได้เป็นรองต่อด้อยกับฮิโรมิที่แทบจะเอาหัวโขกเสาไฟฟ้าทุกครั้งที่ออกจากบ้านก็ทำให้ฮิซาชิรู้สึกไม่ดีในลำไส้เป็นอย่างมาก เช่นนั้นแล้วเขาจึงต้องสละเวลาอันมีค่าในการลอบตามเธอออกไปด้วย


         และสิ่งแรกที่เขาใช้ให้โยโซระออกไปซื้อตามใบรายการก็คือ... ฟักเขียวสำหรับต้มกับแกง!

     


         "นั่นๆ เอาลูกที่มันพอดีๆหน่อย!"


         ฮิซาชิเห็นมือของโยโซระหดเข้ายืดออกอย่างกังวลพร้อมทั้งก้มลงตรวจแผ่นกระดาษในกระเป๋าใบเล็กๆที่เขามอบกรรมสิทธิ์ให้กับเธอในการดูแลระหว่างการจ่ายตลาดครั้งนี้ และในที่สุดสิ่งที่ฮิซาชิเป็นห่วงมากที่สุดก็บังเกิดขึ้นจนได้


                   ในขณะที่ฟักเขียวลูกที่ใกล้มือที่สุดเป็นขนาดที่เหมาะสำหรับทำอาหารในส่วนของสี่คน แต่โยโซระกลับไปหยิบลูกที่ใหญ่ที่สุดมา... แม้ว่ามันจะอยู่จนสุดเอื้อมมือและมีราคาที่ชวนขนหัวลุกก็ตาม




              "จะบ้าเรอะ! ตอนนี้พวกเรามีกันแค่สี่คนเองนะ!! อีกอย่างฉันไม่มีวันรับสมาชิกที่ไม่ใช่มนุษย์เพิ่มอีกต่อไปแล้วนะ!!"



         แต่เมื่อบ่นไปก็ไม่ได้ช่วยให้ความตั้งใจที่จะยื่นแผ่นกระดาษที่เป็นสีเทาๆระบุตัวเลข1000ให้กับเจ้าของร้านพร้อมกับรอยยิ้มที่เหมือนกับจะได้รับคำชมอย่างสุดหัวใจจากชายหนุ่มที่วางใจให้เธอออกมาซื้อของแทนเขาเปลี่ยนไปแม้แต่น้อย ฮิซาชิก็ทำได้เพียงปล่อยให้เธอเดินไปยังจุดมุ่งหมายต่อไปจนมาหยุดอยู่ที่ร้านขายเนื้ออันเป็นที่หมายที่สอง





                   "นั่นไง... เอาเนื้อซี่โครงมาพอดีๆหน่อย อย่าไปหยิบ'ไอ้นั่น'มาเชียวนะ!"



         ฮิซาชิลุ้นอย่างสุดกำลังที่ว่าสาวน้อยที่เกาะอาศัยรายได้จากการโกงอายุเข้าทำงานเบี้ยรายวันวันละหลายๆกะจะไม่สร้างความประทับใจให้กับเขาแบบที่ก่อเรื่องเอาไว้ที่ร้านขายผักอีก สายตาของชายหนุ่มจับจ้องไปยังเนื้อชิ้นที่ใหญ่ที่สุดอย่างสุดกำลังสายตาจะทำได้เพื่อเป็นการแช่งฉีกปีกของผู้ที่จะหยิบมันขึ้นมา


         และในที่สุด...โยโซระก็ได้สร้างความประทับใจให้กับเจ้าของบ้านผู้ให้ที่อยู่อาศัยอีกครั้งจนได้


     

         "ยัยบ้าเอ๊ย!! จะเซ่อก็ให้มันพอดีๆหน่อยได้หรือเปล่า!!!"


         ในระหว่างที่คำสาปแช่งกำลังใช้เวลาเดินทางและประกอบวงเวทย์ภายใต้ชั้นเนื้อสีชมพูสลับขาวอยู่นั้นเอง โยโซระหยิบเอาซี่โครงหมู"ทั้งตัว"มาก่อนจะยื่นให้เจ้าของร้านที่ชะโลมร่างกายไปด้วยเลือดและกลิ่นคาวหมูคิดราคา ซึ่งการกระทำอันสุดจะทนของเธอนั้นได้กระตุ้นจนฮิซาชิเกือบจะเดินเข้าไปเขกหัวเธอแล้ว



              "แหมๆ คราวนี้จะเอาไปทำไมทั้งตัวล่ะจ๊ะ เหลือไว้ให้คนอื่นซื้อบ้างซี่..!!"


         เจ้าของร้านผู้หญิงเข้ามาถามหลังจากที่โยโซระแบกร่างไร้วิญญาณที่ถูกผ่าท้องออกเข้าไปคิดเงินกับเจ้าของร้านที่กำลังหั่นชิ้นส่วนของหมูทั้งตัวด้วยความรู้สึกสงสัยเป็นอย่างมาก ในขณะที่ฮิซาชิกำลังจะออกขากที่ซ่อนเดินเข้าไปเล่นเกมลงทัณฑ์กับสาวน้อยที่สร้างความหายนะกับชีวิตของเขานั้นเอง... คำตอบที่มีพลังสะกดความเคลื่อนไหวทั้งหมดของชายหนุ่มก็หลุดออกมาจากสาวน้อยขี้อายจนได้



         "ก็หนูอยากให้ฮิซาชิได้กินให้เยอะๆนี่นา... ที่ผ่านมาหนูเห็นฮิซาชิเอาแต่วิ่งงานเพื่อให้พวกเราได้ใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย หนูก็แค่อยากให้ฮิซาชิได้กินเยอะๆก็เท่านั้น"


         "งั้นเหรอๆ... แบบนี้ฮิซาชิคนนั้นก็โชคดีมากเลยนะที่มีเธอเป็นแฟน"


         "แฟน...เหรอคะ!? แฟนนี่กินได้หรือเปล่าคะ!"

     

         คำพูดของโยโซระทำให้เขาอึ้งไปพักหนึ่ง ที่ผ่านมาการใช้เงินซื้อของกินในปริมาณมากเกินอุปสงค์ของผู้บริโภคเพียงสี่คนภายในบ้านของโยโซระนั้นได้ทำให้บัญชีที่ฮิซาชิเก็บสะสมเอาไว้ให้ครอบครัวที่เขาจะก่อร่างขึ้นมาเองถึงกับติดตัวแดงอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน แต่เขาก็เพิ่งจะเข้าใจเมื่อกี้นี้เองว่าโยโซระไม่ได้ทำแบบนั้นเพื่อให้เป็นภาระต่อเงินในส่วนบริหารของฮิซาชิหรือภาระในการขยายต่อมน้ำนมของฮิโรมิกับมิคาสะเลย



                   ทุกอย่างที่โยโซระทำไปนั้นก็เพื่อให้เขามีความสุขเท่านั้น...




    "ยัยโง่... แค่นางฟ้าอย่างเธอยอมทำอาหารให้มนุษย์อย่างฉันกิน แค่นั้นฉันก็มีความสุขแล้วล่ะ..!"


         ฮิซาชิรู้สึกมีความสุขอย่างที่ไม่ได้รู้สึกมาเป็นเวลานานจนเริ่มอยากจะเดินออกไปทำอย่างนั้นอย่างนี้กับโยโซระอย่างที่เขาเคยทำมาตลอด แต่ในระหว่างนั้นเองที่สายตาของเขาสังเกตเห็นความผิดปกติบางอย่างที่เกิดขึ้นบนทางเดินห่างจากตำแหน่งของโยโซระพอสมควร




                   "โอ๊ย!!"


         บนทางเดินที่มีกลิ่นของกินสดๆหลายอย่างตีผสมโรงกันจนแทบจะแยกไม่ออกได้มีเด็กสาวคนหนึ่งบุกเข้ามาทำร้ายผู้คนที่เดินจ่ายตลาดอย่างไม่ทันตั้งตัวจนได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก แววตาของเธอราวกับพร้อมจะฆ่าผู้ที่เข้ามาขวางได้ทุกเมื่อ...


         "ก็บอกแล้วไงว่าฉันไม่รู้..!! อุ่กกกกกก"


         ราวกับเป็นคำพูดกระตุ้นสัญชาตญาณนักฆ่าไม่มีผิด เด็กสาวคนนั้นเมื่อได้ยินคำพูดของชายหนุ่มที่ดูยังไงก็น่าจะแข็งแรงกว่ากล่าวออกมาเช่นนั้นก็เกิดบันดาลโทสะกระโดดขึ้นไปบนร่างของเขาก่อนจะกดศีรษะของชายผู้โชคร้ายกดลงกับพื้นอย่างรุนแรง



         "ไม่รู้งั้นเรอะ! ถ้าอย่างนั้นฉันจะอัดแกไปเรื่อยๆจนกว่าจะยอมปริปากออกมาก็แล้วกัน!!"


         เด็กสาวรูปร่างผอมบาง ผิวสีขาวราวกับสำลีชุบแอลกอฮอล์ประกอบกับเส้นผมสีฟ้าอ่อนเริ่มรัวหมัดชุดใส่ชายหนุ่มราวกับตำรวจที่กำลังเค้นความจริงจากปากผู้ต้องหาจนใบหน้าของเขาเริ่มเปลี่ยนรูปไปจนจำเค้าโครงเดิมไม่ได้กลายเป็นจุดสนใจของทุกๆคนที่เดินผ่านไปมา แม้ว่าด้วยชุดที่เด็กสาวคนนั้นใส่อยู่ก็มากเกินพอแล้วที่จะทำให้เธอกลายเป็นจุดเด่นในสายตาคนอื่นๆ

         แต่ถึงอย่างนั้นฮิซาชิก็เกิดรู้สึกสนใจในตัวเธออย่างบอกไม่ถูก เพราะการที่เด็กสาวอายุประมาณเด็กมัธยมต้นจะสามารถชกชายหนุ่มที่ดูมีร่างกายแข็งแรงจนหมดสภาพความเป็นชายได้นั้นไม่มีทางที่จะเป็นอย่างอื่นไปได้เลยนอกจาก...



    "พอได้แล้ว!" 


    โยโซระเข้าไปห้ามเธอไว้จากการชกหน้าเป็นจำนวนมากเกินกว่ากติกามวยปล้ำสากาลได้กำหนดไว้ก่อนจะใช้กำลังแยกทั้งสองออกขากกัน สาวน้อยผมฟ้าอ่อนคนนั้นจึงหันมามองเธอด้วยสายตาที่โกรธเคือง


    "เธอมาเกี่ยวอะไรด้วย..."

    "ดูจากชุดที่เธอใส่ แล้วก็ปีกที่แผ่นหลังของเธอ...เธอคือเซย์ริสายพันธุ์อควารอยด์สินะ!" 


         โยโซระจับแขนของสาวน้อยคนนั้นเอาไว้แน่น ทำให้อควารอยด์ที่ถูกพันธนาการแขนเอาไว้จึงออกแรงสะบัดช่วงข้อศอกของเธอให้หลุดจากสิ่งๆนั้นอย่างแรงจนอุ้งมือของโยโซระหลุดออกเป็นผลสำเร็จ ก่อนที่เธอจะกระโดดถอยออกไปตั้งหลักห่างออกไปเป็นระยะหลายเมตร



    "งั้นเธอคือ..."

    "เซย์ริแองเจลอยด์คนสุดท้ายของเผ่าพันธุ์ 'โยโซระ' ถ้าฉันจำไม่ผิด...เธอคือน้องสาวของมิคาสะสินะ"

    สาวน้อยผมน้ำเงินยิ้มกระหยิ่มออกมา คำพูดเมื่อครู่ของโยโซระทำให้สาวน้อยพอใจมาก


    "เธอรู้จักพี่มิคาสะด้วยงั้นเหรอ... งั้นฉันถามไปก็คงได้คำตอบล่ะมั้ง!" 

    สาวน้อยอควารอยด์ค่อยๆเดินเข้ามาหาโยโซระด้วยฝีเท้าที่ค่อนข้างช้า แต่แรงกดดันที่แผ่ออกมานั้นกลับรุนแรงกว่าใครๆที่เธอเคยเจอและต่อสู้มาตลอดชีวิต ราวกับว่าอควารอยด์ที่ปรากฏอยู่ตรงหน้านั้น... แข็งแกร่งยิ่งกว่าฮิซาชิเสียอีก



    "โคริคาวะ ฮิซาชิ... หมอนั่นอยู่ที่ไหน!"


    ได้ยินดังนั้น โยโซระก็สะดุ้งทันทีราวกับมีกระแสไฟฟ้าไหลออกมาจากร่างของอควารอยด์ที่อยู่ตรงหน้าจู่โจมเข้าสู่ระบบสมองอย่างหนักหน่วง สัมผัสที่เธอรู้สึกได้เมื่อสักครู่นี้รุนแรงมากราวกับเป็นจิตสังหารที่เข้มข้นพอที่จะสังหารพวกประสาทอ่อนที่อยู่ข้างๆได้ภายในชั่วพริบตาเดียว


    .............................


    ณ รังรักของฮิซาชิ... หลังจากที่โยโซระพาตัวเด็กสาวปริศนามายังจุดมุ่งหมายที่ดูเหมือนว่าจะเป็นที่ต้องการของเธอมาเป็นเวลานานจนไม่เป็นที่ต้อนรับของใครๆภายในสถานที่แห่งนั้นเลย รวมไปถึงฮิซาชิที่ลอบกลับมาก่อนที่ทั้งสองคนจะเดินทางมาถึงด้วยเช่นกัน



    "อ๊ะ! พี่มิคาสะนี่นา..!!" สาวน้อยคนนั้นเปลี่ยนอารมณ์อย่างรวดเร็วราวกับกิ้งก่าเปลี่ยนสี

    "ไม่ได้เจอกันนานเลยนะคะ!! พี่สาวสบายดีหรือเปล่า..."



    "ขอโทษที่ขัดจังหวะที่ได้พบกันนะ ว่าแต่น้องสาวคนนี้ชื่ออะไรเหรอ..." ฮิซาชิแทรกขึ้นระหว่างที่ภายในบ้านเต็มไปด้วยกลิ่นไอแห่งความคิดถึง



    "ยัยนี่เป็นน้องสาวฉันเอง ชื่อ'สคริวล่า' อายุห่างกัน3ปี เป็นคู่แฝดของยูนะน่ะ..."

    "3ปีเหรอ... แต่จำได้ว่ายูนะห่างจากเธอแค่ปีเดียวเองไม่ใช่เหรอ..." ฮิซาชิตั้งประเด็นได้ถูกจังหวะจริงๆ


    "ระดับสติปัญญาไงล่ะ ฮิซาชิคุง... ยูนะน่ะฉลาดกว่าพวกเราอควารอยด์ทั้งหมดเลยนะ! เพราะงั้นถึงได้เข้าเรียนเร็วไงล่ะ..."


    "ก็ถึงว่าอยู่ม.ต้นแต่รูปร่างกลับเหมือนเด็กประถม ว่าแต่พวกเธอไม่ได้เจอกันมานานแค่ไหนแล้วล่ะเนี่ย..." ฮิซาชิถามขึ้นเมื่อเห็นอควารอยด์สองคนนั้นกอดกันกลม

    "เอ่อ... ประมาณซัก... สิบกว่าปีได้แล้วล่ะมั้ง!" นานขนาดนี้ยังจำได้อีกเหรอ... อควารอยด์จะความจำดีเกินไปแล้ว


    "ว่าแต่นะ! พี่สาวจะกลับไปกับหนูเมื่อไหร่คะ!!" สาวน้อยตั้งคำถามให้พี่สาวเธอเป็นคำถามที่ตอบยากมาก แต่มิคาสะก็ตอบได้ง่ายๆ


    "ขอโทษนะ... แต่ฉันยังกลับไปไม่ได้หรอก ถ้ายังไงเธอจะมาอาศัยอยู่ที่นี่เลยก็ได้นะ"


    "ขอโทษด้วยนะคะที่พูดเอาแต่ใจ... งั้นหนูจะอยู่ที่นี่ซักระยะให้หนูได้ทำหน้าที่เสร็จก่อนแล้วค่อยกลับแล้วกันนะ!"



    รอยยิ้มของสคริวล่านั้นดูภายนอกแล้วสดใสมาก แต่มิคาสะกลับรู้สึกถึงอะไรบางอย่างที่แฝงอยู่ในรอยยิ้มนั้น... บางอย่างที่ไม่ชอบมาพากลจนชวนให้จับตามองเป็นอย่างมาก!!!

    .
    .
    .




         ราวๆหนึ่งชั่วโมงหลังจากที่สคริวล่าได้แนะนำตัวให้เหล่าเซย์ริที่อาศัยอยู่ในบ้านที่พักพิงตลอดชีวิตจนเป็นที่รู้จักกันโดยทั่วกันเรียบร้อยแล้ว ในขณะนั้นยังพอมีเวลาพอก่อนที่ดวงอาทิตย์จะลับขอบฟ้าไปนิดหน่อย

         ซึ่งในตอนนั้นเองที่สคริวล่าของปลีกตัวออกไปพร้อมกับฮิซาชิที่เริ่มจะรู้สึกเบื่อกับการจับตาดูพฤติกรรมที่เหมือนกับพวกสาวสังคมสูงที่กว้านซื้อของทั้งร้านด้วยเหตุผลเพียงส่วนลดนิดๆหน่อยๆออกไปยังสนามหญ้าห่างออกไปจากตัวบ้านเป็นระยะทางหลายกิโลเมตรเพื่อที่จะขอคุยอะไรด้วยบางอย่าง


                                  แม้ว่ามันจะไม่น่าอภิรมย์เอาเสียเลยก็ตามที...


     

         "เธอคิดดีแล้วเหรอ... ที่จะทำแบบนี้น่ะ!"


         "ค่ะ! ถึงฉันจะต้องเป็นแบบยูนะก็เถอะ..."


         "งั้นก็ไม่มีทางเลือกนะ..." 


    เมื่อได้ฟังความตั้งใจที่แรงกล้าที่ออกมาจากปากสาวน้อยที่ชวนเขาออกมาเดินเล่นในที่ลับตาคน เธอก็เริ่มปฏิบัติหน้าที่ที่เธอได้รับมอบหมายมาทันที ฮิซาชิได้แต่ถอนหายใจกับสิ่งที่เขาต้องเผชิญหน้าด้วย ส่วนสคริวล่าก็ตั้งท่าเตรียมต่อสู้ทันที





                   "โคริคาวะ ฮิซาชิ! ให้ฉัน...ฆ่านายซะเดี๋ยวนี้เลย!!"

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×