ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Angelic Wars เล่มที่ 3 การต่อสู้ที่แท้จริงเริ่มต้น

    ลำดับตอนที่ #6 : เส้นตายที่ถูกขยายออก

    • อัปเดตล่าสุด 16 ต.ค. 56


                  "ฉันจะ...ฆ่านายซะเดี๋ยวนี้เลย"



    สคริวล่าต้องการจะพูดอะไรกันแน่... สิ่งที่ออกมาจากความคิดของสาวน้อยหน้าใสอายุราวๆ16ปีที่เคยมีหน้าตายิ้มแย้มแจ่มใสคนนั้น คนที่เมื่อวานนี้ก็ยังคุยกันดีๆอยู่เลย อยู่ดีๆกลับมาบอกว่าจะฆ่าเรา ไม่ว่าจะมองในมุมใดก็ไม่น่าจะเป็นความคิดความต้องการของตัวเองเลย


                          หรือว่าจะ..!



    "เป็นคำสั่งสินะ... จากไอ้บ้าที่ก่อวิกฤตการณ์สองอย่างติดๆกันเมื่ออาทิตย์ที่แล้วน่ะ"


    สาวน้อยทำหูทวนลมในสิ่งที่ชายหนุ่มตรงหน้าที่เป็นเป้าหมายในบิงโกบุ๊คพูดออกมา พร้อมกันนั้นเธอก็เปลี่ยนสภาพชุดที่ใส่อยู่เป็นชุดพลาสติกหนาคล้ายเสื้อชูชีพของโหมดต่อสู้ทันที ดูจากชุดที่เธอสวมในโหมดนั้น เธอยังเป็นอควารอยด์ขั้น1อยู่เลยไม่ใช่เหรอ...


    "เธอแน่ใจนะว่าจะทำแบบนี้... เธอก็น่าจะรู้นะว่าถ้าเธอสู้กับฉันตอนนี้ละก็---" ฮิซาชิพยายามชี้ให้เห็นถึงผลเสียที่จะตามมา โดยในใจของเขายังมีความหวังว่าจะยังพอมีทางอื่นที่ทำให้เขาไม่ต้องสู้กับเธอ

    "รู้อยู่แล้วล่ะน่า!! แต่มันเป็นคำสั่งของนายเหนือหัว...ฉันขัดขืนไม่ได้หรอก!!!"



    สคริวล่าตั้งท่าเตรียมต่อสู้ทันที เหตุการณ์ทั้งหมดนี้นอนใจได้เลยว่าจะไม่มีใครรู้เห็นได้แน่ๆเพราะเธอพาฮิซาชิมายังบริเวณที่รกร้างห่างไกลผู้คน ฉะนั้นจึงไม่มีใครรู้ว่าพวกเธอกำลังต่อสู้กันอยู่แน่...

        และจะไม่มีใครรู้ด้วยว่าซ้ำพวกเขาอยู่ที่นี่...



    "เอาล่ะ... อย่าว่ากันเลยนะที่ฉันจะออมมือ ฉันไม่อยากทำร้ายน้องสาวของยัยมิคาสะ..."



         ทันทีที่ฮิซาชิพูดจบ สคริวล่าก็พุ่งเข้าหาเขาอย่างรวดเร็ว เธอเคลื่อนไหวเร็วกว่ามิคาสะในร่างอควารอยด์ขั้น3เสียอีกทำให้ฮิซาชิต้องรีบยกแขนขึ้นมาในท่าต่อสู้อย่างรวดเร็วเพื่อจับจังหวะออกหมัดของเธอให้ได้

        สคริวล่าปล่อยหมัดใส่การ์ดของฮิซาชิที่ยกขึ้นมากันไว้อย่างสุดกำลังไปหมัดหนึ่ง แต่ทันทีที่หมัดของเธอแตะแขนของฮิซาชิ ลำแขนที่ตั้งขนานกับลำตัวของฮิซาชิก็กระจายไปด้านหลังทันที...


    "นี่มัน...หนักกว่าหมัดของยัยมิคาสะอีกนี่นา!!"

    ฮิซาชิได้แต่ตะลึงกับความสามารถที่เกินกว่าขั้นแรกของอควารอยด์ของสคริวล่า แต่ในจังหวะนั้นสคริวล่าก็ระดมหมัดใส่เป็นปืนกลจนฮิซาชิไม่มีเวลามาคิดอะไรอื่นนอกจากจดจ่อกับหมัดชุดของเธออีกแล้ว


    "อย่าเอาฉันไปเทียบกับอควารอยด์ขั้นแรกที่เห็นกันดาษๆอย่างนั้นสิ!"


         สคริวล่าได้โอกาสบินข้ามศรีษะฮิซาชิไป ก่อนจะระดมยิงอาร์เทมิสเข้ากลางหลังของเขาอย่างแม่นยำ ฮิซาชิโดนแรงระเบิดจากอาร์เทมิสเข้าไปเต็มๆ เขากระเด็นออกไปด้วยแรงระเบิดที่รุนแรงมากจนลอยไปกระแทกก้อนหินใหญ่ที่อยู่ห่างออกไปนับสิบเมตรอย่างแรงจนก้อนหินที่แข็งมากก้อนนั้นถึงกับร้าวเลยทีเดียว...


    "สคริวล่า..! ทำไมเธอถึงแข็งแกร่งได้ขนาดนี้ล่ะ!! ทั้งๆที่ยูนะยังอ่อนแอกว่านี้ตั้งไม่รู้กี่เท่า!!"


    ฮิซาชิตะโกนเค้นความจริงจากปากสคริวล่า เพราะเขารู้ดีว่าต่อให้เป็นอควารอยด์ขั้น3อย่างมิคาสะ เธอยังสามารถทำได้แค่ต่อสู้และมีระดับพลังที่สูสีกับเขาในร่างมนุษย์ปกติเท่านั้น 

          แต่สาวน้อยที่อยู่ตรงหน้านั้นกลับแข็งแกร่งในระดับที่สามารถต่อสู้กับเขาได้อย่างทัดเทียม ซ้ำยังดูเหมือนว่าเธอยังคงเก็บลูกเล่นเอาไว้อีกมากด้วย...


    "อย่าพูดชื่อนั้นให้ฉันได้ยิน! ไอ้มนุษย์!!" เสียงตะโกนอย่างโกรธเกรี้ยวราวกับว่าความสัมพันธ์ของแฝดคู่นี้จะไม่ค่อยลงรอยกันสักเท่าไหร่...


    "ทำไมกันล่ะ!! ยูนะเป็นฝาแฝดของเธอไม่ใช่เหรอ!! พวกเธอมีความแค้นอะไรกันแน่!!!"


    ฮิซาชิไม่พอใจกับท่าทีที่เหมือนกับเกลียดชังพี่น้องร่วมสายเลือดของสคริวล่าเป็นอย่างมาก เขาจึงตะโกนถามเธอด้วยเสียงอันดังก้องด้วยความหงุดหงิดอย่างหาที่เปรียบไม่ได้


          "เพราะยัยนั่นมันอ่อนแอไงล่ะ!!!"

    ท่าทีสคริวล่าเปลี่ยนไป แววตาของเธอในตอนนี้นั้นเปี่ยมล้นไปด้วยความเกลียดชังอย่างเหลือคณานับ ความเกลียดชังที่เธอมีในตอนนี้นั้นเรียกได้ว่าเธอจะไม่ยอมปล่อยวางมันลงแน่...ไม่ว่าจะนานแค่ไหนก็ตาม


    "ฉันก็พอรู้ว่ายัยนั่นเป็นอควารอยด์สายตรวจจับและสังเกตการณ์... ที่ยัยนั่นอ่อนแอกว่าseiriคนอื่นๆก็เพราะยัยนั่นไม่ได้ถูกสร้างขึ้นเพื่อต่อสู้นี่นา!!"


    "ฉันเองก็ไม่ได้ถูกสร้างเพื่อต่อสู้เหมือนกัน!!!"  สคริวล่าแผดเสียงที่ราวกับเคียดแค้นทั้งผู้ที่เธอพูดถึง และผู้ที่กำลังพูดอยู่ด้วย...


    "หมายความว่ายังไง..." ฮิซาชิเริ่มพูดเสียงค่อยลง เขาเริ่มรู้สึกสงสัยกับคำพูดเมื่อครู่ของเธอขึ้นมาแล้ว

     


                            "ฉันน่ะ...เป็นอควารอยด์สายการรักษาต่างหาก!"

     


    ได้ยินดังนั้นฮิซาชิก็นิ่งไป ถ้าที่เธอพูดมาเป็นความจริงละก็...นายเหนือหัวอะไรนั่นก็ใช้เธอผิดจัดประสงค์แล้วล่ะ!


        "นายเหนือหัวเก็บฉันมาตอนที่ฉันเสียท่าโดนควันหลงจากสงครามล้างพันธุ์เมื่อ16ปีก่อน ตอนนั้นฉันถูกเล่นงานปางตาย... แต่ตอนนั้นได้นายเหนือหัวมาช่วยไว้ทันก่อนที่ฉันจะถูกเล่นงานจนใช้การไม่ได้อีกเลย นายลองคิดดูสิ...ว่าใครเล่นงานฉัน"


    ฮิซาชิใช้ความคิดอยู่พอสมควร ก่อนที่เขาจะเผลอได้คำตอบที่น่ากลัวมากผุดขึ้นมา... ทั้งที่เรื่องแบบนั้นมันไม่น่าเป็นไปได้เลยด้วยซ้ำ


    "เธอ... อย่าบอกนะว่า!" ฮิซาชิที่ไม่ค่อยมั่นใจในคำตอบที่ได้มาหมาดๆพูดด้วยเสียงที่เหมือนกับคนที่หวาดวิตกจนหายใจได้ไม่ทั่วปอด


    "ใช่! คนๆนั้นก็คือ..."


      ฮิซาชิกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ เขาได้แต่หวังว่าสิ่งที่เขาคิดจะผิด... แต่มันก็กลายเป็นคำตอบที่ถูกไปซะแล้ว

     

                                         "เทอร์รารอยด์ตัวสุดท้าย... ฮิโรโตะไงล่ะ!"


    หลังจากที่สคริวล่าเฉลยข้อสงสัย ฮิซาชิได้แต่อึ้งอยู่กับที่เมื่อได้ยินคำตอบกับหูตัวเอง...


    ใช่! เขาคิดไว้แล้วว่าต้องเป็นฮิโรโตะ... แต่มันเกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้ด้วย ทั้งสองคนนี้มาเกี่ยวข้องกันได้ยังไง...

    "ตอนนั้นนายเหนือหัวเก็บฉันมารักษาแผลให้แล้วฝึกการต่อสู้ให้ฉันจนแข็งแกร่งขึ้น จนเมื่อ7ปีที่แล้ว... ตอนที่รู้ว่าพวกนายจัดการเจ้าฮิโรโตะนั่นได้ ฉันก็รู้สึกสะใจอย่างบอกไม่ถูกเลยล่ะ แต่แล้ว..!"

    ฮิซาชิรู้สึกได้ว่าสคริวล่าเร่งพลังในตัวสูงขึ้น เขาจึงเริ่มเร่งพลังในร่างตามขึ้นไปเพื่อป้องกันตัวไม่ให้ถูกคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งจนไม่น่าเชื่อฆ่าตายในเวลาไม่กี่วินาที!


    "พวกนายกลับปล่อยให้ร่างที่สองของหมอนั่นรอด แถมยังตั้งชื่อให้ว่า'ฮิโรมิ'อีกด้วย! เรื่องแบบนี้น่ะจะให้ยอมรับง่ายๆได้ไงกัน!!"


    สคริวล่าเตรียมจะพุ่งเข้ามาจู่โจมเขาอย่างโกรธแค้น ฮิซาชิจึงเตรียมแปลงเป็นโคโรน่าโหมดทันที... แม้ว่าเขาจะอยากทำแบบนี้แม้แต่นิดเดียวก็ตาม
     


    "ฉันก็ไม่มีวันยอมรับเหมือนกัน! ว่าน้องสาวของตัวเองจะตกต่ำไปได้ขนาดนี้!!"


    เสียงผู้หญิงที่ดังขึ้นมาข้างๆพวกเขาทำให้ทั้งคู่ต้องหันไปมอง เจ้าของเสียงค่อยๆเดินเข้ามาหาสคริวล่าอย่างช้าๆ


    "พี่มิคาสะ..." สคริวล่าเห็นปีกของมิคาสะถูกหุ้มด้วยแสงสีฟ้าอ่อน รวมทั้งน้ำเสียงแข็งๆของเธอเมื่อครู่นี้ ไม่ผิดแน่...


    เธอเอาจริง!! มิคาสะตั้งใจที่จะจบชีวิตของน้องสาวที่เหลือเพียงคนเดียวของเธอจริงๆ

     


    "เธอลืมเป้าหมายหลักของการที่พวกเราถือกำเนิดขึ้นมาไปแล้วหรือไง..! สคริวล่า!!"

    มิคาสะเร่งพลังขึ้นสูงมาก จนบรรยากาศรอบข้างหนักอึ้งไปหมด เหมือนกับเธอจะฆ่าน้องสาวของตัวเองจริงๆ... ความรู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดีที่บังเกิดขึ้นในใจของฮิซาชิเมื่อได้เห็นดวงตาที่จ้องไปยังสคริวล่าราวกับกำลังมองดูฮิโรโตะหรืออาคาริในสมัยก่อนนั้นทำให้เขาจำเป็นต้องเข้าไปแทรกระหว่างคู่พิพากษ์นี้


    "เธอจะบ้ารึไง! นี่เธอคิดจะฆ่าน้องสาวแท้ๆของเธอได้ลงคอเลยเหรอ!!"

    "ก็ยัยนี่คิดจะเป็นปฏิปักษ์กับมนุษย์ไม่ใช่เหรอ... รีบจัดการซะก่อนจะก่อปัญหาจะดีกว่า!"


    สีหน้ามิคาสะนิ่งมาก แววตาของเธอเหมือนกับจะทำอย่างที่พูดจริงๆ


       แล้วด้วยสายตาที่มองไปยังน้องสาวของตัวเองราวกับกำลังมองตัวอ่อนของแมลงด้อยค่าตัวหนึ่งของมิคาสะนั้นเองที่ทำให้ฮิซาชิเริ่มไม่สบอารมณ์ เขาจึงเดินไปขวางหน้าระหว่างทั้งสองคนเอาไว้ พร้อมกันนั้นก็เอ่ยคำพูดที่แสดงถึงเจตนาและความตั้งใจจริงของเขาออกมาให้สองสาวได้ยินชัดๆ


        "ถ้าเธอทำอย่างที่เธอพูดจริงๆ..! ถ้าเธอฆ่าสคริวล่าจริงๆละก็...ฉันจะฆ่าเธอด้วย!!"


        น้ำเสียงที่อัดแน่นไปด้วยความจริงจังของฮิซาชินั้นทำให้มิคาสะอึ้งไปชั่วขณะ ในตอนนี้ฮิซาชิแปลงเข้าสู่โคโรน่าโหมดเรียบร้อยแล้ว ในตอนนี้ฮิซาชิไม่สนใจแล้วว่ากำลังหันหลังให้ใคร...หรือแม้แต่คนที่เขากำลังปกป้องอยู่นั้นเป็นใคร


    "ทำไมกันล่ะ... สคริวล่าเป็นศัตรูของมนุษย์อย่างนายไม่ใช่เหรอ... ทำไมนายต้องปกป้องยัยนี่ด้วย!!"


    "ก็เหมือนกับที่ฉันไม่ฆ่าเธอเมื่อ2ปีก่อนนั่นแหละ!"

    ฮิซาชิพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง มิคาสะรู้ได้ทันทีว่าถ้าเธอลงมือกับสคริวล่าละก็... ฮิซาชิจะลงมือกับเธอตามไปด้วยแน่ๆ
     

            "ฉันน่ะ...ไม่นับคนที่ยิ้มด้วยกัน...หัวเราะด้วยกันเป็นศัตรูหรอกนะ!"


    ได้ยินดังนั้น มิคาสะก็ต้องยอมลดมือลงทันที ไม่ใช่เพราะกลัวในพลังที่เหนือกว่าของฮิซาชิ... หรือเพราะความใจอ่อนที่มีต่อน้องสาวของตนเอง



    "นายเนี่ยไม่เปลี่ยนไปเลยนะ... เอาสิ! ตอนนี้ฉันจะไม่ฆ่าสคริวล่า... แต่ถ้ายัยนั่นยังตั้งใจที่จะทำร้ายเพื่อนของฉันอยู่อีกละก็ ฉันไม่ปล่อยยัยนี่ไว้แน่!!"


    เพราะรู้ดีว่ายังไงฮิซาชิก็ไม่มีวันทำร้ายสคริวล่าเป็นแน่ มิคาสะจึงหันหลังบินออกไปด้วยสายตาที่ไม่สบอารมณ์สักเท่าไหร่... หากแต่ใบหน้าของเธอนั้นกลับเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้ม
     


       "ทีนี้ถึงตาเธอแล้วล่ะ..! สคริวล่า!!" 

    เขาหันกลับไปหาสาวน้อยที่มองแผ่นหลังของเขาอย่างไม่ละสายตาทันทีที่มิคาสะบินออกไปไกลจนสุดสายตา แต่ในขณะนั้นสาวน้อยที่ยังคงอยู่ในสถานที่ที่ไม่น่าอภิรมย์แห่งนี้เพียงคนเดียวก็ยังคงอึ้งกับสิ่งที่เขาพูดออกมาเมื่อครู่


    "เธอยังคิดจะทำตามคำสั่งนั่นอยู่อีกไหม..." ฮิซาชิมองสคริวล่าซึ่งกำลังสับสนในสิ่งที่มนุษย์ตรงหน้าเธอพูดออกมาด้วยสายตาที่...



    "นะ...แน่นอนสิ! เพราะเป็นคำสั่งของนายเหนือหัวที่ช่วยชีวิตฉันไว้นี่นา!!"

    สคริวล่าเตรียมจะพุ่งเข้าหาฮิซาชิทันทีโดยไม่สนว่าฮิซาชิในโคโรน่าโหมดจะแข็งแกร่งกว่าเธอสักเท่าไหร่ก็ตาม... แต่แล้วความคิดของเธอก็ถูกขัดขวางเอาไว้อีกครั้งหนึ่ง


    "งั้นถ้าเจ้าผู้มีพระคุณของเธอสั่งให้เธอฆ่าพี่สาวที่เป็นจุดมุ่งหมายรองที่จะมาบ้านของฉัน... เธอจะทำตามคำสั่งเห็นแก่ตัวแบบนั้นหรือเปล่า!"

     


    ได้ยินดังนั้น สคริวล่าก็อึ้งไป... เธอไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้มาก่อนเลย ทั้งๆที่มันก็สามารถเป็นไปได้ที่เจ้านายของเธอที่ปรารถนาจะกระทำการอะไรบางอย่างที่ต้องแลกด้วยชีวิตของลูกน้องตนเองและทุกชีวิตบนโลกจะสั่งให้เธอทำเหมือนกัน...


    แต่สิ่งที่ทำให้สาวน้อยคนนั้นรู้สึกประหลาดใจก็คือ... ท่าทีของฮิซาชิที่ไม่มีความจงเกลียดจงชังต่อศัตรูที่อยู่ตรงหน้าเลย แม้ว่าเธอจะลงมือทำร้ายเขาไปชุดหนึ่งแล้วก็ตาม


    "แล้วที่เธอบอกว่าเกลียดยูนะเพราะยัยนั่นอ่อนแอน่ะ... เธอพูดจริงงั้นเหรอ..."

    "หนวกหู!!!" สคริวล่าเอามือปิดหูเอาไว้ เหมือนเธอไม่อยากได้ยินคำพูดของเป้าหมายของเธอเลย


     

         "ในโลกนี้น่ะ..! ผู้อ่อนแอก็ไม่สมควรจะมีชีวิตอยู่!! เหมือนกับพวกมนุษย์ที่ไร้พลังทั้งหมดนั่นแหละ!!!"


    "ถึงมนุษย์จะอ่อนแอ...แต่พวกนั้นก็มีอิสระ ไม่เหมือนกับผู้แข็งแกร่งที่ได้แต่ฟังคำสั่งของผู้อื่นอย่างเธอ..."


    "ว่าไงนะ!! การได้ทำตามคำสั่งของนายเหนือหัว...คือความภาคภูมิใจที่สุดของฉัน!!!"

    สคริวล่ารู้สึกได้ถึงอีกความรู้สึกหนึ่งที่เธอไม่เคยสัมผัสมาก่อนในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา เป็นความรู้สึกที่ทำให้หัวใจของเธอเจ็บปวดมาก


    "อะไรกันเล่า!! อย่ามาทำสายตาสงสารนักจะได้ไหม!!!"



         สคริวล่าเห็นสายตาของฮิซาชิที่มองมายังเธอด้วยความรู้สึกที่เหมือนกับคนที่มองไปยังขอทานแก่ๆริมถนนที่กำลังมีสภาพร่างกายที่ไม่น่าจะมีชีวิตรอดอยู่ได้เกินสองสัปดาห์ เป็นสายตาที่ระคนไปด้วยความรู้สึกสงสารและสมเพชปะปนกันจนเอาแน่เอานอนไม่ได้



    "นั่นคือสิ่งที่เธอตัดสินใจทำด้วยตัวเองงั้นเหรอ... ทั้งหมดที่เธอทำนั่นน่ะ...คือสิ่งที่เธออยากจะทำจริงๆเหรอ..."

    ฮิซาชิยังคงมองเธอด้วยสายตาแบบนั้นต่อไป ทำให้สคริวล่าไม่สบายใจอย่างมาก

    "ก็ฉันบอกไปแล้วไงว่านั่นมัน..!!!"



         "ชีวิตของเธอจะทำอะไรไม่เป็นเลยหรือไงถ้าไม่มีคำสั่งของคนอื่นคอยชี้ทางให้เธอก้าวเดินอยู่เรื่อยๆน่ะ แล้วถ้ามันเป็นสิ่งที่เธอไม่อยากทำ... เธอกล้าพอที่จะเดินไปตามความต้องการของตัวเองหรือเปล่า!"



    ทั้งสองคนยังคงอยู่ตรงนั้นจนพระอาทิตย์ตกดิน สคริวล่าจึงกางปีกบินออกไปอย่างไม่สบอารมณ์ โดยทิ้งเป้าหมายที่เธอควรจะจัดการไปตั้งแต่แรกแล้วให้เงยหน้าขึ้นมามองเธออยู่กับพื้น



    "จริงๆแล้วเราอยากทำอะไรงั้นเหรอ... เจ้านั่น..! เป็นแค่มนุษย์แท้ๆทำมาปากดีนักนะ!!"


    หลังจากที่ได้โต้เถียงกับชายหนุ่มที่เธอน่าจะฆ่าทิ้งไปตั้งนานจนเกินพอดีแล้ว สคริวล่าก็ยังคงคิดจะทำภารกิจต่อจนกว่าจะลุล่วง แต่เหมือนกับว่าในใจของเธอตอนนี้เหมือนมีอะไรบางอย่างผุดขึ้นมาคอยฉุดรั้งความตั้งใจที่จะสังหารเป้าหมายเอาไว้ให้ยืดเส้นตายออกไป

           เส้นตายที่ยืดออกไปจนไร้กำหนด!



                                  "ก็เราอยากจะทำอะไร...เรายังไม่รู้เลย"

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×