คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : 2nd Reload
2nd Reload
[ I’m Half-Light ]
ผมลืมตาขึ้นอย่างเชื่องช้าเพราะความรู้สึกปวดหนึบที่บั้นเอว ความเจ็บปวดตามที่ต่างๆทั่วร่างกายดูจะเป็นอะไรที่ทำให้ไม่สามารถข่มตาหลับลงได้อีกต่อไป เพียงแค่ขยับตัว ความเจ็บแสบที่ต้นขาก็ทำให้ต้องครางออกมาอย่างยากที่จะอดกลั้น
ผมกวดสายตาไล่มองรอยฟันคมที่ถูกฝากไว้ทั่วร่างเปลือยเปล่าของตัวเองที่ราวกับจะตรีตราความเป็นเจ้าเข้าเจ้าของ รอยกัดแดงช้ำที่ยังให้ความรู้สึกเจ็บทำให้ยิ้มออกมาน้อยๆทั้งที่ไม่น่าจะยิ้มออกราวกับคนเสียสติ หรือว่าผมเสียสติไปแล้วจริงๆ?
.
.
.
.
.
“ ยิ้มอะไร? “
เสียงทุ้มเกรี้ยวกราดกล่าวกระแทกเสียงดังขึ้นก้องห้องสี่เหลี่ยมไม่แคบนัก ผมตวัดสายตามองไปยังต้นเสียงแทบจะในทันทีที่มันดังขึ้น ดวงตาของผมสบประสานเข้ากับนัยน์ตาสีน้ำตาลอมส้มวาวจ้าราวกับพระอาทิตย์ของคนที่นั่งปลายเตียง
ร่างสูงของคนที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นพี่ชายของผมนั่งอยู่ที่ปลายเตียงพร้อมกับมือเรียวขาวคู่นั้นคลึงก้านแก้วไวน์ทรงสูงนั่นเล่นไปมาอย่างเชื่องช้า ของเหลวสีม่วงอมแดงในแก้วไหลกลับไปกลับมาอยู่ในภาชนะใบใสดูราวกับเกลียวคลื่นที่กำลังถาโถมเข้าหาชายฝั่งโดยไม่มีแม้แต่วิธีหยุดยั้ง
คนตรงหน้าเล่นกับไวน์ในแก้วอยู่พักใหญ่ ก่อนที่มือเรียวจะยกของเหลวสีม่วงอมแดงนั่นขึ้นจรดริมฝีปากหมดแก้ว ดวงตาสีน้ำตาลอมส้มคู่นั้นตวัดมามองผมอีกครั้งอย่างเชื่องช้าพร้อมๆกับมือเรียวที่โยนแก้วทิ้งข้ามไหล่ตนไปอย่างไม่แยแส ผมหลับตาลงฟังเสียงแก้วที่หล่นกระทบพื้นแตกกระจัดกระจายทั่วพื้นห้อง สัมผัสต่อมาที่รู้สึกได้คือร่างกายอบอุ่นของอีกคนที่แนบลงมาบนร่างกายเปลือยเปล่าเย็นเฉียบของผม มือเรียวที่ลากไล้มาตั้งแต่ต้นขาสูงขึ้นมาเรื่อยจนถึงใบหน้า แรงบีบหนักๆที่ปลายคางทำให้ผมต้องปรือตาขึ้นมอง
ใบหน้าหล่อเหลานั่นยังคงนิ่งเฉยไม่บ่งบอกอารมณ์เท่าใดนัก มีเพียงดวงตาสีพระอาทิตย์คู่นั้นที่กำลังประกาศกร้าวว่าคนๆเกรี้ยวกราดเพียงใด หากแต่นั่นก็ไม่น่าตกใจเท่า ภาพที่ผมเห็นในเวลาต่อมา ขวดไวน์สีเขียวขุ่นที่ถูกยกสูงขึ้นเหนือใบหน้าผมไปไม่มากนักมาพร้อมกับแรงบีบอย่างแรงที่ปลายคาง…
ผมรู้สึกถึงรสชาติหวานฝาดเฝื่อนที่ถูกเทลงมาจากขวดที่สูงขึ้นไปเหนือศีรษะพร้อมกับอากาศที่ถูกช่วงชิงไปจากของเหลวสีม่วงแดงที่พรั่งพรูลงมาบนริมฝีปากจนสำลัก ผมสะบัดหน้าหลุดออกจากฝ่ามือใหญ่ๆที่บีบอยู่ที่ปลายคาง ความรู้สึกเย็นจากหยดของเหลวที่กระเด็นเปรอะไปทั่วร่างนำพามาซึ่งความสั่นสะท้าน
“ นายชอบไวน์แดงไม่ใช่หรือไง? ”
เสียงทุ้มราบเรียบกล่าวขึ้นราวกับกำลังคุยกับธาตุอากาศพร้อมกับริมฝีปากนุ่มของอีกฝ่ายที่กดจูบลงมาช่วงชิงลมหายใจที่ผมพึ่งได้รับเข้าไปเพียงน้อยนิด ฝ่ามือใหญ่ที่กดเข้าที่ข้อมือทำให้ผมต้องนิ่วหน้าด้วยความเจ็บปวด ลิ้นร้อนที่แทรกเข้ามาอย่างถือวิสาสะเกี่ยวพันจนไม่สามารถจะปฏิเสธ รสชาติแปล่งๆที่ปลายลิ้นของอีกฝ่ายทำให้สติของผมหลุดลอยอีกครั้ง
ผมก็ไม่ทราบว่าคนตรงหน้าไปเกรี้ยวโกรธเรื่องใดมา รู้แค่ว่าเรื่องนี้คงจะเกี่ยวพันกับน้องชายคนสำคัญของคนๆนี้เป็นแน่ ทั้งที่แสร้งทำเป็นร้ายกาจโกรธเคืองใส่กัน แต่ใครจะรู้ ว่าในใจสำหรับคนๆนี้ ยังไงเด็กคนนั้นก็เป็นที่หนึ่งเสมอ…
‘ หึ เพราะฉะนั้น ตัวสำรองอย่างผมนี่มันน่าสมเพชจริง ’
.
.
.
.
.
.
ผมทำได้แค่นอนนิ่งอยู่บนเตียงกว้างทอดอารมณ์ไปกับสัมผัสของอีกฝ่าย ลิ้นร้อนที่ลากไล้ลงมาบนหน้าอกราวกับกำลังลิ้มชิมรสชาติของไวน์แดงราคาแพงที่เปรอะเปื้อนไปทั่วร่างของผม ทุกครั้งที่ริมฝีปากหยุ่นๆนั่นสัมผัสลงบนแผ่นอกผมรู้สึกได้ถึงร่างกายของตัวเองที่เพิ่มอุณหภูมิสูงขึ้นเรื่อยๆพร้อมกับอารมณ์ที่กำลังครุกรุ่นก่อตัวอยู่ในร่างกาย
“ ไวน์ที่ไม่ได้แช่ในถังนี่มันรสชาติห่วยแตกชะมัดเลย… ”
ลมหายใจอุ่นๆริมใบหูมาพร้อมกับฟันคมๆที่ขบเม้มลงมา ลิ้นร้อนที่แลบเลียเข้าที่บริเวณซอกคอถูกลากต่ำลงไปข้างล่างเรื่อยๆโดยไม่มีท่าทีว่าจะหยุด สัมผัสต่อมาทำให้ผมแทบหยุดหายใจ เมื่อริมฝีปากหยุ่นๆกับฟันคมของอีกฝ่ายสัมผัสเข้าที่บริเวณต้นขา ผมตัวแข็งทื่อไปทันทีที่ริมฝีปากอุ่นของคนที่ทาบทับอยู่สัมผัสลงบนส่วนอ่อนไหว…
“ ฮึก…พึ่งทำไปไม่ใช่หรือไง? ผมไม่ทำแล้ว… ”
ผมสะบัดมือออกจากการจับกุมของคนตรงหน้าสุดแรง ก่อนจะดันกายออกมาจากใต้ร่างสูงที่ทาบทับอยู่ หากแต่ไม่ทันที่ผมจะได้ขยับกายมากกว่านั้น มือเรียวของคนตรงหน้ากลับกระชากเข้าที่ข้อเท้าก่อนจะลากผมมาอยู่ภายใต้ร่างกายนั้นตามเดิม…
แต่ราวกับคำร้องขอของผมเป็นผล นัยน์ตาวาวจ้าสีเดียวกับดวงอาทิตย์นั่นจับจ้องประสานกับดวงตาของผม ก่อนจะผละกายออกไป ผมผ่อนลมหายใจออกช้าๆอย่างนึกโล่งอก แต่ไม่กี่วินาทีต่อมากลับต้องเบิกตาโพลงสุดขีดเพราะภาพและสัมผัสที่ปรากฏ.…
เจ้าของใบหน้าเรียวหล่อกับนัยน์ตาสีพระอาทิตย์คลานขึ้นมาบนเตียงอย่างเชื่องช้า ราวกับสิงโตที่เตรียมขย้ำเหยื่อที่นอนรอความตาย มือเรียวขาวข้างหนึ่งถือถังใส่ไวน์สีเงินเข้ามาด้วย ผมมองตามอาการคุกคามของอีกฝ่ายด้วยความมึนงงในการกระทำของคนตรงหน้า แต่แล้วผมก็ได้เข้าใจมันอย่างลึกซึ้งในไม่ช้า…
“ มาเติมความเย็นให้ไวน์กันหน่อยดีไหม? ”
สิ้นเสียงทุ้มราบเรียบ น้ำแข็งเย็นเฉียบภายในถังในมือของร่างสูงก็ถูกยกขึ้นเทเหนือร่างของผมในทันที ผมเบิกตาโพลงด้วยความตกใจสุดขีดซึ่งมาพร้อมกับความเย็นเยียบจนรู้สึกชาทั่วร่าง…
“ อ๊ะ เย็น… ”
ผมอุทานออกมาอย่างตกใจเมื่อน้ำแข็งก้อนแล้วก้อนเล่าร่วงหล่นลงบนผิวกาย พร้อมๆกับร่างสูงที่คร่อมทับลงมา ร่างกายอุ่นๆที่สัมผัสลงมาบนร่างห่างเพียงแค่ก้อนน้ำแข็งกั้น ริมฝีปากอุ่นที่กดทับลงมาราวกับจะช่วงชิงซึ่งทุกคำพูดและลมหายใจไปจากร่างกาย มือเรียวที่ลากไล้อยู่ที่กึ่งกลางกายราวกับทำหน้าที่เบี่ยงเบนทุกประเด็นให้จบอยู่แค่ตรงนั้น
“ เย็นงั้นหรอ? ไม่เป็นไร เดี๋ยวก็ร้อน…. ”
“ ………………….. ”
“ แต่ตอนนี้อาจจะเย็นเพิ่มขึ้นอีกนิด… ”
ผมรับรู้ถึงแรงกระชากที่หัวไหล่พร้อมๆกับที่รู้ว่าร่างของตัวเองถูกพลิกคว่ำหน้าลง สัมผัสเย็นๆที่บั้นเอวทำให้ฉุกคิดถึงคำพูดเมื่อสักครู่ของอีกฝ่าย….
‘ เย็นเพิ่มขึ้นอีกนิด? ’
หากแต่ทุกความคิดกลับถูกหยุดลงไว้ตรงนั้นเมื่อคำตอบของข้อสงสัยนั้นกำลังเริ่มขึ้น ผมรู้สึกถึงความคมเย็นเฉียบของน้ำแข็งที่แทรกเข้ามาผ่านทางช่องทางด้านหลังของร่างกายโดยไม่ทันตั้งตัวพร้อมกับเสียงหัวเราะแผ่วเบาข้างใบหู…
“ อ๊า!!…. ”
ความคิดเห็น