คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ★BlackMail ฉบับที่ 1 : Plan Step One =.= [100%]
BlackMail ★
Chapter I : Plan Step One
เสน่ห์ของเชียงใหม่ที่หลายๆคนหลงใหลอาจจะเป็นสถานบันเทิงยามราตรีที่มีอยู่มากมายและง่ายต่อการสัมผัส ซึ่งผมและเพื่อนๆเองก็อาจจะเป็นหนึ่งในนั้น
.
ผมกวาดสายตาเข้าไปในร้านเหล้าประจำแถวนิมมานฯ ก่อนจะเห็นเพื่อนผมที่ยกมือเรียก ผมเดินไปที่โต๊ะที่ถือได้ว่าขนาดใหญ่เกือบจะที่สุดในร้านเพราะมากันหลายคน วันนี้คนในร้านคึกคักเป็นพิเศษก็ไม่ทราบเนื่องด้วยเหตุอันใด แต่ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการกินเหล้าของขาประจำอย่างพวกเราแต่อย่างใด
ยังไม่ทันที่ผมจะหย่อนตัวลงนั่งบนเก้าอี้ แก้วเหล้าสีเหลืองอำพันที่ดูแล้วผสมไว้กะมอมกันให้ตายไปข้างก็ถูกยื่นมาตรงหน้า ผมเอื้อมมือไปรับก่อนจะยกขึ้นจิบด้วยอารมณ์เซ็งๆตั้งแต่เมื่อกลางวัน
..ขมฉิบเหล้าหรือพาราเซตามอนวะเนี่ย - -*
ผมที่ไม่ได้มีอารมณ์อยากจะดื่มเท่าใดนักช่างขัดกับบรรยากาศโต๊ะและเพื่อนๆของผมที่ดูพวกมันจะเฮฮาดีซะเหลือเกิน ก็คนมันพึ่งถูกบอกเลิกนี่หว่า จะให้ผมเฮฮาได้ยังไง แล้วกับคนนี้ผมจริงจังมาก แต่ก็นะ
ความจริง ผมก็จริงจังกับทุกคนที่ผ่านเข้ามานั่นแหละ คบใครผมก็คบทีละคนไม่เคยจับปลาหลายมือ แล้วอย่างนี้น้องหยกมาบอกว่าผมไม่จริงจังได้ยังไง T.T พูดไปก็Sad
ขณะที่ผมกำลังนั่งซึมๆอยู่นั้นก็มีแก้วเหล้ายื่นมาตรงหน้าเชิงขอชน ผมยกขึ้นชนตอบแบบเซ็งๆก่อนจะซดเสียครึ่งแก้ว รู้สึกร้อนวูบที่คอและท้องเพราะดีกรีที่แรงของเหล้า ต่อมาความขมที่ปลายลิ้นค่อยๆเปลี่ยนเป็นความหวานอ่อนๆช่วยให้จิตใจที่ว้าวุ่นของผมจดจออยู่กับมันได้ไม่มากก็น้อย
“ อิท เรื่องที่มึงขอให้กูช่วยนี่เอาจริงรึเปล่าวะ? ”
เสียงกวนๆของไอ้ปริ้นท์เพื่อนสนิทของผมทำให้ผมต้องเงยหน้าจากแก้วเหล้าในมือมองมัน อ้าว
มึงหรอปริ้นท์ที่ขอชนกูเมื่อกี๊ คงเป็นเพราะผมมัวแต่เหม่อจนลืมดูรอบๆตัวไป ตอนนี้ไอ้ปริ้นท์นั่งอยู่ใกล้ๆผมแล้ว
“ เอาจริงดิ่วะ ถ้ากูไม่ทำให้น้องอัยสำนึกซะบ้าง ชาตินี้ก็อย่าหวังเลยว่าจะได้มีแฟน ”
ผมพูดพลางใช้มือเขี่ยน้ำแข็งในแก้วตัวเองเล่น เรื่องที่ผมขอให้ปริ้นท์มันช่วยตอนนี้ก็คือ ให้มันหาเพื่อนต่างคณะให้ครับ กะเอาไปแกล้งหลอกว่าเป็นแฟนผมให้น้องสาวช็อคว่าผมเบี่ยงเบนทางเพศ มันจะได้ให้ผมมีแฟนเป็นผู้หญิงซะที
แล้วเหตุผลที่ต้องเป็นเพื่อนผู้ชายต่างคณะก็เพราะถ้าเอาไอ้พวกลิงทะโมนเพื่อนๆผมไปหลอก ก็กลัวว่าพวกมันจะไม่เนียนพอ เดี๋ยวคนขี้ระแวงอย่างน้องสาวผมจะสงสัยเอาได้ และปริ้นท์ก็เป็นคนเดียวที่ผมปรึกษาแผนการที่ออกแนวจิตตกนี่ด้วย มันก็เลยต้องรับภาระช่วยเหลือผมอย่างไม่มีทางเลือก
“ มึงแม่งประสาทหว่ะอิทแผนบ้าอะไรเนี่ย ไม่ใช่ว่ามึงโดนผู้หญิงทิ้งบ่อยจนเป็นเกย์ไปจริงๆหรอกนะ ”
มันพูดแหย่ผมยิ้มๆ ก่อนที่ผมจะตอบแทนมุขตลกที่ขำไม่ค่อยออกของมันไปด้วยการตบหัวไปหนึ่งที ไอ้นี่มุขไม่ฮาพากูเป็นเกย์จริงๆ
“ มึงรู้จักคนเยอะ เรื่องแบบนี้คงไม่ยากสำหรับมึงมั้ง ”
ผมว่าก่อนจะหันไปมองจอโปรเจ็คเตอร์ที่กำลังมีถ่ายทอดฟุตบอล อ้าว
แมนยูแข่ง แต่ช่างเหอะ
กูไม่มีอารมณ์เชียร์ T^T
“ กูก็รู้จักเพื่อนนอกคณะไม่กี่คน... คนที่จะให้ช่วยมึงมาพอดี เดี๋ยวคุยกันเองละกัน แต่กูไม่รับประกันว่ามันจะช่วยนะ... ”
“ เฮ้ย
ปิง
ทางนี้ๆ ”
ปริ๊นพูดกับผมก่อนจะหันไปยกมือเรียกคนที่มันบอก ผมมองตามมันไปยังทางเข้าร้านเห็นคนยืนอยู่หลายคน แล้วที่มึงเรียกนั่นคนไหนของมึงวะปริ้นท์=.=
.
.
.
.
.
แล้วสายตาของผมก็ไปสะดุดเข้ากับ...เฮ้ย!อย่าบอกนะเว้ยว่ามึงกำลังเรียกไอ้หล่อลากนั่น O.o ไม่ใช่มั้งไม่น่าใช่ มึงจะไปรู้จักคนที่หล่อกว่ากูตอนไหนวะ? กูไม่ยอม กูไม่เชื่อ...
ด้วยส่วนสูงและหน้าตาที่เด่นมาแต่ไกลของมันทำให้หลายคนอดไม่ได้ที่จะหันไปจับจ้อง มึงบอกกูดิ่ปริ้นท์ ว่าปิงเพื่อนมึงไม่ใช่ไอ้คนที่หล่อเกินหน้าเกินตากูคนนั้น!
แทนคำตอบของความคิดผม ไอ้สูงหล่อนั่นยกมือทักไอ้ปริ้นท์ตอบก่อนจะตรงดิ่งมาที่โต๊ะของพวกผมทันที ผมเห็นสาวๆโต๊ะที่มันเดินผ่านเหลียวมองตามมันตั้งหลายคน ซึ่งแน่หล่ะ ก็มันหล่อนิ่=.= และเป็นครั้งแรกผมรู้สึกผิดหวังอย่างมากกับไอ้ปริ้นท์เพื่อนรักของผม
นี่มึงหาคนมาบล็อคไม่ให้ความหล่อของกูได้ผุดได้เกิดอีกต่อไปรึเปล่าวะเพื่อน? =..=
คนมาใหม่ทิ้งตัวลงนั่งเก้าอี้ที่เพื่อนผมพึ่งจะยกมาให้ด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม และด้วยที่นั่งของมันอยู่ตรงข้ามกับผมพอดีทำให้ผมมองเห้นหน้ามันชัดๆก็คราวนี้ หล่อกว่าที่เห็นไกลๆเมื่อกี๊อีก ผิวขาว ดัดฟันกับผมทรงที่ยาวกว่าสกินเฮดมานิดหน่อยซึ่งนั่นทำให้ไอ้คนที่นั่งตรงข้ามผมตอนนี้โคตรจะดูดี ก็อย่างว่า
ถ้ามันไม่มั่นใจในหน้าตาของตัวเองจริงคงไม่กล้าตัดสกินเฮดหรอก =..=
มันผงกหัวส่งยิ้มไปให้คนทั้งโต๊ะเป็นการทักทายก่อนที่จะหันมาทำแบบเดียวกันให้ผมเป็นคนสุดท้าย ผมพยักหน้ารับก่อนจะยกเหล้าขึ้นจิบแบบไม่มีความหมายอะไร
“ ปิง นี่เพื่อนกูชื่ออิทนะ คุยกันไปก่อนเดี๋ยวเอาแก้วให้ ”
ปริ้นท์มันแนะนำผมก่อนจะทิ้งเราสองคนไว้ที่หัวโต๊ะด้านที่ไม่ค่อยจะมีใครสนใจ คงเพราะเพื่อนคนอื่นๆในโต๊ะพวกมันกำลังสนุกกับการเชียร์บอลอยู่ที่หัวโต๊ะฝั่งตรงกันข้าม
เงียบกันไปอึดใจโดยที่ไม่มีใครเริ่มพูดเลย ก็ไม่ใช่ว่าผมเห็นมันหล่อกว่าแล้วไม่อยากพูดกับมันหรอกนะ=.= ถึงผมจะเกรียนๆก็ไม่ได้เกรียนถึงขนาดนั้น แต่ไอ้จะให้ผมเริ่มคุยกับคนไม่รู้จักก่อนนั่นก็ไม่ใช่นิสัยด้วยสิ เอาเป็นว่ารออีกฝ่ายชวนคุยจะดีกว่าละมั้ง
.
.
.
.
แล้วไอ้ปริ้นท์ก็กลับมาที่โต๊ะพร้อมกับแก้วที่ชงเหล้ามาเรียบร้อยอย่างคนรู้งาน ไอ้เพื่อนสนิทผมมันจัดแจงวางแก้วไว้ตรงหน้าปิงเสร็จสรรพก่อนจะหย่อนตัวนั่งลงตรงเก้าอี้ตัวเดิมของมัน แล้วมันก็มองหน้าผมกับปิงสลับกันไปมา
“ นี่คุยกันเสร็จแล้วหรอ? ”
มันถามแบบงงๆ ก่อนที่ผมกับคนที่นั่งตรงกันข้ามจะส่ายหน้าแทนคำตอบพร้อมกัน
“ ว้าเว้ย! พวกมึงนี่ไม่ได้เรื่องกันทั้งคู่เลย
มึงก็บอกเค้าไปดิ่อิท ว่าอยากให้เค้าช่วยยังไง ”
ไอ้ปริ้นท์บ่นๆก่อนจะลากผมเข้าเรื่องสำคัญทันที ผมนิ่งไปสิบวินาทีเห็นจะได้ ท่ามกลางสายตาอีกสองคู่ที่จ้องผมเขม็ง
ผมยกเหล้าที่เหลือครึ่งแก้วจรดริมฝีปากก่อนจะกระดกรวดเดียวหมด ผมเริ่มเล่าตั้งแต่สาเหตุที่เลิกกับแฟนอีกหกคนก่อนหน้าน้องหยก แล้วก็เล่าเรื่องที่ผมพาเธอไปแนะนำตัวกับที่บ้านเมื่อวาน แต่คนอื่นๆที่บ้านผมดันไม่อยู่ อยู่ก็แต่น้องสาวตัวดีของผม ผมจำได้ว่าขอตัวเอากระเป๋าไปเก็บบนห้องชั้นบนพอกลับลงมาอีกที น้องอัยน้องสาวผมก็บอกว่าหยกขอตัวกลับไปแล้ว ผมพยายามโทรหาเธอเกือบทั้งคืนด้วยความเป็นห่วงแต่เธอก็ไม่รับโทรศัพท์ พูดไปก็เหมือนประจานตัวเองคือผมต้องจำใจเล่าเรื่องที่ตัวเองถูกตบกลางโรงอาหารคณะมนุษย์ฯให้มันฟังอีก ตบท้ายด้วยแผนการที่ผมวางไว้เพื่อแก้เผ็ดน้องสาวที่อยากจะให้มันช่วย ว่าที่ผู้ช่วยจำเป็นของผมฟังแล้วพยักหน้าหงึกๆเหมือนมันกำลังตั้งใจฟังนิทานก่อนนอน =.= ช่วยเครียดกับกูนิดนึงได้มั้ย? นี่กูเครียดนะครับ!
“ เหมือนนิยายเลยเนอะ ”
พอฟังจบ ปิงพูดยิ้มๆ แต่ผมยู่หน้าไม่พอใจใส่มัน ทำให้มันหุบยิ้มไป บอกแล้วว่าไม่ตลกหว่ะ ผมซีเรียส - -*
“ แล้วมึงจะเอาไงวะปิง จะช่วยมั้ยวะ? ”
ปริ้นท์ทำหน้าที่กดดันอีกฝ่ายแทนผม อีกฝ่ายนิ่งไปแปปนึงก่อนจะยกแก้วเหล้าขึ้นจิบ
“ มันก็ไม่ได้เหนือบ่ากว่าแรงนี่หว่า ก็แค่แกล้งเป็นแฟนปลอมๆ ”
ปิงพูดก่อนที่จะหันมายิ้มให้ผมอีกครั้งแต่ผมแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นกับรอยยิ้มนั้นด้วยการยื่นแก้วเหล้าไปให้ปริ้นท์ชง
“ มึงคิดดีๆก่อนนะเว้ย ถ้าน้องอัยเอาไปพูด ถึงตอนนั้นอาจจะมีคนหาว่ามึงเป็นเกย์ก็ได้นะ ”
ปริ้นท์ถามเพื่อความแน่ใจในกรณีที่อีกฝ่ายอาจจะลืมคิดถึงข้อนี้ไป แต่สำหรับผมข้อนี้โคตรจะไม่สำคัญเท่ากับความสะใจที่จะได้แก้เผ็ดไอ้น้องสาวตัวเอง ผมแทบจะทนไม่ไหวให้ถึงตอนที่ผมได้หัวเราะอย่างผู้ที่เหนือกว่าใส่ไอ้เด็กนรกนั่น แค่คิดก็น่าสนุกแล้วครับ หึหึ
อีกฝ่ายนิ่งไปอีกครู่อย่างคุ่นคิด ก่อนที่ใบหน้าหล่อๆของมันจะปรากฎรอยยิ้มที่เห็นเหล็กดัดฟันยางสีน้ำเงินดูเข้ากับมันดี
“ เพื่อนมึงยังไม่อาย แล้วกูจะอายทำไม ^^ ”
ปิงตอบก่อนจะยื่นแก้วเหล้ามาขอชนกับผม ผมยกแก้วเหล้าขึ้นชนตอบ ก่อนที่ทั้งผมและปิงจะกระดกกันรวดเดียวหมดแก้วอย่างไม่ยอมอ่อนเชิงให้กัน....
beyo ng
ความคิดเห็น