ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [EXO] Wicked Marriage (All x Suho)

    ลำดับตอนที่ #5 : 3

    • อัปเดตล่าสุด 23 มิ.ย. 56


     

     

      "เฮ้อ~ ชวนมานั่งเล่นแต่ตัวเองเข้าไปทำงานเนี่ยนะ? บ้าชะมัด"

     

     

        เทานั่งหมุนเก้าอี้ไปมาอยู่ที่เคาน์เตอร์ร้านด้วยความเบื่อหน่าย ที่เข้ามานั่งนี่คือพี่สะใภ้คนสวยชวนเข้ามาซะหน่อย คุณแม่ก็ชวนคุยนั่นนี่เยอะแยะไปหมดแต่ตอนนี้กำลังโทรไปสั่งของที่ร้านเนื้ออยู่เลยปล่อยผมนั่งคนเดียว มันน่าเบื่อนะนั่งอยู่เฉยๆไม่มีอะไรให้ทำเนี่ย ไปเดินเล่นแถวนี้แล้วเลยไปมหาลัยเลยดีกว่า ลาล่ะครับคุณพี่สะใภ้ 

       ร่างสูงเดินออกจากร้านไปโดยไม่บอกใครเลย...ก็ไม่มีใครอยู่ให้บอกนี่นา จะว่าไปแถวนี้ก็มีร้านเสื้อผ้าแฟชั่นที่เขาชอบอยู่เหมือนกันแต่เช้าขนาดนี้คงยังไม่มีร้านไหนเปิดหรอก เอ่อ...ไปนั่งเล่นที่มหาลัยก็ได้วะ ร่างสูงเดินต่อมาประมาณ200เมตรก็พบกับสถานีรถไฟ ก่อนจะทำการซื้อบัตรและเมื่อลงมาที่ชานชาลาใต้ดินก็พบว่ารถไฟมาพอดี ชายหนุ่มเร่งฝีเท้าเพื่อจะไปให้ทันก่อนที่ประตูรถไฟจะปิด หากแต่เสียงโทรศัพท์มือถือคู่ใจดังขึ้นเสียก่อน เทาหยุดยืนก่อนจะควานหาโทรศัพท์ในกระเป๋าสะพายทำให้รถไฟขบวนนี้ออกนอกชานชาลาไปโดยไม่รอเขา

     

      "เออ ว่าไงพี่คริส ผมมาส่งพี่สะใภ้ถึงร้านแล้วเนี่ย มิชชั่นคอมพลีทแล้วไง" เทาหยุดยืนอยู่หน้าประตูกระจกสำหรับทางเข้าออกรถไฟ

      (แล้วตอนนี้อยู่กับจุนมยอนรึเปล่า?) 

      "กำลังจะไปมหาลัยแล้ว พี่อ่ะโทรมาพอดีพลาดรถไฟเลย" เทาทำเสียงบ่น แต่จริงๆแล้ววันนี้เขาไม่รีบเสียหน่อย

      (ทำไมไม่อยู่ในร้านเล่า ไอ้บ้า) คริสพูดด้วยน้ำเสียงดุๆ ทำเอาเทาเองก็ไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าไหร่นัก 

      "แล้วทำไมต้องอยู่ด้วยวะ น่าเบื่อจะตาย" คนน้องตอบกลับด้วยน้ำเสียงเบื่อๆปนรำคาญ 

      (กลับไปที่ร้านหน่อย พี่อยากคุยกับจุนมยอน) คริสบอกด้วยน้ำเสียงเชิงบังคับ

      "ก็โทรหาโดยตรงเลยสิ" เทาเบ้หน้า อุตส่าห์เดินออกมาแล้วต้องให้เดินกลับอีกหรอ ไม่เอาหรอก

      (ถ้าจุนมยอนรับฉันคงไม่โทรหานายหรอกนะ) 

      "เออๆ เดี๋ยวเดินกลับไปก็ได้" เทาวางสายจากพี่ชายก่อนจะกึ่งวิ่งกึ่งเดินกลับไปที่ร้านอาหารที่เขาจากมาเมื่อ 5นาทีที่แล้ว

      .

      .

      .

      .

      .

      "อ่าว หนูเทาไปไหนมาลูก?" คุณแม่เงยหน้าขึ้นมามองชายหนุ่มร่างสูงที่เดินหอบกลับเข้ามาในร้านอีกครั้ง ก่อนจะเอ่ยถามด้วยความเอ็นดู

      "แฮ่ก...พี่จุนมยอนอยู่ไหนหรอครับ"  เทาเท้าแขนลงบนเคาน์เตอร์เพื่อพักเหนื่อย อุตส่าห์วิ่งกลับมาตั้งไกล

      "ก็เข้าครัวไปแล้วล่ะมั้งลูก" คุณแม่ตอบพลางยิ้มให้

      "ครัวอยู่ทางไหนครับ?"

      "เข้าไปด้านหลังน่ะจ้ะ" คุณแม่ตอบก่อนจะก้มลงเช็คเอกสารสั่งของต่อ

      "ขอบคุณครับ" เทาก้มหัวให้เล็กน้อยแทนคำขอบคุณก่อนจะเดินไปตามทางที่หญิงสาวบอก ในใจคิดแค่ว่าที่พี่จุนมยอนไม่รับโทรศัพท์คงเป็นเพราะง่วนอยู่กับการทำครัวมากกว่า พี่คริสน่ะห่วงเมียเกินไปแล้ว...เทาส่ายหัวเบาๆในขณะที่เข้าใกล้ห้องเตรียมอาหารมากขึ้นเรื่อยๆ เสียงแปลกๆดังออกมาจากในครัวเบาๆเหมือนอยู่ไกลออกไป แต่ยิ่งเข้าใกล้เสียงนั้นก็ยิ่งชัดเจนขึ้น ไม่ใช่เสียงขั้นตอนการเตรียมอาหาร ไม่ใช่เสียงน้ำเดือด ไม่ใช่เสียงอุปกรณ์โลหะกระทบกันอย่างที่ควรจะได้ยิน...เทาหยุดอยู่หลังม่านที่จะเป็นประตูเชื่อมพาเขาเข้าไปยังห้องครัว มือหนาค่อยๆแหวกม่านออกช้าๆก่อนจะเบิกตาโพลงเพราะสิ่งที่เห็นตรงหน้า วินาทีแรกที่เห็นก็ทำเอาก้าวขาไม่ออกเลยทีเดียว...  

     

     

     

     

     

     

        "จงแดหยุดนะ...ฮึก...อย่า..ช่วยด...อื้อ!”

     

         จงแดปลดกางเกงขายาวของร่างบางก่อนจะดึงลงมากองอยู่ที่ข้อเข่า เผยให้เห็นชั้นในสีขาวตัวบางที่จุนมยอนใส่ในวันนี้ ครั้นจะร้องให้คนช่วยจงแดก็รีบก้มลงประกบปากกับผู้เป็นพี่อย่างรุนแรงและหนักหน่วง ไม่ปล่อยให้เสียงใดๆเล็ดลอดออกมาได้ จุนมยอนหลับตาไม่ใช่เพื่อรับสัมผัสที่ฝืนใจจากอีกคน หากแต่ตอนนี้เขาไม่อยากจะรับรู้อะไรทั้งสิ้น รับไม่ได้กับสภาพของตัวเองในตอนนี้ที่ทำอะไรไม่ได้เลยนอกจากร้องไห้ จะตะโกนเรียกคนอื่นให้เข้ามาช่วยก็ไม่มีใครได้ยิน จะต่อสู้อะไรกับคนตรงหน้าก็ทำไม่เป็น ทั้งที่พยายามขัดขืนแล้วแต่กลับไม่เป็นผลเลย...กลัว อยากหนีไปให้พ้นจากคนคนนี้....เขาไม่ได้คิดกับเราแบบเพื่อน แบบพี่น้องอีกแล้ว...คริส...ตอนนี้คริสอยู่ที่ไหน...ช่วยเราด้วย ฮึก....ช่วยเราด้วย...

     

      อยู่ในนี้ใครจะได้ยินพี่? ไหนล่ะคริส ไหนล่ะสามีพี่อยู่ไหน? จงแดยิ้มเยาะ ก่อนจะยกร่างบางขึ้นนั่งงบนโต๊ะสแตนเลสข้างๆและเริ่มซุกไซร้ไปตามซอกคอขาวและฝังรอยฟันเอาไว้หลายรอยอย่างเอาแต่ใจ

      จงแดอย่าทำแบบนี้...ฮึก จุนมยอนพยายามดันจงแดออกไปให้พ้นๆแต่ก็ไม่เป็นผล แม้เวลาปกติเขาก็สู้แรงจงแดไม่ได้อยู่แล้ว ตอนนี้เขาเสียแรงไปกับการร้องไห้อีก...ทำยังไงดี สิ่งเดียวที่เขานึกถึงคือคริส ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นคริสก็มักจะอยู่ข้างๆเขาและคอยช่วยเหลือเขาตลอดมา แต่วันนี้ไม่มีเขา...จะทำยังไงดี

      เดี๋ยวมันก็ผ่านไปน่า พี่จุนมยอน จงแดยังคงคลอเคลียอยู่กับลำคอระหงที่มีแต่รอยแดงเต็มไปหมด มือหนาจับขาของจุนมยอนยกขึ้นมา ก่อนจะลากมือไปตามต้นขาด้านในและสัมผัสกับส่วนอ่อนไหวภายใต้ชั้นในสีขาวนั้น

      ฮือ...หยุดนะ...ค...คริส ฮึก...ช่วยเราด้วย จุนมยอนร้องไห้หนักกว่าเดิม...พอสักที อย่าทำอะไรไปมากกว่านี้เลย มันไม่ได้ทำให้เรารู้สึกดีเลยนะ...ตรงกันข้าม กลับรู้สึกแย่ ขยะแขยง รังเกียจทุกๆสัมผัสที่นายมอบให้  หยุดซะที พอสักทีเถอะ...คริส...ใครก็ได้ช่วยเราที ไม่เอา...ไม่เอานะ

     

     

      พรึบ

     

       เหมือนพระเจ้าจะได้ยินสิ่งที่อยู่ในใจของจุนมยอน อยู่ดีๆจงแดก็ถูกกระชากออกจากตัวจุนมยอนอย่างรวดเร็วโดยไม่ทันได้ตั้งตัว เผลออีกทีก็เห็นจงแดถูกเหวี่ยงลงพื้น โดยมีชายร่างสูงในชุดเสื้อยืดสีดำกับกางเกงยีนส์และมีเสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีขาวพาดบ่ายืนอยู่ไม่ไกลนัก...เป็นเทาที่มาช่วยเขาเอาไว้

      "เห้ย! มึงเสือกไรเนี่ย?" จงแดตวัดตามองร่างสูงด้วยสายตาโกรธเคือง ก่อนจะพยายามยันตัวลุกขึ้น

      "รู้แล้วว่าทำไมพี่คริสถึงอยากให้อยู่...ไอ้เชี่ยเอ๊ย! ทำเหี้ยไรพี่สะใภ้กู!" เทาง้างขาและเตะเข้าที่กลางลำตัวของอีกคน ก่อนจะจับคอเสื้อดึงจงแดขึ้นมาและเหวี่ยงไปชนโต๊ะสแตนเลสตรงกลางครัวอย่างแรง ทำเอาเครื่องมือโลหะที่แขวนอยู่ตกกระจัดกระจายเสียงดังไปหมด นอกจากนั้นแหวนแต่งงานของจุนมยอนที่ถูกจงแดเอาไปยังตกและกลิ้งไปตามพื้นครัวอีกด้วย

      "อั่ก!" จงแดทรุดตัวลงนั่งกับพื้น จุกตั้งแต่โดนเตะแล้วล่ะอันที่จริง

      "เกิดอะไรขึ้นเนี่ย? ตายแล้วจุนมยอนลูกแม่!! เกิดอะไรขึ้นน่ะลูกทำไมลูกถึงเป็นแบบนี้ล่ะ!?" หญิงสาววัยกลางคนวิ่งพรวดเข้ามาภายในครัวหลังจากได้ยินเสียงดังที่เกิดขึ้นก่อนหน้า เธอรีบวื่งไปกอดลูกชายตัวเองที่นั่งร้องไห้ไม่หยุดอยู่บนโต๊ะ

      "คุณแม่ครับ เรียกตำรวจให้หน่อย" เทาเดินไปลากจงแดขึ้นมาก่อนจะล็อคแขนเอาไว้

      "นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แกทำอะไรน่ะจงแด?" หญิงสาวรีบหันมามองเทาและจงแดด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยคำถาม เธอจ้องมองจงแดที่หลบตาเธออย่างต้องการคำตอบแม้จะรู้ว่าจงแดคงจะไม่ยอมพูดก็ตาม

      "ทำอะไรหรอ...ก็กำลังข่มขืนลูกชายคุณแม่ไง" เป็นเทาที่พูดแทนจงแดที่ปิดปากเงียบและเอาแต่ก้มหน้านิ่ง ไม่กล้าสู้หน้าหญิงสาวที่เป็นทั้งเจ้าของร้าน เป็นแม่ของจุนมยอน และเป็นผู้ที่อุปการะเขามาตลอด

      "ห๊ะ! ทำไมแกทำแบบนี้จงแด ที่พวกชั้นชุบเลี้ยงแกมากับมือตั้งแต่เด็กๆทำไมถึงทำแบบนี้!! แกนี่มันเลี้ยงเสียข้าวสุกจริงๆเลย!!!" คุณแม่เดินเข้ามาใกล้ก่อนจะเริ่มกร่นด่าและทุบตีคนงาน ซึ่งจงแดเองก็ยืนเฉยๆยอมให้ตีโดยไม่พูดอะไรซักคำ เหอะ....ตอนจะทำล่ะไม่คิดก่อน

      "ผมว่าคุณแม่รีบเรียกตำรวจดีกว่านะครับ" เทาปล่อยแขนจงแดก่อนจะส่งต่อให้หญิงสาวที่ตอนนี้หน้าขึ้นสีเพราะความโกรธ

      "ค่ะๆ" คุณแม่พาจงแดออกไปที่สถานีตำรวจที่ใกล้ที่ ทำให้ตอนนี้ภายในร้านอาหารเหลือเพียงแค่จุนมยอนที่ยังไม่ยอมหยุดร้องไห้และเทาที่ยืนมองอยู่ห่างๆ

     

     

      "ฮึก..." จุนมยอนยังคงนั่งสะอื้นอยู่ที่เดิม ร่างกายสั่นเทาไม่ยอมลุกไปไหน

      "พี่จุนมยอน แหวนพี่" เทาจ้องมองพี่สะใภ้ที่น่าสงสาร  ก่อนจะก้มลงหยิบแหวนเงินและใส่คืนให้เจ้าของ

      "ฮึก...ขอบใจนะเทา..ฮือ" จุนมยอนกุมมือข้างที่ใส่แหวนเอาไว้แน่นก่อนจะก้มหน้าลงและปล่อยน้ำตาออกมาอีกครั้ง..เพราะความรู้สึกดีใจที่เกิดขึ้นใหม่และความรู้สึกกลัวที่ยังไม่จางหายซ้อนทับกัน

      "ผมไปส่งพี่ดีบ้านนะ" เทาดึงจุนมยอนมากอดไว้หลวมๆก่อนจะลูบหลังเบาๆเพื่อจะปลอบโยน

      "อ...อืม" จุนมยอนพยักหน้าช้าๆอยู่ภายในอ้อมกอดของน้อง ถึงจะไม่ใช่อ้อมกอดของคริสแต่ก็นับว่าอบอุ่นและทำให้เขารู้สึกปลอดภัยได้เหมือนกัน

      "ไม่เอา ไม่ร้องแล้วนะ" เทาคลายอ้อมกอดเล็กน้อยและยกมือขึ้นมาเช็ดคราบน้ำตาที่เลอะแก้มใสของร่างบาง ก่อนจะกดจูบเบาๆลงบนหน้าผากมน โดยที่จุนมยอนเข้าใจว่าเทาคงต้องการจะปลอบเขาเท่านั้น

       .

       .

       .

       .

       .

      "พี่จุนมยอนถึงบ้านแล้ว..."

     

      เทาจอดรถที่หน้าบ้านก่อนจะดับเครื่องยนต์และเรียกจุนมยอนที่เผลอหลับระหว่างทางให้ตื่น แต่คิดอีกที...ยังไม่ปลุกดีกว่า อยากจะนั่งมองใบหน้าสวยในยามหลับแบบนี้ให้นานๆ...

     

      

      'กริ๊ง~'

     

     

       เทาทำสีหน้าเหนื่อยหน่าย ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู พอเห็นว่าเป็นพี่ชายโทรมาก็รีบกดรับสายทันที

      "ว่าไงพี่คริส? เออ พี่รู้เรื่องจงแดอะไรนั่นอยู่แล้วใช่มั้ย" 

      (ใช่) ปลายสายตอบเสียงเรียบ แบบนี้ยิ่งไม่รู้ว่าจะบอกเรื่องที่เกิดขึ้นดีมั้ย...แต่ไหนๆแล้วเขาเป็นสามีของพี่จุนมยอนเขาก็ควรจะรู้นะถูกป่ะ

      "เฮ้อ~ พี่โทรหาผมเกือบช้าไปแล้วรู้ป่ะ" 

      (เกิดอะไรขึ้น?) น้ำเสียงของคริสเปลี่ยนไปจากประโยคแรกอย่างเห็นได้ชัด

      "เกือบแล้ว" เทาไม่กล้าพูดออกไปตรงๆ ให้เวลาพี่คริสทำใจแป๊บ 

      (เกือบอะไร?!) ไม่เวิร์คว่ะ พี่คริสแม่งใจร้อนกว่าเดิมอีก บอกๆไปเลยแล้วกันนะ

      "เกือบโดนปล้ำแล้ว...หมายถึง ก็โดนอ่ะแต่ยังไม่อะไรมาก..." คำท้ายๆเทาลดเสียงให้เบาลง ก่อนจะหยุดเพื่อรอดูปฎิกิริยาของพี่ชายว่าเขาควรจะพูดต่อไหม แต่สิ่งที่เทาได้รับกลับมาคือความเงียบ เงียบที่สุดตั้งแต่เคยคุยโทรศัพท์กับพี่คริส เงียบจนเหมือนไม่ได้ยินเสียงหายใจ

      "เห้ย อย่าเพิ่งช็อคตายสิพี่ชาย" เทารีบเรียกสติอีกคนให้กลับมา ยิ่งพี่ชายเงียบหายไปนานอย่างที่ไม่เคยเป็นทำให้เขายิ่งเป็นห่วงความรู้สึกของอีกฝ่าย บอกเลยว่าจริงๆแล้วก็แอบคิดเล็กๆแหละว่าพี่คริสเป็นลมไปแล้วรึเปล่า แหม่ อายุอานามก็ไม่ใช่น้อยๆแล้วนี่

      (ตอนนี้จุนมยอนเป็นไงบ้าง...) ทันทีที่ได้สติกลับคืนมา สิ่งแรกที่คริสถามถึงก็คือภรรยาสุดที่รักนั่นเอง

      "หลับปุ๋ย" เทาหันไปมองพี่สะใภ้คนสวยที่นั่งอยู่เบาะข้างๆกันก่อนจะตอบ

      (แล้วแกอยู่ที่ไหนตอนนี้?) 

      "อยู่ในรถ อยู่หน้าบ้าน" 

      (ฉันสอนเสร็จจะรีบกลับไป) น้ำเสียงของคริสดูจะผ่อนคลายลงมากเมื่อรู่ว่าน้องชายคนกลางพาจุนมยอนกลับมาถึงบ้านแล้ว

      "เอ่อ..ผมดูให้ก่อนก็ได้ พี่มาผมค่อยแปะมือ โอเค๊?" เทาพูดเพื่อให้คริสใจเย็นลงอีก ขืนเป็นแบบนี้มันจะมีผลต่อการทำงานของพี่เขาแน่ๆ

      (เออได้) 

      "ใจเย็นๆนะเว่ย พี่สะใภ้ไม่เป็นไรแล้ว...พี่ก็ตั้งใจทำงานไป" เทาพูดกับพี่อย่างเป็นกันเองเหมือนทุกครั้งเพื่อจะทำให้คริสผ่อนคลายลงอีก 

      (ขอบใจมากนะเทา) คริสเริ่มกลับมาพูดด้วยน้ำเสียงที่นิ่งสงบอีกครั้ง 

      "เออน่า~ แค่นี้เอง พี่ก็แค่ซื้อเฮดโฟนเซ็ตใหม่ให้ผมก็หยวนๆแล้ว" เทาพูดติดตลก...แต่ถ้าซื้อให้จริงๆก็ดี

      (แปะไว้ก่อน ฉันไปสอนก่อนนะ) 

      "ตามสบายเฮีย" พูดจบเทาก็วางสายอย่างอารมณ์ดี ก่อนจะหันกลับมามองจุนมยอนซึ่งตอนนี้กำลังนั่งมองเขาตาแป๋ว...นี่ตื่นตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย

     

      "บอกคริสแล้วสินะ" จุนมยอนเบ้ปากเล็กน้อย

      "ทำหน้าแบบนี้ไม่อยากให้พี่คริสรู้หรอ?" เทาเลิกคิ้วถามด้วยความสงสัย ตัวเองโดนทำร้ายแท้ๆ ที่บอกนี่ก็จะได้ช่วยกันป้องกันไง

      "อืม" จุนมยอนก้มหน้าลงและพยักหน้าช้าๆ

      "ทำไมล่ะ? พี่คริสก็ไม่ใช่คนอื่น แล้วถ้าเขารู้เองทีหลังน่ะเป็นเรื่องใหญ่แน่ๆ" ผมไม่ได้ขู่พี่สะใภ้ไปอย่างงั้นหรอกนะ ผมพูดจริงๆว่าเวลาพี่คริสโมโหน่ะมันไม่น่าดูเอาซะเลย ผมกับเซฮุนสัมผัสมาแล้ว

      "ถ้าคริสรู้...ก็จะไม่ให้พี่กลับไปทำงานอีกแล้ว" พี่จุนมยอนเงยหน้าขึ้นมาก่อนจะทำหน้างอนๆใส่กระจกรถ เอ่อ...ผมไม่ใช่พี่คริสซะหน่อยอย่างอนใส่ผมสิ

      "มันก็เป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว พี่จะกลับไปที่นั่นอีกทำไม? ผมกับเซฮุนพี่คริสยังเลี้ยงได้ แล้วทำไมพี่คริสจะเลี้ยงพี่อีกคนไม่ได้"

      "แต่ครอบครัวพี่อยู่ตรงนั้นนะ ชีวิตของพี่ก็ด้วย..." 

      "แล้วพวกเราไม่ใช่ครอบครัวพี่หรอ?" ถึงผมจะไม่ได้อินกับประโยคที่พูดออกไปสักเท่าไหร่เพราะเราเพิ่งจะเป็นครอบครัวเดียวกันได้เพียงสองวัน แต่ผมรู้สึกจริงๆว่าไม่อยากให้พี่เขากลับไปที่ร้านนั้นอีก

      "ก็ใช่ แต่ว่า..." พี่จุนมยอนพยายามจะแย้ง แต่ผมชิงพูดขัดขึ้นเสียก่อน

      "เอาไว้พี่คุยเรื่องนี้กับพี่คริสดีกว่า ตอนนี้พี่พักผ่อนก่อนเถอะนะ" เรื่องปวดหัวซับซ้อนแบบนี้ผมไม่ถนัดครับบอกเลย อันที่จริงมันก็ไม่ใช่เรื่องของผมด้วยนะ ผมจะมาปวดหัวกับเขาด้วยทำไมเนี่ย

      "อื้ม" พี่จุนมยอนเชื่อฟังแม้แต่กับคนที่อายุน้อยกว่าอย่างผม มือเล็กๆนั่นปลดล็อคเข็มขัดนิรภัย และเกือบจะเปิดประตูลงจากรถได้สำเร็จถ้าผมไม่รั้งเขาเอาไว้

      "เดี๋ยวๆๆๆ" ผมพูดก่อนจะรีบลงจากรถและวิ่งอ้อมไปเกิดประตูให้พี่จุนมยอนที่ฝั่งข้างคนขับ ถึงพี่เขาจะดูงงๆแต่ก็พยายามจะก้าวลงมาจากรถ ผมรีบคว้าตัวพี่จุนมยอนก่อนจะช้อนอุ้มซะจนพี่เขาตัวลอย...ตัวเล็กจัง เบากว่าที่คิดด้วย

      "เทาจะทำอะไร?" พี่สะใภ้ถลึงตาใส่ผมจนมันแทบจะหลุดออกจากเบ้า ผมยิ้มขำที่ได้เห็นปฏิกิริยาตอบรับตลกๆจากเขา

      "พาพี่เข้าบ้านไง" ผมบุ้ยปากไปทางประตูบ้านที่กำลังรอพวกเราอยู่

      "พี่ไม่เป็นไร พี่เดินเองได้นะ" พี่จุนมยอนเริ่มขยับไปมาทำท่าจะลงให้ได้ แต่ผมไม่ปล่อยพี่ลงง่ายๆหรอกนะ

      "ผมจะอุ้ม" 

      "เทา ไม่เอาๆๆ" เขาโวยวายหลังจากที่ผมยกตัวพี่จุนมยอนให้เข้ามาชิดตัวผมมากขึ้นจนพี่จุนมยอนแทบจะนอนตะแคงอยู่ในอ้อมกอดของผม มือบางคว้าเอาคอเสื้อของผมไว้ก่อนจะขยำและดึงไปดึงมา ขาก็เตะอากาศหวังว่าจะทำให้ผมยอมปล่อยเขาลง...คิดว่าผมจะปล่อยหรอ

      "อยู่เฉยๆดิ เดี๋ยวปล่อยตกเลย" พอพูดจบเท่านั้นแหละหยุดดื้อแล้วก็จับไหล่ผมเอาไว้แน่นกลัวว่าผมจะปล่อยจริงๆ ผมหัวเราะเบาๆก่อนจะเดินเข้าบ้านไปพร้อมกับพี่สะใภ้คนสวยที่ทำหน้าบูดหน้างอเพราะแพ้เด็กอย่างผม

     

     

     

        หลังจากพาไปส่งที่ห้องนอน ผมก็หาของกินนู่นนี่ที่พอจะมีในตู้เย็นมาเอาใจแต่พี่เขาก็ปฎิเสธทุกอย่าง ก็คงจะมีแค่น้ำผลไม้ล่ะมั้งที่ขายออก จากนั้นผมก็ไปค้นตู้ยาดูว่าพอจะมียาทาแก้แผลฟกช้ำบ้างมั้ย พอได้มาจะทาให้เจ้าตัวก็ไม่ยอม บอกว่าจะทาเองแล้วก็เอาแต่มุดตัวอยู่ในผ้าห่มเป็นดักแด้ไปเลย โอเค...ไม่ทาก็ไม่ทา ผมเป็นคนไม่ตื้อเสียด้วย ผมเลยปล่อยให้พี่เขาจัดการตัวเอง เปลี่ยนเสื้อผ้าและพักผ่อนอยู่ในห้องคนเดียว โดยที่ผมเองก็นั่งทำนู่นนี่ฆ่าเวลาอยู่ในห้องตัวเองไปเรื่อย พอถีงเวลาก็ไปเรียนตามปกติ...พี่คริสไม่ได้กลับมาตามที่บอกไว้แต่แรกเพราะจู่ๆก็ติดประชุมด่วน ผมเลยโทรไปบอกเซฮุนว่าถ้าเลิกเรียนแล้วให้รีบกลับบ้านด้วย ถึงน้องมันจะเด็กและยังดูแลใครไม่เป็น แต่ให้มันมาอยู่บ้่านเป็นเพื่อนพี่สะใภ้ก็ยังดีกว่าปล่อยให้เขาอยู่คนเดียวล่ะนะ :3

     

     

     

     

     

      3.25 PM

     

      "อือ..." จุนมยอนเริ่มรู้สึกตัวหลังจากเผลอหลับไปถึงสองชั่วโมงด้วยกัน เปลือกตาหนักค่อยๆถูกยกขึ้นช้าๆ ร่างบางที่เพิ่งตื่นจับจ้องไปที่เงามัวๆของคนที่เห็นตรงหน้า ถึงจะเห็นไม่ชัดเพราะสายตายังไม่ปรับโฟกัสแต่จากลักษณะที่เห็นนี่ก็คล้ายๆกันกับ...

      "คริส? กลับมาแล้วหรอ" จุนมยอนเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงอ่อนแรงเนื่องจากเพิ่งตื่น แม้แต่ยามตื่นคนๆแรกที่จุนมยอนนึกถึงก็ยังเป็นคริส, สามีที่แสนจะเพอร์เฟ็กต์ของเขา

      "พี่คริสมีประชุมด่วน" แต่เสียงที่ได้ยินกลับไม่ใช่เสียงของคนรักของเขา จุนมยอนหรี่ตาลงก่อนจะเพ่งมองไปที่เงามัวอีกครั้ง สายตาของเขาค่อยๆปรับโฟกัสจนมองเห็นคนตรงหน้าได้ชัดเจน

      "ซ..เซฮุนอา เลิกเรียนแล้วหรอ?" จุนมยอนยันตัวเองลุกขึ้นกึ่งนั่งกึ่งนอน ก่อนจะยิ้มเจื่อนๆให้น้องเล็กที่นั่งมองเขาด้วยสายตาเรียบเฉยเหมือนทุกครั้ง

      "บ่ายสามกว่าแล้วนี่ นอนอุตุชะมัด" เซฮุนยกนาฬิกาขึ้นมาดู ก่อนจะมองไปที่หน้าต่างและแกล้งบ่นลอยๆ

      "อ่า...เซฮุนยอมคุยกับพี่แล้ว" จุนมยอนไม่ได้สนใจเลยว่าเซฮุนจะพูดอะไร แต่ตอนนี้เขายิ้มกว้างจนแก้มแทบปริแล้ว ดีใจจังที่ในที่สุดเซฮุนก็ยอมพูดประโยคอื่นๆกับเขานอกจากการมองด้วยสายตาเย็นชาแล้วเดินหนีไป คงต้องค่อยๆใช้เวลาปรับตัวเข้าหากันสินะ 

      "ผมไปทำการบ้านล่ะ" เซฮุนเสมองไปทางอื่น ก่อนจะรีบลุกขึ้นและเดินไปที่ประตูห้องอย่างรวดเร็ว

      "ไม่น่าทักเลย .___." จุนมยอนเบ้ปาก อุตส่าห์ได้คุยกันแล้วไม่น่าไปพูดเลยอ่ะ ขอตบปากตัวเองซักสิบทีหน่อยเหอะ 

      "ใส่เสื้อดีๆด้วย" เสียงทุ้มจากร่างโปร่งที่ยืนอยู่ที่ประตูเรียกจุนมยอนให้หันหน้าไปสบตากับเจ้าปีศาจเด็กเข้า

      "เห?" ก่อนจะทำหน้าสงสัยและกระพริบตาปริบๆ

      "ผมไม่ใช่พี่คริส ไม่ต้องอ่อยผมหรอกนะ" พูดจบเซฮุนก็เปิดประตูเดินออกจากห้องไป จุนมยอนก้มลงมองเสื้อผ้าที่ตัวเองใส่ก็ยิ่งงง...เสื้อกล้ามเนี่ยนะ? ใส่เสื้อกล้ามนอนมันแปลกมากเลยหรอ? ร่างบางเลิกใส่ใจกับคำพูดก่อนหน้าของเซฮุนหลังจากคุ่นคิดอยู่นาน ก่อนจะมองนาฬิกาก็คิดว่าคริสคงยังไม่กลับมาในเร็วๆนี้แน่ จึงลุกขึ้นไปเปิดตู้เสื้อผ้าและหยิบเสื้อแจ็คเก็ตออกมาใส่ทับเสื้อกล้าม และเปลี่ยนจากกางเกงนอนขาสั้นเป็นยีนส์สกินนี่สีเข้มแทน ไม่มีอะไรทำเราก็จะออกไปเดินเล่นสูดอากาศรอบๆนี่แหละ!! 

      

     

     

     

      จุนมยอนเดินลงมาที่ชั้นล่างก่อนจะเปิดประตูรั้วช้าๆ หันมองซ้ายทีขวาทีก็เห็นแต่ถนนโล่งๆที่มีแต่ต้นไม้เขียวเต็มสองข้างทาง ร่างเล็กยิ้มกว้างก่อนจะย่องออกนอกบ้านและกำลังจะปิดรั้วให้เรียบร้อยตามเดิม...

      "เห้ๆๆ จะไปไหนน่ะพี่จุนมยอน" เป็นไปตามคาดเหมือนจับวาง...เทากลับถึงบ้านพอดี พอเห็นจุนมยอนกำลังเดินออกจากบ้านก็รีบลดกระจกรถลงและตะโกนถามทันที

      "พี่อยากเดินเล่นน่ะ" จุนมยอนตอบพร้อมรอยยิ้มก่อนจะเดินไปตามถนนโดยไม่ได้ปิดรั้ว เผื่อว่าเทาถอยรถจอดเสร็จจะได้ปิดทีเดียว

      "งั้นรอผมแป๊บนึงดิ" เทาตะโกนก่อนจะรีบถอยรถตัวเองไปจอดในที่ของคริสชั่วคราว แต่คนตัวเล็กไม่ได้สนใจ เดินตัวลอยไปนู่นแล้ว....

      "บอกให้รอผมก่อนไง"  เมื่อจอดรถเสร็จ ร่างสูงก็รีบปั่นจักรยานตามอีกคนไปติดๆ

      "พี่โตแล้วนะเทา พี่ไปไหนมาไหนคนเดียวได้" จุนมยอนหันมาค้อนใส่น้องก่อนจะเดินหน้าต่อไปเรื่อยๆผ่านบ้านของชานยอล

      "ถ้าเจอคนแบบจงแดอีกจะทำไง?"  เทายิงคำถามซึ่งทำเอาจุนมยอนถึงกับเงียบไปและเริ่มเดินช้าลง ความเงียบเข้าครอบงำปกคลุมไปทั่วบริเวณ เทาเร่งความเร็วจักรยานก่อนจะขี่อ้อมมาหยุดอยู่ตรงหน้าพี่สะใภ้คนสวย

      "พี่จุนมยอนขึ้นมาดิ จะพาไปดูรอบๆ" เทาเอ่ยชวนก่อนจะยิ้มให้ ส่วนจุนมยอนก็รีบปีนขึ้นจักรยานพร้อมกับรอยยิ้มอบอุ่นเหมือนทุกครั้ง

      กอดแน่นๆสิ เทาจับมือของจุนมยอนที่ตอนแรกจับเอวเอาไว้เฉยๆให้โอบรอบเอวของเขาก่อนจะทำแบบเดียวกันกับมืออีกข้างด้วย จุนมยอนเองก็ไม่ได้ขัดขืนอะไร กลับยิ้มให้น้องเสียด้วยซ้ำ เทายิ้มอย่างพอใจก่อนจะเริ่มปั่นจักรยานไปข้างหน้า

     

     

     

       ทั้งสองคนนั่งจักรยานวนไปรอบๆหมู่บ้าน โดยมีเทาทำหน้าที่เป็นมักกุเทศน์ แนะนำบ้านและสถานที่ต่างๆเท่าที่เขาจะรู้จักให้กับร่างบาง จนมาถึงบริเวณทะเลสาบข้างๆอาคารส่วนกลางเทาก็จอดรถจักรยานทิ้งไว้และปล่อยให้จุนมยอนลงไปเดินเล่นกินลมชมวิว ทะเลสาบนี่เป็นเหมือนวิวธรรมชาติส่วนกลางที่ทุกคนที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านนี้จะมาใช้ได้ มาเดินเล่น มาวิ่งออกกำลังกาย หรือมาว่ายน้ำ และแน่นอนว่าพี่สะใภ้คงจะยังไม่เคยมาที่นี่ เทาคิดว่าจุนมยอนน่าจะชอบและเขาก็คิดไม่ผิดจริงๆ ทันทีที่ขับผ่านจุนมยอนก็ร้องให้เทาหยุดรถทันที แถมยังไม่ทันจะหยุดดีเจ้าตัวก็รีบกระโดดลงจากจักรยานและวิ่งลงไปนั่งยองๆที่เฉลียงไม้ริมน้ำ ไม่นานก็เริ่มวักน้ำเล่นก่อนจะเดินไปรอบๆทะเลสาบ ซึ่งมันก็ไม่ใช่ว่าเล็กนะ...เป็นเวิ้งน้ำใหญ่ๆที่มีทางเดินและสวนสนอยู่รอบๆ เทายืนมองพี่สะใภ้อยู่บนเนินพลางยิ้มออกมาเมื่อเห็นว่าคนตัวเล็กกำลังยืนคุยกับหนึ่งในบรรดาลูกบ้านที่พาน้องหมามาเดินเล่น ร่างบางก้มลงนั่งยองๆกับพื้นและพูดคุยกับสุนัขด้วย...เหมือนเด็กไม่มีผิด

       ร่างสูงก้มลงดูนาฬิกา ก่อนจะคำนวณเวลากลับเล็กน้อย พอเงยหน้าขึ้นมาอีกทีจุนมยอนก็เดินหายเข้าไปในดงต้นสนซะแล้ว...กำลังจะเตือนว่าอย่าเข้าไป ช่วงนี้สนผลิตพวกละอองผสมพันธุ์พอดี ถ้าแพ้พวกนี้จะแย่เอาได้...หรือถ้าไม่แพ้จะได้ละอองฝุ่นติดเสื้อผ้ากลับบ้านให้ต้องซักกันอีก

     เทารีบปีนขึ้นจักรยานคู่ใจก่อนจะปั่นลงเนินเข้าไปตามจุนมยอนให้ขึ้นมานั่งซ้อนท้ายและมุ่งตรงกลับบ้านเลย นี่ก็เริ่มเย็นแล้ว ถึงพี่จุนมยอนจะบ่นว่ายังไม่มืดก็เถอะแต่ถ้ากลับช้ากว่านี้ ฟ้ามันก็จะมืดก่อนถึงบ้านไงครับ

     

     

     

        พอรถจักรยานมาเทียบอยู่หน้าบ้านจุนมยอนก็รีบกระโดดลงและวิ่งเข้าไปในบ้นทันทีโดยไม่รอเทา ร่างสูงมองปฏิกิริยาของอีกคนอย่างไม่เข้าใจ...ตอนพาออกไปก็ไม่อยากกลับ พอกลับถึงบ้านก็รีบวิ่งพรวดเข้าไปเหมือนไม่อยากจะออกมาอีก เทาส่ายหัวเล็กน้อยก่อนจะเข็นจักรยานไปจอดไว้ในที่ของมัน พอถึงตอนนนี้เข้าใจแล้วว่าทำไมพี่สะใภ้ถึงได้รีบร้อนขนาดนั้น รถยนต์สีเงินของพี่ชายคนโตที่เขาคุ้นเคยดีจอดสลับที่อยู่กับรถของเขา...เพราะแบบนี้สินะถึงได้รีบร้อนเข้าบ้านไป...เพราะรู้ว่าพี่คริสกลับมาแล้วสินะ

     

     

     

     

      "คริส!" จุนมยอนรีบวิ่งเข้ามาในบ้านก็เห็นคริสยืนดูจดหมายที่ส่งเข้ามาอยู่ที่โต๊ะอาหาร

      "จุนมยอน!" คริสเงยหน้าขึ้นมาก่อนจะลุกขึ้นและเดินไปหาคนตัวเล็ก จุนมยอนวิ่งเข้าไปกอดคริสแน่นๆราวกับว่าไม่ได้เจอกันมาหลายปี

      "เพิ่งกลับหรอ" จุนมยอนถามเสียงฟังดูอู้อี้เนี่องจากคยตัวเล็กฝังหน้าเข้ากับอกแกร่งของร่างสูง

      "อืม อยู่ดีๆบริษัทก็เรียกประชุมน่ะ นายไม่เป็นไรใช่มั้ย?" คริสตอบพลางยิ้มออกมาเพราะท่าทีน่ารักของอีกคน จุนมยอนส่ายหัวรัวๆทำเอาคริสรู้สึกจั๊กจี้ขึ้นมานิดๆ

      "ดีแล้วล่ะ" คริสยกมือขึ้นมาลูบหัวจุนมยอนเบาๆอย่างเอ็นดู 

      "ว่าแต่คริสเหอะ เทียวไปเทียวมาแบบนี้ไม่เหนื่อยแย่หรอ" ร่างบางเงยหน้าขึ้นมาสบตากับคนตรงหน้า ดวงตากลมโตดูบ่องแบ้วแต่กลับเต็มไปด้วยคำถาม

      "หืม?" คริสเลิกคิ้วเล็กน้อยกับสิ่งที่จุนมยอนถาม

      "ตอนกลางวันนายกลับมาบ้าน แล้วก็กลับออกไปอีกนี่นา" จำได้ว่าตอนที่เรานอนอยู่นายก็กลับมาดูเรานี่นา แถมยังแอบทำอะไรบ้าๆตอนเราหลับด้วย ถึงจะหลับอยู่แต่เรารู้สึกตัวนะ...ขี้ฉวยโอกาสชะมัดเลย 

       "ฉันไม่ได้กลับมานะจุนมยอน สอนเสร็จก็รีบไปบริษัทต่อ" คริสทำหน้างง คนตัวเล็กไปเอามาจากไหนว่าเขากลับมา แล้วดูท่าทางมั่นใจมากด้วยนะน่ะ

       "เห? ไม่ใช่คริส...แล้วใคร..." ดวงตาของจุนมยอนมีคำถามเกิดขึ้นมาอีก และเป็นคำถามที่เขาต้องการคำตอบมากที่สุดในตอนนี้ด้วย จุนมยอนทำท่าครุ่นคิดจนคริสเองก็เริ่มจะเป็นกังวลไปด้วย

       "เกิดอะไรขึ้นรึเปล่า?" คริสเชยคางจุนมยอนขึ้นมาให้สบตากับเขาก่อนจะถามด้วยความกังวล

       "ม...ไม่มีอะไรหรอก เราคงจะฝันไปล่ะมั้ง" จุนมยอนยิ้มให้คริสจนดวงตาที่เคยกลมโตเหลือแค่ขีดเส้นเท่านั้น แม้ว่าความเคลือบแคลงในใจก็ยังคงอยู่ไม่ได้หายไปไหนแต่คงจะดีกว่าถ้าลืมๆมันไปคริสจะได้ไม่ต้องเป็นห่วง เขาอาจจะแค่ฝันไปจริงๆ...ก็ตอนนั้นเขาคิดถึงแต่คริสนี่นา แต่ทำไมต้องโผล่มาเป็นความฝันแบบวิปริตด้วยนะ -////-

       "จุนมยอน" เสียงทุ้มต่ำที่ดังขึ้นใกล้ๆดึงเรียกจุนมยอนให้กลับออกมาจากห้วงความคิดนั้น

       "ครับ?" จุนมยอนมองคริสด้วยสีหน้าสงสัยอีกครั้ง...จะน่ารักน่าฟัดไปถึงไหนกันนะ...ร่างสูงยิ้มก่อนจะค่อยๆก้มตัวลงเข้ามาใกล้ร่างบางเรื่อยๆ จุนมยอนหลับตาลงโดยอัตโนมัติทำเอาคริสกลั้นขำแทบไม่อยู่ เขาไม่ได้จะจูบซะหน่อยแค่จะกระซิบเฉยๆ...

     

     

     

       "เราไปญี่ปุ่นกันเถอะ"

     

     

     

     

     

     

     

      Tao's secret

     

        พอผมกับพี่สะใภ้กลับถึงบ้านก็เห็นรถของพี่คริสจอดรออยู่แล้ว พี่จุนมยอนรีบวิ่งหายไปซะจนผมตามไม่ทัน พอเดินตามเข้ามาทีหลังก็เห็นทั้งสองคนยืนกอดกันกลม พี่จุนมยอนแทบจะละลายจมหายไปในอ้อมกอดนั้น ผมยืนมองทั้งคู่ที่ดูรักใคร่กันดีแบบนี้แล้วก็อดยิ้มไม่ได้...ไม่ได้ยิ้มให้กับความน่ารักของทั้งคู่ แต่ผมยิ้มสมเพชตัวเองต่างหาก 

     

     

      "ว่าแต่คริสเหอะ เทียวไปเทียวมาแบบนี้ไม่เหนื่อยแย่หรอ"

      "หืม?"

      "ตอนกลางวันนายกลับมาบ้าน แล้วก็กลับออกไปอีกนี่นา"

      "ฉันไม่ได้กลับมานะจุนมยอน สอนเสร็จก็รีบไปบริษัทต่อ"

     

     

       บทสนทนาของทั้งคู่ลอยผ่านลมมาเข้าหูผมโดยบังเอิญ บทสนทนาที่ทำเอาผมหน้าชา ตัวชาไปหมด ผมจ้องมองทั้งสองคนคุยกันอย่างลุ้นระทึก...โชคดีของผมที่พี่จุนมยอนไม่ได้ติดใจอะไรและกลับคิดว่ามันเป็นแค่ความฝัน แต่สีหน้าครุ่นคิดของพี่คริสน่ะเล่นเอาผมกังวลแทบบ้า พี่จุนมยอนไม่ได้ฝัน ไม่ได้ละเมอ ไม่ได้เจ้าใจผิดหรอก...ทั้งหมดมันเป็นเรื่องจริงครับ เป็นเรื่องจริงทั้งหมด...

     

     

       เมื่อตอนกลางวัลหลังจากผมมาส่งพี่สะใภ้ที่บ้านและปล่อยให้เขาได้พักผ่อนตามอัธยาศัย ผมก็อยู่แต่ในห้อง นั่งดูนู่นนี่และฟังเพลงไปเรื่อย พอเที่ยงพี่คริสก็โทรมาบอกว่าไม่ได้เข้าบ้านแล้วต้องไปบริษัทต่อเลย และสั่งให้ผมไปเรียนตามปกติห้ามโดดเด็ดขาด ผมจะทำอะไรได้นอกจากทำตามที่เขาสั่ง นั่นหมายความว่าช่วงสามชั่วโมงก่อนที่เซฮุนจะกลับบ้านพี่สะใภ้จะต้องอยู่บ้านคนเดียว พอออกมาจากห้องผมก็ไม่ลืมจะแวะห้องของพี่คริส จะเข้าไปเช็คดูพี่สะใภ้ว่าเป็นยังไงบ้าง พอเปิดเข้าไปก็เห็นเขาหลับอยู่...หลับสนิทด้วยล่ะ ขนาดผมเผลอทำเสียงดังยังไม่ตื่นเลย...แค่พลิกตัวไปมาเฉยๆ ผมเดินเข้าไปใกล้อีก ก่อนจะหย่อนก้นลงนั่งที่ปลายเตียง ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน...เหมือนมีแรงดึงดูดอะไรบางอย่างทำให้ผมไม่สามารถละสายตาจากเขาได้เลย พี่จุนมยอน...สวยมากสำหรับผม จะอิจฉาพี่คริสดีมั้ยนะ ผมจ้องมองใบหน้าหวานเมื่อยามนอนหลับ...ดูไร้เดียงสาเอามากๆ แต่ความคิดผมก็เปลี่ยนไปเมื่อพี่เขาพลิกตัวกลับมานอนหงาย ผ้าห่มสูงถึงแค่บริเวณเอวเท่านั้น...ร่างกายของพี่เขาเหมือนกับเป็นคนละคน ผมโทษเขาไม่ได้หรอกที่เขาหยิบเสื้อกล้ามมาใส่นอนเพราะผมก็ทำบ่อยๆ แต่ร่องรอยตามเนื้อตัวนี่สิ ของพี่คริสยังไม่ทันหายเมื่อเช้าก็ได้ของไอ้จงแดมาอีกคน พอเห็นรอยแดงตามตัวแบบนี้ก็พาลให้นึกถึงสิ่งที่ผมเห็นเมื่อเช้า เรียวขาขาวสวยที่ถูกยกขึ้นมา...ผมบอกเลยว่าที่ผมสตั๊นไปตอนเข้าไปในครัวไม่ใช่เพราะจงแด แต่เพราะพี่จุนมยอนต่างหาก...ต้นขาขาวที่ไม่ว่าใครก็อยากสัมผัสดูสักครั้ง

     

     

       ผมกลืนน้ำลายฝืดๆลงคอ พยายามจะสลัดความคิดอกุศลพวกนั้นออกจากหัว แต่พี่จุนมยอนไม่ให้ความร่วมมือผมเลย พี่สะใภ้พลิกตัวไปมาอีกครั้งทำให้ผ้าห่มร่นต่ำลงมาเรื่อยๆ ผมมองพี่เขาอยู่นานจนในที่สุด มือเจ้ากรรมก็เอื้อมไปดึงผ้าห่มผืนหนาร่นลงมาเหลือแค่เข่า...กางเกงขาสั้น...ให้ตายเหอะพี่จุนมยอน!!

     

     มือหนาวางลงที่บริเวณต้นขาขาวเบาๆอย่างช่วยไม่ได้ ก่อนจะลากมือไปตามท่อนขาเรียว ร่างบางขยับตัวเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้รู้สึกตัวตื่น เทาถอนหายใจด้วยความโล่งอก...เท่านี้ก็ได้สัมผัสแล้วหรอ? ง่ายไปป่ะ? ถ้างั้นก็มาดูกันว่าแค่ไหนถึงจะตื่น 

     

      เทาขยับเข้าไปใกล้ร่างของจุนมยอนมากขึ้นก่อนจะจับขาเรียวข้างหนึ่งยกขึ้นตั้ง ริมฝีปากหยักกดจูบลงบริเวณหัวเข่า ก่อนไล้ริมฝีปากไล่ลงมาตามทางจนถึงบริเวณต้นขาด้านใน และกดจูบหนักๆย้ำๆจนร่างบางเริ่มส่งเสียงเทาจึงหยุด

     

      "อือ..."

      "พี่จุนมยอน ตื่นป่ะเนี่ย?"

     

     

      ไม่มีสัญญาณตอบรับจากอีกคน ร่างบางแค่ละเมอเท่านั้น เทายิ้มเล็กน้อยก่อนจะค่อยๆคร่อมตัวพี่สะใภ้คนสวยเอาไว้ นิ้วแกร่งไล้ไปตามโครงหน้าหวานอน่างหลงใหล...ขออนุญาติลักหลับนะครับ...พี่จุนมยอน

       ริมฝีปากหยักกดจูบเบาๆไปตามลำคอขาวซึ่งถูกแต่งแต้มด้วยรอยรักสีแดงอยู่ก่อนแล้ว เทาขบเม้มเบาๆทับรอยเดิมที่มีอยู่ ถึงมันจะเยอะจนอาจจะไม่มีใครสังเกตถ้าเขาสร้างรอยใหม่แต่มันก็คงจะยังไม่เหมาะ จุนมยอนขยับตัวเล็กน้อยพร้อมกับส่งเสียงงุ้งงิ้งเบาๆในลำคอ ลิ้นร้อนยังคงลากเลียไปตามความยาวของซอกคอนั้นก่อนจะเคลื่อนต่ำลงมา มือสากถือโอกาสลูบไล้ไปตามลำตัวเล็กก่อนจะเลิกเสื้อกล้ามตัวเล็กขึ้นมาจนถึงบริเวณหน้าอก..ขาว...ตัวขาวมากจริงๆ และไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็มีรอยที่พี่คริสทำเอาไว้เต็มตัวไปหมด บ้าชะมัด...แค่เห็นก็หวั่นไหวจะตายอยู่แล้ว พี่จุนมยอน..แค่พี่นอนอยู่เฉยๆก็ทำให้คนที่เห็นอารมณ์พุ่งแล้วนะ มือหนาเผลอสัมผัสกับผิวกายเนียนละเอียดนั้นอย่างห้ามใจไม่อยู่ ไอความร้อนจากฝ่ามือแล่นไปทั่วร่างกายของคนตัวเล็กก่อนจะตามมาด้วยความนุ่มๆหยุ่นๆของริมฝีปากหนาที่กดจูบและขบเม้นทับรอยต่างๆตามตัวร่างบางด้วยความหลงใหล...อยากครอบครองบ้างจัง

     

     

      "อื้อ...อือ...คริส...ไม่เอา"

      

     

      พี่จุนมยอนละเมอเป็นชื่อพี่คริสออกมาก่อนจะพลิกตัวนอนตะแคงเพื่อหลบหลีกสัมผัสจากผม นั่นทำให้ผมหยุดทุกสิ่งทุกอย่างที่ได้ทำลงไป...จะว่าหมดอารมณ์ก็ได้ นี่พี่เข้าใจว่าผมเป็นพี่คริสงั้นหรอ จริงสินะ...ทั้งคู่แต่งงานกันแล้วนี่นา ถ้าจะมีใครที่ทำอะไรแบบนี้ก็ควรจะมีแค่พี่คริสคนเดียว แถมผมยังเอาแต่ย้ำรอยเดิมด้วย...นี่ผมคิดอะไรอยู่นะ พี่จุนมยอนเป็นพี่สะใภ้...ผมกำลังผิดลูกผิดเมียเขา...เขาที่เป็นพี่ชายแท้ๆของผม ถึงผมจะถูกใจพี่จุนมยอนตั้งแต่วันแรกแต่ผมก็ไม่ควรจะทำอะไรแบบนี้...ไม่ควรแม่แต่คิดด้วยซ้ำ...ใช่มั้ยครับ เฮ้อ~ ผมควรจะไปเรียนได้แล้ว

     

       ผมลุกขึ้นนั่งที่ปลายเตียงตามเดิมก่อนจะมองพี่จุนมยอนที่นอนหลับไม่รู้เรื่อง ผมก็สงสัยเหมือนกันว่าทำไมถึงได้หลับลึกขนาดนี้ ผมยิ้มจางๆก่อนจะส่ายหัวเบาๆ ผมลุกขึ้นยืนและดึงผ้าห่มมาห่มคลุมให้พี่สะใภ้เรียบร้อยก็รีบออกจากบ้านไปทันที ขืนอยู่นานกว่านี้....ผมอาจจะเปลี่ยนใจ 

     

     

      เรื่องนี้อย่าพูดไปนะ

     

    ==================================

     

    TALK TALK TALK!

      หลังจากตอนนี้เราอาจจะหายไปนานนะ ฮิฮิ 
      เป็นไงมั่งอ่ะ? รู้สึกบรรยายง่อย อาจจะดิทใหม่ถ้ามีเวลานะเคอะ 55555555555



      จงแด...ไม่ได้จบแค่นี้นะ นางมีรีเทิร์นแน่นอน  ฮุฮิ -.,-

      ฝันดีนะแจ๊ะ จิบิ ;3


     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×