คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : 1
"ถึงแล้ว"
"ว้าว~"
ผมก้าวลงจากรถยนต์สีเงินสุดหรูของคริสได้ไม่กี่ก้าวก็ต้องหยุดชะงักและตกตะลึงไปกับภาพที่เห็นตรงหน้า...นี่มันบ้านหรือคฤหาสน์กันเนี่ย? บ้านเดี่ยวสองชั้นหลังใหญ่โตสไตล์โมเดิร์นสร้างจากเหล็ก ไม้ และคอนกรีตเปลือย ถึงแม้ว่าบ้านในแถบนี้จะเป็นสไตล์โมเดิร์นเหมือนกันหมด บ่งบอกถึงฐานะของเจ้าจองบ้านและผู้อยู่อาศัยว่าต้องรวยกันมาก แต่สำหรับผมนะบ้านของคริสสวยที่สุดเลย ก็แหม...กำลังจะเป็นบ้านของผมด้วยนี่นา ผมว่าผมต้องเคยเห็นบ้านหลังนี้ลงนิตยาสารสักเล่มแน่ๆล่ะ แต่ไม่คิดว่ามันคือบ้านของคริสน่ะสิ เอ่อ...ถึงผมจะคบกับคริสมาหลายปีตั้งแต่สมัยเรียนมหาลัยจนตอนนี้ทำงานแล้วแต่ว่าผมไม่เคยมาบ้านคริสเลยครับ มีแต่คริสนี่แหละที่แวะไปบ้านผมซึ่งเป็นแค่ตึกแถวขนาดกลางออกบ่อยๆ บางทีก็ชอบมานอนค้างด้วย ผมมานึกสงสัยเอาก็วันนี้แหละว่าทำไมชอบมาค้างที่ห้องของผมทั้งที่บ้านตัวเองก็ออกจะสวยงามใหญ่โตกว่าตั้งเยอะแยะ ดูสิ...สวนก็กว้างแถมยังมีสระน้ำด้วย บ้านใหม่ของผมน่าอยู่มากอ่ะ >.<
"เข้าไปข้างในกันเถอะจุนมยอน" คริสเปิดประตูรั้วก่อนจะหันหันมายิ้มกับผม
"อื้ม~" ผมยกกระเป๋าเดินทางสามใบซึ่งบรรจุข้าวของเครื่องใช้ของผมไว้เต็มลงมาจากรถ
"มา ฉันถือให้" คริสรีบวิ่งมาแย่งกระเป๋าในมือผมไปถือไว้สองใบ และเหลือใบที่เบาที่สุดให้ผมถือแค่ใบเดียว
"ขอบใจนะ คริส" ผมยิ้มพลางเดินตามคริสเข้าไปในบ้าน
"มันเป็นหน้าที่ของสามีที่ดีนิ" คริสยิ้มตอบอย่างภูมิใจจนผมแอบหมั่นไส้นิดๆ
"แหม๊"
"อะไร แซวอ่อ~"
"เปล๊า"
"หึหึ"
เราหยอกล้อกันแบบนี้เป็นประจำแหละครับ เสียงหัวเราะของคริสที่คนอื่นว่าได้ยินไม่ค่อยบ่อย แต่ผมน่ะได้ยินมันบ่อยกว่าคนอื่นๆนะ
"พี่คริส~ ผมเอาจักรยานมาคืนแล้วนะ!"
ทันทีที่ผมและคริสก้าวเข้ามาในบริเวณบ้าน ก็มีเด็กผู้ชายคนนึงโผล่หน้าออกมาตรงบริเวณไม้พุ่มสูงซึ่งปลูกเอาไว้ตามแนวรั้วบ้านแต่เด็กผู้ชายคนนี้ตัวสูงกว่าต้นไม้เสียอีก...สูงพอๆกับคริสเลยล่ะ
"เออๆ เห็นแล้วล่ะ" คริสตอบก่อนจะบุ้ยหน้าไปทางจักรยานสีดำที่มีสภาพเลอะฝุ่นและดินนิดหน่อย
"เห่ยพี่เดี๋ยวจะเล่าให้ฟังไปขี่ขึ้นเขากับเพื่อนมาโคตรมันส์อ่ะ แล้วนั่นใครอ่ะพี่น่า..." เด็กคนนั้นกำลังชวนคริสคุย แต่พอเขาสังเกตเห็นผมเขาก็เปลี่ยนเรื่องทันทีก่อนจะชี้มาที่ผมพร้อมกับคำถามและหน้าตาเหลอหลาขัดกับเสียงทุ้มต่ำของเขาเอามากๆเลย
"นี่จุนมยอน แฟนพี่เอง...เขาจะย้ายเข้ามาอยู่ด้วยกันน่ะ" คริสชิงตอบก่อนที่น้องเขาจะพูดจบ ผมแค่อยากรู้ว่าเขาจะพูดอะไรต่อก็เท่านั้นแหละ .___.
"เหยดดดดดด!!" เด็กคนนั้นทำตาโตจนเหลือก ก่อนจะร้องอุทานเสียงดังเหมือนตกใจมาก ผมแอบหัวเราะเบาๆกับท่าทีโต้ตอบของเขา
"จุนมยอน, ไอ้นี่ชื่อชานยอล อยู่บ้านหลังข้างๆ" ในที่สุดคริสก็แนะนำเขาให้ผมรู้จัก
"ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ" ผมรีบส่งยิ้มหวานให้กับเด็กชายข้างบ้านเพื่อจะผูกมิตร
"คับผม~ ว่างๆมานั่งเล่นบ้านผมดิจะเผาพี่คริสให้ฟัง" ชานยอลเท้าแขนกับกำแพงรั้วก่อนจะฉีกยิ้มกว้างจนเห็นฟันครบทุกซี่ เป็นเด็กที่อัธยาศัยดีมากจริงๆ
"เงียบน่าชานยอล เข้าบ้านเหอะป่ะๆๆ" คริสตัดบทก่อนจะคว้ามือผมและออกแรงดึงให้เดินตาม
"อ...อื้ม ไว้เจอกันนะชานยอล" ผมหันไปโบกมือบ๊ายบายชานยอล ก่อนจะรีบเดินตามคริสเข้าบ้านไป
"ได้เจอกันแน่ล่ะ...หึ"
ชานยอลจ้องมองจุนมยอนไม่ลดละ จนแม้กระทั่งคนตัวเล็กได้ลับสายตาไปแล้วแต่ชานยอลก็ยังคงยืนอยู่ตรงนั้น ร่างสูงแสยะยิ้มเล็กน้อยก่อนจะหันหลังกลับและเดินหายเข้าไปในบ้านของตนเองเงียบๆ
.
.
.
.
.
"ไม่ต้องไปคุยกับชานยอลมากนักหรอก" คริสวางกระเป๋าของจุนมยอนลงกับพื้น ก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาและหันมาตีหน้าดุใส่คนตัวเล็กที่ยืนยิ้มจนดวงตาทั้งสองกลายเป็นรูปพระจันทร์เสี้ยวอ้วนๆ
"กลัวเราจะนินทานายหรอ?" จุนมยอนตอบด้วยรอยยิ้มเหมือนไม่ได้ใส่ใจอะไรเลย
"กลัวที่ไหน -_-" คริสไม่ได้เตือนเพราะกลัวว่าจะโดนนินทาหรอกนะ ก็แค่รู้สึกไม่ค่อยไว้ใจเฉยๆ ถึงเขาจะโตมาพร้อมกับชานยอลแต่ก็มีบางอย่างในตัวเจ้านั่นที่เขาไม่รู้จักเลย เรื่องที่จะให้จุนมยอนไปนั่งเล่นบ้านนั้นน่ะฝันไปเถอะ
"แล้วทำไมล่ะ?" จุนมยอนกระพริบตาปริบๆและเอียงคอมองอีกคนด้วยความสงสัย ท่าทางน่ารักของคนตรงหน้าทำเอาคริสไม่อยากพูดอะไรต่อแต่กลับอยากเหวี่ยงอีกคนลงโซฟาซะมากกว่า
"เอาเถอะน่า" คริสเบือนหน้าหนี
"คริสเนี่ยน้า -3-" จุนมยอนยู่ปากก่อนจะนั่งลงข้างๆคริส คนตัวเล็กกวาดสายตามองสำรวจไปรอบๆห้องนั่งเล่นอันโอ่โถงด้วยความตื่นตาตื่นใจ
"เอ่อ จุนมยอน...ฉันลืมบอกนายก่อน" น้ำเสียงทุ้มที่หลุดออกมาจากกลีบปากหนาทำให้จุนมยอนหยุดการสำรวจและหันกลับมามองสามีของเขา
"บอกอะไรหรอ?" จุนมยอนถามด้วยรอยยิ้ม
"คือพ่อแม่ของฉันน่ะไม่ได้อยู่ที่นี่หรอกนะ พวกท่านอยู่ที่แคนาดาถาวร จะมีกลับมาเยี่ยมลูกบ้างประปรายน่ะ"
"อ่าฮะ" ร่างบางพยักหน้าช้าๆ
"แล้วก็...ฉันไม่ได้อยู่ที่นี่คนเดียวหรอกนะ แต่ยังมีน้องชายอีกสองคน นายโอเครึเปล่า?" คริสถามด้วยสีหน้าที่ค่อนข้างกังวล คู่รักส่วนมากพอแต่งงานกันแล้วก็ต้องแยกออกมาอยู่กันตามลำพังชีวิตจะได้มีความเป็นส่วนตัว แต่หน้าที่ที่ต้องดูแลน้องชายอีกสองคนแทนแม่ของเขาก็ยังไม่จบ...ในเมื่อยังไม่มีน้องคนไหนเรียนจบเลย จุนมยอนพอเห็นสีหน้าที่เป็นกังวลของอีกคนก็ยิ่งยิ้มกว้างขึ้น มือบางยกขึ้นประคองใบหน้าหล่อคมราวเทพบุตรของร่างสูงเอาไว้
"ฉันน่ะไม่มีปัญหาหรอก ครอบครัวของนายก็คือครอบครัวของเรา...นายรักใครเราก็รักด้วย"
"จุนมยอน..." คำตอบของจุนมยอนนอกจากจะทำให้คริสอุ่นใจมากขึ้นแล้วยังทำให้คริสรู้สึกว่าเลือกไม่ผิดจริงๆที่เขารักจุนมยอน ร่างสูงจ้องลึกเข้าไปในดวงตาคู่สวยของอีกฝ่ายที่ประกายไปด้วยความรักและความจริงใจ มือหนาเลื่อนขึ้นมากุมมือเล็กที่ประคองแก้มของเขาเอาไว้ ก่อนจะค่อยๆโน้มหน้าเข้าหากันช้าๆ บ้านทั้งหลังที่เงียบสงบมีเพียงแค่คนสองคนนั่งอยู่บนโซฟา ทั้งคู่อยู่ใกล้กันเพียงแค่ปลายจมูกแตะชน ลมหายใจอุ่นๆเท่านั้นที่สัมผัสได้ ริมฝีปากอิ่มสีแดงเรื่อเคลื่อนเข้ามาใกล้หมายจะประทับจูบอันอ่อนโยนให้กับคนรักหยุดชะงักไป เมื่อมีเสียงอื่นดังขึ้นแทรกกระทันหัน...
"อะแฮ่ม!"
คริสและจุนมยอนรีบผละออกจากกัน ก่อนจะมองเยื้องไปที่ทางเข้าโถงซึ่งมีเด็กผู้ชายความสูงไล่เลี้ยกันสองคนยืนอยู่ คนหนึ่ง...คนผมสีดำยืนมองเราด้วยสายตาแปลกๆ ส่วนอีกคน...ผมสีออกน้ำตาลบลอนด์อ่อนๆ ท่าทีเฉยชา ไม่แม้แต่จะมองมาด้วยซ้ำ สองคนนี้คงจะเป็นน้องชายของคริสสินะ ตระกูลนี้หน้าตาดีทั้งบ้านเลยรึไงกัน
"ผมขึ้นบนนะ" เด็กผู้ชายผมสีน้ำตาลอ่อนๆพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย ก่อนจะปลีกตัวเดินไปที่บันได
"เดี๋ยวก่อนเซฮุน" คริสลุกขึ้นยืนก่อนจะเรียกน้องเขาเอาไว้...คนนี้ชื่อเซฮุนสินะ
"มีอะไร?" เซฮุนหันมามองคริสด้วยท่าทีที่ดูเบื่อหน่าย
"เซฮุน,เทา นี่จุนมยอน...พี่สะใภ้พวกนาย" คริสโอบผมให้ลุกขึ้นยืนก่อนจะแนะนำผมให้กับน้องๆของเขา
"วิ้ว~ มาแล้วหรอเนี่ย?" เทาผิวปากก่อนจะยิ้ม...ที่ดูเหมือนแสยะยิ้มซะมากกว่า
"พูดจบแล้วใช่ป่ะ" เซฮุนไม่สนใจ ไม่มีปฏิกิริยาอะไรทั้งสิ้น ร่างโปร่งเดินขึ้นบันไดไปอย่างรวดเร็ว
"ต่อไปนี่จุนมยอนจะอยู่ที่นี่ เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวเราด้วย" คริสพูดเสียงดังหวังให้เซฮุนที่กำลังเดินหนีไปได้ยินด้วย เซฮุนชะงักไปเลยน้อยก่อนจะก้าวเดินต่อในที่สุด
"เซฮุนมันอารมณ์ไม่ค่อยดีน่ะพี่ วัยรุ่นก็งี้" เทายักไหล่ก่อนจะเดินเข้ามาใกล้ผมและคริสมากขึ้น
"ก็เป็นแบบนี้ตั้งแต่เกิดป่ะวะ" คริสเกาท้ายทอยก่อนจะถอนหายใจให้กับลักษณะนิสัยแปลกๆของน้องชายคนเล็ก
"เอาเถอะพี่คริส อย่างน้อยมันก็กลับบ้านทุกวัน...ไม่เหมือนพี่" เหมือนน้องเขาจะพูดกับคริส แต่ไหงประโยคสุดท้ายเขากลับมองมาที่ผมด้วยสายตาและรอยยิ้มที่ผมก็บอกไม่ได้ว่ามันแปลว่าอะไรล่ะ
"ไอ้เทา!" คริสตวัดมองน้องชายด้วยสายตาคาดโทษ
"เห้ยๆ ผมล้อเล่นขำๆนะอย่าโกรธดิ เนอะคุณพี่สะใภ้" เทายิ้มทะเล้นให้เราก่อนจะแตะไหล่คริสสองสามที มันไม่เหมือนรอยยิ้มก่อนหน้านี้แต่ก็ เอาเถอะ
"ร...เรียกชื่อพี่ดีกว่านะ อย่าเรียกแบบนั้นเลยครับ" ผมยิ้มเจื่อนๆให้น้องเทา รู้สึกไม่ชินไงไม่รู้เวลาเทาเรียกผมแบบนั้น
"พี่คริส พี่สะใภ้เราเป็นผู้ชายหรอ?" เทามองคริสตาโต ดูประหลาดใจพอๆกัยชานยอลก่อนหน้านี้เลย
"เออ"
"แล้วนี่แม่รู้ยัง?"
"แม่รู้คนแรก" อันที่จริงแม่ของคริสรู้ตั้งแต่เราเป็นแฟนกันแรกๆแล้วล่ะ แต่ที่ผมแปลกใจกว่าคือคริสไม่ค่อยเล่าเรื่องของผมให้น้องฟังนี่แหละ ทั้งที่ก็อยู่บ้านเดียวกันแท้ๆ
"เห้ย ร้ายว่ะ!" เทาต่อยไปที่แขนคริสเบาๆแทนการหยอกล้อ
"ฉันพาจุนมยอนขึ้นไปเก็บของก่อนนะเทา" คริสว่าก่อนจะหยิบกระเป๋าของผมขึ้นมาถือไว้
"ฝากพี่ชายสุดที่รักของผมด้วยนะครับ...พี่สะใภ้คนสวย" เทาหันมามองผมก่อนจะส่งยิ้มมาให้ ผมรู้สึกแปลกๆกับรอยยิ้มของน้องเขาทุกทีเลย...บางทีผมอาจจะยังไม่ชินกับเขาก็ได้
"ไปเถอะ" คริสโอบไหล่ผมเอาไว้ก่อนจะพาขึ้นบันไดไปชั้นสอง เทายืนมองคู่รักด้วยรอยยิ้มที่บอกไม่ได้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ ก่อนจะเดินเข้าไปหาอะไรกินในครัว
ผมกับคริสนำสัมภาระข้าวของต่างๆขึ้นมาเก็บบนห้องนอนของคริส ระหว่างทางคริสก็แนะนำห้องต่างๆบนชั้นสองซึ่งก็ประกอบด้วยห้องนอนสามห้องตามจำนวนเจ้าของบ้าน ห้องน้ำกลาง แล้วก็ห้องเล่นเกมของเด็กๆ ผมเห็นเซฮุนนั่งดูทีวีอยู่ในห้องกระจกที่มีทั้งตู้เกมแบบต่างๆและโต๊ะพูล เขาเงยหน้าขึ้นมาสบตาผมเช่นกันด้วยสายตาเย็นชาอย่างบอกไม่ถูก ก่อนจะรีบหันไปดูทีวีต่ออย่างรวดเร็ว... สงสัยน้องเขาจะไม่ค่อยชอบผมล่ะมั้ง ก็นะ...ไม่เคยเจอกันมาก่อนอยู่ดีๆพี่ชายก็พาเข้ามาอยู่ในบ้าน เป็นผมก็คงรู้สึกแปลกๆล่ะ
ผมเดินตามคริสเข้าไปในห้องนอนของเขา ก่อนจะเริ่มจัดแจงเอาของใช้ส่วนตัวเก็บไว้ตามที่ต่างๆควบคู่ไปกับของๆคริส ตอนนี้แม้แต่ข้าวของเครื่องใช้ต่างๆของเราก็ดูมีกันและกันไปซะหมด ไม่ว่าจะเสื้อผ้า กรอบรูป หรือแปรงสีฟัน ผมยืนมองไปรอบๆห้องของคริสก่อนจะลอบยิ้มอยู่คนเดียว
"ยิ้มอะไรครับ?" คริสสวมกอดร่างบางจากข้างหลังก่อนจะดึงลงมานอนบนเตียงขนาดคิงไซส์ด้วยกัน
"อ๊ะ..คริสน่ะ" จุนมยอนตีมือคริสเบาๆแต่ก็ไม่ดิ้นหรือขัดขืนอะไรมากกว่านี้ ร่างบางอมยิ้มน้อยๆเมื่อถูกคนตัวโตกว่าขโมยหอมแก้ม
"หึหึ ต่อไปนี้เราก็จะอยู่ด้วยกันทุกวันแล้วนะ" คริสผลิกตัวขึ้นมานอนเท้าคาง ดวงตาคมจ้องมองไปยังใบหน้าหวานใสที่ส่งยิ้มให้เขาตลอดเวลาไม่รู้เบื่อ
"อย่าเบื่อหน้าเราซะก่อนล่ะ" จุนมยอนยิ้มขำ
"น่ารักแบบนี้ทุกวันก็ไม่มีคำว่าเบื่อหรอก" คริสยิ้ม
นิ้วเรียวไล้ไปตามพวงแก้มนิ่มด้วยความรักใคร่เอ็นดู สายตายังคงจับจ้องนัยน์ตาหวานคู่สวยที่มีเงาสะท้อนของเขาอยู่ในนั้นเช่นกัน รอยยิ้มพิมใจที่แสดงออกมาตลอดเวลาให้กลีบปากสีแดงนั่นยิ่งดูมีเสน่ห์ ในโลกนี้ไม่มีใครจะน่ารักไปกว่าจุนมยอนคนตัวเล็กอีกแล้ว...ไม่ว่าจะหน้าตาผิวพรรณหรือนิสัยใจคอ ทุกๆวันที่ได้อยู่ด้วยกันก็เหมือนเขาตกหลุมรักจุนมยอนซ้ำแล้วซ้ำเล่า ไม่มีวันไหนที่ความรู้สึกนี้จางหายไปได้เลยจริงๆ
คริสก้มลงก่อนจะประทับจูบลงบนกลีบปากบางอย่างหนักหน่วงแต่แฝงไปด้วยความอ่อนโยนก่อนจะถอนออกและกดจูบย้ำซ้ำๆ ลิ้นอุ่นไล้เลียไปตามริมฝีปากล่างของจุนมยอนก่อนจะเคลื่อนเข้าไปกอบโกยความหอมหวานภายในโพรงปากเล็กนั้นโดยที่จุนมยอนเองก็เปิดปากรับอย่างยินยอม ลิ้นร้อนเกียวตวัดหยอกล้อกันทั้งสองฝ่าย ก่อนนที่คริสจะถอนจูบออกและเลื่อนไปกดจูบหนักๆที่แก้มขาวซึ่งตอนนี้เริ่มขึ้นสีแดงอ่อนๆ ร่างสูงกดจูบที่ใบหูเล็กก่อนจะลากลิ้นลงมาตามซอกคอขาวเนียนพลางขบเม้มจนเกิดเป็นรอยกระจายเต็มไปหมด มือหนาค่อยๆแกะกระดุมเสื้อของร่างเล็กออกสามเม็ดและเลิกคอเสื้อออกด้านข้าง เผยให้เห็นเนินเนื้อสีนวลและหัวไหล่มน คริสก้มลงไล้เลียจากต้นคอลงมาถึงเนินหน้าอกก่อนจะตวัดขึ้นมากดจูบลงบนหัวไหล่เล็กและไม่ลืมที่จะสร้างรอยรอชักเอาไว้จนแดงไปหมด ทำเอาคนตัวเล็กส่งเสียงครางออกมาเบาๆเนื่องจากความเสียวซ่านที่ร่างสูงมอบให้ ถึงแม้ว่าครั้งล่าสุดทั้งคู่เพิ่งจะเล่นบทรักกันเพิ่งจะผ่านไปไม่นาน แต่ทุกครั้งที่คริสเริ่มให้จุนมยอนก็ไม่ขัดขืนและกลับรู้สึกดีเสียด้วยซ้ำ
“อื้ออ คริส...” ร่างสูงยัคงสาละวนอยู่กับการสร้างร่องรอยตามเนื้อตัวของคนตัวเล็ก แต่มือทั้งสองข้างที่ว่างอยู่ก็ไม่ได้อยู่เฉย มือหนาข้างหนึ่งลูบไล้ไปตามร่างกายผ่านเสื้อเชิร์ตตัวบางก่อนจะสอดมือเข้าไปภายในมอบและสัมผัสวาบหวิวโดยตรง ส่วนมืออีกข้างก็ลูบไล้ไปตามต้นขาด้านในก่อนจะวนไปบีบคลึงสะโพกมนที่ขยับเข้าหาฝ่ามือหนาตามแรงอารมณ์เช่นกัน...ทุกอย่างกำลังดำเนินไปด้วยดี ทั้งคู่กำลังตกอยู่ในห้วงภวังค์แห่งตวามรักและความต้องการ หากแต่เสียงประตูห้องที่ถูกเปิดออกทำลายอารมณ์ทุกอย่างไปจนหมดสิ้น
"พี่คริส"
อีกครั้งที่มีคนเข้ามาขัดจังหวะ เซฮุนเปิดประตูเข้ามาในห้องก่อนจะเรียกชื่อพี่ชายคนโตด้วยน้ำเสียงราบเรียบ สายตานั่นไม่ว่ายังไงก็ดูเย็นชาเสมอ
"ซ..เซฮุนมีอะไร?" คริสรีบผละออกและลุกขึ้นนั่งบนเตียงคุยกับน้อง ส่วนผมก็รีบลุกขึ้นนั่งและติดกระดุมเสื้อให้เรียบร้อย
"ทีวีเป็นไรไม่รู้แก้ให้หน่อย" น้องเล็กบุ้ยปากไปทางห้องเล่นเกมซึ่งเขานั่งอยู่เมื่อกี้นี้
"ทุกทีก็แก้เองได้หนิ แกเก่งเรื่องพวกนี้มากกว่าพี่อีกนะ" คริสเลิกคิ้วเล็กน้อยก่อนจะเกาหัวแกรกๆ
"มาดูให้หน่อย" เซฮุนพูดน้ำเสียงเชิงบังคับ
"เออๆ" คริสลุกจากเตียงก่อนจะเดินออกจากห้องนอนไป ตอนนี้เหลือเพียงผมที่นั่งยิ้มแหยๆให้เซฮุนอยู่บนเตียง ก็ผมปั้นหน้าไม่ถูกนี่นา
"หึ..." เซฮุนมองมาที่ผมก่อนจะแสยะยิ้มและเดินตามคริสออกไป ผมยิ้มไม่ออกเลยพอเห็นท่าทีแบบนั้นจากน้อง...ดูเหมือนพี่น้องของคริสจะไม่มีใครชอบผมเลยล่ะมั้ง คริสจะซ่อมทีวีให้เซฮุนนานแค่ไหนก็ไม่รู้ ผมไม่อยากนั่งรอเขาเฉยๆอยู่ในห้องแบบนี้หรอกนะ แต่ครั้นจะให้ผมไปนั่งดูเขาซ่อมทีวีก็คงจะอึดอัด จริงสิ! ไปหาชานยอลดีกว่า
.
.
.
.
"คริส" ผมแวะไปหาเขาที่ห้องกระจกเพื่อจะบอกเขาว่าผมจะออกไปหาชานยอล เข้าไปก็เห็นเขาง่วนอยูกับรีโมททีวีที่มีเป็นตับ ก่อนจะก้มๆเงยๆกับกล่องเคเบิลและพยายามกดปุ่มนู่นนี่มั่วไปหมด น่ารักจัง
"ว่าไงจุนมยอน?" คริสละสายตาจากรีโมททีวีและหันมามองผม เซฮุนที่ยืนอยู่ข้างๆก็ด้วย
"เราออกไปเดินเล่นนะ จะเอาขนมไปให้ชานยอลด้วย" ผมยิ้มพลางรายงานสิ่งที่ผมกำลังจะทำ
"ให้ขนม?" คริสเลิกคิ้วก่อนจะถาม
"ก็เราย้ายมาอยู่ใหม่ก็ต้องทำความรู้จักเพื่อนบ้านไว้สิ" เป็นธรรมเนียมปฏิบัติที่ผมจะต้องเอาของไปให้เพื่อนบ้านนี่นา
"งั้นเดี๋ยวฉันไปด้วย" คริสรีบก้มดูเจ้าเครื่องทีวีจอแบบจอยักษ์จะได้เสร็จเร็วๆและจะได้ออกไปกับจุนมยอน จุนมยอนมองเซฮุนที่ยืนอยู่ข้างๆคริสด้วยสีหน้าเรียบเฉย เขาเลยตัดสินใจที่จะไปคนเดียวดีกว่า
"ไม่...ไม่ต้องหรอกนายซ่อมทีวีให้น้องไปเถอะ เราไปนะ" ไม่รอให้คริสได้ท้วงอะไรไปมากกว่านี้ ผมรีบปลีกตัวออกมาก่อนจะรีบลงมาชั้นล่างด้วยความรวดเร็วโดยไม่ลืมจะหยิบขนมเค้กกล่องเล็กที่ผมเตรียมเอาไว้ติดมือมาด้วย ผมคิดว่าเซฮุนคงไม่ค่อยชอบผมและคงไม่ชอบให้ผมไปยุ่มย่ามกับคริสเท่าไหร่ เพราะงั้นถ้าเซฮุนอยู่ผมจะเข้าไปยุ่งให้น้อยที่สุดแล้วกัน ผมก็แค่คิดว่าเราต้องอยู่ด้วยกันแบบนี้ไปอีกนานไม่อยากมีปัญหากัน เอาไว้มีเวลาค่อยมาคุยปรับความเข้าใจกันดีกว่าเนอะ ^^
ผมเดินมาหยุดยืนอยู่หน้าบ้านของน้องชานยอล พยายามชะโงกดูว่าในบ้านมีคนอยู่มั้ยแต่ประตูรั้วบ้านน้องเขาก็สูงไปหน่อยผมเลยมองไม่เห็น กดกริ่งก็แล้วก็ไม่มีใครออกมาเปิดประตู นานเข้าผมก็คิดว่าคงไม่มีใครอยู่บ้านผมเลยเลือกที่จะกลับเข้าบ้านดีกว่า ส่วนขนมนี่เก็บไว้ให้ตอนเย็นก็ยังไม่สาย ผมเดินเข้ามาในสวนหน้าบ้านก่อนจะค่อยๆเดินลัดเลาะสำรวจดูต้นไม้และตัวบ้านจากภายนอก บ้านสวยๆกับคนที่เรารัก...นี่มันฝันขัดๆ ผมไม่คิดว่าชีวิตนี้จะมีความสุขไปมากกว่านี้ได้อีกแล้ว ผมหยุดยืนอยู่ข้างๆกลุ่มไม้พุ่มตรงบริเวณรั้วบ้านก่อนจะค่อยๆหลับตาลงสูดหายใจเข้าอย่างเต็มปอด เวลามีความสุขอะไรๆก็ดูจะสดชื่นไปหมดสินะ...
"จ๊ะเอ๋!!!!!!!"
"เห้ยยยยยยยย!!!"
จู่ๆชานยอลก็โผล่หน้าขึ้นมาจากกำแพงรั้วอีกฝั่งแถมยังพูดใส่หูผมเสียงดัง ทำเอาผมสะดุ้งตกใจแทบจะล้มแหนะ พอหันไปเห็นชานยอลฉีกยิ้มกว้างแถมยังหัวเราะใส่อีก มันน่าหยิกมั้ยล่ะนั่นน่ะ
"ฮ่าๆๆ มายืนทำไรคนเดียวครับ?" ชานยอลเอาแขนเท้ากับกำแพงเหมือนเมื่อเช้า ก่อนจะถามคำถามพร้อมกับรอยยิ้มเห็นฟันครบทุกซี่
"ชานยอลอ่า พี่กำลังหานายอยู่เลย"
"จริงอ่ะ?"
"พี่เอาเค้กมาให้" ผมยิ้มก่อนจะยื่นกล่องเค้กให้กับเขา
"ขอบคุณครับ แหะแหะ" ชานยอลรับกล่องเค้กไปวางไว้บนกำแพงรั้ว ก่อนจะเปิดกล่องจะหยิบกินเดี๋ยวนั้นเลย
"อร่อยมั้ย?" ผมถามในขณะที่ชานยอลยังเคี้ยวตุ้ยๆ
"อะไร ตอนพี่ซื้อไม่ได้ชิมหรอ" ชานยอลทำท่าประหลาดใจซึ่งผมก็อดขำไม่ได้จริงๆ เด็กคนนี้ตลกดี
"เปล่า" ผมส่ายหัวรัวๆ
"อ่ะๆ ให้กิน" ชานยอลบิดเนื้อเค้กออกมาส่วหนึ่งก่อนจะยื่นมือมาป้อนให้
"เลอะอ่ะ เช็ดให้นะ" เขายิ้มหลังจากสังเกตเห็นว่ามีเศษครีมติดอยู่ที่ริมฝีปากของผมม ก่อนจะยื่นมือมาเช็ดมั้นออกให้ ทั้งที่แค่เช็ดๆให้เสร็จไปก็น่าจะได้แต่ผมกลับรู้สึกว่าเขาตั้งใจจรดนิ้วมือลงบนกลีบปากของผมค้างเอาไว้นานพอสมควรและปาดนิ้วออกช้าๆ พอเงยหน้าขึ้นมาผมก็เห็นว่าเขาจ้องผมอยู่ตลอดเวลาเลย หรือว่าผมจะแค่คิดไปเองนะ?
"ข...ขอบใจนะ" ผมยิ้มเจื่อนๆให้ชานยอล
"แล้วนี่ใบไม้ติดผมอีก" เขาชี้มาที่ศีรษะของผม ก่อนจะหัวเราะเบาๆ
"อ๋า" ผมยกมือขึ้นมาจะปัดมันออกทั้งที่มองไม่เห็น แต่ผมช้ากว่าชานยอลหลายเท่า
"ฟู่ว์~ สะอาดแล้ว" ไม่แค่หยิบเศษใบไม้ออกเท่านั้น เขาเอนตัวเข้ามาใกล้ก่อนจะเป่าพร้อมทั้งปัดๆยีๆผมของผมเล็กน้อยเพื่อไล่เศษใบไม้เล็กๆออกจนหมด
"ขอบใจนะชานยอล" ผมยิ้มหวานแทนคำขอบคุณ แต่ชานยอลกลับส่ายหัวน้อยๆ
"ไม่เป็นไรครับ แฟนพี่คริสก็เหมือนแฟนผม"
"หืม?" คำพูดนั้นทำเอาผมสตั๊นไป ผมว่าข้างนอกนี่ก็เงียบพอที่ผมจะได้ยินทุกๆคำพูดของเขาชัดเจนนะ
"หมายถึง...ก็ต้องดูแลให้เหมือนเป็นแฟนผมเองไง พี่คริสน่ะโคตรขี้ห่วงเลย ยิ่งพี่โก๊ะแบบนี้นะ..ยิ่งต้องดูแลหนักๆ" อีกครั้งที่ชานยอลเอาแต่จ้องผมและฉีกยิ้มกว้าง ยิ่งประโยคสุดท้ายที่เขาเน้นหนักยิ่งทำให้ผมเริ่มรู้สึกแปลกๆนิดหน่อย เลยไม่ได้พูดอะไรตอบเขานอกจากพยักหน้าเบาๆ
"ผมไปก่อนนะพี่จุนมยอน" ชานยอลก้มลงมองนาฬิกาก่อนจะขอตัว
"อื้ม! ฝากตัวด้วยนะ ชานยอล" ผมยิ้ม ก่อนจะไม่ลืมว่าผมมาหาเขาในฐานะอะไร
"ฝากใจด้วยก็ดีนะ" ชานยอลยิ้มก่อนจะหันหลังให้ผมและเดินจากไป
จุนมยอนได้แต่ยืนมองแผ่นหลังของร่างสูงที่วิ่งหายเข้าไปในบ้านจากอีกฝั่งของกำแพงรั้ว ประโยคทิ้งท้ายนั้นทำเอาจุนมยอนคิดไม่ตกว่าอีกฝ่ายหมายความว่าอะไร ร่างเล็กส่ายหัวเบาๆก่อนจะสลัดเรื่องที่คิดอยู่ทิ้งไปและรีบเดินกลับเข้าบ้าน โดยที่ไม่รู้เลยว่ามีใครบางคนแอบเฝ้ามองและเห็นเหตุการณ์ทุกอย่างอยู่ด้านบน...ใครบางคนที่สังเกตจุนมยอนอยู่ตลอดเวลา...ใครบางคนที่ขื่อว่า เซฮุน
To be continue
มา TALK กันโหน่ยยย
ตอนแรกปูเรื่องก่อนนะ จริงๆเรื่องมันก็ไม่มีเนื้อหาอะไรเลย 5555555555555555
เรามีเรื่องจะอธิบายนิดหน่อยนะนะนะนะ
1. คริสไม่ได้เล่าทุกเรื่องให้น้องฟังนะ คือเป็นพี่น้องที่สนิทกันนะแต่จากหน้าตัวละครจะเห็นว่าคริสกับน้องสองคนอายุห่างกันเยอะมาก คือมันก็โตๆกันแล้วอ่ะเนอะ เรื่องบางเรื่องก็จะอยู่ในขอบเขตเรื่องส่วนตัวที่ไม่จำเป็นต้องบอกละเอียดเนอะๆๆ
2. ที่มาที่ไป บางอย่างที่สงสัยมันอาจจะต้องอ่านไปเรื่อยๆนะ ฮิฮิ
3. เซฮุนเป็นคนไม่พูดนะ แต่รู้ทุกอย่างเห็นทุกอย่าง
4. ทุกตัวละครมีปมและความโรคจิต(?)เล็กๆ
ติชมได้นะก๊ะ แต่งแนวดราม่าที่ไม่ใช่ดราม่า(?)เป็นครั้งแรกอ่ะ ปกติแต่งแต่อะไรปัญญาอ่อน 5555555555
เจอกันตอนหน้า :3
ความคิดเห็น