ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [EXO] Wicked Marriage (All x Suho)

    ลำดับตอนที่ #18 : 14 (100%)

    • อัปเดตล่าสุด 8 ม.ค. 57


    
        คริสเดินออกมาจากห้องน้ำหลังจากเพิ่งอาบน้ำเสร็จ เส้นผมสีดำยังมีหยดน้ำเกาะอยู่เล็กน้อย ผ้าขนหนูผืนเล็กถูกดึงมาใช้ซับเส้นผมอย่างลวกๆก่อนจะถูกโยนลงไปในตะกร้าผ้าข้างประตู เมื่อกลับเข้ามาในห้องนอนก็พบว่าคนตัวเล็กยังนั่งตาแป๋วอยู่บนเตียงไม่ยอมนอนเสียทีทั้งที่ก็เริ่มจะดึกมากแล้ว คริสเห็นแบบนั้นก็แอบลอบยิ้มก่อนจะเดินอ้อมปีนขึ้นเตียงไปนั่งข้างๆจุนมยอน
    
    
    
      "ไม่นอนเหรอ" ร่างสูงโอบไหล่บางก่อนจะออกแรงดึงคนตัวเล็กเข้าหาตน
      "เราไม่อยากนอน" จุนมยอนว่าพลางเหลือบมองสามีเล็กน้อย
    
      "ทำไมล่ะ? ไหนว่าอยากกลับบ้านไง" คริสเลิกคิ้วสงสัย ก่อนหน้านี้ตอนอยู่โรงพยาบาลก็นอนไม่หลับ งอแงบอกว่าอยากกลับบ้านแทบจะทุกวัน พอได้กลับบ้านสมใจอยากแล้วกลับไม่ยอมนอนเสียอย่างนั้น
    
      "เราไม่อยากฝันน่ะ" 
    
      "ฝัน?" 
    
      "เราฝันอะไรแปลกๆไม่รู้ บางทีขนาดตื่นอยู่ก็ยังฝันเลย" 
    
      "ยังไง?" 
    
      "ก็...บางทีก็ได้ยินเสียงหรือเห็นภาพแปลกๆ"
    
      "อย่างเช่น?"
    
      "อืม...บางทีก็เป็นเสียงตัวเอง บางทีก็เป็นเสียงคนอื่น...มันคุ้นหูแปลกๆ แต่ได้ยินแล้วมันปวดหัว" 
    
    
    
          คริสนิ่งไปพักนึงหลังจากที่จุนมยอนพูดจบ เขาตั้งใจจะลืมมันไปแล้วแท้ๆ ด้วยความรู้สึกบางอย่างมันต้องไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆถ้าจุนมยอนจำได้ขึ้นมา ร่างสูงกลืนน้ำลายก่อนจะมองไปรอบๆห้องเพื่อจะหาอะไรขึ้นมาเป็นประเด็นใหม่ในการสนทนา จุนมยอนเงยหน้าขึ้นมามองคริสหลังจากเห็นว่าอีกฝ่ายเงียบไปนานด้วยสายตาคาดคั้น
    
      "อ...เอ้อ! ฉันซื้อน้ำหอมมาให้แล้วนะ"คริสชิงพูดก่อนที่จุนมยอนจะได้เอ่ยปากถามถึงสาเหตุที่เงียบไป ร่างสูงชี้ไปที่โต๊ะไม้หน้ากระจกซึ่งมีขวดน้ำหอมรวมทั้งพวกครีมและสเปรย์ต่างๆวางเรียงเต็มไปหมด
    
      "น้ำหอม?" จุนมยอนมองไปที่โต๊ะเครื่องแป้งพลางขมวดคิ้ว....น้ำหอมอะไร?
     
      "ที่นายบอกว่ามันหายไปไง" คริสถอนหายใจเบาๆพลางโยกหัวกลมๆนั่นไปมา 
    
        จุนมยอนนิ่งไปก่อนจะเริ่มนึกย้อนไปถึงความทรงจำก่อนหน้า ตอนช่วงที่เพิ่งกลับมาจากญี่ปุ่น...ใช่สิ...จำได้แล้วว่าหาไม่เจอแล้วคริสก็สัญญาว่าจะซื้อให้ใหม่ ทั้งที่การท่องอดีตควรจะจบเพียงแค่นั้นแต่ภาพที่เขาจำไม่ได้กลับสวนเข้ามาในหัวของจุนมยอน ภาพที่เห็นเป็นบ้าน...ห้องนอนของใครสักคน...ดูมืดแล้วก็รกไปหมด มือขาวเอื้อมไปที่ชั้นวางของก่อนจะหยิบสมุดเล่มนึงออกมาเปิดดู...สมุดที่มีแต่ภาพสเก็ทช์เต็มไปหมด...ภาพวาดที่คุ้นตาเหลือเกิน...
    
    
    
    
    
      "...มยอน...จุนมยอน?" เสียงของคริสที่พร่ำเรียกชื่อของเขามานานหลายนาที ในที่สุดก็สามารถเรียกสติจุนมยอนกลับมาได้
    
      "สมุดภาพ..." ร่างเล็กเผลอพึมพำออกมาเบาๆถึงสิ่งที่เขาเห็นล่าสุด
    
      "หืม?" คริสได้ยินแบบนั้นก็เริ่มขมวดคิ้วด้วยความสงสัย จุนมยอนไม่เคยพูดถึงสมุดวาดภาพมาก่อนเลย
    
      "อะ...ไม่มีอะไรหรอกคริส เราง่วงแล้ว" ร่างบางถอยห่างออกจากร่างสูงเล็กน้อยหลังจากรู้สึกตัวว่าเผลอพูดออกไป
    
      "เมื่อกี้นายไม่ได้บอกว่า..." 
    
      "ฝันดีนะคริส" จุนมยอนตัดบทด้วยการบอกฝันดีพร้อมกับจุ๊บแก้มสามีเบาๆ ก่อนจะทิ้งตัวลงนอนและดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมปิดถึงคอ
     
      "จุนมยอน" คริสเอนตัวลงนอนตามก่อนจะสะกิดเรียกคนตัวเล็ก
    
      "อะไรอ่ะ?" จุนมยอนพลิกตัวกลับมาหาคริส ก่อนจะมองอีกคนด้วยดวงตากลมโตใสแป๋ว
    
      "จะไม่ยอมบอกหรอ" คริสยื่นหน้าเข้าไปใกล้จนแก้มใสของคนตัวเล็กเริ่มจะขึ้นสีชมพูระเรื่อ 
    
      "บอกอะไร ไม่มีอะไรให้บอกซะหน่อย" ร่างเล็กรีบดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมหัวจนมิด แต่มือใหญ่รีบคว้าปลายผ้าเอาไว้แล้วกระตุกออก
      
      "เด็กโกหก" 
    
      "เราเปล่านะ!" 
    
      "เด็กดื้อ" พอเห็นว่าจุนมยอนเถียง ร่างโปร่งก็ดันตัวขึ้นคร่อมอีกฝ่าย ก่อนจะกดจูบหนักๆลงบนแก้มใสไล่มาเรื่อยๆจนมาถึงต้นคอ
    
      "คริส ไม่เอา..." คนตัวเล็กหลับตาก่อนจะใช้แรงที่มีผลักร่างสูงออกไป น้ำเสียงที่ออกจะสั่นเครือเล็กน้อยทำเอาคริสชะงักทุกการกระทำ...นี่เขาเผลออีกแล้ว ทั้งที่รู้ว่าสภาพจุนมยอนในตอนนี้ยังไม่สู้ดีนักแถมยังไม่รู้ด้วยว่าเมื่อกี้นี้จุนมยอนเห็นหรือได้ยินอะไรอีก เขาเผลอทำให้จุนมยอนกลัวอีกแล้วสินะ... คริสทิ้งตัวลงนอนตามเดิมและคว้าเอวบางมากอดไว้หลวมๆ 
    
      "นอนซะเด็กดื้อ" ริมฝีปากหยักกดจุมพิตลงบนหน้าผากมนเบาๆ 
    
      "เรานอนไปตั้งเยอะแล้วนี่นา...นอนไม่หลับหรอก" 
    
      "ทำไงดีล่ะ นายถึงจะยอมนอน"
    
      "เล่านิทาน"
     
      "ห้ะ?"
    
      "เล่านิทานให้ฟังหน่อย"
    
      "ฉันเนี่ยนะ เล่านิทาน?"
    
      "เซฮุนยังเล่าให้เราฟังได้เลย"
    
      "เล่าก็เล่า" 
    
    
    
    
    
          ร่างสูงยอมตามใจให้หนึ่งวันแต่กว่าจะสรรหาเรื่องมาเล่าได้ก็ทำเอาคริสเหนื่อยไปอีก พอนึกเรื่องอะไรได้ก็บอกว่าเซฮุนเล่าให้ฟังไปแล้วมั้งล่ะ เบื่อแล้วมั่งล่ะ สุดท้ายคริสเลยต้องแต่งเรื่องขึ้นมาใหม่ซะเลย ถึงมันจะสดไปหน่อยแต่จุนมยอนก็ยอมฟังจนจบ แต่หลังจากเล่านิทานให้ฟังแล้วก็ใช่ว่าจะยอมนอนเสียเมื่อไหร่ ลงท้ายคริสก็ต้องร้องเพลงให้ฟังจุนมยอนถึงจะหลับได้ พอเห็นว่าคนรักหลับไปแล้วร่างสูงก็ค่อยๆย่องลงจากเตียงก่อนจะคว้าโทรศัพท์ติดมือไปด้วย นิ้วเรียวกดหมายเลขปลายทางอย่างคล่องแคล่วในขณะที่กำลังเดินออกจากห้องนอน แผ่นหลังกว้างพิงเข้ากับประตูห้องนอนภายนอกพลางยกโทรศัพท์ขึ้นมาชิดหู เพียงไม่กี่นาทีคนที่ปลายทางก็รับ
    
    
    
    
    
    
    
        "แอม...ฉันมีเรื่องให้แกช่วยหน่อย"
    
    
    
      .
    
    
    …………………………………………………….
    
    
          เช้าวันรุ่งขึ้น...เป็นเช้าอีกวันที่คริสตื่นก่อนจุนมยอน ตั้งแต่ตื่นขึ้นมาก็เอาแต่จ้องผู้ชายร่างเล็กในอ้อมแขนของตนไม่วางตา ทั้งพยายามขยับตัวให้น้อยที่สุดเพื่อที่คนตัวเล็กจะได้ไม่สะดุ้งตื่น แต่สุดท้ายแล้วเสียงปลุกเตือนจากโทรศัพท์มือถือของร่างสูงเองที่ยุติการนอนของจุนมยอน คริสรีบเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพทร์บนหัวเตียงมากดปิดเสียงแต่พอหันมาอีกทีจุนมยอนกลับเป็นฝ่ายที่นอนจ้องเขาเสียเอง
    
    
    
       "ไงครับ?" คริสยิ้มให้อย่างอบอุ่นก่อนจะจุ๊บหน้าผากอีกคนเบาๆ
      
       "อืม...ตื่นเช้าจัง" จุนมยอนว่าด้วยน้ำเสียงงัวเงียพลางขยี้ตาไล่ความง่วง
     
       "เอ่อ..จุนมยอน" 
    
       "อะไรหรอ?"
    
       "ฉันลืมบอกนายไปเรื่องน่ะ"
      
       "เรื่องไรอ่ะ?"
     
       "พรุ่งนี้ฉันต้องไปต่างจังหวัดล่ะ"
    
       "ไปทำไม?"
    
       "ไปดูสาขาที่ต่างจังหวัดน่ะ"
    
       "ไปเช้าเย็นกลับใช่มั้ย?"
    
       "เปล่า ดูเหมือนถ้ามันไปได้ไม่ค่อยสวยก็ต้องอยู่ประจำไปสักพักน่ะ"
     
       "เห? นี่คริสโดนเด้งไปอยู่ต่างจังหวัดแล้วหรอ?" จู่ๆจุนมยอนก็เด้งตัวขึ้นมานั่งหลังจากได้ยินคำว่าอยู่ประจำ 
    
       "ไม่ใช่สักหน่อยยย!!! แค่เป็นตัวแทนไปพัฒนาเฉยๆๆๆๆๆๆ" คริสรีบโวยแก้ต่าง ไม่มีอะไรจะดูแย่ไปกว่าการโดนเด้งไปอยู่สาขานอกโซลอีกแล้วล่ะ ฟีลโดนย้ายไปต่างจังหวัดน่ะมันเหมือนโดนลดตำแหน่งกลายๆเลย TTTT
    
       "คึ..." จุนมยอนแอบหัวเราะที่คริสทำท่าทางหงุดหงิด
    
       "นั่นแหละๆๆ ไม่ได้โดนเด้งนะเข้าใจมั้ย" คริสเห็นแบบนั้นก็แกล้งบีบจมูกรั้นด้วยความหมั่นเขี้ยว
    
       "รู้แล้วว งี้เราก็อยู่คนเดียวอีกน่ะสิ" 
    
       "ไปไม่กี่วันหรอก เทากับเซฮุนก็อยู่บ้านนะ"
    
       "แต่ว่า..." 
    
       "ฉันจะให้เพื่อนบ้านมาช่วยดูแลด้วยอีกคน ดีมั้ย? ชานยอลน่ะ" 
     
       "อืม...ก็ได้" จุนมยอนพยักหน้ารับช้าๆไม่ได้เอะใจอะไรทั้งสิ้น คริสลูบหัวจุนมยอนเบาๆก่อนจะลุกไปอาบน้ำเพื่อจะออกไปทำงาน ผลจากการที่เขาลาพักหรือกลับก่อนไปหลายอาทิตย์เพื่อไปเฝ้าจุนมยอนที่โรงพยาบาล ทำให้เขาต้องชดเวลาเหล่านั้นที่หายไปด้วยการมาทำงานเช้าขึ้นแทนที่จะกลับดึก ทุกอย่างกำลังจะกลับเข้าสู่สภาวะปกติอย่างแท้จริงแล้ว
    
    
    
    .
    
    .
    
    .
    
    .
    
    .
    
    
    
       "จะไปไหนอีกแล้วอ่ะ ไปโคตรบ่อยเลย" ชานยอลที่ยทนเกาหัวแกรกๆอยู่หน้าประตูบ้านถึงกับทำหน้าแหย หลังจากพี่ชายบ้านถัดไปเดินมาบอกให้ช่วยเฝ้าบ้านให้หน่อย 
      
       "ไปทำงานต่างจังหวัด ฉันจะให้โอกาสแกแก้ตัวนะ คราวนี้ห้ามทำบ้านฉันเละอีก..ทำได้มั้ย?" คริสมองคนเด็กกว่าด้วยสายตายังเคืองอยู่นิดๆ
    
       "คร้าบบ" เด็กหนุ่มตอบอย่างเสียงดังฟังชัด 
    
       "ฉันจะไปแล้ว" พูดจบร่างสูงก็หันหลังให้ชานยอลก่อนจะเดินกลับบ้านตนเอง
    
       "งั้นผมเดินไปด้วย" เด็กหนุ่มรีบปิดประตูบ้านก่อนจะวิ่งเหยาะๆตามหลังคริสมา 
    
         พอมาถึงที่บ้าน ทั้งจุนมยอน เทา และเซฮุนต่างก็ออกมายืนรอกันอยู่แล้ว ชานยอลพอได้เจอเพื่อนที่อายุเท่ากันอย่างเทาก็พากันเสียงดังก่อนจะหลบเข้าบ้านไปนั่งคุยนั่งเล่นกันสองคน ปล่อยให้เซฮุนยืนมองด้วยสีหน้าและสายตาที่แสดงออกถึงความเหนื่อยหน่ายในตัวพี่ชายทั้งสองอย่างชัดเจน คริสส่ายหัวเบาๆก่อนจะยกกระเป๋าเป้เข้าไปเก็บในรถพร้อมกับจุนมยอนที่เดินตามออกมาด้วย
    
    
       "ต้องขับรถไปเองด้วยหรอ?" ร่างเล็กถามขึ้น มือขาวก็เกาะแขนเสื้อคริสไม่ปล่อย
    
       "ไปรวมที่บริษัทก่อนน่ะ เดี๋ยวจะนั่งรถบัสไป" คริสคลี่ยิ้ม พลางลูบมืออุ่นๆของคนรักไปด้วย
      
       "ขับรถดีๆนะ" จุนมยอนปล่อยมือออกจากแขนคริสและค่อยๆถอยห่างออกมา
    
       "อืม เป็นเด็กดีล่ะ" ร่างสูงโบกมือให้เล็กน้อยก่อนจะหันหลังให้คนตัวเล็ก
    
       "ค...คริส" 
    
       "หืม?" เสียงเรียกจากคนรักทำให้คริสหันกลับมาอีกครั้ง แต่ก็ต้องตกใจที่จู่ๆจุนมยอนก็วิ่งเข้ามาก่อนจะกอดเอวเขาไว้แน่นและซุกหน้าเข้ากับแผงอกกว้างที่ต้อนรับเขาเสมอมา
    
       "ไม่อยากให้ไปเลย" น้ำเสียงออดอ้อนกว่าปกติเริ่มทำเอาคริสไม่อยากจะไปเช่นกัน 
      
       "ช่วยไม่ได้นี่นา ถ้าเลือกได้ฉันก็ไม่อยากไปหรอกนะ" คริสแอบยิ้ม มือหนาพลางลูบเส้นผมหอมๆของอีกคนอย่างที่ชอบทำ
    
       "รีบๆกลับมานะ" จุนมยอนเงยหน้าขึ้นพร้อมๆกับค่อยๆคลายอ้อมกอดออก
    
       "ครับ...สัญญาว่าจะกลับมาให้ทัน" พูดจบก็ขโมยจูบคนตัวเล็กอีกครั้ง ก่อนจะขึ้นรถและขับออกจากบ้านไป จุนมยอนยืนรอจนกระทั่งคริสออกไปแล้วจึงยอมกลับเข้าไปพักผ่อนในบ้าน
    
    
    
    
    
           แน่นอนว่าทุกๆอย่าง ทุกๆเหตุการณ์ของพี่สะใภ้อยู่ในสายตาของเซฮุนตลอดมา...

     

     

        จุนมยอนเตรียมอาหารเย็นให้เด็กทั้งสามคนตามปกติอย่างที่เคยทำทุกวัน ถึงแม้มื้อเย็นของวันนี้จะดึกไปสักหน่อยก็ตาม หลังจากจัดการล้างถ้วยโถโอชามเสร็จเรียบร้อยทุกคนก็ขึ้นไปกระจุกรวมตัวกันอยู่ในห้องโฮมเทียเตอร์ที่นอกจากจะมีโทรทัศน์จอยักษ์แล้วยังมีตู้เกมส์และโต๊ะบอลด้วย เวลาผ่านไปเด็กๆก็ค่อยๆหายตัวไปทำธุระทีละคนสองคน เริ่มจากเซฮุนที่ลงไปซักผ้าส่วนชานยอลบอกว่าจะออกซื้อของ เหลือเพียงแค่พี่ชายคนกลางที่นอนหนุนตักพี่สะใภ้คนโปรดอยู่บนโซฟา

       "เทาอ่า ถ้าง่วงก็ไปนอนในห้องมั้ย?" เสียงหวานใสเอ่ยขึ้นขัดกับเสียงพากษ์กีฬาจากทีวี
       "ไม่เอาหรอก" เทาว่าพลางนอนกดรีโมทเปลี่ยนช่องไปเรื่อยๆ...เตียงมันนุ่มแต่ไม่มันฟินหรอกนะ
       "เทา แต่พี่ปวดขา" ทีแรกก็ว่าจะแกล้งเล่นๆแต่ตอนนี้ขามันเริ่มชาขึ้นมาจริงๆ
       "อ่าว มานวดๆๆ"  เด็กหนุ่มรีบลุกขึ้นมานั่งก่อนจะจับต้นขาของร่างบางขึ้นมาและแกล้งทำทีเป็นว่านวดให้แต่ไม่ได้ออกแรงอะไรเลย
       "คึ...จั๊กจี้น่ะ" จุนยอนหัวเราะก่อนจะจับมือน้องออกจากขาตนเอง แต่เทาที่ยังอยากแกล้งต่อจับข้อเท้าเล็กเอาไว้ก่อนจะยกขึ้นมาวางไว้บนตักและดึงเข้าหาตัว ส่วนร่างบางก็เอาแต่หัวเราะก่อนจะเอนตัวลงนอนกับเบาะโซฟาในที่สุด พอเทาเห็นแบบนั้นก็ยิ่งหาทางแกล้งพี่สะใภ้เข้าไปอีก


       “นี่ๆวันก่อนผมเห็นในทีวีอ่ะ โยคะหรืออะไรไม่รู้

       “แล้วเป็นยังไง?

       “ทำให้ดู

       “เทาไม่เอา คึคึ

        เทาเปลี่ยนมานั่งคุกเข่าบนโซฟา มือหนาจับข้อเท้าเล็กทั้งสองข้างไว้ด้วยกันก่อนจะจับให้จุนมยอนงอเข่ายกขาขึ้นทั้งสองข้าง  ร่างโปร่งเอนตัวไปข้างหน้าพร้อมๆกับดันเข่าของร่างเล็กให้ไปชิดอกมากขึ้น จุนมยอนก็ยอมให้น้องเล่นไป เจ้าตัวเอาแต่นอนหัวเราะพลางมองอีกคนด้วยความเอ็นดู จนกระทั่งเทาขยับเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ...ใกล้ขึ้นเรื่อยๆจนเริ่มจะรู้สึกว่ามันใกล้เกินไปแล้วจุนมยอนถึงหยุดหัวเราะและเริ่มมองเด็กหนุ่มด้วยสายตาจริงจัง เขาไม่ได้เจ็บขาที่โดนเทากดลงมามากขนาดนี้แต่มันควรจะพอได้แล้วไม่ใช่หรอ


        "เทา...พี่...พี่เจ็บละเทา"  จุนมยอนพยายามจะเรียกชื่อน้อง แกล้งบอกว่าเขาเจ็บแต่ไม่ว่าจะทำยังไงเทาก็ยังคงเลื่อนหน้าเข้ามาใกล้เหมือนกับว่าไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้น...แน่นอนล่ะ บรรยากาศมันชวนมาถึงขนาดนี้แล้วใครมันจะไปหยุดได้ อีกเพียงไม่กี่เซนต์ก็จะสัมผัสกันอยู่แล้ว เทาไม่สนใจเสียงเรียกของพี่สะใภ้เลยเพราะเป้าหมายของเขาในตอนนี้คือริมฝีปากอิ่มที่เขาอยากจะสัมผัสมันเหลือเกิน
       "เห้ยยย!" แต่จู่ๆเทาก็โวยวายก่อนจะรีบพรวดขึ้นยืนทันที จุนมยอนแปลกใจกับท่าทีแปลกๆของน้องชายคนกลางแต่เมื่อ เงยหน้าขึ้นก็เข้าใจทุกอย่าง...เซฮุนฟาดหมอนใส่หัวเทาไม่ยั้งเลย...
       "เป็นบ้าอะไรของมึง?" เทาเหวี่ยงใส่น้องชายด้วยความโมโห เด็กชายเขวี้ยงหมอนไปที่โซฟาหลังจากได้ตีพี่ชายจนพอใจแล้วก่อนจะยืนกอดอกชักสีหน้าอย่างทุกวัน
       "ไปเอาเสื้อออกจากเครื่องซักผ้า"
       "จะซักต่อก็เอาออกไปดิ เอาออกไปได้เลย" เทาตอบปัดก่อนจะนั่งลงกับพื้น...เหนื่อยทุกครั้งที่ต้องตีกับเซฮุน
       "เสื้อพี่พี่ก็ทำเองดิ" พูดจบร่างโปร่งก็ทิ้งตัวลงนั่งข้างๆพี่สะใภ้อย่างไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าไหร่นัก
       "โว้ะ เออๆๆๆ" ในที่สุดเทาก็ยอมลุกขึ้นและเดินกระฟัดกระเฟียดลงข้างล่างไปจัดการกับเสื้อผ้าของตัวเอง
       "เฮ้อ พี่จุนมยอนกินยายัง?"  เซฮุนหันมาคุยกับจุนมยอนหลังจากที่เทาลงไปและเขาหายหงุดหงิดแล้ว
       "หืม? อื้มม กินแล้ว~" ร่างบางพยักหน้ารัวๆ
       "จะไปนอนยัง?"
       "ยังไม่ง่วงเลยนะ"
       "อ่อ..."  แล้วห้องก็ตกอยู่ในความเงียบอีกครั้ง ถึงแม้ว่าทีวีจะถูกเปิดทิ้งไว้แต่เสียงของมันก็ดูไร้ความหมาย เด็กน้อยพยายามจะสรรหาเรื่องต่างๆมาชวนพี่สะใภ้คุยแต่พอนึกถึงภาพที่เห็นเมื่อก่อนหน้านี้ทีไรมันก็ชวนหงุดหงิดให้ได้ทุกที  
       "เซฮุนนา! พี่จุนมยอน! ดูหนังกันมั้ย ฮยองออกไปเช่ามาแหละฝากถือแป๊บ" ตอนนั้นเองที่ชานยอลกลับเข้ามาพอดีพร้อมกับหิ้วของมากมายเอาไว้ด้วย เซฮุนเดินไปเปิดประตูให้ก่อนจะรับกล่องซีดีที่พี่ชายข้างบ้านเช่ามาพลิกดูทีละแผ่นว่ามีเรื่องอะไรบ้าง ส่วนขานยอลก็เอาขนมถุงที่เวะไปเอาออกมาจากบ้านตัวเองมาวางกองไว้บนโต๊ะเตี้ยหน้าโซฟา
       "ขนมมาเยอะขนาดนี้จะบังคับดูด้วยสินะ" เซฮุนว่าพลางแอบเล็งขนมที่ตนชอบจากในกองนั้น
       "แหะๆ ไอ้เทาล่ะ?"  
       "เดี๋ยวก็ขึ้นมา"
       "พี่จุนมยอนเอาหน่อยมั้ยครับ?" ชานยอลยิ้มกว้างพร้อมกับยื่นขวดน้ำอัดลมขนาดเล็กให้กับจุนมยอน
       "ม...ไม่ล่ะ..." จุนมยอนส่ายหัวเบาๆก่อนจะยิ้มแหยๆให้ตามระเบียบ
       "พี่จุนมยอนไม่ดื่มน้ำอัดลมหรอก เอามาให้ผมดีกว่า" เซอุนแย่งขวดน้ำอัดลมมาก่อนจะเปิดดื่มมันเดี๋ยวนั้น
       "เอ่อ...พี่ไปอาบน้ำก่อนนะ"  คนตัวเล็กค่อยๆเดินไปที่ประตูในระหว่างที่เด็กชายทั้งสองกำลังเถียงกันว่าควรจะดูหนังเรื่องไหนดี
       "อ่าว ไม่ดูหนังหรอพี่?"  ชานยอลเงยหน้าขึ้นมาถาม ก่อนจะเบะปากอย่างผิดหวัง
       "แป๊บเดียว เดี๋ยวพี่มา"  พูดจบจุนมยอนก็เดินออกจากห้องหายไปอย่างรวดเร็ว  ทิ้งให้เด็กสองคนมองหน้ากันอย่างงงๆและทะเลาะกันต่อ ไม่นานนักเทาก็กลับขึ้นมาจากห้องซักผ้าและคืนปาร์ตี้ดูหนังอยู่บ้านของสามหนุ่มก็ได้เริ่มขึ้น





     

    --------------------------------70%---------------------------------



     

         จุนมยอนหย่อนเสื้อผ้าลงในตะกร้าก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไปด้วยร่างกายเปลือยเปล่า สายน้ำเย็บเฉียบพรั่งพรูออกมาจากฝักบัวก่อนจะค่อยๆปรับอุณภูมิจนอุ่นได้ที่ ร่างบางขยับเข้าไปยืนใต้ฝักบัวและปล่อยให้น้ำค่อยๆไหลผ่านลำตัว ในใจก็เหม่อลอยคิดนู่นนี่ไปเรื่อย...ก่อนหน้านี้ก็ไม่เคยเป็นมาก่อนแต่พอเจอหน้าน้องชายข้างบ้านอย่างชานยอลเข้าเขากลับรู้สึกแปลกๆยังไงชอบกล รู้สึกเข้าหน้าไม่ติดถึงได้หนีมาอาบน้ำอย่างนี้ทั้งที่ก็เพิ่งจะเจอน้องครั้งแรกหลังจากออกจากโรงพยาบาลแท้ๆ การที่เข้าหน้าใครไม่ติดก็แสดงว่าต้องมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นระหว่างคนสองคนแน่ๆแต่คนตัวเล็กเองก็จำไม่ได้ว่าเขามีเรื่องอะไรกับชานยอลหรือเปล่า บางทีอาจจะเป็นช่วงที่เขายังจำไม่ได้ แต่ไม่ว่าจะพยายามนึกเท่าไหร่ก็เห็นเพียงแค่เงาลางๆของผู้ชายคนนึงที่เขาเองก็ไม่แน่ใจว่าเป็นใคร


      "คิดมากไปรึเปล่านะ.."

     

      จุนมยอนส่ายหัวแรงๆเพื่อจะไล่ความรู้สึกบ้าๆนี่ทิ้งไปก่อนจะรีบอาบน้ำชำระตัวให้เสร็จ เพราะคิดว่าเด็กๆอาจจะกำลังรอเขาอยู่ก็เป็นได้ พอให้น้ำช่วยชำระใจอะไรๆมันอาจจะดีขึ้น ร่างบางปิดฝักบัวก่อนจะเอื้อมไปคว้าผ้าขนหนูสีขาวที่วางพาดอยู่มาพันเอวไว้ก่อนจะเดินออกจากห้องน้ำไปแต่งตัว

    ร่างเล็กในชุดนอนกำลังนั่งมองเงาสะท้อนของตนเองในกระจก พยายามจะเรียบเรียงสิ่งที่เขาเคยเห็นก่อนหน้านี้ให้ได้แต่จะเป็นไปได้อย่างไรในเมื่อเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันควรจะเริ่มตรงไหน ลมหายใจอุ่นถูกพ่นออกมาด้วยความหงุดหงิด พลันดวงตากลมก็เหลือบไปเห็นขวดน้ำหอมขวดใหม่ที่คริสซื้อมาให้วางอยู่บนโต๊ะตรงหน้าเขา...น้ำหอมที่คริสซื้อมาให้เพราะมันเคยหายไป จุนมยอนนึกย้อนไปถึงเมื่อคืนก่อนที่เขาเห็นภาพห้องนอนและสมุดภาพของบุคคลปริศนาก่อนจะย่นคิ้วเพราะดูน้ำหอมกับสมุดภาพจะไม่เกี่ยวข้องกันเลยแม้แต่น้อย จุนมยอนหลับตาลงช้าๆอย่างเหนื่อยใจ แต่จู่ๆเสียงโทรศัพท์ก็เรียกให้เขาลืมตาก่อนจะกดรับ

     

      แบคฮยอน?”

      (จุนจ๋า แต๊งกิ้วนะ!!)
       “เรื่องอะไรอ่ะ?

      (ช็อคโกแลตตต อุตส่าห์จะไดเอทอยู่แต่แกดันซื้อมาให้พอดี ฮ่าๆๆๆ)

      ช็อคโกแลต? อ๋อ ของญี่ปุ่นน่ะนะ...เราเอาไปให้แบคตอนไหน?

      (พี่คริสแวะเอามาให้เมื่อวานว่ะ จริงๆว่าจะโทรมาหาตั้งแต่เมื่อวานละแต่ลืม)

      อ่อ...

     (แล้วแกเป็นไงวะ หายดีแล้วช้ะ?)

      อืม ดีขึ้นแล้วล่ะ

      (เสียงแกดูเหนื่อยๆนะ ไปนอนเหอะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันโทรมาใหม่ก็ได้)

     ออ...ราตรีสวัสดิ์นะแบค

     (ฝันดีนะจุนจ๋า!!)

     

     

       จุนมยอนวางโทรศัพท์ไว้บนโต๊ะตรงหน้าก่อนจะถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะนึกได้ว่าหลังจากกลับมาเขาให้ของฝากไปได้แค่กล่องเดียวเท่านั้นเอง จู่ๆเรื่องน้ำหอมก็วนกลับเข้ามาในหัวอีกครั้ง...ตอนนี้จุนมยอนจำได้แล้วว่าเขาทำน้ำหอมหายตั้งแต่วันแรกที่กลับมาถึงบ้านด้วยซ้ำ นั่นมันก่อนวันที่เขาจะหายไปและเขายังได้กลิ่นน้ำหอมจากตัวชานยอลอีกด้วย เรื่องราวต่างๆที่เคยเกิดขึ้นเริ่มปะติดปะต่อกันจนเป็นเรื่องราวที่เกือบจะสมบูรณ์ในหัวของร่างเล็ก ริมฝีปากอิ่มเม้มเข้าหากันแน่นจนแดง ขอบตาร้อนผ่าวและเริ่มมีน้ำตาคลอนิดๆ มือขาวเริ่มสั่นระริกโดยไม่รู้ตัว...นี่สินะ สาเหตุที่ทำให้เขารู้สึกประหลาดกับเด็กผู้ชายที่ชื่อปาร์ค ชานยอล ...เพราะทุกๆอย่างมันถูกฝังอยู่ในจิตใต้สำนึกตลอดมา และตอนนี้....คนที่เขากลัวมากที่สุด ณ เวลานี้ก็อยู่ที่นี่...อยู่ในบ้านหลังนี้กับเขาด้วย

     

      ร่างเล็กค่อยๆลุกขึ้นยืนจากเก้าอี้และบังคับขาตัวเองให้เดินไปที่ประตู มือบางที่กำลังสั่นเทาเอื้อมไปจับลูกบิดไว้แน่นก่อนจะหยุดหายใจเข้าลึกๆและถอนหายใจออกมายาวๆอยู่หลายครั้ง ตอนนี้หัวใจดวงน้อยๆเต้นรัวอยู่ในอกเรียกได้ว่ารุนแรงกว่าปกติหลายเท่า ใจนึงก็อยากจะซ่อนตัวอยู่ในห้องจนกว่าจะเช้าแต่อีกใจนึงก็คิดว่าถ้าอยู่กับเซฮุนหรือเทาตลอดเวลาอาจจะปลอดภัยก็ได้..ชานยอลคงไม่กล้าคิดจะทำอะไรแผลงๆหรอก จุนมยอนยืนตัวสั่นอยู่หน้าประตูมาหลายสิบนาทีแล้วแต่ก็ไม่มีทีท่าว่าจะตัดสินใจสักทีว่าจะเปิดหรือไม่เปิดประตู นอกจากเสียงหัวใจที่เต้นดังออกมาจนแทบจะทะลุอกแล้วจุนมยอนก็ไม่ได้ยินอะไรอีกเลย ผ่านไปเกือบจะครึ่งชั่วโมง มือเล็กก็กำลูกบิดประตูแน่นขึ้นก่อนจะถอนใจยาวๆอีกครั้ง เปลือกตาบางค่อยๆปิดลงพร้อมกับบานประตูไม้ที่ถูกเปิดออกช้าๆ จุนมยอนลืมตาขึ้นก่อนจะมองไปที่โถงบันไดซึ่งมืดสนิท มุมมองจากสายตาค่อยๆปรับเลื่อนไปที่ห้องโฮมเทียเตอร์ ที่นั่น, เขาเห็นว่าทีวียังถูกเปิดทิ้งไว้พร้อมกับเงาคนสองคนที่นั่งๆนอนๆอยู่แถวๆนั้น เท้าเล็กค่อยๆก้าวไปข้างหน้าก่อนจะเปิดประตูกระจกเข้าไปยังห้องที่ฉายหนัง...ที่นอกจากเสียงจากโทรทัศน์แล้วก็ไม่มีเสียงอะไรอีกเลย มันเงียบผิดปกติรึเปล่า? จุนมยอนรีบหันไปที่โซฟาก็เห็นเซฮุนนอนอยู่บนนั้นและเทาที่นั่งหลับอยู่บนพื้น ในมือเทาถือโทรศัพท์มือถือที่มีข้อความจากคริสส่งเข้ามานับสิบแต่เทาไม่ได้เปิดอ่านเลยสักข้อความ

     

    "ด...เด็กๆ..."

     

       ร่างบางรีบถลาเข้าไปหาน้องชายทั้งสองคนพยายามจะปลุกเรียกให้ตื่นแต่ไม่ว่าจะพยายามเรียกยังไงก็ไร้ซึ่งการตอบสนองจากทั้งเทาและเซฮุน ตอนนี้หัวใจของจุนมยอนหล่นลงไปอยู่ที่ตาตุ่ม...บอกไม่ได้เลยว่าเกิดอะไรขึ้น ทั้งสองคนหลับลึกมากจนผิดปกติเพราะตัวเขาเองเป็นคนที่ปลุกเทาไปเรียนเกือบทุกเช้า ปัญหาที่สองคือทำไมถึงเหลือกันแค่สองคนพี่น้อง? ปาร์ค ชานยอลอยู่ที่ไหน? มือขาวคว้าโทรศัพท์ของเทามาก่อนจะรีบวิ่งเข้าห้องนอนอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นจุนมยอนก็หันหลังพิงเข้ากับประตูห้องและไล่เปิดอ่านข้อความทั้งหมดของคริสแต่มันไม่เกี่ยวอะไรกับเรื่องที่เกิดขึ้นเลย คริสแค่ส่งข้อความมาเตือนให้เทาปิดไฟ ล็อคบ้าน ดูแลน้องและเตือนให้ตื่นไปเรียนในตอนเช้าเท่านั้น...หรือว่าบางทีคริสอาจจะยังไม่รู้เกี่ยวกับชานยอล  จุนมยอนกำลังรู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองถูกดูดลงไปในหลุมมืดที่ไม่มีแม้แต่สิ่งที่จะใช้ยึดเกาะ เขาลงมาลึกเกินกว่าที่จะได้กลับไปยืนด้านบนแล้ว ความกลัวคือสิ่งเดียวที่อยู่เป็นเพื่อนเขาในตอนนี้ คนตัวเล็กวางโทรศัพท์ของเทาไว้บนโต๊ะก่อนจะปีนขึ้นเตียงนอนโดยหวังแค่ว่าถ้าเขาตื่นขึ้นมาในตอนเช้า, เรื่องทุกอย่างที่เขาเผชิญอยู่ในตอนนี้จะเป็นแค่ฝันร้าย แต่เพียงแค่หลับตาลงฝันร้ายก็กลายเป็นจริง ร่างบางรู้สึกได้ถึงไอความร้อน เสียงหัวใจเต้นซึ่งเป็นคนละจังหวะกับของเขา และวัตถุหนักๆซึ่งเข้ามาใกล้เขาเรื่อยๆ สัมผัสที่ค่อยๆสอดแทรกเข้ามาสวมกอดเขาไว้หลวมๆ จุนมยอนเบิกตาโพลงด้วยความตกใจก่อนจะพลิกตัวหันมาปะหน้ากับบุคคลที่เขาไม่อยากจะพบเจอที่สุดในชีวิต...

     
      "ช...ชานยอล!!!" แทบจะหวีดร้องเมื่อหันมาเจอเด็กหนุ่มข้างบ้านกำลังส่งยิ้มมาให้
      "ผมทำพี่ตกใจหรอครับ? ขอโทษนะ" ร่างโปร่งพูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อนและพยายามดึงพี่ชายหน้าหวานเข้ามาใกล้ๆอีก ผิดกับอีกคนที่พยายามจะตะกายตัวออกจากอ้อมกอดนี้ทุกวิถีทาง
      "ข...เข้ามาได้ยังไง!"  เสียงหวานใสที่เคยคุยทักทายอย่างสนิทสนม ณ เวลานี้กลับกลายเป็นน้ำเสียงที่สั่นเทาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
      "เดินเข้ามาครับ" ชานยอลว่าพลางยกตัวขึ้นนอนคร่อมพี่ชายตัวเล็กแทนที่จะกอดไว้เฉยๆ
      "อ...ออกไปนะ" จุนมยอนเองก็ดิ้นไม่หยุด แถมทั้งผลักทั้งตีเด็กหนุ่มด้วยมือที่สั่นระริกไปด้วยความกลัว
      "ไม่เอาครับ" เด็กหนุ่มส่ายหัว ก่อนจะจับข้อมือบางเอาไว้ไม่ให้มาทำร้ายตนได้อีก
      "ขอ...ขอร้องล่ะ..ฮีก...อย่าทำแบบนี้" จุนมยอนเริ่มจะร้องไห้เมื่อเห็นว่าตัวเองทำอะไรไม่ได้เลย..แม้แต่จะหนีไปยังทำไม่ได้เลย เขาโง่เองที่ตัดสินใจเปิดประตูออกไปในตอนแรก...เพราะความโง่แท้ๆ
      "ผมยังไม่ได้ทำอะไรเลยนะ พี่จุนมยอน" ชานยอลเริ่มทำหน้างอก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงตัดพ้อที่เห็นว่าคนตัวเล็กเกลียดและกลัวเขาได้ขนาดนี้
      "ไม่...อย่ามายุ่งกับพี่!"  คนตัวเล็กออกแรงสะบัดข้อมืออย่างแรงเพื่อให้หลุดพ้นจากการกอบกุมของอีกฝ่าย แต่มือของเขากลับพลาดไปโดนใบหน้าของชานยอลอย่างจัง...เขาไมได้ตั้งใจจะตบหน้าชานยอล...ไม่เคยตั้งใจ ทั้งที่เป็นแบบนั้นแต่เด็กหนุ่มกลับยังยิ้มออกมาได้


      "พี่จำได้แล้วสินะ จำได้ทั้งหมดเลย"  
      "....  
      "ผมชอบพี่นะ พี่จุนมยอน"
      "คนชอบกันเขาทำแบบนี้หรอ?"
      "แต่ผมก็ไม่เห็นว่าพี่จะไม่ชอบตรงไหน...ที่ผมทำแบบนั้น" รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ปรากฏขึ้นบนใบหน้าหล่อเหลาในที่สุด มือหนาเลื้อยต่ำลงไปในผ้าห่มก่อนจะสะกิดโดนส่วนอ่อนไหวของร่างบางอย่างจงใจ
      "หยุดนะ!" จุนมยอนร้องเสียงดังและพยายามจะดันตัวน้องชายข้างบ้านออกไปให้พ้นตัว แต่ยิ่งถูกสัมผัส เรี่ยวแรงที่มีก็ค่อยๆแปรหายไปทุกครั้ง
      "ผมรู้ว่าพี่น่ะรู้สึกตัวอยู่ตลอด" ร่างสูงโปร่งก้มตัวลงมาใกล้ก่อนจะกระซิบข้างหูเบาๆ ลิ้นร้อนค่อยๆโลมเลียใบหูนิ่มพร้อมๆกับมือหนาที่ทำหน้าที่ปรนเปรอร่างเล็กอย่างดี ลมหายใจร้อนถูกเป่ารดต้นคอขาวพร้อมกับคอเสื้อที่ถูกดึงร่นจนยืด ก่อนจะตามมาด้วยสัมผัสชื้นจากปลายลิ้น ความทรงจำที่หายไปในบ้านของชานยอลถูกรื้อฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง
      "ไม่นะ...อื้ออ...ชานยอล!" แม้ตัวเล็กจะพยายามห้ามตัวเองไม่ให้แสดงออกไปตามความรู้สึกแต่ก็เป็นเรื่องยากที่จะห้ามได้
      "เสียดายจังที่มันมืดไปหน่อย...ผมอยากเห็นหน้าพี่ชัดๆจะตายอยู่แล้ว" ชานยอลยกยิ้มก่อนจะก้มลงบดเบียดริมฝีปากบางอย่างรุนแรง ในขณะที่รสจูบอันดูดดื่มได้เริ่มต้นขึ้น ไฟทุกดวงในห้องนอนก็ถูกเปิดจนสว่างทำเอาทั้งสองคนบนเตียงต่างก็ตกใจ ชานยอลรีบผละออกจากร่างเล็กพลางหันมองไปที่แผงไฟก็เห็นเป็นเงาตะคุ่มๆอยู่ เมท่อเพ่งมองจนสายตาปรับโฟกัสและชินกับแสงจ้าแล้วก็เห็นผู้ชายร่างสูงกำลังเดินมาที่เตียง....ผู้ชายอีกคนที่เป็นเจ้าของห้องนี้เช่นเดียวกัน
     

      "สว่างพอมั้ย?" คริสมองไปที่น้องชายข้างบ้านก่อนจะคลี่ยิ้มอย่างประชดประชัน
      "ฮึก..คริส...ฮืออ" จุนมยอนที่ดึงผ้าห่มขึ้นมาปิดจนมิดคอ ยิ่งพอได้เห็นคนรักของตนก็ยิ่งร้องไห้หนักกว่าเดิม
      "....."  ผิดกับชานยอลที่แสดงสีหน้าตึงเครียด เอาแต่ก้มหน้าและไม่ปริปากพูดอะไรออกมาสักคำ
      "ว่าไง? ชานยอลน้องรัก" คริสยกยิ้มก่อนจะคว้าคอเสื้อเด็กหนุ่มก่อนจะเหวี่ยงลงกับพื้นพร้อมหมัด
      "อึก..." ร่างของเด็กหนุ่มลงไปนั่งกองอยู่กับพื้นมีรอยเลือดที่มุมปาก คริสค่อยๆก้มลงนั่งชันเข่ากับพื้นข้างๆชานยอล รอยยิ้มร้ายถูกเค้นออกมาอย่างเยือกเย็นผิดกับหมัดที่กำแน่นจนแดงและเริ่มสั่นไปด้วยโทสะ มือหนาขยำคอเสื้อของคนเด็กกว่าและออกแรงดึงเข้ามาใกล้ๆ...อนาคตของเด็กคนนี้ คริสได้สิทิ์ที่จะกำหนดมันแล้ว

     


        "ถ้ายังสว่างไม่พอ...ไฟในห้องสอบสวนคงจะช่วยได้นะ ว่ามั้ย?"






    @@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@






     

     เห่นโลวววววววววววววววว ต่อครบละน๊ะะะะะะะะะะ อิอิ เราคิดว่าตอนนี้ฟิคเรื่องนี้เดินมาได้ประมาณ 50% แล้วแหละ บร๊ะะะ
     นี่ไม่ใกล้จบอีกฤา??? 5555555555555555 ฮือออออออออ คิดถึงทุกตนนะ 555555555555555555555 ชู้บชู้บ <333


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×