ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [EXO] Wicked Marriage (All x Suho)

    ลำดับตอนที่ #16 : 13

    • อัปเดตล่าสุด 11 พ.ย. 56




      *ช่วงเวลาที่จุนมยอนหายไปทั้งหมด = 11 ชั่วโมง*

     


      "จุนมยอน!"


         อีกครั้งที่ร่างสูงพุ่งเข้ามาภายในห้องพักของโรงพยาบาลด้วยความรีบร้อนชนิดที่ว่าแทบจะพังประตูเลยทีเดียว เบื้องหน้าปรากฏเรือนร่างผอมบางที่ดูซีดเซียวในชุดนอนผู้ป่วยที่เขาเฝ้าเป็นห่วงและตามหามาตลอดหลายชั่วโมงที่ผ่านมา น้ำเกลือตามสายยางมุ่งเข้าสู่เส้นเลือดผ่านทางข้อมือเล็ก ข้างๆเตียงคือโซฟาซึ่งน้องชายทั้งสองคนกำลังเฝ้าดูพี่สะใภ้บนเตียงอย่างใกล้ชิด

    "จุนมยอน...จุนมยอนเป็นยังไงบ้าง...จุนมยอน" คริสรีบวิ่งไปที่เตียง มือหนาจับเข้าตามเนื้อตัว แขน ใบหน้า ส่วนต่างๆทั่วไปหมดเพื่อให้แน่ใจว่าตัวเล็กของเขายังอยู่ดี ทั้งพยายามเรียกชื่อแต่ก็ไม่มีทีท่าว่าคนบนเตียงจะหลุดพ้นจากห้วงนิทราง่ายๆ
    "ใจเย็นก่อนพี่ ตอนนี้พี่สะใภ้ยังไม่ฟื้นง่ายๆหรอก" เทาเดินมาหาพี่ชาย ก่อนจะทอดสายตามองพี่สะใภ้เช่นกัน
    "แกเจอจุนมยอนที่ไหน?" 
    "กลับมาอีกทีก็เห็นพี่สะใภ้นอนอยู่บนโซฟา เรียกเท่าไหร่ก็ไม่ตื่น ดูท่าไม่ค่อยดีพวกผมเลยพามาโรงพยาบาลนี่แหละพี่"
    "เหมือนหมอจะบอกประมาณว่าได้รับสารกดประสาทมากเกินไปเป็นระยะเวลาติดต่อกันหลายชั่วโมงหรืออะไรนี่แหละ ต้องอยู่โรงพยายาลซักพัก ความทรงจำระหว่างช่วงที่พี่สะใภ้หายตัวไปอาจจะเลือนลางด้วย" เซฮุนช่วยเสริม
    "สรุปแล้วจนกว่าพี่จุนมยอนจะตื่นและจำอะไรได้...เราทำอะไรไม่ได้เลย" เทาไหวไหล่ก่อนจะถอนหายใจออกมาเบาๆ
    "จุนมยอน..." คริสมองร่างบนเตียงด้วยความสงสารและเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น ยิ่งพอรู้ว่าจุนมยอนเป็นอะไรก็ไม่อยากจะคิดเลยว่าช่วงที่ร่างบางหายไปจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง มือหนาลูบกลุ่มเส้นผมนุ่มสลวยอย่างเบามือก่อนจะก้มลงกดจูบที่หน้าผากมนเบาๆ
    "พี่คริสจะนอนที่นี่ใช่มั้ย?" เทามองนาฬิกาก่อนจะถามขึ้น. ตี2แล้ว
    "อืม" คริสตอบเบาๆในลำคอ ตอนนี้ที่นั่งข้างเตียงถูกร่างสูงจับจองเป็นที่เรียบร้อย
    "งั้นผมกับเซฮุนจะกลับบ้านนะ" ไม่ใช่ว่าไม่เป็นห่วงคนตรงหน้า แต่ตอนนี้คนที่รู้สึกแย่ที่สุดคงจะหนีไม่พ้นพี่ชายคนโตอย่างคริสและเขาคงต้องการเวลาส่วนตัวกับพี่สะใภ้
    "พวกแกมีเรียนพรุ่งนี้นี่ รีบกลับไปนอนเถอะ...ดึกมากแล้วนะ" คริสพยายามจะยิ้มให้น้องชายทั้งสองคน ทั้งรู้สึกขอบคุณและรู้สึกโง่ในเวลาเดียวกัน เทากับเซฮุนเดินออกไปแล้วแต่จู่ๆเซฮุนก็กลับเข้ามาในห้องใหม่
    "พี่คริส" 
    "อะไรเซฮุน? กลับไปได้แล้ว" คริสเอื้อมมือไปยีผมน้องชายคนเล็ก
    "อย่าทิ้งพี่จุนมยอนไปไหน อย่าปล่อยให้พี่จุนมยอนอยู่คนเดียวอีก"
    "รู้แล้วน่า..."
    "ไอ้เซฮุน! จะให้รออีกนานมั้ย" เทาโผล่หน้าเข้ามาก่อนจะตะโกนเรียกน้องชายให้ตามออกไป เซฮุนทำหน้าเบื่อหน่ายก่อนจะถอนใจเบาๆ
    "ผมไปนะ"



       คริสนั่งเฝ้าจุนมยอนจนฟุบหลับไปโดยไม่รู้ตัว มือหนาทั้งสองยังกุมมือเล็กไว้แน่นไม่ยอมปล่อยแม้ในยามหลับ กระทั่งแสงสว่างจากภายนอกที่ทอดส่องเข้ามาในห้องเป็นคนปลุกเขาให้ตื่นจากห้วงนิทรา...นี่เขาหลับไปนานเท่าไหร่แล้วเนี่ย และเมื่อรู้สึกตัวอีกทีก็เห็นร่างบางตรงหน้ากำลังจ้องมองกลับมาที่เขา ดวงตากลมใสและรอยยิ้มที่เขาอยากจะเห็นมาทั้งคืนทำเอาคริสทำอะไรไม่ถูกไปชั่วขณะ

    "ตื่นแล้วหรอ" จุนมยอนว่า ก่อนจะยิ้มให้สามีจนตาปิด
    "จ...จุนมยอน?" คริสรีบลุกขึ้นนั่งหลังตรง สายตาจ้องมองไปยังคนตัวเล็กตรงหน้าอย่างไม่ละสายตา
    "นานแล้วนะที่คริสไม่ได้หลับสนิทแบบนี้ เหนื่อยหรอ?" ถึงแม้จะถามด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาและอิดโรย แต่ก็ยังมีรอยยิ้มส่งมาให้เสมอ
    "จุนมยอน!" ร่างสูงรีบลุกขึ้นจากเก้าอี้ก่อนจะดึงร่างบางมากอดแน่นราวกับว่าจะไม่ได้กอดอีกแล้ว จุนมยอนอมยิ้มน้อยๆก่อนจะกอดตอบเช่นกัน ใบหน้าหวานวางเกยบนไหล่กว้างของอีกฝ่าย ดวงตาชื้นชุ่มไปด้วยน้ำใสๆที่คลออยู่แต่ไม่ไหลออกมา...ทำไมถึงรู้สึกโหยหาความอบอุ่นนี้นะ ทั้งที่ก็ได้รับอยู่ประจำแท้ๆ


    "นายเป็นอะไรรึเปล่า? เจ็บตรงไหน มั้ย..นายหายไปไหนมาน่ะจุนมยอน นายไม่บอกอะไรเลย ติดต่อไม่ได้ ฉันเป็นห่วงนายแทบบ้ารูัรึเปล่า" คริสยิงคำถามรัวๆทันทีที่ผละออก ตอนนี้จุนมยอนตื่นแล้วแต่เขากับใกล้เคียงคำว่าบ้ามากกว่าเดิมอีก
    "จะให้เราตอบคำถามไหนก่อนดีเนี่ย...เราไม่ได้เจ็บอะไรเลย แค่ปวดหัวนิดหน่อย" จุนมยอนตอบเสียงเบา ก่อนจะยิ้มให้อย่างใจเย็น 
    "นายพอจะจำได้บ้างมั้ยว่าไปไหนมา" 
    "เรา...ขับรถออกไปซื้อของ...กลับเข้าบ้าน...เราคิดว่ามีที่ๆต้องไป เราไปที่นั่น..." มีเพียงความทรงจำสุดท้ายเท่านั้นที่ชัดเจน ไม่เลือนลาง คริสเงียบไป...ไม่รู้ว่าที่ๆต้องไปของจุนมยอนนั้นคือที่ไหน ร่างเล็กพยายามนึกเรื่องราวต่อจากนั้น แต่ก็เห็นเพียงภาพลางๆตัดไปตัดมาเหมือนฉากในหนัง จับสังเกตอะไรไม่ได้เลย สิ่งเดียวที่มีอยู่ในทุกๆภาพและเป็นคำตอบสำหรับตอนนี้ก็คือ...
    "ไฟสีขาว...มีไฟสีขาว" จุนมยอนหันไปมองคริสก่อนจะพูดขึ้น
    "ไฟสีขาว?" ร่างสูงทวนคำตอบ ก่อนจะขมวดคิ้วจนยุ่งไปหมด
    "เรา...เราไม่รู้ว่ามันคือที่ไหนอ่ะคริส" แค่นึกก็ปวดหัวจะแย่แล้ว ไม่เอาแล้ว ไม่อยากคิดแล้ว
    "ไม่เป็นไรจุนมยอน ค่อยๆนึกไปเนอะ" คริสคลายความตึงเครียดลงก่อนจะเขยิบไปนั่งใกล้ๆร่างเล็กและกอดเอาไว้หลวมๆพอเห็นว่าจุนมยอนทำท่าเหมือนจะร้องไห้
    "อืม" ร่างบางพยักหน้าหงึกหงักอยู่ในอ้อมกอดของร่างสูง
    "เอ่อ..หิวมั้ย? อยากกินอะไรรึเปล่า" คริสเปลี่ยนเรื่องคุยเพื่อที่ว่าจุนมยอนจะได้ไม่ต้องคิดถึงเรื่องนั้นอีก...วันละครั้งก็คงจะเกินที่เขาจะรับไหวแล้ว
    "นู่นนน พยาบาลเอาข้าวมาให้แล้ว" จุนนมยอนบุ้ยปากไปทางโต๊ะเคลื่อนที่ซึ่งมีถาดอาหารวางอยู่เต็ม 
    "งั้นทานนะ ฉันป้อนเอง" ร่างสูงยิ้ม ก่อนจะเดินไปลากโต๊ะมาที่เตียงและคอยดูแลป้อนข้าวป้อนน้ำให้จุนมยอนอย่างดี หลังจากนั้นก็ให้คนป่วยทานยา พอพยาบาลเข้ามาตรวจเช็คสายน้ำเกลือและเช็ดตัวให้คริสก็เลยออกไปเข้าห้องน้ำและเดินซื้อกาแฟข้างนอกเพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนการทำงานของเจ้าหน้าที่

       
         หลังจากที่พยาบาลออกไปได้ไม่นานจุนมยอนก็ได้แต่นอนเล่นบนเตียงรอคริสไปเรื่อยๆ เสียงประตูห้องถูกแง้มเปิดเบาๆเรียกให้ร่างบางหันไปมองที่ประตู ร่างสูงโปร่งเบียดตัวเข้ามาด้านในก่อนจะวิ่งมาที่เตียงอย่างรวดเร็ว ถึงจะไม่ใช่คนที่รออยู่แต่ก็ทำให้ดีใจและอุ่นใจไม่แพ้กัน

    "พี่สะใภ้!!!" เทายิ้มอย่างร่าเริงเมื่อเห็นว่าพี่สะใภ้คนโปรดฟื้นแล้ว ข้าวของกระเป๋าถูกโยนทิ้งไว้บนโซฟาข้างๆเตียงก่อนจะโผเข้ากอดคนตัวเล็ก
    "เทาอ่า คิดถึงจัง" จุนมยอนยิ้มด้วยความโล่งใจอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน..ทำไมต้องดีใจที่เห็นหน้าน้องขนาดนี้ด้วยนะ
    "จริงง่ะ?" เทาหัวเราะเบาๆอย่างชอบใจ 
    "อืม พี่รู้สึกว่าอยากเจอ...ทั้งคริส เทา แล้วก็เซฮุนด้วย...อยากเจอมากจริงๆนะ" จุนมยอนว่าก่อนจะกอดเทาแน่นขึ้น
    "ผมก็มาหาแล้วนี่ไง ส่วนไอ้ฮุนน่ะต้องรอเลิกเรียนนู่น" 
    "อื้ม" 
    ถึงจะแปลกใจที่วันนี้พี่สะใภ้อ้อนเขาผิดปกติ แต่มันก็เป็นเรื่องดีไม่ใช่หรอ...ดูเหมือนพี่จุนมยอนจะซูบลงไปนิดหน่อยแต่ก็ยังนุ่มเหมือนเดิม อ่า...ทำไงดีล่ะ ไอ้เทากำลังใจเต้นสุดๆไปเลย 
    "ผมแวะมาหาก่อนจะไปเรียนน่ะ วันนี้ไม่มีพี่ไปส่งโคตรเหงาเลย" 
    "มาถึงก็พูดมากเลยนะ" คริสกลับเข้ามาพร้อมกับแก้วกาแฟในมือ
    "อ่ะนี่ เสื้อผ้าพี่ผมเอามาให้" เทาว่าก่อนจะหยิบกระเป๋ากีฬาใบใหญ่ที่ติดตัวมาด้วยโยนให้คริส
    "ขอบใจนะ" คริสยิ้มก่อนจะเอากระเป๋าไปเก็บในตู้ที่ว่าง
    "ถ้าพี่อยู่นี่ตลอดทั้งวันก็ต้องลางานเยอะเลยดิ" 
    "ก็จนกว่าจุนมยอนจะออกจากโรงพยาบาล, ใช่" คริสพยักหน้าพลางดูดกาแฟเย็นจากแก้วไปด้วย
    "จริงด้วย คริสไปทำงานเถอะนะเราไม่เป็นไรแล้ว" จุนมยอนแสดงสีหน้ากังวล เพราะเท่ากับว่าเขาสร้างภาระให้ร่างสูงอีกแล้ว
    "ไม่ได้หรอก ฉันปล่อยให้นายอยู่คนเดียวไม่ได้เด็ดขาดไม่ว่าจะที่นี่หรือที่บ้านก็ตาม" คริสพอเห็นอีกคนทำหน้ากังวลก็ยีผมของร่างเล็กเล่นๆก่อนจะยิ้มให้
    "ไม่ต้องห่วงหรอกพี่ อีกไม่นานเซฮุนกับผมก็ปิดเทอมแล้วนะ" 
    "อืม แกไปเรียนได้แล้วเทา...กะเวลาเดินทางด้วยสิ"
    "เพิ่งจะเจอพี่สะใภ้แป๊บเดียวเองง่ะ" เทาทำงอแงก่อนจะเกาะแขนจุนมยอนแน่นไม่ยอมปล่อย
    "อย่ามาอิดออด" คริสส่งสายตาดุๆไปให้
    "ไปก็ได้วะ" ทำเบ้หน้า ก่อนจะสะพายกระเป๋าและเดินดุ่ยๆไปที่ประตูด้วยความขัดใจ 
    "เทาเดี๋ยวก่อน!" จู่ๆจุนมยอนก็เด้งตัวขึ้นมานั่งอย่างรวดเร็วและตะโกนออกมาเสียงดัง ทั้งเทาทั้งคริสชะงักตกใจกันไปหมด ร่างเล็กค่อยๆหันหน้าไปมองน้องที่ยืนอยู่ไกลออกไปช้าๆ - สีหน้าไม่ดีเลยสักนิด เหมือนมีอะไรบางอย่างบอกให้เขาทำแบบนั้น- เสียงที่ดังขึ้นในหัวจังหวะที่เทากำลังหันหลังเดินออกไป ความรู้สึกต้องการความช่วยเหลือ ความรู้สึกที่ว่าเทาก็อยู่ที่นั่นด้วย...ในที่ที่มีไฟสีขาวนั่น



      'เทา...เทาอ...ย่า...อย่าเพิ่ง...ไป'



    "ครับ?" เด็กหนุ่มในวัย20ปีเดินกลับมาที่เตียงหลังจากที่ถูกพี่สะใภ้เรียกเอาไว้ 
    "มีอะไรรึเปล่าจุนมยอน?" คริสแตะที่ไหล่เล็กเบาๆซึ่งช่วยเรียกให้จุนมยอนกลับมาที่เหตุการณ์ปัจจุบัน
    "อ...ไม่...ไม่มีอะไรหรอก พี่แค่จะบอกว่าตั้งใจเรียนนะ" ร่างบางยิ้มแห้งๆเป็นการกลบเกลื่อน แต่มีหรือที่สามีอย่างคริสจะไม่รู้
    "อื้ม! ไปนะ" เทายิ้มร่าก่อนจะเดินทางไปมหาลัยอย่างอารมณ์ดี


    "จุนมยอนเป็นอะไร มีอะไรรึเปล่า?" หลังจากที่เทาออกไปได้ไม่นาน คริสก็หย่อนตัวลงนั่งบนขอบเตียงข้างๆคนรักตัวเล็กของเขา
    "เปล่าหรอกคริส ไม่มีอะไรหรอก" จุนมยอนส่ายหัว ไม่มีอะไรชัดเจนสักอย่าง...ได้ยินเสียงแต่ไม่เห็นภาพ เสียงเมื่อกี้เขาอาจจะคิดมากไปเองก็ได้และแค่นี้เขาก็ทำให้คริสเป็นห่วงมากพออยู่แล้ว ถ้าบอกอะไรไปแล้วคริสจะเป็นกังวลมากขึ้นก็ไม่อยากจะบอกเลย...ลืมมันไปจะได้มั้ยนะ
    "มีอะไรต้องบอกฉันนะ" เหมือนจะรู้ทันความคิดของอีกฝ่าย คริสว่าพลางโน้มตัวอีกคนมากอดไว้
    "อื้ม...ตอนนี้มีเรื่องนึงล่ะ" จุนมยอนเองก็กอดเอวคริสไว้หลวมๆเช่นกัน
    "อะไรครับ?" 


    "ช่วยอยู่แบบนี้สักพักนะ"
    .
    .
    .
    .
    .
    .

        หลังจากกล่อมจนจุนมยอนหลับไปแล้ว คริสก็ออกมาคุยโทรศัทพ์ข้างนอกเพราะถ้าคุยข้างในล่ะก็จุนมยอนต้องตื่นแน่ๆ ก็คนที่โทรมาคือแอมเบอร์ แล้วมันจะมีอะไรได้นอกจากเรื่องงานที่เขาไม่อยากทำ

    "ชั้นบอกว่าเมียเข้าโรงพยาบาล แกจะให้ชั้นทิ้งเมียรึไง!" คริสกรอกเสียงไปตามสาย หลังจากที่อธิบายให้ฟังไปหลายรอบแล้วแต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะไม่ยอมเข้าใจเสียที...ไม่ใช่แอมเบอร์นะแต่พวกผู้บริหารแก่เหนียงยาน
    (แล้วนายจะทิ้งงานเนี่ยนะ) 
    "เป็นแกจะเลือกอะไร ห้ะ! เลือกอะไร" 
    (แต่งานแบบนี้มัน...โอ้ยย นายไม่มาไม่ได้นะ) แอมเบอร์เองก็ไม่รู้ว่าจะทำยังไงดี ได้รับคำสั่งมาก็ต้องทำตามแงะ 
    "ชั้นไม่ไป ได้ยินชัดเจนมั้ย? ชั้นไปไม่ได้" 
    (ฉันเข้าใจนายนะเรื่องคุณจุนมยอน แต่การเรียกประชุมครั้งนี้มันก็สำคัญ นายเป็นหัวหน้านะเว้ย! ถ้านายไม่มาเข้าประชุมจริงๆฉันก็ช่วยอะไรไม่ได้นะถ้าบอร์ดบริหารจะเปลี่ยนหัวหน้าแผนก เมื่อวานนายก็โดดนะคริส) 
    "แกคิดว่าเฮนรี่จะเด้งคนอย่างฉันออกง่ายๆรึไง" 
    (ก็ไม่แน่ถ้าเป็นพ่อไอ้รี่)
    "!!!!!!!"
    (ฉันก็ไม่อยากทำเพื่อนหรอก แต่แกต้องมาประชุม! ยังไงก็ต้องมาเข้าสายก็ได้แต่ต้องมานะ)
    "แล้วจุนมยอนฉันจะทำยังไง? ฉันปล่อยเขาอยู่คนเดียวไม่ได้ แกไม่เข้าใจหรอกแอมว่ามันเกิดอะไรขึ้นบ้าง..."

    "พี่คริส?" ร่างสูงหันไปตามเสียงเรียก โชคช่วยจริงๆที่พระเจ้าส่งเด็กมัธยมปลายที่หยุดยืนอยู่ตรงหน้าเขาให้มารับช่วงต่อได้ประจวบเหมาะพอดิบพอดี คริสฝากทุกอย่างให้น้องก่อนจะรีบบึ่งรถตรงไปยังบริษัท

    .
    .
    .
    .
    .
    .

    "เซฮุนนา?" 

      ทางด้านจุนมยอนพอตื่นขึ้นมาเห็นว่าคนที่อยู่ตรงหน้าเป็นน้องของสามีก็ยันตัวขึ้นและมองไปรอบๆ...คริสไม่อยู่ 

    "พี่คริสต้องเข้าบริษัทด่วนครับ" เซฮุนตอบทันทีที่เห็นปฏิกิริยาอันชวนให้ปวดใจของพี่สะใภ้
    "อ่อ" จุนมยอนนั่งนิ่งๆก่อนจะพยักหน้าช้าๆ
    "พี่เขากลับบ้านไปเอาของด้วยหรอ?" เซฮุนถามขึ้นเมื่อเหลือบไปเห็นกระเป๋าใส่เสื้อผ้าของพี่ชายที่วางกองอยู่บนชั้น
    "อ๋อ เทาเขาแวะเอามาให้น่ะ" จุนมยอนว่าพลางยิ้มให้น้อง
    "ดีแล้ว...พี่จุนมยอนพอจะนึกอะไรออกบ้างยัง? เล่าให้ผมฟังได้มั้ย" ร่างโปร่งเลื่อนเก้าอี้มาใกล้เตียงนอนมากขึ้น
    "พี่เหมือนจะขับรถออกไปซื้อของแล้วก็กลับมาที่บ้านแล้วก็ออกไปอีกที่นึง เป็นที่ที่ต้องไป...ตั้งใจจะไป" จุนมยอนนิ่งไปก่อนจะตอบคำตอบเดิมกับที่ตอบคริสไปเมื่อเช้า
    "แล้วมันคือที่ไหนอ่ะ? เป็นบ้านรึเปล่า" 
    "มันลักษณะไม่ค่อยจะเหมือนบ้านเท่าไหร่นะ"
    "มันเป็นยังไงครับ?"
    "อับ เย็น ค่อนข้างมืด ไม่มีหน้าต่างแต่ว่ามีดวงไฟสีขาวกับ...ผู้ชายคนนึง" จุนมยอนเริ่มขมวดคิ้ว พยายามจะเค้นเศษความทรงจำที่เหลืออยู่ออกมาให้มากที่สุด
    "ใครครับ?" เซฮุนตาโตพอได้ยินแบบนั้น ถ้าเพียงรู้ว่าคนๆนั้นเป็นใครทุกอย่างก็จะจบ
    "พี่...จำไม่ได้อ่ะ มัน...มัวๆ" จุนมยอนพ่นลมออกจากปากอย่างขัดใจที่นึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออก ร่างบางทิ้งตัวลงนอนราบกับเตียงตามเดิม
    "พี่จุนมยอน ถ้าพี่นึกอะไรออกต้องบอกผมนะ" เซฮุนกำชับ
    "อ่า...ครับ" คนตัวเล็กหันมายิ้มให้ก่อนจะดึงผ้าห่มขึ้นมาปิดถึงคอและกอดหมอนอิงอีกใบเอาไว้ใต้ผ้าห่มด้วย
    "พี่หนาวหรอ?" ร่างโปร่งอดที่จะถามไม่ได้ ก็อาการของคนตรงหน้ามันฟ้องนี่นา 
    "นิดหน่อยครับ" จุนมยอนยิ้มเล็กน้อยก่อนจะพยายามนอนต่อ เซฮุนลุกขึ้นไปปรับอุณหภูมิห้องก่อนจะเดินกลับมาที่เตียง ยกแผงกั้นลงและเบียดตัวขึ้นไปนอนบนเตียงด้วย 

    "เซฮุนนา..." จุนมยอนออกจะงงๆ แต่ก็ยอมเขยิบไปข้างๆให้น้องนอนได้อยู่ดีทั้งที่เตียงก็ไม่ได้กว้างขนาดนั้นแท้ๆ
    "นอนซะ ผมต้องเล่านิทานมั้ย?" ว่าพลางวาดแขนอ้อมไปโอบไหล่แคบๆของคุณพี่สะใภ้เอาไว้
    "คึ พี่โตแล้วนะ" จุนมยอนหัวเราะก่อนจะค่อยๆหลับตาลง
    "ฝันดีนะครับ" จุมพิตอันเบาบางแต่แฝงไปด้วยความรักที่อีกฝ่ายไม่เคยรับรู้ถูกประทับลงบนหน้าผากมน คนเป็นน้องได้แต่เฝ้ามองคนรักของพี่ชายค่อยๆก้าวเข้าสู่โลกแห่งความฝันทีละน้อยๆจนตัวเองก็เผลอหลับไปเหมือนกัน...



        จุนมยอนอยู่โรงพยาบาลมาอาทิตย์กว่าๆแล้วและร่างกายก็ไม่มีปัญหาอะไร อาการทางร่างกายที่เกิดจากสารเคมีเหล่านั้นค่อยๆดีขึ้นตามลำดับ สิ่งเดียวที่กู้คืนมาได้ไม่100%คือความทรงจำซึ่งใจนึงคริสก็ตัดสินใจแล้วว่าถ้าไม่รื้อมันขึ้นมาและใช้ชีวิตไปตามปกติอาจจะดีกว่า เทาและเซฮุนปิดเทอมแล้ว เซฮุนมักจะมาประจำอยู่ที่โรงพยาบาลตอนกลางวันในช่วงที่คริสไปทำงาน -ทุกวัน และเปลี่ยนผลัดกันในตอนกลางคืน ส่วนเทามาบ้างไม่มาบ้างเพราะบางวันก็ติดกิจกรรมที่มหาลัย...วันนี้ก็เหมือนทุกวัน
    ก่อนจะออกจากบ้าน เซฮุนไม่ลืมที่จะหยิบขนมบางส่วนจากในตู้เย็นติดไม้ติดมือมาด้วย ยิ่งขนมจากญี่ปุ่นยังมีอยู่เต็มตู้เลย ทานแต่อาหารของโรงพยาบาลทุกวันน่าเบื่อจะตายเนอะ


    "พี่จุนมยอน มากินขนมกัน!" เซฮุนวิ่งร่าเข้ามาอย่างอารมณ์ดีพร้อมขนมเต็มกระเป๋า 
    "ขนมจากไหนเนี่ยครับ" จุนมยอนละสายตาจากจอทีวีตรงหน้าก่อนจะหันมายิ้มทักทายน้อง 
    "ไม่รู้อ่ะ เปิดตู้เย็นเจออะไรก็เอามาหมดเลย" ร่างโปร่งวางเป้ลงบนโต๊ะก่อนจะหยิบถุงขนมออกมาวางทีละถุง
    "คึ เทาก็เพิ่งซื้อผลไม้เข้ามาแหนะ" จุนมยอนบุ้ยปากไปที่ถาดผลไม้ที่วางอยู่ถัดกัน
    "ไม่อร่อยหรอก อ่ะ...อันนี้ที่พี่ซื้อมาจากญี่ปุ่นไง" เซฮุนมองผลไม้ที่พี่ชายซื้อมาก่อนจะทำหน้าเหมือนเหม็นเขียวซะอย่างนั้น ร่างโปร่งย้ายผลไม้ไปไว้ในตู้เย็นก่อนจะเริ่มแกะกล่องช็อคโกแลต
    "ญี่ปุ่น...." 
    "อย่าบอกนะว่าพี่ก็จำไม่ได้"
    "เปล่านะ นั่นมันก่อนที่เราบอกว่าพี่หายไปไม่ใช่หรอ?"
    "ใช่ครับ"
    "อืม...พี่จำได้"
    "อ่ะ หวังว่าหมอจะไม่ได้ห้ามทานช็อคโกแลตนะ" เซฮุนยื่นขนมให้ชนิดที่ว่าแทบจะจ่ออยู่ที่ปากทีเดียว
    "ช็อคโกแลต..." เหมือนมีอะไรแปลกๆกับสิ่งนี้ ช็อคโกแลตที่ซื้อจากญี่ปุ่นงั้นหรอ? ช็อคโกแลตงั้นหรอ?!




      'โชคดีนะที่พี่ซื้อช็อคโกแลตมาให้ในวันแบบนี้'
      'อ...อื้อออ...ช...าน...'




    "ไม่!!!" จู่ๆสีหน้าที่เคยยิ้มแย้มของร่างเล็กก็เปลี่ยนไป เสียงร้องหลงที่ทำเอาคนน้องเองยังตกใจกับอาการของคนตรงหน้า จุนมยอนก้มหน้าลงหลับตาปี๋ มือทั้งสองยกขึ้นมากุมหัวเอาไว้และร้องเสียงดังไม่หยุด ท่าทางเหมือนต้องการจะหลบหนีจากการรับรู้อะไรบางอย่าง
    "เห้ย พี่เป็นอะไร?" เซฮุนรีบวางกล่องขนมลงบนโต๊ะข้างๆก่อนจะจับแขนทั้งสองข้างของร่างบาง
    "ม...ไม่" ร่างเล็กยังคงก้มหน้า น้ำเสียงเริ่มสั่นเครือเหมือนกำลังจะร้องไห้ในไม่ช้า
    "ไม่อะไรพี่? พี่จุนมยอน...พี่จุนมยอนมองผม!" เซฮุนจำต้องตะคอกเพราะพี่สะใภ้ไม่ยอมฟังอะไรเลย มือเรียวค่อยๆประคองใบหน้าหวานก่อนจะจับให้เงยขึ้นมาสบตากับเขา
    "ซ...เซฮุนนา" จุนมยอนดูสงบลง แต่น้ำตาดันไหลออกมาอย่างช่วยไม่ได้
    "พี่เป็นอะไรอ่ะ?" 
    "เซฮุน..." ไม่พูดอะไรมาก ร่างบางรีบกอดน้องเอาไว้อย่างแน่นที่สุดเท่าที่จะทำไดั ทำเอาเซฮุนเองก็ไม่ค่อยจะเข้าใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นเท่าไหร่นัก ใช้เวลานานกว่าจะกล่อมพี่สะใภ้ให้กลับมายิ้มอย่างอารมณ์ดีได้ก็ถึงเวลาเปลี่ยนผลัดกับพี่ชายคนโตซะแล้ว เพราะเซฮุนต้องรีบกลับไปเฝ้าบ้านจึงยังไม่มีโอกาสได้เล่าอะไรให้คริสฟังทั้งนั้น 

     



      ไม่กี่วันต่อมาคุณหมอก็อนุญาตให้จุนมยอนกลับมาพักผ่อนที่บ้านได้ คริสและเทาจึงรีบขับรถไปรับตัวมาตั้งแต่เช้า

    "บ้าน~" จุนมยอนวิ่งตัวปลิวเข้าไปด้านในก่อนจะกระโดดทิ้งตัวใส่โซฟาซะจนคริสกลัวมันจะพัง
    "ดีใจสิ?" คริสเดินตามเข้ามาพร้อมกับกระเป๋าสัมภาระส่ายหัวให้เบาๆ
    "อื้ม เบื่อโรงพยาบาลจะแย่" ร่างบางนอนกอดหมอนอิงกลิ้งไปกลิ้งมาอย่างมึวามสุข
    "ถ้าผมเป็นหมอพี่จุนมยอนจะเบื่อโรงพยาบาลมะ?" น้องชายคนกลางของบ้านเดินตามเข้ามาอีกคน
    "ถ้าเป็นเทานะยิ่งเบื่อเลย" จุนมยอนแกล้งเบะปากใส่น้องก่อนจะแอบหัวเราะเบาๆ
    "ไรอ่ะ" เทามุ่ยหน้าก่อนจะเดินหนีเข้าไปในครัวก็เจอน้องเล็กเดินสวนออกมาพร้อมกับถุงขนมขบเคี้ยวและน้ำอัดลมขวดใหญ่ในมือ
    "เอามะ?" เซฮุนยื่นขวดโคล่าให้พี่ชายทั้งที่เมื่อกี้ยกดื่มไปแล้ว
    "แกกินเหอะ" เทามองอย่าขยะแขยง...มึงอมแล้วละค่อยมาแบ่งกูเนี่ยนะ เชื่อเลย...โตเป็นควายละใครจะกินกะมึงครับ = =
    "ยึดนะ" ว่าแล้วก็เดินกอดขวดโคล่าออกไปที่ห้องนั่งเล่น พอเห็นว่าพี่สะใภ้กลับมาแล้วก็ตรงเข้าไปหาแต่ปฏิกิริยาของพี่สะใภ้กลับทำให้เขาและพี่ชายเจ้าของบ้านยิ้มไม่ออกเท่าไหร่นัก ยิ่งเข้าไปใกล้ก็ยิ่งเขยิบหนี ทำไมต้องมองมาที่เขาด้วยสายตาที่กลัวแบบนั้นนะ...ไม่ยุ่งก็ได้ -_-

    เซฮุนเลือกที่จะเดินกลับไปนั่งกินข้าวเช้าที่โต๊ะกินข้าวกับเทา คริสบังคับให้จุนมยอนเดินมานั่งกับเด็กๆด้วยเพราะเมื่อกี้คงทำเซฮุนเสียความรูัสึกไม่น้อย แต่ทุกอย่างดูจะแย่ลงไปกว่าเดิม ทุกครั้งที่เซฮุนดื่มน้ำจุนมยอนจะจ้องมองด้วยสายตาแปลกๆ เหมือนจะระแวงก็ไม่เชิง...




      'ดื่มอีกนิดนะพี่จุนมยอน'




       ภาพที่เคยถูกลืมกลับฉายซ้ำไปซ้ำมาอีกครั้ง รสชาติเฝื่อนๆของสิ่งที่เขาถูกบังคับให้กินแล่นขึ้นมาที่ปลายลิ้นอีกครั้ง และถ้าจำไม่ผิดสีมันก็ประมาณนี้และขวดมันก็ใหญ่ประมาณนี้ - 2 ลิตร 


    "เซฮุนนา อย่ากินนะ!" มือเล็กรีบฉวยแย่งขวดพลาสติกมาจากมือน้องอัตโนมัติ ทุกคนมองมาที่จุนมยอนเป็นตาเดียว
    "ครับ?" เซฮุนมองพี่สะใภ้งงๆ 
    "อย่าดื่ม...อย่าดื่มมัน" ไม่เคยได้สังเกตตัวเองว่ามือสั่นแค่ไหน สั่นขนาดที่จะทำขวดตกเมื่อไหร่ก็ได้
    "น้ำอัดลมเนี่ยนะ มันมีอะไรหรอพี่?" เทาถามขึ้นทั้งที่ยังเคี้ยวอาหารอยู่เต็มปาก...ว่าแต่น้องมารยาทเอ็งก็แย่พอกัน 
    "มัน..." 
    "จุนมยอน นายไปพักก่อนเถอะเดี๋ยวฉันพาไป" คริสเลือกที่จะดึงจุนมยอนออกมาจากตรงนั้น ทั้งที่คืดว่าจะลืมมันไปแล้วแท้ๆแต่จู่ๆจุนมยอนก็กลับจำได้ขึ้นมา คงต้องใช้เวลาคุยกันอีกยาวแน่
    "พี่จุนมยอนดูแปลกๆนะ ดูระแวงไปทุกอย่างเลย" เทามองตามพี่ชายและพี่สะใภ้ที่พากันเดินออกจากห้องไปก่อนจะเอ่ยลอยๆ
    "นั่นอาจจะเป็นเพราะพี่เขาเริ่มจำอะไรได้น่ะสิ" เซฮุนตอบเสียงเรียบพลางใช้ตะเกียบเขี่ยอาหารตรงหน้าไปมา 
    "จำได้?" เทาเลิกคิ้ว- หันมาสนใจสิ่งที่น้องจะพูดต่อ


    "ดูเหมือนจะไม่ใช่เรื่องที่ดีซะด้วย..." 

    .
    .
    .

    "เป็นยังไงบ้าง" คริสนั่งลงบนเตียง ข้างๆเขาคือจุนมยอนซึ่งตอนนี้ก็ยังดูวิตกและหวาดระแวงไม่ต่างจากเมื่อ2นาทีก่อน
    "คริส..." จุนมยอนกำแขนเสื้อของอีกฝ่ายไว้แน่น
    "นายเห็นอะไรหรอ? นึกอะไรออกใช่มั้ย?" ร่างสูงค่อยๆเอ่ยถามอย่างใจเย็น 
    "น้ำนั่น...มันอันตรายนะ" 
    "น้ำอัดลมน่ะนะ? อืม...มันไม่มีประโยชน์ก็จริงแต่ฉันก็ไม่เคยเห็นนายห้ามเซฮุนแบบนี้นะ"
    "มันไม่ใช่น้ำอัดลมนะ" จุนมยอนว่าพร้อมกับส่ายหน้าแรงๆ
    "ทำไมจะไม่ใช่ล่ะ?" 
    "ไม่ใช่...."
    "ถ้าไม่ใช่แล้วนายคิดว่ามันคืออะไร?" สิ้นคำถามของคริสจุนมยอนก็นิ่งเงียบไป ไม่ใช่ว่าไม่อยากตอบแต่มีอะไรบางอย่างกำลังดึงความสนใจไปจากเขา...อะไรบางอย่างที่ชวนปวดหัวที่เขามองเห็นมาหลายวันแต่ไม่ซ้ำกันสักเรื่อง




      'ดื่ม....ดื่มอะไร?'
      'ก็ยากดประสาทนี่ไงครับ ผมมีอีกเยอะเลยล่ะ'




    "ยากดประสาท...ยากดประสาท!" จุนมยอนพร่ำแต่คำเดิมซ้ำๆและกระตุกแขนเสื้อของอีกคนไม่หยุด
    "บ้านเราไม่มีของแบบนั้นนะจุนมยอน"
    "แต่ว่า..."
    "นายรู้ได้ยังไงว่ามันเป็นยากดประสาท?" 
    "มีคนให้เรากิน..." 
    "ใคร!?" คริสเบิกตากว้าง มือหนาเผลอคว้าเอาข้อมือเล็กอย่างแรงด้วยความที่ต้องการจะรู้คำตอบ
    "เรา...เราไม่รู้ ไม่รู้!" จุนมยอนส่ายหน้ารัวๆ น้ำตาเริ่มเอ่อคลออีกแล้ว; ทั้งอึดอัด เจ็บ และกดดัน
    "ใจเย็นๆนะจุนมยอน ไม่รู้ก็ไม่เป็นไรนะ" คริสเริ่มรู้สึกตัวเมื่อเห็นน้ำตาของอีกฝ่าย มือหนาที่เคยกอบกุมข้อมือเล็กนั้นคลายออกก่อนจะเปลี่ยนมาโอบเอวแทน 
    "ฮึก...คริส ช่วยเราด้วย" 
    "ไม่ร้องนะ ฉันอยู่นี่แล้ว..อยู่กับจุนมยอนไง...ไม่ร้องนะ" คริสทำอะไรไม่ได้นอกจากดึงร่างเล็กเข้ามาใกล้และกอดไว้หลวมๆ มือใหญ่ก็ลูบศีรษะกลมไปพลางเพื่อปลอบโยน สุดท้ายก็ต้องรอให้จุนมยอนสงบลงเองและพึ่งยานอนหลับในที่สุด...อย่างน้อยก็น่าจะช่วยให้ลืมเรื่องที่เกิดขึ้นได้ชั่วคราว จุนมยอนจะได้ไม่ต้องกลัวอีก




    "แบบนี้ไม่ดีเลย ถ้าจุนมยอนกลับมาแล้วต้องพึ่งยานอนหลับแบบนี้ไม่ดีแน่" คริสเดินวนไปวนมาเป็นวงกลมจนเทาต้องดึงให้มานั่งเพราะเริ่มจะเวียนหัวตะหงิดๆ
    "พี่จุนมยอนบอกอะไรพี่บ้างรึเปล่า?" เซฮุนที่นั่งอยู่ด้วยถามแทรกขึ้น
    "ยากดประสาท" 
    "ห้ะ?" เทาย่นคิ้ว
    "มันหน้าตาเหมือนยากดประสาทที่เขาถูกบังคับให้ดื่มน่ะ" คริสขยายความ
    "มิน่า..." เทาพยักหน้าหงึกหงักผิดกับเซฮุนที่นั่งนิ่งๆเหมือนรู้อยู่แล้ว
    "จะว่าไปแล้วก่อนหน้านี้พี่จุนมยอนก็มีท่าทางแปลกๆนะ พี่เขากลัวช็อคโกแลตอ่ะ" เด็กหนุ่มนึกย้อนไปถึงเหตุการณ์เมื่อหลายวันก่อนที่เขาเกือบจะลืมไปเสียแล้ว
    "ช็อคโกแลต?" คริสหันมามองน้องชายอย่างไม่เชื่อหู
    "อืม ตอนนั้นผมเอาไปให้ที่โรงพยาบาลก็ทำท่าเหมือนกลัวๆ ไม่ยอมกินเลย" 
    "ผมว่ามันต้องมีอะไรแล้วล่ะ"
    "แต่เราไม่รู้ว่าใครเทา. และอาการของคนที่จำอะไรไม่ได้และเพิ่งได้รับสารกดประสาทจำนวนมากมามันเป็นหลักฐานได้ที่ไหน ใครจะเชื่อเรา?" คริสว่าพลางถอนหายใจเฮือกใหญ่ 
    "แล้วเราทำอะไรไม่ได้เลยอ่อ?" คำถามสุดท้ายจากน้องชายคนกลาง ก่อนที่คริสจะตอบด้วยการส่ายหน้าช้าๆและทั้งห้องก็ตกอยู่ในความเงียบ



        คริสเดินออกไปหน้าบ้านเพื่อเช็คดูว่าประตูบ้านมีอะไรผิดปกติหรือเสียหายมั้ยแต่ก็ไม่พบอะไร พลันสายตาเหลือบไปเห็นกล้องวงจนปิดที่ติดอยู่หน้าประตูก็นึกขึ้นมาได้ว่ายังมีหลักฐานอยู่ก็คือภาพบันทึกของเมื่อสองสัปดาห์ก่อน ร่างสูงรีบวิ่งกลับขึ้นไปบนห้องทำงานและเปิดคอมพิวเตอร์เพื่อตรวจเช็คภาพจากเทปวงจรปิด สุดท้ายแล้วก็เห็นแค่ตอนที่จุนมยอนเดินออกจากบ้านไปพร้อมกับถุงสีขมพู นอกจากภาพที่เขา เทา และเซฮุนวิ่งเข้าวิ่งออกบ้านแล้วก็ไม่เห็นว่าจุนมยอนกลับเข้ามาอีก....จุนมยอนกลับเข้าบ้านได้ยังไง


    "เฮ้อ~" 


        คริสตัดสินใจปิดคอมพิวเตอร์หลังจากย้อนดูวีดีโอได้รอบที่5แล้ว บอกได้เลยว่าปวดตา...ไม่ได้อะไรแถมยังจะมีประเด็นให้ปวดหัวเพิ่มอีกต่างหาก ร่างสูงตัดสินใจลงมาที่ครัวก่อนจะเปิดตู้เย็นเพื่อจะหาอะไรหวานๆทานแก้ปวดหัว...ขนมจากญี่ปุ่นเต็มไปหมดทั้งที่ผ่านมาจะสามอาทิตย์แล้วแท้ๆ กล่องของฝากก็เหลืออยู่อีก2กล่องที่ยังไม่ได้เอาไปให้ ก็แน่ล่ะจุนมยอนไม่สบายนี่นา...กล่องสีส้มกับสีเหลือง...เดี๋ยวนะ...ถ้าเกิดว่าจำไม่ผิด...






       'จุนมยอน แกะกินสักกล่องได้มั้ยเนี่ย?'
       'คริสอย่าเพิ่ง! มันมีกล่องที่เทาแกะไว้แล้ว'
       'ของฝากกี่กล่องเนี่ย เมื่อไหร่จะเอาไปให้ล่ะจะได้กินอย่างสบายใจซะที'
       'ห่อสีเหลืองกับสีส้มของแบคกับคยองซู ห่อสีชมพูของชานยอล ส่วนสีม่วงว่าจะให้เซฮุนเอาไปให้อาจารย์ประจำชั้นน่ะ ที่เหลือสีแดงกินได้"
       'ติดสินบนอาจารย์หรอ...ข้างในก็เหมือนกันทำไมต้องแยกสีด้วย'
       'จะได้จำได้ไงว่าให้ใครไปแล้วบ้าง'











          "ชานยอล..."





          To be continue…

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×