ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [EXO] Wicked Marriage (All x Suho)

    ลำดับตอนที่ #14 : 11

    • อัปเดตล่าสุด 2 พ.ย. 56


           รถแท็กซี่ขับมาจอดอยู่ที่หน้าบ้านหลังใหญ่ ซึ่งเด็กชายร่างโปร่งกำลังยืนรดน้ำต้นไม้อยู่ในสวนหน้าบ้าน พอเห็นว่ามีรถมาจอดก็รีบปิดน้ำและวิ่งออกไปดูทันที พี่ชายกับพี่สะใภ้กลับมาแล้วสินะ...


    "โอ๊ะ? เซฮุนนา" จุนมยอนพอลงมาจากรถเห็นน้องวิ่งมาหสก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่
    "กลับมากันแล้วหรอ" ร่างโปร่งไม่รอช้า รีบเข้าไปช่วยพี่สะใภ้ยกกระเป๋าเข้าบ้าน
    "ขอบคุณนะครับ" มือเล็กลูบผมน้องอย่างเอ็นดูก่อนจะเดินตามเข้าบ้านไป...ลืมไปรึเปล่าว่าเธอมากับสามีน่ะ
    "กลับมาแล้ววว!" ทันทีที่ก้าวเข้าบ้าน เทาและชานยอลก็วิ่งเข้ามารุมอีกสองคนทำเอาจุนมยอนตกใจไม่น้อย แต่ก็ดีใจที่เด็กๆคืดถึงเขาขนาดนี้ 
    "อยู่กันสามคนหรอเนี่ย" คริสที่เดินตามเข้ามาก็ทักขึ้น ชานยอลพยักหน้าพร้อมกับรอยยิ้มโง่ๆเหมือนทุกวัน
    "บ้านก็ดูเรียบร้อยดีนี่.." ร่างสูงเดินตรวจดูความเรียบร้อยของบ้านโดยมีเทาและชานยอลคอยเดินตามไม่ห่าง หลายวันที่เขาและจุนมยอนไม่อยู่เด็กพวกนี้ก็ถือว่าทำหน้าที่ได้ดีทีเดียว ทุกอย่างดูเรียบร้อย...ผิดปกตินะ คริสเดินตรงไปที่ห้องเก็บของให้บันได
    "พ..พี่คริส!" เทาและชานยอลตะโกนเรียกพร้อมกัน
    "อะไร?" ร่างสูงหันมามองน้องทั้งสองด้วยท่าทีสงสัย
    "เพิ่งถึงอ่ะ นั่งพักนั่งเล่นก่อนดิ" เทารีบคว้าแขนพี่ชายเอาไว้ ก่อนจะพยายามลากมาที่โซฟา
    "ฉันจะเก็บของ" คริสปัดมือน้องออกก่อนจะเดินกลับไปที่ห้องใต้บันได...มันต้องมีอะไรแน่ๆ โคตรจะมีพิรุธเลย -_-
    "พี่คริสอย่าเปิด!!!" น้องชานคนกลางและน้องชายข้างบ้านประสานเสียงพร้อมกันอีกครั้ง แต่ก็ดังไม่พอจะห้ามสิ่งที่คริสจะทำได้


    'โครม'


      ข้าวของทุกสิ่งทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า ของเล่น ของใช้ หมอน ผ้าห่ม หรืออะไรก็ตามที่ถูกขุดมาเล่นมาใช้ระหว่างที่พี่ไม่อยู่ไหลออกมากองอยู่กับพื้นทันทีที่คริสไม่อยู่ ไหนจะขวดเหล้าที่คริสอุตส่าห์เก็บเอาไว้ ปริมาณของเหลวภายในนี่ลดลงไปกว่าครึ่งทุกขวดเลย แล้วซากแจกันนี่อะไร โคมไฟหักนี่อีกเอามาซ่อนไว้ในนี้หมดเลยครับท่าน...นี่พวกมึงปาร์ตี้กันใช่มั้ย -*-

    "ช...ชิบหายล่ะ" เทาทำท่าจะย่องหนีขึ้นบันไดแต่ก็ต้องชะงักเมื่อพี่ชายคนโตส่งสายตาอาฆาตมาให้
    "นี่พวกแกทำอะไรกับบ้านช้านนน!!! ไปทำความสะอาดเดี๋ยวนี้! เหล้านี่ชั้นบอกแล้วใช่มั้ยว่าไม่ให้เปิด แล้วเฟอร์นิเจอร์ที่พังนี่จะว่าไง? ชั้นจะหักค่าขนมแกไอ้เทา แกด้วยชานยอลชั้นจะไปเช็คบิลกับแม่แก!!!" บ้านแทบแตกทุกครั้งที่คริสระเบิดลง คงจะมีแค่จุนมยอนที่หัวเราะได้กับการที่คริสอาละวาด และเซฮุนที่ไม่เคยรู้สึกรู้สาอะไรกับใครเลย ร่างเล็กเดินไปเปิดตู้เย็นเพื่อจะเอาขนมที่ซื้อกลับมาแช่เอาไว้แต่ก็พบกับจานที่ใช้แล้วกับถุงขนมอีกมากมายที่ถูกเปิดกินแล้ววางรกเต็มไปหมด 
    "ผมล้างส่วนของผมแล้วนะ" เซฮุนเดินตามมาก่อนจะช่วยจุนมยอนยกจานและแก้วพวกนั้นไปวางไว้ที่อ่าง
    "จุนมยอนห้ามช่วย!" จู่ๆคริสก็เดินเข้ามาและลากตัวจุนมยอนออกไเก็บกระเป๋าด้วยกันข้างบน เซฮุนมองตามออกไปอย่างงงๆ สุดท้ายก็ต้องช่วยพี่ชายล้างจานที่ตัวเองไม่ได้ใช้ไม่งั้นเย็นนี้คงจะไม่มีใช้แน่ๆ ลำพังแค่ให้เทากับชานยอลเก็บกวาดห้องนั่งเล่นให้เรียบร้อยอย่างเดียวคงจะหมดแรงแล้วล่ะ
    .
    .
    .
    .
    .
    "ผม...จะไปแล้วนะ" ชานยอลยืนขวางตัวอยู่หน้าประตูบ้านหลังจากที่ช่วยเทาเก็บกวาดบ้าน รอยยิ้มแห้งๆถูกส่งไปให้เจ้าของบ้านที่ยืนกอดอกเลิกคิ้วอยู่ตรงหน้า 
    "อืม"
    "ผม...จะไม่ได้มาอยู่ดูบ้านให้พี่แล้วนะ"
    "มาช่วยดูหรือมาทำให้มันสกปรกขึ้นวะ" คริสขมวดคิ้ว ก่อนจะทำหน้ายักษ์แยกเขี้ยวใส่อีกคน
    "แหะแห" ชานยอลหัวเราะแห้งๆก่อนจะยกมือเกาหัวแกรกๆ
    "กลับบ้านไป" คนตัวสูงกว่าถีบก้นชานยอลให้พ้นไปจากประตูบ้านเสียที
    "ช่วยเสียใจหน่อยดิ" เด็กหนุ่มข้างบ้านยู่ปาก ก่อนจะทำท่าอิดออดที่ตัวเองคิดว่ามันน่ารักมากแต่สำหรับคริสมัน...อุบาทว์
    "บ้านก็อยู่ติดกันแค่นี่ ทำอย่างกับจะไปรบที่อิรัก" คริสทำหน้าเบื่อหน่ายและกลอกตาไปมา
    "พี่คริสใจร้ายชะมัดเลย!" ชานยอลเชิดหน้าใส่คริสอย่างงอนๆ ก่อนจะเดินกลับบ้านไป 
    "ขอบคุณมากนะ ชานยอลอา!" ตอนนั้นเองที่จุนมยอนวิ่งลงมาข้างล่างหลังจากจัดข้าวของและเสื้อผ้าออกจากกระเป๋าเดินทางหมดแล้ว เสียงใสที่ตะโกนออกมาเรียกให้เด็กหนุ่มร่างสูงหยุดชะงักก่อนจะหันมายิ้มกว้างๆให้ร่างบางอย่างมีความสุขแล้วจึงกลับหลังหันและเดินเข้าบ้านไป 


    หลังจสกชานยอลกลับไปได้ไม่นานทุกอย่างในบ้านก็กลับเข้าสู่สภาวะปกติ เซฮุนและเทาหมกตัวอยู่ในห้อง เซฮุนคงจะกำลังนั่งอ่านหนังสือและเทา...นอน คริสไปที่ห้องเก็บของซึ่งเคลียร์แล้วเรียบร้อยก่อนจะค้นหาซีดีบันทึกภาพจากกล้องวงจรปิดหน้าบ้านที่มีเพียงอยู่ตัวเดียวมาเปิดดู ย้อนไปเมื่อวันที่เกิดเรื่องจงแดงั้นหรอ...นั่นมันก็ผ่านมานานมากจนแทบจะจำวันที่ไม่ได้ด้วยซ้ำ ร่างสูงจึงเปิดย้อนดูไปเรื่อยๆในช่วงอาทิตย์นั้นที่น่าจะเป็นไปได้แต่ก็ไม่มีอะไรผิดปกตินอกจากการเข้าออกของคนในบ้านเท่านั้น ไม่มีคนอื่น ไม่มีใครแอบเข้ามาในบ้าน...ถ้าไม่เข้าจากข้างหน้าก็ไม่มีทางอื่นให้เข้าได้แล้วเพราะทั้งสองข้างก็ขนาบไปด้วยบ้านและรั้วบ้าน ไม่มีใครแล้วอะไรกันแน่ล่ะ? ถ้าจะปีนเข้ามาก็ต้องผ่านบ้านคนอื่นมันจะเป็นไปได้หรอ? ถ้าไม่ใช่คนในบ้าน...คนที่จะกล้าปีนรั้วเข้ามาได้ก็มีแค่ชานยอลคนเดียวนะ...

    "ทำอะไรน่ะ?" จู่ๆจุนมยอนก็พรวดเข้ามาหาไม่ให่ซุ่มให้เสียง คริสรีบปิดหน้าวิดีโอที่ดูค้างเอาไว้ก่อนจะหันมามองคนตัวเล็ก
    "ป...เปล่า" ปฏิเสธไปแบบนั้นแต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีพิรุธ
    "ดูอะไรอยู่" ร่างบางเดินเข้ามาใกล้ก่อนจะโน้มตัวก้มดูที่จอแล็ปท็อปของคริส
    "บอกว่าเปล่าไง" คริสแกล้งทำเสียงรำคาญก่อนจะพับปิดหน้าจอคอม ไม่อยากให้จุนมยอนรู้ว่าเขารู้หรือคิดอะไร ไม่อยากให้จุนมยอนไม่สบายใจ ไม่อยากให้ต้องอยู่อย่างหวาดระแวง
    "เชอะ ไม่อยากรู้ก็ได้" จุนมยอนบุ้ยปากอย่างขัดใจ ก่อนจะยกกองหนังสือและเอกสารต่างๆบนโต๊ะคริสไปมาเหมือนกำลังมองหาอะไรบางอย่างอยู่
    "หาอะไรอยู่?" คริสถามขึ้นหลังจากสังเกตท่าทีของร่างบาง
    "คริสเราหาหวีไม่เจออ่ะ ไม่รู้เราเอามาวางแถวนี้รึเปล่า แล้วเราก็หาน้ำหอมไม่เจอด้วย" จุนมยอนเล่าให้คริสฟัง หลังจากที่เก็บของไปเมื่อกี้ก็หาในห้องนอนไปแล้วรอบนึงก็หาไม่เจอ
    "ของพวกนั้นใครจะเอาไป" คริสว่าก่อนจะช่วยจุนมยอนหาอีกแรง
    "นั่นสิ แต่เราหาไม่เจอ" จุนมยอนคิดไม่ตกว่ามันจะหายไปไหนได้ มันไม่ใช่ของมีค่าอะไรที่คนจะขโมยเลย อีกอย่างน้ำหอมก็ใช้ไปแล้วกว่าครึ่งแถมคนเรายังชอบกลิ่นไม่เหมือนกันด้วยมันจะใช้ด้วยกันได้หรอ
    "ไม่ได้เอาไปญี่ปุ่นด้วยหรอกหรอ?" 
    "หวีไม่ได้เอาไป แต่น้ำหอมอ่ะแบ่งใส่ขวดเล็กไว้" จุนมยอนถอนหายใจยาวๆพอคิดว่าของใช้ของเขาคงจะหายไปจริงๆ
    "น้ำหอมนั่นคริสซื้อให้เราไม่ใช่หรอ"
    "ไม่เป็นไรเดี๋ยวซื้อใหม่ก็ได้" คริสยิ้มให้ภรรยาอย่างอ่อนโยน มือหนาเอื้อมไปลูบผมนิ่มอย่างรักใคร่เอ็นดู ไม่อยากให้จุนมยอนคิดมาก
    "อืม.." ร่างเล็กพยักหน้ารับช้าๆ ก่อนจะหนีเข้าครัวไปเตรียมอาหารให้คนทั้งบ้าน คริสลอบถอนหายใจลับหลังจุนมยอนก่อนจะนั่งลงตรวจเช็คภาพวีดีโออีกครั้งและอีกครั้งจนแน่ใจว่าไม่มีใครต้องสงสัย...นอกจากคนกันเองนั่นแหละ




    จุนมยอนง่วนอยูกับการเตรียมอาหารอยู่ในครัว ร่างเล็กพยายามหยิบขวดน้ำตาลที่วางอยู่บนชั้นเหนือหัวแต่จนสุดเอื้อมก็ยังแตะไม่โดนขอบถ้วยเลยด้วยซ้ำ นึกหงุดหงิดตัวเองเหมือนกันที่เกิดมาตัวเล็กแต่พอบ่นบ่อยๆคริสก็จะบอกว่าตัวเล็กๆน่ะดีแล้ว ดีแล้วได้ยังไงกันเล่าหนิบถ้วยยังไม่ถึงเลย แล้วทำไมต้องเก็บไว้ซะสูงขนาดนี้ด้วยนะ ใครเป็นคนเอามาเก็บไว้บนนี้ ตอบบบ -3- 

    "ผมช่วยมั้ย?"

    เสียงทุ้มดังขึ้นใกล้ๆหูพร้อมกับเงาของร่างสูงโปร่งจากด้านหลัง พอจุนมยอนหันไปก็เจอกับไหล่กว้างๆของน้องชายคนเล็กที่มักจะโผล่มาเวลาที่เขาต้องการความช่วยเหลือทุกที

    "เซฮุนนา" ร่างสูงยืนซ้อนหลังก่อนจะโน้มตัวไปข้างหน้าเล็กน้อยและช่วยหยิบขวดใบที่จุนมยอนต้องการให้
    "อ่ะ" เซฮุนก้มหน้าเล็กน้อยเพื่อจะมองหน้าพี่สะใภ้ได้ถนัดก่อนจะส่งภาชนะให้ 
    "ซ...เซฮุนตัวสูงจัง ขอบคุณนะ" จุนมยอนยิ้มให้อย่างเขินๆ ทำไมต้องรู้สึกอายด้วยนะ เซฮุนก็...อย่าจ้องพี่แบบนั้นได้มั้ยเล่า 
    "อืม" ร่างสูงลอบยิ้มก่อนจะเดินตรงไปที่ตู้เย็นเพื่อรินน้ำดื่ม
    "ซอสหมดแล้วแฮะ...เย็นแล้วด้วยขี้เกียจขับรถไปซื้อจัง" คนตัวเล็กบ่นพึมพำระหว่างทำอาหารที่ต้องหยุดชะงักไปเพราะเครื่องปรุงไม่ครบ จุนมยอนปิดแก๊สก่อนจะมองหาตัวเลือกที่ดีที่สุดในตอนนี้...


    "ที่บ้านชานยอลจะมีมั้ยนะ?"

    ตัดสินใจได้แบบนั้นก็รีบถอดผ้ากันเปื้อนวางเอาไว้บนเคาน์เตอร์ ก่อนจะออกไปใส่รองเท้าและตรงไปที่บ้านของชานยอลซึ่งอยู่ถัดกัน เซฮุนที่ยืนฟังอยู่ด้วยก็รีบล้างแก้วด้วยน้ำเปล่า วางคว่ำไว้ตรงที่พักจานและรีบเดินตามพี่สะใภ้ออกไป หลังจากวันนั้นเขาก็มองชานยอลเปลี่ยนไป ระวังตัวเองมากขึ้นและไม่ไว้ใจพี่ชายข้างบ้านคนนี้เท่าไรนัก




    "โอ๊ะ! พี่จุนมยอนมาหาผมด้วยย มีอะไรหรอครับ?" หลังจากที่กดกริ๊งยืนรอไม่นาน ชานยอลก็เปิดประตูรั้วออกมาพร้อมกับยิ้มให้อย่างทุกที
    "ที่บ้านชานยอลมีซีอิ้วมั้ยครับ พอดีที่บ้านพี่มันหมดแล้วอ่ะ" 
    "น่าจะมีนะ ผมก็ไม่เคยเข้าครัวเหมือนกัน..เดี๋ยวผมจะลองถามแม่ให้"
    "ขอบคุณครับ" 
    "พี่จุนมยอน เข้ามารอข้างในก่อนก็ได้นะ"
    "อ่อ ครับ.." ร่างบางกำลังจะตอบตกลงหากแต่เซฮุนที่เพิ่งตามออกมาดึงมือของจุนมยอนเอาไว้
    "พี่จุนมยอนอย่าเข้าไป!" 
    "อะไรหรอ เซฮุนนี่" ทั้งจุนมยอนและชานยอลต่างมองมาที่เซฮุนพร้อมๆกัน
    "เราจะรอข้างนอกนี่แหละ...ไม่อยากรบกวน" เซฮุนเสริมต่อเพื่อให้ดูไม่เป็นการเสียมารยาทและน่าสงสัยจนเกินไป
    "รบกวนอะไรกัน ฉันยังเข้าออกบ้านนายบ่อยๆเลย" ชานยอลหัวเราะเบาๆตามประสาคนอารมณ์ดี
    "นั่น...มันไม่เหมือนกัน" เซฮุนจ้องหน้าชานยอลนิ่งๆด้วยสายตาเดียวกันกับที่จุนมยอนได้รับตั้งแต่วันแรกที่ก้าวเข้ามาในบ้านนี้
    "แค่ซีอิ๊วเองไม่ใช่หรอ รีบไปเอามาเถอะน่า" 
    "คร้าบๆๆๆ คุณหนูเซฮุน" ชานยอลกลอกตากับความเอาแต่ใจของน้องเล็กที่ใครๆก็รู้ดี และยิ่งรู้ซึ้งเลยก็ช่วงอาทิตย์ที่คริสและจุนมยอนไม่อยู่บ้านนี่แหละ เด็กชายอารมณ์ดีหายเข้าไปข้างในก่อนจะกลับออกมาใหม่พี้อมกับขวดซีอิ๊วในมือที่จุนมยอนถามหา จุนมยอนกล่าวขอบคุณและร่ำลาสัญญาว่าจะซื้อมาคืนให้เมื่อใช้เสร็จแล้ว 
    พระอาทิตย์ยามเย็นที่กำลังจะตกดินเปลี่ยนท้องฟ้าสดใสให้กลายเป็นสีส้มอมชมพูนิดๆ สายลมอ่อนๆที่พัดมาเป็นระลอกไม่ได้พามาแค่ความรู้สึกเย็นสบายแต่กลับพัดพากลิ่นหอมที่คุ้นเคยมาสัมผัสจมูกอีกด้วย จุนมยอนหยุดเดินในทันทีทั้งที่อีกไม่กี่ก้าวก็จะถึงบ้านแล้วแท้ๆ จนเซฮุนเองต้องหันกลับมามองอย่างสงสัยว่าพี่สะใภ้เป็นอะไร เสียงเรียกไม่ช่วยเมื่อกำแพงความคิดถูกสร้างเพื่อแบ่งแยกความคิดของเขาออกจากโลกภายนอก จนเมื่อเซฮุนเดินมาตามจุนมยอนกลับหันหลังกลับไปดูในทิศทางที่จากมา ชานยอลยังคงยืนอยู่หน้าบ้านส่งยิ้มมาให้เมื่อจุนมยอนหันกลับมา ทุกอย่างจบลงแค่นั้นเมื่อเซฮุนเป็นคนจูงมือและออกแรงดึงจุนมยอนเข้าบ้านไป




    ไม่ผิดแน่ๆ...เมื่อกี้มัน...กลิ่นน้ำหอมที่หายไป...

    .
    .
    .
    .
    .


    ไม่กี่วันถัดมา หลังจากที่ขับรถไปส่งเทาที่มหาลัย(ดูเหมือนตอนนี้จะเป็นหน้าที่ประจำของจุนมยอนไปแล้วที่ต้องไปส่งเทา) คนตัวเล็กแวะซูเปอร์มาร์เก็ตใกล้บ้านเพื่อจะซื้อซีอิ๊วไปคืนแม่ของชานยอลและของใช้อื่นๆที่ขาด หลังจากกลัยถึงบ้านและจัดแจงอะไรเรียบร้อยแล้ว จุนมยอนก็นำกล่องขนมที่ซื้อมาจากญี่ปุ่นใส่ถุงกระดาษสีชมพูพร้อมกับขวดซีอิ๊วเดินออกไปยังบ้านหลังข้างๆ, บ้านของชานยอล




    "ชานยอลจะอยู่ไหมนะ" 

    ร่างบางตัดสินใจกดกริ่ง ทั้งยังตะโกนเรียกชื่อน้องชายข้างบ้านอีกด้วย แต่5นาทีผ่านไปก็ยังไม่มีวี่แววของคนในบ้านเลย ในวินาทีที่ตัดสินใจจะเดินกลับประตูรั้วก็แง้มออกช้าๆพร้อมกับรอยยิ้มเห็นฟันครบทุกซี่ของร่างสูงโปร่งหลังประตู 
    "ชานยอลอา!" จุนมยอนกลับหลังหันมาแทบไม่ทันเมื่อได้ยินเสียงเปิดประตู
    "ผมซักผ้าอยู่น่ะ เข้ามาก่อนสิครับ :)" ร่างสูงส่งยิ้มที่แสนจะเป็นมิตรให้เหมือนทุกที จุนมยอนเข้าไปยังพื้นที่ด้านหลังประตูรั้วตามคำเชื้อเชิญ

    "อยู่คนเดียวหรอ?" ร่างบางถามขึ้นหลังจากที่สังเกตได้ว่าในบ้านแทบไม่ได้เปิดไฟเลย แถมยังเงียบและเป็นระเบียบกว่าที่คิดเอาไว้มาก 
    "อื้ม พ่อแม่แล้วก็พี่ไปทำงานกันหมด" ชานยอลว่าพลางรินน้ำมาให้แขกคนสำคัญ
    "อ่อ...พี่ซื้อขนมมาฝากน่ะแล้วก็ซื้อซีอิ๊วมาคืนด้วย" จุนมยอนรับแก้วมาแต่ก็วางไว้บนโต๊ะกาแฟเล็กๆแทนที่จะดื่ม ก่อนจะยื่นถุงกระดาษที่ติดมาด้วยให้ชานยอลไป
    "ทุกครั้งที่เจอพี่ต้องได้ของกินสิน่า แบบนี้ผมก็อ้วนแย่" ร่างสูงโปร่งยิ้มร่าเริงไม่ต่างกับเด็กๆที่พอเห็นถุงขนมก็ตาโตเป็นประกาย 
    "มันมีช็อคโกแลตด้วยนะพี่กลัวมันจะละลาย" จุนมยอนยิ้มน้อยๆพอเห็นอีกคนพยายามจะส่องดูว่าขนมที่อยู่ในกล่องคืออะไร 
    "งั้นเดี๋ยวผมเอาไปเก็บก่อน" พูดจบชานยอลก็เดินหายเข้าไปในครัวอีกครั้ง ทิ้งให้จุนมยอนนั่งรออยู่ที่ห้องนั่งเล่นตามลำพัง 



    จุนมยอนสอดส่องไปรอบๆภายในบ้านที่ดูปกติทุกอย่าง พลันสายตาก็หยุดอยู่ที่น้ำหอมดับกลิ่นซึ่งวางอยู่บนชั้นสีดำข้างๆโซฟา มันเป็นของที่มีขายอยู่ทั่วไปตามตลาดและแน่นอนว่ากลิ่นมันก็ปกติด้วย แล้วอะไรที่แปลกกันล่ะ...วันนั้นที่มายืนอยู่หน้าบ้านหลังนี้เขาได้กลิ่นน้ำหอมของตัวเอง ไวกว่าความคิด, ขาขาวรีบก้าวไปที่บันไดก่อนจะแอบเดินขึ้นไปชั้นสองให้เบาที่สุดเท่าที่จะทำได้ เป้าหมายของจุนมยอนมันก็ชัดเจนอยู่แล้ว...เขาไม่ได้ต้องการของคืนเพียงแค่ต้องการจะพิสูจน์อะไรบางอย่างเท่านั้น และคำตอบคงจะรออยู่ในห้องของเด็กชายร่างสูงในครัวเป็นแน่


    ไม่ใช่เรื่องยากเย็นอะไรที่จะหาห้องของชานยอลเพราะทุกห้องมีป้ายไม้เป็นชื่อของเจ้าของห้องแปะอยู่ที่ประตู...น่ารักดีใช่มั้ยล่ะ. จุนมยอนค่อยแง้มเปิดเข้าไปในห้องที่บอกได้เลยว่าต่างกับห้องนั่งเล่นชั้นล่างมากๆ ว่าห้องเทารกแล้วห้องชานยอลดูจะหนักหนากว่ามาก ทั้งรกด้วยข้าวของวางกระจัดกระจายเต็มไปหมด มีแต่ของเล่นแปลกๆที่เขาไม่รู้จักทั้งนั้น คอมพิวเตอร์ก็ถูกเปิดทิ้งไว้อีกด้วย จุนมยอนเลือกที่จะเริ่มจากโต๊ะคอมพิวเตอร์และชั้นหนังสือก่อนแต่ก็มีเพียงต้นกระบองเพชรเล็กๆ เอกสารประกอบการเรียนต่างๆ สมุดโน้ต หนังสือการ์ตูน และยาหยอดตา ร่างบางจึงเดินไปยังชั้นวางของสุดรกและมองหาสิ่งที่น่าจะใกล้เคียงกับขวดน้ำหอมของเขาแต่ก็ไม่พบอะไรอีกเหมือนเดิม

    "ก็ไม่เห็นจะมีอะไรน่าสงสัยเลยนี่นา..." 

    ร่างบางถอนหายใจก่อนจะไล่สายตามองหาอีกครั้ง แต่คราวนี้สิ่งที่เขาสะดุดตากลับไม่ใช่สิ่งที่เขาตามหา กลับเป็นสมุดวาดภาพที่วางแทรกอยู่กับหนังสือการ์ตูนเล่มเล็กๆยิ่งทำให้สมุดวาดเขียนสีดำโดดเด่นมากขึ้น 

    "หืม? ชานยอลชอบวาดรูปด้วยหรอ"

    ถึงแม้ว่าจะรู้จักกันมาได้สักพักแล้วแต่เขาไม่เคยได้คุยกับชานยอลอย่างจริงจังเลยสักครั้ง ไม่เคยรู้ว่าจริงๆแล้วชานยอลเรียนอะไร งานอดิเรกชอบทำอะไรหรือมีรสนิยมแบบไหน เหมือนมีอะไรดลใจให้จุนมยอนหยิบมันออกมาจากชั้นก่อนจะถือวิสาสะเปิดมันออกดู ภายในสมุดเต็มไปด้วยภาพสเก็ทช์ดินสอหลายภาพ ดูเหมือนจะเป็นการวาดสรีระของคนผู้ชายในท่าทางต่างๆ ที่รูปทุกรูปมีวันที่เขียนกำกับด้วยซึ่งถ้าดูไม่ผิดชานยอลวาดรูปทุกวันเลย เขาวาดสวยนะ วาดค่อนข้างเหมือนเลยทีเดียว แต่เดี๋ยวก่อนนะ...แทบจะทุกภาพเป็นรูปผู้ชายเปลือยและท่าทางพวกนี้มันดูแปลกๆ และถ้ามองดีๆแล้ว...คนในภาพวาดพวกนั้นมัน......จุนมยอน


    ร่างบางรีบปิดสมุดภาพด้วยความตกใจก่อนจะวางมันไว้ที่เดิมอย่างลวกๆ มือไม้สั่นไปหมดกับความจริงที่เขาไม่ควรจะรู้ตรงหน้า ชานยอลคือคนที่มองเขาอยู่ตลอดเวลา...แม้แต้เวลาที่ทำกับคริสก็ไม่เว้นงั้นหรอ ความรู้สึกมากมายแข่งกันประเดประดังขึ้นมาภายในเสี้ยววินาทีที่คิดได้ ทั้งหวาดกลัว ระแวง รังเกียจ และอีกหนึ่งคือไม่อยากเชื่อว่าเด็กดีอย่างชานยอลจะทำอะไรแบบนี้ ทั้งที่นังกลัวสองขาก็พาก้าวไปข้างหลังเหมือนต้องการจะหนีจากความจริงโดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่าความจริงกำลังยืนรอเขาอยู่ข้างหลัง


    "ช...ชานยอลอา!" จุนมยอนตกใจเมื่อหลังชนเข้ากับอะไรบางอย่าง แต่เมื่อหันมาก็พบเจ้าของห้องยืนยิ้มให้ ร่างบางถอยหลังหนี2-3ก้าวก่อนจะหยุดยืนและเผชิญกับร่างสูงตรงหน้า
    "ครับผม" ชานยอลยิ้มกว้างก่อนจะเอียวคอมองอีกคนอย่างเฝ้ารอคำถาม หากแต่รอยยิ้มที่ว่าเป็นมิตรนั่นแลดูน่ากลัวที่สุดสำหรับจุนมยอน
    "ค...คือพี่อยากจะเข้าห้องน้ำน่ะ แต่ว่า..พี่ไม่รู้ว่าห้องไหน..." เสียงใสเอ่ยอย่างแผ่วเบาด้วยความกล้าๆกลัวๆ ถึงจะไม่รู้ว่าจะโกหกไปเพื่ออะไรก็ตามที 
    "ถ้าพี่อยากเข้าห้องน้ำพี่ก็ควรจะถามนะครับ" ชานยอลหุบยิ้มทันทีจนจุนมยอนเองยังรู้สึกใจหาย เวลาที่ชานยอลไม่ยิ้มมันยิ่งน่ากลัวกว่าเดิมเสียอีก 
    "พี่...พี่ไม่ได้ตั้งใจ งั้นพี่..กลับก่อนนะ" จุนมยอนขยับเข้าไปใกล้ประตูห้องก่อนจะเปิดออก แต่มือหนากลับเอื้อมมายันเอาไว้ไม่ให้ร่างเล็กเปิดมัน ความกลัวในใจของจุนมยอนตอนนี้ถึงขีดที่ไม่ว่าอะไรก็ใช้วัดไม่ได้ ร่างกายสั่นเทาไม่ต่างกับลูกแมวพเนจรที่เปียกฝน หัวใจสูบฉีดและเต้นแรงยิ่งกว่าครั้งไหนๆ อยากจะกรีดร้องอยากจะร้องไห้แต่กลับทำไม่ได้ ไม่กล้าแม้แต่จะกระดิกนิ้วด้วยซ้ำ 

    "ช...ชานยอลอา" จุนมยอนค่อยๆหันหลังมาเผชิญหน้ากับเด็กหนุ่มช้าๆ พยายามจะฝืนยิ้มให้แต่ไม่ว่าจะยังไงก็คงไม่มีทางที่ชานยอลจะยิ้มตอบ
    "เห็นแล้วสินะ" ชานยอลก้มหน้าลงก่อนจะพึมพำเบาๆตรงหน้า
    "เห?" ผมแสร้งทำเป็นไม่รู้เผื่อว่าเขาจะยอมเชื่อและปล่อยผมไป แต่รู้อะไรมั้ย...มันไม่ช่วยอะไรเลย
    "ฮ่า~ รู้หมดแล้วสินะ ความลับของผมน่ะ" ชานยอลเงยหน้าขึ้นมาช้าๆก่อนจะแค่นยิ้มออกมา...รอยยิ้มที่ผมกลัว
    "ชานยอลอา อย่าเป็นแบบนี้เลย" 
    "ผมยังไม่อนุญาตให้กลับ เพราะฉะนั้นพี่ห้ามไปไหนทั้งนั้น" 


    กว่าจะรู้ตัวอีกที...ทุกอย่างมันก็ดูจะสายไปแล้ว

    to be continue

     

    to be continue

     


     

      ========= Wicked Marriage ==========




     


    อุอิ อุอิ ชยอลไม่ใจร้ายโหรกก...มั้ง อุอิ อุอิ =,,=

    เราเล่นแท็กมั่งดีแมะๆ คิคิ คิดไม่ออก คิคิ


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×