ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [EXO] Wicked Marriage (All x Suho)

    ลำดับตอนที่ #13 : 10

    • อัปเดตล่าสุด 6 ต.ค. 56



      "ฉันจะไม่อยู่หลายวัน แกก็ช่วยเป็นหูเป็นตาให้ด้วยนะ ฝากบ้านหน่อย" คนที่อายุมากที่สุดกำลังยืนกอดอกไล่มองเด็กผู้ชายสามคนที่ยืนเรียงกันเป็นแถวหน้ากระดาน โดยสุดท้ายแล้วสายตาก็พลันมาหยุดอยู่ที่เด็กที่ตัวสูงที่สุดที่มีรอยยิ้มกว้างสดใสประทับอยู่บนใบหน้าตลอดเวลา, ปาร์ค ชานยอล
      "ครับผม" ชานยอลพยักหน้ารับรัวๆแถมฉีกยิ้มเพิ่มให้อีก
      "ดูเซฮุนไม่ให้เถลไถลแล้วก็ชวนเทาไปเรียนบ้างนะ" พูดพลางก็เหล่มองน้องชายสองคนที่ตอนนี้กำลังถอนหายใจ ส่ายหน้า และกลอกตาไปมาอย่างเบื่อหน่ายกับความจู้จี้และความเป็นห่วงที่ดูจะล้นของพี่ชายคนโต
      "ครับผม" ชานยอลพยักหน้ารับและฉีกยิ้มกว้างอีกครั้ง
      "นายจะมานอนที่บ้านฉันก็ได้ไม่ว่ากัน" 
      "ครับผม"
      "หรือจะมากินข้าวด้วยก็ได้"
      "ครับผม"
      "จะมาก็มาดีๆล่ะอย่าปีนรั้ว เดี๋ยวคนอื่นจะเข้าใจผิด"
      "ครับผม"
      "นี่ฉันไว้ใจแกได้ใช่มั้ยชานยอล?" ไม่ว่าจะพูดอะไรปฏิกิริยาที่ได้รับกลับมาก็คือรอยยิ้มน่าเกลียดนั่น ให้ตายสิ...ทำไมวันนี้นายดูโง่ๆนะชานยอล
      "ครับผม"
      "เฮ้อ~" คริสถอนหายใจก่อนจะกุมหน้าผากอย่างหมดหวัง ทำเอาจุนมยอนที่ยืนมองอยู่ข้างหลังถึงกับหลุดหัวเราะออกมาเบาๆ 
      "พี่จะห่วงอะไรนักหนา พวกเราดูแลตัวเองได้น่า" เทาพูดขัดขึ้นมา หลังจากที่ทนดูอยู่นานก็เริ่มรำคาญนิดๆที่เห็นพี่ชายตัวเองเป็นแบบนี้ 
      "ก็เพราะว่าฉันไม่ไว้ใจพวกแกน่ะสิ" คริสยืนกอดอกก่อนจะขมวดคิ้ว จำได้เลยว่าคราวที่แล้วที่ไปสัมมนาต่างจังหวัด3วัน กลับมาถึงบ้านไม่มีใครล็อกประตูบ้านเลยสักคน โจรไม่เข้าก็บุญแค่ไหนแล้ววะ
      "ถ้าพี่ไม่ไว้ใจพวกผมแล้วพี่ไว้ใจคนอื่นได้ยังไง?" เซฮุนเงยหน้าขึ้นมาก่อนจะตั้งใจมองจิกไปที่ชานยอลซึ่งคนโดนมองกลับยืนยิ้มแป้นอย่างไม่รู้สึกรู้สาอะไร
      "พูดมากน่า" คริสเขกหัวเซฮุนไปหนึ่งทีโทษฐานที่ตั้งใจพูดจาเสียดสีเพื่อนบ้านไปแบบนั้น ถึงจะรู้ว่าบางทีชานยอลอาจจะติ๊งต๊องจนดูโง่แต่มันก็เป็นทางออกเดียวนี่ จะให้ทำยังไงล่ะ
      "พี่สะใภ้ไม่อยู่หลายวันผมคงคิดถึงแย่" เทาเบนเป้าไปที่จุนมยอนซึ่งยืนยิ้มอยู่คนเดียวแทน ด้วยความเบื่อหน่ายพี่ชายตัวเองเต็มทน
      "เดี๋ยวก็กลับแล้วล่ะ" จุนมยอนยิ้มให้เทาก่อนจะเขยิบเข้ามายืนใกล้ขึ้น
      "ดูแลตัวเองด้วยนะ" เซฮุนไม่รอช้าเดินไปกอดจุนมยอนเป็นคนแรกก่อนจะตามด้วยเทาที่ยืนกอดกันกลมจนจะกลิ้งได้ คริ สมองน้องชายคนคนเล็กด้วยความแปลกใจปนหงุดหงิดนิดๆ...มันเกิดมา17ปีไม่เคยกอดกูสักครั้งเลยครับ ไอ้น้องทรยศ -*-
      "ครับ" จุนมยอนยิ้มหวานก่อนจะลูบผมเซฮุนเบาๆอย่างเอ็นดู ตามด้วยเทาที่เดินมาสมทบด้วยอีกคน
      "ไปกันเถอะจุนมยอน เดี๋ยวจะไม่ทันเอา" คริสยกกระเป๋าเดินทางสองใบก่อนจะเดินนำไปที่แท็กซี่ก่อน 
      "ไปนะ" จุนมยอนไม่ลืมที่จะหันมายิ้มและโบกมือให้เด็กทั้งสามคนอีกครั้ง หลังจากที่สองสามีภรรยาขึ้นรถไปแล้ว เซฮุนก็เดินกลับเข้าบ้านไปคนแรก ก่อนจะตามมาด้วยชานยอลและเทาที่ทำหน้าที่ปิดประตู

    .

    .
    .

      "เซฮุนติดนายตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?" 

    ทันทีที่เข้ามานั่งในรถ คริสก็ถามขึ้นพร้อมกับสีหน้าบูดบึ้งจนจุนมยอนอดยิ้มไม่ได้กับอาการน้อยใจของอีกคน บางทีคริสก็ชอบทำอะไรขัดกับบุคลิกเสมอ

    "อืม...ตั้งแต่วันที่ไปดูน้องแข่งกีฬาล่ะมั้ง" ร่างบางตอบพร้อมรอยยิ้ม
    "เด็กๆมีแม่แล้ว พ่ออย่างฉันคงจะถูกลืมสินะ" คริสแค่นยิ้มออกมา ก่อนจะนั่งคอตกเป็นหมาหงอย
    "บ้า พูดอะไรแบบนั้น" จุนมยอนแตะไหล่อีกคนเบาๆก่อนจะยิ้มปลอบ
    "จริงๆนะจุนมยอน อย่าใจดีกับเด็กพวกนั้นมากจนเกินไปล่ะเดี๋ยวจะเหลิงกันซะก่อน" 
    "คึ" จุนมยอนหัวเราะเบาๆหลังจากที่ได้ยินแบบนั้น คริสคนขี้โวยวายกลับมาแล้ว คริสไม่ได้เป็นคนขี้น้อยใจขนาดนั้นหรอก เขาเป็นคนเข้มแข็งมากกว่าที่เห็นและก็เป็นคนที่กังวลกับเรื่องเล็กน้อยได้ไม่นาน
    "นอนเถอะ เดี๋ยวถึงสนามบินฉันจะปลุก" คริสดึงให้จุนมยอนเอนตัวลงมาพิงกับไหล่ของเขาก่อนจะลูบเส้นผมดำสลวยอย่างเอ็นดู จุนมยอนอมยิ้มเล็กน้อยก่อนจะค่อยๆหลับตาลงช้าๆ ไม่นานก็หลับไป...ทั้งที่มันก็ยังไม่ดึกมากแท้ๆ แต่ถ้าคริสกอดเอาไว้แบบนี้ก็หลับได้ไม่ยากเลยล่ะ



    ใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมง รถแท็กซี่ก็ขับมาจอดอยู่หน้าอาคารผู้โดยสารขาออกของสนามบิน คริสปลุกจุนมยอนก่อนจะจัดแจงเอากระเป๋าเดินทางลงจากรถและถือเอาไว้คนเดียวทั้งสองใบ จุนมยอนพยายามจะช่วยเพราะมันก็หนักทั้งสองใบแต่คริสไม่ยอมให้จุนมยอนถือเด็ดขาด หัวเด็ดตีนขาดยังไงก็ไม่ยอม รีบชิงเดินหนีเข้าไปด้านในก่อน บอกแต่ว่าเดี๋ยวก็เช็คอินแล้ว จุนมยอนเห็นแบบนั้นจึงรีบวิ่งไปดึงรถเข็นมาแต่ก็ดูเหมือนว่าคริสจะไม่ต้องการมันเสียแล้ว

    "คริสมาช้า!" เสียงทุ้มติดห้าวๆของหญิงสาวดังขึ้นทันทีที่ร่างสูงเดินตรงเข้ามายังบริเวณเคาน์เตอร์เช็คอิน ซึ่งแน่นอนว่าเป็นเสียงของหนึ่งในกลุ่มพนักงานที่จะไปเที่ยวและสัมมนาด้วยกันและยิ่งตะโกนใส่กันได้แบบนี้ แน่นอนว่าต้องสนิทกันพอสมควร
    "ก็ยังดีกว่าไม่มาน่า" คริสทำหน้าเบื่อๆใส่ผู้หญิงที่ได้ชื่อว่าเป็น...เอ่อ...เลขาที่พยายามจะปีนเกลียวตลอดเวลา
    "ทุกคนรอคุณอยู่อ่ะเห็นมะ" หญิงสาวตัวเล็กกว่าคริสมากแต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ไม่ได้ดูอ้อนแอ้นและน่ารักเหมือนผู้หญิงคนอื่นทั่วไปหรอกนะ รอยยิ้มยียวนถูกส่งออกมายั่วประสาทกันได้เกือบทุกครั้งที่ต้องปะหน้ากับยัยเลขาคนนี้ ไม่ใช่เพียงแค่บุคลิก...แต่ดูผมที่ตัดสั้นเท่าทรงผู้ชายแถมยังย้อมสีทองอีกต่างหาก หูก็เจาะหลายรูไปหมด ไม่เคยมีสักครั้งที่ยัยนี่ใส่กระโปรงมาทำงาน และไหนจะคำพูดคำจาและกิริยาอาการที่ยิ่งกว่าผู้ชาย...นี่ยังเรียกว่าผู้หญิงอยู่มั้ย =_=
    "เห็น แล้วไงล่ะ?" ชายร่างสูงเหลือบมองไปยังกลุ่มพนักงานคนอื่นที่กำลังนั่งเม้าท์มอยอย่างมีความสุข บ้างก็ถ่ายรูปเล่น เช็คอินเฟสบุ๊ค บลาๆๆ นี่คือคนรีบสินะ...อีกอย่างคือฉันเป็นหัวหน้าพวกแก คนเป็นหัวหน้ามาสายก็ไม่น่าเกลียดหรอก เหอะ =_=
    "รีบไปเช็คอินได้แล้วค่ะ!" เมื่อสังเกตได้ถึงสีหน้าเอือมระอาและไม่สะทกสะท้านใดๆของหัวหน้าแผนก เลขา...เอ่อ...สาวมั้ง จึงรีบไล่ให้ร่างสูงรีบไปเช็คอินเร็วๆ มือเล็กๆผลักหลังของหัวหน้าให้เดินไปข้างหน้าด้วยความรำคาญ
    "คริส!" เจ้าของเสียงใสๆที่หายตัวไปก่อนหน้านี้ปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับรถเข็นสำหรับวางสัมภาระที่อุตส่าห์วิ่งไปเอามาให้ ร่างสูงที่ถูกเรียกชื่อหันมายิ้มให้กับคนตัวเล็กของเขา...ก็กำลังคิดอยู่ว่าหายไปไหน 
    "เอ๋? คนนี้ใครอ่ะ" หญิงสาวจ้องมองจุนมยอนตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยความสงสัย หน้าตาก็น่ารักดีหรอกแต่นั่นก็ไม่สำคัญเท่ามาเรียกหัวหน้าได้อย่างสนิทสนมแบบนั้นได้ไง
    "อ้อ เกือบลืมไปนี่จุนมยอน" คริสแนะนำคนรักให้เพื่อนร่วมงานได้รู้จัก ร่างบางยิ้มก่อนจะก้มหัวให้หญิงสาวเล็กน้อยอย่างสุภาพ
    "ห้ะะะะะะ!? จุนมยอนอะไรนั่นของนายอ่ะนะ"
    "นี่ยัยทอม พูดจาดีๆหน่อย" คริสเขกหัวเลขาสุดป่วนไปหนึ่งทีเน้นๆด้วยความหมั่นไส้ ปีนเกลียวฉันไม่ว่าแต่อย่ามาเล่นเมียฉัน -*-
    "ถึงภายนอกจะทอมแต่ฉันชอบผู้ชายนะยะ!" คริสถูกสาวน้อย(?)ค้อนใส่อย่างไม่ใยดี ก่อนจะเบนความสนใจมายังผู้ชายผิวขาวน่ารักน่าหยิกตรงหน้าแทน
    "สวัสดีครับ คุณแอมเบอร์เป็นเพื่อนร่วมงานคริสใช่มั้ย? เหนื่อยหน่อยนะครับ" จุนมยอนยิ้มให้กับแอมเบอร์อย่างเป็นมิตรที่สุดก่อนจะหันไปยิ้มเยาะเย้ยคุณสามี
    "นี่!" คริสถลึงตาใส่จุนมยอนแต่ก็ไม่กล้าทำอะไรไปมากกว่านั้น
    "คุณจุนมยอนน่ารักจังเยยยย โอ้ยยย โคตรน่ารักอ่ะะ ไม่เห็นเหมือนคริสสักนิด" จู่ๆแอมเบอร์ก็พุ่งเข้ากอดรัดจุนมยอนซะแน่น ก่อนจะจับหมุนไปหมุนมา ยกแขนซ้ายบางขวาบ้าง จับผมบ้าง นู่นนี่นั่นประหนึ่งว่าจุนมยอนเป็นตุ๊กตาของเธอโดยไม่แคร์สายตาของหัวหน้าเลยแม้แต่น้อย
    "ยัยทอมนั่นเมียชั้น!!" สุดท้ายก็ทนไม่ได้ต้องจับภรรยาและเลขาแยกออกจากกัน ก่อนจะดึงตัวจุนมยอนมาไว้ใกล้ๆไม่ให้แอมเบอร์แตะต้องได้อีก
    "แหม่ แค่นี้คุณจุนมยอนคงไม่เปลี่ยนรสนิยมมาชอบทอมอย่างฉันหรอกน่า" แอมเบอร์แลบลิ้นปลิ้นตาก่อนจะสะบัดบ็อบเดินหนีไปรวมกับกลุ่มเพื่อนคนอื่นๆ 
    "ยัยลิงบ้า -*-" คริสว่าก่อนจะลากกระเป๋าและจุนมยอนเข้าไปเช็คอิน 
    "คนในแผนกก็ไปกันเยอะเนอะ" จุนมยอนมองไปที่กลุ่มคนกลุ่มใหญ่ซึ่งกำลังนั่งรอ นั่งเล่น นั่งคุย พลางยิ้มออกมาเล็กน้อย...ถ้าได้เพื่อนใหม่จากการไปเที่ยวครั้งนี้ก็คงจะดีอยู่หรอก
    "อ่าฮะ" คริสพยักหน้า พลางตรวจเช็คเอกสารต่างๆก่อนจะยื่นให้กับพนักงาน
    "คริสจะไม่แนะนำใครให้เรารู้จักเลยหรอ" จุนมยอนกระตุกชายเสื้อคริส ก่อนจะบุ้ยปากไปทางกลุ่มเพื่อนร่วมงานของเขา
    "จะรู้จักไปทำไมล่ะ?" คริสไม่สนใจก่อนจะหันไปตอบคำถามเจ้าหน้าที่ต่อ เขาไม่มีความตั้งใจจะแนะนำใครให้ร่างบางรู้จักแต่แรกแล้ว จุนมยอนพอได้ยินแบบนั้นก็เบ้ปากอย่างขัดใจ แถมพอคริสถามอะไรก็เมินไม่ยอมตอบอีกต่างหาก ร่างสูงเลยต้องยอมทำตามที่คนตัวเล็กต้องการ 
    "อะๆๆ เอาเด่นๆนะก็มียัยทอมแอมเบอร์นั่น แล้วก็แก๊งเพื่อนสาวของมัน เอ่อ...นิโคล ฮยอนอา แล้วก็นั่นซูจอง" คริสว่าพลางชี้ไปที่กลุ่มหญิงสาว4-5คนที่กำลังนั่งจับกลุ่มคุยและถ่ายรูปอย่างสนุกสนาน 
    "ทำไมแนะนำแต่ผู้หญิงล่ะ?" 
    "รู้จักแค่นี้ก็พอแล้วน่า" คริสถอนหายใจ ก่อนจะตัดบทและไม่พูดอะไรอีก
    "ขี้หวง" ร่างเล็กบ่นพึมพำเบาๆกับนิสัยของคนตรงหน้าที่เขารู้จักดี 
    "บ่นอะไร" คริสว่าพลางยีผมจุนมยอนด้วยความหมั่นเขี้ยว ไอ้ที่บ่นๆเมื่อกี้นี่ได้ยินนะครับนะ
    "เชอะ" ร่างบางปัดมือหนาออก ก่อนจะจัดผมให้เรียบร้อยเหมือนเดิม

    "เฮ้ คริส!" ระหว่างที่รอบอร์ดดิ้งพาส (ซึ่งก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมถึงนานแบบนี้) จู่ๆก็มีผู้ชายตัวสูง..แต่ก็ไม่เท่าคริส ผมสีออดทองๆหน่อยเดินเข้ามาหา แถมยังกอดคอคริสเหมือนสนิทกันมากๆด้วย พอมาวันนี้ผมก็เลยเพิ่งจะรู้ตัวว่า...ผมไม่รู้จักเพื่อนของคริสเลยสักคนนอกจากคุณแอมเบอร์ที่คริสชอบบ่นให้ฟังบ่อยๆ
    "ว่าไงเพื่อน" คริสยิ้มทักทายผู้ชายคนนั้น ทั้งที่บอกว่าเป็นเพื่อนกันแต่คนนั้นดูเด็กกว่าคริสเสียอีก
    "เพิ่งถึงหรอวะ...เอ้อ นี่แฟนแก?" ผู้ชายคนนั้นมองเห็นผมซะแล้ว
    "อืม" น้ำเสียงและสีหน้าคริสดูเปลี่ยนไปพอเขาเริ่มพูดถึงผม ทำไมถึงเป็นคนขี้หวงแบบนี้นะ -_-
    "โห่ ไม่คิดจะแนะนำกูให้รู้จักแฟนมึงเลยช้ะ?" 
    "เฮ้อ! เฮนรี่นี่จุนมยอน จุนมยอนนี่เฮนรี่...พอใจยัง" คริสมาทำหน้าเซ็งๆ ก่อนจะปั้นยิ้มกลับไปให้เพื่อนคนนั้น ซึ่งผมเพิ่งมารู้ทีหลังว่าคุณเฮนรี่จริงๆแล้วเป็นหนึ่งในทีมบอร์ดบริหารเลยล่ะ แต่ทั้งสองคนสนิทกันมาตั้งแต่สมัยเรียนแล้วและคนที่ดึงคริสเข้ามาทำงานที่บริษัทนี้ก็คือคุณเฮนรี่นี่แหละ ผมก็นึกสงสัยอยู่ว่าคริสน่ะขึ้นตำแหน่งหัวหน้าแผนกตั้งแต่อายุยังน้อยได้ยังไง
    "เพื่อนคริสหรอ?" ผมเริ่มชวนคุณเฮนรี่คุย ทำไงได้ล่ะตอนนี้หมั่นไส้แฟนตัวเองที่สุด แค่รู้จักกัน คุยกันนิดหน่อยมันไม่ตายหรอก
    "ใช่ครับ เป็นเพื่อนกันตั้งแต่ตอนเรียนแล้วครับ" คุณเฮนรี่ตอบพร้อมทั้งยิ้มให้ด้วย ผมเองก็ยิ้มให้เขาเช่นเดียวกัน 
    "บอร์ดดิ้งพาสกับพาสปอร์ตได้แล้วค่ะ เดินทางโดยสวัสดิภาพนะคะ" บทสนทนาถูกตัดจบเพียงเท่านั้นเมื่อการเช็คอินเสร็จสิ้นเรียบร้อย คริสหยิบพาสปอร์ตที่มีบอร์ดดิ้งพาสแนบในทั้งของเขาและของผมก่อนจะจับมือผมไว้และดึงออกมาจากตรงนั้นแทบจะทันที แต่ยังไม่ทันจะได้ก้าวออกไปไหน คุณแอมเบอร์และกลุ่มเพื่อนๆของเธอก็มายืนขวางไว้เสียก่อน
    "คุณจุนมยอน ไปเดินเล่นกับพวกหน่อยนะคะๆๆๆ" คุณแอมเบอร์จับมือผมไว้ข้างนึง ตอนนี้ผมรู้สึกเหมือนคริสกับแอมเบอร์กำลังเล่นชักกะเย่อร์กันโดยมีผมเป็นเชือกยังไงไม่รู้สิ 
    "เรามีเรื่องอยากคุยกับคุณจุนมยอนเยอะเลยค่ะ" ถ้าผมจำไม่ผิดคนนี้ชื่อนิโคลนะ
    "อ่อ ได้สิครับ ^^" ผมยิ้มให้สาวๆ ก่อนจะสะบัดมือคริสจนหลุดในที่สุด
    "คุณจุนมยอนน่ารักจริงๆด้วยอ่ะแก~~" สาวๆคุยเล่นกันตามประสา ผมเองก็ไม่เคยหลุดมาอยู่ในวงผู้หญิงแบบนี้ด้วยสิ...คงจะเป็นประสบการณ์ดีๆ...ล่ะมั้ง อย่างน้อยๆพวกเธอก็เป็นเด็กดีแล้วก็น่ารักกันมากๆด้วย 
    "ดี๊ด๊ากันเข้าไป" คริสเบะปากอย่างขัดใจที่เห็นแบบนั้น ภายในใจคงจะหงุดหงิดอยู่ไม่น้อยที่แฟนโดนแย่งตัวไปแต่ก็แสดงออกมาไม่ได้ 
    "โดนสาวๆลากไปแล้วอย่าหวังจะได้คืนมาง่ายๆเลย ฮ่าๆๆๆๆ" เฮนรี่เดินมาแตะไหล่คริสเบาๆก่อนจะหัวเราะเยาะชอบใจตามประสา
    "ชิ..." คริสปัดมือเฮนรี่ออก ก่อนจะเดินตัวปลิวเข้าร้านกาแฟไปคนเดียว เฮนรี่มองตามก่อนจะส่ายหน้าน้อยๆกับความไร้เหตุผลและเอาแต่ใจในบางเรื่องของเพื่อนตนเองที่ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปกี่ปีก็ยังคงเป็นเหมือนเดิม ร่างโปร่งยิ้มเยาะก่อนจะเดินตามคริสเข้าไปในร้านกาแฟเช่นกัน 

    .
    .
    .
    .

    "คุณจุนมยอนนั่งตรงไหนหรอคะ?" ฮยอนอาถามขึ้นในระหว่างที่กำลังนั่งรอซูจองและแอมเบอร์ไปเข้าห้องน้ำ
    "แลกที่กันเถอะๆๆ มานั่งด้วยกันนะๆๆ" นิโคลเกาะแขนจุนมยอนแน่นก่อนจะทำเสียงออดอ้อนใส่ ไม่ใช่ว่าในเชิงชู้สาวหรอกนะ แต่ตอนนี้พวกเธอคงจะเห็นจุนมยอนกลายเป็นเพื่อนสาวคนนึงไปแล้วแน่ๆ 
    "เห...ถ้าผมแลกแล้วคริสจะนั่งกับใครล่ะครับ"
    "อ่า..น่าเสียดายจัง" ฮยอนอาพยักหน้าช้าๆเชิงว่าเข้าใจ 
    "ว่าแต่คริสตอนนี้จะทำอะไรอยู่นะ.." ถึงจะอยากแกล้งแค่ไหนแต่ตอนนี้กลับอดเป็นห่วงไม่ได้แฮะ
    "รายนั้นคงจะกำลังหากาแฟทานอยู่ล่ะค่ะ ติดงอมแงมเลย" แอมเบอร์ว่า หลังจากที่ออกมาจากห้องน้ำและได้ยินพอดี 
    "ผมว่าผมไปตามเขาดีกว่า คริสต้องกินยาด้วย" จุนมยอนสะพายกระเป๋าเป้ ก่อนจะลุกขึ้นยืนอีกครั้ง
    "หัวหน้าเป็นอะไรหรอคะ!?" ซูจองรีบถามขึ้นด้วยความตกใจพอได้ยิมแบบนั้น
    "ไม่มีอะไรมากหรอกครับ แค่ภูมิแพ้นิดหน่อยเอง...งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ" ผมยิ้มให้สาวๆ ก่อนจะปลีกตัวออกมาจากตรงนั้น โทรหาตั้งหลายสายก็ไม่ยอมรับเลย ผมเดินวนตามหาตามร้านอาหารและร้านกาแฟต่างๆสุดท้ายก็เจอนั่งเล่นเกมไอโฟนอยู่ในสตาร์บั๊คคนเดียว บนโต๊ะมีแก้วกาแฟวางอยู่ตั้ง2แก้วแหนะ


    "คริส!" ผมตะโกนเรียกเขาก่อนจะรีบเดินเข้าไปหาและนั่งลงตรงข้ามกับเขา
    "เหอ? โดนสาวๆปล่อยตัวมาแล้วหรอ" คริสเงยหน้าขึ้นมามองผมช้าๆ ก่อนจะก้มลงเล่นเกมในโทรศัพท์ต่อ ผมนั่งมองคริสอยู่สักพักไม่ได้ตอบอะไรก่อนจะแย่งไอโฟนในมือเขามา ไม่ชอบเลยเวลาคุยกันแล้วไม่มองหน้าแบบนี้ คริสถอนหายใจแต่ก็ไม่ได้โวยวายหรือแม้แต่จะแย่งโทรศัพท์คืนเพราะเขาก็รู้อยู่แก่ใจดีว่าผมไม่ชอบ
    "เป็นไงบ้างล่ะพวกนั้นน่ะ" คริสถามต่อ
    "ก็ดีนะ น่ารักดี" 
    "อืม.."
    "คริสกินหมดนี้เลยหรอ?" ผมเหลือบมองแก้วกาแฟสองแก้วบนโต๊ะที่ดูไม่ต่างกันก่อนจะถามขึ้น
    "เปล่า แก้วนั้นของเฮนรี่" 
    "แล้วเขาไปไหนแล้วล่ะ?"
    "ไปกดเงิน" 
    "อ่อ...เราลืมให้คริสกินยาอ่ะ" ผมว่าพลางเปิดกระเป๋าเป้และหยิบกระปุกยาออกมาวางไว้ตรงหน้าเขา
    "ยาอะไร?" คริสมองกระปุกยาก่อนจะเลิกคิ้วถาม
    "ภูมิแพ้ไง" ผมกลอกตาไปมากับสิ่งที่เขาถามออกมา ตัวเองเป็นอะไรก็รู้ดี กินอยู่ทุกวันยังจะมีหน้ามาถามอีกว่ายาอะไรเนอะ
    "เดี๋ยวขึ้นเครื่องก็นอนแล้วไม่กินหรอก" คริสดันกระปุกยาเข้ามาใกล้ผมประมาณว่าให้ผมเก็บไปซะ
    "คริส" ผมมองหน้าเขาก่อนจะถอนหายใจเบาๆ 
    "ไม่กินๆๆ" ดูคริสสิ นั่งหน้างอเป็นเด็กไปได้ 
    "ทำตัวเป็นเด็กไปได้" ผมบ่นก่อนจะเก็บยาเข้ากระเป๋าแต่โดยดี
    "ฉันไม่เป็นไรหรอกน่าจุนมยอน ไม่กินวันเดียวคงไม่ตายหรอกมั้ง" 
    "ตามใจ" ผมไม่สนใจก็ได้ ให้กินแล้วไม่กินก็อย่ากินแต่ถ้าอึดอัดหายใจไม่ออกอย่ามาร้องขอยาแล้วกัน จะไม่ให้แม้แต่ครึ่งเม็ดเลย! 


       หลังจากนั้นไม่นานคุณเฮนรี่ก็กลับมา ก่อนจะขอตัวไปเดินเล่นในดิวตี้ฟรี ส่วนผมกับคริสก็ยังนั่งแช่อยู่ในสตาร์บั๊คนี่แหละ คริสบอกว่าอยากอยู่เงียบๆมากกว่าผมก็โอเค แต่ผมว่าบางทีถ้าเราออกไปเดินเล่นอาจจะเงียบกว่าก็ได้นะ...

    "อ้าว? คุณคริส" มีคนมาทักคริสอีกแล้ว เป็นชายวัยกลางคน ตัวใหญ่ ดูเป็นผู้ใหญ่กว่าคริสมากๆเลย
    "อ้าว สวัสดีครับ...บังเอิญจัง" พอเห็นเขาคริสก็รีบลุกขึ้นยืนและโค้งให้ตั้งหลายครั้ง สงสัยจะเป็นลูกค้าล่ะมั้ง แล้วนั่น...ทำไมต้องเดินไปคุยกันแค่สองคนด้วยอ่ะ คุยต่อหน้าผมไม่ได้รึงไงนะแล้วนั่น...คุยอะไรกันผมไม่ได้ยินเลย - -?


      .
      .
      .

      .
    "กำลังจะไปสัมมนาสินะ" 
    "ครับ แล้วคุณล่ะ?"
    "ผมจะไปพักผ่อนกับครอบครัวน่ะ ที่แคนาดา"
    "โอ้ ดีครับๆที่นั่นสวยมาก"
    "คุณก็เคยไปหรอ"
    "ก็...ผมเคยเรียนที่นั่นครับและพ่อแม่ของผมก็อยู่ที่นั่น"
    "อืมม งั้นคุณคงจะคุ้นเคย...ดีเหมือนกันครับ ถ้ามีอะไรผมจะได้ถามคุณ"
    "ยินดีครับ"
    "ถ้ามีโอกาสอีกก็พาแมวน้อยของคุณไปด้วยคงจะดีนะ"
    "ครับ? แมวอะไรครับ?"
    "เด็กคนนั้นไง แมวของคุณไม่ใช่หรอ"
    "ข...เข้าใจผิดแล้วล่ะมั้งครับ"
    "อ่า เข้าใจผิดสินะ...นายลืมตัดสายน่ะ"
    "ค...ครับ?"
    "ฮ่าๆๆๆ ผมไปล่ะ"
    "ค...ครับ! เดินทางให้สนุกนะครับ!"

     


       ผมเห็นคริสโค้งแล้วโค้งอีกให้ผู้ชายคนนั้นตอนที่เขาเดินออกไปจากร้าน ผมได้ยินเขาพูดแค่ว่าเดินทางดีๆนะแล้วเขาก็เดินกลับมาแต่สีหน้าของคริสไม่ดีเลย ดูซีดๆแถมเหงื่อยังออกเยอะด้วยทั้งๆที่ในนี้ก็อากาศเย็นแท้ๆ คริสเป็นอะไรของเขานะ สรุปว่าเมื่อกี้นี่คุยอะไรกันแน่ ‘ ‘
    "เป็นไรอ่ะ"  ผมถามทันทีที่คริสเดินมาหยุดอยู่ที่โต๊ะเรา
    "ป...ไปนั่งรอที่เกทกันเถอะ" คริสสะพายเป้ก่อนจะฉุดผมให้ลุกขึ้นยืนและดึงออกจากร้านไปทั้งที่ยังไม่ได้ตอบคำถามผมเลยสักคำ คริสเป็นอะไรเนี่ย?
    "เอ๊ะ? เดี๋ยวสิคริสอีกตั้งชั่วโมงนึงแหนะ คริส!" ผมโวยวายนิดหน่อยแต่สุดท้ายก็ต้องยอมไปกับเขา พอถามว่าเป็นอะไรก็ไม่ยอมตอบ ผมก็จำต้องทำเป็นลืมๆมันไปแล้วก็ไม่ถามเขาอีกทั้งที่อยากรู้มากก็ตาม เชอะ!
       หลังจากนั่งรอจนถึงเวลาที่เรียกขึ้นเครื่อง ไอ้โรคภูมิแพ้ของคริสมันก็มาจริงๆ คริสเอาแต่บ่นว่าหายใจไม่ออก อึดอัดตลอดเวลา แถมยังหายใจแรงด้วย ผมก็เลยว่าเขาแล้วก็ทำเป็นไม่สนใจอีก ก็บอกให้กินยาแล้วไม่กินเองอ่ะ เป็นใครก็โมโหทั้งนั้นแหละ -*-
    "จุนมยอน ฉันหายใจไม่ออก" เป็นประโยคที่ผมได้ยินมาเกือบชั่วโมงแล้ว จนตอนนี้นั่งอยู่บนเครื่องแล้วผมรู้สึกว่าเขาหายใจดังกว่าเดิมอีก คงจะถึงจุดที่เขาทนไม่ได้แล้วล่ะมั้ง
    "บอกให้กินยาก็ไม่เชื่อ" ผมลุกขึ้นก่อนจะหยิบเป้ลงมาจากที่เก็บสัมภาระเหนือหัว
    "เกี่ยวอะไร?" 
    "ก็ที่นายหายใจไม่ออกอยู่แบบนี้มันเพราะอะไรเล่า แพ้อากาศแพ้ฝุ่นไม่ใช่รึไง" ผมว่าพลางเปิดกระเป๋าควานหากระปุกยาแก้ภูมิแพ้
    "ยา...ยังอยู่กับนายใช่มั้ย?" คริสยื่นมือมาขอยากิน
    "ทิ้งไปแล้ว!" ผมวางขวดยากระแทกลงกับมือเขาก่อนจะสะบัดหน้าหนี ดีที่ผมนั่งติดทางเดินไม่งั้นก็คงไม่รู้ว่าจะหันหนีไปทางไหนดี จังหวะนั้นก็มีแอร์โฮสเตสเดินผ่านมาทางนี้ ผมเลยเรียกเขาเอาไว้ ถึงจะไม่แน่ใจว่าจะขอได้มั้ยแต่ลองถามดูเพื่อความแน่ใจดีกว่า
    "ขอโทษนะครับ ผมขอน้ำแก้วนึงได้มั้ย? พอดีจะให้เขากินยาน่ะครับ" 
    "ต้องขอโทษด้วยจริงๆค่ะ ตอนนี้เครื่องบินกำลังจะออกแล้ว คงต้องรอก่อนน่ะค่ะเราถึงจะแจกอาหารและเครื่องดื่มได้" 
    "ไม่เป็นไรครับ ขอบคุณครับ" 
    "ค่ะ ยังไงถ้าเครื่องออกแล้วเดี๋ยวดิฉันจะรีบเอามาให้นะคะ" หญิงสาวยิ้มให้ ก่อนจะโค้งอย่างสุภาพแทนคำขอโทษและเดินจากไป
    "ไม่มีน้ำจะกินยายังไง..นายทนได้มั้ยอ่ะ?" ผมรีบหันไปหาคริสและผมคิดว่าเขาคงจะได้ยินที่ผมกับแอร์คุยกันแล้วล่ะ
    "ไม่ต้องหรอกน้ำน่ะ" คริสเทยาออกมาหนึ่งเม็ดก่อนจะถือเอาไว้
    "จะกลืนแห้งๆอ่ะนะ?" ผมมองเม็ดยาในมือเขา คือมันก็ไม่ได้ว่าเม็ดใหญ่โตมโหฬารอะไรหรอกแต่กลืนแบบนั้นมันไม่ลำบากหรอ อาจจะติดคอก็ได้นี่นา 
    "อืม...แค่ต้องหาอะไรมาบังคับให้กลืนลงไป" คริสมองมาที่ผมก่อนจะยิ้มออกมา 
    "อะไรอ่ะ?" ผมยังคงมองเขาอย่างสงสัย อย่าทำอะไรบ้าๆนะคริสฉันจะโกรธจริงๆด้วย
    "อย่าเผลอกลืนล่ะ" ยังไม่ทันให้ผมได้ถามหรือแม้แต่สงสัยไปมากกว่านั้น คริสดันยาเม็ดกลมๆนั่นใส่ปากผมก่อนจะประกบปากตามอย่างรวดเร็ว...ผมคิดผิดที่ไหนล่ะว่าคริสต้องทำอะไรพิเรนท์ๆแน่ ผมไม่รู้ว่าเขากลืนยาลงไปรึยังแต่ทำไมถึงยังเอาแต่จูบผมอยู่ได้นะ ออกไปได้แล้วววววววว~ ถ้ามีคนมองอยู่จะทำยังไงเล่า คริสบ้า!!! >\\<


    "ผู้โดยสารคะ...ผู้โดยสารคะ!!!!" 
    "เฮือก!" ผมสะดุ้งตัวก่อนจะรีบผลักคริสออกไป พอหันมาก็เห็นแอร์โฮสเตสคนนึงกำลังยืนมองพวกเราด้วยสีหน้าที่ไม่ค่อยจะพอใจเท่าไหร่นัก
    "เครื่องจะออกแล้วค่ะ ช่วยนั่งดีๆแล้วก็รัดเข็มขัดด้วย" เธอว่าก่อนจะเดินไปรวมกลุ่มแอร์โฮสเตสคนอื่นๆ ผมหันไปทำตาดุใส่คริสที่นั่งลอยหน้าลอยตาไม่สนใจอะไร แถมพอหันมาเห็นผมก็ยังมีหน้ามาถามอีกว่าผมเป็นอะไร เลยโดนตีไปหลายที แถมผมยังไม่ยอมคุยกับเขาอีกเลยด้วยจนกระทั่งถึงญี่ปุ่น 
      .
      .
      .
      .
      .
    "เฮ้ออ~" 

     ทันทีที่เรามาถึงโรงแรม ผมก็ทิ้งตัวลงนั่งบนฟูกนิ่มๆและเอนตัวลงนอน ปล่อยให้คริสแบกกระเป๋าเดินทางตามเข้ามาอย่างทุลักทุเล ผมนอนมองคริสจัดแจงเก็บข้าวของเข้าที่เข้าทางอยู่อย่างนั้น ก็ดีเหมือนกันที่ครั้งนี้ผมไม่ต้องทำอะไรเลย...งอนคริสบ่อยๆดีมั้ยนะ
    "อะไรจะนอนแล้วหรอ?" คริสถามขึ้นเมื่อเห็นว่าผมเปิดตู้ข้างผนังและยกผ้านวมออกมาปูนอน
    "เดินทางไม่เหนื่อยบ้างรึไง" ผมกันไปตอบก่อนจะนั่งขัดสมาธิกับพื้นเสื่อ
    "เพิ่งสี่ทุ่มเอง ไปเดินเที่ยวกันเถอะ" คริสพูดพลางดึงมือผมให้ลุกขึ้นยืนและพาผมออกจากห้องพักไป


    เราสองคนเรียกแท็กซี่ไปยังย่านช็อปปิ้งในละแวกนั้น ที่ๆนักท่องเที่ยวทุกคนจะต้องมาเยือนเพราะนอกจากจะมีเสื้อผ้าแบรนด์เนมดังๆแล้ว พวกอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ก็นับว่าราคาถูกกว่าที่อื่นๆด้วย
    "นั่นพวกสาวๆก็ออกมาเดินเล่นเหมือนกันแฮะ" ระหว่างที่เรากำลังเดินเล่นดูนู่นนี่ไปเรื่อย ผมก็เหลือบไปเห็นกลุ่มคุณแอมเบอร์กับคุณเฮนรี่ออกมาเดินเล่นด้วยกัน 
    "อืม ไปทางนั้นกันดีกว่า" คริสโอบไหล่ผมก่อนจะพาเดินไปอีกทางนึงเพื่อจะหลบเลี่ยงพวกเพื่อนๆ อันที่จริงผมก็ไม่ค่อยชอบยะถ้าหากว่ามาเที่ยวกันเป็นการส่วนตัวแล้วต้องมาเจอคนรู้จักมากมายแบบนี้ ถ้าเป็นผมผมก็จะทำแบบที่คริสทำเหมือนกัน
    ผมและคริสแวะทานราเม็งจากร้านดังเพราะเขาเกิดหิวขึ้นมาระหว่างทาง เราไม่ได้หยุดกันแค่ของคาวเท่านั้นเพราะร้านของหวานและอาหารว่างยังตั้งเรียงต่อกันไปเป็นแนวยาวอีกต่างหาก งานนี้ไม่อ้วนก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้ว...ทั้งที่ก่อนมาคริสเพิ่งจะบอกว่าผมอ้วนขึ้นแท้ๆเชียว หลังจากที่กินอิ่มแล้วเราก็ออกมาเดินเล่นกันต่อเพื่อย่อยอาหารไปในตัวด้วย

    "อิ่มจัง" ผมว่าพลางลูบท้องตัวเองที่เริ่มจะป่องนิดๆ กินเยอะอย่างกับว่ามีลูกในท้องรอกินต่ออย่างนั้นแหละ -3-
    "อร่อยมั้ย?" คริสยิ้มขำก่อนจะโอบไหล่ผมเดินอีกครั้ง
    "อื้ม! กลับไปเราว่าจะลองทำให้รสชาติเหมือนให้ได้เลย" 
    "แล้วถ้าไม่เหมือนล่ะ?" 
    "ก็จะทำจนกว่าจะเหมือน"
    "อย่าทำเลย..ซื้อเอาจะดีกว่ามั้ง"
    "ทำไมอ่ะ ถ้าเราทำได้ก็ไม่ต้องซื้อไง"
    "ฉันไม่อยากกินราเม็งที่ไม่สำเร็จเป็นอาทิตย์น่ะ.." 
    "คริสอ้ะะะะะ!!" ผมหยิกแขนคริสเบาๆ เขาหัวเราะเสียงดังอย่างชอบใจ ก่อนที่เราจะมาหยุดอยู่ที่หน้าร้านเสื้อซึ่งที่จริงแล้วเป็นแบรนด์ที่ผมชอบมากเลยแหละ
    "เข้าไปดูสิ" คริสบุ้ยปากไปทางทางเข้าร้าน 
    "ไม่เอาหรอก" ผมส่ายหน้าก่อนจะดึงแขนเสื้อคริสให้เขาเดินต่อไปแต่เขากลับยืนอยู่เฉยๆ พวกเสื้อผ้าผมก็มีเยอะมากพออยู่แล้วผมไม่อยากได้อะไรเพิ่มหรอก อีกอย่างแบรนด์นี้ค่อนข้างแพงและตอนนี้ก็ยังไม่ใช่ช่วงลดราคาด้วย...ผมไม่เอาหรอก
    "ชอบแบรนด์นี้ไม่ใช่รึไง" คริสหันมายิ้มให้ก่อนจะยื่นบัตรเครดิตของตัวเองให้ผม ผมมองบัตรสีทองในมือเขาก่อนจะ...คว้ามาในที่สุด คิ


       ผมกับคริสแยกกันเดินดูในตอนแรก แต่เสื้อผ้าพวกนี้ไม่ใช่สไตล์ของคริสเลย สุดท้านเขาก็แต่เดินตามผมต้อยๆแล้วก็เอาแต่พูดว่า 'ตัวนี้ก็ดีนะ' 'ลองตัวนั้นดูสิ' 'จุนมยอน ใส่ตัวนี้ให้ดูหน่อย' จนผมอยากจะให้เขาปฏิเสธบ้างก็ได้ ระหว่างนั้นที่ผมกำลังเดินดูคอลเล็กชั่นใหม่เพลินๆ สายตาก็พลันไปเห็นอะไรที่ไม่ควรจะเห็นจริงๆ ที่ราวถัดไป...ผมว่าผมเจอคนรู้จักแน่ๆ รีบไปก่อนเขาจะเห็นดีกว่า ไม่ชอบเลยเวลาส่วนตัวแท้ๆ

    "คริส...ไปดูร้านอื่นกันเถอะ" ผมวางเสื้อทุกตัวคืนราวก่อนจะกระตุกแขนเสื้ออีกคนให้เดินตามผมออกมา
    "ทำไมอ่ะ?" คริสมองมาที่ผมอย่างสับสน ร่างสูงใหญ่นั่นไม่ยอมกระดิกเลยแม้แต่ปลายนิ้ว
    "ไม่ชอบแล้ว ไปกันเถอะ" ผมพยายามจะลากคริสออกมาให้ได้เพราะถ้าขืนอธิบายให้ฟังทั้งหมดคงจะไม่ได้ออกจากร้านแน่ๆ
    "ทำไมล่ะ เกิดอะไรขึ้น?" ดูท่าทางว่าคริสจะไม่ยอมขยับง่ายๆแน่ถ้าไม่ได้รับคำตอบที่ต้องการ 
    "ไปเร็ว เดี๋ยวก็เห็นหรอก" ผมพยายามฉุดยื้อคริสจนตอนนี้ผมเริ่มจะเป็นจุดสนใจของคนในร้านเสียแล้ว
    "ห้ะ? ใครเห็นอะไรฉันไม่เข้าใจ" คริสขมวดคิ้ว เขาเดินตามผมมาได้สองสามก้าวก็หยุดอีกครั้ง
    "อย่าเพิ่งถามได้มั้ย..." 
    "โอ๊ะ! นั่นคุณจุนมยอนนี่นา!!" หมดกัน..เขาเห็นแล้วและกำลังเดินมา เขาเห็นแล้วด้วยว่าเราเห็นเขาจะเดินหนีไปง่ายๆแบบนี้ก็ไม่ได้แล้วด้วย เพราะนาย...เพราะนายคนเดียวเลยคริสสสส!!!! 
    "อะไร?" คริสไหวไหล่ก่อนจะทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้พอเห็นว่าผมกำลังจ้องเขาด้วยสีหน้าไม่พอใจ ก่อนจะมองหาชายต้นเสียงที่ตะโกนเรียกชื่อผมซะดังลั่นร้าน 
    "นี่ผมไม่ได้ฝันไปใช่มั้ยเนี่ย คุณจุนมยอนมายืนอยู่ตรงหน้าผมได้ยังไง" ชายหนุ่มหน้าหวานที่เจอกันเป็นครั้งที่สองเดินตรงเข้ามาหาผมก่อนจะยิ้มกว้างและทักายอย่างเป็นกันเองโดยที่ไม่ได้สนใจเลยว่าผมจะมายังไง มากับใคร 
    "คุณลู่หานมาเที่ยวเหรอครับ?" ผมแค่นยิ้มให้เขาตามมารยาท ไม่ใช่ว่าผมไม่ชอบเขาหนอกแต่หลังจากที่เซฮุนเล่าให้ฟังว่าเขาขี้หลีแค่ไหนแถมยังพยายามจะจีบผมด้วยในวันนั้น...ใช่ ผมเริ่มจะไม่อยากยุ่งกับคุณครูพละคนนี้แล้วล่ะ
    "ใช่ฮะ คุณจุนมยอนก็เหมือนกันสินะครับ" ผมไม่ได้ตอบอะไรเพียงแต่ยิ้มและพยักหน้าน้อยๆ
    "ผมนี่โชคดีชะมัด เพิ่งคิดถึงคุณคุณก็มายืนอยู่ตรงหน้าผมพอดี ดีใจจัง" คุณลู่หานยิ้มประหนึ่งว่าถูกล็อตเตอรี่รางวัลที่หนึ่ง ดูเพ้อๆยังไงชอบกล
    "ครับ..." ผมพยายามจะยิ้มให้เขา แม้จะรู้สึกได้ถึงสายตาอาฆาตพยาบาทจากคริสก็ตาม
    "คุณจุนมยอนจะไปเที่ยวที่ไหนบ้างล่ะครับ เราไปด้วยกันก็ได้นะครับ" คุณลู่หานเริ่มชวนคุยถามนู่นนี่ซึ่งมันทำให้ผมอึดอัดต่างจากเมื่อครั้งก่อนที่เจอกันมาก
    "พอดีผมไม่ได้มาคนเดียวน่ะครับ มากันเป็นกลุ่มใหญ่อยู่" ผมพยายามจะเลี่ยงการตอบคำถามโดยตรง
    "ทัวร์สินะครับ ไม่เป็นไรครับเราไปเจอกันก็ได้ ว่าแต่คุณจุนมยอนพักอยู่ที่ไหนเอ่ย?" 
    "พักโรงแรมสิ" นั่นเป็นคำตอบที่ผมคิด ปต่คริสเป็นคนพูดมันออกมา
    "อ้าว...มากับคุณคริสหรอครับแหม่ ผมขอโทษด้วยที่ไม่เห็นคุณนะ" คุณลู่หานหันไปตามเสียง ก่อนจะก้มหัวให้คริสเล็กน้อยแทนคำทักทายและขอโทษแต่ก็ได้รับเพียงแค่ท่าทีหยิ่งๆกลับมา
    "ก็แน่ล่ะ หัวผมมันเลยระดับสายตาของคุณไปเยอะ" 
    "อ...ฮ่าๆๆ ครับ..." ลู่หานแกล้งหัวเราะกลบเกลื่อนความรู้สึกวูบๆเย็นๆที่รู้สึกได้ทุกครั้งเวลาที่ต้องคุยกับคริส ไม่ว่าจะเป็นในงานพบผู้ปกครองหรือตอนนี้ก็ตาม
    "อืม" คริสยืนกอดอก ก่อนจะจ้องมองคุณครูพละด้วยสายตาเย็นชาเป็นพิเศษ
    "แล้วมากันแค่สองคนหรอครับ อย่างนี้เซฮุนก็อยู่คนเดียวสิครับ" ลู่หานเริ่มชวนคุยอีกครั้งโดยเลี่ยงที่จะคุยกับคริสตรงๆและมองมาทางผมแทน
    "อยู่กับพี่ชายอีกคนน่ะ" อีกครั้งที่คริสแย่งผมตอบ
    "เห? เซฮุนมีพี่ชายสองคนนี่ครับ" 
    "ใช่"
    "ก็คุณคริสกับคุณจุนมยอนเป็นพี่ชายของเซฮุน แล้วที่บอกมีพี่ชายอีกคน..."
    "อ่า เข้าใจผิดแล้วครับคุณครู" 
    "เอ๋?"
    "จุนมยอนน่ะ...เป็นพี่สะใภ้ไม่ใช่พี่ชายแท้ๆ"
    "พ...พี่...สะใภั?!" 
    "ครับ ผมขอตัวก่อนนะครับเมื่อกี้จุนมยอนบอกว่าหิวน่ะ" คริสจับมือผมเอาไว้ก่อนจะยกขึ้นมาพอจะให้คุณลู่หานเห็นแหวนที่ใส่อยู่ที่นิ้วนางข้างซ้ายของผม ก่อนที่เราสองคนจะปล่อยให้คัณครูพละหนุ่มยืนช็อคอยู่อย่างนั้น...

     

     

     

     


    "ไปรู้จักกันตอนไหน"

    ประโยคแรกที่ออกจากปากคริสทันทีที่กลับถึงโรงแรม ระหว่างทางคริสเอาแต่นิ่งเงียบไม่พูดอะไรเลยจนผมเองก็ทำตัวไม่ถูก ผมรู้ว่าเขาคงจะไม่พอใจ...ไม่มีใครชอบให้คนอื่นมายุ่งกับแฟนตัวเองหรอกจริงมั้ย

    "วันที่ไปดูน้องแข่งบอล" ผมนั่งลงกับพื้นก่อนจะเขยิบไปใกล้ๆเขา คริสกุมมือของผมเอาไว้ก่อนจะคว่ำมือและลูบไปที่แหวนเงินเบาๆ
    "แหวนก็ใส่นี่" ถึงจะไม่เข้าใจว่าคริสยิ้มอะไรแต่ก็...มันทำให้ผมสบายใจขึ้นเยอะเลยนะ
    "อาจจะมองไม่เห็นมั้ง" 
    "แค่แหวนมันคงจะไม่พอแล้วล่ะ" คริสเงยหน้าขึ้นมาสบตาผม แต่เพียงแค่เสี้ยววินาทีเขาก็พลิกตัวดันผมให้นอนลงกับฟูกสีขาวและคร่ิมทับเอาไว้ ไม่รอให้ผมได้พูดอะไรเขาก็เคลื่อนเข้ามาใกล้มากขึ้น สุดท้ายแล้วสิ่งที่เขาต้องการก็ไม่ใข่อะไรนอกจากสร้างรอยคิสมาร์กที่ต้นคอของผมเพิ่มก็เท่านั้น
    "อื้อ~" หลังจากที่ละริมฝีปากออกจากต้นคอ คริสก็จูบที่หน้าผากเบาๆก่อนจะไล่ลงมาที่ปลายจมูก แก้ม และจบที่ริมฝีปากบาง 
    "นอนกันเถอะ เหนื่อยแล้ว" เขาเลื่อนตัวลงมานอนข้างๆผมก่อนจะดึงผ้านวมผืนใหญ่ขึ้นมาห่มคลุมร่างของเราทั้งคู่และค่อยๆหลับตาลง
    "ฝันดีนะ" ผมจูบหน้าผากคริสเบาๆก่อนจะกอดเอวเขาไว้หลวมๆและฝังหน้าเข้ากับแผงอกกว้างอย่างเช่นทุกวัน แค่นี้ก็หลับฝันดีแล้วเชื่อผมมั้ย :3

      .
      .
      .
      .
      .

    "คริสตื่นเร็วๆๆ" ผมรีบปลุกคนที่นอนข้างๆผมเมื่อคืนให้ตื่นขึ้นมาดูอะไรบางอย่าง ผมมั่นใจว่าคริสจะต้องชอบมากแน่ๆ
    "หืม?" ร่างสูงค่อยๆลืมตาก่อนจะหรี่ลงเพื่อปรับแสงในยามเช้าที่แยงเข้าตา
    "คริส...ดูนี่สิ!" ผมรีบลุกขึ้นไปเปิดประตูบานเลื่อนที่ทำจากกระดาษที่อยู่ถัดจากฟูกที่เรานอน ภายนอกที่เราเห็นนั้นเป็นวิวสวนหินสไตล์ญี่ปุ่นขนาดใหญ่ที่ประกับไปด้วยต้นไม้ขนาดเล็กและบอนไซแบบต่างๆ ซึ่งถูกออกแบบเอาไว้ให้นั่งเล่นชมวิวและที่ให้เดินเล่นสำหรับแขกทุกคนที่มาพักโรงแรมนี้ 
    "สวนญี่ปุ่นงั้นหรอ" คริสรีบลุกขึ้นมานั่งและมองไปที่สวนนั้นอย่างสนใจ
    "เมื่อคืนเรามาถึงตอนมืดแล้วเลยมองไม่เห็น สวยจัง.." ผมเดินกลับไปนั่งข้างๆคริสเหมือนเดิม
    "ไปเอาชุดนั่นมาจากไหนน่ะ?" คริสดึงผมไปนั่งตักก่อนจะกอดเอวผมไว้หลวมๆ
    "นี่อ่ะหรอ...ของโรงแรมน่ะมีให้ในตู้ด้วย" ชุดที่คริสพูดถึงมันก็คือชุดคลุมอาบน้ำของโรงแรมดีๆนี่เอง แต่ด้วยความที่เป็นโรงแรมสไตล์เรียวคังชุดคลุมจึงถูกออกแบบให้ดูเหมือนชุดยูกาตะก็เท่านั้นเอง
    "ใส่แบบนี้ก็น่ารักดี" คริสยิ้มอย่างชอบใจ ก่อนจะกดจูบลงมาที่แก้มเบาๆ
    "นี่ๆ ออกไปเดินในสวนกัน" 
    "ตอนนี้?"
    "ใช่ ตอนนี้"
    "เอาสิ เดี๋ยวตามไป"
    "ตามมานะ!" ผมดึงแก้มคริสเบาๆ ก่อนจะรีบลุกไปใส่รองเท้าแตะของโรงแรมและเดินลงไปในสวนอย่างรวดเร็ว คริสมองตามคนตัวเล็กก่อนจะคลี่ยิ้ม จุนมยอนเวลาเห็นอะไรใหม่ๆก็ชอบตื่นเต้นเหมือนเด็กๆเสมอ แต่ก็เพราะความเป็นธรรมชาติของจุนมยอนแบบนี้แหละผมว่าน่ารักดี 


    "คนญี่ปุ่นสมัยก่อนนี่ใส่แบบนี้เดินกันจริงๆหรอ...เดินยากจัง" ร่างเล็กบ่นในขณะที่เดินกระโดกกระเดกไปมา จะล้มไม่ล้มแหล่บนรองเท้าแตะไม้ที่...เอ่อ...ก็ดูจะเดินยากจริงๆนั่นแหละ 
    "ระวังเท้าพลิกล่ะ" ร่างสูงตะโกนบอกในระหว่างที่กำลังเดินตามมาติดๆด้วยเท้าเปล่า
    "หวา~" อยู่ๆจุนมยอนก็ทรงตัวไม่อยู่และทำท่าว่าจะเซล้มไปข้างหลังซะอย่างนั้น
    "พูดไม่ทันขาดคำ" คริสรีบเดินไปช่วยพยุงเอาไว้ได้พอดิบพอดี ก่อนจะเริ่มบ่นด้วยความเป็นห่วงอย่างที่ชอบเป็นกับน้องๆบ่อยๆ
    "รู้แล้วน่า ปล่อยเราได้แล้ว" จุนมยอนบุ้ยปากก่อนจะเริ่มเดินด้วยตัวเองอีกครั้ง คริสไม่ได้ว่าอะไรเพียงแต่ยืนมองคนตัวเล็กของเขาอยู่เฉยๆ
    "ทางเดินก็มีมาเดินบนกรวดแบบนี้ยิ่งเดินยากนะ" 
    "เราเดินได้น่า อ๊ะ!" คลาดสายตาไปแค่แป๊บเดียวจุนมยอนก็หกล้มไปจริงๆ คริสรีบวิ่งไปดูอาการของคนรักทันที ถึงในใจจะเป็นห่วงมากแค่ไหนแต่สิ่งที่แสดงออกมากลับตรงกันข้าม
    "ดื้อแล้วเป็นไงล่ะ...ลุกไหวมั้ย?" คริสบ่นว่า แต่จุนมยอนไม่ได้สนใจตรงนั้นเท่าไหร่เพราพความเจ็บที่ข้อเท้าตอนนี้ดึงความสนใจทั้งหมดของเขาไป
    "เจ็บอ่ะ สงสัยเท้าจะพลิกล่ะมั้ง" จุนมยอนนวดข้อเท้าตัวเองเพื่อจะทุเลาอาการเจ็บลง
    "ผิดจากที่ฉันพูดที่ไหน" คริสว่าก่อนจะสังเกตดูว่ามีอาการบาดเจ็บที่ไหนอีกแต่ก็ไม่พบอะไร
    "ช่วยเราลุกหน่อยสิ" จุนมยอนนิ่วหน้าด้วยความเจ็บ คริสถอนหายใจก่อนจะช้อนอุ้มตัวจุนมยอนขึ้นมาและพากลับไปที่ห้องพัก
    "เจ็บมั้ย?" คริสค่อยๆงางร่างบางลงบนฟูก ก่อนจะจับข้อเท้าเล็กที่เริ่มจะบวมแดงพลิกดูอาการ
    "ก็..นิดหน่อย" 
    "บอกก็ไม่เชื่อ" ร่างสูงเดินไปเปิดตู้เย็นก่อนจะเอาน้ำแข็งห่อผ้าเอาไว้และนำมาประคบให้จุนมยอนอย่างเบามือ 
    "เจ็บอยู่ใช่มั้ย?"
    "อื้ม.." จุนมยอนพยักหน้าตอบช้าๆ คริสก้มหน้าลงก่อนจะแอบยิ้มน้อยๆ ริมฝีปากหยักกดจูบเบาๆลงบนฝ่าเท้าของคนตัวเล็กก่อนจะค่อยๆจูบซับแผลที่ข้อเท้า ไล่ขึ้นมาเรื่อยๆจนถึงหน้าขาขาวในไม่ช้า จุนมยอนยิ้มออกที่คริสไม่ได้โกรธหรือหงุดหงิดเขาตามที่แสดงออกมาให้เห็นก่อนหน้า แต่...สัมผัสแบบนี้มันคุ้นๆอยู่นะ เหมือนคริสก็เคยทำแบบนี้ให้เขามาก่อน...จริงๆนะ


    "คริส..." เสียงเรียกจากร่างเล็กทำให้คริสหยุดการกระทำทุกอย่างและหันมาสนใจในสิ่งที่จุนมยอนกำลังจะพูด
    "หืม? ไม่ชอบหรอ?" 
    "เราว่าเราไม่ได้ฝันนะ"
    "ฝันอะไร"
    "วันนั้น...วันที่เกิดเรื่องจงแด...คริสก็ทำแบบนี้"
    "ฉันไม่ได้กลับมาที่บ้านอีกเลยนะหลังจากที่ออกไปสอนตอนเช้าน่ะ"
    "เรารู้สึกจริงๆนะ แล้วเราก็จำได้ว่าเราไม่ได้ฝันด้วย...ถ้าไม่ใช่คริส...แล้วเป็นใคร?"
    "พูดเป็นเล่นน่าจุนมยอน" คริสเริ่มยิ้มไม่ออกกับสิ่งที่จุนมยอนบอกมา ถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆก็แปลว่าอาจจะมีคนที่คิดไม่ดีแอบเข้ามาในบ้าน หรือถ้าไม่...ก็คงจะเป็นคนใกล้ตัว แล้วถ้าเป็นอย่างงั้นจริง...เราควรจะทำยังไงดี จะปกป้องจุนมยอนยังไงดี?



    "คริส...เรากลัว"



     

    ============== Wicked Marriage =============




     

      แท่แดแดแด้ อิอิอิอิ เรามาแล้วนะ อิอิอิอิอิอิอิอิ

      เพื่อความอิน เราเอารูปมาให้ดูดั้วะ อิ





      รูปแบบโรงแรมแบบเรียวคัง คือจะเป็นแบบTraditional นั่งพื้นนอนพื้น ปูเสื่อทาทามิ ประตูเลื่อนกระดาษอ่ะนะอ่ะนะ




     
     อันนี้สวนญี่ปุ่นหน้าตาประมาณนี้ จะไม่มีต้นไม้ใหญ่ เน้นพวกหิน มอส เฟิร์น บอนไซ  




      นี่เกี๊ยะ หรือรองเท้าแตะที่ว่า ใส่เดินแล้วจะล้ม 5555555555555555555






       เจอกันตอนหน้า สัญญาว่าจะรีบแต่ง 555555555555555555555555 


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×