ตอนที่ 9 : Alpha Red hood : 08 (100% +ฝากฟิคใหม่)
[kookv] Alpha Red hood #กุกวีหมวกแดง
Alpha Red hood : 08
บรรดาข้าหลวงและองค์รักษ์กุลีกุจลกันออกมายืนเรียงแถวหน้าตำหนักด้วยความเร่งรีบ เพื่อรอต้อนรับองค์ชายรัชทายาทที่กำลังเดินทางกลับมาจากการไปทำภารกิจที่ได้รับหมอบหมายจากองค์ราชา ไกลถึงชายแดนทางตอนเหนือของคาโรซินเวียร์ แต่ด้วยสภาพอากาศที่เลวร้าย ทำให้การเดินทางกลับมายังวังหลวงล่าช้าไปหลายวัน
ม้าพันธุ์ฟรีเชี่ยนสัตว์เลี้ยงคู่ใจของจองกุกทั้งสี่ตัวถูกใช้ตัวขับเคลื่อนรถม้าอีกครั้ง เริ่มชะลอความเร็วเมื่อวิ่งเข้ามาในเขตพระราชวังจนกระทั่งหยุดนิ่งลงที่หน้าตำนักกลาง
องค์รักษ์ตัวสูงใหญ่ผู้เปรียบเสมือนเป็นมือขวาขององค์รัชทายาทอย่างนัมจุน กระโดดลงจากอานม้าเพอร์เชอร์รอนตัวเขื่อง ก่อนจะก้าวไปเปิดประตูเพื่อให้คนที่นั่งอยู่ในรถม้าลงมา
พ่อบ้านหนุ่มอย่างคิม ซอกจินเป็นฝ่ายก้าวลงมาคนแรก ในมือหอบเอกสารราชกิจกองพะเนิน ส่งสายตาตำหนิให้นางข้าหลวงคนหนึ่งที่จะเข้ามาช่วยเขาถือ เพราะเอกสารในมือของซอกจินนั้นสำคัญเกินกว่าจะให้คนนอกมายุ่งย่าม ก่อนที่ร่างผอมเรียวของคุณพ่อบ้านหายเข้าไปในตำหนักอย่างรวดเร็ว
“ข้าจะไปหาแทฮยอง” น้ำเสียงร้อนรนที่เต็มไปด้วยความเป็นห่วงของคนที่ลงจากรถถัดมา และท่าทางกระวนกระวาย ทำให้พ่อมดหนุ่มที่เพิ่งเดินมาสมทบต้องคว้าแขนเสื้อของน้องชายเอาไว้ ก่อนที่เจ้าตัวจะวิ่งแจ้นไปหาคู่ชีวิตที่อยู่อีกตำหนักเสียก่อน
“ไม่ต้องห่วง แทฮยองไม่เป็นอะไรแล้ว – ไปเถอะเสร็จพ่อรออยู่”
จองกุกต้องข่มความเป็นห่วงคนตัวเล็กเอาไว้ ถึงจะเบาใจว่าแทฮยองไม่เป็นอะไรแล้ว แต่เขาก็ยังอยากจะเห็นด้วยตาตัวเองอยู่ดี แต่ภาระหน้าที่ต้องมาก่อน ดวงตาสีเทาเสมองไปทางตำหนักที่แทฮยองครอบครองเป็นเจ้าของอยู่ด้วยความอาวรณ์ ก่อนจะจำใจเดินตามหลังพี่ชายเข้าไปในตำหนัก
พอได้รับจดหมายเวทมนต์ของยุนกิว่าแทฮยองป่วย เขาก็เป็นห่วงคนตัวเล็กจนแทบจะละทิ้งหน้าที่แล้วรีบกลับมาหาแทฮยองตั้งแต่ตอนที่เขารู้เรื่อง แต่ก็ไม่สามารถทำได้อย่างที่ต้องการ กว่าจะสะสางงานเสร็จก็กินเวลาเข้าไปหลายวัน มิหนำซ้ำระหว่างทางยังเกิดพายุหิมะอีก ทำให้กลับมาล่าช้ากว่ากำเนิดไปมาก
การที่จองกุกและแทฮยองยังไม่ได้ผูกจิตกัน เพราะคนตัวเล็กยังไม่ได้ยอมรับชายหนุ่มนั้น ยิ่งทำให้จองกุกร้อนรน กระวนกระวาย เป็นห่วง และคิดถึงคู่ชีวิตของเขาจนไม่เป็นอันทำงานทำการ
จองกุกแทบจะนั่งไม่ติดเก้าอี้เมื่อการประชุมที่ยาวนานตั้งแต่ช่วงบ่ายลากยาวมาถึงช่วงค่ำของวัน แต่พอการประชุมสิ้นสุด เขาก็ต้องมาต้อนรับญาติคนสนิทที่เดินทางมาไกลจากฟรานเชสหัวเมืองตอนเหนือที่เขาก็เพิ่งไปแวะไปเยี่ยมเยียนมาเมื่อกี่วันก่อน ครั้นเขาจะไม่อยู่ต้อนรับก็คงจะไม่ได้ เพราะการมาของญาติของเขาในครั้งนี้ เป็นการมาเพื่อบอกข่าวสำคัญของพวกกบฏที่ต้องการจะยึดครองนครโทนิส
รอข้าหน่อยนะแทฮยอง ข้าจะรีบไปหาเจ้า
//
พ่อมดหนุ่มรีบสาวเท้าจากตำหนักของตัวเองอย่างเร่งรีบ หลังจากที่เขาปลีกตัวออกมาจากการประชุม เพื่อกลับมาปรุงยาที่ทำค้างไว้ก่อนหน้านี้ คนตัวซีดตรงดิ่งมายังห้องรับรองของวังหลวง หลังจากทราบว่าองค์ราชินีต้องการพบเขาโดยด่วน
ยุนกิชะงักเท้าลง วูบหนึ่งนัยน์ตาดำขลับสั่นไหวอย่างรุนแรง ทันทีที่ประตูแง้มเปิดออกเผยให้เห็นร่างระหงส์ของดยุคแห่งฟรานเชส พระราชนัดดาคนโปรดขององค์ราชินี กำลังยกยิ้มหัวเราะต่อกระซิกให้กับการสนทนาที่ออกรส มือสวยยกถ้วยน้ำชาเอิร์ลเกรย์จรดริมฝีปากด้วยท่าทางสมกับเป็นราชนิกุล
งดงาม
ราวกับนางฟ้านางสวรรค์
ที่เขาไม่อาจเอือม ..
“ยุนกิมานี่สิลูก จำน้องได้หรือป่าว เจ้าสองคนไม่ได้เจอกันตั้งนานนิ” เสียงควักมือเรียกขององค์ราชินี ทำให้ยุนกิก้าวเท้ามานั่งลงที่โซฟาตัวยาวข้างๆน้องชาย ริมฝีปากที่ยกยิ้มของดยุคคนสวยจางหายไปทันทีที่คนตัวขาวก้าวเข้ามา
ใครจะลืมลง
ยุนกิเสตามองออกไปนอกหน้าต่างแทนที่สบตาสวยที่มองมาทางเขาอย่างตัดพ้อ ท่าทางที่สุขุมนิ่งลึกอยู่แล้ว เปลี่ยนเป็นเย็นชา จนนางกำนัลที่ยืนอยู่มุมห้องสังเกตเห็นไอเย็นที่แผ่ออกมาจากตัวพ่อมดหนุ่มจางๆ
จองกุกลูบบ่าของพี่ชายบุญธรรมอย่างเห็นใจ ชายผู้เงียบขรึมคนนี้มีเรื่องราวที่เจ็บปวดฝังใจอยู่มากมาย คนตรงหน้าก็เป็นอีกบาดแผลหนึ่งที่ทำให้ยุนกิยังคงทุกข์ทรมาน กับเรื่องราวระหว่างพวกเขาสองคนในอดีตอยู่ไม่หาย
บาดแผลที่แห้งตกสะเก็ด ก็เปลี่ยนเป็นแผลสดฉ่ำไปด้วยเลือดได้ ถ้าถูกสะกิดจากคนที่มีผลต่อหัวใจ
“นะ ไหนล่ะองค์ชาย เมทของเจ้าอยู่ไหน – ข้าได้ยินคนเขาเล่าเขาลือกันว่างดงามราวกับเทพธิดา”
จองกุกสบตากับคนที่ที่ชวนเปลี่ยนเรื่องสนทนาอย่างเห็นใจ น้ำเสียงสั่นเครือกับหยาดน้ำที่คลออยู่ในดวงแก้วใส ทำให้รู้ว่าคนตรงหน้าก็จะยังเจ็บปวดไม่แพ้กัน
“เจ้าไม่น่าพูดเสียให้ความเลยหลานรัก ดูองค์ชายทำหน้าเข้าสิ ไม่ได้เจอหนูแทแค่ไม่กี่วันจะลงแดงตายให้ได้อยู่แล้วเชียว”
ชายหนุ่มไอกระแอมกลบเกลื่อน เมื่อถูกคนเป็นแม่เอ่ยแซวขำขัน ที่เขาเกือบทำภารกิจล่มไม่เป็นท่าเพราะมัวแต่เป็นห่วงคนที่นอนป่วยอยู่อีกตำหนัก
“ฮ่ะๆ ข้าว่าน่าอิจฉาออกนะครับเสร็จป้า ดูอย่างข้าสิครับเป็นอัลฟ่าแท้ๆ แต่กลับยังไม่พบเมทตัวเองเสียที”
“ตัดพ้ออะไรเสียอย่างนั้นล่ะจีมิน”
“ก็จริงนี่องค์ชาย หรือบางทีเมทข้าอาจไม่ใช่ ...หมาป่าก็ได้ ใครจะรู้”
นัยน์ตาคู่สวยเหล่มองคนที่นั่งนิ่ง ไม่ยอมปริปากพูดซักคำตั้งแต่เข้ามา ใบหน้าเฉยช้าเบือนหนีไปอีกทาง ทำให้หัวใจดวงน้อยเต้นกระตุก ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันแน่นอย่างกลัดกลั้นความรู้สึก
“ข้าขอตัวก่อนนะครับเสด็จแม่ – พอดีปรุงยาไว้” ยุนกิลุกขึ้นโค้งคำนับองค์ราชินี เอ่ยคำลาทันที
“อ้าว เดี๋ยวสิยุนกิ..”
ยุนกิก้าวเท้าออกมาโดยไม่สนเสียงเรียกขององค์ราชินี เขาทนนั่งอยู่ตรงนั่งต่อไม่ได้แล้ว มันเจ็บ เจ็บจน..
หัวใจชาหนึบจนทนอยู่ต่อไม่ไหว
//
โอเมก้าตัวน้อยนอนพลิกตัวไปมาบนที่นอนด้วยความหงุดหงิด อาการไม่สบายเนื้อสบายตัวที่เทาลุลงไปเมื่อหลายวันก่อน กลับมาประทุเล่นงานอีกรอบ กายสีน้ำผึ้งที่สวมใส่ชุดนอนสีขาวสะอาดตาชื้นไปด้วยหยาดเหงื่อ สายลมเย็นเฉียบพัดเข้ามาทางช่องหน้าต่างที่ถูกเปิดไว้ ไม่ได้ทำให้กายที่ร้อนดั่งไฟทุเลาลงแม้แต่น้อย
ร่างกายสั่นเทายันตัวนั่งพิงกับหัวเตียงด้วยแรงอันน้อยนิด แทฮยองรู้สึกกระสับกระส่ายด้วยความต้องการแปลกประหลาด ขาเรียวหนีบเกร็งเข้าหากันแน่น จนปวดหนึบไปทั้งร่างกาย แทฮยองรู้ดีมันไม่ใช่อาการเดียวกับวันนั้นที่เขาป่วย แต่เป็นความทรมานแบบเดียวกับวันแรกที่เขาพบองค์ชาย ทว่าวันนี้มันกลับทรมานยิ่งกว่านั้นหลายเท่า ขอบตาร้อนผ่าวด้วยความรู้สึกสับสน
“อ๊ะ! ทำไมมัน ...”
‘– อีกไม่กี่วันจะถึงฮีทวีคแล้ว ร่างกายเจ้าจะแปรปรวนก็ไม่ใช่เรื่องแปลก ยังไงก็เตรียมตัวไว้ล่ะ’
พลันคิดไปถึงคำพูดของยุนกิที่ทำเอาแทฮยองหน้าแดงก่ำเมื่อกี้ ก็ทำเอานัยน์สวยเบิกกว้างด้วยความตกใจ
หรือว่าเขากำลังฮีท
!!!
ม่านตาสีเทาขยายกว้างเมื่อกี้จองกุกเพิ่งได้รับกระแสจิตจากคนที่เขากำลังเป็นห่วง เสียงแห่งโชคชะตาที่ดังขึ้นข้างหูอีกครั้งเป็นเครื่องยืนยันได้ดีว่าแทฮยองยอมผูกจิตกับเขาแล้ว
พลันความต้องการบางอย่างที่ประทุขึ้นราวกับภูเขาไฟระเบิด ทำให้ชายหนุ่มต้องกลั่นฟันกรอด พลางขบความวาบวามที่เกิดขึ้นเอาไว้
“ชายขอตัวก่อนนะเสร็จแม่”
องค์ชายจองกุกในร่างของอัลฟ่าหมาป่าตัวสูงใหญ่รีบวิ่งมาทางตำหนักฝั่งตะวันตกด้วยความเร่งรีบ นัยน์ตาเปลี่ยนสีสลับไปสลับมาระหว่างสีเทาของเจ้าตัว และสีทองอันเป็นเครื่องหมายของผู้ที่มีสิทธิได้ครอบครองบัลลังก์ของหมาป่า กลิ่นหอมหวานของคู่เมทตัวเองที่ลอยคละคลุ้งมาแต่ไกล ทำเอาเขาแทบคลั่ง
“แทฮยอง”
“อะ องค์ชาย อึก ยะ อย่าเข้ามานะ!”
โอเมก้าตัวน้อยที่นั่งกอดเข่าร้องไห้อยู่บนเตียง ถอยกรูดไปจนผ่านหลังแผ่นบางแนบชิดกับผนังอีกด้าน ใบหน้าตุ๊กตากระเบื้องส่ายไปมาจนผมสีบรอนด์สะบัดไปตามแรงกระทำ ใบหน้าสวยเปรอะเปื้อนไปด้วยน้ำตามากมาย ขอบตาบวมช้ำจากการร้องไห้ ทำชายหนุ่มใจกระตุกวูบ
ยิ่งองค์ชายเข้ามาใกล้มากเท่าไหร่ ความร้อนลุ่มในร่างกายก็ทวีความรุนแรงขึ้นเท่านั้น ฟันเล็กขบกัดลงที่ปากล่างพลางก้อนก้อนสะอึกในลำคอ สบตากับคนที่ไม่ได้เจอหน้ากันมาราวสัปดาห์
คิดถึงและโหยหามากกว่าสิ่งใด
“แทฮยองอย่ากัดปาก”
เสียงทุ้มที่เอ่ยปรามอย่างเป็นห่วง ทำให้ท่าทีของคนตัวเล็กอ่อนลง จองกุกก้าวเข้าไปคว้าร่างบางมากอดด้วยความโหยหา พรมจูบที่หน้าผากมนที่ร้อนเป็นไฟอย่างรักใคร่ ก้านนิ้วยาวเกลี่ยหยาดน้ำที่หางตาของแทฮยองด้วยความอ่อนโยน ราวกับเป็นแก้วบางที่แตกสลายได้ง่าย
ท่าทางกระสับกระส่าย ประกอบกับกลิ่นฟีโรโมนที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ชายหนุ่มนิ่งคิด
ทำไมเจ้าตัวเล็กของเขาถึงได้ฮีทขึ้นมาล่ะ ทั้งๆที่ ....
พลันตาคมตวัดสายตาไปยังโต๊ะหัวเตียงที่มีถ้วยโอสถว่างเปล่าอยู่จนต้องขมวดคิ้ว เป็นไม่ได้เลยที่พ่อมดขาวอย่างยุนกิจะปรุงยาผิดพลาด
“แทฮยองเจ้ากินยานั่นไปแล้ว ทำไม – ”
“เอ่อ คือ ขะ ข้า ...”
“หื้ม ว่ายังไงล่ะเด็กดี”
“ข้าไม่ได้กินมันครับ ข้าเททิ้งไป”
จองกุกพ่นลมหายใจออกมาอย่างแรงเพื่อกลัดกลั้นสัญชาติญาณดิบของตัวเองมากขึ้นเรื่อยๆ ใบหน้าหวานที่ซุกอยู่ที่อกทำเขาลำคอแห้งผาก ตอบสารภาพความผิดด้วยเสียงอ่อยๆ จนเขาอยากจะคว้าร่างที่ส่งกลิ่นเย้ายั่วมาฟัดเป็นการลงโทษ
“เจ้ารู้หรือป่าวว่าอะไรจะเกิดขึ้น ถ้าเจ้าไม่ได้กินยานั่น –” จองกุกว่าพลางกดเสียงต่ำ ฝ่ามือหนาเชยปลายคางของคนตัวเล็กขึ้นมา สบตาหวานเยิ้มอย่างสื่อความหมาย ก่อนจะไล่สัมผัสไปตามสันกรามบนใบหน้าตุ๊กตากระเบื้องเคลือบอย่างทะนุทะหนอม
แทฮยองส่ายหน้าเป็นคำตอบ ก็เขาไม่คิดว่ายาที่ยุนกินำมาให้ จะไม่ใช่ยาที่เขาเคยกินเพื่อรักษาอาการป่วย
แต่ตอนนี้เขารู้แล้วว่า ...
“ข้าว่าข้ารู้ ... ได้โปรด – ช่วยแททีนะครับองค์ชาย”
จองกุกสบตาหวานเชื่อมกับคนตรงหน้า มือเรียวเอื้อมมาคล้องคอเขา ก่อนที่จะเขย่งปลายเท้าขึ้นมาเพื่อให้ความสูงอยู่ในระดับเดียวกัน ปากอิ่มสีเชอรี่น่าสัมผัสขบเม้มเข้าหากันด้วยท่าทีลังเล และสบประมาท
ชายหนุ่มยกยิ้มหัวเราะให้กับท่าทางน่ารักของร่างบาง ริมฝีปากหยักพรมจูบไปตามกรอบหน้าคนตัวเล็ก ร่างหนาเกี่ยวรั้งกายบางให้แนบชิดกันมากยิ่งขึ้น กดจูบที่หน้าผากมน ลากไล้มายังปลายจมูกโด่งรั้น แนบชิดบนปากอิ่มที่ปิดสนิท ก่อนจะเลื่อนมันยังพวงแก้มสีแดงปลั่ง แกล้งพ่นลมหายใจรดต้นคอหอมกรุ่นอย่างมั่นเขี้ยว จนแทฮยองหลุดหัวเราะคิกคัก
“คิกๆ มันจั๊กจี้นะครับ อื้อ!”
จองกุกอาศัยจังหวะที่ร่างเล็กเปิดปากพูดเข้าไปตักตวงความหวานในโพรงปากสีเชอรี่แสนน่ารักทันที จูบแสนหวานของจองกุกทำเอาแทฮยองร่างกายอ่อนปลวกเปียกแทบจะทรงตัวไม่อยู่ ถ้าไม่ได้ท่อนแขนกำยำที่รั้งสะโพกเขาเอาไว้
“เจ้ามันแม่มดชัดๆ – จะทำให้ข้าหลงไปถึงไหน”
“อ๊ะ!”
แทฮยองสะดุ้งตัวโหยง เมื่อมือหนาบีบเฟ้นสะโพกนิ่มที่เด้งสู้มือ ปลายจมูกโด่งกดลงสูดความหอมเย้ายั่วที่ผิวน้ำผึ้งจนโอเมก้าตัวน้อยต้องเม้มปากแน่น เมื่อคลื่นความร้อนในร่างกายสูงขึ้นอย่างฉุดไม่อยู่
จองกุกจับร่างบางที่กำลังเคลิบเคลิ้มในรสจูบให้เอนตัวลงบนที่นอนอย่างช้าๆ ลูบไล่สัมผัสไปตามรูปร่างอรชรอ้อนแอ่นภายใต้ชุดนอนสีขาวตัวบางที่บดบังกายสวย จนอยากกระฉากออกให้พ้นทาง
ชายหนุ่มจำใจผละออกเพียงชั่วครู่เมื่อคนใต้ร่างประท้วงขึ้นเพราะใกล้จะขาดอากาศหายใจ ก่อนที่จะเลื่อนหน้าเข้าไปใกล้จนปลายจมูกชนกัน นัยน์ตาสีเทาเปล่งประกายขึ้นมาจนกลายเป็นสีทอง อันเป็นสามารถจำเพราะของบุตรแห่งกษัตริย์ คริสตันหวานเยิ้มที่สบตากับเขาเป็นตัวเร่งปลุกปั่นไฟราคะในตัวให้ลุกโชนขึ้น
แววตาที่เปลี่ยนสีได้ขององค์ชาย ทำเอาคนตัวเล็กนิ่งค้างไป มือบางลูบลงที่สันกรามคม จ้องลึกเข้าไปข้างในตาของคนตรงหน้าเพื่อค้นหาคำตอบในใจ
ทำไมถึงไม่เคยเอ๊ะใจเลย
เข็มกลัดคริสตันน้ำงามที่องค์ชายจองกุกกลัดอยู่ที่เสื้อเป็นประจำ กับตราสัญลักษณ์ดิ้นทองที่ถูกปลักอยู่บนผ้าคลุมของเขา และแววตาที่แทฮยองจำได้ขึ้นใจ
จองกุกยกยิ้มตอบให้คนที่ดีใจจนยิ้มกว้างเป็นสีเหลี่ยมที่ยกแขนคล้องคอเขาอยู่ ก่อนที่คนตัวเล็กจะสะดุ้งเฮือกเมื่อลิ้นชื้นเลียเข้าที่กกหู ฟันคมงับลงที่ติ่งหูเล็กน้อยให้คนไร้เดียงสาขวัญผวาเล่น
“คิดอะไรอยู่ หื้ม”
“คิดเรื่องของเราในอดีตน่ะครับ – ขอบคุณนะครับที่ช่วยชีวิตแทไว้ ..เมื่อสามปีก่อน”
“คิดว่าจะลืมกันไปแล้วเสียอีก” ปากหยักทาบลงไปปิดปากเล็กที่เผลอรออยู่แล้ว กดจูบหวานชื่นจนร่างบางอ่อนระทวย จองกุกประสานมือเล็กข้างหนึ่งไว้แน่น
“ไม่ลืมหรอกครับ ไม่มีทาง”
ชายหนุ่มกดจูบย้ำๆลงที่ริมฝีปากบางอีกหลายครั้ง ก่อนจะลุกผละเดินออกไปนอกห้อง ทำเอาคนตัวเล็กงงเป็นไก่ตาแตก ในหัวคิดฟุ้งซ่านไปต่างๆนานา จนหยาดน้ำตาเอ่อล้นตาคู่สวยอีกรอบ
ทั้งน้อยใจองค์ชายที่จู่ๆก็ผลักออกไปแบบนั้น ทั้งกลัวว่าองค์ชายจะทิ้งเขาไป
แทฮยองพลิกตัวซุกหน้าลงกับหมอนปล่อยให้หยาดน้ำตาไหลจนเกิดรอยชื้นเป็นวงกว้าง ความเสียใจโลดแล่นเข้ามาจนหัวใจดวงน้อยปวดหนึบ
แต่ทว่า
มือข้างหนึ่งถูกคว้าไปโดยคนตัวสูงที่เดินกลับมาหยุดลงข้างเตียง สัมผัสได้ถึงความชื้นที่ริมฝีปากจรดลงที่หลังมือของเขา ก่อนจะถูกอุ้มตัวลอยให้มานั่งซ้อนลงบนตักแกร่ง มือเล็กคล้องแขนเข้าที่คอของคนตรงหน้าด้วยความตกใจ
“เด็กขี้แย”
“อื้อ! องค์ชาย” จองกุกบีบจมูกรั้นของคนคิดเองเออเองอย่างมั่นเขี้ยว เมื่อกี้เขาแค่ออกไปบอกให้ซอกจินเตรียมของสำคัญให้เรียบร้อย จนได้แอบอ่านความคิดของแทฮยองที่ฟุ้งซ่านไปไกล จนอดแกล้งไม่ได้
“ไปไหนมาเหรอครับ”
“ความลับ”
Cut
PASSWORD : redhood08
//
จิ๊บ จิ๊บ
แสงแดดทอส่องเข้ามาในห้องนอนที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายรัก เสียงนกกระจิบที่บินกลับมาจากหาอาหาร ทำรังของอยู่บนต้นสนใหญ่ข้างตำหนัก ส่งเสียงประสานกันอย่างไพเราะ เป็นพยานรักให้กับสองร่างเปล่าเปลือย กำลังนอนกกกอดกันอยู่ใต้ผ้าห่มผื่นหนา
ชายหนุ่มเอื้อมปัดแพร่ผมสีบรอนด์ให้พ้นจากดวงหน้าหวานที่เขาแสนหลงใหล ไล่มองดวงหน้าสวยที่กำลังหลับตาพริ้ม จมูกโด่งรั้นที่มีไฝเม็ดเล็กช่างดูน่ารัก ไหนจะริมฝีปากสีเชอรี่ที่บวมเจ่อหน่อยๆ จนอดกดจูบลงไปไม่ได้ ผิวกายเนียนละเอียดสีน้ำผึ้งส่งกลิ่นหอมเย้ายวนผสมผสานไปกับกลิ่นไอความชื้นด้านนอกหน้าต่างได้อย่างลงตัว
ยกยิ้มชอบใจให้กับร่องรอยรักบนกายบาง รอยกลีบกุหลาบที่เขาเป็นคนบรรจงแต่งแต้ม เสริมให้กายสีน้ำผึ้งงดงามอย่างสมบูรณ์แบบ นิ้วโป้งไล่สัมผัสรอยสีสวยที่ลำคอของคนตัวเล็กอย่างแผ่วเบา จนคนที่หลับคอย่นหนี
น่ารักจริงๆเลย
กายบางขยับตัวหนี พลิกตัวไปอีกด้าน หลังถูกรบกวนการนอน แผ่นหลังเปลือยเปล่าที่โผล่พ้นผ้าห่มมาเต็มไปด้วยรอยรักที่เขาตีตราคนตัวเล็ก มือหนาเกี่ยวรั้งเอวบางจากทางด้านหลัง กดจูบและซูดดมหอมความที่ลาดไหล่อย่างเอาใจ
“องค์ชายอย่ากวนแทสิครับ”
ชายหนุ่มกระตุกยิ้มให้กับน้ำเสียงงอแงของคนที่เพิ่งนอนไปตอนรุ่งสาง ปากหยักไล่งับติ่งหูเล็กจนเปลือกตาสีมุกของคนงอแงเปิดกว้าง พลิกกายหันมามองคนก่อกวนตาเขียว
“องค์ชายอ่ะ”
“หื้ม – ว่าไงครับแทฮยองของข้า”
“อย่ากวนแทสิ แทเพิ่งได้นอนเองนะ” แทฮยองแยกเขี้ยวใส่คนตรงหน้า ที่เอาแต่ลุ่มล่ามกับร่างกายเขาไม่หยุด กว่าคนหื่นกามจะยอมปล่อยให้เขานอนก็ปาไปเกือบเช้า
ไม่รู้ว่าไปอดอยากปากแห้งมาจากไหน
“แต่นี่จะเย็นแล้วนะ ตื่นได้แล้วคนดี – เจ้าต้องกินยานะ”
แทฮยองปากคว่ำทันทีที่ได้ยินว่าเขาจะต้องกินยาอีก พลางเชิดหน้ากอดอกอย่างแต่เอาใจ ท่าทางน่ารักน่าชังจนชายหนุ่มอดไม่ได้ที่จะกดจูบลงที่ริมฝีปากเบะคว้ำซ้ำๆ จนคนตัวเล็กหลุดยิ้มออกมา
“ถ้าดื้อแอบเทยาทิ้งอีก คราวนี้พี่ช่วยไม่ได้แล้วนะคะ เพราะว่า – ” จองกุกก้มหน้ามากระซิบที่ข้างหูของคนที่นอนกอดอยู่ แต่ยังไม่งับหูคนตัวเล็กเล่น จนแทฮยองอดไม่ได้ ฟาดมือลงบนแผ่นอกที่มีแต่ลอยเล็บข่วนเต็มไปหมด
ก่อนจะยอมกินยาที่จองกุกคว้ามาจากโต๊ะหัวเตียงแต่โดยดี
“เก่งมาก เมียใครก็ไม่รู้น่ารักที่สุดเลย”
“คนบ้า ... ปล่อยแทเลยนะ แทกินยาแล้ว องค์ชายให้แทนอนต่อได้แล้วใช่ไหมครับ”
“ไม่ได้ – ไปอาบน้ำกันเถอะที่รัก”
“แต่องค์ชาย – แทลุกไม่ไหว” แทฮยองถูศีรษะเข้ากับแผ่นอกกำยำอย่างออดอ้อน ก็เขาลุกไม่ไหวๆนี่จริง ร่างกายปวดระบม โดยเฉพาะช่วงล่วงที่โดนคนหื่นกามกระทำชำเรา(?)จนแทบขยับตัวไม่ได้
“จะยอมไปอาบน้ำกับพี่ตอนนี้ หรือจะให้พี่กินแทแทนข้าวดีล่ะ : )”
TALK 2
ตะเอ๋ มาต่อแล้วค่ะทุกคนนนนน แอบย่องมาอัพดึกๆ หน่อยเพราะช่วงนี้ไรท์ติดกิจกรรมมอที่กว่าจะเสร็จก็ปาไปสามสี่ทุ่มทุกวัน T^T (ขอบ่นแพ๊พ) แอบตกใจกับยอดเฟบที่พุ่งขึ้นเยอะมากเบาๆ ยินดีต้อนรับนักอ่านหน้าใหม่ที่หลงเข้ามาอ่านเรื่องนี้นะคะ ขอฝากองค์ชายกับน้องแท และฟิคกุกวีหมวกแดง ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วยน้า จุ้บๆ สารภาพตรงๆว่าไรท์แต่งคัทครั้งแรกจริงๆ เป็นฉากที่ใช้เวลาแต่งนานมากกกก แก้แล้วแก้อีก อยากเสิร์ฟความหวานแบบพิเศษไข่สองฟองให้กับทุกคน ก่อนที่จะเข้าสู่พาร์ทดุเดือดของเรื่องนี้ ฮ่าๆ ไม่รู้จะถูกใจกันหรือป่าว ยังไงคอมเม้นบอกไรท์ด้วยนะคะ
ช่วงนี้โมเม้นเรือเราเต็มไปหมด ตาลายเหม็นความรักสุดๆ มีกำลังใจปั่นฟิคมาก เลยถือว่าเป็นฤกษ์งามยามดีเปิดเรื่องใหม่ซะเลย เป็นคลังเก็บฟิคสั้นของไรท์เองค่ะ เปิดให้เจิ้มด้วยความหน้ามืดตามัวสุดๆ... แล้วพบกันใน #kookvparadise เร็วๆนี้นะคะ
TALK 1
ฮัลโลววววววว เอาคู่รองมาเสริฟแล้วค่ะทุกคนนนน ในส่วนของคู่หลักนั้น ...ใครสนใจจะช่วยองค์ชายลงโทษเด็กดื้อบ้าง ลงชื่อมาบัดเดี๋ยวนี้ เพราะอีก 60 เปอร์เซ็นจะมีฉากที่ออเจ้าทั้งหลายรอคอยหรือไม่ ก็ไม่รู้นะคะ ไม่บอกหรอก แบร่! ก็เลยมาแบ่งอัพแค่ 40 เปอร์เซ็นก่อนให้ทุกคนค้างเล่นๆ (โดนคนอ่านทุบหัว) ในส่วนของเมื่อคืนนี้เรืออื่นหลบไปค่ะ เรือเราจะเดิน ถ่ายรูปกระหนุงกระหนิงกันอย่างกับพรีเวดดิ้ง สื่อก็ชงขนาดนี้ ชิปเปอร์ยังจำเป็นอยู่ไหมมมม ไรท์แทบจะลงโลงเลยเมื่อคืน สำลักโมเม้น หลับฝันดีมาก > <
อยากขอบคุณหลายๆคนมากๆเลยนะคะที่ช่วยเตือนเวลามีคำผิด ไรท์นอนน้อย เรียนก็หนัก มันก็จะเบลอๆพิมพ์ถูกพิมพ์ผิดหน่อย เป็นบ่อยมากเลยที่ในหัวคิดอีกอย่าง แต่มือพิมพ์อีกอย่าง อยากจะเอาหัวโขกกำแพง ขออภัยจากใจจริงๆค่ะ เพราะบ้างครั้งมันก็อาจทำให้เสียอรรถรสในการอ่าน จะพยายามตรวจทานให้มากๆก่อนลงนะคะ
04/03/2561
07/03/2561
ร่วมพูดคุยกันได้ที่ทวิตเตอร์ @BAMATTY_ หรือ #กุกวีหมวกแดง นะจ๊ะ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

เอ็นดูหนูแทหน่อยค่ะ555
เขิลง่ะ555✌❤
ร้ายยยย ร้ายมากไปแร้ววววววววงงง