ตอนที่ 8 : Alpha Red hood : 07
[kookv] Alpha Red hood #กุกวีหมวกแดง
Alpha Red hood : 07
ยังไม่ได้ตรวจสอบคำผิดจ้า
“ทะ ที่นี่ที่ไหนกัน”
ใบหน้าตุ๊กตากระเบื้องเคลือบเหยเก เมื่อการเปล่งเสียงจากลำคอที่แห้งผากส่งผลให้เกิดความเจ็บแสบจนต้องนิ่วหน้า นัยน์ตาสีน้ำทะเลกระพริบตาถี่ คิ้วสวยขมวดยุ่งเมื่อสายตาโฟกัสที่เตาไม้ของเตียงที่ถูกประดับผ่านสีม่วงปักด้วยดิ้นทองแปลกตา ไฟสีนวลส่องจากแชนเดอเลียที่ห้อยระย้าอยู่กลางห้อง ทำให้คนตัวเล็กมั่นใจว่านี่ไม่ใช่ห้องเดียวกับที่เขานอนเมื่อคืน
แทฮยองจำได้ว่าหลังจากแยกกับองค์ชายในช่วงเช้า เขาตั้งใจจะไปช่วยนางกำนัลจัดข้าวจัดของของเขาให้เข้าที่เข้าทาง แต่พอทำได้สักพัก กลับรู้สึกไม่สบายเนื้อสบายราวกับว่าจะเป็นไข้ ประกอบกับยังเหนื่อยล้ากับการเดินทาง คนตัวเล็กจึงปลีกตัวออกมานอนพัก
กรุ้งกริ้ง
เสียงกระทบกันของโมบายกระดิ่งที่ห้อยอยู่ตรงหน้าต่างเรียกความสนใจให้แทฮยองหันไปมอง ริมฝีปากอิ่มยกยิ้มกว้างเมื่อสายลมเย็นๆพัดเข้ามากระทบกับผิวกาย
แกร๊ก
คนตัวเล็กยันตัวลุกขึ้น ขาเรียวก้าวมาเปิดประตูบานใหญ่ออก เผยให้เห็นโถงของปราสาทที่ตกแต่งอย่างหรูหราและวิจิตร จนเผลออ้าปากค้างในความงดงาม เท้าเปลือยเปล่าที่สัมผัสกับพื้นเย็นเฉียบทำให้กายสีน้ำผึ้งสันไหวเล็กน้อย มือเรียวคว้าผ้าคลุมสีแดงที่วางอยู่มาสวมอย่างเคยชิน
แทฮยองเดินลงบันไดวนมายังโถงด้านล่างด้วยท่าทีกล้าๆกลัวๆ ตาสวยสำรวจไปรอบบริเวณ ปราสาทแห่งนี้ถูกสร้างด้วยสถานปัตย์กรรมแบบกรีกโรมันที่งดงามแบบหาที่เปรียบไม่ได้ แต่เถาวัลย์และรูปปั้นของสัตว์หน้าตาประหลาดกลับชวนให้ดูน่าพิศวง ประกอบบรรยากาศที่เงียบงันราวกับสถานที่แห่งนี้มีเพียงแต่เขาเท่านั้น ชวนให้คนตัวเล็กขนลุกซู่
โอเมก้าตัวน้อยเดินมาหยุดอยู่ที่ผนังหินขัดเงา ถูกสลักด้วยอักษรโบราณที่เจ้าตัวไม่เคยเห็นมาก่อน มือเรียวไล่สัมผัสไปตามรอยโค้งนูนของตัวอักษรราวกับต้องมนต์สะกด
“เฮเลล วี ”
!!!!
เสียงทุ้มติดแหบที่ดังขึ้นด้านหลัง ทำให้แทฮยองยื่นตัวแข็งทื่อ ร่างกายเย็นเฉียบยามที่ผู้มาใหม่หยุดยืนอยู่ด้านหลัง นัยน์ตาสีเบิกกว้างเมื่อภาพสะท้อนจากผนังหินเงาวับ เผยให้เห็นรูปร่างและหน้าตาของคนๆนั้นได้อย่างชัดเจน
ร่างกายผอมบางในชุดสีดำสนิท ชายเสื้อตัวในลูกไม้สีขาวที่พ้นขอบคอเสื้อตัวนอกออกมาช่วยเสริมให้คนๆนั้นสง่างามราวกับเทพเจ้า ผิวสีน้ำผึ้งยามต้องแสงแดดเปล่งประกายออกมาทำให้แทฮยองละสายตาไปจากภาพตรงหน้าไม่ได้ คนตัวเล็กอ้าปากค้าง เมื่อผสานเข้ากับนัยน์ตาสีสวย
ผู้ชายคนนั้น ...
มีใบหน้าที่เหมือนกับแทฮยองราวกับเป็นคนๆเดียวกัน
แต่ทว่ากลับมีดวงตาสีลาเวนเดอร์ และปีกสีดำด้านหลังเท่านั้นที่แตกต่าง
โอเมก้าตัวน้อยหน้าซีดเผือก เมื่อถูกมือเย็นเฉียบดันไหล่เล็กมาให้หันมาเผชิญ ดวงตาแข็งกร้าว และรอยยิ้มร้ายกาจของคนตรงหน้า ทำให้ร่างเล็กสั่นเทาด้วยความหวาดกลัว เขี้ยวคมที่โผล่พ้นริมฝีปากอิ่มออกมายิ่งทำให้แทฮยองขวัญผวา
แทฮยองเผลอกลั้นลมหายใจ เมื่อมือเรียวของคนตรงหน้าไล่สัมผัสไปตามโครงหน้าของเขาอย่างแผ่วเบา นัยน์ตาสีลาแวนเดอร์ที่สบตากับเขาเป็นเสมือนกันโซ่ตรวนที่บังคับไม่ให้แทฮยองขยับเขยื้อนได้ เสียงหัวเราะชอบใจในลำคอยิ่งทำให้คนตัวเล็กสั่นเป็นเจ้าเข้า
“แล้วอีกไม่นานเราจะได้พบกัน … ตัวตายตัวแทนของข้า”
//
เฮือก
โอเมก้าตัวน้อยสะตื่นขึ้นมากลางบ่ายของวัน ร่างเล็กเหนื่อยหอบ ตามใบหน้ามีเหงื่อซึมจนปอยผมชื่นแฉะ แทฮยองกวาดสายตาไปรอบๆก็พบว่าตัวเองยังนอนอยู่ในห้องเดิมที่นอนเมื่อคืน
“ฝันไปเหรอเนี่ย” แทฮยองพ่นลมหายใจ นึกคอแห้ง จึงหันไปคว้าแก้วน้ำที่ถูกวางอยู่บนโต๊ะหัวเตียงอย่างร้อนรน
เพล้ง!
ด้วยความไม่ทันระวัง มือเรียวเผลอปัดแจกันดอกไม้ทรงสวยตกแตกกระจายเต็มพื้น แทฮยองหน้าซีดด้วยความตกใจ นึกตำหนิตัวเองที่ไม่รู้จักระมัดระวัง เมื่อคืนเขาก็เพิ่งจะทำตุ๊กตาเซรามิคแตกไป ตอนนี้ก็ยังจะทำข้าวของเสียหายอีก
แต่ทว่า
มือเรียวของร่างเล็กที่ทรุดนั่งลงกับพื้นหมายจะเก็บเศษแก้วที่แตกกระจาย ถูกคว้าเอาไว้โดยใครบางคนที่เปิดประตูที่พรวดพลาดเข้ามา
“เกิดอะไรขึ้นแทฮยอง” ผู้เข้ามาใหม่ถามโอเมก้าตัวน้อยด้วยความเป็นห่วง ก่อนจะจับคนตัวเล็กให้ลงนั่งเป็นเตียงตามเดิม พลางส่งสายตาให้นางกำนัลเข้ามาเก็บกวาดเศษแก้วที่พื้น
“ขะ ข้าขอโทษครับท่านเคานต์ ข้าทันไม่ระวัง”
“ไม่บาดเจ็บก็ดีแล้ว”
ยุนกิอมยิ้มเอ็ดดูให้กับคนตัวเล็กที่นั่งก้มหน้างุด มือเล็กประสานกันแน่นอย่างกลัวความผิด จนอดยกมือมาโยกศีรษะเล็กอย่างห้ามไม่ได้
แต่ทันทีที่ฝ่ามือซีดสัมผัสกับลุ่มผมนิ่มของร่างเล็ก รอยยิ้มบนหน้าของพ่อมดหนุ่มที่อันตรธานหายไป แทนที่ด้วยใบหน้าเย็นชาและแข็งกร้าว จนคนตัวเล็กที่หันไปมองสะดุ้งโยง
ภาพเหตุการณ์ที่คนตัวเล็กฝัน และลางบอกเหตุร้าย ปรากฏขึ้นมาในหัวของพ่อมดหนุ่ม ทันทีที่ม่านหมอกสีขาวปกคลุมดวงตาสีดำขลับ ใบหน้าของเคานต์ยุนกิที่ซีดขาวอยู่แล้ว บัดนี้กลับยิ่งซีดไร้สีราวกับไม่มีเลือดหล่อเลี้ยงร่างกายเข้าไปอีก
เด็กคนนี้ ... – ไม่หรอก เป็นไปไม่ได้
‘หึ หึ หึ’
พลันเสียงหัวเราะในลำคอของคนที่ยุนกิรู้จักดีก็ดังขึ้นมาในหัว สิ่งรอบตัวแปรเปลี่ยนจากห้องนอนของแทฮยองมาเป็นโถงปราสาทเดียวกับในฝันของโอเมก้าตัวน้อย ใบหน้าซีดแข็งกร้าว ดวงตาของพ่อมดเปล่งแสงสีเงินออกมา ไล่มองบาดแผลฉกรรจ์บนแผ่นหลังเปลือยเปล่าของคนที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้าด้วยสายตาเย็นชา ข้อมือและข้อเท้ามีบาดแผลเหวอะจากการเสียดสีกับโลหะเส้นหนา จนเลือดสีสดไหลเจิ้งนองเต็มพื้น
‘อย่ายุ่งกับเด็กคนนั้น’
‘หึ ทำไมข้าจะยุ่งไม่ได้ เจ้ามีสิทธ์อะไรมาสั่งคนอย่างข้า!’ เสียงตวาดและนัยน์ตาสีลาแวนเดอร์จ้องมองมายังพ่อมดหนุ่มด้วยความเครียดแค้น พลันกัดฟันกรอดสกัดกลั้นความเจ็บปวด เมื่อถูกคาถาจากยุนกิเข้าเล่นงานที่บาดแผลด้านหลัง
‘อ๊ากกกกกกกกกก! ทำบ้าอะไรของเจ้า’ เสียงกรีดร้องยามเจ็บปวดดังก้องไปทั่วโถงปราสาท นัยน์สีลาแวนเดอร์แปรเปลี่ยนเป็นสีแดงซ่าน พวงแก้มใสปรากฏรอยเส้นเลือดฝอยแตกแขนงสีเข้มขึ้นมา เขี้ยวคมยาวออกมาจากปากอิ่มที่ปริแตก
‘สั่งสอนพวกอวดเก่งยังไงล่ะ’
‘ฮ่า ฮ่าๆ เจ้านี่มันน่าขันจริงๆเลยนะ คิดว่าเวทมนต์ของเจ้าชายไร้บังลังก์อย่างเจ้าจะทำอะไรข้าได้จริงๆงั้นเหรอ – มินยุนกิ’
คำพูดของคนตรงหน้าทำเอาชายหนุ่มเป็นเหมือนมีดที่กรีดลงกลางใจของพ่อมดหนุ่มซ้ำๆ ชายหนุ่มมองร่างบางตรงหน้าที่เป็นต้นเหตุผลของปัญญาทั้งหมดด้วยสายตาที่ยากจะคาดเดา มือซีดบีบลงที่คางมนอย่างเต็มแรง
‘ข้าจะไม่ปล่อยให้เจ้ามาทำลายครอบครัวข้าเป็นครั้งที่สองแน่’
‘เหอะ! ใครกันที่สามห้าวอย่างจะล้มล้างพวกข้ากันล่ะ ข้าน่าจะฆ่าเจ้าทิ้งตั้งแต่นั้น ... หึ อีกไม่นานหรอก ข้าจะทวงทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นของข้าคืน’
‘คิดจะทำอะไร.. ต้องการอะไรกันแน่ –’
‘ต้องการอะไรงั้นเหรอ! เจ้าก็รู้ดีอยู่แก่ใจว่าข้าต้องอะไร!!! อ๊ากกกกกก!!’ เสียงกรีดร้องโหยหวนดังขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อพ่อมดหนุ่มตะปบเข้าที่บาดแผลทางด้านหลัง เพื่อตอกย้ำความเจ็บปวดให้กับคนตรงหน้า หยดน้ำตาไหลออกจากดวงตาสีแดงซ่านด้วยความทรมาณ กายบางบิดพริวไปมาราวกับกำลังจะแตกสลาย
ก่อนที่นัยน์สีลาแวนเดอร์จะจ้องมาที่พ่อมดหนุ่มอย่างเหนือกว่าและระเบิดหัวเราะออกมาราวกับคนเสียสติ ‘ ฮ่ะๆ ฮ่ะๆ เจ้ามันโง่ ข้าไม่เคยเห็นใครโง่แบบเจ้ามาก่อนเลยยุนกิ ฮ่ะๆ – ข้าจะบอกให้เอาบุญนะที่รัก เด็กคนนั้นเป็นของข้า ...’
‘อย่าคิดจะทำอะไรแทฮยอง’
‘หึ มันสายไปแล้ว : )’
//
แทฮยองงอตัวเข้าหากันด้วยความเจ็บปวด เสียงหวีดร้องอย่างทรมานเรียกให้ยุนกิหลุดออกจากภวังค์ หยดน้ำตาสีใสไหลจากนัยน์คู่สวยราวกับเขื่อนแตก ใบหน้าตุ๊กตาแดงก่ำ อกเล็กหอบหายใจแรงราวกับกำลังจะขาดอากาศ รู้สึกทรมานที่แผ่นหลังเหมือนกับถูกมีดแหลมคมตัดลงที่อวัยวะส่วนหนึ่งของร่างกาย
ยุนกิที่หลุดออกจากภวังค์เผลอสบถถ้อยคำหยาบคายออกมาอย่างลืมตัว
เขาพลาดท่าเสียทีคนๆนั้นเอาเสียแล้ว
ก่อนจะร่ายมนต์คาถาจนแทฮยองสงบลง มือหนาจับบ่าเล็กของร่างบางหอบหายถี่ เพียงชั่วครู่อาการที่ทรมานราวจนแทบขาดใจของแทฮยองหายไปราวกับไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
พ่อมดหนุ่มคว้าร่างบางที่นอนร้องไห้ขวัญผวาอย่างน่าสงสารมากอดปลอบ “ไม่เป็นไร ไม่เป็นอะไรแล้ว”
“อึก อึก เมื่อกี้เกิด อึก เกิดอะไรกับข้าครับ ข้าทรมานเหมือนว่าข้ากำลังจะตาย”
โอเมก้าตัวน้อยสั่นเทาด้วยความกลัว พลันนึกไปถึงคนสำคัญในชีวิตอย่างท่านพ่อท่านแม่ พี่ชายอย่างนัมจุน และคู่ชีวิตของเขา ขอบตาก็ร้อนผ่าวจนร้องไห้สะอึกสะอื้นไม่หยุด
ถ้าหากเหตุการณ์เมื่อกี้ คร่าชีวิตของเขาไป...
“มันจะไม่เกิดขึ้นอีก ข้าสัญญา”
//
“เมื่อไหร่องค์ชายจะกลับมา”
จากเหตุการณ์ที่แสนน่ากลัวนั่น ก็ผ่านมาหลายวันแล้ว เช่นเดียวกับองค์ชายจองกุก นัมจุน และซอกจินที่ไปปฏิบัติภารกิจต่างเมืองตั้งแต่วันนั้น แต่ทว่าร่างบางยังคงขวัญเสียและหวาดกลัวไม่หยุด จนต้องนอนซมเพราะพิษไข้อยู่หลายวัน
“ทำไมข้าร้อนแบบนี้”
ร่างบางสละผ้าห่มผืนหนาออกจากตัวจนมันร่วงหล่นไปกองที่ผืน พลางปลดกระดุมเม็ดบนของเสื้อนอน ขณะที่นอกหน้าต่างมีหิมะตกมาอย่างหนัก
เสียงเคาะประตูพร้อมๆกับถูกเปิดออก ทำให้แทฮยองแกล้งหลับตาอย่างตื่นเต้น เปลือกตาสีมุกขยับเปิดออกทีข้างด้วยความหวังที่จะได้พบคนที่หายหน้าหายตาไปร่วมสัปดาห์
แต่ก็ต้องผิดหวัง เมื่อพบว่าคนที่เข้ามาไม่ใช่คนที่เขารอคอยอยู่
“ข้าแค่เอายามาให้ ต้องทำหน้าผิดหวังขนาดนั้นเลยเหรอ” ผู้เข้ามาใหม่เอ่ยแซวโอเมก้าตัวน้อยที่นั่งทำหน้าผิดหวังอยู่บนเตียง พลางเก็บผ้าห่มที่ตกอยู่บนพื้นขึ้นมาห่มให้คนป่วยดังเดิม
“ไม่ห่มได้ไหมครับพี่ยุนกิ ข้าร้อนมากเลย” คนตัวเล็กบ่น พลางทำหน้ามุ่ย
สรรพนามที่เปลี่ยนไป เป็นเพราะยุนกิแวะเวียนมาดูแลคนป่วยหลายวัน ทำให้แทฮยองกล้าเปิดใจยอมรับเขาเป็นพี่ชายอีกคนมากขึ้น อาการหวาดกลัวเริ่มหายไปตามวันเวลา จนเขาเองก็แอบโล่งใจ ที่คนๆนั้นไม่แผงฤทธิ์อะไรขึ้นมาอีก
ไม่คิดเลยเขาจะพลาดท่าเสียที จนแทฮยองได้รับอันตราย
หากคู่ชีวิตของน้องชายบุญธรรมของเขาเป็นอะไรไป ยุนกิคงไม่มีวันให้อภัยตัวเองแน่
“ไม่ได้ หิมะข้างนอกตกหนักขนาดนั้น เดี๋ยวจะป่วยหนักกว่าเดิม ข้าไม่อยากฟังเจ้ากระต่ายยักษ์นั่นโวยวายหรอกนะ – ไหนดูสิ สีหน้าดีขึ้นมากแล้วนี่”
“ก็ข้าร้อนนี่ ..เมื่อไหร่องค์ชายจะกลับมาครับ”
“อืม อีกไม่นานหรอก”
“เมื่อวานพี่ก็พูดแบบนี้นี่ครับ” แทฮยองเข้าใจดีว่าองค์ชายจองกุกไปทำงาน แต่ด้วยสัญชาตญาณของความเป็นคู่ชีวิตกัน ย่อมห่วงหาอาทรกันอยู่แล้ว ยิ่งไม่ได้เจอกันร่วมสัปดาห์แบบนี้
และเขากับองค์ชายก็ยังไม่ได้ผูกจิตเข้าด้วยกัน ทำให้ไม่สามารถส่งกระแสจิตหากัน และอ่านความคิดของอีกฝ่ายได้
ยอมรับก็ได้ว่าตอนนี้แทฮยองกำลังคิดถึงองค์ชายจองกุกมากๆ
“เถียงข้าได้แล้ว ดูเหมือนว่าจะหายแล้วซะมั้ง”
“ข้าเปล่าเถียงนะครับ”
“ฮ่ะๆ หายไวๆก็ดีแล้ว – ข้าแวะเอายามาให้น่ะ”
สิ้นเสียงของพ่อมดหนุ่ม แทฮยองก็ร้องโอดครวญอย่างงอแง เขากินยาครบกำหนดแล้ว ทำไมถึงต้องเอายามาให้เขากินอีก ก่อนจะก้มหน้างุดเมื่อดวงตาสีดำขลับตวัดมองเขาอย่างดุๆ จนต้องจำใจยืนมือไปรับถ้วยโอสถ และเอ่ยขอบคุณด้วยเสียงอ่อย
“ขอบคุณครับ ลำบากพี่แย่เลย”
“ไม่ลำบากอะไร มันเป็นหน้าที่ของข้าอยู่แล้ว” ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไรที่ยุนกิจะปรุงยาให้กับแทฮยอง ในอีกไม่นานแทฮยองก็จะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวผู้มีพระคุณของเขา และเขาเองก็มีหน้าที่ต้องปกป้องและดูแลราชวงค์จอน ตามคำสัตย์สาบานตอนที่องค์ราชาช่วยชีวิตเขาเอาไว้ จากโศกนาฏกรรมของเผ่าพันธุ์ตัวเอง
เขาจะไม่ยอมให้ใครหน้าไหนมาทำร้ายครอบครัวของเขาเป็นครั้งที่สองอีกแน่
“โอเมก้าก็แบบนี้แหละครับ อ่อนแอ ..”
“หึ ไม่ใช่เพราะเจ้าเป็นโอเมก้าหรอก ” คำพูดของยุนกิที่ตัดบทคนตัวเล็กที่นั่งน้อยใจในชาติกำเนิดตัวเอง ทำเอาแทฮยองสบตาคนตัวซีดด้วยความสงสัย
ท่าทางอยากรู้อยากเห็นของคนทำเล็ก ทำเอามุมปากพ่อมดยกยิ้มอย่างห้ามไม่ได้ พลางกวักมือให้แทฮยองโน้มหูมาใกล้ๆ ก่อนที่โอเมก้าตัวน้อยจะหน้าแดงซ่าน
“– อีกไม่กี่วันจะถึงฮีทวีคแล้ว ร่างกายเจ้าจะแปรปรวนก็ไม่ใช่เรื่องแปลก ยังไงก็เตรียมตัวไว้ล่ะ”
!!!
ตึกตัก ตึกตัก
เป็นเวลากว่าครึ่งชั่วโมงแล้วที่พ่อมดหนุ่มกลับออกไป แต่หัวใจตัวน้อยของแทฮยองยังคงเต้นระรัวไม่หยุดจากคำพูดประโยคสุดท้ายที่ทำเขาหน้าแดงก่ำ
กายสีน้ำผึ้งพลิกตัวกลิ้งไปมาบนที่นอนหลังใหญ่ จนตัวม้วนอยู่ใต้ผ้าห่มผืนหนา ยามที่เผลอคิดถึงเหตุการณ์เมื่อที่องค์ชายแอบปีนระเบียงขึ้นมาวันนั้น ความรู้สึกและสัมผัสขององค์ชายทำให้คนตัวเล็กใบหน้าเห่อร้อน ฟันเล็กขบกัดชายผ้าห่มอย่างเขินอาย
กลิ่นอัลมอนด์อ่อนๆอันเป็นกลิ่นประจำตัวองค์ชายทำเขาเผลอไผลทุกครั้ง ยามที่ริมฝีปากหยักมอบจุมพิตแสนหวานให้
ตึกตัก ตึกตัก
“บ้าจริง ทำไมหัวใจเต้นแรงแบบนี้นะ”
มือเล็กคว้าถ้วยโอสถที่ยุนกินำมาให้ขึ้นมา แต่ทว่าทันทีที่รสชาติขมเฝื่อนแพร่ซ่านไปทั่วลำคอจนโอเมก้าตัวน้อยต้องนิ่วหน้า ก่อนจะรีบวิ่งไปบ้วนทิ้งในห้องน้ำ
“แค่ก แค่ก – ขมเป็นบ้า”
แทฮยองรองมือจากน้ำที่เปิดก๊อกทองเหลืองมาบ้วนปากอีกหลายรอบ แต่ความขมก็ยังติดคออยู่ จนคนตัวเล็กไม่กล้าที่จะดื่มมันอีก
ตาคู่สวยกรอกไปมาอย่างใช้ความคิด หากนางข้าหลวงมาเก็บถ้วยที่ยังมีโอสถอยู่เต็มออกไป เขาจะต้องโดนดุแน่ที่ไม่ยอมกินยา
จะทำยังไงดี
พลันสายตาก็หันไปเห็นน้ำจากก๊อกที่เขาเปิดไว้ ทยอยไหลลงไปตามท่อระบายน้ำของอ่างล้างมือ
ไม่รอช้า ร่างบางเดินกลับมาคว้าถ้วยโอสถและตรงดิ่งมายังห้องน้ำทันที มือเรียวประคองเทโอสถในถ้วยให้ไหลลงตามไปท่อระบายน้ำอย่างช้าๆ
“แค่นี้ก็เรียบร้อย” ร่างบางยกยิ้มอย่างพึ่งพอใจ ก่อนจะนำถ้วยโอสถมาวางไว้ที่เดิม
ร่างเล็กล้มตัวลงนอนที่เตียงขนาดใหญ่ ก่อนที่จะเข้าสู่ห้วงนิทราไปอีกครั้ง โดยไม่รู้เลยว่านอกกำแพงเมืองหลวง กำลังมีรถมนต์ม้าของคนที่เจ้าตัวรอคอยเคลื่อนที่เข้ามาอยู่
TALK
มาอัพแล้วค่ะทุกคน รอบนี้หายไปนานมาก คิดถึงกันไหมมม ^ ^ ขอโทษจริงๆค่ะไรต์ติดสอบมิดเทอม แทบตายแน่ะ แต่ตายไม่ได้ต้องกลับมาอัพฟิคก่อน ฮ่าๆ ตอนนี้เปิดตัวตัวละครสำคัญอีกตัวของเรื่อง คือคนหน้าเหมือนของน้องแทนั้นเอง แต่ฮีร้ายกาจกว่าน้องแทคูณสิบเท่า ถ้าใครอ่านดีๆก็จะเห็นชื่อของฮีที่ไรต์แอบสปอยด์ไว้แล้วนะว่าเป็นใคร ส่วนจะแค้นอะไรกับยุนกิ แล้วจะทำอะไรน้องแท ต้องรอติดตามนะคะ ขอย้ำอีกรอบว่าเรื่องนี้ค่อนข้างแฟนตาซี ดังนั้นจะไม่ใช่แค่หมาป่าเท่านั้นนะคะ จะมีเผ่าพันธุ์อื่นมีโผล่ให้ลุ้นกันอีก อย่าลืมคอมเม้นกับเล่นแท็กน้าาา เอนจอยค่ะทุกคน
28/02/2561
03/03/2561 แก้ไขคำผิด
ร่วมพูดคุยกันได้ที่ทวิตเตอร์ @BAMATTY_ หรือ #กุกวีหมวกแดง นะจ๊ะ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ต้องให้พี่จองกุกมาทำโทษแล้ว!