ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [MarkBam] HOST FAMILY #ฟิคโฮสต์แฟม

    ลำดับตอนที่ #5 : กฏของโฮสต์ข้อที่ 4 :: เป็นโฮสต์ต้องห้ามเขิน (100%)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.38K
      13
      25 พ.ค. 59




     



    กฏของโฮสต์ข้อที่ 4

    "เป็นโฮสต์ต้องห้ามเขิน"

     

     

                    ทันทีที่รถยนต์สีดำมันวาวจอดสนิทอยู่หน้าประตูรั้ว เด็กสาวที่นั่งมาในรถก็เอื้อมมือไปเปิดประตูก่อนจะก้าวลงมาเหยียบยังพื้นดินหน้าบ้าน เธอหมุนตัวกลับไปมองยังที่นั่งของคนขับที่มีมารดาของเพื่อนสนิทนั่งอยู่

     
     

                    "คุณแม่ขอบคุณนะคะที่มาส่ง"

     
     

                    "จ้ะ ไม่เป็นไรหรอกเบบี้" หญิงวัยกลางคนที่นั่งอยู่หลังพวงมาลัยหันมารับไหว้จากเด็กสาว

     
     

                    "งั้นฉันไปก่อนนะเฟิร์น พรุ่งนี้เจอกัน"

     
     

                    "โอเคเจอกัน ไปละบี้" เด็กสาวยังยืนนิ่งอยู่ที่เดิมเพื่อโบกมือให้เพื่อนสนิทที่อยู่ในรถ เธอมองตามรถคันหรูไปจนกระทั่งรถยนต์หายลับไปตรงมุมถนน ก่อนจะค่อยๆหันหลังเดินเข้าบ้านตามปกติ

     
     

                    ขาเรียวก้าวมายังประตูบานเลื่อนที่เป็นปราการด่านสุดท้ายที่จะทำให้เธอเข้าไปยังตัวบ้านได้ เธอยกมือขึ้นมาเคาะลงไปยังประตูสองสามครั้ง แล้วรอให้พี่ชายซึ่งกลับมาก่อนหน้ามาเปิดให้

     
     

                    .................

     
     

                    ...................

     
     

                    ทำไมนานจัง .... เด็กสาวคิดในใจ

     
     

                    เบบี้ลองเคาะประตูอีกครั้งเมื่อเธอคิดว่าผู้เป็นพี่ชายอาจจะไม่ได้ยิน แต่ก็ไร้วี่แววที่จะมีคนเดินมาเปิดประตูให้เธอได้เข้าไป เด็กสาวหันซ้ายหันขวาแล้วจึงตัดสินใจเดินไปยังกระถางต้นไม้ข้างมุมเสา อันเป็นที่เก็บกุญแจลับของบ้าน

     

     

                    'ไอ้พี่แบม นี่จะแกล้งไม่ให้บี้เข้าไปแน่ๆเลย' - -*

     

     

                     เมื่อกุญแจสำรองถูกหยิบออกมาจากในกระถางต้นไม้ เบบี้จึงไขกุญแจและจัดการเปิดประตูเข้าไปด้านใน เด็กสาวมองไปยังห้องรับแขกก็พบว่าไฟยังถูกเปิดสว่างอยู่ แต่กลับพบว่าไม่มีใครอยู่เลยสักคน

     

     

                    "พี่แบม นี่ขึ้นไปนอนแล้วทำไมไม่ปิดไฟห้ะ!" เบบี้เดินมุ่งตรงไปยังโซฟาแล้วก็บ่นไปด้วย ทั้งๆที่รู้ว่าถึงบ่นไปก็ไม่มีใครได้ยินอยู่ดี

     

     

                    ทันทีที่เด็กสาวเดินพ้นเข้ามายังโซฟา ภาพของพี่ชายที่กำลังนอนหลับตาพริ้มอยู่บนตักของเด็กแลกเปลี่ยนคนหล่อก็ปรากฏต่อหน้าเธอแบบโคตรจะ 3D ! เบบี้รีบตะครุบปากตัวเองไว้ได้ทันก่อนที่จะกรี๊ดออกไป ระบบสูบฉีดเลือดในร่างกายที่มีผลมาจากโรค 'วายลิซึ่ม' เริ่มทำงานโดยอัตโนมัติ

     

     

                    อรั๊ยยยยย ~~~~ >/////< พี่สองคนทำไมถึงทำตัวให้จิ้นขนาดนี้

                    งืลลลลลลล เบบี้เขินนนน ไอ้พี่แบมทำดีมากค่ะวันนี้

     

     

                    มือเรียวถูกยกขึ้นมาเพื่ออุดปากของตัวเองไว้ เบบี้ยืนบิดไปบิดมาอยู่ตรงนั่นเกือบ 5 นาที จึงตั้งสติได้โอยยยยย ฟินไป กรี๊ดดดดดดดดดด !~~~ ><

     

     

                    "บ็อกๆ" เสียงเห่าน้อยๆที่ดังมาจากปลายเท้าทำให้เด็กสาวต้องก้มลงไปมอง แล้วเธอก็พบกับลูกหมาขนปุยสีขาวนั่งจ้องเธอตาเป็นมันอยู่ตรงหน้า เบบี้ก้มลงไปนั่งยองๆแล้วอุ้มมันขึ้นมาดู

     

     

                    "เห้ นี่แกมาจากไหนเนี่ย" เจ้าหมาน้อยเหมือนจะเข้าใจว่าเด็กสาวตรงหน้ากำลังเล่นกับมัน มันจึงพยายามจะเลียหน้าของเบบี้ เด็กสาวรีบวางมันลงกับพื้นก่อนจะหันไปเจอสิ่งที่เรียกว่าหมอนและถ้วยเล็กๆที่มีคราบนมเหลือติดอยู่ เธอมองมันสลับกับพี่ชายทั้งสอง แล้วก็เริ่มจะเข้าใจอะไรมากขึ้น

     

     

                    ทุกการกระทำที่เด็กสาวทำตอนนี้ ต่างเต็มไปด้วยความเงียบเชียบและเชื่องช้าที่สุด โดยที่เจ้าตัวก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไปเพื่อ! เบบี้รู้เพียงแค่ว่าเธอยังไม่อยากทำให้คนทั้งคู่ที่หลับไม่รู้เรื่องอยู่ตื่นขึ้นมาพบเธอ เพราะว่าเด็กสาวกำลังจะทำมิชชั่นที่สำคัญระดับชาติ นั่นก็คือ ...

     

     

                    แชะ ...

     

     

                    เสียงกดชัตเตอร์จบลงพร้อมกับหน้าจอโทรศัพท์ปรากฏรูปของหนุ่มน้อยน่ารักกำลังนอนหนุ่มตักชายหนุ่มหน้าหล่อ โดยเห็นได้ชัดว่าคนทั้งคู่คือใคร เบบี้อมยิ้มมุมปากแล้วแอบหัวเราะเบาๆ แอพโปรแกรมเฟชบุ๊คถูกเปิดขึ้นด้วยนิ้วเรียว และเบบี้ก็จัดการพิมพ์ตัวอักษรลงไปในช่องค้นหา เมื่อเจอผลลัพธ์ที่เธอต้องการแล้ว เจ้าตัวจึงกดเข้าไปยังลิ้งค์นั้น ..

     

     

                    'เพจคู่จิ้นเจวายพีวิทยา'

     



     

                    ช่องแชทถูกเปิดขึ้นและเบบี้ก็เลือกรูปที่ถ่ายเมื่อครู่ส่งไปยังปลายทาง

     

     

                    2 seconds ago

                    'แอดคะ วันนี้มีรูปเด็ดมาฝากค่ะ หวังว่าแอดคงจะฟินนะคะ <3'

     

     

     

                    โทรศัพท์เลื่อนสไลด์ถูกกดปิดแล้วหย่อนลงในกระเป๋ากระโปรงตามเดิม เบบี้หันไปมองพี่ชายที่น่ารักทั้งสองอีกครั้ง ก่อนจะยิ้มอย่างมีเลศนัย แล้วรีบวิ่งขึ้นบันได้ไปด้วยสีหน้าที่เริ่มแดงขึ้นเรื่อยๆ

     

     

                    .... งานนี้ บี้รู้โลกรู้นะคะพี่ชาย 555555 ><

     





     

                    แสงแดดอบอุ่นยามเช้าลอดผ่านบานหน้าต่างที่เปิดเอาไว้ สายลมอ่อนๆที่โชยเข้ามาภายในห้องกว้างทำให้ผ้าม่านสีขาวบางปลิวสะไหวไปตามแรงลม ชายหนุ่มซึ่งนั่งหลับพิงโซฟามาตั้งแต่เมื่อคืนค่อยๆลืมตาออกช้าๆ มือหนายกขึ้นมาขยี้ตาเบาๆ มาร์คนั่งอยู่นิ่งๆสักพักแล้วค่อยๆก้มดูเด็กน้อยของเขาที่นอนซบตักหลับสนิทอยู่

     

     

                    รอยยิ้มบางแสนสดใสยิ่งกว่าอากาศยามเช้าปรากฏขึ้นที่มุมปาก

     

     

                    "แบมแบม" ชายหนุ่มยกมือขึ้นมาเขย่าตัวของโฮสต์เบาๆ แต่เด็กน้อยที่นอนหลับตาพริ้มก็ไม่มีท่าทางว่าจะตื่นขึ้นมา

     

     

                    "แบมแบม" ไร้เสียงหรือสัญญาณใดๆตอบกลับมา พลันอยู่ๆความคิดชั่วร้ายก็แวบขึ้นมาในสมองของมาร์คต้วนคนหล่อ ร่างสูงอมยิ้มเจ้าเล่ห์น้อยๆก่อนจะค่อยๆ

     

     

                    จุ๊บ!

     

                    0[]0!!

     

     

                    ได้ผล! เด็กน้อยขี้เซานามว่าแบมแบมลืมตาตื่นขึ้นมาแบบความง่วงไม่กล้าเข้าครอบงำ เบลอกับเซ่อนอนคืออะไรครับกันต์พิมุกต์ไม่รู้จัก แล้วทำไมไอ้พี่มาร์คถึงทำแบบนี้อีกแล้ววววววว อร๊ากกกกกกก!~~

     

     

                    "พี่มาร์ค! เอาอีกแล้วนะ!" ผมลุกขึ้นมานั่งด้วยความเร็วแสง พี่มาร์คคนเนียนเข้าสิงรึไงครับ ถึงได้เนียนได้เนียนดี เนียนแบบนี้บีบีครีมก็ยังไม่สู้!

     

     

                    "ก็ทำไมแบมไม่ยอมตื่นล่ะ พี่ปลุกเท่าไหร่ก็ไม่ยอมตื่นสักที พี่ก็ต้องใช้วิธีนี้แหละ ได้ผลทุกครั้ง!" ไอ้พี่มาร์คยิ้มกว้างแบบสะใจผมสุดๆ

     

     

                    "คราวหลังถ้าแบมไม่ตื่น พี่มาร์คถีบแบมก็ได้เอ้า!"

     

     

                    "เอาจริงเปล่า"

     

     

                    ล้อเล่นโว้ย .....

     

     

                    "เอาเป็นว่าจะใช้วิธีไหนก็ได้ ยกเว้นวิธีนี้นะครับ!" พี่มาร์คทำหน้าตาแบบกวนโอ๊ยส่งมา คุณชายนั่งพิงโซฟายืดขาด้วยท่าทางสบายๆ ส่วนผมก็ขยี้หัวที่ฟูอยู่แล้วให้ฟูมากกว่าเก่า หน้าตานี่ไม่ต้องพูดถึง ทั้งบวมทั้งเบลอ นี่มึงยังเป็นคนอยู่มั้ยกันต์พิมุกต์ ดูไอ้พี่มาร์คสิครับ หน้างี้ใสวิ๊งค์รับวันใหม่เชียว เอ๊ะเดี๋ยว ทำไมอยู่ๆผมก็คิดเรื่องอะไรขึ้นมาได้

     

     

                    เดี๋ยวนะ นี้ผมมานอนตรงนี้ได้ไง .........

                   

                    เห้ย! เมื่อคืนผมกับพี่มาร์คนอนตรงนี้ด้วยกันเหรอ

     

     

                    "พี่มาร์ค เมื่อคืนเราสองคนนอนตรงนี้เหรอ"  ผมหันมาถามคุณชายที่นั่งอยู่ข้างๆ พี่มาร์คเงยหน้าขึ้นมาแล้วพยักหน้าเบาๆ

     

     

                    "อ้าว แล้วทำไมไม่ปลุกแบมล่ะ นี่ปล่อยให้แบมนอนทับขาพี่ทั้งคืน ไม่เมื่อยแย่เหรอ"

     

     

                    "ไม่หรอก ไม่ต้องห่วง" ไม่ได้ห่วงครับ แต่แบมอยากนอนบนที่นอน 55555 ล้อเล่นนะ

     

     

                    "วันหลังบอกด้วยนะ แบบนี้ไม่เอาแล้วนะ" ผมทำปากยู่ใส่คนที่นั่งยืดขาอยู่ตรงหน้า

     

     

                    "นี่ยังจะมีวันหลังอีกหรอ ฮั่นแน่! อยากนอนกับพี่หรอตัวเอง" ไอ้คุณชายยืดตัวมาหาผมแล้วยื่นมือมาเกาคางผมเล่น

     

     

                    "ตลก! ตลกละพี่มาร์ค โว๊ะ! ไม่คุยกับพี่มาร์คแล้ว ไปอาบน้ำดีกว่า" ผมรีบลุกขึ้นอย่างเร็วจะวิ่งขึ้นไปอาบน้ำ อันที่จริงวันเสาร์อย่างนี้ผมจะนอนตื่นสายๆนะ แต่วันนี้หมดอารมณ์นอนแล้วล่ะครับ โดนหอมแก้มปลุกขนาดนี้ ใครจะไปนอนต่อลงวะ

     

     

                    "เดี๋ยวก่อนเด็กดื้อ" ไม่ทันจะได้เดินสักก้าว อยู่ๆไอ้พี่มาร์คก็ฉุดข้อมือของผมไว้ให้หยุดลง ผมเลยหันกลับมามองคุณชายที่นั่งอยู่ที่เดิม

     

     

                    "อะไรอีกครับพี่มาร์ค"

     

     

                    "จะไปอาบน้ำน่ะ ลืมอะไรไปอย่างหนึ่งรึเปล่า" ผมลืมอะไรวะ

     

     

                    "ลืมอะไร" พี่มาร์คถอนหายใจแล้วส่ายหน้าเบาๆ ก่อนจะค่อยๆปล่อยมือที่จับข้อมือผมอยู่แล้วชี้นิ้วไปยังหมอนใบเก่าที่วางไว้ข้างๆ ผมมองหมอนแปบหนึ่ง แล้วจึงนึกออก

     

     

                    ปิ๊งเลยครับ!

     

     

                     ผมลืมลูกหมา -[]-

     

     

                    "อ๋ออ!! พี่มาร์ค ลูกหมาหายไปไหนแล้วเนี่ย" นึกได้ดังนั้น ผมจึงไม่เสียเวลารีบวิ่งหาเจ้าลูกหมาตัวน้อยที่เก็บได้เมื่อวานทันที มาร์คต้วนคนหล่อที่นั่งอยู่ก็ลุกขึ้นมาช่วยผมตามหาเหมือนกัน ผมวิ่งตามหาเกือบจะรอบห้องนั่งเล่น แต่ก็ยังไม่มรวี่แววว่าจะเห็นเจ้าตัวน้อยเลยสักนิด

     

     

                    "แบมแบม ตื่นแล้วหรอลูก" ผมกับพี่มาร์คหยุดวิ่งแล้วหันไปหาต้นเสียงที่ดังมาจากด้านหลัง ม๊าเดินออกมาจากห้องครัวด้วยสภาพที่มีผ้ากันเปื้อนคล้องคออยู่

     

     

                    "ครับม๊า" ตอบม๊าเสร็จผมก็รีบหันหลังกลับไปมองหาเจ้าตัวเล็กต่อ

     

     

                    "แล้วนี่สองคนหาอะไรอยู่น่ะ"

     

     

                    "หาลูกหมาอ่ะม๊า"

     

     

                    "ใช่ไอ้เจ้าตัวเล็กๆ สีขาวๆรึเปล่า" ผมรีบหันมาหาม๊าทันทีที่หม่าม๊าพูดจบ

     

     

                    "ใช่ครับ! ม๊าเห็นหรอ"

     

     

                    "อยู่ในครัวโน้น ม๊าเอามันไปกินนมเองแหละ" ผมถอนหายใจด้วยความโล่งอกสุดๆ นึกว่าจะหายไปจากบ้านซะแล้วลูกพ่อ

     

     

                    "โหววววว แบมก็นึกว่าลูกหมาหาย ม๊าเอาไปก็ไม่บอก"

     

     

                    "จะให้ม๊าบอกยังไงล่ะ ก็เพิ่งตื่นกันเนี่ย ว่าแต่สองคนเถอะ ทำไมถึงได้มานอนข้างล่างกัน" ประโยคสนทนาถูกเปลี่ยนหัวข้อกะทันหัน เหมือนที่ผมเปลี่ยนสีหน้าและอารมณ์แทบไม่ทัน นี่ม๊าเห็นด้วยหรอ ตายครับตายแล้วกันต์พิมุกต์คนแมนนน ~

     

     

                    "เอ่อ ... อ๋อ คือว่าเมื่อคืนผมกับพี่มาร์คลงมานั่งเล่นกับลูกหมาแล้วเผลอหลับไปน่ะครับ"

     

     

                    "อ๋อ อย่างนี้นี่เอง แล้วนี่แบมแบมไปเอาลูกหมามาจากไหนล่ะลูก" ผมหันไปขอความช่วยเหลือจากพี่มาร์ค แต่ก็นึกได้ว่าคุณชายที่นั่งฟังอยู่คงไม่รู้เรื่อง ผมจึงเดินเข้าไปหาแล้วอธิบายให้ฟัง

     

     

                    "แบมก็บอกม๊าไปตามความจริงเลยสิ"

     

     

                    "พี่มาร์คต้องช่วยแบมพูดด้วยสิ ขืนให้แบมพูดคนเดียว ม๊าคงไม่ให้แบมเลี้ยงแน่ๆเลย" ผมทำหน้าแบบขอร้องอ้อนวอนสุดพลังใส่คนตัวสูงตรงหน้า พี่มาร์คมองหน้าผมแวบนึงแล้วหัวเราะเบาๆ คุณชายละสายตาจากผมเดินเข้าไปหาม๊าที่ยืนอยู่ แล้วกระซิบคุยอะไรกันเบาๆอยู่สองคน

     

     

                    ม๊ากับพี่มาร์คคุยอะไรกันไม่รู้อยู่สักพัก ผมก็ได้ยินเสียงม๊าหัวเราะออกมาเบาๆ ก่อนที่หม่าม๊าจะหันมาหาผมแล้วยิ้มให้

     

     

                    "โอเคๆ เลี้ยงได้ ม๊าให้แบมเลี้ยงก็ได้ แต่ต้องสัญญากับม๊าก่อนนะว่าจะเลี้ยงมันดีๆ ไม่ใช่เบื่อแล้วก็ทอดทิ้งมัน ถ้าทำยังนั้นม๊าตีจริงๆนะ" เพียงแค่ม๊าพูดจบผมก็พุ่งตัวเข้าไปกอดม๊าเสียเต็มรัก กอดม๊าเหวี่ยงไปเหวี่ยงมาจนหม่าม๊าต้องสั่งให้ผมหยุด

     

     

                    "ขอบคุณครับม๊า รักที่สุดเลยผู้หญิงคนนี้" ผมจัดการหอมแก้มผู้หญิงตรงหน้าไปหนึ่งฟอด

     

                    "ลูกลิงเอ๊ย! ไปอาบน้ำได้แล้วไป แล้วเดี๋ยวลงมาทานข้าวกัน ม๊าทำเกือบเสร็จแล้ว" ผมยอมปล่อยม๊าออกจากอ้อมกอดแล้วจึงเดินขึ้นบันไดไปพร้อมกับคุณชายมาร์คต้วนที่ยืนอมยิ้มอยู่ห่างๆ

     




     

                    หลังจากอาบน้ำเสร็จแทบจะพร้อมกับพี่มาร์ค เราสองคนเปิดประตูห้องมาเจอกันแล้วจึงเล่นวิ่งแข่งลงบันไดมาห้องครัว แบบใครถึงก่อนคนนั้นชนะ ผลสรุปก็คือพี่มาร์ควิ่งมาถึงผมก่อนแบบฉิวเฉียด

     

     

                    กลิ่นอาหารยามเช้าที่ลอยตลบอบอวลอยู่ภายในห้องทำให้ผมกับพี่มาร์ครีบเดินเข้าไปนั่งยังโต๊ะ ภายในห้องตอนนี้มียัยเบบี้ที่มักจะตื่นเช้าเสมอนั่งอยู่แล้ว ส่วนม๊าก็กำลังทำอะไรสักอย่างอยู่ที่เตาแก็ส

     

     

                    "อรุณสวัสดิ์ค่ะพี่แบม พี่เขย" ผมเลื่อนเก้าอี้นั่งตามปกติแต่ก็ต้องสะดุดกับคำพูดของยัยน้องสาวบ้า อะไรนะ! พี่เขย ? เพ้อเจ้ออะไรของมันอีกละ

     

     

                    "อะไรเบบี้ พี่คงพี่เขยอะไร" ผมนั่งลงตรงข้ามยัยเบบี้ที่นั่งอมยิ้มมีพิรุธอยู่ตรงหน้า

                   


                    "ก็พี่มาร์คไง พี่เขยของบี้"

     

     

                    "อย่ามาตลกแถวนี้ครับคุณเบบี้ ที่บ้านเป็นตลกหรอครับ" ได้ข่าวก็บ้านเดียวกันป้ะวะ

     

     

                    "เอาน่าพี่แบม ไม่ต้องเขินหรอก เดี๋ยวสักวันพี่มาร์คก็จะเป็นพี่เขยของบี้อยู่ดี บี้คอนเฟิร์ม" ยัยเบบี้พูดจบก็หยิบแก้วน้ำขึ้นดื่ม ผมจึงเอื้อมมือไปแกล้งยัยน้องบ้าจนมันเกือบสำลักน้ำ วะฮะฮ่าๆๆ สะใจๆ

     

     

                    พี่มาร์คนั่งฟังแล้วอมยิ้มอยู่ข้างๆผม บางทีผมก็สงสารพี่มาร์คนะ เวลาเค้าพูดอะไรกันก็ทำได้แค่ยิ้ม นี่ถ้าผมแอบนินทาพี่แกก็คงนั่งยิ้มอยู่ดีอ่ะนะ

     

     

                    "หยุดเพ้อเจ้อได้ละยัยบี้ พี่กับพี่มาร์คจะเป็นอะไรกันได้ยังไง นี่ใคร! กันต์พิมุกต์คนแมนเชียวนะ"

     

     

                    "คอยดูไปเหอะ ปฏิเสธแบบนี้ สุดท้ายรักกันยิ่งกว่าอะไรดี คอยดูไปเหอะพี่แบม บี้เดาอะไรไม่เคยผิดหรอกนอกจากหวยอ่ะ บี้ขอพูดไว้ตรงนี้เลยว่าพี่มาร์คคือว่าที่พี่เขยของบี้ในอนาคต จบปิ๊งนะคะ"

     

     

                    "พี่เขยอะไร หยุดพูดเลยนะ! นี่แน่!" ผมหยิบซ้อมขึ้นเคาะหน้าผากยัยบี้เบาๆ แต่น้องสาวของผมมันก็เบะปากทำตัวดราม่าอย่างสมจริงทันที

     

     

                    "ม๊า พี่แบมตีบี้อีกแล้ว" สาขาฟ้องจริงๆผู้หยิงคนนี้

     

     

                    "ตีอะไร เค้าเรียกว่าเคาะโว้ย"

     

     

                    "ไม่ใช่อ่ะ พี่แบมตีบี้ พี่แบมชอบทำร้ายน้องสาว"

     

     

                    "เอ้าพอๆสองคนนี้ ทะเลาะอะไรกัน แล้วเมื่อกี้อะไรพี่คงพี่เขย" ม๊าเดินเอาจานอาหารมาวางไว้กลางโต๊ะ ทำให้เราสองคนพี่น้องหยุดทะเลาะกันไปโดยปริยาย

     

     

                    "ม๊าฟังบี้ไว้เลยนะ ลูกเขยของม๊ามีอยู่สองคน และหนึ่งคนในนั้นก็คือพี่มาร์คคนนี้" พอเบบี้พูดจบ ม๊าก็ทำหน้าตกใจ แล้วหันหน้ามาหาผม ส่วนผมนี่ได้แต่ทำหน้าเอือม เป็นสาววายไม่ว่า ทำไมต้องพาดพิงพี่ชายด้วยวะ นี่ม๊าจะเข้าใจผิดไปยังนะเนี่ย

     

     

                    "นี่ยัยบี้มันชอบพี่มาร์คหรอแบม" แค่ม๊าพูดจบไม่ถึงห้าวิ ผมก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาดังสนั่นลั่นห้อง 55555555555555 ตลกอ่ะ ดูหน้าไอ้บี้สิครับ เหวอแบบขั้นสูงสุด นี่หรือเปล่าที่เค้าเรียกว่าขุดหลุมฝังตัวเอง

     

     

                    "ม๊าอ่ะ ไม่ใช่ซะหน่อย บี้หมายถึงพี่แบมต่างหาก"

     

     

                    "อ้าว นี่แบมก็ชอบพี่มาร์คเหรอเนี่ย"

     

     

                    "พอเลยม๊า ไปฟังอะไรไอ้บี้มัน" ผมรีบก้มลงทานข้าวเพื่อเป็นการจบบทสนทนาไปในตัว ส่วนพี่มาร์คที่ฟังไม่รู้เรื่องอยู่แล้วก็ก้มหน้าทานข้าวไปพร้อมกัน

     
     

                   

     

                    เบบี้นั่งมองพี่ชายทั้งสองแล้วยิ้มบางๆ ภาพในหัวตอนที่เห็นพี่ชายของตัวเองนอนหลับบนตักของเด็กแลกเปลี่ยนแวบขึ้นมาอีกครั้ง ใบหน้าแบบสบายใจที่ฉายชัดอยู่บนใบหน้าของพี่ชายแท้ๆของตัวเองยามอยู่ใกล้คนหล่อไม่ว่าจะเมื่อใดก็ตาม ทำให้เบบี้แอบคิดไม่ได้

     

     

                    เมื่อไหร่จะถึงวันนั้นนะ วันที่พี่แบมจะเป็นของพี่มาร์คจริงๆ

     

                    อรั๊ย! เขินนนนนนน >///////////////<

     

     



     

                   

                    ห้างสรรพสินค้าใจกลางเมืองยามนี้ต่างคลาคล่ำไปด้วยผู้คนมากหน้าหลายตาที่มาจับจ่ายใช้สอยกัน ช่วงวันเสาร์ยิ่งทำให้คนมีมากขึ้นเป็นเท่าตัว ชายหนุ่มตัวเล็กเดินเคียงข้างมากับหนุ่มหล่อที่ออร่าประกายจนสาวๆที่เดินผ่านแอบหันมามองไม่ได้

     

     

                    ถุงสินค้าที่ทั้งสองไปเดินซื้อมาบัดนี้ถูกคนตัวสูงกว่ายึดไปถือไว้เพียงคนเดียว ยิ่งทำให้ภาพของทั้งคู่เหมือนคู่รักที่มาเที่ยวด้วยกันเข้าไปใหญ่ แบมแบมกับมาร์คเดินมาหยุดอยู่ที่หน้าร้านกาแฟและเบเกอรี่ เมื่อคนตัวเล็กหันมาทำทีบ่งบอกว่าเพลียสุดๆใส่คนข้างๆ

     

     

                    "พี่มาร์ค แบมเหนื่อยแล้วอ่ะ เราแวะซื้ออะไรกินก่อนได้ป่าว" ผมหันมาหามาร์คต้วนที่เดินหิ้วของตามข้างๆ พี่มาร์คหยุดเดินแล้วหันมาพยักหน้าให้ผม

     

     

                    "เอาดิ พี่ก็เริ่มอยากนั่งพักแล้วเหมือนกัน" พอสิ้นคำตอบผมไม่รอช้ารีบคว้าข้อมือของคนหล่อพุ่งเข้าไปในตัวร้านอย่างรวดเร็ว ผมกับพี่มาร์คมาหยุดยืนอยู่หน้าเคาน์เตอร์แล้วยืนเลือกเมนูกันอยู่สักพัก

     

     

                    เมื่อเลือกเครื่องดื่มได้แล้ว เราสองคนจึงไปหาโต๊ะนั่งรอ มุมที่เราได้อยู่ด้านหลังร้านติดกับกระจก ผมมาถึงก็ทิ้งตัวลงนั่งอย่างหมดแรง เห้อออ นี่ถ้าไม่ติดว่าต้องมาซื้อของให้เจ้าตัวเล็กนี่ผมไม่มาหรอกนะ เบื่อจริงๆการเดินท่ามกลางคนเยอะแยะขนาดนี้ ว่าแล้วก็คิดถึงเจ้าตัวเล็กจัง อยากกลับไปเล่นด้วยแล้ว

     

     

                    "แบมแบม" อยู่ๆคุณชายก็เอ่ยขึ้นมาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย ทำให้ผมต้องละสายตาจากผู้คนด้านนอกมามองคนตรงหน้า

     

     

                    "ว่าไงพี่มาร์ค"

     

     

                    "เราลองมาคิดชื่อให้เจ้าตัวเล็กป้ะ"

     

     

                    "เออนั่นสิ เจ้าตัวเล็กมันยังไม่มีชื่อเลยนี้หว่า" ผมก็เกือบลืมข้อนี้ไปเลย

     

     

                    "ใช่มั้ยล่ะ" พี่มาร์คหยุดพูดไปแปบนึงแล้วหันไปหยิบแก้วเครื่องดื่มที่พนักงานเอามาเสิร์ฟพอดี ก่อนจะยื่นแก้วของผมส่งมาให้

     

     

                    "แล้วเราจะตั้งว่าอะไรดีล่ะพี่มาร์ค" ผมก้มลงดูดเครื่องดื่มเย็นในแก้วแล้วเงยหน้ามาก็เจอพี่มาร์คนั่งมองอยู่

     

     

                    "คิดไม่ออกเหมือนกัน" ขอบคุณครับ ช่วยได้มากเลย ...

     

     

                    "อืม งั้นแบมว่า ชื่อบ็อกๆดีป้ะ" พี่มาร์คหลุดขำออกมาแล้วมองหน้าผมแบบศรัทธาสุดๆ (ประชดอ่ะครับ) โห ก็จะให้ทำไงล่ะ ผมมันไม่มีหัวคิดด้านนี้นี้หว่า

     

     

                    "ไม่เอาอ่ะ" พี่มาร์คส่ายหัวเบาๆแล้วทำท่าคิดอะไรสักอย่างอยู่คนเดียว ผมก็ได้แต่นั่งมองคุณชาย

     

     

                    "พี่คิดออกแล้ว" คุณชายหันหน้ามาทางผมที่จ้องคุณชายจนเพลินไปหน่อย ผมรีบหุบหน้าไว้แทบไม่ทัน จะหันก็ไม่บอกนะคุณชาย

     

     

                    "ไหน พี่คิดชื่ออะไรออก"

     

     

                    "ชื่อบูบู" ห้ะ ชื่ออะไรวะเนี่ย นี่มันแปลกกว่าชื่อบ็อกๆอีกนะ

     

     

                    "ไม่อาวววววว ชื่ออะไรของพี่เนี่ย แล้วทำไมต้องวนเวียนอยู่แถวๆ บ.ใบไม้ด้วยเนี่ยครับ"

     

     

                    "บ.ใบไม้นี่แหละดีแล้ว เพราะเจ้าของก็คือแบมแบมนะ" ผมทำปากยู่ใส่พี่มาร์คเหมือนที่ชอบทำเป็นประจำ

     

     

                    "ก็ได้ๆ เอาบอใบไม้ก็ได้ แต่ว่าเปลี่ยนสระให้มันเพราะๆหน่อยนะ"

     
     

                    "แล้วเราจะตั้งว่าอะไรล่ะ" ผมกับพี่มาร์คเงียบไปพักหนึ่งเพื่อใช้สมาธิในการคิดชื่อของสุนัขตัวเล็กๆ นี่ผมเครียดยิ่งกว่าสอบอีกนะจะบอก

     

     

                    ........

                    เอาอะไรดีนะ

     

     

                    เบเบ .......

     

                    บูบู ..... หื้อ อันนี้ไม่เวิร์คอ่ะ

     

                    ใบใบ ....อะไรของมึงครับกันต์พิมุกต์


     

     

                    อืมมมม เอาอะไรดีน้า ...

     


     




     

                    อ่า คิดออกแล้ว!

     

     

                    "โบโบ/โบโบ!" ผมกับพี่มาร์คพูดชื่อที่คิดออกมาพร้อมกันแล้วก็ชะงักเล็กน้อยก่อนจะก็หัวเราะใส่กันเบาๆ ชื่อโบโบที่แวบขึ้นมาให้หัวของผมกับพี่มาร์คช่างเป็นชื่อที่ลงตัวจริงๆนะครับ นี่แสดงว่าเราสองคนคิดตรงกัน งั้นชื่อโบโบนี่คงเหมาะแล้วล่ะ

     

     

                    "พี่มาร์ค งั้นเจ้าตัวเล็กให้ชื่อ โบโบ เนอะ" พี่มาร์คยิ้มสดใสแบบที่พี่แกชอบทำออกมา แล้วก้มลงดูดน้ำในแก้วต่อ

     

     

                    "โบโบ แบมแบม มุ้งมิ้งดีแหะ" ผมไม่ได้สนใจอะไรแต่จริงๆก็แอบตกใจนิดๆที่เราสองคนคิดเหมือนกัน แก้วน้ำที่เริ่มละลายไปนิดหน่อยทำให้ผมเริ่มคนเล่น แต่แล้วอยู่ๆผมก็คิดอะไรบางอย่างออก

     

     

                    "เออพี่มาร์ค แบมถามอะไรหน่อยดิ" พี่มาร์คละสายตาขึ้นมาจากวิปครีมที่อยู่ในแก้วแล้วมองหน้าผมแบบสงสัย

     

     

                    "อะไรเหรอ"



                    "ตอนที่พี่มาร์คคุยกับม๊าเมื่อเช้าอ่ะ พี่มาร์คพูดอะไรเหรอ ทำไมม๊าถึงยอมให้แบมเลี้ยงเจ้าโบโบได้ง่ายขนาดนี้" พี่มาร์คอมยิ้มบางๆที่มุมปากแบบมีพิรุธสุดๆ ยิ้มอะไรครับคุณชาย

     

     

                    "ไม่บอกหรอก ปล่อยให้แบมสงสัยแบบนี้อ่ะดีแล้ว"

     

     

                    "โหยพี่มาร์ค บอกมาเถอะ แบมอยากรู้"

     

     

                    "อยากรู้จริงๆหรอ" พี่มาร์คยื่นตัวเข้ามาจ้องตาผมแบบต้องการคำยืนยันว่าผมอยากรู้จริงๆ ผมก็เลยเบิกตาโตใส่คุณชายซะเลย

     

     

                    "อยากรู้มากอ่ะ แบมขี้เสือก พี่มาร์คบอกแบมหน่อยนะ นะ นะ นะ น้า" พี่มาร์คหัวเราะกับคำพูดตลกร้ายของผมแล้วยืดตัวกลับไปนั่งตามเดิม

     

     

                    "บอกก็ได้"

     

     

                    ผมตั้งใจฟังพี่มาร์คตาแป๋ว จนคุณชายหัวเราะออกมาอีกครั้ง ก่อนที่รอยยิ้มเจ้าเสน่ห์ที่ผมมองกี่ครั้งก็ไม่เบื่อจะปรากฏขึ้นบนใบหน้า แต่ทว่าทันทีที่พี่มาร์คพูดออกมา ผมก็อยากจะย้อนเวลากลับไปไม่ขอฟังดีกว่า ก็พี่มาร์คน่ะสิ ไปบอกหม่าม๊าว่า ...

     


     

                    "พี่บอกม๊าว่า เจ้าโบโบ คือลูกของพี่กับแบม ม๊าอย่าพรากครอบครัวของเราไปจากกันเลยนะครับ"

     

     

                    พี่มาร์คพูดจบด้วยคำพูดเพียงแค่นั้นผมนี่ก็แทบลงไปดิ้นอยู่กับพื้นแล้ว

     
     

                    หืออออ เขินสิครับผม T//////////////////////T


                    อยากมุดแก้วแล้วไปโผล่อยู่แอเลนเดียล ไปอยู่กับเอลซ่าไม่กลับมาอีกเลยได้มั้ย ที่นั่นคงจะเย็นดี ..

     
     

                    คงจะเย็นกว่าหน้าผมตอนนี้อ่ะนะ

     

     

     




     

                    โรงเรียนเจวายพีวิทยา

                    เช้าวันจันทร์ที่สุดแสนจะทรมานของนักเรียนไทยเวียนมาถึงอีกครั้ง ตอนนี้เป็นเวลาพักเที่ยง ผมกับไอ้ยูคและไอ้มิ้นเข้ามานั่งเล่นอยู่ในห้องซ้อมดนตรีที่พวกผมชอบมาขลุกอยู่เป็นประจำ วันนี้ผมไม่ได้ไปกินข้าวกับพี่มาร์คเพราะคุณชายบอกว่าจะไปกินกับเพื่อนๆเด็กแลกเปลี่ยนน่ะครับ

     

     

                    "เออไอ้แบม เดี๋ยวเที่ยงนี้ คนที่กูบอกว่ามาเป็นมือเบสคนใหม่ให้วงมึงจะเข้ามานะเว้ย มึงกับไอ้ยูคก็เตรียมทำความรู้จักไว้แล้วกัน" ไอ้มิ้นที่นั่งกินขนมสบายใจอยู่ข้างๆหันมาบอกผมซึ่งกำลังนอนฟังเพลงอยู่ เกือบหลับละ ไม่น่าพูดเลยไอ้มิ้น

     

     

                    "อือ โอเคๆ ถ้าเค้ามาแล้วก็ปลุกกูด้วยแล้วกัน" ผมพูดจบก็หันข้างใส่ไอ้สองคนที่นั่งอยู่ข้างๆเพื่อขอตัวหลับทันที เวลาทองแบบนี้ต้องชิงหลับก่อนล่ะ



                    "ว่าแต่มึงเถอะไอ้ยูค แย่งขนมกูกินอยู่นั่นแหละ อ้วนเอ้ย" สาวโหดนามว่าจีมินและยูคยอมกำลังเริ่มทะเลาะกันเหมือนปกติ และหัวข้อในวันนี้ก็คือประเด็นขนมนะครับผม นี่พี่แบมนอนฟังอยู่นะ

     

     

                    "ว่ากูอ้วนมึงก็อวบระยะสุดท้ายล่ะวะอิเจ้"ไอ้ยูคเถียงกลับไอ้มิ้นแบบไม่ยอมกันทั้งๆที่ปากก็ยังมีป็อกกี้คาปากอยู่ ส่งผลให้ผู้หญิงข้างๆส่งมือไปประทับบนหัวไอ้ยูคแรงๆหนึ่งที

     

     

                    "นี่แน่! พูดแบบนี้แสดงว่าไม่อยากตายดีใช่มั้ยไอ้ยูค" ยูคยอมลูบหัวตัวเองป้อยๆแล้วหันไปหาเรื่องไอ้มิ้นที่นั่งอยู่ข้างๆต่อทันที

     

     

                    "อิเจ้ มึงนี่เมื่อไหร่จะเลิกตบหัวกูสักทีวะ แล้วเมื่อไหร่มึงจะเลิกพูดหยาบคายใส่กูสักทีห้ะ!"

     

     

                    "ไอ้ยูคมึงฟังไว้นะ กูอ่ะพูดดีกับผู้ชายทุกคน ยกเว้นมึง!" ผมที่นอนไม่หลับไปแล้วพลิกตัวกลับมานอนมองมันสองคนทะเลาะกัน ไม่นอนก็ได้ เชอะ

     

     

                    "ไม่หรอกมั้ง เอาจริงๆมึงอาจจะพูดไม่เป็นก็ได้ไอ้คำพูดหวานๆแบบที่ผู้หญิงทุกคนเค้าพูดกันน่ะ เพราะอะไรรู้มั้ย เพราะมึงมันไม่ใช่ผู้หญิงไง"ไอ้มิ้นแยกเขี้ยวใส่จนแทบจะกระโดดงับหัวไอ้ยูคแล้ว แต่เพื่อนผมมันก็ยังไม่รู้ตัวพูดต่อไปอยู่ดี

     

     

                    "ใครว่ากูพูดไม่เป็น อยู่บ้านน่ะกูนี่เรียบร้อยอย่างกับผ้าพับไว้นะคะ!"

     

     

                    "หรา ~~ งั้นมึงก็ลองพูดกับกูบ้างดิ กูท้าเลย ถ้ามึงพูดเพราะกับกูได้เกิน 1 เดือน กูยอมเป็นคนใช้ให้มึง 1 เดือนเลยเอ้า!"

     

     

                    "ได้! ตกลงตามนั้น" ผมนอนมองพวกมันสองคนที่กำลังพนันอะไรไม่รู้อย่างสนใจ หึหึ เล่นแบบนี้สักวันจะได้กันเหมือนที่ผมพูดไว้ คอยดูนะคุณผู้อ่าน

     

     

                    "เห้ย! มึงคิดก่อนบ้างก็ได้นะอิเจ้"

     

     

                    "ไม่ต้องคิดแล้ว ข้อเสนอดีๆแบบนี้ใครจะพลาด"

     

     

                    "โอเค พูดง่ายๆแบบนี้ก็ดี งั้นเรามาพนันกัน 1 เดือนต่อจากนี้ไป ถ้าใครเผลอพูดคำหยาบออกมา จะต้องเป็นคนใช้ให้คนชนะ 1 เดือน!"

     

     

                    "ตกลง! ว่าแต่เราจะเรียกแทนกันว่าอะไรดีล่ะ"

     

     

                    "เพื่อทดสอบความอดทน เรามาเรียกกันว่าคุณแฟน ตกลงป้ะ!" ไอ้มิ้นทำหน้าพะอืดพะอมแบบจะอ้วกทันทีที่ไอ้ยูคพูดจบ

     

     

                    "อี๋ เอาจริงเหรอวะ"

     

     

                    "เออดิ"

     

     

                    "พวกมึงอ่ะ ระวังไว้เถอะ เล่นอะไรกันแบบนี้จะได้กันจริงๆ" ผมที่เริ่มรู้สึกว่าโดนไอ้สองตัวแย่งซีนไปรีบแทรกขึ้นมาทันที ผมเด้งตัวลุกขึ้นมาแล้วแย่งขนมของไอ้มิ้นกินชิ้นหนึ่งก่อนจะพูดต่อ

     

     

                    "มึงไม่ต้องมาพูดเลย มึงก็เหมือนกันนั่นแหละ อยู่ใกล้ๆเด็กแลกเปลี่ยนมากๆระวังหลงรักเค้าไม่รู้ตัวนะเว้ย" ไอ้ยูคพูดตอกกลับผมด้วยความหมั่นไส้ แต่ผมก็ไอดอนแคร์ครับ ใครจะไปคิดอะไรกับไอ้พี่มาร์ควะ นี่ก็เพ้อเจ้อไปกับไอ้บี้อีกคนแล้วรึไง

     

     

                    "เออ พูดถึงมึง อุ๊ย! แบมกับเด็กแลกเปลี่ยน เราก็เพิ่งนึกขึ้นได้ แกเห็นนี่รึยัง" ไอ้มิ้นรีบเอามือตะครุบปากทันทีที่รู้ตัวว่าเผลอพูดคำหยาบออกไป ก่อนจะเปลี่ยนเป็นเรียกผมด้วยสรรพนามใหม่ที่ทำเอาผมแอบขนลุกเบาๆ ส่วนไอ้ยูคนี่ก็หัวเราะจะตายไปแล้วมั้งนะ ผมเคยคิดนะครับว่าถ้าไอ้มิ้นลองหัดพูดเพราะๆแบบผู้หญิงคนอื่นคงจะน่ารักมากๆเลย แต่วันนี้ผมว่าผมคิดผิดแล้วล่ะ บรึ๋ย ~ ขนลุก

     
     

                    ไอ้มิ้นหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วจิ้มๆเลื่อนๆอะไรอยู่พักหนึ่ง สักครู่มันก็ยื่นโทรศัพท์มาให้ผมดูอะไรบางอย่าง

     

     

                    "แกเห็นนี่รึยัง"

     

     

                    "อะไรวะ" ผมรับโทรศัพท์มาแล้วก้มลงไปมองในจอโทรศัพท์ที่เป็นรูปในเฟสบุ๊คกำลังโหลดอยู่  ไม่นานรูปภาพสดใสของคนคุ้นเคยก็ปรากฏขึ้นมาบนหน้าจอ




                        3 Days ago

                    ฟินกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว! โฮสต์ก็น่ารัก เด็กแลกเปลี่ยนก็หล่อ อื้อหืออออขอบริจาคเลือดให้แอดด่วนๆค่ะ สงสัยเราจะได้ตำนานรักเรื่องใหม่แล้วแล้ววว ช่างฟินอะไรขนาดนี้ มาร์คแบม <3

                    Ps. ขอบคุณสายข่าวที่ทำให้เราได้เห็นโมเม้นเด็ดๆด้วยค่ะ - กับ MyBbaby

     

                    Like : 5337 Comment : 1182 Share : 973

     

     

     
     

                    ยัยเบบี้!~~~~~~~ ไอ้น้องบ้า!!!!!!!!!! -[]-

     
     

                    ครับ! กันต์พิมุกต์คนแมนคงจะเป็นได้แค่ตำนานแล้วล่ะ ก็ดูสิ ไอ้บี้มันคงแอบถ่ายรูปผมกับพี่มาร์คตอนเผลอหลับด้วยกันมาลงเพจ 'คู่จิ้นเจวายพีวิทยา' อ่ะ ไอ้เพจนี้รู้มั้ยครับว่าคนไลค์เยอะกว่าจำนวนนักเรียนในโรงเรียนอีก แล้วนี่ดูยอดไลค์ของผมดิ ห้าพันกว่า! มีคนเห็นรูปนี้ห้าพันกว่าคน เยี่ยม! ตบมือสิครับรอประธานตัดริบบิ้นเหรอ T0T

     

     

                    "เป็นไงแบม ใช่ย่อยนะเราอ่ะ" ไอ้มิ้นคว้าเอามือถือของมันไปคืนแล้วหัวเราะผมเบาๆ ส่วนไอ้ยูคนี่ดูเหมือนจะซะใจยิ่งกว่าเมื่อกี้ซะอีก มันกลิ้งไปติดมุมห้องแล้วหัวเราะแบบต้องร้องขอชีวิตแล้วอ่ะครับ TT

     

     

                    "ย่อยอะไรล่ะ กูคนไม่ใช่ลำไส้เล็ก! ไอ้บี้นะไอ้บี้ ทำร้ายกูมากอ่ะ ชื่อเสียงกูป่นปี้หมดแล้ว" รู้สึกไร้เรี่ยวแรงจะดำรงชีวิตต่อไปจริงๆ เอลซ่ามารับข้าไปอยู่ด้วยที ~



                    "เอาน่าแก ฟินออกจะตาย ขนาดชั้นยังชอบเลย เนี่ยไปกดไลค์ให้ด้วยเห็นป่าว"

     

     

                    "ถ้ามึงไม่กดไลค์กูจะดีใจกว่าว่ะมิ้น T^T"

     

     

                    "555555 เอาน่า" ไอ้มิ้นเอื้อมมือมาตบไหล่ผมที่กำลังนั่งหมดอาลัยตายอยากในชีวิต แต่แล้วแรงผลักของประตูห้องก็ทำให้เราต้องหันไปมอง ผู้ชายสูงโปร่งผิวขาวก้าวเข้ามา ใบหน้าที่จัดว่าดูดีและมีเสน่ห์กวาดสายตาไปมาแล้วมาหยุดลงที่ผมกับไอ้มิ้นที่นั่งกอดคอกันอยู่ แล้วชายหนุ่มก็ยิ้มกว้างให้ผมกับไอ้มิ้น

     

     

                    "สวัสดีครับ ผมชื่อเตนล์ ที่จะมาเป็นมือเบสคนใหม่ของวงน่ะครับ" เด็กหนุ่มที่มาใหม่เดินเข้ามาหาผมช้าๆ แล้วหยุดนั่งลงตรงหน้าผมกับไอ้มิ้นและไอ้ยูคที่กระดึ๊บเข้ามานั่งตอนไหนไม่รู้

     

     

                    อ่า คนนี้นี่เองมือเบสคนใหม่ของเรา อย่างน้อยก็เข้ามาได้จังหวะมากๆ ช่วยขัดประเด็นอับอายเมื่อกี้ให้ผมได้จริงๆ อยากจะคารวะสักหนึ่งพันจอก

     

     

                    เตนล์มองหน้าผมแวบหนึ่งแล้วเอ่ยคำพูดที่ทำเอาผมอยากจะวิ่งไปเอามีดมาแทงคนตรงหน้าทันที

     

     

                    "นี่ใช่แบมแบมที่เป็นแฟนกับพี่มาร์ครึเปล่าครับ"

     

     

                    แฟนอะไรล่ะโว้ย! เดี๋ยวพ่อทุบ ผมขอถอนคำพูดเมื่อกี้นะครับ คารวะหนึ่งพันจอกน่ะเหรอ หึหึ พูดแบบนี้จอกเดียวผมก็ไม่ให้ครับ! ฮรือออออ T^T

                   

                     เป็นโฮสต์ต้องอดทน และห้ามเขินนะครับผม จำไว้เลย







    ---------------------------









    Pin's Talk

    อิชั้นกลับมาแล้วเจ้าคร้าาาาา *หลบกระทะหม้อไหกะละมัง*
    ขอโทษนะคะที่มาอัพช้าและดึกมาก คือเมือวานไปทัศนะศึกษามา
    แล้ววันนี้ก็เพิ่งฟื้น เหนื่อยมากๆเลย

    เอาเป็นว่าพาทนี้ไม่พูดอะไรมาก อาจจะแปลกๆไปบ้าง
    พิมพ์ผิด คำตก ก็ปล่อยมันไปก่อนนะคะ เดี๋ยวพินกลับมารีไรท์ให้

    วันนี้ไปนอนแล้วนะ ง่วงมาร์คๆเลย 555555

    ไปแล้วค่ะ รักรีดทุกคนเหมือนเดิมนะ จุ๊บ!







    สุดท้ายขอฝากไว้ในใจเธอ
    แปะรูปแทนคำขอโทษที่ปล่อยให้ลอยคอรอคอยนะคะ




    ป๊าม๊าน้องโบโบจำเป็นต้องทำตัวเหมือนลูกมั้ยคะ ช่วยตอบไรท์ที -/////////-






    พี่มาร์คเดี๋ยวนี้โลกเอียงบ๊อยบ่อย รับโดเนทยาแก้โลกเอียงให้พี่มาร์คค่ะ 55555555



    55555555555555 ฟินมั้ยล่ะ
    ไปแล้วไปดีกว่า ไปจริงๆแล้วนะ ฝันดีค่ะชาวมาร์คแบม ^^






    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×