ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ปะป๊าอุ้มบุญ mpreg)

    ลำดับตอนที่ #5 : บทที่5 สถานะที่เปลี่ยนไป

    • อัปเดตล่าสุด 27 ธ.ค. 66


    ฤดูฝนปีนี้ของสีฝุ่นไม่เลวร้ายเหมือนทุกปีเมื่อมีอชิระคอยอยู่ข้างกาย ปลอบใจยามหวาดกลัว มันจึงเป็นฤดูฝนที่ดีที่สุดในชีวิตของสีฝุ่นเลยก็ว่าได้

    ต่อให้ฤดูฝนจะวนมากี่ครั้งสีฝุ่นก็จะไม่กังวลถ้าเขามีพี่อชิอยู่ด้วย

    วันเหงา ๆ ในมหาวิทยาลัยของสีฝุ่นเปลี่ยนไปจากเดิม เมื่อตอนนี้พวกพี่อชิรับเขาเข้ากลุ่ม แม้จะยังมีสายตาหลายคู่มองมาแต่คำพูดดูถูกไม่มีอีกแล้ว เขาจึงไม่รู้สึกแย่

    หลังจากเลิกคราสช่วงเช้าจึงเดินมาที่โรงอาหารของคณะวิศวะ สีฝุ่นมาที่นี่เป็นประจำ เพื่อกินข้าวกับพี่อชิ แต่ทันทีที่มาถึงโรงอาหารก็ต้องพบกับภาพบาดตาบาดใจเมื่อพี่อชิกำลังนั่งคุยกับผู้ชายอีกคน ใครคนนั้นเขาไม่รู้จัก ไม่เเคยเห็นหน้ามาก่อน

    สีฝุ่นหยุดยืนนิ่งกับที่ ไม่รู้ว่าควรเดินเข้าไปทักไหม จะเป็นการขัดจังหวะหรือเปล่า

    นอกจากนี้เขายังไม่ชอบ ไม่ชอบที่เห็นพี่อชิไปสนิทกับคนอื่น

    สีฝุ่นเม้มปากแน่น เขากำลังทำตัวนิสัยไม่ดี เขาไม่ชอบเอาเสียเลย

    “อ้าวฝุ่น มานี่มานี่ พี่จะพาไปต่อคิวซื้อไก่ทอด” เจ้าทัพที่เพิ่งเดินมาถึงเห็นสีฝุ่นเข้าพอดีจึงรีบกวักมือเรียก

    “ครับ” สีฝุ่นรับคำ เดินไปหาเจ้าทัพโดยมีสายตาของอชิมองตาม

    “สีฝุ่นอยากกินอะไร” เจ้าทัพเดินตรงมากอดคอรุ่นน้องต่างคณะ

    “ยังไม่ได้คิดไว้เลยครับ”

    “ไก่ทอดเหมือนพวกพี่ไหม เดี๋ยวพี่ต้องสั่งให้ไอ้สองตัวนั้นด้วยมันใช้พี่มาต่อคิวแทน”

    “กินไก่ทอดก็ได้ครับ”

    “ฮ่า ๆ เดี๋ยวพี่เลี้ยง”

    ทั้งสองเดินไปต่อคิวพร้อมกันก่อนสีฝุ่นจะแยกออกไปสั่งเครื่องดื่มโดยมีเจ้าทัพต่อคิวร้านไก่ทอด เมื่อได้แก้วน้ำแดงกับขวดน้ำเปล่าจึงเดินกลับไปตั้งไว้บนโต๊ะโดยมีพี่อชินั่งคุยกับใครอยู่ตรงนั้น

    “น้ำแดงพี่เจ้าทัพกับน้ำของผมครับ” สีฝุ่นวางแก้วเครื่องดื่มลง ก้มหน้าหลบสายตาอชิ จากนั้นจึงเดินกลับไปหาเจ้าทัพ

    สีฝุ่นยืนรอเจ้าทัพอยู่แถวนั้น มีบ้างที่หันมองกลับไปที่โต๊ะ รู้สึกวูบโหวงไปอีกเมื่อพี่อชิยิ้มหัวเราะกับใครคนนั้น ดูมีความสุขทีเดียว

    เขาไม่เข้าใจความรู้สึกตนเองเสียเท่าไร รู้เพียงว่าไม่ชอบ

    เมื่อได้ไก่ทอดแล้วสีฝุ่นจึงตรงไปช่วยเจ้าทัพถือ ระหว่างเดินกลับไปที่โต๊ะจึงเอ่ยถามคำถามที่ตนเองสงสัย

    “ผู้ชายที่นั่งคุยกับพี่อชิเป็นใครเหรอครับ”

    “เป็นลูกเพื่อนแม่มันน่ะ”

    สีฝุ่นหายข้องใจ เขาพยักหน้ารับ

    ถ้าเป็นลูกเพื่อนแม่ก็ไม่แปลกที่จะสนิทกัน

    วันนี้สีฝุ่นไม่ได้นั่งข้างอชิเมื่อมีคนอื่นจับจองพื้นที่ตรงนั้นแล้ว เขาจึงนั่งข้างพี่เจ้าทัพแทน ไม่นานรุ่นพี่อีกสองคนก็มาถึง

    “โอ้ ไอ้เจ้าทัพสั่งไก่ทอดไว้รอกูด้วย ประทับใจว่ะ” พี่ณนนท์ยกมือขึ้นทาบอก

    “เพื่อนประเสริฐ ตอนแรกกูก็ไม่คาดหวัง สั่งให้กูเฉย กูรักมึง” ว่าแล้วพี่คีรินก็ตรงมาจุ๊บแก้มพี่เจ้าทัพ ทำเขายิ้มตามได้ไม่ยาก

    “ฮ่า ๆ พวกมึงโดนหลอกแล้ว จ่ายมาหนึ่งร้อย” คนที่เพิ่งถูกชมระเบิดเสียงหัวเราะขึ้นอย่างชั่วร้าย

    “เอ้า ! กูก็อุตส่าห์ซึ้งใจ”

    “อย่าทำเป็นหวง จ่ายมา กูจะเอาไปซื้อไอติม”

    “เออ”

    สีฝุ่นนั่งกินข้าวพลางฟังพวกพี่พูดคุยกัน วันนี้พี่อชิไม่แม้แต่จะทักเขา ซึ่งเขาก็ไม่ได้ทักอีกฝ่ายเช่นเดียวกัน ต่างไปจากทุกวันจนเขารู้สึกแย่ และก็หลายครั้งทีเดียวที่เขาพยายามหักห้ามใจตนเองไม่ให้มองคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม แต่ท้ายสุดก็ต้องมองจนได้เมื่อมีคนเอ่ยทัก

    “สวัสดีสีฝุ่น”

    “เอ่อ…สวัสดีครับ” สีฝุ่นตกใจเล็กน้อยที่คู่สนทนาของพี่อชิเอ่ยทัก

    “เราชื่อมินนะเรียนอยู่ปีเดียวกับสีฝุ่น”

    “ยินดีที่ได้รู้จัก” สีฝุ่นยิ้ม

    “อืม ช่วงนี้คงได้เจอหน้าบ่อย เลยอยากทำความรู้จักไว้”

    สีฝุ่นไม่ได้ตอบอะไร พยักหน้ารับ แต่หัวใจของเขากำลังรู้สึกเจ็บ ไม่เข้าใจด้วยว่าทำไมวันนี้พี่อชิถึงไม่คุยกับเขา เพราะมีมินหรือเปล่า เพราะมีใครคนนั้นคอยชวนคุยใช่ไหมเขาจึงถูกเมิน

    เมื่อกินข้าวเสร็จพี่เจ้าทัพจึงไปซื้อไอศครีมมาแจกทุกคน รวมทั้งเขา สีฝุ่นรับไว้แต่ไม่ได้นั่งร่วมโต๊ะด้วยเมื่อเขาไม่อยากทนมองภาพที่ทำให้เขารู้สึกไม่ดี

    สีฝุ่นเดินลงมาจากอาคารหลังเลิกคลาสบ่าย แปลกใจเล็กน้อยเมื่อเห็นรถของพี่อชิจอดอยู่หน้าคณะ พออีกฝ่ายเห็นเขาจึงเปิดประตูลงจากรถ

    “พี่ไปส่ง” เมื่อมาหยุดตรงหน้าจึงเอ่ยความต้องการตัวเองออกมา

    “เดี๋ยวผมกลับเองดีกว่าครับ ไม่อยากรบกวน”

    “ไม่ได้รบกวน”

    สีฝุ่นลังเล แต่ท้ายสุดก็ยอมเดินตามไปขึ้นรถ

    เมื่อเข้ามานั่งในรถอชิจึงเอ่ยประโยคหนึ่งขึ้น ทำเอาสีฝุ่นชะงักไป

    “ขอโทษนะที่ตอนพักเที่ยงไม่ได้คุยด้วย”

    สีฝุ่นมองสบตา

    “ครับ” สีฝุ่นตอบกลับเพียงเท่านั้นเพราะไม่รู้ว่าเขาควรตอบว่าอย่างไร ไม่เข้าใจถึงสาเหตุที่พี่อชิไม่คุยกับเขาด้วย

    “วันนี้ไปทำงานที่ร้านใช่ไหม”

    “ครับ”

    “อืม เดี๋ยวพี่แวะเข้าไป จะรอรับกลับด้วย”

    “ไม่ต้องครับ ไม่ต้องรับกลับ” สีฝุ่นปฏิเสธ เขาเกรงใจ

    “ไม่อยากกลับกับพี่เหรอ”

    “ผมเลิกงานดึก พี่จะรอนานนะครับ”

    “ไม่เป็นไร พี่รอได้” อชิหันมายิ้มให้ เป็นรอยยิ้มที่สีฝุ่นชอบ

    วันนั้นอชิรอรับสีฝุ่นกลับห้องจริง และก็ไม่ใช่แค่วันนี้วันเดียว เขารอรับสีฝุ่นกลับห้องตลอดอาทิตย์

    ทำหน้าที่ที่มากเกินกว่ารุ่นพี่หรือคนรู้จัก สีฝุ่นรับรู้ได้ แม้เขาไม่เคยมีความสัมพันธ์กับใครแต่เขารู้ว่าสิ่งที่พี่อชิทำมันพิเศษมากกว่าสถานะระหว่างรุ่นพี่กับรุ่นน้อง จนถึงวันหนึ่งที่มีคนมายุ่งกับสีฝุ่นที่ร้าน ทุกอย่างจึงชัดเจนขึ้น

    “พนักงานน่ารักจัง ขอเบอร์ได้ไหมครับ” สีฝุ่นที่ยกอาหารมาเสิร์ฟที่โต๊ะชะงักไป เขารีบนำอาหารในถาดมาวางบนโต๊ะ

    “ไม่ได้ครับ”

    “ทำไมเหรอ”

    “ไม่สะดวกครับ”

    “มีแฟนแล้ว ?”

    “ครับ มีแล้ว” สีฝุ่นโกหก หลายครั้งที่เขาโดนลูกค้าในร้านขอเบอร์ แต่ก็จะนำเหตุผลนี้มาอ้างเสมอ

    “แฟนไม่ได้มาด้วยนี่ ให้พี่ไว้ก็ไม่เสียหาย” แต่ดูแล้วเจ้าของโต๊ะจะไม่ยอมเลิกราง่าย ๆ

    “ไม่ได้จริง ๆ ครับ ขอตัวครับ” สีฝุ่นจะเดินกลับ หากแต่ถูกดึงชายผ้ากันเปื้อนไว้ ทำให้เขาไปไหนไม่ได้ จึงต้องหยุดยืนนิ่งอยู่กับที่

    “ให้มาก็จบแล้วไหมน้อง หรือจะให้พี่ไปแจ้งผู้จัดการร้าน ว่าพนักงานบริการไม่ดี” คนพูดแสดงสีหน้าไม่พอใจ คว้ามือสีฝุ่นไปจับไว้

    “ปล่อยมือคนของฉัน” อชิลุกออกจากโต๊ะที่ใช้นั่งรอสีฝุ่น ไม่พอใจมาก ๆ ที่มือสกปรกนั่นมาแตะต้องตัวคนของเขา

    “ทำไมต้องปล่อย เป็นอะไรกับพนักงานคนนี้” ฝั่งลูกค้าถามกลับไม่พอใจ

    อชิชะงักไป มองสบตากับสีฝุ่น

    “เป็นแฟน เป็นเจ้าของ ถ้ามีมารยาทก็ต้องรู้ว่าไม่ควรมายุ่งกับคนของคนอื่น”

    “เหอะ ปล่อยก็ได้ ผัวมาเฝ้าก็ไม่บอก”

    เมื่อสีฝุ่นเป็นอิสระอชิจึงได้จูงมือออกไปจากจุดเดิม ไม่รับรู้ด้วยซ้ำว่าหัวใจของรุ่นน้องเต้นแรงมากแค่ไหน เมื่อได้ยินคำว่าแฟนหลุดออกมาจากปากอชิ ทั้งที่รู้ว่าเป็นการโกหกเพื่อช่วยเขาแต่สีฝุ่นรู้สึกดีกับมันมาก ๆ

    “ขอบคุณครับ”

    “อืม”

    เมื่อถึงเวลาเลิกงานสีฝุ่นจึงรีบไปเก็บของเตรียมกลับห้อง แต่ก็ต้องชะงักเมื่อมีคนเข้ามาทัก

    “สงสัยมานานละว่าคนที่มานั่งรอสีฝุ่นเป็นใคร”

    “ เป็นรุ่นพี่น่ะครับ”

    “รุ่นพี่…ถามจริง คิดว่าเป็นคนรู้ใจเห็นมารอรับทุกวัน ปกติรุ่นพี่ไม่น่าทำแบบนี้นะ” เขามองพี่แนนที่ยักคิ้วกวน ไม่ได้ตอบอะไรกลับเพียงยิ้มให้

    เมื่อขึ้นมานั่งบนรถก็รับรู้ได้ถึงบรรยากาศที่แปลกไปจากทุกวันเมื่อพี่อชิเอาแต่จ้องมองเขาไม่ยอมออกรถเสียที

    “มีอะไรหรือเปล่าครับ” สีฝุ่นเอ่ยถามด้วยความประหม่า ทำตัวไม่ถูกนักเมื่อถูกจ้องมองแบบนี้

    “พี่ชอบสีฝุ่น”

    “…” สีฝุ่นคล้ายเป็นใบ้ชั่วขณะ เขาไม่ได้เตรียมใจมารอฟังคำนี้จึงรู้สึกตกใจอยู่ไม่น้อย

    “ชอบมานานแล้ว ก่อนหน้าที่เราจะได้คุยกัน พี่พยายามรวบรวมความกล้าเพื่อที่จะเข้าไปคุยกับสีฝุ่น ห่วงทุกครั้งที่เห็นว่าสีฝุ่นมีแผล แต่พี่มันขี้ขลาดเกินไปจึงไม่กล้าเข้ามาพูดคุย แย่กว่านั้นคือพี่ไม่ยอมบอกความในใจให้สีฝุ่นรับรู้ เป็นแฟนกับพี่ได้ไหม”

    สีฝุ่นมองสบตากับคนที่สารภาพทุกอย่างออกมาหมดเปลือก ยิ่งได้ฟังยิ่งทำให้เขารู้สึกดี

    ที่ผ่านมาสีฝุ่นไม่ได้นึกเข้าข้างตัวเอง พี่อชิรู้สึกกับเขาจริง ๆ แต่เขาคงเงียบนานไปหน่อยเมื่อคนที่นั่งอยู่ตำแหน่งคนขับจัดการสตาร์ทรถกลับไปสนใจเส้นทางตรงหน้า

    “ถ้าสีฝุ่นไม่ได้ชอบพี่ปฏิเสธมาได้เลยนะ”

    “ผมชอบพี่ ชอบมาก ๆ” สีฝุ่นขยับเข้าไปกอดคนขับ “ขอบคุณนะครับที่ขอผมเป็นแฟน”

    อชิหันมากอดตอบ เขายิ้มกว้าง ดีใจที่สีฝุ่นใจตรงกัน

    ที่เขาตัดสินใจขอสีฝุ่นเป็นแฟนเพราะเรื่องในร้าน การที่มีคนมายุ่งกับอีกฝ่ายทำให้เขาไม่พอใจ แต่เขาไม่ได้เป็นแฟน ไม่สามารถที่จะพูดถึงสถานะของเราได้เต็มปาก ทำให้เขาไม่ชอบเอามาก ๆ

    แต่ต่อแต่นี้ไปเขาสามารถพูดมันได้แล้วว่าเราสองคนเป็นแฟนกัน

    “ขอบคุณนะสีฝุ่น ขอบคุณที่ตอบรับ”

    “ผมก็ขอบคุณพี่เหมือนกันนะครับ ขอบคุณที่เข้ามาเป็นความโชคดีของผม”

    ชีวิตของสีฝุ่นเจอความโชคดีไม่บ่อยนัก และอชิก็เป็นหนึ่งในนั้น เป็นความโชคดีที่ดีที่สุดในชีวิตของสีฝุ่น

    ระหว่างทางอชิจับมือสีฝุ่นจนส่งถึงที่พัก แล้วก็ไม่ยอมปล่อยง่าย ๆ แต่เพราะมันดึกแล้วสีฝุ่นควรได้พักผ่อนจึงยอมเอามือออก

    “ฝันดีนะครับ ฝันถึงพี่ด้วย”

    “ครับ ผมจะฝันถึงพี่” สีฝุ่นยิ้มเปิดประตูลงจากรถยืนส่งจนรถของอชิหายลับไปจากสายตาจึงได้เดินขึ้นห้อง

    ก่อนไปเรียนสีฝุ่นจะออกไปซื้อกับข้าวมาไว้ให้แม่ วันนี้ก็เช่นเดียวกัน เขาแกะต้มจืดกับผัดผักใส่ชาม ตักข้าวไปตั้งไว้ตรงหน้ามารดา

    “วันนี้ฝุ่นไม่ได้ไปทำงาน เดี๋ยวตอนเย็นฝุ่นพาแม่ออกไปเดินเล่นนะครับ”

    “จ้ะ ว่าแต่ใครมารับฝุ่นไปทำงานหรือ แม่เห็นเขามารับทุกวันเลย”

    สีฝุ่นชะงัก มองสบตาผู้เป็นแม่ ในใจเกิดความลังเลคล้ายอยากปิดบัง แต่ก็เลือกที่จะปัดความคิดนั้นทิ้ง เอ่ยบอกความจริง

    “ก่อนหน้านั้นเขาเป็นรุ่นพี่ของฝุ่นครับ นิสัยดีมาก ๆ เขาเข้ามาทำให้โลกของฝุ่นมีชีวิตชีวามากขึ้น”

    คนฟังพยักหน้า เข้าใจแม้ลูกไม่ได้เอ่ยบอกสถานะ แต่เธอก็อดกังวลไม่ได้

    ช่วงเช้าสีฝุ่นไม่ได้เจออชิเพราะต่างคนต่างเรียน แต่พอถึงเวลาพักเที่ยงพี่อชิก็เดินมารับเขาถึงคณะ

    “ไปกินข้าวข้างนอกไหม หรือสีฝุ่นอยากกินที่นี่”

    “กินที่นี่ก็ได้นะครับ”

    “อืม ไปที่โรงอาหารกัน พวกนั้นรออยู่” ว่าแล้วพี่อชิก็คว้ามือเขาไปจับ

    สีฝุ่นหลุบตามอง เขากระชับมือให้แน่นขึ้น

    เมื่อมาถึงโรงอาหารคณะวิศวะทุกคนบนโต๊ะดูแปลกใจเมื่อเห็นว่าพวกเราสองคนจับมือกัน ไม่สิอันที่จริงมีแค่พี่อชิเท่านั้นที่กุมมือเขาไว้ เพราะก่อนหน้านั้นสีฝุ่นได้เอามือออกแล้ว เพราะรู้สึกทำตัวไม่ถูก ยิ่งโดนจ้องแบบนี้ยิ่งไปกันใหญ่

    “น้อย ๆ หน่อยไอ้หมา จับมือซะแน่นเชียว”

    “ถ้าจะขนาดนี้มึงก็เปิดตัวเถอะว่ากำลังคบกัน”

    “น่าหมั่นไส้”

    “จูงมือมาขนาดนี้มึงคิดว่ากูนำทางสีฝุ่นมาหรือไง” อชิถามเพื่อนกลับสีหน้าเรียบนิ่ง แต่ดูกวนประสาทอยู่ในที

    “คบกันทีเอาให้รู้ทั้งมหาลัย”

    สีฝุ่นที่ยืนฟังทำตัวไม่ถูกนัก เขาไม่มีความกล้าเงยหน้ามาสู้หน้าพวกพี่ด้วยซ้ำ จึงทำได้เพียงก้มลงมองพื้น เขินไปอีกเมื่อพี่อชิกระซิบข้างหู

    “หูแดงหมดแล้ว อย่าเขินไปเลย เราคบกันอยู่”

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนปิดการแสดงความคิดเห็น
    ×