Bloody Black - นิยาย Bloody Black : Dek-D.com - Writer
×

    Bloody Black

    ... ลองอ่านเเล้วจะรู้เอง

    ผู้เข้าชมรวม

    104

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    4

    ผู้เข้าชมรวม


    104

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  แฟนตาซี
    จำนวนตอน :  0 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  30 ต.ค. 53 / 00:00 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

                                                                บทนำ

     

    ในวันที่มีแดดร้อนจัดแผ่นดินแห้งแล้งต้นไม้ใบหญ้าได้แห้งเฉาและเน่าตายไปที่นั้นไม่ต่างจากนรกอเวจีหากแต่มันจะเหมือนเมื่อช่วง2-3วันมานี้ได้มีการทำสงครามกันในยุคที่ผู้คนต่างแย่งชิงดีชิงเด่นกันอยู่นั้นความมั่งคั่งความโลภและความอิจฉาเข้าคลอบง่ำจิตใจผู้คนไม่เว้นแม้แต่กษัติย์ที่อยากจะได้และอยากจะได้เรื้อยไม่รู้จักจบสิ้น

       ฆ่ามัน

    เสียงหนึ่งดังขึ้นจากแผ่นดินที่แห้งแล้งและร้อนจัด มีทหารกลุ่ม1ของอาณาจักรแห่ง1ได้ส่งเสียงแผดร้องคล้ายกับตะโกนออกมา พร้อมกับการตะลุมบอนกันมั่วสั่ว

        อ๊าก อั้ก ขา ข้า อ๊ากก 

    สียงร้องโหยหวนของสงครามที่ทำกันมาไม่มีวันจบหมดสิ้น

       ฆ่ามัน ฆ่ามัน

    เสียงตะโกนนั้นได้ดังขึ้นอีกครั้งหากแต่ครั้งนี้มันได้ดังกว่าเดิมราวกับจะกวาดความเจ็บปวดออกไป สิ้นค่ำไม่นานเจ้าของร่างที่ตะโกนก็มาปรากฏตัวต่อหน้าแม่ทัพของอาณาจักของคู่ทำสงคราม

       แฮ่ก แฮ่ก เจ้า ปล่อยข้าออกไปเถอะ ข้าจะบอกราชาให้ว่าเรายอมพวกท่านแล้ว

    แม่ทัพตรงหน้าร้องขอชีวิตอย่างอ้อนวอน พร้อมกับมองมายังคนเบื้องหน้า พร้อมกับเผลออุทานออกมาว่า

       พระเจ้า

    สิ้นคำนายพลธนูที่อยู่ข้างลังก็ยิงตรงดิ่งเจาะหน้าผากข้างหน้าทะลุไปด้านหลังพร้อมกับทิ้งตัวลงเมื่อร่างหมดลมหายใจ แม่ทัพเห็นว่ามีคนยิงธนูผ่านหลังตนไปจึงได้หันหลังกับมามองนายธนูพร้อมกับกล่าวอย่างเยือกเย็นว่า

        ขอบใจท่านมาก หากท่านไม่ฆ่า ข้าอาจจะไว้ชีวิตเขาไว้ก็ได้

     ชายแม่ทัพกล่าวด้วยเสียงที่สั่นเครือพร้อมกับส่ายหน้าและกล่าวต่อว่า    

       เอาละทุกคนจงฟัง วันนี้ ณ ที่นี้ เราได้รับชัยชนะ จากสงครามมามากพอแล้ว เราจะกลับไปรายงานแด่ องค์มหาราชา ว่าวันนี้พวกเราทุกคนที่รอดชีวิตหรือไม่รอดชีวิตได้ทำหน้าที่ที่สมควรแก่การเป็นทหารที่ดีที่สุดแล้วหลังจากกลับไปแล้ว พวกท่านมีสิทธิ  !! ที่จะขอคำขอได้หนึ่งประการ สิ้นคำ

     นายทหารนายหนึ่งได้เดินเข้ามาและกล่าวด้วยเสียงที่แหบแห้ง    เหมือนราวกับขาดน้ำขาดอาหารว่า

       องค์ชายขอรับพวกข้าพเจ้าหาไม่ต้องการสิ่งใดนอกจากขอให้ท่านปลอดภัย ชายทหารตรงหน้ากล่าวออกมาพร้อมกับมีน้ำใสๆ เอ่อล้นจากที่ลูกตาทั้ง 2 พร้อมกับกล่าวด้วยเสียงสะอึกสะอื้นว่า พวกเราต้านทานพวกมันได้แล้วจริงใช่ไหมขอรับ

        จริงสิ โอบา พวกเราชนะและจะกลับเมืองของเรากัน

    แล้วนายทหารอีกคนเดินมาพลางตบไหล่ของชายที่ชื่อ โอบาพลางเขย่าอยู่ 2-3 ครั้ง และผู้ที่ชื่อ องค์ชายกล่าวตอบด้วยเสียงที่ดัง

        เอาละพวกท่านอย่างที่ข้าได้บอกไป เราจะกลับเมืองกัน

     

     

     

     

     

                  ตอนที่ 1  ขอออกจากการเป็นองค์ชาย

     

    ณ เมือง ๆ 1 ที่ห่างจากแผ่นดินที่แห้งแล้ง ที่นั้นมีเมืองที่เต็มไปด้วยผู้คนมากมายมีการค้าของตลาดที่ใหญ่โต และแน่นอนที่นั้นก็ย่อมมีพระราชวัง ในห้องของพระราชวัง ได้เกิดเสียงที่ดังขึ้นจนทำให้ทุกผู้ทุกคนเกิดการส่งเสียงออกมาดังลั่น

       ว่าไงนะเจ้า 

    เจ้าของเสียงร้องออกมาด้วยความตกใจ พร้อมกับกล่าวถามซ้ำอีกครา

         กษัติย์ผู้ป็นใหญ่ขอรับหากแต่ท่านจะฟังคำขอของข้า ข้าอยากให้ท่าน  ลบชื่อของข้าออกจากราชวงศ์เสีย เพราะข้าไม่อยากจะเป็นคนของที่นี้แล้วพะยะค่ะ

    กษัติย์มองหน้าชายหนุ่มพร้อมกับกล่าวออกมาด้วยความสงสัย

       ทำไหมเจ้าถึงอยากออกจากที่นี้ละ  ลูกข้า 

    กษัติย์ ที่กล่าวนั้น มีรูปร่าง สมบรูณ์ มีหน้าตาที่เหมาะสมแก่การให้ความนับถือมีผมสีขาวออกไปคลำดำดูจากสภาพแล้วคงจะอายุราว 60-70 ปีเป็นแน่ 

       ข้า ข้าอยากจะเริ่มชีวิตใหม่และข้าก็ทราบเรื่องราวบางอย่างแล้วด้วย ชายหนุ่มตอบพลางส่งสายตาอ้อนวอนมาที่ราชา ราชาเห็นดังนั้นจึงกล่าวถามอีกครั้ง ด้วยเสียงที่แทบจะไม่ได้ยิน

       เจ้ารู้เรื่องอันใดหรือ  ชายหนุ่มหลับตาพร้อมกับกล่าวออกมาด้วยน้ำตาว่า

        ข้าทราบแล้วว่า ท่าน ไม่ใช่ พ่อของข้าที่แท้จริง !  

    ราชาได้ยินดังนั้นก็อุทานออกมาด้วยน้ำเสียงที่ดังจนคนทั้งห้องต้องพากันปิดหู

        เจ้า  ข้าเลี้ยงเจ้าไม่ดีพอหรือ เจ้าถึงจะออกจากตระกูลของข้า หรือเจ้า ไม่ชอบที่ข้าส่งเจ้าไปทำสงครามหรือเจ้าไม่พอใจข้า

     สิ้นค่ำราชาก็ได้หายใจหอบแฮ่กออกมาชายหนุ่มได้ยินคำดังนั้นจึงกล่าวตอบไปว่า

       เปล่าเลยพะยะค่ะท่านเลี้ยงข้ามาดีมากท่านส่งข้าไปสงครามก็เพราะว่าข้าก็อยากจะไป

     ไม่ทันกล่าวจบพระราชาก็ได้พูดตอบกลับมา

        ได้  ข้าเข้าใจแล้ว ข้าจะปล่อยเจ้าไป บลัดดี้  และตั้งแต่นี้ต่อไปเจ้าจะต้องเลิกใช่นามสกุลของข้า ที่เจ้าอยากจะไปจากข้าเป็นเพราะเรื่องอันใดหรือข้าทราบได้หรือป่าว

     พระราชาส่งสายตาอ้อนว้อนต่อหน้าอัมมาตทั้งหลายด้วยสายตาที่ห่วงใย ชายหนุ่มเห็นท่าทางดังนั้นจึงกล่าวว่า

        ข้าอยากจะไปผจญภัยทั่วทุกมุมโลก พะยะค่ะ

        อื้ม เอาละๆ ข้าเข้าใจเจ้าแล้ว ข้าจะบอกอะไรเจ้า 3 เรื่องก็แล้วกัน เรื่องแรก เจ้าหน่ะมีชื่ออยู่เต็มๆ ก่อนที่ข้าจะได้เอานามสกุลของข้ามาใส่แทนที่

     เมื่อทำท่าจะพูดพระราชาได้สั่งให้เหล่าทาสรับใช่ให้ออกไปรอด้านนอกด้วยสายตาที่เยือกเย็นที่สมกับเป็นพระราชา ผ่านไปราว 30 นาที องค์ชายก็ได้เดินกับออกมาพร้อมน้ำตา และได้เข้าห้องของตนเองโดยไม่ได้กินอะไรจวบจนถึงตอนเช้า องค์ชายได้ออกไปตามที่พระราชาบอก

      องค์ชายมาหยุดอยู่ที่รูปปั้น ของพระราชาผู้ครองเมืองที่ 1  องค์ชายได้นั่งรอราว10นาทีเมื่อเห็นว่าไม่มีใครมาองค์ชายก็ทำท่าพลางจะพล่อยหลับไป หากแต่ที่กำลังจะหลับนั้นก็ได้มีเสียงที่แหลมจนแสบแก้วหูดังข้างๆ องค์ชายว่า

         นี้ เจ้า เจ้าจะทำอะไรหน่ะ องค์ชายสะดุ้งพร้อมกับตอบเสียงนั้นว่า

         ข้า ข้าจะนอน ชายหนุ่ม

    ตอบไปพลางหันซ้ายหันขวาแต่ก็ตองตกใจเมื่อเสียงที่เขาได้ยินนั้นมันไม่มีผู้คนเลยสักนิด ทันใดนั้นเอง ขนทั่วร่างของชายหนุ่มก็พลั่นลูกซู่

         คิก คิก  คิก

    เสียงใสๆเเหลมดังขึ้นอีกคราพร้อมกับปรากฏร่างออกมา ชายหนุ่มเห็นหญิงสาวตรงหน้าเข้าก็พลันตกใจ หญิงสาวตรงหน้านั้น มีรูปร่างหน้าตาที่จัดว่าหน้ารัก มีผมสีเหลือง มีตาสีน้ำเงินอำพันเละมีปากที่แดงระเรื้อ รูปร่างสมส่วน ชายหนุ่มหยุดนิ่งไปพัก1 เด็กสาวเห็นดังนั้นจึงได้กล่าวกับมาว่า

         หว่าฉันขอโทษหน่ะ พอดีใช้พลังพิเศษนิดหน่อยอะคงจะตกใจละสิ ชายหนุ่มตั้งสติได้จึงได้แกล้ง ไอออกมา 2-3 ครั้งพร้อมกับคิดในใจว่า

          อ่าโชดดีแฮะที่หล่อนคิดว่าเราตกใจที่อยู่ ๆ เธอก็ปรากฏตัวออกมา นึกว่าจับได้ว่าเราตกใจที่เธอสวยซะอีก ชายหนุ่มพลางกล่าวออกมาว่า

          อ่าตกใจหมดเลย

    ชายหนุ่มกล่าวพลาง ถามไปพล่างว่า

          เอ่อ เธอคือคนที่จะมารับผมใช่รึป่าว

     หญิงสาวได้ยินดังนั้นจึงกล่าวตอบว่า

         อะใช่แล้วลืมแนะนำตัวเลย ฉันชื่อว่า  ยู ออนลี้ เด็กสาวบอกพร้อมกับกล่าวกับมาว่าแล้วเธอละ เด็กชายมองหน้า ยูก่อนจะตอบกลับไปว่า

         ผมชื่อ บลัดดี้

    ยูเห็นท่าท่างของบลัดดี้ตอบจึงกล่าวออกมาอีกครั้งว่า

         แล้วนามสกุลของเธอละ บลัดดี้เห็นดังนั้นจึงนึกได้ว่า พระราชาให้ปิดเรื่องที่เขาเป็นลูกชายไว้เป็นความลับ และก็สั่งว่าถ้าให้ลืมได้ก็ให้ลืมเสีย พร้อมกับบอกชื่อเต็มพร้อมกับนามสกุลใหม่อีกรอบ

        แบล๊ค ผมชื่อ บลัดดี้ แบล๊ค ครับ

     ยูได้ยินดังนั้นก็กล่าวกับมาว่า

         เอ๋ ชื่อเหมือนผู้หญิงจังเลย  พร้อมกับหัวเราะ คิก   ๆ ออกมา

    ซึ่งนั้นทำให้บลัดดี้หน้าแดง เพราะความน่ารักไร้เดียงสาของหล่อน ไม่รอช้าหล่อนก็บอกกับมาว่า

         เอาละ ๆ เรื่องชื่อเราก็รู้จักกันแล้ว ตอนนี้ ยูจะแนะนำให้รู้จักกับโรงเรียนพิเศษสำหรับผู้วิเศษก็แล้วกัน

    ยูกล่าวตอบพร้อมกับ กดอะไรสักอย่าง 2-3 ครั้งทันใดนั้นเอง ก็มีเครื่องยนต์ ลักษณะ กลม ๆ คล้ายๆลูกบอล 2 ลูก หล่นลงมาจาก ด้านหน้า ซึ่งนั้นทำให้บลัดดี้กล่าวออกมาอย่างลืมตัวว่า

         หว่า ลูกอะไรหนะ ยูได้ยินดังนั้นก้อพาล หัวเราะอีกรอบ พร้อมกับผลัก บลัดดี้เข้าไปข้างหน้าลูกบอล ทันทีที่โดนพลักไปนั้น บลัดดี้ก็รู้สึกคล้ายกับโดนเจ้าลูกบอลดูดเข้าไป

     

     

     

     

     

                          ตอนที่ 2 โรงเรียนแห่งผู้วิเศษ ออนลี้เควสสคู

     

    หลังจากที่โดนดูดเข้ามาในลูกบอล บลัดดี้ก็มีความรู้สึกแปลกๆ เป็นความรู้สึกเหมือนกับว่าโลกนี้เหมือนโดนคนยักษ์เตะ หลายๆ รอบ ผ่านไปสัก10นาทีก็หยุดลง พร้อมกับเปิดช่องว่างด้านข้างออกมา บลัดดี้ไม่รอช้ารีบกระโดดออกมาด้วยความเร็วสุดเหลือเชื่อคล้ายกับว่าหากเขาไม่กระโดดออกมาละก็ ประตูบานนั้นจะมลายหายไปต่อหน้าต่อตาสะอย่างนั้น

        คิก ๆ

    เสียงของผู้หญิงแสนคุ้นเคยดึงขึ้นอีกครั้ง พร้อมกับกล่าวออกมาอีกว่า

       บลัดดี้ตั้งแต่ฉันรู้จักกับผู้ชายมาก็เยอะนะแต่ไม่เคยมีใครทำให้ฉันรู้สึกสนุกได้เท่าเธอมาก่อนเลย

    บลัดดี้ได้ยินดังนั้นจึงแกล้งเกาหัวพลางถามไปว่า

        เอ่อ ยู ครับ ที่นี่ ที่ไหนหรอครับ  อ่อ  แล้วเรื่อง โรงเรียนสำหรับผู้วิเศษนี้มันหมายความว่ายังไงกันครับ

        ที่นี้ก็คือ สถาบันศึกษาผู้วิเศษ ออนลี้เควสสคูจ๊ะ  บลัดดี้ได้ฟังดังนั้นก้ออุทานออกมาอย่างลืมตัวว่า

         ว้าว สวยจัง

    ยูได้ยินดังนั้นก้อพลันหน้าแดง และก้มหน้า บลัดดี้เห็นดังนั้นก้อสงสัยว่าเป็นไรหน้าแดงหว่า เอ่อ หรือเราพูดผิดไปที่บอกไปว่าที่แห่งนี้มันสวยงามตระกานตา ชายหนุ่มบ่นพลางถามยูซึ่งๆหน้าว่า

         เอ่อ ยูเป็นอะไรหรอครับ ไม่สบายหรือป่าว ?

    ยูได้สติจึงบอกปัดไปว่า

        อ่อ แค่รุ้สึกปวดหัวนิดหน่อยนะค่ะ

    ไม่รอช้า บลัดดี้จึงเดินก้มหัวเอาหน้าผากของตนแตะที่หน้าผากของยูและกล่าวกับมาว่า

        เอ๋ ตัวคุณ ยู ร้อนๆ  ไม่ใช่นิดๆ หน่อยๆ แล้วละมั้งครับ ยูได้เห็นการกระทำดังนั้นก็หน้าแดงและก็วิ่งหนีด้วยความอายจากไป   บลัดดี้ที่เห็นดังนั้นก้อคิดในใจว่า อ่าวเวรแล้วไง คุณ ยูเขาโกรธจนวิ่งหนีไปเลย แล้วใครจะแนะนำทางให้เราละเนี้ย  บลัดดี้กล่าวพลางก้มหน้า ไปพลางแต่ก้อต้องตกใจสุดขีดเมื่ออยู่ดี ๆ ร่างหญิงสาวได้ปรากฏขึ้นตรงหน้า

        หว่า อะไรเนี้ย  หญิงสาวเห็นดังนั้นก้อพลันหัวเราะแล้วตอบไปว่า

        นี่ ฉันไม่ใช่ผีนะจ้ะที่จะมาตกอกตกใจน่ะ

    บลัดดี้ตั้งสติได้ จึงมองหญิงสาวคนตรงหน้า หญิงสาวตรงหน้านั้นมีหน้าตาคล้ายคลึงกับ ยูมาก เสียจน บลัดดี้อุทานออกมาว่า

        ยู

    พร้อมกับถามเป็นชุดใหญ่

        หายโกรธผมแล้วหลอครับ

    หญิงสาวเห็นท่าท่างของชายหนุ่มจึงหัวเราะอีกครั้งพร้อมกับตอบออกมาว่า

        คิกๆ เธอนี่ตลกอย่างที่ลูกสาวฉันมาบอกเปี้ยบเลย

    บลัดดี้ ขุ่นคิดเล็กน้อยพร้อมกับถามด้วยความสงสัยว่า

        เอ่อใครเป็นลูกสาวคุณหรอครับ

        อ่ายังไม่ได้แนะนำตัวสินะ ฉันมีชื่อว่า ทูน่า ออนลี้ เป็นแม่ของ ยู และก็เป็น อาจารย์ใหญ่ของที่นี้

    บลัดดี้ที่ได้ยินดังนั้นจึงรีบถามว่า

       มันหมายความว่ายังไงกันครับที่ผมต้องมาอยู่ที่นี้ ไม่ใช่ว่าผมจะได้รอคนพาผมไปผจญภัยทั่วโลกหรือครับ

    ทูน่าที่ได้ยินดังนั้นจึงตอบกลับไปว่า

       ไม่หรอกจ๊ะเธอมาถูกที่แล้ว

    บลัดดี้ได้ยินดังนั้นถามไปว่า

        ถูกที่ยังไงกันครับผม งง  ไปหมดแล้ว  ที่นี้ มันแปลกจริง ๆ เลย

    ทูน่าที่เห็นท่าท่างของ บลัดดี้ ก็หัวเราะ พร้อมกับกล่าวด้วยด้วยที่นุ่มนวลว่า

        เธอเคยสงสัยไหมว่าทำไม  เธอถึงแข็งแรงว่าคนปกติ  และเธอเคยสงสัยไหม ว่าทำไม เธอถึง มีเลือดที่สีไม่เหมือนปกติ

    บลัดดี้ที่ได้ยินคนกล่าวถึง สีของเลือดของตัวเองนั้นก็พลันหน้าเคร่งเครียดลงพร้อมกับกล่าวออกมาว่า

        คุณรู้ได้ยังไงว่าเลือดของผมมันเป็นสีดำ

         โอ้ว

    ทูน่าอุทานออกมาพร้อมกับกล่าวด้วยเสียงที่นุมนวลอีกว่า

          อย่าตกใจไปเลย  บลัดดี้  แบล็ก  คนที่บอกให้ฉันรู้เรื่องของเธอก็คือ พ่อของเธอเองยังไงละ

    บลัดดี้ที่ได้ฟังดังนั้นก็ครุ่นคิดว่า ไหนว่าพ่อบุญธรรมปิดเรื่องที่เราเป็นลูกชายไว้ไม่ให้บุคคลอื่นรู้แล้วไง

    ทูน่ามองหน้าบลัดดี้ เห็นบลัดดี้ทำหน้าเครียด เธอก็ยิ้มพร่อมกับกล่าวว่า

          เธอคงจะสงสัยสินะว่าทำไม  พ่อบุญธรรมของเธอ เป็นคนบอกฉัน

    บลัดดี้ได้ยินเธอบอกออกมาเขาก็เงยหน้าขึ้นแล้วตอบไปว่า

        ใช่ คุณรู้ได้ไงว่าผมไม่ใช่ลูกของท่านแท้ ๆ

         นั้นก็เพราะว่า พวกฉันคอยติดตามเธอมาตั้งแต่เธอออกมาจากป่าแห่งนั้นแล้ว

    บลัดดี้ได้ฟังก็ทำหน้า สงสัยว่า  ป่าแห่งนั้น  ป่าแห่งไหนกัน

    ทูน่าที่เห็นดังนั้น ก็ตัดบทว่า

        เอาละเรามาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า

    บลัดดี้เลิกครุ่นคิดแล้ว เพราะว่าเขาคิดยังไงก็คิดไม่ออกว่าป่าแห่งนั้นคือป่าอะไรและเขาก็ก้มหน้าและกล่าวถามว่า

         เอ่อ คุณ ทูน่าครับ แล้วคุณ ยูไปไหนแล้วหรอครับ

    ทูน่าที่ได้ยินดังนั้นจึงกล่าวว่า

         ไม่ต้องเรียกฉันว่าคุณทูน่าหรอกนะจ้ะ ให้เรียนฉันว่า ผ.อ ใหญ่สิจ้ะทุกคนก็เรียกฉันอย่างนั้นไม่เว้นแม้แต่ยู

    บลัดดี้ได้ฟังดังนั้นจึงรีบขอโทษแล้วกล่าวต่อว่า

         ได้ครับ ผ.อ ใหญ่  ว่าแต่ที่นี้มันที่ไหนกันหรอครับทูน่าที่ได้ฟัง

    จึงยิ้มแล้วกล่าวว่า

         ที่นี้เป็นอีกมิติ 1 ซึ่งโลกที่เธออยู่กับที่นี้มันเป็นโลกคู่ขนานกันและแน่นอนทุกอย่างที่มีอยู่ในนิทานหรือตำนานอาจจะให้เธอเห็นก็ได้ บลัดดี้ที่ได้ยินดังนั้นก็ทำท่าสงสัยแล้วถามต่อว่า

         เอ่อถ้าผมอยากจะเรียนที่นี้จะต้องเสียค่าอะไรไหมครับ

    ทูน่ายิ้มอีกครั้งก่อนจะกล่าวว่า

          ต้องจ่ายสิจ้ะแต่ของเธอมีคนมาจ่ายให้แล้ว หากแต่คุณสมบัติเธอจะต้องครบถ้าหากจะเข้าเรียนที่แห่งนี้จริง

    บลัดดี้ที่ได้ฟังจึงถามอีกครั้ง

          แล้วคุณสมบัติอีกอย่างคืออะไรหรอครับ

    ทูน่าได้ฟังจึงตอบอย่างหนักแน่นว่า

         เธอจะต้องมีพลังพิเศษหรือที่เรียกกันว่าพลังเหนือมนุษย์นะจ้ะแต่ของเธอคงไม่ต้องสอบหรอกเพราะว่าเธอมีเลือดไม่ใช่สีแดงก็คงจะไม่ปกติแหละ

    บลัดดี้ได้ยินดังนั้นจึงกล่าวตอบด้วยเสียงที่แทบจะไม่ได้ยินว่า

         นั้นสินะครับผมมันไม่เหมือนคนอื่นถ้าหากเป็นพลังอันนั้นละก็ผมคงจะได้เข้าเรียนที่นี้แน่นอน

    ทูน่าที่ได้เอียงคอมาฟังใกล้ๆ จึงหันหน้ามาบอกกับบลัดดี้ว่า

        นี่พ่อหนุ่มจะมีเลือดสีแดงหรือไม่มีเราต้องมาพิสูจน์กันจ้ะ

    ทูน่ากล่าวกับบลัดดี้และในขณะนั้นเองก็มีชายอีกคนเดินผ่านมาพอดี    

        อ่าวสวัสดีครับ ผ.อ ใหญ่

    ทูน่าและบลัดดี้หันไปมองพร้อมกัน บลัดดี้ที่เห็นผู้ชายตรงหน้าก็รู้สึกแปลก ๆ กับคนตรงหน้า ราวกับว่าเขาไม่อยากจะรู้จักด้วยยังไงยังงั้น

       อ่าว สวัสดีจ้ะ แฟนธ่อม

    ทูน่าบอกสวัสดีต้นเสียงแฟนธ่อมที่เห็นบลัดดี้เข้าจึงถามว่า

        ผ.อ ใหญ่ครับ นั้น

        อ่อ นี่บลัดดี้ แบล็คจ้ะคนที่จะเป็นนักเรียนใหม่

    แฟนธ่อมที่ได้ฟังดังนั้นจึงเดินเข้ามาจับมือบลัดดี้แล้วกล่าวว่า

    สวัสดีนะ บลัดดี้ ฉันชื่อว่า แฟนธ่อม รีเดอร์ หวังว่าเราคงจะได้อยู่ห้องเดียวกันนะ บลัดดี้ที่ได้ฟังดังนั้นก็รู้สึกแปลกๆ กับที่มือ แล้วอยู่ดีๆ ความคิดของแฟนธ่อมก็เข้ามาอยู่ในหัวของ บลัดดี้ เฮ่อ หิวข้าวจังวุ้ย ป่านนี้ เจ้ากรีนจะมายังหว่า บลัดดี้ที่ได้ฟังดังนั้นจึงถอดมือออกแฟนธ่อมที่เห็นดังนั้นก็ทำท่าท่างสงสัยก่อนจะกล่าวตอบว่า เฮ่อ หิวข้าวจังวุ้ย ป่านนี้ เจ้ากรีนจะมายังหว่า บลัดดี้ที่ได้ยินดังนั้น ก็ทำท่าตกใจ เมื่อความคิดที่อยู่ดีๆ ก็เข้ามาในหัว แล้ว ชายที่ชื่อแฟนธ่อมก็มาพูดออกมา ไม่ทันที่จะหายตกใจ ชายที่ชื่อแฟนธ่อมก็กดปุ่มสีแดงที่ สร้อยประหลาดๆ ที่คอ แล้วก็หายไปจากที่ดังกล่าว ซึ่งนั้นก็ทำให้บลัดดี้ตกใจแล้วจึงหันกลับมาถามผ.อใหญ่ว่า

        ตะกี้นี้มันคืออะไรหรอครับ

    ผ.อ ใหญ่ได้ฟังดังนั้นจึงยื่นสร้อยคอ สีดำที่ห้อยอะไ

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น