คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #31 : Soda - by ไอซ์จัง - 1
/>
“โอทันโยบิโอเมเด็ตโต้ ..ฮีชอล”
เสียงใสๆ เหมือนสตรีเพศที่ซ่อนภายใต้รูปร่างสูงโปร่งหน้าสวยเหมือนดาราหนังดังขึ้นเบาๆ เป็นเสียงอุทานเมื่อถูกทักด้วยเสียงต่ำทุ้มว่า โอทันโยบิโอเมเด็ดโต้ ซึ่งแปลว่าสุขสันต์วันเกิดในภาษาญี่ปุ่น ฮีชอลหันขวับมาทำตาโตเมื่อได้ยินเสียงคำอวยพรจากใครบางคน ปากบางคลี่สั่นระริกยิ้มครางเสียงใส
“บอมมี่ ..โอ พ่อประธานล่ำบึ้ก มาได้ยังไงกันนี่”
ฮีชอลเป็นนักเรียนชั้นมัธยมที่มี คิม คิบอม หรือ บอมมี่ของฮีชอลเป็นหัวหน้าห้องและประธานนักเรียนรุ่นนั้น
มีไม่มากนักที่จะมีนักเรียนชาวต่างประเทศเข้าไปปะปนแล้วได้รับการยอมรับจากชาวชาตินิยม แต่ด้วยทั้งรูปลักษณ์ ความสามารถ รวมถึงองค์ประกอบอื่นๆ ของคิบอม ทำให้สมัยนั้นฮีชอลจะเป็นคุณหนูที่น่าทะนุถนอมทั้งที่บ้านและที่โรงเรียน
ส่วนคิบอมเป็นหัวหน้าที่แข็งแรง น่าเกรงขาม แต่อบอุ่นและคอยช่วยเหลือเพื่อนๆ ทั้งหญิง – ชาย เสมอมา คิบอมจึงเป็นขวัญใจของเพื่อนๆ ทั้งสตรีเพศ บุรุษเพศ และ...เพศ
คิบอมเป็นลูกครึ่งญี่ปุ่น – เกาหลี บิดาจึงเคยส่งไปเรียนกับปู่-ย่า ที่ญี่ปุ่น ผิดกับฮีชอลที่เคยตั้งหลักปักฐานอยู่ที่ประเทศคันศรนั้นมาก่อน ก่อนจะกลับมาเรียนต่อที่เกาหลี ทำให้ทั้งสองพูดจาภาษาเดียวกันได้ถนัดถนี่และมีความคุ้นเคยสัมพันธ์กันมากกว่าคนอื่นๆ
ทั้งสองเพิ่งมาเจอกันอีกครั้งในงานมีตติ้งฉลองครบรอบวันเกิดฮีชอลครั้งนี้ที่ประเทศเกาหลีบ้านเกิด หลังจากจบมัธยมต่างก็แยกย้ายกันไปศึกษาต่อ จนกระทั่งได้ทำการทำงานกันทุกคน
งานครั้งนี้ฮีชอลพยายามกวาดเพื่อนๆ สมัยมัธยมมาให้มากที่สุด ถือเป็นการพบปะสังสรรค์ในตัว
“โอโต๊ะซัง (พ่อ) นายยอมปล่อยนายมาได้ยังไงกันจ๊ะ”
“พอดีกับท่านเรียกตัวกลับมาช่วยที่บริษัทในเกาหลีได้สัก 6 เดือนกระมัง เลยมีโอกาสมาวันเกิดนาย ...นี่ของขวัญ ขอให้มีความสุขมากๆ นะเพื่อน” คิบอมพูดเสียงทุ้มนุ่ม ส่งรอยยิ้มมุมปากเป็นกับแกล้มมาพร้อม
“ขอบใจจ๊ะ ตามสบายเลยนะ เพื่อนๆ กระจายกันอยู่รอบบ้าน นายไปทักทายให้ทั่วถึงเถอะ ทุกคนคิดถึงนายมากเลย ..โดยเฉพาะมินเฮ น้องสาวเรา บ่นถึงนายเสมอเลยล่ะ” ใบหน้าขาวแฉล้มของฮีชอลมิได้ดูเพิ่มอายุตามวัยสักเท่าใด ยังคงมีแววตาซุกซนสดใสไม่เคยเปลี่ยนในสายตาเพื่อนๆ
“โอเค นายรับแขกเถอะ เดี๋ยวเราจะเดินสำรวจรอบๆ เอง”
คิบอมถือโอกาสหยิบแก้วเครื่องดื่มมิกซ์-โซดา เครื่องดื่มโปรดปรานของเขาขึ้นมาหนึ่งแก้วแล้วเดินเลยหนีเสียงเจี๊ยวจ๊าวของสาวๆ ที่หนวกหูสำหรับเขา หลังจากทักทายเพื่อนระยะหนึ่งตามมารยาท
ชายหนุ่มเลี่ยงเดินเอื่อยๆ ไปด้านข้างของบ้าน ซึ่งเขาจำได้ว่ามีชิงช้าตัวโปรดของฮีชอลและมินเฮตั้งอยู่
‘อ้อ... ยังอยู่เหมือนเดิม’ คิบอมนึกในใจ
แต่บนชิงช้านั้นมีร่างของใครคนหนึ่งนั่งแกว่งอยู่เบาๆ ในมือถือแก้วเครื่องดื่มมิกซ์-โซดา เหมือนๆ กับเขา จังหวะการจิบช้าๆ เข้ากับจังหวะการไกวเบาๆ ผสานกันเป็นอย่างดี
สายตาที่ทอดยาวไปข้างหน้าอย่างไร้จุดหมาย ท้ายทอยสวยได้รูปเหมือนสตรี กางเกงขายาวสีครีม เสื้อยืดสลับลายสีเลือดนกตัวนั้นดูคุ้นตา
คิบอมย่างเท้าเข้าไปใกล้พร้อมกับทักขึ้นเบาๆ
“ทำไมมานั่งคนเดียวล่ะครับ ไม่ไปสนุกกับเพื่อนๆ ของฮีชอลเหรอครับ”
เจ้าของท้ายทอยสวยนั้นหันขวับมาอย่างตกใจที่มีคนมาทักทายและทำลายอารมณ์สุนทรีย์ของเขาในเวลานั้น นัยน์ตาโตภายใต้คิ้วเรียวคู่นั้นขมวดมองเขาอย่างงงๆ ปากบางได้รูปเม้มเป็นเส้นตรง ก่อนจะคลายออกจากกัน พักเดียวแปรเปลี่ยนความตระหนกกลายเป็นฉายแววยินดีอย่างปิดไม่มิด เสียงครางอย่างแผ่วเบาดังออกมาจากปากสวยคู่นั้น
“คิบอม... ใช่มั้ย”
“ใช่ครับ เอ่อ..ไม่ทราบคุณ...” คิบอมหรี่ตาข้างหนึ่งเพื่อนึกทบทวนจากเค้าโครงใบหน้าเทียบเคียงกับความทรงจำ
“จำฉัน... เอ๊ย ผมไม่ได้เหรอ ดองเฮอย่างไรล่ะ คนที่คุณเคยช่วยไม่ให้อาจารย์ทำโทษเมื่อคราวแอบหนีไปเที่ยวกับกลุ่มเพื่อนๆ ของฮีชอลในเทศกาลพิ้งค์เลดี้ไง” ร่างผิวขาวจัดแทบเรืองแสงเมื่ออยู่ภายใต้แสงไฟขยับปากบางเปล่งเสียงสาธยายอ่อนหวาน
“อ่อ...อ๋อ จำได้แล้ว คุณเป็นคนสุดท้ายที่ผมสามารถกันไว้เป็นสารวัตรนักเรียน เพื่อไม่ให้ถูกทำโทษนั่นเอง” คิบอมนึกอย่างขำๆ ถึงเรื่องอดีตเมื่อยามยังเป็นนักเรียน
หนุ่มสาวกลุ่มหนึ่งแอบหนีโรงเรียนไปเที่ยวในเทศกาลพิ้งค์เลดี้ซึ่งเป็นเทศกาลของสตรี ในงานนั้นจะมีแต่ของใช้ของกินทุกอย่างเป็นสีชมพูล้วน เหมาะสำหรับผู้หญิง
เขายังนึกแปลกใจอยู่ว่าดองเฮเป็นผู้ชายแท้ๆ แต่ทำไมติดสอยห้อยตามกลุ่มผู้หญิงและบรรดาเคะตัวแม่ไปงานแบบนั้นได้
สมัยก่อนนั้นดองเฮดูเหมือนจะเป็นเด็กผู้ชายห่ามๆ ทั่วไป เพียงแต่ไม่ค่อยจะพูดเท่าใดนัก มีแว่นตาบดบังกรอบหน้า ทรงผมปรกหน้าทำให้คิบอมไม่เคยจะได้เห็นใบหน้าแท้จริงแบบเต็มตาอย่างวันนี้มาก่อนเลย
“ว่าแต่ ทำไมคุณถึงมานั่งเหงาอยู่คนเดียวล่ะ” พูดพร้อมถือวิสาสะ นั่งลงบนชิงช้าสีขาวตัวนั้นข้างๆ ดองเฮ ขาของคิบอมเบียดชิดกับขาของดองเฮอย่างช่วยไม่ได้ เพราะชิงช้าตัวนั้นไม่ได้ใหญ่โตมากมาย
ดองเฮรู้สึกหน้าตาร้อนผ่าวขึ้นมาทันที ใบหน้าสีชมพูระเรื่ออย่างมีเลือดฝาดนั้นก็รู้สึกวูบวาบอย่างไม่มีเหตุผล
“ก็เห็นฮีชอลมีเพื่อนๆ มะรุมมะตุ้มมากมายแล้ว เห็นเขามีความสุขผมก็สุขใจด้วย แล้วบังเอิญ.. ผมมีเรื่องไม่สบายใจนิดหน่อย เลยมานั่งคิดอะไรๆ อยู่คนเดียวนี่แหละ”
คิบอมสังเกตเห็นนัยน์ตาคู่นั้นหม่นหมองลงวูบหนึ่ง แล้วก็กลับแวววาวเหมือนเดิม
“คุณล่ะคิบอม ไปอยู่ที่ไหนมา หลังจากจบมัธยมแล้ว ไม่ได้ข่าวคราวของคุณเลยนะ ..เอ่อ.. คุณแต่งงานมีครอบครัวแล้วหรือยัง”
ดองเฮถามพร้อมกับกลั้นใจรอฟังคำตอบอย่างใจจดจ่อรอคำตอบ คิบอมเองก็มัวแต่วิเคราะห์ความเปลี่ยนแปลงของคนตรงหน้าที่พาให้ใจละลายจึงมิทันได้ตอบสิ่งใด
“บอมมี่ .. ดองเฮ ได้เวลาตัดเค้กแล้ว เร็ววว..” เสียงใสๆ ของมินเฮดังขัดจังหวะขึ้น พร้อมกับร่างสวยน่ารักในชุดทันสมัยวิ่งมา เธอดึงมือของดองเฮและคิบอมคนละข้างให้ลุกขึ้นยืน
ดองเฮรู้สึกเหมือนเวลาแห่งความสุขได้หมดสิ้นลงทันที เขาลุกขึ้นช้าๆ อย่างเสียดาย ตาสวยคู่นั้นสบตาของคิบอมอย่างรอคำตอบ คิบอมลุกขึ้นพร้อมกับโอบบ่าของดองเฮ บีบเบาๆ ที่บ่าคู่นั้นแต่ยังไม่ได้ตอบคำถาม
ทั้งสามเดินมาถึงเจ้าภาพและเพื่อนๆ ความวุ่นวายโกลาหล เสียงร้องเพลงแฮปปี้เบิร์ธเดย์ การตัดเค้ก แจก การแกะของขวัญ พร้อมกับร่วมดื่ม อวยพรกันอย่างสนุกสนาน กลบเสียงทุกอย่างไปหมด
ก่อนจากกันวันนั้น คิบอมได้มีโอกาสชนแก้วมิกซ์-โซดากับดองเฮอีกครั้งหนึ่ง เขากระซิบบอกดองเฮว่า
“แล้วค่อยฟังคำตอบนะ”
0000000000
1 เดือนต่อมา
กริ๊ง...ง...ง...ง
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นที่โต๊ะทำงานของดองเฮ ปลุกชายหนุ่มให้ตื่นจากภวังค์ เขาละมือจากการหมุนปากกาเล่นในมือ เอื้อมหยิบรับโทรศัพท์มาแนบหู
“สวัสดีครับ ดองเฮรับสายครับ”
“สวัสดีครับ ยุ่งอยู่หรือเปล่าครับ” เสียงทุ้มๆ คุ้นหูดังขึ้นมาตามสาย ดองเฮตาโตขึ้นมาทันที เขารีบเปลี่ยนอิริยาบถในบัดดล
“คุณรู้เบอร์โทรศัพท์ที่ทำงานผมได้ยังไงกันนี่”
“ถ้าผมอยากรู้ ผมก็ต้องรู้จนได้นั่นแหละ”
“อ้อ ! ลืมไปว่าคุณน่ะเส้นใหญ่ขาใหญ่ในโซลนี่นะ” ดองเฮพูดเชิงประชดนิดหน่อย
“เส้นใหญ่น่ะใช่ แต่ขาใหญ่นี่ยังไม่แน่ใจเลยแฮะ สงสัยต้องพิสูจน์” คิบอมพูดพร้อมกับหัวเราะเบาๆ อย่างอารมณ์ดี
“วันนี้คุณมีนัดแล้วรึยังล่ะ ไปทานข้าวเย็นด้วยกันมั้ย ?”
..อกอีแป้นจะระเบิด นี่ฝันของดองเฮกำลังจะเป็นจริงหรือนี่..
“ก็ไม่เชิงนัดหรอก คุณแม่ให้รีบกลับไปทานข้าวเพราะที่บ้านจะมีแขกมา ...แต่ ตกลงผมจะไปทานข้าวกับคุณก็แล้วกัน” ดองเฮตอบอย่างไว้เชิง
“โอเค แล้วเจอกัน 6 โมงเย็นที่ร้าน ‘ซูชิลีกวนยู’ นะ”
คิบอมวางโทรศัพท์ลงแล้วก็ครุ่นคิดกับตัวเองอย่างงุนงง เขานึกถึงนัยน์ตาปริศนาคู่สวยนั้น นัยน์ตาที่เต็มไปด้วยความสับสน เว้าวอน นัยน์ตาที่เต็มไปด้วยความเศร้า
..ทำไมเขาจึงอยากค้นหาคำตอบจากเพื่อนเก่าคนนี้ ?
..แล้วทำไม เขาถึงต้องเก็บมาคิดกับคำถามที่ว่า
“คุณมีครอบครัวแล้วหรือยัง”
ทั้งๆ ที่มันเป็นคำถามธรรมดาๆ ที่เพื่อนเก่าไม่ได้พบกันนานเขาถามกัน เออ..แปลก
0000000000
หน้าร้านซูชินั้นมีรถจอดเต็มไปหมด ดองเฮค่อยๆ มองหาที่จอดรถ เขาเห็นช่องว่างใกล้ๆ กับรถออดี้สีขาวสว่างคันนั้น เขาค่อยคลานเทียบเข้าไปจอดพร้อมกับเขม็งมองที่รถยนต์คันนั้น
‘โอ..พระเจ้า รถในฝัน ออดี้สีขาวมีสปอยเลอร์เข้าชุดรุ่นใหม่ล่าสุด ดูล้อแม็กซ์นั่นอีก อ๊ากกก ใครกันนะ ช่างมีรสนิยมเหมือนเราเลย’
ดองเฮนึกอยากได้มานานแล้ว แต่ราคาของมันสูงมาก เพราะเพิ่งเข้ามาในเกาหลีเป็นคันที่ 5 เท่านั้นเอง ของใครกันนะ อยากจะเจอหน้าเจ้าของรถคันนี้เสียเหลือเกิน เขาคงจะรวยมาก และคงเป็นคนที่รสนิยมดีพอควร
“อิดัทไซมัตเซ” (ยินดีต้อนรับ)
เสียงพนักงานต้อนรับร้านอาหารญี่ปุ่นนั้นกล่าวเชิญเขาด้วยภาษาเดียวกับสไตล์ของร้านเพื่อให้อรรถรสการดื่มดำของแขกผู้มาเยือนได้รู้ว่า อาหารในร้านจะเป็นแบบต้นตำหรับแท้ๆ อย่างแน่นอน พนักงานคนเดิมโค้งหัวแทบจรดดิน
“มากี่ท่านครับ...”
ดองเฮรู้สึกเขินเล็กน้อย แล้วค่อยปล่อยคำตอบเบาๆ
“”เอ่อ.. คือ ผมนัดเพื่อนไว้ครับ”
“คุณ คิม คิบอม ใช่มั๊ยครับ ...เชิญทางนี้ครับ”
หนุ่มหน้าหวานรู้สึกทึ่งเล็กน้อย รำพันในใจเมื่อได้เห็นว่าคนที่ตนเองนัดไว้วันนี้นั้นดูมีอิทธิพลไม่น้อย
‘โอว... นี่คิบอมเขายิ่งใหญ่ขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย’
0000000000
สวัสดีจ๊ะ
เรื่องนี้เป็นเรื่องหนึ่งของคนในครอบครัวบอลลูนแต่งให้ (อีกแล้ว)
น่ารักกุ๊กกิ๊ก (แต่ไม่เศร้าในตอนท้ายแล้วนะ แงๆ บอลลูนยังนอยกับน้องซันอยู่เลย)
ฝากงานเขียนเรื่องสั้นของคุณ ไอซ์จัง ไว้อีกคนนะจ๊ะ
จะมีกลิ่นอายของญี่ปุ่นอยู่เนืองๆ เสมอ ตามความถนัดของคุณไอซ์จัง
ซึ่งต่างกับคุณ อนรรฆรินทร์ ที่จะมีประสบการณ์เรื่องประเทศเกาหลี
(พี่น้องคู่นี้เค้าชอบกันคนละประเทศจ้า คนพี่นิยมเกาหลี ส่วนคนน้องชอบใจญี่ปุ่น)
เอาล่ะ เดี๋ยวเรามารออ่านกันดีกว่าเนอะ เรื่องนี้ 3 ตอนจบจ้า
แล้วก็เอ่อ... เรื่องนี้อาจจะมีฉากเรท ถ้าตอนไหนลงไม่ได้
บอลลูนจะแจ้งให้เพื่อนๆ ทิ้งอีเมลล์เอาไว้นะจ๊ะ
อ้อ... เรื่อง Son ฉากที่หายไปนั้น
เรียนตามตรงว่า บอลลูนค่อนข้างงงกับคนที่ให้ไปแล้วกับคนที่ยังไม่ได้ให้ (สติความจำไม่ค่อยดี)
ยังไงถ้าเพื่อนๆ คนไหนได้รับเมลล์เรื่อง Son ไปแล้ว
แฮ่ๆ... ถ้าว่างก็รบกวนส่งอีเมลล์นั้นต่อให้กับเพื่อนๆ คนใหม่ๆ ที่มาขอด้วยได้ม๊า....
(me/ ทำตาวิบวาวขอร้องเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ที่น่ารัก ด้วยใบหน้าแอ๊บแบ๊ว)
ขอบคุณล่วงหน้านะเพคะ
สวัสดีจ้า
ความคิดเห็น