ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    SF-SJ Vol.4 [SJ-Yaoi-KiHae]

    ลำดับตอนที่ #28 : Son - by อนรรฆรินทร์ - 2

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.55K
      3
      26 พ.ย. 52











    /> />

    คิบอมสงสารรุ่นพี่ชาติเดียวกันจับใจที่เจอมรสุมปัญหาโลกแตกโดยประมาท  มือข้างขวาของคิบอมปาดน้ำตาให้ดองเฮแผ่วเบา  ส่วนแขนซ้ายที่โอบอยู่เลื่อนขึ้นมาที่ลำคอบีบนวดเบาๆ ใบหน้าของดองเฮเคลื่อนเข้าหาปากนิดจมูกหน่อยของคิบอม 

    ในขณะนั้นคิบอมยังเป็นคนร่างเล็ก  หน้าตาน่ารัก  ผิดกับดองเฮที่สูงใหญ่และหล่อเหลากว่า  เขามาเรียนที่แคนาดาเวลาสามปีแล้ว  มีชาวเกาหลีมาเรียนหลายคน  แต่คิบอมรุ่นน้องผู้นี้ชอบอาสาช่วยเหลือเขาทุกอย่าง 

    คิมคิบอม หรือ บอมบอกว่าเขาเป็นลูกคนเดียว  บิดาเข้มงวดและดุมาก  ชอบพาเขาไปตกปลา  ขี่ม้า  ยิงปืน  ทั้งๆ ที่เขาชอบอยู่บ้าน   ตกแต่งบ้าน  ทำอาหารและจัดสวน  คิบอมมักจะเข้าไปช่วยทำ

    ความสะอาด  ตกแต่งห้องให้เขาเสมอ  เวลาเขาออกเดทกับเพื่อน  หากดื่มหนักหน่อยก็จะขอแวะนอนโซฟาที่ห้องของคิบอมซึ่งอยู่ใกล้ๆ กับห้องของเขา  และได้รับการปรนนิบัติอย่างดีเสมอ  คิบอมรับฟังเขาได้ทุกเรื่อง  แม้แต่ดองเฮอาเจียนคิบอมก็ไม่เคยรังเกียจ

     

    คิบอมเผยอรับริมฝีปากอบอุ่นและนุ่มนวลนั้นอย่างเต็มใจ  ดองเฮดึงร่างของคิบอมให้เข้ามาชิด  คิบอมแอ่นเข้าหาโดยอัตโนมัติเหมือนมีแม่เหล็กดึงดูด 

    ดองเฮถอนริมฝีปาก  พูดแหบพร่าปนกระเส่ากับรุ่นน้อง

    คิบอม  ช่วยพี่นะ  อย่าทิ้งพี่



                  -----   ส่วนที่หายไป  รบกวนเพื่อนๆ ทิ้ง E-mail ที่กล่อง Comment ไว้  เดี๋ยวบอลลูนจะจัดส่งให้นะจ๊ะ
                           ป้องกันระบบตัวแดงที่อาจจะมาเยือนเราได้  เหอๆๆ 
                           เพราะเรื่องนี้ยังต้องลงอีกยาว  เหลืออีกตั้งหลายเรื่องแหน่ะเนอะ 
                           ขอบคุณมากจ๊ะ  -------------

     



     

    ดองเฮรินน้ำบรั่นดี  เพิ่มยิ้มอย่างมีความสุข  เมื่อนึกถึงครั้งแรกของเขากับคิบอม  จนบัดนี้เขาเป็นดารานักร้องดังและมีคิบอมเป็นผู้จัดการส่วนตัว  แม้จะไม่ใช่เด็กหนุ่มผู้น่ารักอย่างอดีต แต่กาลเวลานั้นกลับทำให้คิบอมกลายเป็นชายหนุ่มเต็มตัวหล่อเหลา ร่างกายล่ำสันมากกว่าเขาไปแล้ว

    คิบอมรับใช้ดองเฮทุกอย่างเหมือนทาสผู้ซื่อสัตย์ จัดการตั้งแต่ไม้จิ้มฟันยันเรือรบ  ดังนั้นจึงเหมือนพ่ออีกคนของซันฮยอนด้วยซ้ำไป

    ที่บิดามารดาของดองเฮเข้าใจและไปรับมาคลอดที่โซลนั้นก็ด้วยความช่วยเหลือจากคิบอม  ซูซี่เธอไม่แยแสกับเลือดในครรภ์ก้อนนี้เลย  เมื่อพักฟื้นแล้วก็บินกลับไปโดยไม่เคยติดต่อหรือถามข่าวตามข้อตกลงพร้อมเงินก้อนโตที่หอบกลับไป  มีเพียงคิบอมที่คอยเอาใจใส่สองพ่อลูกประหนึ่งเป็นบุพการีทดแทน

     



    ดองเฮมองภาพเด็กชายวัยสิบสามซึ่งห่างจากเขาสิบสี่ปี  แต่ด้วยความที่เขาเป็นซูเปอร์สตาร์  ต้องดูแลร่างกาย  ประทินโฉมจึงหน้าอ่อนนวลเนียนกว่าอายุยี่สิบแปดปีของเขา  เขาอ่านข้อความแฮปปี้เบิร์ธเดย์อีกครั้ง  เขายิ้มอย่างเป็นสุขนึกถึงเด็กชายตัวน้อย

     

    ป๊ะ  ไม่เอา..ขี่คอ  จะขี่คอ 

    ดองเฮหัวเราะร่วนกลางสวนสนุกกับคิบอม  คว้าลูกชายขึ้นมาขี่คอเดินชมนกแก้วหลากสีภายในโซลฮดาลปาร์ค  ซึ่งเป็นสวนสนุกผสม  ก่อนทั้งคู่จะไปนั่งรถไฟเหาะตีลังกา  ซันเป็นเด็กเก่ง  ร่าเริง  

     หน้าตากระเดียดมาทางพ่อ  แต่ผมและคิ้วรวมทั้งตานั้นได้สีมาจากแม่  ซันไม่กลัวอะไร  สามารถเล่นเครื่องเล่นผาดโผนได้โดยไม่ร้อง  ผิดกับคิบอมที่บางครั้งขอรอด้านล่างเพราะเขากลัวความสูง

    อาบอมน่าจะเป็นผู้หญิง  ซันแหย่

    ทำไมล่ะ  คิบอมถามหน้าเหลอตาโต  เพราะตอนนี้เขาเองก็ไม่ใช่เด็กหนุ่มตัวเล็กอย่างเคย สูงกว่าดองเฮหลายเซนติเมตรด้วย

    ก็สะอาด  ขี้บ่น  เจ้าระเบียบ  ขี้กลัว  เด็กชายหัวเราะชอบใจเมื่อคิบอมค้อนในแบบฉบับของเขา

    ดู๊..ดูๆๆ  ป๊ะดู  ทำยังกะนางเอก  นี่ถ้าอาบอมเป็นผู้หญิงจริงจะให้มาเป็นเมียป๊ะ  เป็นแม่ซัน  ซันขี้เกียจถามหาแม่  ถามใครก็บอกว่าแม่ตายไปแล้ว  เด็กชายพูดพาซื่อ  แต่ผู้ใหญ่ทั้งคู่ทำสีหน้าปั้นยาก

    ..ทั้งเรื่องมารดา  แล้วก็เรื่องสถานะสามีภรรยาที่สลับขั้วกัน..

     





    ซันฮยอนไปเรียนต่อเกรดแปดที่ออสเตรเลีย  ปู่กับย่าจะไม่ยอมให้ไป  แต่ดองเฮคุยกับบุตรชายอย่างเข้าใจ  เพื่ออนาคต  เพื่อหนีจากสังคมวุ่นวายของกรุงโซล  เพราะดองเฮอยู่ในวงการ  เขาจึงรู้ว่าคนสวมหน้ากากเข้าหากัน  คบกันที่ผลประโยชน์  ความหยิ่งความรักชาติในสายเลือด  ประเพณีวัฒนธรรมที่ขึ้นชื่อกำลังจะถูกบดบังด้วยคนรุ่นใหม่ที่เปิดโลกรับอารยธรรมเข้ามา  สังคมบางส่วนที่ถูกปิดบังเหมือนประตูที่ปิดตายก็กำลังเปิดแง้มให้แสงสว่างลอดเข้ามา 

    เหมือนเขากับคิบอมที่การศึกษาในประเทศเปิดกว้าง  จะทำให้ความคิด   ทัศนคติ  ทันโลกทันสมัย  รวมถึงได้ภาษากลางของโลกไว้ใช้ติดต่อ  ดีต่อบุตรชายในอนาคต 

    แต่ถึงอย่างไร  ดองเฮก็ยังอยู่ในม่านเมฆอยู่ดี  เพราะเบื้องหน้าเขาคือดาราที่มีประชาชนต้อนรับมากที่สุด  เขาจึงต้องรักษาภาพลักษณ์อย่างดี  ไม่สามารถเปิดเผยเรื่องของตนและคิบอมได้ 

    ถึงจะอยู่คนละประเทศ  แต่ความสัมพันธ์ของสายเลือดไม่เคยห่างไม่เคยจาง  เพราะความทันสมัยของเทคโนโลยี  บิดามารดา ของเขาบินไปเยี่ยมหลานบ่อยครั้งกว่าตัวเขาที่ไม่ค่อยมีเวลาเสียอีก  ส่วนเขาใช้วิธีการติดต่อทางโทรศัพท์หรืออีเมลล์ไม่เคยขาดแทน

     



    0000000000000000000

     



     

    ก๊อกๆๆ...

    เสียงเคาะประตูเรียกให้ดองเฮลืมตาขึ้น

     

    ก๊อกๆๆ...

     

    คุณลีครับ  คุณลี  เสียงคิบอมเรียกหน้าห้อง  แสดงว่าเขามาแล้วเพราะคิบอมไม่ได้พักอยู่กับเขา  ดองเฮเหลือบมองนาฬิกาหรูสไตล์ฝรั่ง  เป็นตู้ตั้งโค้งมนสลักเสลาอยู่  ข้างประตูด้านบนมีนกอินทรีย์คู่หนึ่ง  พร้อมที่จะกางปีกบินถลาและร้องกริ๊กๆ เสียงดังเมื่อผู้ปลุกต้องการให้ปลุก

    ดองเฮบิดขี้เกียจ  ยกมือป้องปาก  พิสูจน์ลมหายใจก่อนไปเปิดประตู  คิบอมยืนอยู่หน้าห้องด้วยชุดสีดำเทาทันสมัย





    มอร์นิ่งครับ  คุณลี  เขาทัก  แต่ดองเฮคว้าตัวเขาเข้ามาในห้อง กอดและหยอดคำหวาน

    สวยจัง  ยาหยี  คิบอมเบี่ยงตัวหลบ  กาลเวลาจะผ่านไปนานเท่าใดดองเฮก็ยังติดภาพคิบอมหนุ่มตัวน้อยหน้าตาน่ารักซึ่งเขาคิดว่าตอนนั้นคิบอมหน้าตาสวยกว่าผู้หญิงเสียอีก  ต่อให้คิบอมโตขึ้นเท่าใดหรือแม้ปัจจุบันจะตัวโตกว่าตนเองแล้วก็ตาม  เขายังรู้สึกอย่างเดิมกับคิบอมเสมอ

    ฮื่อ...  คุณต้องไปเลี้ยงเด็กกำพร้าตอนเช้า  และไปโบสถ์ตอนสาย  ตอนบ่ายมีจิบน้ำชาที่บริษัท  และเลี้ยงบนเรือล่องแม่น้ำฮันตอนเย็น 

    คิบอมบอกรายการยาวเหยียดของวันนี้เหมือนเครื่องที่มีหน่วยความจำที่จะบรรยายเมื่อถูกกดเมมโมรี่  ดองเฮอ้าปากค้างอย่างทุกวัน คิบอมอธิบายคิวตารางงานยาวเป็นหางว่าว

     

    วันนี้วันที่เท่าไหร่

    วันที่ 15  ตุลาคม  2009 ครับคุณลี



                                                                 




    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×