คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #17 : [..-Real Situation-..] 7
/>
คิบอมระลึกถึงสองประโยคนั้นแล้วก็ทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้น
...เขาไปมีอีหนูนอกบ้าน แต่ไม่มีใครเป็นเคะ เขาเลือกที่จะมีอีหนูเป็นผู้หญิงเพราะคำสัญญานั้น ...ใช่รึเปล่านะ ?
“แล้วม๊ะล่ะ ทำไมถึงเคะให้คนอื่น ?”
เขารำพันนึกถึงดองเฮในอ้อมกอดชายอื่นแล้วหดหู่ใจ ความลิงโลดทั้งหมดมันแห้งเหี่ยวไปกับหัวใจที่เริ่มจะตายด้านขึ้นทุกที
“หรือว่าจริงๆ แล้ว ม๊ะก็แค่...ทำตามหน้าที่”
..
..
“ไปขับรถเล่นกันมั้ย ?” ซีวอนเสนอเมื่อเห็นว่าดองเฮนั่งตาลอยๆ
“หา.. ตะกี้ว่าไงนะฮะ”
“เฮ่อ... ผมไม่อยากให้คุณเป็นแบบนี้เลย ทำไมไม่คุยกันล่ะครับ”
“ช่างเหอะ อย่าพูดถึงมันเลย อ้าว..แล้ววันนี้ซีวอนไม่ต้องพาคู่หมั้นไปทานข้าวรึไง” ดองเฮถามเสียงเรียบ
“ครับ แต่ห่วงคุณ เลยแวะมาที่นี่ก่อน”
“เฮ้ย ไปเถอะ ไม่ต้องห่วง ทำหน้าที่ตัวเองให้ดี เดี๋ยวเราจะออกไปขับรถเล่นแล้ว”
“เอางั้นก็ได้ครับ พอผมไปส่งเธอเสร็จจะรีบกลับมาหานะครับ” ซีวอนกุมมือดองเฮเบาๆ ก่อนจะรวบตัวคนที่ตนเองรักแต่ไม่สามารถครอบครองหัวใจได้มากอดเบาๆ จุมพิตที่หน้าผากเบาๆ ประทับรอยจูบนุ่มนวลไว้ที่ริมฝีปากนั้น
มือขาวลูบไล้แผ่นหลังแข็งแรงก่อนจะเลื่อนลงมาขยำก้นกระชับของซีวอนเล่นๆ ทำให้เจ้าตัวสะดุ้ง ถอนปากออกมามองใบหน้าหวาน
“ถ้ามากกว่านี้ ระวังจะไม่ได้ไปหาแฟนนะซีวอน ฮ่าๆ รีบไปเถอะ” ดองเฮบอก
“ครับ” แล้วซีวอนก็จากไป
“เฮ่อ... ไปขับรถเล่นก็ได้ฟะ”
..
..
รถยนต์ Audi สีขาวขับอย่างเอื่อยเฉื่อยไร้จุดหมายไปตามเส้นทาง เนิ่นนาน มิได้สนใจการจราจรหรือสิ่งอื่นใดรอบตัว
...ไม่รู้แม้กระทั่งว่ามีใครตามตนเองอยู่...
ท้ายแล้ว ดองเฮหักเลี้ยวไปจอดยังริมฝั่งแม่น้ำฮัน แม่น้ำที่เขาคิดว่าเป็นสิ่งเติมความชุ่นชื่นให้ชีวิตได้เสมอในยามที่ท้อแท้ แสงไฟสาดไปยังแม่น้ำให้เขาได้มองเห็นความวุ่นวายของผิวน้ำที่ถูกสายลมพัดพามิให้นิ่งสนิท
ดองเฮสูดหายใจเข้าลึกๆ ให้เต็มปอดขณะหยุดเดินริมแม่น้ำแห่งนั้น แล้วตะโกนสุดเสียง
“ไอ้บ้า.....อ้า..อ้า..อ้า..อ้า..อ้า” แววอัดอั้นตันใจมิได้ลดลงทั้งที่ตะโกนต่อว่าใครบางคนไปแล้ว
“ไอ้เจ้าชู้เอ๊ย...ย..ย..ย..ย..ย”
“ขอให้นายไม่ตายดี..อี..อี..อี..อี”
“ไอ้ผัวเฮงซวย..ย..ย..ย..ย..ย..ย”
เนิ่นนานแล้วที่ผู้ถูกด่าลอบมองการระบายอารมณ์ของภรรยา เขายังยืนฟังคำที่ภริยาตนเองด่าทอตนเองอยู่ ในใจมิได้สุขสมไปกว่าคนที่ยืนด่าเลยแม้แต่น้อย ในที่สุดคิบอมก็เผยตัวออกมาจากความเงียบงันด้วยถ้อยคำเบาๆ
“ม๊ะ ...ด่าใครน่ะ”
“ก็ด่าผัวน่ะสิป๊ะ...หา ป..ป๊ะ ป๊ะเหรอ” ดองเฮเผลอตอบตามสันชาตญาณความเมามัน เมื่อหันมามองจึงได้รู้ตัวว่ากำลังพูดกับคนที่ตนเองไม่อยากจะพูดด้วยที่สุดในตอนนี้
ทั้งสองยืนจ้องมองกันและกันอยู่ชั่วครู่หนึ่ง มีถ้อยคำมากมายที่อยากจะพรั่งพรูออกมาสื่อถึงกันและกัน แต่ยามนี้อากาศที่กั้นกลางระหว่างทั้งสองดูจะกลายเป็นหินแกรนิตไปเสียมากกว่า เพราะทิษฐิที่มีในใจ
“ทำไมต้องด่า...” คิบอมเปิดปากก่อน
“สมควรมั้ยล่ะ”
“แล้วทีม๊ะล่ะ ตอนเมื่อก่อนตัวเองทำ...ไม่เห็นคิด” อย่างไรเสียคิบอมก็ยังฝังใจกับเรื่องในอดีตที่ตนเองเห็นว่าดองเฮเป็นคนเจ้าชู้ สามารถเอาชนะใจคนที่เขาหมายปองได้ทุกคน ...แล้วก็ทิ้ง
“เหมือนกันที่ไหนล่ะ”
“....” คิบอมไม่ตอบ สะบัดหน้าทีหนึ่งแบบขัดใจแล้วหันหน้ามาเผชิญใหม่ “แล้วจะเอายังไง”
“ถามทำไม” ดองเฮคิดว่ามาถึงขั้นนี้แล้วยังจะต้องถามอะไรกันอีก สถานการณ์มันบ่งบอกทุกอย่างชัดเจนดีอยู่แล้ว
“พ่อกับแม่... คิดถึง” หนุ่มหน้าอูมเอาผู้อื่นมาบังหน้า
“แค่นั้น ?”
“ท่านถามถึง นมก็ด้วย”
“จบรึยัง ?” ยิ่งพูดก็ยิ่งทำให้ดองเฮหงุดหงิดใจ เขารู้ดีว่า
คิบอมก็รักตนเอง เป็นคิบอมเองนั่นล่ะที่คิดถึงเขา แต่ตราบใดที่มันยังไม่หลุดจากปากของคิบอม เขาก็คงจะเชื่ออะไรไม่ได้...ไม่อยากคิดเข้าข้างตัวเองอย่างที่แล้วมา เหมือนกับเรื่องที่ว่าเขาอาจจะทำให้คิบอมเลิกเจ้าชู้ได้
“จิ๊” อีกครั้งที่คิบอมสะบัดหน้าอย่างหัวเสีย “ไอ้หมอนั่นมันมีอะไรดีนักหนา” ฝ่ายสามีก็ชักมีน้ำโหที่เห็นทีท่าชาเย็นของดองเฮ “มันจะต้องแต่งงานในอีกไม่ช้าอยู่แล้ว ม๊ะจะโง่ไปถึงไหน มันไม่ได้จริงใจด้วยซักหน่อย” แน่นอนว่าคิบอมจะต้องตามสืบเรื่องซีวอนมาจนเกลี้ยงแล้ว
“ก็โง่มานานแล้วนี่ ปล่อยให้ป๊ะไปมีคนอื่นตั้งหลายปี มีตั้งกี่คนแล้วล่ะ จะโง่ต่ออีกซักหน่อย... อีกซักคนจะเป็นไรไป ไม่ใช่ครั้งแรกซักหน่อย”
“ม๊ะ !!” คิบอมตวาดเสียงดังทั้งที่ตั้งแต่แต่งงานกันมายังไม่เคยทำแม้แต่ครั้งเดียว ต่อให้ดองเฮตามไปตบตีราวีผู้หญิงที่ไหนเขาก็ยังไม่เคยทำ แต่ครั้งนี้ฟิวส์ขาด
“ทำไมต้องพูดลดค่าตัวเอง” ยิ่งดองเฮพูดเท่าไหร่มันก็ยิ่งกรีดใจเขาทุกครั้ง ทั้งๆ ที่ดองเฮไม่ได้ด่าเขาด้วยซ้ำ
“ค่าเหรอ... ลีดองเฮหมดค่าตั้งแต่วันที่ยอมเป็นเมียของคนที่ชื่อคิมคิบอมแล้ว นายรู้จักเค้ารึเปล่า คนที่ฉันยอมไร้ค่าเพราะเค้าน่ะ เฮอะ นายคงไม่รู้จักเค้าหรอก” ว่าแล้วก็เบี่ยงหน้ายืนหันหลังให้กับคิบอม เบนหน้าไปทางแม่น้ำ ให้น้ำในตาทีรินไหลได้พบกับเพื่อนอีกมากมายในสายนที
“ผม... ม๊ะ อย่าร้องไห้สิ ป๊ะบอกแล้วว่าไม่ชอบน้ำตา” ต่อให้ดองเฮสะกดเสียงสะอื้น มีเพียงน้ำใสใสหลั่งออกมาคิบอมก็รู้ดีว่าตอนนี้ภรรยาตนเองกำลังเสียน้ำตา ...อีกครั้ง
เพียงแต่ครั้งนี้มันต่างออกไป อยู่กันมาหลายปีดองเฮมีเพียงแค่น้ำตาคลอเบ้าให้เขาเห็น ดองเฮเข้มแข็งเกินกว่าจะร้องไห้ฟูมฟายเหมือนคนไร้สติ มีเพียงครั้งเดียวที่คิบอมได้เห็นมันเต็มๆ ตาก็คือวันที่ทั้งสองมีสัมพันธ์กันทางกายเป็นครั้งแรก
...เป็นครั้งแรก (ทางด้านหลัง) ของดองเฮเช่นกัน คิบอมไม่ใช่คนผอมบางตัวเล็กจ้อย ทุกสิ่งมันก็สัมพันธ์กับร่างกายเขา ทุกๆ ส่วนจึงได้เจริญเติบโตเป็นอย่างดี การสอดรักครั้งนั้นสร้างความเจ็บปวดจนดองเฮต้องหลั่งน้ำตาให้เขาได้เห็น
และครั้งนี้ คิบอมขี้ขลาดเกินกว่าจะเดินเข้าไปกอดปลอบ เขาไม่สามารถทนเห็นน้ำตาของลีดองเฮได้
สายธารกับเวลาคล้ายจะหยุดนิ่งลงตรงนี้ รู้สึกตัวอีกครั้ง
คิบอมก็ได้ยินคำถามหนึ่งกระตุกให้ทุกสิ่งกลับคืนมายังที่เดิม
“ทำไม ?”
ไร้ปี่ ไม่มีขลุ่ย คำถามดุ่ยๆ ของดองเฮนั้นทำให้คิบอมคิดตามไม่ทัน
“อะไร ...ทำไมนี่คือถามถึงอะไร”
“ทำไมถึงทนอยู่กับผมอีกล่ะครับ คุณคิบอม”
“เลิกพูดแบบนี้ซักทีเถอะน่าม๊ะ” คิบอมเดินเข้ามาประชิดตัว ใช้สองแขนอันแข็งแรงไปจับที่บ่าของดองเฮเขย่าเบาๆ ...แล้วเพิ่มแรงขึ้นตามอารมณ์ที่พรั่งพรู
“คิดว่าผมจะบ้าคว้าคุณมาเป็นเมียเพราะนึกสนุกรึไง ฮะ.. ผมไม่ได้บ้าขนาดจะคว้าคู่แค้นมาเป็นเมียเพราะนึกสนุกหรือว่าอยากจะทำอะไรเพี้ยนๆ หรอกนะ รู้บ้างมั้ย”
“นั่นสิ หรือเพราะว่าผมเป็นคู่แค้นของคุณ ถึงได้อยากจะแก้แค้น” ดองเฮพูดพลางตาแดงก่ำ สะกดอารมณ์พูดให้นิ่งที่สุด
“.....” คิบอมสะอึก เขาอยากจะปฏิเสธเหลือเกินว่ามันไม่ใช่ แต่นั่นก็เป็นส่วนหนึ่งของความจริง
ใช่... เขาเห็นว่าดองเฮเป็นคู่แค้น
จริง... ที่เขาเกิดอยากจะแก้แค้น จึงได้ยังมิได้เลิกนิสัย Play Boy มันเหมือนนิสัยเด็กๆ ที่อยากจะแสดงให้เห็นว่า เขาเหนือกว่า เขาสามารถเอาชนะได้
แต่ไม่ถูก... เรื่องที่ต้องทน เขาไม่ได้ทนอยู่กับดองเฮแม้แต่น้อย สิ่งที่เขาทำมันกลับเป็นความสนุกอย่างหนึ่งจนเขาอดไม่ได้ที่จะทำต่อไปเรื่อยๆ
ยิ่งเห็นดองเฮหงุดหงิด ก็ยิ่งรู้สึกว่าเขาสนุก
ยิ่งเห็นดองเฮตามโมโหราวีอีหนู ก็ยิ่งรู้สึกว่าดองเฮหวงเขา
ยิ่งเห็นดองเฮเสียใจเวลาเขาไปหาคนอื่น ก็ยิ่งรู้สึกว่าดองเฮรักเขามากเพียงใด
..ความคิดโง่ๆ ของคนที่เคยแพ้ แต่อยากชนะใจใครบางคน..
“แบบนั้นสินะ หึหึ ซื้อไม่ถูกแต่หวยจริงๆ ลีดองเฮ” น้ำเสียงเศร้ากล่าวเยาะเย้ยตนเองให้เข้มแข็งขึ้น
“มันไม่ใช่แบบนั้นหรอกน่า” คิบอมคลายแรงบีบหัวไหล่มน “ทำไมชอบคิดมาก เมื่อก่อนไม่เห็นคิดมากเลย ใครสอนให้กลายเป็นคนซีเรียสแบบนี้ ป๊ะยังทำใจได้เลยตอนที่ม๊ะยังร่าเริงกับ...คนพวกนั้น” เขายังขุดเหตุผลส่วนตัวมาใช้
“คนพวกนั้น... ใคร ?”
“ก็... ไอ้พวกเด็กๆ ของม๊ะไง มีความสุขมากนี่ตอนนั้น เห็นลอยหน้าลอยตาสวีทกันไม่แคร์สื่อ ไม่ถือเรื่องคนมอง เปลี่ยนควงหน้าไม่ซ้ำ แถม...”
ใบหน้าขาวสว่างประชิดเข้ามาใกล้จ้องมองดวงตาคิบอมเพื่อรับฟังสิ่งที่ตามมา ไม่ต้องมีคำพูดใดใดคิบอมก็พอทราบว่าเขาควรจะพูดต่อ มิใช่เงียบหายไป
“แถม... คนพวกนั้นป๊ะก็หมายมั่นปั้นมือว่าจะ...” คิบอมลูบท้ายทอยตัวเองเบาๆ เหมือนไม่เต็มใจจะพูดเท่าใดนัก
“หึ... ตาบ้าเอ๊ย” ดองเฮหัวเราะพรืดออกมา อดใจไม่ได้ที่ใช้สองมือยีศีรษะที่เซ็ทมาเป็นทรงอย่างดีของคิบอมให้มันพัง
“โอ๊ย ม๊ะ ทำอะไรเนี่ย เดี๋ยวป๊ะก็หมดหล่อกันพอดี” ชายหนุ่มที่สูงกว่าเล็กน้อยแต่ผิวคล้ำกว่ามากปัดป้องเต็มกำลัง แต่ก็ยิ้มออกมาได้ที่น้ำตาเคยไหลนั้นหยุดแล้ว
“ฮึ่ย โอเค ถ้างั้นถือว่าเราหายกันนะ ถัวเฉลี่ยที่เคยทำกันไว้” ดองเฮหยุดมือแล้วพูด
“งั้นกลับบ้านนะม๊ะ” ใจชื้นขึ้นเป็นกองที่ได้ยินอย่างนั้น คิบอมรวบสองมือมากุมแล้วพูดเสียงอ่อนหวานขึ้นให้ภรรยาใจอ่อน
“ไม่ล่ะ ถ้าเราไม่มีอะไรติดค้างกันแล้ว ก็พอแค่นี้เถอะนะ ขอให้คุณมีความสุข ผมลาล่ะ”
“เฮ้ๆๆ หมายความว่ายังไงม๊ะ ...ก็ไหนว่าเราเคลียร์กันแล้ว” คิบอมหน้าเหวอ ไอ้ท่าทางที่ไม่คิดมากเหมือนอย่างกับสมัยที่เขามักพบเจอลีดองเฮตอนเรียนมหาวิทยาลัยนั่น ...ทำไมมันปรากฎออกมาตอนนี้นะ
“ก็เคลียร์ไง โอเคแล้ว ตอนนี้ผมรู้แล้วว่าอะไรเป็นอะไร เราไม่มีอะไรคาใจกันแล้วนะ โชคดีล่ะ”
“ลีดองเฮ !! คุณจะทำกับผมอย่างงี้ไม่ได้นะ ผมไม่ใช่คู่ขาของคุณ จะมาทิ้งขว้างผมแบบไม่มีเยื่อใยด้วยคำไม่กี่คำเนี่ยนะ ฝันไปรึเปล่า” คิบอมยื้อยุดฉุดร่างที่เคยกกกอดไว้อีกครั้ง น้ำเสียงดุดันผ่อนผันลงกลายเป็นอ่อนล้าพร้อมกับสายตาที่ดองเฮไม่เคยได้เห็น
“ผมก็เคยคิดอย่างงั้น” ดองเฮเคยคิดว่าคิบอมจะเป็นคนพิเศษ มิใช่คนที่ผ่านเข้ามาแล้วจากไปอย่างใครๆ ในอดีต เขาคิดแบบนั้นเมื่อวันที่สองคนรวมร่างรวมใจกันในคราวแรก
“แต่ตอนนี้... คงไม่ใช่แล้วล่ะ เพราะคุณก็ไม่ได้ต่างจากคนอื่นๆ หึหึ อาจจะแย่กว่าด้วยซ้ำ”
“อย่างน้อย... ก็..ขอให้... ให้” คิบอมเว้นช่วงเวลาคิด ก่อนจะยื้อเวลาด้วยสิ่งที่คิดออกในสมอง “ขอให้ผ่านวันเกิด เอ๊ย ไม่ไม่ ต้องผ่านวันเลี้ยงรุ่นก่อน”
“เพื่ออะไรล่ะ” แขนขาวนั้นแดงเป็นรอยปื้นเพราะแรงยื้อยุดจากมือของคิบอม
“เอ่อ.. ปีนี้คุณพ่อกับคุณแม่จะต้องจัดเลี้ยงให้ในวันเกิด แล้วก็... ก็รู้ว่างานเลี้ยงรุ่นมีแต่พวกปากหอยปากปู คอยจับผิดแล้วก็นินทา ถ้าไม่เห็นว่าเราสองคนไปด้วยกันพวกนั้นต้อง...” ก่อนที่คิบอมจะหลุดพล่ามพูดอะไรไปมากกว่านี้ ดองเฮก็รีบรับปากตัดความรำคาญทันที
“ก็ได้ๆ ...คุณนี่มันห่วงตัวเองจนถึงนาทีสุดท้ายจริงๆ” เมื่อนึกแล้วว่าจะต้องจากกันแล้วจริงๆ ดองเฮก็อยากจะจากกันอย่างสันติ มีสิ่งดีดีไว้คอยให้นึกถึงบ้างอย่างที่ยามเขาเลิกกับทุกๆ คน จึงได้ยอมให้ยื้อเวลาไว้อีกครั้ง
...อย่างน้อยทุกๆ วันเกิดเขาจะได้รู้ว่า ยังมีผู้ใหญ่อีก 2 ท่านที่เคยรักและเคารพเป็นผู้จัดงานวันเกิดให้ ก่อนที่อนาคตจะไม่มีอีกแล้ว
...และอย่างน้อย เขาจะได้เก็บความทรงจำที่ว่า วันเกิดปีนี้เป็นปีที่เขามีคนที่ ‘รัก’ อยู่เคียงค้าง แม้จะเป็นปีสุดท้ายก็ตามที
ความคิดเห็น