ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    SF-SJ Vol.4 [SJ-Yaoi-KiHae]

    ลำดับตอนที่ #17 : [..-Real Situation-..] 7

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.75K
      3
      3 พ.ย. 52






    />

    คิบอมระลึกถึงสองประโยคนั้นแล้วก็ทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้น

     

    ...เขาไปมีอีหนูนอกบ้าน  แต่ไม่มีใครเป็นเคะ  เขาเลือกที่จะมีอีหนูเป็นผู้หญิงเพราะคำสัญญานั้น  ...ใช่รึเปล่านะ ?

     

     

     

     

    แล้วม๊ะล่ะ  ทำไมถึงเคะให้คนอื่น ?

     

    เขารำพันนึกถึงดองเฮในอ้อมกอดชายอื่นแล้วหดหู่ใจ  ความลิงโลดทั้งหมดมันแห้งเหี่ยวไปกับหัวใจที่เริ่มจะตายด้านขึ้นทุกที

     

    หรือว่าจริงๆ แล้ว  ม๊ะก็แค่...ทำตามหน้าที่  

     

     

     

     

     

     

    ..

    ..

     

     

     

     

     

     

    ไปขับรถเล่นกันมั้ย ?  ซีวอนเสนอเมื่อเห็นว่าดองเฮนั่งตาลอยๆ

     

    หา.. ตะกี้ว่าไงนะฮะ

     

    เฮ่อ... ผมไม่อยากให้คุณเป็นแบบนี้เลย  ทำไมไม่คุยกันล่ะครับ

     

    ช่างเหอะ  อย่าพูดถึงมันเลย  อ้าว..แล้ววันนี้ซีวอนไม่ต้องพาคู่หมั้นไปทานข้าวรึไง  ดองเฮถามเสียงเรียบ

     

    ครับ  แต่ห่วงคุณ  เลยแวะมาที่นี่ก่อน

     

    เฮ้ย  ไปเถอะ  ไม่ต้องห่วง  ทำหน้าที่ตัวเองให้ดี  เดี๋ยวเราจะออกไปขับรถเล่นแล้ว

     

    เอางั้นก็ได้ครับ  พอผมไปส่งเธอเสร็จจะรีบกลับมาหานะครับ  ซีวอนกุมมือดองเฮเบาๆ ก่อนจะรวบตัวคนที่ตนเองรักแต่ไม่สามารถครอบครองหัวใจได้มากอดเบาๆ จุมพิตที่หน้าผากเบาๆ ประทับรอยจูบนุ่มนวลไว้ที่ริมฝีปากนั้น

     

    มือขาวลูบไล้แผ่นหลังแข็งแรงก่อนจะเลื่อนลงมาขยำก้นกระชับของซีวอนเล่นๆ ทำให้เจ้าตัวสะดุ้ง  ถอนปากออกมามองใบหน้าหวาน

     

    ถ้ามากกว่านี้  ระวังจะไม่ได้ไปหาแฟนนะซีวอน  ฮ่าๆ  รีบไปเถอะ   ดองเฮบอก

     

    ครับ  แล้วซีวอนก็จากไป 

     

    เฮ่อ... ไปขับรถเล่นก็ได้ฟะ

     

     

     

     

     

     

    ..

    ..

     

     

     

     

     

    รถยนต์ Audi สีขาวขับอย่างเอื่อยเฉื่อยไร้จุดหมายไปตามเส้นทาง  เนิ่นนาน  มิได้สนใจการจราจรหรือสิ่งอื่นใดรอบตัว 

     

    ...ไม่รู้แม้กระทั่งว่ามีใครตามตนเองอยู่...

     

    ท้ายแล้ว  ดองเฮหักเลี้ยวไปจอดยังริมฝั่งแม่น้ำฮัน  แม่น้ำที่เขาคิดว่าเป็นสิ่งเติมความชุ่นชื่นให้ชีวิตได้เสมอในยามที่ท้อแท้  แสงไฟสาดไปยังแม่น้ำให้เขาได้มองเห็นความวุ่นวายของผิวน้ำที่ถูกสายลมพัดพามิให้นิ่งสนิท 

     

     

     

     

     

    ดองเฮสูดหายใจเข้าลึกๆ ให้เต็มปอดขณะหยุดเดินริมแม่น้ำแห่งนั้น  แล้วตะโกนสุดเสียง

     

    ไอ้บ้า.....อ้า..อ้า..อ้า..อ้า..อ้า  แววอัดอั้นตันใจมิได้ลดลงทั้งที่ตะโกนต่อว่าใครบางคนไปแล้ว

     

    ไอ้เจ้าชู้เอ๊ย...ย..ย..ย..ย..ย

     

    ขอให้นายไม่ตายดี..อี..อี..อี..อี

     

    ไอ้ผัวเฮงซวย..ย..ย..ย..ย..ย..ย

     

     

     

     

     

     

    เนิ่นนานแล้วที่ผู้ถูกด่าลอบมองการระบายอารมณ์ของภรรยา  เขายังยืนฟังคำที่ภริยาตนเองด่าทอตนเองอยู่  ในใจมิได้สุขสมไปกว่าคนที่ยืนด่าเลยแม้แต่น้อย  ในที่สุดคิบอมก็เผยตัวออกมาจากความเงียบงันด้วยถ้อยคำเบาๆ

     

     

    ม๊ะ  ...ด่าใครน่ะ

     

    ก็ด่าผัวน่ะสิป๊ะ...หา  ป..ป๊ะ  ป๊ะเหรอ  ดองเฮเผลอตอบตามสันชาตญาณความเมามัน  เมื่อหันมามองจึงได้รู้ตัวว่ากำลังพูดกับคนที่ตนเองไม่อยากจะพูดด้วยที่สุดในตอนนี้

     

    ทั้งสองยืนจ้องมองกันและกันอยู่ชั่วครู่หนึ่ง  มีถ้อยคำมากมายที่อยากจะพรั่งพรูออกมาสื่อถึงกันและกัน  แต่ยามนี้อากาศที่กั้นกลางระหว่างทั้งสองดูจะกลายเป็นหินแกรนิตไปเสียมากกว่า  เพราะทิษฐิที่มีในใจ

     

     

     

     

     

    ทำไมต้องด่า...  คิบอมเปิดปากก่อน

     

    สมควรมั้ยล่ะ

     

    แล้วทีม๊ะล่ะ  ตอนเมื่อก่อนตัวเองทำ...ไม่เห็นคิด  อย่างไรเสียคิบอมก็ยังฝังใจกับเรื่องในอดีตที่ตนเองเห็นว่าดองเฮเป็นคนเจ้าชู้  สามารถเอาชนะใจคนที่เขาหมายปองได้ทุกคน  ...แล้วก็ทิ้ง

     

    เหมือนกันที่ไหนล่ะ

     

    ....  คิบอมไม่ตอบ  สะบัดหน้าทีหนึ่งแบบขัดใจแล้วหันหน้ามาเผชิญใหม่   แล้วจะเอายังไง

     

    ถามทำไม  ดองเฮคิดว่ามาถึงขั้นนี้แล้วยังจะต้องถามอะไรกันอีก  สถานการณ์มันบ่งบอกทุกอย่างชัดเจนดีอยู่แล้ว

     

    พ่อกับแม่... คิดถึง  หนุ่มหน้าอูมเอาผู้อื่นมาบังหน้า

     

    แค่นั้น ?

     

    ท่านถามถึง  นมก็ด้วย

     

    จบรึยัง ?  ยิ่งพูดก็ยิ่งทำให้ดองเฮหงุดหงิดใจ  เขารู้ดีว่า
    คิบอมก็รักตนเอง  เป็นคิบอมเองนั่นล่ะที่คิดถึงเขา  แต่ตราบใดที่มันยังไม่หลุดจากปากของคิบอม  เขาก็คงจะเชื่ออะไรไม่ได้...ไม่อยากคิดเข้าข้างตัวเองอย่างที่แล้วมา  เหมือนกับเรื่องที่ว่าเขาอาจจะทำให้คิบอมเลิกเจ้าชู้ได้

     

    จิ๊  อีกครั้งที่คิบอมสะบัดหน้าอย่างหัวเสีย  ไอ้หมอนั่นมันมีอะไรดีนักหนา  ฝ่ายสามีก็ชักมีน้ำโหที่เห็นทีท่าชาเย็นของดองเฮ  มันจะต้องแต่งงานในอีกไม่ช้าอยู่แล้ว  ม๊ะจะโง่ไปถึงไหน  มันไม่ได้จริงใจด้วยซักหน่อย  แน่นอนว่าคิบอมจะต้องตามสืบเรื่องซีวอนมาจนเกลี้ยงแล้ว

     

    ก็โง่มานานแล้วนี่  ปล่อยให้ป๊ะไปมีคนอื่นตั้งหลายปี  มีตั้งกี่คนแล้วล่ะ  จะโง่ต่ออีกซักหน่อย... อีกซักคนจะเป็นไรไป  ไม่ใช่ครั้งแรกซักหน่อย 

     

    ม๊ะ !!”  คิบอมตวาดเสียงดังทั้งที่ตั้งแต่แต่งงานกันมายังไม่เคยทำแม้แต่ครั้งเดียว  ต่อให้ดองเฮตามไปตบตีราวีผู้หญิงที่ไหนเขาก็ยังไม่เคยทำ  แต่ครั้งนี้ฟิวส์ขาด 

     

     

     

     

     

     

    ทำไมต้องพูดลดค่าตัวเอง  ยิ่งดองเฮพูดเท่าไหร่มันก็ยิ่งกรีดใจเขาทุกครั้ง  ทั้งๆ ที่ดองเฮไม่ได้ด่าเขาด้วยซ้ำ 

     

    ค่าเหรอ... ลีดองเฮหมดค่าตั้งแต่วันที่ยอมเป็นเมียของคนที่ชื่อคิมคิบอมแล้ว  นายรู้จักเค้ารึเปล่า  คนที่ฉันยอมไร้ค่าเพราะเค้าน่ะ  เฮอะ  นายคงไม่รู้จักเค้าหรอก  ว่าแล้วก็เบี่ยงหน้ายืนหันหลังให้กับคิบอม  เบนหน้าไปทางแม่น้ำ  ให้น้ำในตาทีรินไหลได้พบกับเพื่อนอีกมากมายในสายนที

     

    ผม... ม๊ะ  อย่าร้องไห้สิ  ป๊ะบอกแล้วว่าไม่ชอบน้ำตา  ต่อให้ดองเฮสะกดเสียงสะอื้น  มีเพียงน้ำใสใสหลั่งออกมาคิบอมก็รู้ดีว่าตอนนี้ภรรยาตนเองกำลังเสียน้ำตา  ...อีกครั้ง

     

    เพียงแต่ครั้งนี้มันต่างออกไป  อยู่กันมาหลายปีดองเฮมีเพียงแค่น้ำตาคลอเบ้าให้เขาเห็น  ดองเฮเข้มแข็งเกินกว่าจะร้องไห้ฟูมฟายเหมือนคนไร้สติ  มีเพียงครั้งเดียวที่คิบอมได้เห็นมันเต็มๆ ตาก็คือวันที่ทั้งสองมีสัมพันธ์กันทางกายเป็นครั้งแรก 

     

    ...เป็นครั้งแรก (ทางด้านหลัง) ของดองเฮเช่นกัน  คิบอมไม่ใช่คนผอมบางตัวเล็กจ้อย  ทุกสิ่งมันก็สัมพันธ์กับร่างกายเขา  ทุกๆ ส่วนจึงได้เจริญเติบโตเป็นอย่างดี  การสอดรักครั้งนั้นสร้างความเจ็บปวดจนดองเฮต้องหลั่งน้ำตาให้เขาได้เห็น

     

    และครั้งนี้  คิบอมขี้ขลาดเกินกว่าจะเดินเข้าไปกอดปลอบ  เขาไม่สามารถทนเห็นน้ำตาของลีดองเฮได้ 

     

     

     

     

     

    สายธารกับเวลาคล้ายจะหยุดนิ่งลงตรงนี้  รู้สึกตัวอีกครั้ง 
    คิบอมก็ได้ยินคำถามหนึ่งกระตุกให้ทุกสิ่งกลับคืนมายังที่เดิม

     

     

     

     

     

    ทำไม ?

     

    ไร้ปี่  ไม่มีขลุ่ย  คำถามดุ่ยๆ ของดองเฮนั้นทำให้คิบอมคิดตามไม่ทัน

     

    อะไร  ...ทำไมนี่คือถามถึงอะไร

     

    ทำไมถึงทนอยู่กับผมอีกล่ะครับ  คุณคิบอม

     

     เลิกพูดแบบนี้ซักทีเถอะน่าม๊ะ  คิบอมเดินเข้ามาประชิดตัว  ใช้สองแขนอันแข็งแรงไปจับที่บ่าของดองเฮเขย่าเบาๆ ...แล้วเพิ่มแรงขึ้นตามอารมณ์ที่พรั่งพรู

     

     

     

     

     

     

    คิดว่าผมจะบ้าคว้าคุณมาเป็นเมียเพราะนึกสนุกรึไง  ฮะ..  ผมไม่ได้บ้าขนาดจะคว้าคู่แค้นมาเป็นเมียเพราะนึกสนุกหรือว่าอยากจะทำอะไรเพี้ยนๆ หรอกนะ  รู้บ้างมั้ย 

     

    นั่นสิ  หรือเพราะว่าผมเป็นคู่แค้นของคุณ  ถึงได้อยากจะแก้แค้น  ดองเฮพูดพลางตาแดงก่ำ  สะกดอารมณ์พูดให้นิ่งที่สุด

     

    .....  คิบอมสะอึก  เขาอยากจะปฏิเสธเหลือเกินว่ามันไม่ใช่  แต่นั่นก็เป็นส่วนหนึ่งของความจริง 

     

    ใช่... เขาเห็นว่าดองเฮเป็นคู่แค้น

     

    จริง... ที่เขาเกิดอยากจะแก้แค้น  จึงได้ยังมิได้เลิกนิสัย Play Boy  มันเหมือนนิสัยเด็กๆ ที่อยากจะแสดงให้เห็นว่า  เขาเหนือกว่า  เขาสามารถเอาชนะได้ 

     

    แต่ไม่ถูก... เรื่องที่ต้องทน   เขาไม่ได้ทนอยู่กับดองเฮแม้แต่น้อย  สิ่งที่เขาทำมันกลับเป็นความสนุกอย่างหนึ่งจนเขาอดไม่ได้ที่จะทำต่อไปเรื่อยๆ 

     

     

     

     

     

    ยิ่งเห็นดองเฮหงุดหงิด  ก็ยิ่งรู้สึกว่าเขาสนุก 

     

    ยิ่งเห็นดองเฮตามโมโหราวีอีหนู  ก็ยิ่งรู้สึกว่าดองเฮหวงเขา 

     

    ยิ่งเห็นดองเฮเสียใจเวลาเขาไปหาคนอื่น  ก็ยิ่งรู้สึกว่าดองเฮรักเขามากเพียงใด 

     

    ..ความคิดโง่ๆ ของคนที่เคยแพ้  แต่อยากชนะใจใครบางคน..

     

     

     

     

     

    แบบนั้นสินะ  หึหึ  ซื้อไม่ถูกแต่หวยจริงๆ ลีดองเฮ  น้ำเสียงเศร้ากล่าวเยาะเย้ยตนเองให้เข้มแข็งขึ้น

     

    มันไม่ใช่แบบนั้นหรอกน่า  คิบอมคลายแรงบีบหัวไหล่มน  ทำไมชอบคิดมาก  เมื่อก่อนไม่เห็นคิดมากเลย  ใครสอนให้กลายเป็นคนซีเรียสแบบนี้  ป๊ะยังทำใจได้เลยตอนที่ม๊ะยังร่าเริงกับ...คนพวกนั้น  เขายังขุดเหตุผลส่วนตัวมาใช้

     

    คนพวกนั้น... ใคร ?

     

    ก็... ไอ้พวกเด็กๆ ของม๊ะไง  มีความสุขมากนี่ตอนนั้น  เห็นลอยหน้าลอยตาสวีทกันไม่แคร์สื่อ  ไม่ถือเรื่องคนมอง  เปลี่ยนควงหน้าไม่ซ้ำ  แถม...

     

    ใบหน้าขาวสว่างประชิดเข้ามาใกล้จ้องมองดวงตาคิบอมเพื่อรับฟังสิ่งที่ตามมา  ไม่ต้องมีคำพูดใดใดคิบอมก็พอทราบว่าเขาควรจะพูดต่อ  มิใช่เงียบหายไป

     

    แถม... คนพวกนั้นป๊ะก็หมายมั่นปั้นมือว่าจะ...  คิบอมลูบท้ายทอยตัวเองเบาๆ เหมือนไม่เต็มใจจะพูดเท่าใดนัก

     

     

     

     

     

     

    หึ... ตาบ้าเอ๊ย  ดองเฮหัวเราะพรืดออกมา  อดใจไม่ได้ที่ใช้สองมือยีศีรษะที่เซ็ทมาเป็นทรงอย่างดีของคิบอมให้มันพัง

     

    โอ๊ย  ม๊ะ  ทำอะไรเนี่ย  เดี๋ยวป๊ะก็หมดหล่อกันพอดี  ชายหนุ่มที่สูงกว่าเล็กน้อยแต่ผิวคล้ำกว่ามากปัดป้องเต็มกำลัง  แต่ก็ยิ้มออกมาได้ที่น้ำตาเคยไหลนั้นหยุดแล้ว

     

    ฮึ่ย  โอเค  ถ้างั้นถือว่าเราหายกันนะ  ถัวเฉลี่ยที่เคยทำกันไว้  ดองเฮหยุดมือแล้วพูด

     

    งั้นกลับบ้านนะม๊ะ  ใจชื้นขึ้นเป็นกองที่ได้ยินอย่างนั้น  คิบอมรวบสองมือมากุมแล้วพูดเสียงอ่อนหวานขึ้นให้ภรรยาใจอ่อน

     

    ไม่ล่ะ  ถ้าเราไม่มีอะไรติดค้างกันแล้ว  ก็พอแค่นี้เถอะนะ  ขอให้คุณมีความสุข  ผมลาล่ะ 

     

    เฮ้ๆๆ  หมายความว่ายังไงม๊ะ  ...ก็ไหนว่าเราเคลียร์กันแล้ว  คิบอมหน้าเหวอ  ไอ้ท่าทางที่ไม่คิดมากเหมือนอย่างกับสมัยที่เขามักพบเจอลีดองเฮตอนเรียนมหาวิทยาลัยนั่น  ...ทำไมมันปรากฎออกมาตอนนี้นะ

     

    ก็เคลียร์ไง  โอเคแล้ว  ตอนนี้ผมรู้แล้วว่าอะไรเป็นอะไร  เราไม่มีอะไรคาใจกันแล้วนะ  โชคดีล่ะ 

     

     

     

     

     

    ลีดองเฮ !!  คุณจะทำกับผมอย่างงี้ไม่ได้นะ  ผมไม่ใช่คู่ขาของคุณ  จะมาทิ้งขว้างผมแบบไม่มีเยื่อใยด้วยคำไม่กี่คำเนี่ยนะ  ฝันไปรึเปล่า  คิบอมยื้อยุดฉุดร่างที่เคยกกกอดไว้อีกครั้ง  น้ำเสียงดุดันผ่อนผันลงกลายเป็นอ่อนล้าพร้อมกับสายตาที่ดองเฮไม่เคยได้เห็น

     

    ผมก็เคยคิดอย่างงั้น  ดองเฮเคยคิดว่าคิบอมจะเป็นคนพิเศษ  มิใช่คนที่ผ่านเข้ามาแล้วจากไปอย่างใครๆ ในอดีต  เขาคิดแบบนั้นเมื่อวันที่สองคนรวมร่างรวมใจกันในคราวแรก 

     

    แต่ตอนนี้... คงไม่ใช่แล้วล่ะ  เพราะคุณก็ไม่ได้ต่างจากคนอื่นๆ  หึหึ  อาจจะแย่กว่าด้วยซ้ำ

     

    อย่างน้อย... ก็..ขอให้... ให้  คิบอมเว้นช่วงเวลาคิด  ก่อนจะยื้อเวลาด้วยสิ่งที่คิดออกในสมอง  ขอให้ผ่านวันเกิด  เอ๊ย  ไม่ไม่  ต้องผ่านวันเลี้ยงรุ่นก่อน

     

    เพื่ออะไรล่ะ  แขนขาวนั้นแดงเป็นรอยปื้นเพราะแรงยื้อยุดจากมือของคิบอม

     

    เอ่อ..  ปีนี้คุณพ่อกับคุณแม่จะต้องจัดเลี้ยงให้ในวันเกิด  แล้วก็... ก็รู้ว่างานเลี้ยงรุ่นมีแต่พวกปากหอยปากปู คอยจับผิดแล้วก็นินทา  ถ้าไม่เห็นว่าเราสองคนไปด้วยกันพวกนั้นต้อง...  ก่อนที่คิบอมจะหลุดพล่ามพูดอะไรไปมากกว่านี้  ดองเฮก็รีบรับปากตัดความรำคาญทันที

     

    ก็ได้ๆ ...คุณนี่มันห่วงตัวเองจนถึงนาทีสุดท้ายจริงๆ  เมื่อนึกแล้วว่าจะต้องจากกันแล้วจริงๆ ดองเฮก็อยากจะจากกันอย่างสันติ  มีสิ่งดีดีไว้คอยให้นึกถึงบ้างอย่างที่ยามเขาเลิกกับทุกๆ คน  จึงได้ยอมให้ยื้อเวลาไว้อีกครั้ง

     

    ...อย่างน้อยทุกๆ วันเกิดเขาจะได้รู้ว่า  ยังมีผู้ใหญ่อีก 2 ท่านที่เคยรักและเคารพเป็นผู้จัดงานวันเกิดให้  ก่อนที่อนาคตจะไม่มีอีกแล้ว 

     

    ...และอย่างน้อย  เขาจะได้เก็บความทรงจำที่ว่า  วันเกิดปีนี้เป็นปีที่เขามีคนที่ รักอยู่เคียงค้าง  แม้จะเป็นปีสุดท้ายก็ตามที

     




    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×