คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : Part VII 100%
3P – Three LovE
Title : 3P – Three LovE
Author : -BallOonzA-
Staring : Lee Dong Hae x ????
Part VII
“ว้าว...รวดเร็วทันใจ ฮิฮิ”
ดองเฮรีบเปิดข้อความจากเครื่องของดงแฮเพื่อชมศักยภาพหน้าตาของคนที่พี่ชายคนกลางคัดเอามาทำแฟน
“ว้าวๆๆๆๆ แฟนพี่ดงแฮนี่หล่อใช้ได้เลยนะเนี่ย เสียแต่แก้มย้วยไปหน่อย ฮิฮิ” แฝดเล็กรีบส่งข้อความนั้น Forward มาที่เครื่องตนเอง ก่อนจะลบ Log การใช้ว่ามีการส่งออกข้อความมายังเครื่องตน รวมทั้งข้อความที่คิบอมส่งมาด้วย... เดี๋ยวแผนแตก เรื่องแดงจะโดนพี่เจ้าอารมณ์โวยวายหนัก
ตึก.. ตึก.. ตึก
เสียงฝีเท้าใครบางคนย่ำกระแทกจากชั้นบนลงมา ฝีเท้าแบบนี้มีคนเดียว พี่ดงแฮแหงๆ ดองเฮรีบวางโทรศัพท์ไว้เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นแล้วหันไปจ้องการ์ตูนที่เพิ่งจบและกำลังร้องเพลงตอนท้ายของเรื่อง
“ดองเฮ ทำอะไรน่ะ” ดงแฮทักน้อง
“ป่าววววว... ไม่ได้ทำอะไรซะหน่อย” แฝดเล็กไม่หันหน้ามาสบตาพี่ชาย
“แล้วไม่เปลี่ยนช่องล่ะ ดูแต่การ์ตูนจนปัญญาอ่อนหมดแล้ว หัดดูอย่างอื่นมั่ง สารคดีหรือละครน้ำเน่าก็ยังดี” ดงแฮเทศนาน้องชาย
“ก็ทำไมล่ะ เค้าชอบของเค้านี่ เหมือนตัวเองนั่นล่ะ ที่ชอบเต้นท่าประหลาดๆ แหกแข้งแหกขานั่นน่ะ”
“นั่นมันคือการเต้น เท่ห์จะตาย”
“คอยดูนะ ถ้าตัวเองเต้นจนเจ็บอีกนะ เค้าจะไม่ทำแผลให้แล้ว” แฝดเล็กแอบเคือง
“ไม่เห็นสนเลย ให้พี่ทงเฮทำให้ก็ได้”
“เออ.. อย่ามาง้อเค้าก็แล้วกัน” ตอนแรกกะจะบอกซะหน่อยว่ามีคนโทรมา ไม่บอกแล้ว.. ไม่แซวแล้วด้วย หงุดหงิด
เสียงโทรศัพท์แนว Hip Hop เพลงเดิมดังขึ้นอีกครั้ง ดงแฮใจเต้นตุ่บๆ กลัวว่าถ้าแฟนดงแฮ ซึ่งจำไม่ได้แล้วว่าชื่ออะไรนั่นพูดอะไรไป... เขาซวยแน่
ดงแฮเห็นชื่อผู้โทรเข้าก็มองหันรีหันขวาง ไม่อยากจะรับโทรศัพท์คิบอมต่อหน้าน้อง จึงได้เลี่ยงออกไปรับที่อื่น
“อืม..ว่าไง”
“กินข้าวกัน”
“ทำไมต้องไปกินล่ะ ที่บ้านไม่มีข้าวกินรึไง” ดงแฮถาม
“ก็.. หิว ไปกินกัน” คิบอมแอบงงเล็กน้อยกับท่าทีที่เปลี่ยนไป เอ๊ะ..หรือว่าที่ดงแฮไปอาบนั่น..คือน้ำเปลี่ยนนิสัย
“เออๆ กินก็กิน.. ที่ไหนล่ะ จะให้ไปเองหรือจะมารับ บอกก่อนเลยนะ อย่าเสร่อมาถึงหน้าบ้านชั้นนะ รอหน้าปากซอยก็พอ”
“อืม ไปรับ” คนพูดน้อยไม่ได้ใส่ใจเท่าไหร่หรอก คิบอมทำใจไว้แล้วว่า คิดจะรักคนเลือดลมไม่ปกติเหมือนคนมีประจำเดือนอย่างดงแฮ ก็คงต้องทำใจเรื่องอารมณ์แปรปรวน
“แล้ว.. หล่อมั๊ย”
“หา.. นายถามอะไรของนาย อะไรหล่อ ใครหล่อ” ดงแฮงง ตาบ้านี่เพี้ยนขึ้นทุกวัน
“ช่างเถอะ ถึงแล้วจะโทรหา” แล้วคิบอมก็ตัดสายไป
“ประสาท .. หล่ออะไรวะ” ดงแฮพูดหลังจากวางสายไปแล้วเช่นกัน
..
..
..
“หล่อ” ดองเฮมองโทรศัพท์แล้วพูดลอยๆ ยิ่งจ้องภาพในโทรศัพท์ที่ Forward มาจากเครื่องพี่ชาย ก็ยิ่งเห็น..ว่าหล่อ
“ใครหล่อดองเฮ” แฝดกลางที่เดินเข้ามาถามขึ้นเมื่อได้ยินน้องพูดคำที่สะดุดหู
“เปล่า.. เค้าแค่.. คิดว่าพระเอกเรื่องนี้แต่งตัวหล่อดี” แฝดเล็กแก้ตัวพัลวัน
“เซลเลอร์มูน เนี่ยนะ”
“จะบ้าเหรอ เซลเลอร์มูนเป็นผู้หญิงจะหล่อได้ไงล่ะ ตัวเองประสาทรึเปล่าพี่ดงแฮ เค้าหมายถึงหน้ากากทักซิโด้หรอก”
“จะไปรู้เรอะ ไม่เคยดูนี่ เออ... เดี๋ยวพี่ออกไปข้างนอกนะ” ดงแฮสั่งเสียน้อง
“ไปไหนอ่า”
“เออน่า ไปข้างนอกกับเพื่อน มีธุระ” แฝดรองไม่อยากบอกเลยว่าไปทำอะไรกับใคร
“เหรอ... ตัวเองไปเที่ยวกับแฟนเหรอ”
“เฮ้ย รู้ได้ไง” ดงแฮเผลอหลุดปล่อยไต๋
“ฮั่นแน่ ตัวเองแอบไปเที่ยวกับแฟนจริงๆ เหรอพี่ดงแฮ ปล่อยให้น้องผู้น่าสงสารนั่งตาดำๆ อยู่กับบ้าน ใครๆ ก็ทิ้งเค้าอ่า”
“ก็ชวนเพื่อนเราไปสิดองเฮ มายุ่งอะไรกับพี่ล่ะ”
“โหย... เพื่อนเค้าชอบชวนไปเดินห้างงี้ ไปเที่ยวกลางคืนงี้ เค้าไม่ชอบอ่า”
“ถ้าว่างนักก็ไปโรงพยาบาลสิ ไปเช็คประสาท หรือไม่ก็แผนกรักษาเด็กออทิสติก เผื่อจะดีขึ้น” แฝดกลางชอบว่าน้องเล็กว่าปัญญาอ่อนจนเคยปาก
“ทำไมตัวเองชอบว่าเค้าปัญญาอ่อนล่ะ แค่เค้าชอบดูการ์ตูน แค่เค้าพูดจาแบบนี้ เค้าไม่ได้ปัญญาอ่อนนะพี่ดองเฮ ตัวเองนั่นล่ะแก่แดด ถ้าแก่แบบมีหลักมีการอย่างพี่ทงเฮจะไม่ว่าซักคำ ฮึ่ย.. โกรธแล้ว”
ดองเฮเห็นว่าน้องจะโกรธจริงจากความสนุกปากของตนเลยแอบจ๋อยนิดหน่อย ยังไงก็พี่น้อง ยังไงก็รักน้องอยู่ดี เลยยอมง้อซะหน่อย
“ดองเฮไม่ได้ปัญญาอ่อน แต่ทำตัวน่ารัก พอใจรึยัง”
“ยัง.. โป้งด้วย เค้าจะฟ้องพ่อกับแม่ว่าพี่ว่าเค้า”
“งั้นเอางี้ ถ้ารับจ๊อบครั้งหน้า จะซื้อตั๋ว Disney’s on ice ให้”
“จริงนะ” ได้ยินของถูกใจตาโตยิ่งกว่าไข่ห่าน
“หนอย.. ตาโตเชียวนะดองเฮ เจ้างกเอ๊ย”
“ช่วยไม่ได้ ตัวเองพูดแล้วห้ามคืนคำด้วย ไม่งั้นเค้าจะโป้งตลอดเดือนเลย จะฟ้องพ่อกับแม่ด้วย ว่าพี่ดงแฮมีแฟนเป็นผู้ชาย”
“เดี๋ยว.. เรารู้ได้ยังไง” ดองเฮสะดุดหูทันที เขาไม่เคยบอกใครซักคำ ทำไมเจ้าแฝดเล็กนี่ถึงได้รู้
“เอ่อ... ก็...” ระหว่างหาคำแก้ตัว โทรศัพท์จากคิบอมก็ดังช่วยชีวิต
“ฮัลโหล อืม รอนั่นล่ะ กำลังไป” ดงแฮบอกแค่นั้นก็วางสาย
“ไปดีมาดีนะพี่ดงแฮ” ดองเฮรีบชิ่งบอกลาพี่เลย
“เดี๋ยวดองเฮ ยังพูดไม่จบ ยังไม่ได้ตอบพี่เลยนะ” ดงแฮตะโกนไล่หลังน้องแฝดเล็กที่กำลังวิ่งไปเข้าครัว มีเพียงเสียงแก้ตัวตะโกนตอบมาให้พอได้ยินว่า
href="file:///C:\DOCUME~1\ADMINI~1\LOCALS~1\Temp\msohtml1\01\clip_filelist.xml" />
“เค้าเดาเอา”
ภายในห้องซ้อม นักเต้นความหวังของทีมคู่แข่งดองเฮ กำลังซ้อมอย่างขะมักเขม้น ยุนโฮพลิ้วไหวร่างกายสลับกับการ Lock Body วาดลวดลายโชว์ช่วงท่อนโซโล่ จนสมาชิกในทีมมีความมั่นใจเพิ่มเป็นเท่าตัว
“โอเค วันนี้ซ้อมเท่านี้ล่ะ ขอบใจพวกนายทุกคนมาก ชั้นมั่นใจว่าหนนี้ เราต้องล้มไอ้เล็กพริกขี้หนูนั้นได้แน่” ยูชอนกล่าวอย่างมั่นใจ
ทุกคนทยอยกันกลับ มีอาบน้ำบ้าง เปลี่ยนชุดบ้าง บางรายก็กลับทั้งอย่างนั้น ยุนโฮที่ดูจะเหนื่อยที่สุดนั่งพักเอาแรงสักครู่ก่อนจะเก็บของใส่เป้อย่างไม่รีบร้อน
“เฮ้ เป็นไงยุนโฮ ทีมเราพอไปไหวมั๊ย” ยูชอนเดินมาตบบ่าเพื่อน
“ทีมนายใช้ได้เลย พื้นฐานดีทุกคน ชั้นว่ายังขาดแค่ประสบการณ์ อยู่แต่ในห้องซ้อมกับบนเวที บางทีก็เสียเปรียบพวก Street Dance พวกนั้นเก๋าเกมส์กว่า” ยุนโฮเปรียบเทียบกับเพื่อนๆ ของตนที่ต่างประเทศ ในโซนฝรั่งการเต้น Street Dance เป็นที่นิยม และมีการเต้นประลองกันอยู่บ่อยๆ จนนักเต้นมีประสบการณ์และปรับกลยุทธ์การเต้นได้ไวเพราะแพ้ชนะกันบ่อยๆ
“นั่นก็จริง วันหลังต้องลองเปลี่ยนแนวบ้าง”
“อืม... เออ รู้มั๊ย วันที่นายมาช้าน่ะ ชั้นเจอใคร” ยุนโฮเก็บของเรียบร้อยจึงนึกขึ้นได้
“ใครวะ” ยูชอนเดาไม่ออก จริงๆ น่าจะคาดไม่ถึงเสียมากกว่า
“ก็แชมป์ที่นายอยากล้มไง เด็ดจริงว่ะคนนี้ วันที่ชั้นเจอกลับมาเปรี้ยวเข็ดฟันสมใจอยากแล้วล่ะ”
“หืม.. ยังไง” ยูชอนไม่เข้าใจ
“ก็.. สีผมเด็ด ไร้แว่น แต่งตัวโดน อีกอย่าง.. เพิ่งอาบน้ำมาใหม่ๆ หอมชะมัด”
“เฮ่ยๆๆ ชักออกแนวโรคจิตแล้ว แต่..นายว่ากลับนั่นไปเป็นคนแบบเดิมแล้วเหรอ”
“อืม ผมยาวๆ แล้วก็ทำสี จะว่าใส่วิกหรือต่อผมก็คงไม่ใช่..เนียนเกิน” ยุนโฮก็แปลกใจอยู่
“สมใจอยากแล้วสิ” ยูชอนเห็นหน้าเพื่อนแสดงอารมณ์แบบนั้นก็พอรู้ว่ายุนโฮคงตรงเสป๊กสุดๆ
“อืม น่าสนใจ”
“แต่ชั้นชอบแบบที่เจอที่สนามบินมากกว่าว่ะ”
“เออ ชั้นรู้ว่านายชอบคนเรียบร้อย แต่สำหรับชั้น..ชีวิตต้องมีรสชาดว่ะ จืดๆ แบบนั้นคงเบื่อไว บอกตรงๆ” ยุนโฮบอกสไตล์ตัวเองตามตรง
“เออ อะไรก็ช่างเถอะ ว่าแต่.. เจอแล้วเค้าว่าไงล่ะ” ยูชอนไม่อยากคิดมาก ดงแฮเปลี่ยนสีผมบ่อยๆ จนเขาคุ้นตา นั่นดงแฮอาจจะมีร้านทำผมดีดีเลยเปลี่ยนสไตล์ได้บ่อย
“ไม่เห็นว่าไง ออกมาก็แว๊ดๆๆ แล้วก็...บอกว่าไม่รู้จักชั้น” ยุนโฮเล่า
“เออ เจ้านั่นก็เป็นแบบนี้ล่ะ ขนาดว่าชั้นคอยกวนส้นตี...มันด้วยภาษาอังกฤษบ่อยๆ มันยังไม่เคยคิดจะจำชื่อชั้นเลย” ยูชอนบอกแบบเคืองอารมณ์นิดๆ
“หยิ่งดี แบบนี้ชอบ ง่ายไปก็ไม่สนุก” มนุษย์หน้าหมียิ้มกริ่มเมื่อคิดถึงหน้าหวานๆ กับอาการรั้นๆ นั่น
“เสียดายว่ะ ยอมรับนะว่ามันหน้าตาดี แต่ถ้าเรียบร้อยๆ เหมือนวันที่เจอสนามบิน..บางทีชั้นอาจจะเป็นคู่แข่งนายก็ได้”
“เฮ่ย ของชั้น ชั้นจองแล้ว” อุวะ ยูชอนกล้าจะมาเป็นคู่แข่งเขาได้ยังไง ยุนโฮประกาศจองไว้ก่อน
“เออ รู้แล้วน่า แรงๆ ไม่ใช่แนวชั้นว่ะ นายเอาไปเหอะคนนี้ อยู่กับฝรั่งมากจนสเป๊กฝรั่งไปแล้วนายน่ะ” ก็ยุนโฮชอบแต่ละคนแรงๆ ทั้งนั้น
“ใครว่าล่ะ ฝรั่งเค้าแค่ชอบคนแต่งตัวไม่ปล่อยให้ตัวเองโทรม สีสันชีวิตครอบครัวนะเว่ย ไม่ได้มานั่งหัวโบราณคร่ำครึมองหาสาวบริสุทธิ์ผุดผ่อง ที่จะได้เรียบร้อยเป็นผ้าพับไว้ แล้วไงล่ะ... พอเมียเริ่มเหี่ยวก็หนีไปมีเมียน้อยนอกบ้านเอ๊าะๆ กันหมด” ยุนโฮอยากให้เข้าใจถูกต้อง.. คนที่คิดอย่างยูชอนส่วนใหญ่พอเมียเริ่มหมดความน่ารักหรือความสวยตามกาลเวลา ก็เห็นหนีไปมีเมียน้อย นอกใจภรรยากันหมด เขาขอคิดอย่างฝรั่งแล้วมีเมียแรงๆ มีสีสันตลอดเวลาจะได้รักเดียวใจเดียว...ไม่ดีกว่ารึ
“เออ นายมันเป็นคนดี แต่ชั้นก็ไม่ใช่คนประเภทพอเมียเหี่ยวก็จะได้หาบ้านเล็กบ้านน้อยหรอกนะเว่ย” ชายปากอิ่มอวบเถียงทันควัน เพราะมั่นใจว่าตนจะรักเดียวใจเดียวได้เช่นกัน...แม้ว่าสิ่งที่ยุนโฮพูดมากจะตรงกับความจริงส่วนใหญ่ของสังคมก็เถอะ ยูชอนจะไม่ยอมเป็นชายมากรักอย่างที่เพื่อนว่าเด็ดขาด
“หึหึ จะคอยดูก็แล้วกัน ถ้านายได้เมียเรียบร้อยบริสุทธิ์ผุดผ่องแล้วเกิดว่านอกใจเค้าเมื่อไหร่ นายนั่นล่ะจะบาปที่สุด ที่เอาคนดีดีมาทำเลว”
“อ้าว ไอ้นี่ นายไม่เคยเชื่อใจเพื่อนรึไงวะ”
“เปล่า ก็แค่บอกไว้ ถ้านายทำได้ มันก็ดี” ยุนโฮไม่ได้ใส่ใจอะไร รวบเป้ขึ้นสะพายด้วยไหล่ข้างเดียวแล้วเดินออกไปจากห้องเช่าเพื่อซ้อมเต้นนั้นโดยมีเพื่อนรักเดินตามมาติดๆ เพื่อยืนยันว่าเขาจะรักเดียวใจเดียวอย่างแน่นอน ...ตามพร่ำบอกจนยุนโฮชักรำคาญ
พลัง...แห่งแสงจันทรา...จงสำแดงฤทธา ณ บัดนี้... Sailor Moon .......
เสียงริงโทนดังกระหึ่ม บอกรสนิยมเจ้าของเครื่องโทรศัพท์ได้เป็นอย่างดี ไม่ต้องให้ทายคุณก็คงพอรู้ว่าใครคือเจ้าของของมัน
“ฮาโหล..” ดองเฮคว้ามารับโดยไม่ได้ดูหน้าจอด้วยซ้ำว่าเป็นใคร
“สวัสดีครับ ทำอะไรอยู่ครับ ผมโทรมากวนรึเปล่า” เสียงทุ้มๆ ถามมา
“เค้าดูการ์ตูนกับกินขนมอยู่ มีอะไรรึเปล่า” ดองเฮที่กำลังใจจดใจจ่อกับหน้าจอโทรทัศน์ไม่ใคร่ใส่ใจเท่าใดกับคู่สนทนา
“โห.. การ์ตูนสำคัญกว่าหมอแล้วเหรอครับเนี่ย” ปลายสายแสร้งทำน้อยใจ
“ช่ายยย.. การ์ตูนสำคัญกว่า ตัวเองกินหนมป่ะ เค้าจุดธูปให้”
“โห.. หมอไม่ใช่ผีนะครับ ดองเฮทานให้อร่อยนะครับ หมอจะเตือนว่าพรุ่งนี้อย่าลืมมาตรวจร่างกายนะครับ”
“อื้มๆ เค้าดูการ์ตูนก่อนนะ ให้ไปโรงพยาบาลใช่ป่ะ”
“ครับ...อ้อ อย่าลืมคิดถึงหมอบ้างนะครับ” หมอหนุ่มทิ้งทายไว้กะจะให้อีกฝ่ายเคอะเขินบ้าง..แต่เปล่าเลย สติแฝดเล็กอยู่กับภาพเคลื่อนไหวด้านหน้าตนเองต่างหาก
“อื้ม... คิดถึงก็คิดถึง เค้าวางแล้วนะ กำลังดี” แล้วดองเฮก็กดวาง แถมโยนโทรศัพท์ไว้บนโซฟาข้างตัว จะจำได้รึเปล่าว่าต้องไปโรงพยาบาล...อันนี้ยังไม่รู้เลย แถมหมอไหนโทรมา...อันนี้ก็ไม่รู้ด้วยซ้ำ
..
..
..
พลัง...แห่งแสงจัน........
คราวนี้โทรศัพท์ใกล้ตัว ดองเฮรีบคว้ามารับเพราะเดี๋ยวขัดจังหวะการดูของเขา แล้วก็เหมือนเดิมๆ รับโดยไม่ได้ดู...ว่าเป็นใคร
“สวัสดีครับ”
“อื้ม...หวัดดี” ปลายสายได้ยินเพียงแค่เสียงกดรับก็รีบทักมาก่อนที่เจ้าของเครื่องอย่างดองเฮเสียอีก แฝดเล็กจึงได้แค่ตอบรับออกไป
“นี่หมอเองนะครับ”
“หมอไหนอีกล่ะฮะ เค้าดูการ์ตูนอยู่ พรุ่งนี้เดี๋ยวเค้าไป ตรวจร่างกายใช่ม๊ะ อ้อ ตะกี๊ลืมถาม กี่โมงนะ” ไหนๆ ก็รับแล้วก็เลยถามซะเลย
“ก็แล้วแต่ว่าคนน่ารักจะว่างตอนไหนน่ะครับ หมอว่างเสมอสำหรับดองเฮ”
“จริงป่าวหมอ เค้าน่ารักจริงเหรอ” ได้ยินคำนี้ทีไรเป็นต้องถูกใจทุกทีสิน่า
“จริงสิครับ ไม่งั้นหมอไม่คิดถึงหรอก”
“แหว่ะ จะอ้วกหมอ ตะกี้หมอเพิ่งโทรหาเค้าไม่ใช่เหรอ” เจ้าตัวเล็กคิดว่าคือคนเดียวกันโทรมาซ้ำ เพราะรอบแรกไม่ได้สนใจฟังเท่าไหร่
“หมอ...เพิ่งโทรหาดองเฮครั้งแรกเลยนะครับ”
“จริงเหรอ.. ก็ตะกี๊ หมอโทรมาบอกเค้าว่าอย่าลืมไปตรวจร่างกายนี่” ในปากยังมีเสียงกรุบกรับของขนม
“คงเป็นหมอฮันกยองครับ ว้า ... น้อยใจจัง โทรมาครั้งแรกก็โดนหาว่าเป็นคนอื่นซะแล้ว” ซีวอนเริ่มใช้กลยุทธ์มนุษย์เจ้าชู้
“หมอห้ามน้อยใจสิ เค้าน้อยใจได้ เค้างอนได้ แต่หมอห้าม ไม่งั้นใครจะง้อล่ะ”
“ดองเฮไม่ง้อหมอหน่อยเหรอครับ”
“ไม่ง้อหรอก หมอนั่นแหล่ะต้องง้อเค้า”
“ก็ได้ครับ หมอจะง้อดองเฮคนเดียว ดีมั๊ยครับ”
“ดี ง้อเค้าคนเดียวด้วย หมอเพิ่งโทรมาครั้งแรกเหรอฮะ”
“ครับ...ครั้งแรก”
“งั้นเค้าคุยกับหมอก็ได้ การ์ตูนจบพอดี เมื่อวานหมอก๊องแก๊งคุยกับเค้าตั้งนาน” แฝดเล็กรายงาน...
“คุยอะไรบ้างล่ะครับ หมอซีวอนคุยบ้างได้มั๊ยครับ”
“ก็คุยสิ ถ้าเค้าว่างก็คุยได้ทั้งนั้นล่ะ หมอก๊องแก๊งคุยเก่งอ่า คุยจนเค้าหลับเลย หมอว๊อนคุยเก่งป่ะ คุยให้เค้าหลับบ้างสิ เค้าอยู่บ้านคนเดียว เหงาอ่า” ดองเฮอยากจะหลับกลางวันรอพี่ชายทั้งสองแล้ว การนั่งอยู่คนเดียว (โดยไม่มีการ์ตูนเรื่องโปรดเพราะมันจบแล้ว) มันเหงาแฮะ
“ตอนนี้คิวว่างไม่มีคนไข้ งั้นหมอคุยด้วยก็ได้ครับ”
“หมอใจดีจัง เค้าชอบคนใจดี... เหมือนหมอก๊องแก๊งเลย”
ได้ยินคำเปรียบเทียบจากปากคนน่ารัก ซีวอนชักจะยอมแพ้ไม่ได้เสียแล้ว
“แล้วดองเฮชอบหมอคนไหนมากกว่ากันล่ะครับ” ซีวอนโยนหินถามทางก่อน เผื่อจะได้ปรับกลยุทธ์
“เท่ากันล่ะ เค้าเฉยๆ ทั้งคู่นั่นล่ะ” แฝดเล็กบอกตรงๆ
“ก็ยังดีครับ อย่างงี้ก็แสดงว่าหมอมีโอกาสเท่าๆ กับหมอฮันกยองใช่มั๊ยครับ”
“โอกาสอะไรเหรอหมอ” ตัวเล็กไม่เข้าใจเท่าไหร่
“เปล่าครับ งั้น..ถ้าอยากจะหลับ หมอเล่านิทานให้ฟังดีมั๊ยครับ” หมอคนเก่งเสนอทางเลือก
“เค้าไม่ใช่เด็กแล้วนะหมอจะได้เล่านิทาน ห้ามเล่าเจ้าหญิงนิทรากับซินเดอเรลล่านะ” เอ...แล้วนี่สรุปดองเฮจะหมายความว่ายังไง ไม่ฟัง หรือห้ามเล่าแค่สองเรื่องนั่น
“ไม่เล่าครับ หมอจะเล่าเรื่องอภินิหารสาวน้อยร้อนรัก ดีมั๊ย”
“อ๊ะ.. นิทานเรื่องอะไรอ่าหมอ ชื่อแปลกจัง หมอว๊อนเล่าดิๆ เค้าอยากฟัง”
“จริงรึเปล่าครับ งั้นหมอขอรางวัลก่อนได้มั๊ยครับ”
“รางวัลอะไรเหรอฮะ”
“ก็...หอมแก้มหมอไงครับ” ซีวอนรุกล้ำไปเรื่อย
“หอมแล้วหมอจะเล่าใช่มั๊ย” แฝดเล็กคิดสรตะ
“ครับ รับรองหมอจะเล่าให้สนุกเลยครับ”
“ก็ได้ๆ หมอยื่นแก้มมาดิ” อารามอยากรู้ทำให้ทำได้ทุกอย่าง ยิ่งการขอบคุณด้วยการหอมแก้มทำเป็นปกติอยู่แล้วเลยไม่ได้รู้สึกว่ามันผิดปกติแต่อย่างใด
“ครับ”
“จุ๊บ”
“อา...ชื่นใจจัง”
“ก็เล่าซะทีสิหมอ เค้าอยากฟังแล้ว”
“ก็ได้ครับ งั้นตั้งใจฟังนะครับ กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว......”
นิทานประโลมโลกของซีวอน เล่าไปได้ไม่เท่าไหร่ คนน่ารักของหมอก็เคลิ้มหลับไปเสียแล้ว จนซีวอนแน่ใจว่าคนไข้ที่หวังจีบทำแฟนหลับแน่ๆ จึงได้วางสายไป
ก๊อกๆ
เสียงเคาะประตูไม่ได้รอให้ซีวอนอนุญาตก็เปิดเข้ามาเสียแล้วประสาเพื่อนคนคุ้นเคย
“นี่แฟ้มของดองเฮ นายเอาไปศึกษาก่อนละกันนะ ชั้นดูจบแล้ว ชั้นโทรบอกเค้าแล้วด้วยว่าพรุ่งนี้อย่าลืมมาตรวจร่างกาย” ฮันกยองคงอยากจะพูดข่มเสียมากกว่าว่าตนได้พูดคุยกับดองเฮแล้ว
“อืม ชั้นรู้แล้วล่ะ เพราะชั้นเพิ่งส่งเค้าเข้านอน น่ารักชะมัด อยู่ใกล้ๆ คงกอดคงหอมจนช้ำเลยล่ะ” ซีวอนเกทับ ไม่ยอมให้ฮันกยองผยองเพราะรู้สึกเหนือกว่าหรอก
“ฮึ แต่เมื่อคืนชั้นก็ส่งเค้าเข้านอนเหมือนกัน นายอย่ามาคุยเลยน่าซีวอน”
“ชั้นเปล่าคุยนี่ แค่เล่าให้ฟัง กะว่าเย็นนี้จะพาดองเฮไปทานข้าว ดินเนอร์ใต้แสงเทียนซะหน่อย แล้วก็..อาจจะส่งเข้านอน..จริงๆ”
“อย่ามาโม้เลยซีวอน เค้าเล่าให้ชั้นฟังว่าที่บ้านหวงเค้าอย่างกับอะไรดี นายคงมีหวังได้ทำแบบนั้นหรอก” ฮันกยองไม่อยากเชื่อน้ำคำลวงโลกของเพื่อนรัก
“งั้นเรามาวัดกันมั๊ยล่ะ ว่าใครจะได้ดองเฮก่อนกัน” ซีวอนไม่อยากโดนสบประสาท
“เอาสิ ถ้าใครได้หัวใจคนไข้ผู้น่ารักคนนี้ก่อน คนนั้นชนะ แต่ชั้นย้ำนะ ว่าหัวใจ ไม่ใช่แค่ร่างกาย” ฮันกยองรู้ว่า..ถ้าแค่ร่างกาย มันง่ายไป เพราะเขาและซีวอนเคยทำสำเร็จมานักหลายรายต่อหลายราย
“ประกาศตัวเป็นคู่แข่งกันเลยว่างั้น” ซีวอนย้ำ
“ใช่ คุณดองเฮต้องเป็นของชั้นแน่”
“สำคัญตัวผิดแล้วล่ะฮันกยอง ต้องชั้นต่างหาก”
“ได้..เรามาวัดกัน"
สองหมอต่างมั่นใจในตัวเองว่ายังไง..คนไข้รายนี้คงไม่หลุดมือ เพราะยามทีสนทนาดูดองเฮจะไม่มีทีท่ารังเกียจรังงอน คงจัดการได้ไม่ยาก ....คุณต้องเป็นของผมแน่
ความคิดเห็น