ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Boy's Room [WonHyuk-KiHae-KyuMin]

    ลำดับตอนที่ #5 : WonHyuk Chapter 5

    • อัปเดตล่าสุด 15 ส.ค. 54




     

     

    Chapter 5

     

     

     

     

                    “อ๊า...ซีวอนแกล้งเรา”

     

                    ผมโวยวายให้ซองมินและทงเฮฟัง  ผมหน้างอยิ่งกว่าหมากรุกอีก  ก็ซีวอนพูดแบบนั้นผมใจเต้นเป็นจังหวะเทคโนเลย

     

                    เขาไม่รู้หรือไงว่าเล่นแบบนี้ผมทำอารมณ์ให้ปกติไม่ได้

     

                    “แล้ว..มันผิดปกติตรงไหน  หรือว่าอยากให้ซีวอนเค้ากวนตีนนายเหมือนที่ทำกับพวกเรา”

     

                    อืม..ทงเฮพูดมีเหตุผลอยู่นะ  แต่มันก็...

     

                    “พวกนายหนิดหนมปฐมพยาบาลสราญใจมันก็ดีแล้ว  คิดอะไรมากมาย”

     

                    ซองมินก็พูดเข้าท่า  ผมไม่ควรตีโพยตีพาย

     

                    “ไม่มีอะไรแปลก  เราไม่ควรโวยวายใช่ไหม”

     

                    “ใช่  ถ้านายทำแบบนี้ก็หมายถึงนายไม่ชอบที่ซีวอนมันพูด”

     

    “งั้นเหรอ  เราทำให้ซีวอนคิด เอ่อ รู้สึกไม่ดีงั้นเหรอซองมิน”

     

                    “งั้นมั้ง  ถ้าไม่ชอบที่มันทำก็บอกมันไป  แต่ถ้าไม่  ก็ Happy กว่านี้หน่อย”

     

                    “เรา..ไม่ได้ไม่ชอบ  แต่..มันรู้สึกแปลกๆ อ่า  ก็ซีวอนบอกว่าให้เราเป็นแฟนกันจริงๆ จะเป็นได้ไง”

     

     

     

     

                    ผมสับสนไปหมดแล้วล่ะ  ไม่รู้จะบอกซองมินกับทงเฮว่ายังไง

     

                    ผมชอบที่ซีวอนทำเพื่อผม  ทุกอย่างเลย

     

                    แล้วมันก็ตื่นเต้นเกินไปที่จะให้เป็นแฟนกันจริงๆ ตลอดทริป

     

                    หรือว่าซีวอนทำเพื่อซองมินกับทงเฮ  แล้วก็ทำเพื่อผม  อยากให้ผมรู้ว่าการมีแฟนจริงๆ มันเป็นยังไง

     

                    ซีวอนเป็นคนดีชะมัดเลย  ผมเอง  ผมต่างหากที่บ้าบอไปคนเดียว  แถมทำให้ซีวอนไม่สบายใจไปแล้วกระมังตอนนี้

     

     

     

     

     

                    “ก็ไม่ต้องเป็นสิ  ถ้ามันยากนัก”

     

                    อ่า.. ทงเฮทำไมพูดจาตัดรอนแบบนั้นล่ะ  ซีวอนเค้าไม่เคยมีแฟนเลยนะ  เค้าเคยบอกผมว่าเค้าไม่ได้เป็นแฟนกับคู่หมั้น  หมั้นกันเลยตั้งแต่เด็กๆ

     

                    “ไม่ได้  ไม่ได้  ซีวอนอุตส่าห์อยากเป็นแฟน  เราจะไม่ทำให้   ซีวอนผิดหวัง  เราจะเป็นแฟนกับซีวอนตลอดทริปนี้”

     

                    “บางทีคนที่เข้าใจยากอาจจะไม่ใช่ซีวอนนะ  นายว่าไหม   อึนฮยอก  ถ้านายมีเวลา  ก็ทำความเข้าใจตัวเองบ้างก็ดีนะ”

     

     

     

     

                    มันหมายความว่ายังไงเหรอ ?

     

                    ซีวอนไม่ใช่คนเข้าใจยาก  ผมควรทำความเข้าใจตัวเอง  หมายถึงผมกำลังไม่เข้าใจในตัวเอง  อย่างงี้คนที่เข้าใจยากก็คือผมงั้นสิ

     

                    ผมคิดถึงเรื่องนี้อยู่นานมากเลยล่ะ

     

     

     

     

                    จนผมรู้สึกว่า  ผมปล่อยทิ้งเวลามานานเกินไป  ผมทิ้งซีวอนไว้อยู่คนเดียว  ผมต้องเลิกคิดแล้วก็ดูแลคนที่ดีกับผม  ทั้งที่เค้าหวังดีกับผมตลอดแบบนี้  ผมยังมัวแต่คิดบ้าๆ บอๆ จนปล่อยให้เขาเหงา

     

                    ผมเดินตามหาซีวอน  สุดท้ายก็นั่งต๋งหม่งเหมียวขื่ออยู่มุมนึง  ผมเดินเข้าไปนั่งข้างๆ แล้วเอาหัวซบที่แขนของซีวอนอย่างที่ผมชอบทำ

     

     

     

     

     

                    “เป็นอะไร”

     

                    “อยากอ้อน  ซีวอนบอกว่าให้อ้อนได้”

     

                    เค้ายิ้มแล้วล่ะ  ตอนแรกเค้าหน้าบึ้งมากเลย  ผมกลัวสุดๆ

     

                    “อืม..ก็ให้อ้อน”

     

                    “วันนี้ไม่ได้เป็นเพื่อนกันใช่มั้ย ?”

     

                    “ถามอะไรแบบนั้นล่ะ”

     

                    “ก็..ซีวอนบอกว่า  วันนี้เป็นแฟนกัน”

     

                    “ถ้าไม่ชอบ ก็ไม่ต้อง  ฉันพูดไปอย่างงั้นล่ะ”

     

                    “ใครว่าล่ะ  ซีวอนเป็นคนดี  น่ารัก  แล้วก็นิสัยดี  ใครไม่อยากเป็นแฟนด้วยก็บ้าแล้ว  ฮิฮิ”

     

                    “นายไง  นายไม่อยาก”

     

     

     

     

                    นั่นไง  ผมว่าแล้วซีวอนต้องน้อยใจ

     

     

     

     

                    “เรารักเพื่อนคนนี้มากที่สุดในโลก  เราไม่ยอมเสียซีวอนไปหรอก  ถ้าซีวอนบอกว่าเป็นแฟนกันก็จะเป็นแฟนกัน  ถ้าหมดทริปแล้วซีวอนอยากให้กลับมาเป็นเพื่อนกันก็จะเป็นเพื่อน”

     

                    “นายตามใจฉันมากไปรึเปล่าอึนฮยอก”

     

                    “ซีวอนก็ตามใจเราเหมือนกัน”

     

                    “หึหึ  น่าเบื่อจัง  ไม่ตื่นเต้นเลย”

     

                    ซีวอนอาจจะไม่  แต่ผมน่ะเกร็งจนปัสสาวะหนืดแล้ว

     

                    “ซีวอนไม่ตื่นเต้น  แต่เราตื่นเต้นจะตาย”

     

                    “จริงเหรอ ?”

     

                    “อื้ม...”

     

     

     

     

                    ยังจะถามอีก  ซีวอนเขารู้จักผมดีที่สุด  แม้จะไม่ได้คบกันมานานมาก  แต่สี่เดือนนี้ผมสนิทกับซีวอนมากที่สุดเลยรู้รึเปล่า

     

                    เขารู้ว่าผมตื่นเต้น  รู้ว่าผมต้องวุ่นวายใจแค่ไหนเพื่อจะกล้าต่อสู้กับเรื่องนี้  ผมไม่ใช่นักสู้อะไรเลย  ผมเป็นแค่น้องอึนของคุณแม่  อึนฮยอกของเพื่อนๆ  และเป็นแค่อีฮยอกแจของพลเมืองเกาหลี

     

     

     

     

                    “จบทริปก็เป็นเพื่อนกันใหม่  จะได้ไม่ตื่นเต้น  โอเคไหมล่ะ”

     

                    “อื้ม.. ตามใจซีวอน  บอกแล้วเราตามใจซีวอนอยู่แล้ว”

     

     

     

     

     

                    ..

                    ..

     

     

     

     

     

                    พูดถึงทริปนั้นมันก็นานมาแล้วล่ะ 

     

                    ผมยังนึกถึงมันอยู่เสมอ

     

                    ผมกับเพื่อนสนิทเป็นแฟนกันตั้งสัปดาห์นึงแหนะ

     

                    ใครจะทำลายสถิติเป็นแฟนเพื่อนสนิทได้นานอย่างผม

     

     

     

     

     

                    ตอนนี้พวกเราอยู่ปีสามแล้ว  เวลามันผ่านไปเร็วจังเลย

     

                    จบเทอมนี้เราก็จะขึ้นปีสี่    ต้องแยกย้ายกันไปฝึกงานแล้ว

     

     

     

     

     

                    อ้อ  มีเรื่องที่ยังไม่ได้บอกพวกคุณสินะ

     

                    นิยายรักวัยเรียนของเด็กสองคนนั้นกับซองมินและทงเฮมันยืนนานมากกว่าที่คิด

     

                    เจ้าเด็กพวกนั้นคงรู้สึกอย่างที่ผมเป็นกับซีวอน  รู้สึกว่าเป็นเจ้าของและไม่อยากจะแชร์คนอื่นใช้ 

     

                    ถามว่าแปลกไหมที่นักเรียนโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยนี้จะเข้าศึกษาต่อที่นี่  มันไม่แปลกหรอก  คงจะแปลกที่สองคนนั้นเลือกเรียนคณะเดียวกับผม  คณะเดียวกับซองมินแล้วก็ทงเฮ

     

     

     

     

                    ฮิฮิ  ผมน่ะสมน้ำหน้าเพื่อนผมที่สุดเลย

     

                    คราวนี้เป็นทีของเด็กสองคนนั้นที่คอยตามจิกไม่ให้ซองมินกับทงเฮไปสำมะเลเทเมากับเด็กๆ คนไหนได้อีก

     

                    ไม่น่าเชื่อว่าพวกเขาจะเป็นแฟนกันมาได้นานขนาดนี้  อืม..เรียกว่าแฟนรึเปล่าก็ไม่รู้เนอะ  ไว้พวกคุณดูเองดีกว่า

     

     

     

     

                    ส่วนผมน่ะเหรอ

     

                    ก็แอบเศร้านิดหน่อย  จริงๆ ก็เยอะน่ะแหละ

     

                    ปีหน้าคู่หมั้นของซีวอนจะตามมาเรียนที่นี่ 

     

                    ผมเหลือเวลากับเพื่อนสนิทที่ชื่อซีวอนอีกแค่เทอมเดียว

     

     

     

     

                    ซีวอนไม่มีแฟนเลยตลอดที่เรียนที่นี่  ผมไม่รู้ว่าเพราะซีวอนค่อนข้างให้เกียรติคู่หมั้น  หรือว่าเพราะมีผมคอยเกาะแกะกวนใจจนไม่มีใครเข้ามาวุ่นวายก็ไม่รู้สินะ

     

                    จะว่าไป  ผมเองก็เหมือนกัน  ผมไม่มีใคร  นอกจากซีวอน

     

                    พวกเราสองคนใช้เวลาชีวิตนักศึกษาอย่างไร้ประสบการณ์ชีวิตรึเปล่านะ  เราสนุกด้วยกันสองคน  เราทุกข์  ปรึกษา  และยิ้มให้กันสองคน  เป็นอย่างนี้มาสามปี  จะสามปี

     

     

     

     

                    จนผมรู้สึกว่าบางที  ผมอาจไม่ต้องการใคร  นอกจากซีวอน

     

     

     

     

                    “อึนฮยอก  คิดอะไรน่ะ”

     

                    ซีวอนเอาใจใส่ผมเสมอ  เราเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน  และอีกไม่นานจะมีคนอื่นที่เข้ามา  ทำให้ผมไม่สามารถมีซีวอนได้อีก

     

                    “ปีหน้าเราจะเป็นยังไงกันซีวอน”

     

                    “ไม่รู้หรอก  อนาคตก็คืออนาคต”

     

                    “ถ้าซีวอนตามใจเรามาตลอด  เราขออีกเรื่องนึงได้ไหม”

     

                    “อืม..ว่ามาสิ”

     

                “เป็นแฟนกันเถอะ !!~

     

     

     

     

                    บรรยากาศพาไป  หรืออะไรดลบันดาลผมก็ไม่รู้

     

                    แต่ผมขอไปแล้ว  ซึ่งซีวอนก็ใช้เวลาคิดเพียงนิดเดียวเพื่อตอบผม  ผมรู้ว่าคำตอบจะเป็นอะไร 

     

                    “อืม  ได้สิ”

     

                    “จะเป็นตลอดไปได้ไหม”

     

                    “ไม่รู้เหมือนกัน  อนาคตก็คืออนาคต”

     

                    “แต่เทอมนี้เราจะมีซีวอนใช่ไหม”

     

                    “อื้ม  อึนฮยอกจะมีเรา”

     

                    “พอแล้วล่ะ  ถ้าปีหน้าอะไรจะเปลี่ยนไป  ซีวอนต้องรู้ไว้อย่างนึงนะ”

     

                    ผมอยากพูดคำนี้มานานแล้ว  อยากพูดจริงๆ

     

                    “ซีวอนจะมีอึนฮยอกนะ”

     

                    “อื้ม..จะจำไว้”

     

                    ซีวอนลูบหัวผมอย่างที่เคยทำ  มันอ่อนโยน  อบอุ่น  แล้วก็ดีกับความรู้สึกของผมเสมอ  มือนี้จะเป็นของผมในเทอมนี้

     

     

     

     

                    เพื่อนที่สนิทที่สุด  เพื่อนที่ผมรัก

     

     

     

     

                    ผมเห็นแก่ตัวอีกครั้ง  ผมอยากเป็นแฟนเขาเพราะว่าเขาจะได้จำผมไว้หลายสถานะ  จำผมให้ได้มากที่สุด  สำหรับผมแล้วผมจะจำ  ซีวอนไว้เสมอ

     

                    เพื่อนรักของผม

     

                    ผมจะได้จำเขาไว้อีกตำแหน่งด้วยว่า  “เป็นคนรักของผม”

     

     

     

     

                    แต่..แฟนกันต้องทำแบบนี้ด้วยเหรอ

     

                    ทำไมเราต้องอยู่ในห้องกันแค่สองคน

     

                    ทำไมซีวอนต้องทำท่าเหมือนจะจูบผม

     

     

     

     

                    “ต้องทำแบบนี้ด้วยเหรอซีวอน”

     

                    “คนเป็นแฟนกันก็แบบนี้ล่ะ”

     

                    “ไว้ก่อนได้ไหม  เรากลัว”

     

                    “อืม..ได้สิ  เราตามใจอึนฮยอก”

                   

     

     

     

     

                    มันไม่ใช่เรื่องแปลกที่ผมกับซีวอนอยู่กันสองคนในห้อง  ซีวอนถอดเสื้อก็ไม่ใช่เรื่องแปลก  ผมก็มีหน้าที่แค่มองเขา  จ้องมองให้เขารู้สึกวูบวาบอย่างที่เคยบอกผมว่าเขาเขิน

     

                    แต่การที่เราจูบกัน  และเขาจะจูบต่ออีกครั้ง  ทำให้ผมนอนหงายบนเตียง  มือของเขาชอนไชเข้ามาในเสื้อกับกางเกงของผมนี่ล่ะที่ผมไม่ชิน  ผมกลัวจริงๆ

     

                    ยังดีที่ซีวอนเป็นคนดี  เป็นคนดีจริงๆ  เขายังยอมตามใจผมเมื่อผมบอกว่าไม่

     

                    ผมไม่รู้ว่าซีวอนทำไปเพราะหน้าที่ของการเป็นแฟน  หรือเพราะอะไร  ผมไม่แน่ใจอะไรซักอย่าง  ผมกำลังคิดว่าถ้าหากว่าผมยอมให้ซีวอน..เข้ามา  เมื่อจากกันผมจะรับไหวไหม

     

     

     

     

                    มันคงเศร้าที่เราต้องเสียแฟน  เสียคนรักไปให้เจ้าของตัวจริง

     

                    แต่ผมคงดีกว่าคนอื่นๆ ที่ผมจะเหลือ “เพื่อน”

     

     

     

     

                    คืนนี้เป็นคืนแห่งการสวมกอด

     

                    ซีวอนแค่กอดผม  เขากอดผมแน่นอย่างที่ไม่เคยมาก่อน

     

                    ปกติจะเป็นผมที่เผลอกอดเขาเวลาที่เรานอนเตียงเดียวกัน

     

     

     

                    ไม่แปลกจริงๆ  ผมกับซีวอนนอนด้วยกันบ่อยมาก  ผมจะตื่นมาแล้วพบว่าผมกอดเขาอยู่  ผมมีความสุข  และเราก็ไม่เคยพูดถึงเรื่องว่าเรานอนกอดกันทำไม

     

                    ซีวอนเป็นคนดี  ยอมให้ผมกอดเสมอ

     

                    และคืนนี้เขาเป็นฝ่ายกอดผม  ผมตื่นเต้นจนไม่กล้ากอดเขา

     

     

     

     

                    เขากระซิบถามผมว่า

     

                    “กลัวเหรอ”

     

                    “อื้ม  กลัว”

     

                    “กลัวอะไร ?”

     

                    “กลัวว่าถ้าตื่นมาแล้วซีวอนหายไป  เราจะยังมีซีวอนให้กอดไหม”  นั่นคือสิ่งที่ผมคิด  ถ้าผมกอดเขาไว้คืนนี้แล้วพรุ่งนี้ไม่มีอีกต่อไป 

     

                    ...ผมจะกอดใคร

     

                    ซีวอนต้องมีคู่หมั้นให้กอด  แล้วผมล่ะ ?

     

     

     

     

                    “ไม่รู้เหมือนกัน  แต่คืนนี้อึนฮยอกมีผมนี่  ทำไมไม่กอดผมไว้ล่ะ”

     

                    อืม..นั่นสินะ  ซีวอนพูดถูก  ถ้าผมเอาแต่กลัว  แล้วไม่กอดไว้วันนี้  เวลาที่ผมมีเขาก็จะหายไปอย่างเสียเปล่าเฉยๆ

     

                    ฉะนั้น  ผมจึงกอดเขา... เรากอดกัน

                   

     

     

     

     

                    มันควรจะมีอะไรต่อไหม ?

     

                    เวลาผมทำอะไรแบบนี้มักจะคิดถึงซองมินและทงเฮ  ถ้าเป็นสองคนนั้นทุกอย่างมันจะต้องเกินเลยเสมอล่ะ

     

                    ผมจำได้  พวกเขาวางแผนอะไรบางอย่างตอนที่คิบอมและ คยูฮยอนเข้ามาเรียนปีหนึ่ง  นักศึกษาปีหนึ่งต้องอยู่หอ  ส่วนปีสองขึ้นไปนั้นสามารถย้ายห้องได้

     

                    ซองมินย้ายไปเป็นรูมเมทกับทงเฮ  ส่วนผมก็...เป็นรูมเมทกับซีวอน  อันนี้ผมคงไม่ได้บอกคุณ  แฮ่ๆ  คิดว่าพวกคุณอาจจะรู้กันได้เองน่ะนะ

     

                    เพื่อนผมบังคับให้คยูฮยอนกับคิบอมเป็นรูมเมทกัน  ซึ่งนั่นก็คือในนามเท่านั้นล่ะ  เพราะเมื่อถึงเวลาจริงๆ ...

     

                    ทงเฮก็นอนกับคิบอม

     

                    ซองมินก็นอนกับคยูฮยอน

     

                    ผมไม่รู้หรอกนะว่าเด็กสองคนนั้นเค้าเต็มใจ  พอใจกันหรือเปล่า  แต่ก็อยู่กันมาได้จนถึงตอนนี้  ร่วมจะสองปีแล้ว

     

                    มีเด็กปีหนึ่งปีสองมาชอบซองมินแล้วก็ทงเฮ  แต่ก็ได้แค่ชอบ  เพราะทงเฮกับซองมินไม่คิดว่าแฟนตัวเองจะร้ายได้ถึงขนาดนี้  เด็กสองคนนี้ประกาศขู่ตามล้างบางคนยุ่งกับรุ่นพี่สองคนนี้

     

                    ผมสะใจชะมัด 

     

                    ในทำนองเดียวกัน  เวลาคนมาชอบสองคนนี้เพื่อนผมก็บ้า

     

                    ความรักเป็นเรื่องตลกเสมอเลยล่ะ

                   

     

     

                    ผมรักซีวอนไหม  อืม..ผมรักนะ

     

                    ผมไม่รู้ว่าเรารักกันแบบไหน  มันอาจจะมากกว่าเพื่อนทั่วไป  แต่ถึงขั้นไหนผมไม่รู้

     

                    การที่ผมได้ทดลองใช้ชีวิตร่วมกับซีวอนทำให้รู้ว่า  เราเข้ากันได้ดี  เรามีความสุขร่วมกันทุกวัน 

     

                    แม่ไม่เห็นด้วยสักเท่าไหร่ในตอนแรกที่ผมจะย้ายมาอยู่กับ    ซีวอนตอนปีสอง  แต่ผมก็ดื้อแพ่ง  ผมไม่อยากเสียซีวอนให้ใคร

     

                    สักพักแม่ก็เงียบไป  แล้วก็ยอมรับกับมันได้  เพราะซีวอนเป็นคนดี  ทำให้ผมเรียนดี  มีสุขภาพดี  มีอาหารดีดีทาน  แม่เลยเบาใจ  หลังๆ มานี้แม่ยุให้ผมเป็นแฟนกับซีวอนด้วยซ้ำ

     

                    ผมเถียงแม่ว่า  ผมเป็นผู้ชาย  ซีวอนเป็นผู้ชาย  แถมมีคู่หมั้นด้วย  มันคงเป็นไปไม่ได้  ซึ่งแม่ก็พูดว่า

     

                “ถ้าโลกนี้มีคำว่ารักแรกพบ  ลำดับมาก่อนหรือหลังก็คงไม่ใช่ปัจจัยหลักของความรัก”

     

                    นี่แม่กำลังสอนให้ผมแย่งอะไรรึเปล่า ?

     

                    ผมคิดมาจนถึงวันที่ขอซีวอนเป็นแฟนนั่นล่ะ 

     

                    ผมหน้าด้านมากๆ เลยล่ะสิ  ผมรู้  แต่..ผมยอมให้คุณว่า

     

                    ถ้ามันจะทำให้ผมมีซีวอน

     

                    ถ้ามันจะทำให้ซีวอนอยู่กับผม  สนิทกับผม  แล้วก็ไม่ลืมผมแม้ว่าเขาไปแต่งงานหรือมีชีวิตในอนาคต

     

                    ผมยอม

     

     

     

     

                    “อึนฮยอก...”

     

                    ผมนอนดิ้นขลุกขลักไปมาในอ้อมกอดของเรา (ที่เรากอดกัน) ซีวอนคงรู้ว่าผมนอนไม่หลับถึงได้เรียกชื่อผมขึ้นมา

     

                    “อ..อะไรเหรอ”

     

                    “ไม่ง่วงรึไง  ทำไมไม่หลับ”

     

                    “เราคิดอะไรเรื่อยเปื่อยน่ะ” 

     

                    “ถ้าเราพูดอะไรบางอย่างอึนฮยอกจะโกรธไหม”

     

                    “ก็..ซีวอนว่ามาก่อนสิ”

     

                    ซีวอนเขากอดผม  จูบเรือนผมของผมทีหนึ่งแล้วค่อยพูดต่อ

     

                    “ตอนนี้เราเป็นแฟนกันใช่ไหม”

     

                    “อื้ม...”

     

                    “ถ้าเราแสดงความรู้สึกที่แท้จริงในเวลาที่เหมาะสม  มันไม่ผิด  จำคำพูดทำนองนี้ได้รึเปล่า”

     

                    “อื้ม  จำได้  ตอนแรกๆ ที่เรารู้จักกัน  เราหรือซีวอนนี่ล่ะที่เป็นคนบอกซองมินกับทงเฮ”

     

                    “ตอนนี้อึนฮยอกว่าเป็นเวลาที่สมควรหรือยัง”

     

                    “สำหรับอะไรล่ะ”

     

                    “คงไม่ใช่เวลากินปูหรอก  หึหึ  หรือว่าใช่ก็ไม่รู้”

     

                    ซีวอนกวนอ่า  แต่ผมก็ชอบอยู่ดี

     

                    “เราชอบอึนฮยอกมาก  เมื่อก่อนไม่มั่นใจ  แต่ถึงทุกวันนี้มั่นใจแล้ว”

     

                    “ก็เราเป็นเพื่อนกันนี่นา  ถ้าไม่ชอบก็คงเลิกคบไปแล้วล่ะ”

     

                    “นี่ล่ะที่กลัวว่าจะได้ยิน  อึนฮยอกรักเราแบบไหน”

     

                    ผมควรจะตอบยังไง  ซีวอนถามตรงมากเลย

     

                    “ม..ไม่รู้  รู้แต่ว่าไม่อยากเสียซีวอนไป  อยากอยู่กับซีวอน  พอคิดว่าเทอมหน้าจะไม่มีซีวอน  เพราะซีวอนจะต้องอยู่กับคู่หมั้น  มันก็..

     

                    “ก็อะไร  พูดต่อสิ  ผมอยากฟัง”

     

                    บอกเฉยๆ ก็ได้ซีวอน  ไม่ต้องไซร้ซอกคอได้ไหม

     

                    ..มัน..สะ..สะ..เสียว

     

                    “ก็อยากยึดซีวอนไว้..ป..เป็นของเราคนเดียว”

     

                    “อื้ม  น่ารักจัง  รักซองมินอย่างที่รักผมไหม”

     

                    “ก็..รัก  แต่ต่างกันนิดหน่อย”

     

                    “ทงเฮล่ะ”

     

                    “ก็..เหมือนกัน”

     

                    “พอแล้ว  อยากได้ยินแค่นี้ล่ะ”

     

                    “ซีวอน  เรา..ตื่นเต้น”

     

                    “จูบได้ไหม ?”

                   

                    ผมอยากให้ตัวเองหูฝาด  เพื่อนสนิทคนดีของผมขออนุญาตจูบ  ถ้าเราจูบกันจริงๆ จังๆ มันก็จะเป็นอีกก้าวที่เราผูกพัน

     

                    ผมควรตอบยังไง

     

                    “อึ..อื้ม”

     

                    ร่างกายมันไปไวกว่าสมอง  ผมเชื่อคำนี้ก็ตอนนี้ล่ะ  ทำไมผมถึงตอบได้รวดเร็วขนาดนี้นะ

     

                    ซีวอนจูบผม  ผมจูบตอบ  ..เราจูบกัน

     

    [ตอนนี้ไม่สามารถเผยแพร่ได้ เพื่อความเหมาะสม]

     

                    “ผมต้องการคุณ  ต้องการอึนฮยอกมากเลย  ให้ผมได้ไหม”

     

                    คำพูดนี่มันน่าอายเหลือเกิน  ผมจะต้องตอบมันจริงๆ หรือ

     

                    ผมไม่ตอบได้ไหม  ผมไม่อยากตอบ  มัน..มันน่าเก้อเขิน

     

                    สิ่งที่เรากำลังทำกันอยู่ตอนนี้มันก็ชัดเจนไม่ใช่หรือไง

     

                    “ได้ไหม”

     

                    “.....”

     

                    “ผมไม่อยากบังคับใคร  ถ้าคุณไม่ตอบ  ผมอาจจะรู้สึกว่าผมขืนใจอึนฮยอกอยู่”

     

                    “เปล่า...อึ๊..” 

     

    [ตอนนี้ไม่สามารถเผยแพร่ได้ เพื่อความเหมาะสม]

     

    “เปล่าอะไรครับ”

     

    “เปล่าขืนใจ.. เรายอม”

     

    ผมพูดออกไปแล้ว 

     

    มันไม่ได้โรแมนติก  ไม่ได้สวยงาม  แถมยังฟังแล้วน่ากระดากมากๆ เลย  การที่ผู้ชายด้วยกันจะต้องมาบอกว่าสมยอมให้ผู้ชายด้วยกันกระทำนี่มันไม่ถูกต้องสุดๆ

     

    ...แต่นี่คือซีวอน  ฉะนั้น  ผมยอม

     

    “เรายอมให้ซีวอนทุกอย่าง  ซีวอนก็รู้”

     

    “อืม.. ผมรู้”

     

    ..

    ..

     

     

     

     

    ผมรู้  ไม่ใช่ผมรัก

     

    ซีวอนเขาคิดว่าผมรู้ว่าซีวอนรักผม  หรือว่า  เขาตั้งใจไม่พูดมันออกมา

     

    คืนนั้นผมเข้าข้างตัวเองว่าสิ่งที่ซีวอนกระทำกับผมมันคือความรัก  

     

    ความรัก..อืม  ผมรักซีวอน  แน่นอนในฐานะเพื่อน  มากกว่าเพื่อนก็รัก  ผมไม่แน่ใจในตัวเอง  แต่ผมดันคาดหวังจะให้ซีวอนบอกว่ารักผมขณะที่มีอะไรกับผม  ทั้งที่ตัวผมเองไม่รู้ด้วยซ้ำว่าผมรักซีวอนอย่างคนรักกันหรือเปล่า  ผมบ้าชะมัด

     

    ซีวอนเป็นคนดีเสมอ  ซีวอนใจดีกับผมเสมอ  ผมคลางแคลงใจกับสิ่งที่ซีวอนทำได้ยังไงนะ

     

    ผมแย่จริงๆ ตัวผมเองผมก็ไม่ได้บอกซีวอนว่ารักสักหน่อย

     

    เช้านี้ผมตื่นมาในอ้อมกอดของซีวอน  แน่นอนเรากอดกัน  เราไม่มีเสื้อผ้าทั้งคู่ 

     

    ผมกับซีวอน   เราประมาทมากๆ เลยล่ะ

     

    เราไม่ได้ป้องกันอะไรเลย  สิ่งเดียวที่ซีวอนมีก็คืออะไรซักอย่างลื่นๆ ที่ทำให้ผมเจ็บน้อยลง

     

    อารมณ์ชั่ววูบทำให้ผม..เชื่อใจซีวอน  ผมไม่ได้คิดหรอกนะว่าซีวอนจะไม่ระแวงผมเหมือนกัน  แต่พอมาถึงตอนนี้แล้วอะไรมันก็คงจะสายไปที่จะเริ่มป้องกัน

     

    ไม่น่าเชื่อว่าร่างกายที่ผมขลุกอยู่ด้วยมาเกือบสามปีนี้จะทำให้ผมตื่นเต้น  แล้วเกิดความต้องการได้มากถึงขนาดนี้  ซีวอนก็คงเหมือนกัน  เพราะว่าเขาลูบคลำผมตลอด  เราจูบกันทุกโอกาสที่ทำได้

     

    จูบที่ปาก  ที่เนื้อตัวร่างกาย  ทุกที่ที่เรียกว่าร่างกาย

     

    [ตอนนี้ไม่สามารถเผยแพร่ได้ เพื่อความเหมาะสม]

     

    ...ผมก็ข่มขืนซีวอน  ผมปล้น  ผมลักหลับซีวอน

     

    [ตอนนี้ไม่สามารถเผยแพร่ได้ เพื่อความเหมาะสม]

     

    “ขอโทษนะ  เจ็บไหม”

     

    ผมส่ายหน้า  มันไม่ได้เจ็บสักนิดเดียวถ้าเทียบกับสิ่งที่ผมกำลังจะขอ   แล้วได้รับการปฏิเสธ  มันจะเจ็บกว่าหลายเท่า

     

    ผมถูกจูบซ้ำๆ ผมจูบเขาตอบ

     

    ผมยังชอบที่ยังมีซีวอนอยู่ตอนนี้  เขาพยายามจะนำมันออกไป  ผมกอดซีวอนไว้แน่นให้เขายังอยู่แบบนี้

     

    น้ำตาผมเริ่มไหล.. มันไหลกับสิ่งที่ผมจะบอก

     

    “ซีวอน..เรารักซีวอนนะ”

     

    “อืม..ผมรู้” 

     

    ใจผมเบาหวิว  เหมือนสิ่งที่สะสมไว้มันเพิ่งกระจ่าง  แล้วก็ยกให้ซีวอนเป็นคนรับไป 

     

    ผมอาจจะอ่อนแอเกินไป  เมื่อไม่มีอะไรมาทดแทนน้ำหนักดังกล่าว  ผมก็เลย..เบาหวิว  โหวงไปหมด

     

    ซีวอนนำตัวตนของเขาออกไปจากผมจนได้  ผมรู้สึกถึงบางอย่างที่มันไหลตามออกมาด้วย  ผมไม่อยากให้มันออกมา  ผมอยากเก็บซีวอนไว้  แต่สิ่งที่ซีวอนให้มามันก็ไหลซึมออกมาด้วย

     

    ผมร้องไห้  ผมไม่ค่อยร้องไห้เท่าไหร่

     

    ซีวอนกอดผมไว้  เขาปลอบผม  ยิ่งผมลุกขึ้นนั่งเพื่อกอดเขาเท่าไหร่  มันยิ่งไหลออกมา  มันเหมือนกับว่ามันออกมาจนเกือบหมด

     

    “ร้องไห้ทำไม  หืม..”

     

    “เรา..ไม่อยากเสียซีวอน  เราแย่มากใช่ไหม”

     

    “ใช่  คุณแย่มาก”

     

    “ซีวอน.. ไม่เลิกกันไม่ได้เหรอ  จบปีนี้  ปีหน้า”

     

    “อื้ม  ผมจะอยู่กับอึนฮยอกตลอดไป  พอใจไหม  คุณอาจไม่รู้นะ  แต่ผมว่า...ผมรักคุณมากกว่าคุณรักผมเสียอีก”

     

    “จ..จริงเหรอ  ซีวอนไม่เคย...”

     

    “ใช่  ผมไม่เคยพูด  ตอนนี้เป็นเวลาที่สมควรแล้ว”

     

    ซีวอนรอเวลา  รอมาตลอดงั้นหรือ  ผมเองใช่ไหมที่คอยแต่คิดบ้าๆ บอๆ  ซีวอนเขาพูดให้ผมมั่นใจอีกครั้ง  ผมฟังแล้วก็เหมือนตัวผมมีอะไรมาเติมเต็ม  ไม่เบาโหวงอีกต่อไป

     

    “ผมรักอึนฮยอก”

     

    “อื้ม..เราก็รักซีวอน”

     

    และผมก็ขอสิ่งสุดท้ายกับซีวอน

     

    “ซีวอน  เราไม่แบ่งซีวอนกับใครได้ไหม”

     

    “ผมรู้  ผมจะถอนหมั้น”

     

    “ซีวอนตามใจเราอีกแล้ว  เดี๋ยวเราก็เสียคนหรอก”

     

    “ผมคอยอยู่  เสียคนกับผมเยอะๆ ล่ะ”

     

    เราไม่ใช่คู่ที่ผาดโผน  ไม่ใช่ความรักที่หวือหวา  ไม่ต้องผ่านอะไรมามากมายเพื่อจะได้คู่กัน  แต่ผมรู้สึกว่านี่คือหนทางของเรา

     

    เราเรียนรู้ที่จะรักกัน  ใช้เวลาร่วมกัน  ปรับตัวเข้าหากัน  ไม่ใช่รักแรกพบ  แต่เป็นรักที่ผมใช้หลายอย่างประกอบเพื่อรัก..ตลอดไป

     

    เรื่องราวของผมไม่ใช่เรื่องใหญ่

     

    ผมแค่เล่าในมุมมองของผมเท่านั้น  ผมไม่รู้ว่าคนอื่นๆ จะคิดอย่างไร  แต่ผมขอบคุณโอกาส 

     

    ทุกโอกาสที่ผมได้ใช้ชีวิตร่วมกับซีวอน

     

    ทุกโอกาสที่เปิดให้ผมได้พูดคุย  มีปัญหา  และร่วมแก้กับ     ซีวอนตลอดระยะเวลาเกือบสามปี

     

    ทุกโอกาส  ที่เพื่อนแสนดีอีกสองคนได้ผลักดัน(โดยไม่ได้ตั้งใจ)

     

    สำคัญที่สุดผมขอบคุณโอกาสที่ซีวอนเปิดให้ผมได้เข้าไปเรียนรู้ผู้ชายบ้าเพาะกล้ามคนนี้  เขาอบอุ่น  ใจดี เป็นมิตรกับผม  และขอบคุณตัวเองที่กล้ายอมรับว่า  ผมรักเขา  รักมากกว่าเพื่อน  ขอบคุณที่ตัวเองกล้ายอมมอบตัวเองให้กับความรักนี้

     

    ขอบคุณความกล้าที่ยอมเสี่ยง  กล้าที่จะเปิดปากพูดคุย  ถาม  และขอในสิ่งที่อยากได้  ซึ่งซีวอนไม่ค่อยจะปฏิเสธมัน

     

    ผมขอบคุณโลกนี้ที่มีความรัก

     

    และคงต้องขอบคุณทุกอย่างรอบตัวที่ทำให้เกิดวันนี้ของผม

     

    ผมยิ้มอย่างที่ผมชอบ  และซีวอนก็ชอบมัน ..เขาชอบให้ผมยิ้มเสมอ

     

    ผมยิ้มให้กับมิตรภาพใหม่ที่ผมเพิ่งได้รับอย่างเป็นตัวตน

     

    ผมยิ้มให้ซีวอน

     

     

     

     

    “พร้อมจะเหนื่อยไหมอึนฮยอก”

     

    “อื้ม”  ผมรู้ว่าเขาไม่ได้หมายถึงเรื่องบนเตียงนี้  เขาหมายถึงการที่จะก้าวผ่านเรื่องที่จะเกิดขึ้นในอนาคตสำหรับเรา

     

    “พร้อมที่จะรักผมอย่างไม่ถอดใจไปง่ายๆ แล้วนะ”

     

    “อื้ม”

     

    ซีวอนยิ้มกลับคืนมาให้ผม  เรากุมมือกัน  ก่อนที่ซีวอนจะคว้าเอาโทรศัพท์มือถือบนหัวเตียงมาโทรหาใครสักคน

     

    ผมได้ยินแค่ว่า

     

    “พ่อ..ผมขอถอนหมั้นนะ  ผมมีคนรักแล้ว”

     

    มันคงจะต้องฝ่าฟันกันสักหน่อย  แต่ผมกับซีวอนพร้อมแล้วที่จะเผชิญมัน

     

    ...ก็แค่อุปสรรคของความรัก

     

     

    Fin.

     

                ยังมีเรื่องราวของ  คิบอม ทงเฮ , คยูฮยอน ซองมิน และ  ซีวอน ฮยอกแจ ในพาร์ท 2 

                ฝากติดตามกันต่อไปด้วยนะจ๊ะ

                ขอบคุณมากๆ จ้า  ^^

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×