คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : WonHyuk Chapter 4
Chapter 4
เชื่อไหมว่านี่สามเดือนกว่าแล้วที่ผมเรียนอยู่ที่นี่
สามเดือนที่ผมเหมือนจะเหลือเพื่อนอยู่คนเดียว
...นั่นก็คือซีวอน
“แป๊บเดียวจะสอบแล้วเนอะ”
ผมนอนดีดดิ้นบนที่นอนของซีวอน ฮี่ๆ มันกลายเป็นที่คุ้นเคยของผมไปแล้ว น่าแปลกใจจัง ไม่เห็นซีวอนจะมีฟงมีแฟนเหมือนคนอื่นๆ เลย มันผิดวิสัยวัยรุ่น คุณว่าไหม ?
“อืม..ใช่ อ่านหนังสือถึงไหนแล้ว”
“หน่อยนึง... ซีวอน ถามอะไรหน่อยได้ป่าว”
“ว่าไง”
โอย พูดกับผมก็ไม่ค่อยสบตาหรอกซีวอนหมู่นี้ ตั้งหน้าตั้งตาซิทอัพ เล่นเวท กลัวผมไม่อยากกินปูหรือไง ?
“ซีวอนมีแฟนรึยัง”
ผมละลาบละล้วงไปรึเปล่าที่บังอาจไปถามเค้า ซีวอนนิ่งหยุดแล้วหันหน้ามาจ้องผมใหญ่เลย
“เอ่อ.. จะไม่ตอบก็ได้นะ เราไม่ได้...”
“ไม่แน่ใจว่ามีรึเปล่า”
ซีวอนเค้าชิงตอบก่อนที่ผมจะพูดจบซะอีก แต่..มันหมายความว่ายังไงล่ะเนี่ย ไม่แน่ใจว่ามีรึเปล่า ผมงงนะ
“ย..ยังไงเหรอ” ผมวางชีสต์ที่กำลังนอนคว่ำอ่าน เปลี่ยนมาเป็นเป็นนั่งขัดสมาธิจ้องตาซีวอนแทน
“ก็.. มีคู่หมั้นนะ หมั้นตั้งแต่เด็กแล้วล่ะ เลยไม่รู้ว่าจะเรียกว่าอะไร เพราะมันมากกว่าแฟนไปแล้ว จริงๆ ไม่เคยเป็นแฟนเลยมากกว่า”
“ง่ะ...”
อะไรกัน หมั้นกันตั้งแต่เด็กโดยไม่เคยเป็นแฟนกันงั้นเหรอ ?
ทำไมล่ะ ผู้หญิงคนนั้นไม่ชอบกินปูเหรอ ?
หรือมันยังไงกันแน่ ?
“แล้วซีวอนรักเค้ารึเปล่าล่ะ”
“อืม.. ก็เอ็นดูนะ รู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก เค้าเหมือนน้องสาวมากกว่า ขี้อ้อนหมือนนายนี่ล่ะ”
เหมือนผม ?.. ที่เค้าดีกับผมเพราะผมเหมือนคู่หมั้นเขาเหรอ
เศร้าจังแฮะ ทำไมก็ไม่รู้
รู้สึกเหมือนเป็นตัวแทนใครสักคน แย่จัง
เพราะแม่มีผมคนเดียว รักผมคนเดียว ผมไม่เคยถูกแม่พูดว่าแม่รักผมเพราะว่าผมเหมือนพ่อ หรือเหมือนคนอื่น
แม่รักผมที่ผมเป็นผม เอ็นดูที่ผมเป็นน้องอึนของแม่
“เธอคงสวยเนอะ น่าอิจฉาจัง”
“อิจฉา... อิจทำไม ?”
นั่นสิ.. ผมอิจฉาทำไม ?
เพราะซีวอนเป็นคนดี เป็นปูที่น่ากินงั้นเหรอ ?
“ไม่รู้สิ แฮ่ๆ ก็คงอิจฉาที่ผู้หญิงคนนั้นมีแฟนดีดีอย่างซีวอนไง เรารู้ว่าซีวอนเป็นคนดี”
“ไม่ดีหรอก นายรู้จักฉันไม่ดีพอ”
“เหรอ... ว่าไงว่าตามกัน เรา..กลับห้องดีกว่า”
ซีวอนเดินมาเตียงกันทางไว้ไม่ให้ผมเดินกลับ แล้วก็ถามผม
“ทำไมรีบกลับล่ะ ทงเฮยังไม่กลับหรอก”
“ซีวอนเหงาเหรอ ถ้าเราไม่อยู่”
“งั้นมั้ง”
อืม.. งั้นผมควรจะอยู่เพื่อไม่ให้เพื่อนที่ดีที่สุดไม่ต้องเหงา
“มีอะไรรึเปล่าอึนฮยอก แล้วนายล่ะ มีแฟนรึเปล่า”
“ไม่มีหรอก คู่หมั้นก็ไม่มี”
“ทำไมไม่มีล่ะ”
อ้าว ทำไมถามแบบนี้ล่ะซีวอน ก็ผมไม่ใช่คนหน้าตาดีจนมีใครมาจีบ อีกอย่างผมก็ได้รับความรักเพียงพอแล้ว มีคนให้อ้อนแล้ว
ที่บ้านก็มีแม่ ที่นี่ก็มีซีวอนไง
มัน..ไม่ได้เหมือนกับความรักที่ได้จากแฟนตรงไหน
ก็รักเหมือนกัน
“ไม่รู้สิ เพราะมีแม่กับซีวอนแล้วมั้ง”
“ง..งั้นเหรอ ดีแล้วล่ะ อ่านหนังสือดีกว่า”
ซีวอนยิ้มด้วย ไม่รู้ว่าเค้าชอบรึเปล่าที่ผมคอยเกาะติดเขาจนไม่เคยไปหาคู่หมั้น จริงๆ ถ้าผมไม่ถามซีวอนก็คงไม่บอกผมด้วยใช่ไหมว่ามีคู่หมั้นแล้ว
ผมควรยินดี แต่..ก็รู้สึกแปลกๆ
มันคงเหมือนกับตอนที่ผมคิดว่าแม่จะแต่งงานใหม่
กลัวจะเสียความรักนี้ไป
คงเหมือนกันนั่นล่ะ
“ซีวอนอาบน้ำเถอะ แต่งตัวด้วยนะ หิว”
“ทำไม ไม่ชอบเหรอ”
“เปล่า เห็นแล้วอยากกินปูนิ่ม”
“เฮ่อ ฉันเป็นปูหลากเมนูให้นายคิดถึงไปแล้วสิ”
“อื้ม...ช่าย ซีวอนเป็นปูของอึนฮยอก เป็นของเรา”
ผมเอาแต่ใจไปมั้ย ?
...ใช่สิ
ซีวอนเค้าตามใจผม ผมก็เลยรู้สึกผูกพัน
ทงเฮกับซองมินจะให้เวลาผมเฉพาะยามที่ไม่มีนัดกับน้องๆ สองคนนั้น
ฮ้า...เศร้านิดหน่อยที่รูมเมทไม่ค่อยมีเวลาให้ ผมเลยมาติดแจอยู่กับซีวอนนี่ล่ะ
“ซีวอน...”
“หืม...”
ผมถามซีวอนอีกทีเพราะเห็นซีวอนยังนิ่งอยู่ ผมไม่ใช่พ่อมดจะได้สะกดเขาให้ยืนนิ่งเป็นหินได้ ทำไมซีวอนถึงนิ่งสนิทเลยตอนที่ผมบอกว่าซีวอนเป็นของผม
“รำคาญเรามั้ย ?”
“ก็..บางครั้ง”
โหย ซีวอนตอบตรงมากอ่ะ ผมสะดุดอารมณ์กึ่กเลย
“แล้ว..ให้เราห่างๆ ไปดีไหม เราไม่อยากให้ซีวอนเกลียด”
“ทำไมต้องทำด้วยล่ะ นายเป็นเพื่อนเรานะอึนฮยอก มันก็ต้องมีบ้างที่ไม่ถูกใจ มีรำคาญบ้างมีเบื่อบ้าง แต่ยังไงก็เพื่อนกัน”
ซีวอน ซีวอนทำผมน้ำตาจะไหลอ่า ทำไมซีวอนเป็นคนดีแบบนี้ ผมร้องไห้จริงๆ ด้วยอ่า
“เฮ้ย ถึงขั้นร้องไห้เลยเหรอ มันซึ้งขนาดนั้นเชียว ?”
แล้วซีอวนก็ลูบหัวผมอีกทีให้หยุดร้อง
“ซีวอน.. อาบน้ำก่อนได้ป่ะ มันเหนียว”
ก็ซีวอนเพิ่งออกกำลังกาย เหงื่อยังลื่นอยู่กับผิวหนังที่มันมะเมื่อม มันวับอาบกล้ามเนื้องดงามของเขาอยู่ มันไม่ได้มีสถานการณ์ให้กลิ่นเหงื่อกลายเป็นฟีโรโมนอย่างการมีเพศสัมพันธ์
อุ๊บส์ ผมพูดอะไรออกไป
นั่นล่ะ ประเด็นคือ ซีวอนอาบน้ำ เป็นหนุ่มที่ clean จะน่ารักกว่าเหงื่อซกแบบนี้น่ะ
“หึหึ โทษที ลืมไปว่านายไม่ใช่ผู้หญิงที่ตามกรี๊ดฉัน”
“ไม่เหมือนกันซักหน่อย”
ผมบ่นหงุบหงิบ แต่ก็มองเขาเดินไปหยิบของไปมา ปฏิเสธไม่ได้หรอกว่าผมชื่นชมรูปร่างของเขา ชื่นชมใบหน้าของเขา อาจจะเป็นเพราะผมอยากเป็นเหมือนเขาก็ได้
“นายชอบมองฉัน รู้ตัวรึเปล่าอึนฮยอก”
“ก็...มัน...”
ผมจะปฏิเสธยังไงดีล่ะ ผมมองจริงๆ แล้วซีวอนก็รู้
“นายไม่เคยเห็นว่าอะไรเลย มองมาตั้งสามสี่เดือน อยากให้เลิกมองตอนนี้หรือไง”
“ก็..แล้วแต่นาย”
“แล้วแต่เรา ? งั้นเราก็มอง..ได้ป่ะ”
ผมห้ามสายตาไม่ได้หรอก รู้สึกว่าซีวอนมีอะไรบางอย่างให้ผมต้องมองตามอยู่เสมอ และผมก็หาเขาพบเสมอในบรรดาฝูงชน เขามีออร่าหรือว่าผมเก่งก็ไม่รู้เนอะ
“ก็..ตามใจสิ”
“เดี๋ยวสิ ซีวอน... ทำไมถึงเพิ่งมาถามวันนี้ล่ะ เราทำให้ลำบากใจใช่ไหม ?”
ก็ซีวอนเป็นคนดี มักจะยอมตามใจผมเสมอ เขาอาจจะไม่กล้า หรือว่าไม่อยากทำร้ายจิตใจผมก็ได้นี่นา ใครจะรู้
“ก็..บางทีนายจ้องมากๆ มันก็ต้องมีเขินบ้างล่ะ”
“ซีวอนเขินเราเหรอ ทำไมล่ะ ?”
“ช่างเหอะ อาบน้ำแล้ว อ่านหนังสือไป เดี๋ยวจะออกมาให้ช่วยติว”
ซีวอนหนีเข้าห้องน้ำไปแล้วอ่า ผมอยากรู้จริงๆ นะว่าทำไม ซีวอนต้องเขิน ผมไม่เห็นเขินเลยเวลาที่ซีวอนแอบมอง
ใช้คำนั้นล่ะถูกแล้ว ซีวอนมักจะเลี่ยงการสบตา ไม่ค่อยมองผมตรงๆ ใช้แอบมองแทน
ผมคงเป็นคนหน้าตาน่าเกลียด ผมไม่ได้น่ารักอย่าง ซองมินหรือทงเฮ ซีวอนเลยไม่ค่อยมองหน้า
เขาเป็นคนดีนี่นา คงพยายามรักษาความเป็นเพื่อนกับผมด้วยการมองข้ามภายนอกของผมไป การไม่มองตรงๆ ก็เป็นการไม่เริ่มให้มองเห็นความไม่น่ารักของผม
ผมมองทะลุป่ะล่า น้องอึนวิเคราะห์สุดยอด
แต่บางที ผมก็อยากให้ซีวอนมองผมตรงๆ
“ซีวอน เดี๋ยวมานะ”
“ไปไหน”
ซีวอนตะโกนตอบผมออกมาจากห้องน้ำ เสียงสั่นๆ คงกำลังสระผมหรืออะไรซักอย่างล่ะมั้ง
“ลืมเก็บชั้นในน่ะ ตากไว้”
“ชั้นในเหรอ”
“ช่าย ตัวสีส้มที่นายล้อตอนเราใส่กางเกงเอวต่ำไง”
“อืม..เหรอ”
“ช่าย ให้เราช่วยเก็บผ้าซีวอนด้วยไหม จะเย็นแล้วเดี๋ยวผ้าชื้นนะ”
ผมเสนอตัวช่วยเพื่อนที่ทำให้ผมหายเหงาเสมอ เพื่อนคนเดียวที่ผมรู้สึกว่าสนิทมาก แต่กระนั้นก็ไม่ค่อยจะเข้าใจอะไรในตัว ซีวอนมากนัก
เฮ่อ ผมเป็นเพื่อนที่แย่จริงๆ คงต้องทำอะไรดีดีให้กับซีวอนเยอะๆ แล้ว ก่อนผมจะเสียเพื่อนคนนี้ไป
“ไม่ต้องหรอก”
“ช้าไปแล้ว อิอิ เราเก็บมาแล้วนะ เดี๋ยวพับใส่ชั้นให้ โห..CK สีขาวตัวนี้สวยจัง อยากได้บ้าง”
“เฮ้ย !!”
ผมได้ยินเสียงกุกกั่กขลุกขลักจากห้องน้ำ แล้วซีวอนก็รีบวิ่งออกมาหน้าตาเลิ่กลั่ก รีบแย่งกางเกงชั้นในที่ผมเก็บให้ไปเลยอ่ะ
...ผมทำอะไรผิดเหรอ ?
“บอกแล้วไงว่าไม่ต้อง เอ่อ..เกรงใจน่ะ”
“เรา..ขอโทษนะ ไม่รู้ว่าซีวอนไม่ชอบถึงขนาดนี้”
ผมวิ่งออกมาเลย ผมกลัว กลัวว่าซีวอนจะรำคาญผมจนทนไม่ได้ อีกอย่าง..ผมเสียใจ ผมไม่คุ้นกับการถูกซีวอนทำท่าทางแบบนั้น ท่าทางเหมือนไม่อยากให้ผมไปจับข้าวของส่วนตัว
ผมทนไม่ได้
..
..
ประตูห้องของผมถูกเคาะหลายครั้ง มีเสียงของซีวอนลอดมา ผมกำลังตัดสินใจว่าจะเอายังไงดี
ผมขี้น้อยใจขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ รู้ตัวอีกทีก็เป็นแบบนี้แล้ว ผมไม่ควรแสดงออกให้ใครรำคาญใจใช่ไหม
“อึนฮยอก เปิดประตูทีสิ”
“มีอะไรซีวอน”
“เปิดประตู อีฮยอกแจ อย่ามาเล่นบทเด็กที่ไม่ยอมคุยด้วยการล็อคประตูนะ”
“ก็.. มันไม่ได้มีอะไรสักหน่อย”
ก็ต้องดื้อแพ่งสิ จะให้ผมบอกว่าผมน้อยใจที่ซีวอนตวาดผม แย่งของจากมือผมเหรอ ผมทำไม่ได้หรอก
ผมก็เลยจำเป็นต้องเดินไปเปิดประตู
“เก็บผ้ารึยัง”
คำถามแรกที่ซีวอนเดินเข้ามาในห้องผมดูประหลาดจริง เออ จริงสิ ผมมัวแต่นั่งนอยด์ยังไม่ได้เก็บเลย
“ทำหน้าแบบนี้ยังล่ะสิ ฉันเก็บให้แล้วกัน ชั้นในของนายน่ะ”
“อ๊า.. อย่านะซีวอน ไม่เอาๆๆๆ เราเก็บเอง”
“ทำไมล่ะ ?”
ซีวอนตั้งคำถามแบบนี้ได้ไง ? ใครๆ ก็รู้ว่า...
“มันน่าอายใช่ไหมล่ะ ฉันก็เป็นแบบนั้น ใช่ว่าทุกคนจะชินกับการให้คนอื่นมายุ่งกับกางเกงชั้นในตัวเองหรอกนะ”
“ขอโทษ...”
ผมเข้าใจแล้วล่ะว่าซีวอนมีปฏิกิริยาแบบนั้นทำไม ผมก็เพิ่งจะทำไปเมื่อกี๊นี้
“ไม่ต้องหรอก นายเข้าใจก็พอแล้ว”
“ไม่ได้หรอก ต้องขอโทษ เราเอาแต่ใจ แล้วก็ขี้งอนไปหมด ไม่อยากให้ซีวอนรำคาญ”
“สายไปแล้วล่ะ มานี่มา” ซีวอนเรียกผมให้เดินเข้าไปหา
ตอนนี้ซีวอนอ้าแขนออกเหมือนจะให้ผมเดินเข้าไปให้เขากอดอย่างนั้นล่ะ
“ท..ทำไมเหรอ”
“ผู้ชายเขาต้องปรับความเข้าใจกับเพื่อนรักด้วยการกอด เพราะบางทีพูดไปก็เท่านั้น”
เหตุผลน่าฟัง ผมเดินเดินไปกอดซีวอน แล้วเขาก็กอดผม
“จริงด้วย ไม่ต้องพูดก็ได้”
ผมเห็นด้วยกับข้อนี้ การกอดนี้ทำให้ผมรู้แล้วว่าซีวอนไม่ได้รังเกียจผม อาจจะมีรำคาญบ้างแต่ยังไงซีวอนก็ไม่ได้รังเกียจผม
...ไม่งั้นอ้อมกอดนี้คงไม่อบอุ่นแบบนี้
“เฮ้ย กอดกันพอรึยัง”
ผมสะดุ้งเลย ซีวอนปล่อยผมทันที ผมก็ปล่อยซีวอนเหมือนกัน ทงเฮทักซะเสียงดัง
“มีอะไร”
“ฉันต้องถามนายมากกว่าซีวอน ทำไมต้องกอดกัน”
ทงเฮเวลาคาดคั้นนี่ก็น่าตีเหมือนกันเนอะ สงสารเด็กคิบอมนั่น ต้องถูกทงเฮทำแบบนี้ด้วยเรื่อยเลย ชัวร์..ผมคอนเฟิร์ม
“นั่นสิ ไม่เรียกเรา ไม่รักกันจริงนี่หว่า”
อ้าว.. ซองมินก็มาด้วย
พวกเขาสองคนไม่ได้พูดอะไรต่อ แต่วิ่งเข้ามากอดผมแล้วก็ ซีวอน แถมยังลากให้พวกเราสี่คนมากอดกันทั้งหมด
“พวกเราเป็นเพื่อนรักนะ ต้องกอดกันให้หมดสิ มาแอบกอดกันสองคนได้ไง จริงมั้ยซองมิน”
“ถูกต้องนะคร้าบบบบบ”
อา...เพื่อนผมน่ารักจริงๆ ผมรักเพื่อนของผมเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว ที่น้อยใจเวลาเขาไปหาน้องๆ ผมอภัยให้หมดสิ้นเลยล่ะ อิอิ
“สรุปพวกนายเป็นอะไรกัน แอบกิ๊กกันเหรอ ?”
“เย้ย... คิดได้ไงทงเฮ”
นั่นสิฮะ อย่างที่ซีวอนว่า คิดได้ไง พวกเรากอดกันแบบเพื่อนนะ เพื่อนที่รักกันมากหน่อยเท่านั้นเอง
ผม..ผมไม่ได้คิด.. ซักหน่อย
“จะไปรู้เหรอ เห็นลิงว่อนอยู่กับพื้น ไม่มีแฟนเลยต้องมากุ๊กกิ๊กกันแก้ขัดรึไง”
อ้า... ทงเฮพูดจาแบบนี้อีกแล้ว ผมเปล่าซักหน่อย
ประเดี๋ยวซีวอนก็ผวาผม ออกห่างจากผม ไม่รักผมเหมือนเดิมน่ะสิ ถ้าเป็นแบบนั้นผมจะโกรธทงเฮ คอยดู
“ทงเฮ อย่าไปล้อเค้าสิ นายแย่ว่ะ เดี๋ยวสองคนนี้ก็มองหน้ากันไม่ติดหรอก”
เอ้อ ซองมินค่อยยังชั่ว ดีนะที่คอยปรามทงเฮให้ผมอ่ะ
“ว่าแต่..คยูฮยอนฝากความคิดถึงมาถึงพวกนายด้วยนะ ถามว่าพวกนายยังรักกันดีอยู่หรือว่าเลิกแล้ว”
ง่ะ ซองมินเป็นคนใจร้ายยิ่งกว่าทงเฮแล้วล่ะตอนนี้ ทำไมต้องถามแบบนี้ล่ะ ซองมินเองก็รู้ว่าผมไม่ได้รักกับซีวอนแบบนั้น
เอ..หรือว่ารัก ?
ไม่ไม่ไม่ ซีวอนก็บอกอยู่แล้วว่าเราเป็นเพื่อนกัน
“แฟนนายนี่ซอกแซกเรื่องชาวบ้านจังนะ ถ้าถามคราวหน้าก็บอกว่ายังเหมือนเดิม แต่ยินดีรับสมัครมาเล่น 3P”
เจ๋งโคตร ซีวอนพูดจนซองมินจุกแอ๊ก พูดไม่ออกเลย
“ว่าไงนะซีวอน”
“ได้ยินยังไงก็อย่างงั้นล่ะ พวกนายเถอะ ได้บ้างหรือยัง หรือว่ารักใสใสหัวใจสี่ดวง เป็นพระเอก F4”
ผมปิดหูดีกว่า ซีวอนก็เอากับเขาด้วย ผมรู้ว่าซีวอนอยากจะย้อนรอยเพื่อนรักทั้งสองคนนี้ แต่ผมก็..อายอ่ะ
ไม่ไหวจะฟัง
“ฉันชอบน้องเค้าจริงๆ ไม่ได้แต๊ะอั๋งเพราะอยาก รอให้เค้าพร้อมดีกว่า”
อู้.. ซองมินเป็นคนดี้ดี รู้สึกดีจัง
“เป็นข้ออ้างที่ดี”
ซีวอนกวนมากอ่าตอนนี้ ผมเห็นแววความไม่น่ารักในตัว ซีวอนแล้ว ฮิฮิ ดีนะที่ซีวอนไม่เคยทำอะไรแบบนี้กับผม
“ไม่เอาน่าซีวอน ซองมินกับทงเฮเค้าเป็นคนดีนะ รักจริงหวังแต่ง ดีออก ถ้าเรามีแฟนก็อยากให้เป็นแบบนั้น บางทีการมีอะไรกับคนรักก่อนเวลาอันควร มันก็ไม่ได้หมายความว่ามันคือความรัก”
“เห็นมั้ยซีวอน คนเค้าคิดดีทำดีมีถมถืด นายน่ะแย่”
“ไม่ใช่คำพูดของคนขี้แพ้หรือไงทงเฮ ซองมิน อ่ะโด่ บ่อมีไก้ด์”
ซีวอนยิ่งเอาใหญ่เลย เห็นว่ายั่วเพื่อนได้เนี่ย ตอนนี้ซีวอนเด็กมากๆ เลยคุณรู้ไหม ผมเพิ่งเคยเห็นนี่ล่ะ ว่าแล้วก็อยากพูดกับ ซีวอนเหมือนที่พูดกับเด็กๆ ผู้ชายตัวโตพูดเพราะๆ เหมือนเด็กคงน่ารัก
“ซีวอนจ๋า ไม่เอานะจ๊ะ อย่าแกล้งเพื่อน นิสัยไม่ดีเดี๋ยวพี่อึนไม่รักน้า... ไม่เอานะ”
ผ..ผมทำอะไรผิดเหรอ ทำไมทั้งสามคนถึงได้หยุดแล้วก็มองผมเป็นตาเดียวขนาดนั้น ผมแค่พูดกับซีวอนเหมือนตอนที่พูดกับเด็กๆ เท่านั้นเอง
“อู้ว..ขนลุกแทน ซีวอน ได้ยินแม่พูดรึเปล่า”
“ช่าย ทงเฮ ฉันฟังแล้วเขินแทนซีวอนมันเลย พี่อึน จัดการเจ้าตัวร้ายนี่เลย ไม่ต้องรักมัน เกลียดมันเยอะๆ ไอ้เพื่อนปากไม่ดีแบบนี้ เลิกรักมันเลย”
ทั้งทงเฮ ทั้ง ซองมิน ก็รับมุขผมนะ อยู่กับเพื่อนกลุ่มนี้แล้วผมอารมณ์ดีจัง ไม่ต้องมีเพื่อนเยอะๆ ก็ได้ แค่มีพวกเขาก็พอ
“ทำได้เหรอ จะเลิกรักฉันได้หรือไงอึนฮยอก”
ง่ะ ซีวอนถามแปลกๆ ...
“รู้ดี นายก็รู้ว่าเราทำไม่ได้”
ซีวอนยักคิ้วทำหน้าชนะเพื่อนสองคนได้แบบกวนมากอ่า ผมไม่ควรเข้าข้างซีวอนเลยนะเนี่ย ร้ายจริงๆ เด็กคนนี้
“ซีวอนจ๋า... บอกแล้วไงห้ามแกล้งเด็ก ไม่งั้นไม่รักจริงๆ นะ”
เอาซี่ ผมก็ทำให้ซีวอนนิ่งได้บ่อยๆ เหมือนกันล่ะ ผมเก่งกว่า
คิคิ น้องอึนชนะซีวอน น้องอึนชนะเลิศ
ตอนนี้พวกเราสอบเสร็จแล้ว
กำลังจะปิดเทอม เย่เย่
คุณเพื่อนทงเฮก็ชวนพวกเราไปเที่ยวบ้านทงเฮ มกโพไงล่ะ พวกคุณเคยไปกันมั้ย ?
เพิ่งจะรู้ว่าชื่อทงเฮมาจากบ้านที่เขาเกิด มีแต่ทะเลเต็มไปหมด ดีจัง ผมชอบนะ แต่ผมรู้ว่าจริงๆ แล้วทงเฮมีจุดประสงค์
ถ้าไปเที่ยวบ้านทงเฮ ทงเฮก็จะกลายเป็นเจ้าบ้าน อยากจะกร่างเป็นเจ้าถิ่นใช่ไหมล่ะอีทงเฮ รู้ทันหรอก
แล้วอีกอย่างที่สำคัญมาก ทงเฮอยากจะใส่กางเกงว่ายน้ำหรือกางเกงชายหาดตัวเดียวเดินไปมาอวดหุ่น ผมรู้ แล้วถ้าเกิดว่าน้องคิบอมเกิดชอบ โอกาสก็มีเท่าตัว
หรือดีไม่ดี น้องคิบอมก็อาจจะใส่เหมือนกัน
โอ้ว โว้ว... ทงเฮร้ายอ่า ผมคิดว่าทงเฮต้องกำลังคิดภาพน้องคิบอมเปียกน้ำ เสื้อผ้าแนบชิดกับเนื้อตัว ทงเฮคิดหื่นแน่ๆ
“แล้วทำไมผมต้องมากับพี่ด้วยล่ะพี่ซองมิน”
ไม่ต้องสงสัยเลย นั่นน่ะเสียงคยูฮยอน โวยวายมาตลอดทาง ก็ไม่ได้โวยวายกับคนอื่นหรอกนะ แค่โวยวายกับซองมินคนเดียว
“ก็ไม่ห่วงคิบอมหรือไง เกิดทงเฮคิดบ้าปล้ำคิบอมขึ้นมา ในที่นี้มีแต่คนจะสนับสนุนนะ ไม่มีคนห้ามหรอก”
“ผมห่วงสวัสดิภาพตัวเองมากกว่า พี่ไม่ได้น่าไว้จั๊กกะติ๊ดนึง”
“โถ่ เห็นพี่เป็นคนแบบนั้นได้ไง”
“แบบนั้นล่ะ”
“อ้า.. คยูฮยอนน่า อย่ามองพี่แบบนั้นสิ”
อุ่ย ซองมินทำท่าแอ๊บอินโนเซ้นส์ เวลาซองมินทำตัวน่ารักงุงิให้สมกับหน้า เค้าน่ารักมากเลยนะฮะ ดูสิ ยังกอดแขนคยูฮยอนเอาหัวไถๆ
ปล.นี่มันเลียนแบบท่าผมชัดๆ เลย
ฮิฮิ น้องคยูฮยอนทำหน้าแดงด้วย อ้อ คงไม่ได้ทำ มันแดงเอง หูก็แดงด้วย ซองมินเค้าไม่ได้ถูเฉยๆ อย่างผมด้วยนี่ เค้ากอดเอวน้องคยูฮยอนด้วย มือไม้ไวไฟจริงๆ เชียวเพื่อนผม
นั่นๆ ไปไปมามาแอบหอมแก้ม แอบดมซอกคอน้องคยูฮยอนด้วย
“โอ๊ย ผลักแรงอ่า เค้าเจ็บนะ”
“สมควรแล้ว พี่มันไว้ใจไม่ได้ สูงแค่หูผมดันมาทำทะลึ่ง”
ซองมินโดนน้องเค้าผลักติดประตูรถสิครับงานนี้
รถตู้พื้นที่มันก็มีแค่นี้เอง มันคงเป็นโอกาสให้ซองมินทำอะไรอย่างงี้ได้ น้องเค้าเตรียมตัวมาดีไม่ยอมเสียเปรียบเลยแฮะ เก่งจัง
ไม่เห็นเหมือนทงเฮกับคิบอมเลย
คิบอมหลับแล้วก็ซบอยู่กับตักของทงเฮ ให้ทงเฮเกลี่ยผมเล่น ท่าทางคู่นี้ไปได้ดีกว่า เหอๆ
ส่วนผมน่ะเหรอ
ก็..นั่งอยู่ข้างๆ ซีวอน
พวกเราจะหลุดไม่ได้ว่าไม่ใช่แฟนกัน ซีวอนเลยจับมือผมตลอดทาง ผมก็ชอบนะ ถึงเราจะเป็นผู้ชายเหมือนกันแต่ผมก็รู้สึกดี ไม่เหมือนกับจับมือผู้ชายคนอื่นๆ
ซีวอนสุภาพ หน้าตาดี นิสัยเยี่ยม เป็นเพื่อน No.1 ของผมเลยนะ ผมเลยรักซีวอนมาก แต่ผมไม่อยากพูดเว่อร์ขนาดที่ว่าผมจะยอมตายแทนซีวอนได้หรอก เพราะผมไม่รู้อนาคต
ถ้าซีวอนเรียนจบ แต่งงานกับคู่หมั้น ผมก็คงไม่ใช่คนสำคัญของซีวอนอีกต่อไปแล้ว ตอนนี้ผมต้องตักตวงความรักจากซีวอนไว้ก่อน ผมขออนุญาตซีวอนแล้วนะ ไม่ได้ถือวิสาสะ
“ซีวอน เมื่อยไหม เรานวดให้เอามั้ย”
“ไม่หรอก ทำไมถึงอยากบริการล่ะ”
“ก็เหมือนที่เคยบอกไง เดี๋ยวซีวอนเรียนจบเราก็ไม่สำคัญแล้ว อยากเป็นคนสำคัญของซีวอน”
“นายก็สำคัญเสมอนั่นล่ะ ฉันเคยเห็นนายไม่สำคัญหรือไง”
“ก็จริง เรารักซีวอนมากเลยน้า...”
ก็ผมรักซีวอนจริงๆ เราก็ต้องรักเพื่อนของเรา โดยเฉพาะเพื่อนที่ดีกับเราขนาดนี้
ผมรักทงเฮด้วย รักซองมินด้วย
แต่ไม่กล้าบอกรักพวกเขาหรอกนะ เดี๋ยวเด็กๆ เค้าหึงหรือว่าเกิดเข้าใจกันผิดไป
“อื้ม..รู้แล้ว นอนมั้ย”
“ไม่เอา เดี๋ยวซีวอนเหงา”
“ไม่เหงาหรอก นอนเถอะ”
“เดี๋ยวคืนนี้ก็ได้นอนนี่นา ตอนนี้ดูวิวกับซีวอนสนุกกว่าตั้งเยอะเนอะ”
“อืม..ตามใจ”
แต่เอ..มันเงียบไปเนอะ ทุกคนหลับหมดหรือไงกัน
ผมหันหลังไปมอง ปรากฏว่าทุกคนไม่ได้หลับ แม้แต่คิบอมที่เหมือนจะหลับซบทงเฮอยู่ก็ลืมตาแป๋ว..อย่างกับว่า
กำลังฟังผมกับซีวอนคุยกันงั้นล่ะ
อ๋า.. ต้องใช่แน่เลย
เฮ่อ ทำไมคนพวกนี้ถึงชอบเข้าใจผมกับซีวอนผิดๆ กันไปจนกลายเป็นแบบนี้นะ เราเป็นเพื่อนสนิทกันนะ ผมอยากบอกมากเลย แต่น้องๆ เขาเข้าใจไปแล้วเลยต้องปล่อยเลยตามเลย
“พวกเขาสวีทกันไม่แคร์สื่อแบบนี้ตลอดเหรอ”
ผมได้ยินคิบอมถามทงเฮ
“ก็..แบบนี้ล่ะ เมื่อไหร่เราจะเป็นอย่างงั้นมั่ง”
“ไม่รู้ ผมบอกแล้วผมเป็นของผมแบบนี้ล่ะ ถ้าไม่ไหวจะเปลี่ยนใจก็รีบๆ ทำนะ”
“อื้ม..รู้แล้วน่า นอนเถอะ เดี๋ยวเกาหัวให้เอง”
คู่นี้เค้าก็อบอุ่นกันแปลกๆ ดี
ทุกคู่ต่างมีวิถีของตัวเอง
คิบอมก็นอนลงต่อเพราะผมหยุดพูด ทงเฮก็เล่นหัวคิบอมให้หลับต่อ ผมยิ้มตามพวกเค้านะ
เพื่อนของผมต้องใช้ความพยายามมากกับการจีบเด็กสองคนนี้ วันนี้เห็นแล้วรู้สึกว่า พวกเค้าพยายามจนสำเร็จ มันช่างดีจริงๆ
“คยูฮยอนอ่า นอนให้เกาหัวแบบเพื่อนบ้างสิ”
“พี่ตัดเล็บมาสะอาดรึเปล่าก็ไม่รู้ เรื่องอะไรผมจะเอาสุขภาพหนังศีรษะไปเสี่ยง นั่งๆ ไปเหอะ”
“พี่ก็ไม่ได้ยืนนะ”
“พี่ซองมิน ถ้าพี่ยังไม่หยุดเซ้าซี้ พอถึงที่นั่น ผมจะหารถ กลับบ้าน”
“ก..ก็ได้”
ซองมินผู้น่าสงสาร ผมสงสารซองมินจริงๆ ที่อยากจะสวีทแหววหรืออยู่กันเงียบๆ อย่างคู่ทงเฮกับคิบอม
คยูฮยอนเป็นคนแบบนี้ ซองมินเขารู้ แล้วก็เคยพูดกับผมว่า
“ถ้าเค้าพูดน้อยกว่านี้กลายเป็นคิบอม เขาคงเซ็งคยูฮยอน”
ผมเลยรู้ว่า จริงๆ พวกเขาไม่ได้ทะเลาะอะไรกันเป็นจริงเป็นจัง แค่หาเรื่องใส่ใจอีกฝ่ายก็เท่านั้น
ผมล่ะ จะมีใครใส่ใจบ้างมั้ยน้อ ว่าแล้วก็คิดถึงแม่
“ทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะ คิดถึงแม่รึไง”
ตบเข่าดังฉาด ซีวอนรู้ใจผมทุกทีเลย เค้าเก่งจัง
“อิจฉาที่เค้ามีแฟนกันล่ะสิ”
นั่นก็ถูกอีก ผมพยักหน้าหงึกๆ ยอมรับกับซีวอน ผมไม่มีความลับกับซีวอน แล้วก็ไม่อยากให้ซีวอนมีกับผมด้วย
ซีวอนก็ยิ้มอย่างเคย แถมพูดประโยคประหลาดจนผมหัวใจแทบวาย
“งั้นทริปนี้ให้ยืมตัวเป็นแฟนจริงๆ ตลอดทริปแล้วกัน ในฐานะที่ไม่ค่อยซนจนปิดเทอม”
ความคิดเห็น