คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : The House of Golden Sand # 2
The House of golden sand #2
“ทำได้ใช่ไหม ?”
คุณชายคิบอมถามเสียงหล่อเมื่อมอบหมายหน้าที่ให้กับอีทงเฮ หน้าที่ที่เขาคิดว่าดูจะเหมาะสมใกล้เคียงกับการทวงค่าแชร์สำหรับผู้มีหน้าตามีการศึกษาอย่างอีทงเฮ
“ได้ฮะ ทงเฮจะสอนคุณชายน้อยเอง”
การเป็นครูสอนวิชาภาษาอังกฤษให้กับน้องชายคนเล็กของตระกูลนี้อาจไม่ใช่หน้าที่ที่ทงเฮหวังไว้แต่แรก แต่ก็เป็นบันไดขั้นหนึ่งที่จะทำให้ได้ไต่เต้าไปใช้เต้าไต่
“หากว่าทงเฮทำหน้าที่ได้ดี อนาคตคุณชายจะอนุญาตให้ทงเฮเลือกงานอื่นได้อีกใช่ไหมฮะ”
“ผมรับปาก” คุณชายตกลงอย่างไว้ตัว
‘เด็กคนนี้ช่างน่ารักจริง กตัญญูนัก ให้สอนหนังสือซึ่งเป็นงานหนักแล้วยังจะเสนอตัวทำงานอื่นอีก’
คิบอมคิดในใจอีกครั้งเมื่อเห็นว่าหนุ่มน้อยน่ารักตรงหน้ามีแววกระตือรือล้นอยากทำงานอื่นอีก คาดหวังไว้ในใจว่ากึ่งญาติห่างๆ คนนี้คงจะนำความรู้มาให้น้องชายคนเล็กรวมถึงเขาคงได้มีโอกาสช่วยเหลือผู้ประสบชะตากรรมอันโหดร้าย เขาพยักหน้าให้กับเงาในกระจกเสมือนพยักหน้าให้ตนเอง
..ทึ่งในความหล่อตนเองเล็กน้อย
เมื่อคิบอมผันกายออกไปแล้วทงเฮจึงถอดคราบหนุ่มน้อยวัยใสผู้น่าสงสารออก สะบัดหน้าอ้าปากกว้างสลับทำปากจู๋เนื่องจากเมื่อยกล้ามเนื้อใบหน้าอันนุ่มเนียน
“สอนภาษาอังกฤษ เราต้องพยายามให้สมกับที่จบมาจากเมืองนอกเมืองนา” ควานมือลงไปในย่ามยี่ห้อไม่โด่งดังอย่าง CHOLE ภายในย่ามเก็บของจิปาฐะมากมายรวมถึง Talking Dictionary ภายในซองหนังจาก BALENCIAGA ที่สั่งทำมาเป็นพิเศษสำหรับรุ่นนี้
แม้จะมีความรู้ระดับหนึ่ง แต่ด้วยความเจียมเนื้อเจียมตัวจึงพยายามนึกเสมอว่าตนเองนั้นอาจรู้เพียงหางอึ่งที่ถูกเสียบไม้ย่างขายในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย
“เราจะเริ่มจากไหนดีนะ” ทงเฮเริ่มคิดถึงเรื่องที่จะสอนให้กับชายน้อยและปลงใจแล้วว่า จะเริ่มจากสิ่งที่ตนถนัดถนี่.. นั่นคือการเป่ากบ ตีคลี หรืออาจเป็นกระโดดยาง
ครู่เดียวทงเฮได้ยินเสียงเพลงลาวดวงเดือนเอื้อนเอ่ยจากน้ำเสียงของคุณหญิงป้าโจควอนแว่วมาแต่ไกล เนื่องจากมิใช่คนที่ต่อต้านวัฒนธรรมโบราณของประเทศอื่นใด จึงได้กล่าวชื่นชมญาติผู้ใหญ่ออกไปเบาๆ ว่า
“ใครเชือดควายตายในบ้านวะ”
หากแต่รีบตะครุบริมฝีปากตนเองไว้ เกรงว่าการสรรเสริญเช่นนี้จะทำให้หญิงมีอายุได้ใจจนร้องต่อกระทั่งขาดลมเสียชีวิต เด็กหนุ่มผู้ต่ำต้อยเป็นห่วง รวมถึงรู้สถานะของตนเองว่าเป็นเพียงคนชั้นต่ำ ไม่คู่ควรกับการเยินยอคุณหญิงป้าที่บุญหนักศักย์ใหญ่กว่าตนหลายขุม
คนรับใช้คนเดิมที่ได้ทราบนามอันเพราะพริ้งเหลือเกินภายหลังว่า “ฮีชอล” นั้นฟ้อนรำเข้ากับจังหวะเพลงอันดังสนั่นบ้านมาเรียนเชิญทงเฮให้ไปพบกับผู้ที่จะต้องสอนหนังสือ ทงเฮยิ้มหวานให้ด้วยการแยกเขี้ยวตาเขียวใส่ รวมถึงกล่าวชมการฟ้อนรำนั้นเป็นการตอบแทน
“ชักเหรอ หรือว่าเป็นลมบ้าหมู?”
กล่าวจบจึงเบือนหน้าน้อยๆ นั้นย่างก้าวอย่างผู้มีการฝึกฝนบุคลิกภาพดีประหนึ่งเป็นนักเลงหัวไม้ส่ายอาดๆ ออกไปตามคำเชิญ ในใจนึกอยากจะฝึกฝนศิลปะร่ายรำอย่างคนรองมือรองเท้าที่ชื่อฮีชอลจนขนที่ง่ามก้นลุก
... The House of Goden Sand ...
เยื้องย่างมายังเคหะนี่คือสถานแห่งบ้านทรายทองที่ปองมาสู่แล้ว ทงเฮได้พบกับผู้คนสลอนหน้าซึ่งรอการมาของเขาอยู่อีกหลายคน
“เอ้า มานั่งนี่สิหนู” โจควอนเพิ่งวางไมค์ทองคำแท้ล้อมเพชรฝังมุกเคลือบแร่ดีบุกซึ่งร้องประกอบกับเครื่องคาราโอเกะเชื้อเชิญ “ป้าจะแนะนำให้หนูรู้จักกับคนอื่น”
ทงเฮยังคงเจียมเนื้อเจียมตัวเสมอ ยื่นหมากฝรั่งอันหนึ่งมาให้กับคุณหญิงป้าเป็นการตอบแทนด้วยท่าทีสุภาพทั้งที่กลิ่นปากคล้ายส้วมแตกนั้นทำให้อยากอาเจียร ก่อนจะกล่าวอะไรต่อให้เป็นลม จากนั้นยังมีเครื่องดื่มยี่ห้อ “บาวแดง” ให้ญาติผู้ใหญ่เติมพลัง
‘เด็กคนนี้ช่างน่าสนใจ มีผลิตภัณฑ์ชูกำลังจากต่างแดนมาเป็นของกำนัลให้คุณแม่เสียด้วย’
ในใจของคุณชายคิบอมนึกชื่นชมครูคนใหม่ของน้องชายอีกครา
เป็นจังหวะเดียวกันกับที่ทงเฮหันมาสบตากับเขาแล้วทำวิ้งขึ (Wink) ให้อย่างไร้เดียงสา ทำให้หัวใจชายหนุ่มเต้นเป็นจังหวะกลองยาวในงานแห่บั้งไฟ
“สวัสดีฮะ ทงเฮฮะ”
“รู้จักกันไว้นะ นี่ยูชอนลูกคนโตของฉัน” คุณหญิงโจควอนผายมือแนะนำ ทงเฮยกขาหน้าให้พลางทำลิ้นห้อยประจบเจ้าของใหม่ส่ายหางดุ๊กดิ๊ก
“ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะฮะ ไม่น่าเชื่อว่าคุณชายใหญ่จะยังหนังหน้าตึงแบบนี้ วาสนาแท้ๆ เลยฮะ” หนุ่มน้อยกล่าวชมจากสภาพผิวที่พิสูจน์ได้ด้วยสายตาของตน ไม่กล้าค่อนขอดเรื่องที่ชายใหญ่อาจจะดึงหน้ามา
“ส่วนนี่ ชายน้อย สวัสดีพี่เขาสิลูก ต่อไปนี้พี่เขาจะช่วยสอนเรา”
“สวัสดีครับ” เด็กน้อยแก้มกลมคนนั้นก็ดูท่าว่าจะอายุไม่น้อยแล้ว แต่ใบหน้ายังดูเด็กอยู่อีกคน ทงเฮอดไม่ได้ที่จะกล่าวชม
“คุณชายน้อยดูไม่เหมือนคนเป็นง่อยเลยนะฮะ”
แม้จะเห็นว่าชายน้อยทำสายตาประหลาดแกมตกใจ แต่ทงเฮก็แปลความหมายนั้นว่าคงเป็นความชื่นชมจากคำพูดของตนที่เยินยอคุณชายน้อย
“ชายน้อยเพียงเป็นเล็บคุดเล็บขบและเชื้อราช่วงบริวเณง่ามนิ้วเท้าเท่านั้นครับคุณครู ไม่ได้เป็นโปลิโอ” ชายคิบอมติติงแก้ข่าวที่ทงเฮอาจเคยได้ยินมาแบบผิดๆ
“ขออภัยฮะ คล้ายคุณฮีชอลเคยบอกว่าคุณชายน้อยพิกลพิการง่อยเปลี้ยเสียขา ทงเฮจำมาแบบผิดๆ”
‘เด็กคนนี้ช่างใสซื่อเสียจริง เชื่อคำพูดคนง่าย แบบนี้หาได้จากสังคมสมัยนี้ยากนัก’
คิบอมยังคงรำพันในใจเพียงคนเดียวอย่างนั้น
ฝ่ายทางคนรับใช้นั้นได้แต่ยืนกำหมดแน่นอยู่ในท่าหนุมานถวายแหวน เจ็บแค้นใจที่ถูกทงเฮใส่ไคล้โยนอุจจาระให้แบบไม่รู้ตัว ปรารภในใจเบาๆ สุดเสียงว่า
“แตหลอ” ทว่าเป็นเพียงบ่าวรับใช้ แม้กรีดร่ำร้องภายในใจสักเท่าใดก็กลายเป็นเพียงคำแก้ตัว จึงปวารณาตนขอเป็นศัตรูกับคุณครูคนใหม่แห่งบ้านทรายทองเงียบๆ
เงียบเชียบมากถึงขนาดไม่กล้าเอ่ยออกไป ฮีชอลเพียงแค่หยิบไมค์ทองคำซึ่งต่อกับเครื่องคาราโอเกะมาพูดว่าโดยไม่ลืมเปิด Volume ให้ดังที่สุด
“นังสตอเบอร์รี่ คอยดูเถอะ ฉันจะคอยจับผิดแก”
คุณหญิงโจควอนหันมาตำหนิฮีชอลด้วยมาดของผู้ดีมีการศึกษา กล่าวเอ่ยเพียงเบาๆ
“เออ.. ฮีชอลก็เสียงดีนะ ทำไมไม่เปิดเสียงดนตรีคลอด้วยเล่า ฉันจะได้มีเพื่อนร้องเพลง ดีจริงเชียว วันหลังฉันจะสอนเธอเต้นลาวกระทบไม้ ระบำให้ฉันดูนะ”
ยังดีว่าโรคชราเข้าแทรก ทั้งบ้านจับสาระของคำพูดบ่าวไพร่คนนี้ได้ทั้งหมดยกเว้นคุณหญิงโจควอน แต่ไม่มีผู้ใดกล้าร้องเรียนว่าบ่าวคนนี้คิดกบฎต่อคุณครูคนใหม่ของคุณชายน้อย
ทงเฮเห็นเป็นโอกาส จึงนั่งนิ่ง มีเพียงแค่ปลายเท้าที่ค่อยกระดึ๊บพาตัวเข้าไปใกล้ร่างคุณชายคิบอมอย่างไม่รู้ตัวตนเองว่าได้เผลอไผลทำสิ่งใดลงไป
“เธอคงกลัวสินะ อุ่นใจเถอะ ฉันจะปกป้องเธอ”
คุณชายกลางเก๊กหล่อกางขาออกให้ทงเฮมุดเข้าไปลอดใต้นั้นอย่างกับเป็นสิ่งศิริมงคลให้ลอดใต้ท้องเพื่อความอุ่นใจขั้นแรก
“เคยทำอะไรมาก่อนล่ะ ?” คุณชายใหญ่ของบ้านนามยูชอนเหยียดสายตามองจิกอย่างรักใคร่ตั้งแต่หัวจรดเท้า เบ้หน้าหยีตาออกอาการรักห่างๆ อย่างห่วงๆ
“หลังจากที่บ้านล้มละลาย ทงเฮก็เป็นได้เพียงแค่พนักงานบริษัทธรรมดาๆ เท่านั้นเองฮะ”
“อืม..พนักงานชั้นล่างสินะ น่าสงสารจริงชีวิตต่ำต้อยเบี้ยน้อยหอยน้อย จบอะไรมาล่ะ” ยูชอนเอ็นดูกว่าเดิม เนื่องจากประวัติชีวิตอันน่าสมเพชจนอยากจะยกฝ่าเท้าไปลูบหน้าคุณครูคนใหม่ของน้องปลอบประโลม
“โรงเรียนอินเตอร์ที่อยู่ในโซลฮะ”
“เธอจบมัธยมที่นั่นรึ ?”
“โรงเรียนวัดที่อยู่ติดกันฮะ” ภาคภูมิใจมากในสถาบันที่ตนเองสู้อุตส่าห์ติดสินบนจนจบมาได้ “ตอนแรกทงเฮก็เรียนโรงเรียนนานาชาติ แต่ทางโรงเรียนบอกว่าด้วยใบหน้าแล้วทงเฮดูจะเป็นคนเกาหลีแท้เกินไปจึงไม่อนุญาตให้ศึกษาต่อ ทงเฮเศร้าเสียใจ สุดท้ายลักลอบได้เสียกับภารโรงโรงเรียนข้างๆ จึงได้เข้าศึกษาต่อจนจบฮะ”
‘เด็กคนนี้น่าสงสารจริง ถึงกับต้องเอาตัวเข้าแลกเพื่อการศึกษา เราจะปลอบใจอย่างไรดีนะ’
ชายกลางคิบอมมองเห็นความทุกข์ยากนั้นก็ยิ่งสลดใจถึงกับไข่ฝ่อไปหนึ่งข้าง ออกเสียงอะไรมิได้เลย
“ตอนทำงาน ด้วยความจน เมื่อตอนรถเสียก็ไม่มีเงินไปจ่ายค่าซ่อม จึงต้องขายไป จากนั้นเพื่อนแนะนำให้เช่ารถแท็กซี่มาขับแทนฮะ หลังเลิกงานก็รับจ๊อบสักสามสี่รอบเพื่อค่าเช่าและยังช่วยจุนเจือ LV Collection ใหม่”
ความเจียมเนื้อเจียมตัวของทงเฮเป็นที่ประจักษ์กับทุกคนแล้วว่าช่างเป็นคนที่ไม่ฟุ้งเฟ้อ ใช้ชีวิตสมถะ และมีน้ำใจเอื้อเฟื้อผู้อื่นแม้ตนเองจะยากจน เพราะ LV มักมีกองทุนหรือบริจาครายได้เพื่อสังคมเสมอ
“มิน่าเล่าเธอจึงไม่ค่อยมีของดีดีใช้ น่าสงสารจริง ฉันเองก็ซื้อ LV Monogram ไว้ให้คนใช้ในบ้านไปจ่ายตลาด บางครั้งลดโลกร้อน ฉันไปซื้อครีมกวนอิมทาตูดที่เป็นสิว ก็แวะซื้อ LONGCHAMP มาแทนถุงพลาสติก แต่ยังไงก็ใช้แล้วทิ้งน่ะ”
คุณหญิงโจควอนรำพันถึงความอดอยากน่าสงสารของหลานเปรียบเทียบกับตนเองที่อยากจะ Share
“ได้ยินว่าเธอจบจากเมืองนอกเมืองนามา คงพอจะสอนภาษาอังกฤษให้ชายน้อยได้กระมัง”
“ฮะ ทงเฮจบจากเขมร”
“คณะอะไรรึ ?” ชายกลางซักถามบ้าง
“คณะคาสิโน เอกรูเล็ต โทสล็อต แต่ก็ลงเรียนวิชาการ์ดศาสตร์มาด้วยฮะ” ไม่ว่าเปล่า ทงเฮพร้อมจะปูเสื่อและตั้งวงทันที ดีที่ชายกลางคิบอมเผลอไผลแอบซุกมือเข้าไปคลึงบั้นท้ายงามงอนของทงเฮเป็นการปลอบใจเป็นการขัดจังหวะ ทงเฮจึงเอียงอายเจียมเนื้อเจียมตัวขมิบก้อนกลมนั้นเป็นการปัดป้อง
“ดีฮะคุณหญิงแม่ อนยูยังจำศัพท์เกี่ยวกับการ์ดไม่ค่อยได้เลย นับได้เพียง 2-10 ตัวอักษรภาษาอังกฤษที่เหลืออนยูไม่ใคร่จะเก่งนัก”
“ได้เลยฮะ ทงเฮจะติวเข้มให้เอง” สำนึกถึงบุญคุณครั้งนี้แล้วตื้นตันใจจนน้ำลายไหล
..ทงเฮจะพยายามทำให้คุณชายน้อย จดจำ J, Q, K และ A ทั้งหมด 4 โพธิ์ให้จงได้
“มันมีที่ไหนกันคะคุณผู้หญิง ไอ้โรงเรียนที่ว่า มันโม้ชัดๆ คณะที่ว่าดิฉันไม่เคยได้ยินมาก่อน”
“หยุดนะฮีชอล เธอกล่าวหาว่าเขาปั้นเรื่อง เป็นพวกแม่ค้าโกงตาชั่ง เป็นนักการเมืองที่โกงกิน ชอบลักเล็กขโมยน้อย และชอบพ่นสีใส่ผนังกำแพงวัดงั้นรึ ?”
“ฟังดูก็รู้ว่ามันตอแหลชัดๆ ค่ะ” แม้จะงงกับคำกล่าวหาอันเกินจริง แต่เธอก็เท้าสะเอวสู้อย่างอ่อนน้อม ครู่เดียวก็ต้องหน้าหงาย เมื่อทงเฮกระโดดบัลเล่ต์ฉีกขาเกิน 180 องศาใช้ปลายเท้าเหยียดงุ้มงดงามถีบยอดหน้าจนฮีชอลกระเด็นไปติดกับรูปแกะสลักจากก้อนโคตรเพชรกลางบ้าน มีสะเก็ดเพชรร่วงแพรวพราวราวกับลูกเห็บฝน
“แย่จริง” ชายกลางคิบอมคราง ตาขวางหูลู่ ทงเฮใจหาย เพราะอาจเผลอทำสิ่งใดมิงามขัดใจชายในฝัน
“ท..ทงเฮขออภัยฮะ เพียงแต่เป็นคนเส้นตื้น หากได้ยินคำว่า..คำนั้นที่คุณฮีชอลพูดออกมาจะเผลอเต้นบัลเล่ต์” หน้าซีดเป็นคนทารองพื้นผิดเบอร์ ไม่ต่างจากแวมไพร์หนุ่มในหนังเรื่องไทวไลก์กันเลยทีเดียว
“ฉันมิได้ว่าเธอ ฉันกำลังกล่าวโทษฮีชอล”
ได้ยินดังนั้นคนที่เพิ่งโงศีรษะขึ้นจากการถูกบาทาปะทะก็ถึงกับงง มิสามารถตอบโต้ได้
“เธอบังอาจเอาหน้าตัวเองไปปะทะกับฝ่าเท้าขาวนุ่มเนียนของทงเฮได้อย่างไรกัน เสียมารยาทกับคุณครูของชายเล็กนัก” กล่าวแล้วหันหน้ามาโค้งให้ทงเฮนิดหนึ่ง “ฉันขออภัยที่อบรมบ่าวไพร่ไม่ดีพอ เพื่อเป็นการตักเตือนฉันจะสั่งโบยบ่าวคนนี้ด้วยหวายจากหางปลากระเบนทะเลเมติเตอเรเนียน และตัดเงินเดือน”
“โอ..รุนแรงไปไหมฮะ ทงเฮ..ทงเฮ” น้ำตารื้นขึ้นมาด้วยความซึ้งใจที่คุณชายกลางยุติธรรม
“พาน้องไปพักดีกว่าชายกลาง พี่จะจัดการเรื่องในบ้านเอง ให้น้องได้เตรียมตัวสอนด้วย”
ชายใหญ่สงสารทงเฮจับใจที่โดนบ่าวไพร่กลั่นแกล้งรุนแรงถึงเพียงนั้น
“ป่านนี้ฝ่าเท้าจะด้านแล้วกระมัง ถูกฮีชอลเอาหน้าไปกระแทกฝ่าเท้าเช่นนั้น รีบพาคุณครูไปเอาน้ำแข็งประคบฝ่าเท้าเถอะ”
คราแรกอาจมีอคติบ้างกับคุณครูคนใหม่ที่จะเข้ามาสอนหนังสือน้องคนเล็ก แต่บัดนี้ชายใหญ่ยูชอนกลับกลายเป็นความสงสารปนสมเพชเวทนา
“ฮ้า..นี่มันอะไรกัน มันต่างหากที่ทำ ไม่ยุติธรรม”
ฮีชอลโวยวายได้เพียงนิดเดียวก็มีเสียงผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดในบ้านทรายทองออกเสียงปราม
“หยุดนะฮีชอล เห็นทีแค่โบยคงไม่พอแล้วกระมัง ก้าวร้าวต่อปากต่อคำเช่นนี้เห็นทีต้องลงโทษขั้นเด็ดขาด”
คำนั้นทำให้ฮีชอลยอมเงียบเพราะรู้ดีกว่าโทษทัณฑ์อันร้ายแรงนั้นคืออะไร
“หลังจากโดนโบยแล้วจงไปทำความสะอาดเครื่องเพชรของฉันในโกดัง”
“ไม่นะคะคุณหญิงโจควอน ไม่นะคะ..ฮีซอลพี่ชายฝาแฝดของอิฉันเข้าไปสามปีแล้วยังทำได้เพียงครึ่งโกดัง อิฉันไม่อยากเข้าไป ม่ายยยยย”
เธอกรีดร้องด้วยความทรมานยิ่งกว่านักร้องเพลงร็อคแหกปากแบบไม่มีคีย์หรือจังหวะขณะเล่นคอนเสิร์ตถอดเสื้อเหงื่อไหลพรากผ่านหัวนมสีดำปี๋
“เข้าไปผลัดให้ฮีซอลออกมารับใช้แทน”
... The House of Goden Sand ...
วันต่อมา
ฤกษ์งามยามดี ทงเฮจะได้เล่นบทเป็นคุณครูครั้งแรกในชีวิต เขาตื่นเต้นและเตรียมตัวมาเป็นอย่างดี ทั้งสมุดพกสมัยเรียนประถมว่าเคยได้เกรดวิชาภาษาอังกฤษดี หรือแม้แต่ใบ Transcript ยามเรียนมหาวิทยาลัยว่าวิชาดังกว่าก็ได้เกรด D มาตลอด ไม่เคยขยับขึ้นไปเป็น D+, C, B หรือแม้แต่ A
“เธอมิได้พูดปดแม้แต่คำเดียว เธอเรียนได้เกรดดีวิชาภาษาอังกฤษ น่าชื่นชมนัก คนซื่อตรง” ชายกลางชื่นชมเมื่อเห็นผลการเรียนอันน่าประทับใจ
“คุณชายกลางชมเกินไปแล้วฮะ ทงเฮจะตั้งใจสอนคุณชายน้อยให้เหมือนตอนตั้งใจลุ้นหวยเลยฮะ”
“ฉันขอฝากเธอด้วยแล้วกัน ชายน้อยนั้นเรียนโรงเรียนนานาชาติก็จริง แต่ประสบการณ์การใช้ภาษาจริงยังน้อยนัก”
นึกถึงสมัยที่น้องชายเคยบอกเส้นทางให้กับชาวต่างประเทศแล้วเหล่าผู้ฟังไม่รู้เรื่องก็นึกอดสูนัก ชายน้อยพูดภาษาเยอรมันนีให้กับชาวอินเดีย
และยังมีครานั้นอีก ชายน้อยอนยูแอบที่บ้านไปเที่ยวตลาดสด เขาลองถามราคาปลาหมึกสดกับแม่ค้าเป็นภาษาเบลเยี่ยมแล้วแม่ค้าทั้งตลาดไม่เข้าใจ ชายน้อยจึงกลายมาเป็นปมจนถึงบัดนี้
“อย่างนั้นทงเฮลองสนทนากับคุณชายกลางเป็นการซักซ้อมดีไหมฮะ”
“เรียกฉันคิบอมเถอะ” ชายกลางนั้นนำมือไขว้หลังไปหลบมิให้รู้ว่ากำลังแคะขี้เล็บไปพลาง
คุณครูเขินอายจนใบหน้าแดงซ่าน พยักหน้าอย่างเจียมเนื้อเจียมตัว
“ฮะ..คุณคิบอม ดะ...ดู ยู ไลค์ ป๊อบ มิวซิค ?”
“เฮลโล ทีชเชอร์ ฮาวอาร์ยู แต๊งกิ้ว ซิทดาว” ชายกลางคิบอมตอบกลับมาด้วยความคล่องแคล่วเช่นกัน ทั้งสองรู้สึกภายในช่องอกว่าอาจพบแล้วคนที่เข้าใจภาษาเดียวกัน เพียงคนละประโยคเท่านั้นดั่งสวรรค์ส่งมาโปรด
“สำเนียงเธอดีทีเดียวนะทงเฮ เห็นทีฉันคงวางใจได้ อย่างนั้นฉันจะทดสอบเธอสักประโยคก็แล้วกัน” ชายหนุ่มรูปงามลูบคางตนเองพักใหญ่
ทงเฮตื่นเต้นจนเผลอปรี่เข้าไปปลดเข็มขัดของชายกลางคิบอมอย่างไม่รู้ตัว ลูบไล้หัวเข็มขัดไปมาแก้เก้อ และกำลังจะปลดซิบหากมีเวลามากกว่านี้ ทว่าคิบอมนึกสิ่งจะทดสอบได้เสียก่อนจึงว่า..
“สำลีขายหวย สำรวยจะขายอะไร”
ทงเฮเอียงอายและจัดเข็มขัดของฝ่ายชายให้เข้าที่
“คุณคิบอมแกล้งทงเฮใช่ไหมฮะ นี่ไม่ใช่วิชาภาษาอังกฤษเสียหน่อย วิชาสังคมต่างหาก”
“หึหึ” ชายกลางหัวเราะหึหึในลำคอ “เธอฉลาดนัก ถูกแล้วนี่คือวิชาสังคม ฉันไม่ป่วนเธอให้เรรวนแล้วล่ะ หากเธอคันหูก็จงเรียกฉันก็แล้วกัน”
“ฮะ..ถ้าทงเฮคันหู ทงเฮจะไม่เอาหูหนี แต่จะปรึกษาคุณชายกลาง”
สองคนตกลงทางวิชาการกันเรียบร้อยจึงค่อยแยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตนอย่างเหมาะสม ทงเฮคิดเอียงอายจนต้องหนีเข้าห้องไป ส่วนชายกลางนั้นก็พอใจกับความเฉลียวของครูคนใหม่จนต้องไปนั่งหัวเราะร่วนคนเดียวกลางสวนของบ้าน จนคนผ่านไปผ่านมานึกว่าที่แห่งนี้คือสถานพักฟื้นแห่งใหม่ที่แยกตัวมาจากศรีธัญญา
... The House of Goden Sand ...
TBC.
ความคิดเห็น