คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : EP.1-The Body In The Fridge-1
href="file:///C:\DOCUME~1\ADMINI~1\LOCALS~1\Temp\msohtml1\01\clip_filelist.xml" /> href="file:///C:\DOCUME~1\ADMINI~1\LOCALS~1\Temp\msohtml1\01\clip_editdata.mso" />
The Body in The Fridge
“ขอปฏิเสธ”
คำพูดแข็งๆ ตอบอย่างไม่คิด มิได้แม้แต่จะมองหน้าผู้ร้องขอ ทั้งที่เป็นผู้บังคับบัญชาโดยตรง ทุกคนล้วนไร้ความหมายสำหรับคนคนนี้ เขายังคงง่วนกับการหยิบของแข็งสีขาวชิ้นเล็กๆ ขึ้นมามองประมาณค่าหาทิศทางการประกอบเข้ากับชิ้นที่ใหญ่กว่า
อย่างกับการประกอบแก้วเซรามิคทรงกลมที่ทำแตกให้กลับเข้ารูปร่างเดิม
“นี่ไม่ใช่การขอร้อง แต่เป็นคำสั่ง” ผู้เป็นนายทำเสียงเข้มเพื่อประกาศศักดามิให้สามารถบิดพลิ้วจากคำแถลงของตนไปได้
ผู้บรรจงวางเศษชิ้นสีขาวเข้ากับรอยที่ตนคิดว่าประกอบถูกต้องเบามือแล้วเงยหน้าขึ้นมองผู้บังคับบัญชาช้าๆ
“พวกตำรวจไร้ประโยชน์น่ะเหรอ เฮอะ ผมคิดว่าพวกเค้าคงไม่ชอบผมนัก แล้วผมก็ไม่ชอบพวกตำรวจ”
หวนนึกถึงประสบการณ์ครั้งก่อนที่ตนเองเคยทำงานร่วมกับบรรดาตำรวจแล้วปวดริ้วขมับทันที เหยียดมุมปากอย่างดูแคลนคนที่กล่าวถึง
“คนอย่างคุณเคยใช้อารมณ์มาปะปนกับเรื่องงานด้วยงั้นรึ” มิใช่คำถามจากเจ้านาย แต่เป็นการเตือนสติให้รู้จักตนเองมากกว่า
“ไม่ครับ อย่างน้อยก็กับ Case” ใบหน้าขาวผ่องไม่ผิดกับผิวเด็กที่มีสุขภาพดีเบือนหนีอย่างไม่ยี่หระ ไม่สามารถอ่านอาการ หรืออารมณ์จากสีหน้าได้ เพราะยังคงนิ่งสนิท
“พวกเขาจะให้สิ่งที่พวกเราต้องการ..ทุกอย่าง” เจ้านายว่าต่อ ผู้ถูกร้องขอจึงถามว่า
“นั่นหมายถึงพวกนั้นหมดหนทาง จนปัญญา ?”
เสียงหนึ่งดังจากด้านหลังตอบคำถามแทนเจ้านายใหญ่แห่งนี้ว่า
“ถ้าคุณอยากจะฟังคำนั้น.. ก็..ไม่ผิดนักครับ พวกเราต้องการความช่วยเหลือจากคุณจริงๆ” นายตำรวจรูปร่างสูงใหญ่เอ่ยอย่างจนแต้มกับคดี ก้าวเข้ามาใน Zone การทำงานของคนที่นี่
“ใครอนุญาตให้คุณเข้ามา ถอยออกไป..เดี๋ยวนี้ !!”
“ยูชอน” เจ้านายปราม “ขอโทษครับผู้หมวด Zone นี้ค่อนข้าง Sensitive การเดินเข้าใกล้หรือหมุนตัวอาจทำให้เสื้อผ้าแกว่งพัดเอาเศษผงหรือหลักฐานอื่นๆ ปลิวไปได้” เขาแจกแจงเพื่อให้อีกฝ่ายเข้าใจก่อนจะเกิดการผิดใจซึ่งกันและกันระหว่างตำรวจและลูกน้อง
“อา..ขอโทษครับ ผมไม่ทราบ” คล้ายจะรับรู้ แต่ในใจยังนึกกังขาอยู่ว่ากองกระดูกชิ้นโตแบบนี้แค่ชายเสื้อสะบัดคงไม่ทำให้กระดูกชิ้นเขื่องมันปลิวได้กระมัง อีกฝ่ายอ่านสายตาออกจึงบอกต่อ
“ฝุ่นทุกธุลีก็สามารถคลี่คลายความข้องใจได้ งานละเอียดแบบนี้คุณคงไม่รู้กระมัง ปกติ..หยาบ”
ผู้มีนามว่ายูชอนซึ่งกำลังประกอบเศษกระดูกให้
“แม้แต่สปอร์ของเห็ดที่ติดอยู่ในเบ้ากะโหลกก็บอกตำแหน่งการตายได้นะคุณ”
“พอเถอะน่ายูชอน ให้เกียรติคุณตำรวจเค้าหน่อย นี่...ผู้หมวดยุนโฮ เขาจะมาทำงานร่วมกับคุณ” คังอินผู้เป็นเจ้านายใหญ่แห่งนี้แนะนำตัวกันอย่างเป็นทางการ
“ส่วนนี่ยูชอน ดร.ปาร์ค ยู ชอน เป็นเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการที่เก่งที่สุดของที่นี่ครับ”
“สวัสดีครับ จะดีกว่าไหมครับ ถ้าเราไปทำความรู้จักกันต่อบนรถ ตอนนี้มีคดีรออยู่” นายตำรวจมีทีท่าขึงขัง ในแววตามีห่วงกังวลกับโลกภายนอกอยู่
“เดี๋ยวนี้งั้นเหรอ ?”
“ครับ”
“ฮื่อ” ยูชอนพ่นลมหายใจหนักๆ เมื่อเดินออกมาห่างจากโต๊ะกองกระดูกแล้วร้องเรียกผู้มาประสานงานต่อ
“ชางมิน !! จัดการต่อด้วย แล้วให้แจจุงนำไปขึ้นภาพ 3 มิติหาใบหน้า ส่วนนาย..จุนซู”
เหมือนเป็นเรื่องอัตโนมัติที่เมื่อเริ่มการสั่งงานแล้วทุกคนจะใจจดใจจ่อรอฟังคำสั่งอย่างแข็งขัน เพียงแค่ยูชอนเอี้ยวตัวไปด้านหลังก็พบว่าบนชั้นลอยก็จะมีเพื่อนร่วมงานคนอื่นๆ มารอฟัง ผู้ที่ชื่อจุนซูจึงขานรับทันที
“ครับ”
“ทำงานที่นายถนัด หาว่าศพนี้ตายมาแล้วเท่าไหร่ ช่วยดูไขกระดูกด้วย ฉันว่ามันมีอะไรผิดปกติอยู่ เพราะรอยแตกของกระดูกนั้นเหมือนไม่ได้มาจากอุบัติเหตุใหญ่ ดูเรื่องโรคประจำตัว ฉันว่าอาจจะมาจากโรคประจำตัวทำให้กระดูกเปราะ ตามนั้นนะ”
ไม่ได้รอฟังคำขานรับจากใคร ยูชอนเพียงถอดเสื้อปฏิบัติงานที่คล้ายเสื้อกาวด์ออก แล้วคว้าเอาเสื้อคลุมและกระเป๋า เดินฉับๆ นำหน้ายุนโฮออกไปที่ประตูโดยไม่ได้ลาใคร
“เอ้า จะไปทำงานมั้ยคุณ” ยูชอนเรียกยุนโฮที่ยังยืนนิ่งอยู่ นายตำรวจเหลือบไปมองยังคังอินผู้เป็นเจ้านายที่เขาประสานงานไว้ครั้งแรกก็พบว่า
..คังอินเพียงแค่พยักหน้านิดหนึ่งเป็นเชิงให้รู้ว่า
‘นี่แหละมืออาชีพ’
ยุนโฮจึงรีบเดินปรี่ตามหลังผู้ที่เดินนำหน้าไปไกลแล้ว
“จิ๊.. จะรอดมั้ยวะกูงานนี้ มิน่าล่ะถึงไม่อยากมีใครร่วมงานกับที่นี่” นายตำรวจแอบบ่นเบาๆ ขณะเดิน
**********
ณ จุดเกิดเหตุ
ริมแม่น้ำสายใหญ่มีรถตำรวจอยู่หลายคัน พร้อมแถบกั้นมิให้ผู้ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปได้ มีร่องรอยการใช้รถดึงฉุดเอาบางอย่างขึ้นมาจากน้ำเป็นทางรอยเปียกยาว เมื่อจอดรถยูชอนก้าวลงจากรถเดินไปที่เกิดเหตุด้วยความรวดเร็ว
“เข้าไม่ได้นะครับ ผู้ไม่เกี่ยวข้องห้ามเข้าครับ”
ตำรวจนายหนึ่งกันไว้มิให้ยูชอนเข้าไปใกล้กับหลักฐานต่างๆ
ได้ยินดังนั้นยูชอนก็เท้าสะเอวขึ้นข้างหนึ่งพร้อมใบหน้าบึ้ง เสหน้าหันหลังไปนิดหนึ่งให้ยุนโฮที่เดินตามมาเพราะมัวแต่ล็อครถอยู่ให้รู้ว่าช่วยเคลียร์ที ซึ่งก็มิได้รอใคร ใช้มือปัดแขนของตำรวจที่กั้นทางอยู่แล้วก้มลงลอดผ่านตัวตำรวจคนนั้นไปได้
นายตำรวจทำท่าจะขัดขวางแต่ยุนโฮก็มาถึงก่อนจึงรีบบอก
“เขามากับผมครับ... F.B.I.” ตราตำรวจกลางถูกโชว์แผ่หราทันทีเพื่อความรวดเร็วในการเข้าทำงาน ซึ่งทำให้ตำรวจคนนั้นอนุญาตให้ผ่านทันที
“อย่าเปิดนะ !!”
เจ้าหน้าที่ชะงักมือทันที วางมือลงจากการง้างค้อนและชะแลงในมือหมายใจจะทะลายโซ่และกลอนกุญแจ
"คุณเป็นใคร" ตำรวจนายหนึ่งสอบถามผู้เข้าขัดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่ด้วยน้ำเสียงกระด้างผสมความไม่พอใจ
"ดร.ปาร์คยูชอน ...F.B.I" ตราตำรวจอันเดิมในมือยุนโฮชูหรามาแต่ไกลโดยยังไม่ได้เก็บเข้าเสื้อ ตำรวจหนุ่มรีบปรี่เข้ามาเคลียร์ให้ความอึดอัดในสถานการณ์นี้คลี่คลาย "ดร.ยูชอนเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการพิสูจน์หลักฐาน F.B.I.ส่งตัวมาดูแลคดีนี้กับผมครับ" เขาสาธยายด้วยความรวดเร็ว
"พวกคุณจะทำลายหลักฐานรึไงกัน ฮึ่ย" ยูชอนหัวเสียตวาดกราดต่อว่าเจ้าหน้าที่ผู้กำลังจะเปิดตู้เย็น "ขอน้ำจากแหล่งน้ำที่บริเวณเก็บกู้ตู้เย็นขึ้นมา 30 ลิตร ดินรอบตู้เย็นรัศมี 10 เมตร พร้อมกับขุดดินใต้หลักฐานลึก 12 เซนติเมตร แล้วส่งกลับ Lab ผม"
"หา !!~ คุณจะบ้าเหรอ คุณจะเอาทั้งหมดนั้นได้ยังไงกัน" ยุนโฮเองที่เป็นผู้ออกปากเดือดแทนคนอื่นๆ ระคนปนตกใจ ไม่เคยได้ยินอะไรพรรค์นี้มาก่อน
"แปลกตรงไหน ถ้าจะทำงานกับผม ก็ต้องใช้วิธีของผม หรือจะไม่ตกลง" มิได้แคร์สักเท่าใดนัก ยูชอนเหวี่ยงหน้าใส่ทุกคน เดินเข้าไปที่ตู้เย็นสีแดงที่ถูกโซ่พันและล็อคกุญแจไว้มิได้ใส่ใจใคร ทิ้งคำสั่งไว้ให้หน่วยงานราชการพิทักษ์สันติราษฏร์ได้หนักใจในการทำตามคำของผู้เชี่ยวชาญที่น่าจะถูกจับกดน้ำในความรู้สึกของเหล่าตำรวจไว้ภายหลัง
ความคิดเห็น