คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : Part XII 100%
3P – Three LovE
Title : 3P – Three LovE
Author : -BallOonzA-
Staring : Lee Dong Hae x ????
Part XII
“ผมรักทงเฮนะ”
“เปล่า !!! ผมรักทงเฮ อย่างที่ผู้ชายคนหนึ่งจะรักคนรักได้”
ถ้อยคำเหล่านี้วนเวียนอยู่ในหัวของทงเฮตลอดเวลา.. ตั้งแต่ตัดสินใจเดินออกมาสงบสติอารมณ์ หรืออาจจะสงบหัวใจก็ไม่รู้ ทั้งวิงเวียนจากพิษไข้ ทั้งปวดหัวจากสิ่งที่คยูฮยอนคิด
...เด็กคนนี้ทำให้เขาหลุดความเป็นเด็ก วิ่งหนีปัญหาเหมือนกับคนไม่มีวุฒิภาวะได้อีกครั้ง
ทงเฮมาหยุดพักหลบแดดในร้านหนังสือแห่งหนึ่ง ไม่รู้อะไรดลใจให้เขาไปหยุดยืนอยู่ที่หน้าหนังสือเล่มหนึ่ง
“Sweet Boy , Sweet Couples”
หนังสือรวมวิถีคู่น่ารักๆ ของคู่ Y ในสายตาของเหล่าแฟนคลับ
ทงเฮอดใจไม่ได้ที่จะหยิบมันขึ้นมาแล้วพลิกดูภาพด้านใน มองดูคู่ที่แฟนคลับยกให้เป็นคู่รัก..แนว Y หลายคู่ต่อหลายคู่ คำพูดของเด็กคนนั้นทำให้เขาสับสนจนดูหนังสือประเภทนี้เชียวหรือ
“Do you like it ?”
เสียงของชายคนหนึ่งที่เคยได้ยินมาก่อนทักขึ้น สำเนียงแบบนี้คุ้นหู แต่ทงเฮจำมันไม่ได้หรอก..ว่าใคร
“Do you talk with me ?” ทงเฮชี้ที่อกตนเอง ไม่แน่ใจว่าผู้ชายหน้าตาดีคนนี้ตั้งใจสนทนากับตนเองรึเปล่า
“
“Hmmm , Sorry” ทงเฮขอโทษตามมารยาท ลืมนึกไปว่าหนังสือในมือน่ะมันคือชนวนให้ยูชอนมาทักเขาแบบนี้
ยูชอนจ้องมองหนังสือในมือแล้วถามออกมา
“What’s your type ?” ถามตรงๆ เลยว่า เป็นแบบไหน
“What do you mean ?” ทงเฮไม่เข้าใจ ผู้ชายตรงหน้านี้หมายถึงอะไร
“You are what you read , right ?”
“Maybe yes , maybe not.” ทงเฮตอบแบบขอไปที ไม่อยากจะเสวนาด้วยอีกแล้ว ตอนนี้ปวดหัวจนแทบจะระเบิดอยู่แล้ว ไม่สบายยังเดินตากแดดออกมาถึงที่นี่ ฝืนสังขารแทบจะไม่ไหวแล้วกระมัง
“What’s going on ? Hey !!” ยูชอนเห็นอาการปล้อแปล้ของคนตรงหน้าก็ชักเป็นห่วง หน้าแดง หอบนิดๆ เหมือนไม่สบาย ไม่มีแรงแทบจะยืนด้วยซ้ำ ...อาจจะดูโรคจิต แต่ยูชอนหลอกตัวเองไม่ได้ว่า เขาชอบคนตรงหน้า..ที่เป็นแบบนี้เหลือเกิน
“I.. I…” ไม่ทันจะตอบหมดจบประโยคหนังสือในมือก็หลุดร่วงลงที่พื้น ทงเฮหมดสติไปในที่สุด ยังดีที่ยูชอนเข้ามาประคองไว้ได้ทัน ไม่เช่นนั้นหัวของดงแฮ(ในความคิดของยูชอน) อาจจะฟาดเข้ากับอะไรแข็งๆ อย่างพื้นไปแล้วก็ได้
“คุณ.. คุณ.. โห..ตัวร้อนเป็นไฟเลย ไม่สบายยังถ่อสังขารมาทำไมเนี่ย เฮ้ คุณ”
........................3P - Three Love........................
“แห่ก ๆ ๆ” สมาชิกพรรคคนหน้าเหมือนคนสุดท้องวิ่งลัดมาจากหลังร้าน อาการหอบเหนื่อยปรากฎชัดเจน กลัวว่าสองหมอจะไม่ยอมรอจนบุกเข้าไปตามหาในร้านอาหาร เลยวิ่งดุ๊กดิ๊กสุดแรงเกิด
“หมอ..อ..อ..ออ” เสียงมาก่อนตัว ดีที่ดงแฮวางหมากให้สองหมอนั่นไม่ได้อยู่ใกล้กับจุดที่คิบอมกับดงแฮนั่ง หรือไม่ได้ใกล้หน้าร้านจนพอมองเห็นอะไรถนัดถนี่ซักเท่าใด
“มาแล้วเหรอครับ...เอ๋” ซีวอนทักก่อน ความแปลกใจวิ่งชนกันอุตลุต
“เฮ้ย ทำไม...” ฮันกยองก็สะดุดสายตากับสิ่งที่เห็น
นี่หมอสองคนตาฝาดพร้อมกัน หรือว่าดองเฮเปลี่ยนไปแบบนี้ล่ะ เสื้อผ้าก็ใกล้เคียงของเดิมอยู่หรอก แต่ผม.....
“รอเค้านานป่ะ รีบไปจากที่นี่เหอะ นะนะ เค้าหิวแล้ว”
ดูท่าแล้วหมอว๊อนกับหมอก๊องแก๊งคงกำลังสงสัยสุดกู่ ดองเฮรีบตัดบทด้วยการลากแขนออกจ้ำ แล้วประกาศไว้ก่อน
“อย่าเพิ่งถามอะไร ห้ามถามตอนนี้ เค้าเหนื่อย ให้เค้ากินเสร็จก่อนค่อยถาม โอเคป่ะ”
“เอ่อ ดองเฮครับ” ฮันกยองเกริ่นก่อน
“ก็เค้าบอกว่าอย่าเพิ่งถามไง หมอก๊องแก๊งนี่เอ๊ะ”
“เปล่าครับ หมอจะบอกว่า รถหมออยู่ตรงนี้ จะลากไปไหนครับ”
เพล๊ง !!
หนูแบ๊วหน้าแตกแหกระเบิดหมอไม่รับเย็บงานนี้ หมอสองคนเลยล่ะที่ไม่รับเย็บ
“อ๊า... หมอแกล้งเค้า ทำไมไม่บอกเค้าก่อนล่ะ คนยิ่งเหนื่อยๆ อยู่ เดี๋ยวเค้าก็ให้หมอเลี้ยงข้าวซะเลยนี่” แฝดเล็กแก้เก้อด้วยการงอนตุ๊บป่อง
“ฮึฮึ หมอเปล่าแกล๊งนะครับ” ฮันกยองยิ้มให้ดองเฮอย่างเอ็นดู
“หมอซับเหงื่อให้นะครับเด็กดี ดูซิ เหงื่อเต็มเลย หมอซับให้นะ” ซีวอนควักผ้าเช็ดหน้ามาซับเหงื่อเบาๆ เอาแต้ม
“หา.. หมอว๊อนนี่รู้ใจเค้าจังเลย น่ารักที่ซู๊ดดดดดดด” ดองเฮยื่นหน้าใสให้เช็ดอย่างเต็มใจ
“หมอว๊อนรู้ใจ แต่หมอฮันกยองก็มีของจะให้เหมือนกันนะครับ ตอนแรกว่าจะที่โรงพยาบาล แต่ไหนๆ ก็เจอแล้ว หมอให้เลยก็แล้วกัน”
“ฮะ จริงเหรอฮะหมอก๊องแก๊ง จะให้อะไรเค้าเหรอ” ทิ้งความสนใจจากซีวอนทันทีที่ได้รู้จะมีของฟรีมากำนัล ซีวอนบึ้งหน้าใส่ฮันกยองทันที
“อยู่ในรถพอดีเลยครับ เอาไว้ดูเองดีกว่า ขึ้นรถเลยมั๊ยครับ เปิดแอร์เย็นๆ ให้หายร้อนดีกว่า แค่ผ้าเช็ดหน้า คงไม่หายร้อนแน่” ปฏิบัติการเกทับเกิดขึ้นอีกแล้ว
“หมอก๊องแก๊งก็มีความคิดดีดีนะเนี่ย ว้าว..ฉลาดสมเป็นหมอเลยล่ะ คิคิ ไปเหอะ เค้าหิวแล้วด้วย”
ดองเฮวิ่งไปตรงประตูรถคันที่คาดว่าจะเป็นรถของหมอฮันกยอง เพราะฮันกยองใช้กุญแจรีโมตกดปลดล็อคจนมีไฟกระพริบแสดงสัญญาณที่ตัวรถรอแล้ว
“ไม่นั่งข้างหน้ากับหมอเหรอครับ” ฮันกยองเห็นดองเฮจะเปิดประตูด้านคนโดยสาร ไม่ใช่ตำแหน่งของตุ๊กตาหน้ารถ
“ไม่เอาหรอก เค้าเป็นเด็ก เค้าไม่แย่งที่ผู้ใหญ่หรอก หมอสองคนนั่งเหอะนะ เค้าเกรงใจ” ไม่รู้ว่ามารยาทที่รู้มา..มันถูกหรือผิดกันแน่
แต่ในความคิดของดองเฮ ถ้าเกิดเขานั่งด้านหน้า หมอซีวอนก็ต้องนั่งด้านหลังคนเดียว คงไม่ดีสักเท่าไหร่ ให้สองหมอนั่งด้วยกัน แล้วเขานั่งด้านหลังคนเดียวคงจะดีกว่า
ซีวอนยิ้มกริ่มเย้ยฮันกยอง ที่แผนการไม่สำเร็จ จึงได้ทำคะแนนด้วยการเปิดประตูรถให้ดองเฮแทน
..
..
ตอนนี้สามคนอยู่ในรถที่วิ่งแล่นฉิวไปยังร้านอาหารร้านใหม่ ดองเฮได้ของที่ถูกใจเป็นซีดียกเซ็ทตามที่หมอเคยสัญญาไว้ ลิงโลดยิ่งกว่าลิงได้แก้ว เมื่อเห็นว่าอาการเห่อซาลงบ้างแล้ว ฮันกยองจึงรุกถามสิ่งที่ค้างคาใจ
“เด็กดื้อ จะบอกหมอได้รึยัง..ว่าเกิดอะไรขึ้น”
“นั่นสิครับเด็กดี หมอ..เอ่อ ไม่เข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้น”
อาการจ๋อยสนิทเข้าครอบงำดองเฮทันที เขารู้ตัวว่าโกหกไม่เก่ง.. ไม่ชอบโกหกอีกต่างหาก จึงตอบไปตามตรง
“เค้า.. ติดไว้ก่อนได้ป่ะ เค้า..ไม่อยากบอก ถ้าเค้าพร้อมเค้าจะบอกหมอพร้อมกันเลย นะนะนะ อย่าคาดคั้นเค้านะ เค้าไม่อยากบอกจริงๆ”
ทำหน้าอ้อนวอนขนาดนั้น ใครจะไปใจร้ายด้วยลง ซีวอนและฮันกยองเลยมองหน้ากันนิดๆ แล้วยอมตามใจ
..
..
อีกหนึ่งคนที่กำลังร้อนใจตามหาทงเฮไปทั่ว เขาจนปัญญาที่จะตามหา เพราะตลอดเวลาอยู่แต่ที่ญี่ปุ่น มาเกาหลีทีไรก็จะมีแฝดสามพาไปโน่นมานี่เสมอ จะเดินทางเองก็คงต้องพึ่งแต่แท็กซี่เท่านั้น แต่นี่..ไม่รู้จุดหมายปลายทาง เขาจะบอกแท็กซี่ยังไง ไปตามหาทงเฮงั้นเหรอ....
“ทงเฮ ..คุณอยู่ไหนนะ คุณจะทำให้ผมบ้าตายอยู่แล้วนะ”
..
..
“ทงเฮ.. ทงเฮ อะไรวะ นี่เพ้อเพราะพิษไข้จนเรียกชื่อตัวเองผิดรึไงวะเนี่ย” ยูชอนประคองทงเฮไว้ให้พักตรงร้านนั้นอยู่ซักครู่ แต่เมื่อเห็นว่าทงเฮไม่ฟื้นแน่ เลยคิดจะพาไปที่โรงพยาบาลแทน ไข้สูงขนาดนี้ หากปล่อยทิ้งไว้นาน..พาลจะเกิดอาการชักได้หากสูงเกินพิกัด
..
..
“ฮ่า... อิ่มจัง ถึงโรงพยาบาลแล้วรีบตรวจนะหมอ เค้าอิ่มแล้วเค้าง่วง”
ดองเฮยื่นหน้าเข้ามาระหว่างช่องเบาะ พลิกหน้าซ้ายขวาไปมาบอกสลับกันระหว่างซีวอนและฮันกยอง ไม่รู้เลยรึไงว่า..หน้ามันใกล้กันจนหมอหวั่นไหว.. หมอทั้งคู่นั่นล่ะ
“ดะ..ได้ครับ” // “ครับ”
“พูดง่ายๆ แบบนี้นะ เค้ารักตายเลย” ดองเฮพูดในความหมายของตัวเอง..คือรัก เอ็นดู น่าคบประมาณนั้น แต่คำพูดมัน.. ชวนให้หมอเข้าใจผิดไปหมด คำว่ารักของแต่ละคนมันไม่เหมือนกันจริงๆ
“จริงรึเปล่าครับ” // “จริงเหรอครับ”
ซีวอนและฮันกยองหันขวับมาหาคนตรงกลางที่แทรกหน้ามาอยู่ตรงกลางระหว่างคนนั่งหน้าอยู่แล้ว
“อ๊ะ” ดองเฮอุทาน.. ก็ตอนนี้จมูกโด่งๆ ของสองหมอมันปะทะแก้มเขาอยู่ทั้งสองข้างพอดีน่ะสิ
“อ๊า.. หมอ..หมอว๊อนกับหมอก๊องแก๊งหอมแก้มเค้าอ่า.. อ๊า...” แฝดเล็กหน้าแดงก่ำ ถึงจะโดนคนในบ้านหอมแก้มบ่อยก็เถอะ แต่คนอื่นนอกบ้าน..ยิ่งผู้ชายหล่อสองคนมาหอมแก้มตัวเองพร้อมกันแบบนี้.. มัน..อ๊ากกกกกกกกก
/>
“เฮ้ย ไอ้ฮัน ดูถนนสิวะ เดี๋ยวได้ตายยกครัวหรอก”
ซีวอนได้สติก่อนเพราะทิศทางที่เขามองเห็นวิถีของรถชักเบี้ยวไปจนแทบจะไปขวิดรถชาวบ้านที่วิ่งตีขนานขนาบมา
ฮันกยองเองก็ได้สติจากแรงทักนั่นเหมือนกัน รีบดึงสายตาจากแก้มหอมๆ นั่นมายังถนนทันที ดองเฮเขินจนนิ่งไป ซีวอนเห็นความเงียบจากคนช่างจ้อจึงเริ่มถาม
“โกรธหมอรึเปล่าครับ ที่หอมแก้ม หมอขอโทษนะครับ”
“เปล่า... เค้าไม่ได้โกรธ”
“นิ่มเนอะ” ฮันกยองพอจะเดาอาการออก เพราะเขาเหลือบมองที่กระจกมองหลัง จึงได้แซวขึ้นและพยักเพยิดหน้ากับซีวอน
“ช่าย... นิ๊ม..นิ่ม แถมหอมด้วยสิ” ซีวอนชักเคลิ้ม
“อ๊า... ห้ามพูดนะ หมอบ้า” เด็กน้อยแจกฝ่ามือไปที่ไหล่หมอกันคนละข้าง แต่ตัวแค่นั้น... มันไม่ได้ทำให้หมอเจ็บเลย แต่เป็นการส่งสัญญาณที่ดีมากกว่า...ว่าเขิน ชายหนุ่มที่ผ่านสมรภูมิรักมาอย่างเชี่ยวชาญอย่างซีวอนและฮันกยอง เข้าใจแจ่มแจ้งแล้วว่าตอนนี้... ดองเฮรู้สึกยังไง
“โอ๊ย !! หมอเจ็บนะครับ นี่หมอขับรถอยู่นะครับ ตีหมอแบบนี้เดี๋ยวเกิดอุบัติเหตุจะทำยังไงล่ะครับ” ฮันกยองเริ่มเล่นสงครามประสาทกลั่นแกล้งคนน่ารัก
“ก็.. ก็ใครใช้ให้มาแซวเค้าล่ะ โป้งแล้ว โป้งจนตายด้วย ..ฮึ” แฝดเล็กแก้เขินด้วยการงอน นั่งกอดอกถอยตัวไปนั่งติดเบาะ ไม่ได้เผยอตัวมาในช่องระหว่างเบาะหน้าอีก แถมยังเชิดหน้าอมลมทำแก้มป่อง
“โอ๋ๆ ไม่งอนนะครับ เค้าว่าเวลางอนจะมีสารบางอย่างหลั่งออกมาจากต่อมใต้สมอง ทำให้เราแก่แล้วก็หน้าเหี่ยวนะครับ” ฮันกยองแก้ตัว
“จริงครับเด็กดี ถ้าเกิดงอนบ่อยๆ แล้วเดี๋ยวจะหน้าแก่แซวหมอน๊า...” ซีวอนเข้าร่วมปฏิบัติการอำ ....เป็นหมอ พูดอะไรก็ดูน่าเชื่อถือไปหมด
“หา... จริงเหรอ เค้าไม่อยากแก่อ่าฮะหมอ นี่ๆ เค้าเริ่มเหี่ยวรึยังอ่า ไม่เอานะ เค้ายังอยากเป็นเด็กแบบนี้อ่า” รีบถลาตัวเข้ามาที่ซอกเดิมทันที แล้วให้สองหมอดูที่รอยพับต่างๆ ของหน้าว่ามันย่นจริงรึเปล่า
“หึหึ ไม่หรอกน่าเด็กดื้อ ถ้าไม่ทำหน้าบึ้ง ยิ้มน่ารักๆ ให้หมอทุกวัน หน้าก็จะไม่เหี่ยว” ฮันกยองเหล่ตามามองแล้วรีบบอก
“จริงรึเปล่าฮะหมอว๊อน ถ้าเค้ายิ้มให้หมอสองคนทุกวันแล้วจะดีจริงๆ เหรอ”
“ครับ ต้องยิ้มหวานๆ เป็นกำลังใจให้หมอทำงาน แล้วจะดี..” ไม่ได้บอกซะหน่อยว่าดีแบบไหน หรือดีกับใคร ซีวอนตอบเพื่อหาประโยชน์ทันที
‘ไอ้ฮันแม่งร้ายว่ะ นิ่งๆ แต่แกมโกงชะมัด’ ซีวอนคิดในใจ เพราะปกติซีวอนแค่เอาใจนิดๆ หน่อย สาวๆ หรือคนที่หมายปองก็ละลายจนไม่ต้องใช้แผนการหรือวิธีการแบบนี้
“งั้นเค้ายิ้มแล้ว นี่ๆ หมอดูสิ เค้ายิ้มให้นะ” ดองเฮแจกยิ้มให้ซีวอนก่อน แล้วสะกิดฮันกยองให้มองดูรอยยิ้มของตัวเอง
“ครับ ยิ้มแบบนี้ล่ะ รับรองเด็กดีจะน่ารักไปตลอดกาลเลยล่ะ”
“อื้ม เด็กดื้อยิ้มแล้วโลกสดใสจะตายนะครับ เวลาเจอหมอต้องยิ้มแย้ม แล้วหมอจะรัก... เอ๊ย หมอจะรักษาให้อย่างดีเลยล่ะครับ”
“ฮะ เค้าจะยิ้มให้หมอสองคนเยอะๆ แล้วหมอก็ต้องรักษาเค้าดีดีด้วยล่ะ”
“ครับ หมอสัญญา” ซีวอนตอบก่อน
“รับรอง จะรัก..ษาให้เป็นพิเศษเลยครับ” ฮันกยองตามมา
“ถึงแล้ว เย่เย่ งั้นเดี๋ยวพอลงไป เค้าจะไปยิ้มให้คุณพยาบาลด้วย เค้าจะได้น่ารักเยอะๆ ฮิฮิ”
“ทำไมเด็กดื้อถึงไม่อยากโตล่ะ” ฮันกยองเป็นหมอ ก็พอรู้ว่าคงมีปมในใจบางอย่างแน่ จึงมีความคิดแปลกๆ และกลายเป็นกริยาที่ไม่สมตัวแบบนี้ กระทั่งซีวอนก็รู้... แต่ไม่อยากถามเหมือนกัน
“เค้า... ไม่อยากโตหรอก ถ้าโต... เค้าก็จะเหมือน... เอ่อ ช่างเหอะ เค้าไม่อยากโตก็แล้วกัน ทำไมล่ะ หมอรังเกียจเด็กดื้อคนนี้เหรอ”
“เปล่าครับ หมอแค่อยากรู้ เพราะบางที... ถ้ารู้แล้วหมออาจจะช่วยได้...ก็ได้นะครับ” จรรยาบรรณความเป็นหมอมีตลอดเวลา แม้แต่กับคนที่หัวใจอยากจะเป็นมากกว่าหมอกับคนไข้ธรรมดา ฮันกยองอยากรู้สิ่งที่ทำให้แฝดเล็กเป็นแบบนี้ เผื่อจะช่วยรักษาปมในใจได้
“เด็กดีมีอะไรก็บอกกับหมอสองคนได้นะครับ หมอยินดีเป็นเพื่อนแล้วก็ที่ปรึกษา ถ้าเด็กดีมีอะไรในใจก็คุยกับหมอได้นะครับ” ซีวอนยกมือมาลูบหัวแฝดเล็กเบาๆ อยากจะทำให้เด็กคนนี้อารมณ์ดีและไม่มีความอนาทรทุกข์ร้อนใดใดเลย
“งืมๆ ถ้าเค้ามีอะไรเค้าจะบอกหมอสองคน ดีม๊ะ”
“ครับ หมอจะรอนะครับ” ซีวอนแม้ไม่ใช่คนเริ่ม แต่ก็มีความคิดใกล้เคียงกับฮันกยอง
“เอาล่ะ ถึงแล้ว ลงไปตรวจกันเถอะเด็กดื้อ”
..
..
เมื่อเคลื่อนพลจากลานจอดรถไปยังหน้าโรงพยาบาล ก็มีการขนย้ายผู้ป่วยจากรถยนต์คันงามไปยังเตียงเข็น เนื่องจากคนไข้ไม่ได้สติ
สำหรับหมอฮันกยองและหมอซีวอน มันคือเรื่องปกติ เพราะมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นจนนับไม่ได้แล้วว่ามีกี่ครั้งต่อวัน ...มันชินตา
แต่สำหรับแฝดเล็กดองเฮ ดูจะเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นจึงให้ความสนใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น
ยูชอนเปิดประตูรถฝั่งตนเองแล้วรีบวิ่งมาที่ประตูอีกฝั่งที่มีคนไข้หมดสติอยู่ เขาประคองช้อนอุ้มแฝดพี่เดินดุ่มๆ เข้าไปยังประตู คนหมดสติถูกลวนลามด้วยความหวังดีเต็มๆ
“ไม่ทราบคนไข้เป็นอะไรมาคะ” พยาบาลท่านหนึ่งซักประวัติคนไข้กับผู้มีสติ หลังจากที่ยูชอนค่อยๆ วางตัวแฝดพี่ลงบนเตียงที่มีล้อ เรื่องรถที่จอดหน้าประตูนั่นไม่ใช่ปัญหา เพราะมีเจ้าหน้าที่เลื่อนรถไปเก็บให้อยู่แล้ว
“เป็นไข้สูง หมดสติครับ” ยูชอนบอกอาการ
“หมดสติไปนานแค่ไหนแล้วคะ”
“ประมาณยี่สิบนาทีครับ” ถึงจะวางร่างกายคนไข้แล้ว แต่ยูชอนยังกุมมือคนไข้ไว้แล้วเดินตามเตียงที่กำลังถูกเข็นไปตลอดเวลา
..
..
ทุกอย่างก็คงปกติวิสัยสำหรับสองหมอหล่อ... ถ้าไม่ใช่เพราะ ดองเฮดันวิ่งตามรถเข็นคันนั้นกับเค้าด้วย
“ดองเฮ จะไปไหนน่ะครับ”
“เฮ้ เจ้าเด็กดื้อ จะไปไหนน่ะ”
มีความจำเป็นต้องวิ่งตามคนไข้แสนประหลาดคนนั้นไปด้วย เพราะไม่รู้ว่าทำไมจู่ดองเฮถึงได้วิ่งตามกับเค้าไปด้วย
..
..
“คนไข้ชื่ออะไรคะ” การซักประวัติยังดำเนินต่อไป
“ลีดงแฮครับ” ยูชอนตอบตามที่เข้าใจ
“งั้นเชิญญาติรอด้านนอกนะคะ” เตียงพยาบาลกำลังถูกเข็นเข้าไปในห้องฉุกเฉิน
“ไม่ใช่ฮะ คนไข้ชื่อลีทงเฮ !!” เสียงเล็กๆ บอกแก้ไขความเข้าใจผิด
........................3P - Three Love........................
ความคิดเห็น