คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : Part XI 100%
3P Three LovE
Title : 3P Three LovE
Author : -BallOonzA-
Staring : Lee Dong Hae x ????
Part XI
“พี่ดงแฮ.. ตัวเองไม่ต้องตื่นเต้นมากก็ได้น่า”
ดองเฮแฝดเล็กนึกขำกับท่าทางแปลกๆ ของพี่ชายคนกลาง ดูจะตื่นเต้นกว่าเวลาขึ้นเวทีประกวดเต้นหรือตอนถ่ายแบบเสียอีก ดองเฮเคยแอบไปดูพี่ชายตนเองประกวดเต้น แต่ต้องปลอมตัวเพื่อไปดูด้วยการใส่หมวกไหมพรมเก็บผมทั้งหมด ใส่แว่น(ซึ่งแอบจิ๊กของพี่ทงเฮมา) ใส่ที่ปิดปากเหมือนเวลาเป็นหวัดแล้วไปเรียนแล้วไม่อยากจามให้ใครติดหวัดตัวเอง มันสนุกแล้วก็ตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูก
แต่ในวันนี้... ดงแฮกลับต้องมาทำลับๆ ล่อๆ เพื่อดูตนเองบ้าง รู้สึกเหมือนกับกำลังดูการ์ตูนเรื่องโคนันอย่างไงอย่างงั้น ดงแฮไม่ได้ปลอมตัวปิดบังตัวเองมิดชิดเหมือนที่ดองเฮทำ แค่ทำผมเป็นลอน บวกกับสีผมเมททาลิกบลอนด์ มันดูสวยน่าเตะตามากกว่าจะปลอมตัว
พี่น้องคู่นี้ตกลงกันว่าจะใช้เวลาไม่นาน ดงแฮจะเฝ้ามองอยู่ด้านนอกของร้าน และให้ดองเฮเลือกนั่งติดริมหน้าต่าง และระหว่างการทานอาหารดงแฮจะเป็นสปอนเซอร์ในการจ่ายค่าโทรศัพท์มือถือเดือนนี้ให้ดองเฮ แต่ต้องโทรออกมาหาดงแฮแล้วเปิด Speaker Phone เพื่อให้ดงแฮรู้สถานการณ์ตลอดเวลา ....
“ใครตื่นเต้น ชั้นเปล่าซะหน่อย แค่...” แฝดกลางพยายามจะหาเหตุผล
“แต่อะไรเหยอ.. ฮิฮิ พี่ดงแฮรู้ป่ะ เวลาตัวเองเป็นแบบนี้นะ ตาล๊กกกกกก ตลก” ได้ทีขี่แพะไล่ น้องเล็กรีบทับถมไว้ก่อน
“ชั้นแค่อารมณ์ค้างจากไอ้เด็กจิ้งจอกนั่นต่างหาก พูดมากน่า นี่จะถึงปากซอยแล้ว เดินออกไปนะ จะเจอคิบอมยืนเต๊ะจุ๊ยพิงกับรถสุดเท่ห์ของมันอยู่ มันจะเด่นกว่าชาวบ้านเค้านั่นล่ะ อย่าให้มีพิรุธล่ะ อ้อ..แกล้งไม่แบ๊วซักวันด้วยล่ะ เดี๋ยวแผนแตก” ย้ำแล้วย้ำอีกเรื่องอาการแบ๊ว กลัวเรื่องแตกเหรอ..ใช่ นั่นก็เหตุผลนึง แต่ที่กลัวที่สุด คงจะเป็น..กลัวหลงรักดองเฮกระมัง
“โอ๊ย.. เค้ารู้แล้วน่า พี่ทงเฮยังแกล้งทำเป็นเค้าได้เลย เค้าก็ต้องแกล้งทำเป็นตัวเองได้สิพี่ดงแฮ”
“ให้มันจริงเหอะ” ดงแฮดูสภาพยังไงก็ไม่น่าจะเป็นไปได้เลย
“จริงสิ ไม่เชื่อเค้าจะทำให้ดู” ดงแฮปรับสีหน้าเล็กน้อยให้ดูเกรี้ยวกราด เชิ่ดหน้านิดๆ จมูกดูรั้นขึ้นอัตโนมัติจากการเชิดหน้า ภายนอกก็ดูคล้ายกับดงแฮดีอยู่หรอก ทีนี้..ก็เหลือแค่ แววตาและคำพูด
“อะไร มองทำไม ไม่เคยเห็นคนรึไง” น้องเล็กพยายามห้าว
“คำพูดน่ะพอไหว เสียงน่ะเสียง ชั้นไม่ใช่เด็กปัญญาอ่อนนะ ทำเสียงให้มันเข้มกว่านี้หน่อยสิ พูดยานคางเป็นเด็กออทิสติกไปได้”
“โหย.. มันก็ต้องใช้เวลาสิพี่ดงแฮ เค้าไม่ใช่คนปากจัดแบบตัวเองนะ”
“นี่นายว่าชั้นเหรอดองเฮ”
“เปล่าน๊า.. เค้าไม่ได้ว่าซ้าหน่อย ก็ได้ งั้นเค้าเอาจริงแล้วนะ”
“เออ ซักทีเหอะ”
“อยากตายรึไง !! ดองเฮ ถ้าวันนี้นายไม่ไปตรวจที่โรงพยาบาลนะ ชั้นเอานายตายแน่” ดองเฮสมมุติว่าดงแฮเป็นตนเอง แล้วยืมคำพูดดงแฮที่เคยขู่ตนเองเวลาไม่อยากไปโรงพยาบาลไปใช้
“เออ พอได้ อย่าให้หลุดล่ะ” นี่คงใกล้เคียงที่สุดแล้วล่ะมั้ง.. ที่เจ้าแบ๊วจะทำได้ ดงแฮส่ายหัวกับการแสดงละครป้อแป้ของน้องชาย นี่ถ้าเป็นพี่ทงเฮล่ะก็..รับรองไม่มีหลุด
“ฮิฮิ รับรองเค้าจะไม่ให้หลุดเลยล่ะพี่ดงแฮ คิคิ แล้วถ้าเกิดว่าแฟนตัวเองคิดว่าเค้าเป็นตัวเองมาลวนลามเค้าล่ะ เค้าจะทำไงอ่า”
“ชั้นจะกระทืบมันเอง !!” นึกถึงแต่ละอย่างที่คิบอมทำกับตัวเองไว้แล้วสยอง เอ๊ย สยิว นี่ถ้าคิบอมเกิดไปทำแบบนั้นกับน้องชายตัวเอง ยังคิดอยู่เลยว่า..จะโกรธน้อง..หรือโกรธคิบอมดี
........................3P - Three Love........................
“เฮ่อ..” คยูฮยอนถอนหายใจกับอุปสรรคต่างๆ ในรัก เขากำลังเตรียมอ่างน้ำและผ้าเช็ดตัวเพื่อจะไปพยาบาลคนที่เขารักหมดใจ แต่ความทุกข์โศกหายไปแทบหมดสิ้น เมื่อคิดว่า..กำลังจะได้เช็ดตัว ถ้าเช็ดตัว ก็จะได้เห็นเรือนร่างนั้น ได้สัมผัส..แม้จะแค่ผ้าก็เถอะ
“อ๊ากกกกกกกกกกกกกก” อยู่ดีดีคยูฮยอนก็ร้องออกมา ...อาหารหื่นแตกกำเริบ
..
..
คยูฮยอนเดินประคองกะละมังเล็กซึ่งมีผ้าอยู่ในนั้นเข้ามาในห้อง หวังเป็นอย่างยิ่งว่า การพยาบาลครั้งนี้จะทำให้ทงเฮใจอ่อน ทว่า....
“ทงเฮ !!”
ว่างเปล่า.. ที่เตียงมันว่างเปล่า ทงเฮหายไปไหน
คยูฮยอนวิ่งตามหาทั่วห้อง ห้องน้ำ ระเบียง ตะโกนตามหาจนคอแทบแตก ท้ายที่สุดก็ไปพบกับโน๊ตที่หัวเตียง ทงเฮทิ้งไว้ให้เขา
“ทงเฮ ออกไปข้างนอกนะครับคยู คยูอาจจะกำลังสับสน ทงเฮขอเวลาให้ตัวเอง แล้วก็ให้คยูได้คิดด้วยว่า เรื่องทั้งหมด.. มันอาจจะเป็นแค่ความสับสนช่วงวัยรุ่นของคยู”
คยูฮยอนไม่เข้าใจนักว่ามันหมายถึงอะไร อาจจะเป็นเพราะพิษไข้ทำให้ข้อความนี้ออกมาดูมึนๆ จากสติที่มึนๆ ของคนเขียน
“จะบ้าไปแล้วรึไงทงเฮ ไม่สบายแบบนี้ยังจะออกไปไหนอีก คุณจะหนีผมรึไงนะ” คยูฮยอนนิ่วหน้า วางความเชื่อและความน่าจะเป็นทุกอย่างไว้เบื้องหลัง ใส่เกียร์สุนัขออกจากบ้านไปทันที..เพื่อตามหาคนป่วยในดวงใจ
........................3P - Three Love........................
“โหยยยย... เท่ห์ชะมัด ยู้ฮู” แฝดเล็กร้องทักทายคิบอมตามประสาตนเอง ทั้งที่ตัวยังวิ่งไม่ถึงรถของคิบอมด้วยซ้ำ แค่เห็นอาการยืนก้มหน้าโพสต์ท่าพิงรถสุดหรูก็อยากจะตะโกนทักแล้ว
ดงแฮแอบอยู่หลังเสาไฟฟ้าที่มีถังขยะอยู่ใกล้ๆ เพื่อมองดูปฏิกิริยาของคนรัก..และน้องชาย
“ตัวเอง อ๊ะ..คิบอมมานานแล้วเหรอ” ดองเฮยิ้มแป้นแล้นให้คิบอม
“อืม ..ไม่นาน” อย่างทุกทีที่เคยทำ คิบอมเดินมาเปิดประตูรถให้ แล้วจึงค่อยกลับไปฝั่งของตนเอง
“ขอบคุณฮะ แหม.. ตัว..เอ๊ย อีกแล้ว คิบอม เอ้อ คิบอมนี่เป็นสุภาพบุรุษจังเลยนะฮะ” ดองเฮตบปากตัวเองเบาๆ ทีนึงเพราะจะเผลอเรียกคิบอมว่าตัวเองอีกแล้ว ซึ่งแน่นอนว่าดงแฮไม่เคยเรียกแบบนั้น
“เอ่อ...อืม” คนโดนชมไม่รู้จะทำหน้ายังไง คนรักของเขาเพี้ยนอีกแล้วเหรอวันนี้ มาทำหน้าตาน่ารักแถมชมว่าเขาเป็นสุภาพบุรุษ ..แปลกยิ่งกว่าอะไรดี
“วันนี้ไปทานร้านเดิมนะ เค้าจะนั่งติดกระจก เค้าอยากนั่ง นะนะนะ” ลืมไปแล้วว่าต้องพยายามทำอะไร.. ลืมไปแล้วว่าต้องพยายามรักษากริยาดงแฮ ไม่ให้มันแตกออกมาเป็นดองเฮ
“อืม.. ได้” คิบอมยังชั่งใจอยู่ สงสัยวันนี้ดงแฮจะถูกหวยหรือไม่ก็มีโชคใหญ่ ถึงได้อารมณ์แล้วพูดจาออดอ้อนแบบนี้ มีแค่ครั้งเดียวที่เคยเห็นเป็นแบบนี้ ก็ตอนโทรศัพท์วันนั้นเท่านั้นเอง
คิบอมเก็บความสงสัยไว้ในใจ แล้วพยายามไม่คิดอะไรมาก เพราะเขาเคยบอกกับดงแฮไว้ว่า
“เป็นยังไง..ก็รัก” เขาแทบจะจำทุกคำพูดที่เคยพูดไว้กับดงแฮ
แต่มีสิ่งเดียวที่ทำให้คิบอมอดคิดมากไม่ได้ ยิ่งเวลานั่งกันอยู่ในรถสองคนแบบนี้
“ผิดกลิ่น..”
ใช่..กลิ่นที่มันแปลกไป ปกติดงแฮต้องมีกลิ่นเดียวเท่านั้น มันเป็นกลิ่นน้ำหอมที่คิบอมเป็นคนเลือกแล้วซื้อมาให้ วันนี้มันไม่ใช่กลิ่นนั้น มีแค่กลิ่นสบู่เด็ก แล้วก็แป้งเด็ก หรืออะไรเทือกนั้น จึงทำให้คิบอมอดใจที่จะออกปากถามไม่ได้ แต่หากจะถามเรื่องกลิ่น ก็อาจจะดูโรคจิตมากเกินไป..เพราะปกติดงแฮก็ชอบด่าเค้าว่าโรคจิตอยู่แล้ว เลยไม่อยากเพิ่มข้อกล่าวหา เลยทักเรื่องรูปกายภายนอกแทน
“ผม..ดำ”
“หืม ตัวเองว่าไงนะ ตัวเองดำ เค้าก็ว่าไม่ดำเท่าไหร่นะ แค่ไม่ขาวแค่นั้นเอง ดีออกดูแมนแล้วก็เท่ห์ดีออก ถ้าตัวเองขาวหน้าตัวเองต้องเหมือนตุ๊ดแน่เลยล่ะ ดีไม่ดีจะหน้าหวานกว่าเค้าอีก เข้มๆ แบบนี้น่ะดีแล้ว .. เค้าชอบ” อีตัวเล็กไม่ฟังฟ้าฝน ลืมนึกไปว่าสีผมตัวเองกับดงแฮนั้นต่างกัน เลยเข้าไปผิดๆ ไปว่า คิบอมบอกว่าตัวคิบอมน่ะ..ดำ
คิบอมไม่อยากพูดมากเลยเอามือมาจับที่ผมแทน แล้วพูดอีกที
“ดำ”
“อ๋อ.. ฮิฮิ ขอโทษ เค้านึกว่าตัวเองหมายความว่าตัวเองอ่าดำ คิคิ แล้วเค้าทำผมดำน่ารักมั๊ยล่า.. หรือว่าตัวเองชอบผมสีขาวๆ แบบพี่ดงแฮ” พอได้ร่าเริงก็หลุดทุกอย่าง
“พี่ดงแฮ” คิบอมทวนคำ แปลก .. วันนี้มันแปลกเกินไป นี่คือดงแฮที่เขารักจริงๆ น่ะเหรอ
“เค้าหมายถึง เอ่อ.. ผมสีขาวๆ น่ะ ตัวเองว่าเค้าทำผมดำแล้วไม่น่ารักเหรอเนี่ย เค้าไม่น่ารักเหรอ” แล้วก็งัดกลเม็ดส่วนบุคคลมาใช้อีกตามเคย งอนกลบเกลื่อน..ใช้ได้เสมอเวลาอยู่บ้าน แถมดองเฮยังยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆ พิสูจน์ให้เห็นกันเลยว่า.. หนังหน้าเหมือนกันเด๊ะ
“น่ารัก” คิบอมตอบชัดๆ
“ฮิฮิ แน่นอนล่ะ เค้าต้องน่ารักอยู่แล้ว นี่ๆ.. เดี๋ยวเค้าทำผมสีดำวันเดียวนะ เดี๋ยวเค้าจะไปทำสีขาวๆ เหมือนเดิมแล้วล่ะ” แฝดเล็กหาทางหนีทีไล่ไว้ให้พี่ชายก่อน
“อืม” คิบอมไม่ได้ตอบยืดยาวอีกแล้ว
การพูดสั้นๆ ของคิบอมนี่ล่ะ ที่ดองเฮไม่ค่อยจะปลื้มเท่าไหร่ เขาไม่ใช่คนคิดมากหรือลึกซึ้งอะไรนัก จึงเดาความคิดของคิบอมไม่ค่อยออก
“ตัวเองไม่คิดจะสงสัย หรือว่าถามอะไรเค้าบ้างเหรอ ถามคำตอบคำ” ดองเฮชักหงุดหงิด
“สงสัย” คำตอบของคิบอมชวนให้ดองเฮกรี๊ดดดด
“สงสัยแล้วทำไมไม่ถามล่ะ ไม่เห็นสนุกเลย..แบบนี้อ่า”
“เชื่อใจ”
“อ๊ากกกกก.. ตัวเองเป็นพระเอกหนังไทยป่ะเนี่ย โอ๊ย.. ถ้าเค้ามีแฟนแบบตัวเองเค้าต้องประสาทกินแน่เลยอ่า โชคดีนะเนี่ยที่..”
“อะไร !!” คิบอมเผลอขึ้นเสียง.. คำพูดเมื่อกี๊นี้ที่ได้ยินจะให้คิบอมเข้าใจเป็นอื่นไปได้ยังไง นอกจาก..เขากับดองแฮ(ที่นั่งอยู่ในรถคันนี้) ไม่ได้เป็นแฟนกัน
“.....อ๊า.. อย่าดุสิ เค้ากลัว..” ดองเฮหงอติดประตูหน้าต่างฝั่งตนเอง ดองเฮกลัวคนดุ ไม่ชอบ และจะไม่เข้าใจอย่างแน่นอน
“........” คิบอมเลิกพูดแล้วหันไปสนใจการขับรถแต่เพียงอย่างเดียว ออร่าสีดำเปล่งรัศมีออกจากตัวคิบอม เวลาโกรธ..น่ากลัวจะตาย แม้แต่ดงแฮยังรู้ดี
..
..
เอี๊ยดดดดดดดด
คิบอมเบรครถรุนแรงเมื่อถึงที่หมาย ยังดีที่ดองเฮยันตัวเองให้ติดฝั่งประตูและกระจกไว้แน่นอยู่แล้ว จึงคว้าอะไรต่ออะไรไว้ ไม่ให้หน้าคว่ำไปกระแทกด้านหน้าได้
ดองเฮก็ไม่กล้าพูดอะไร.. เขากลัวคิบอมไปแล้ว
คิบอมก็ไม่พูดอะไร.. เขาโกรธ
คิบอมลงจากรถ แล้วเดินมาเปิดประตูให้คนรัก เห็นสภาพของแฝดเล็ก(ที่เข้าใจว่าเป็นดงแฮ) ใช้มือยันคอนโซลหน้ารถไว้กันกระแทกจากแรงเบรค พาลให้นึกถึงวันก่อนที่ตนเองทำให้ดงแฮเจ็บ
“ลง” คิบอมบอกคำเดียว
“.......” ดองเฮกุลีกุจอทำตามอย่างที่บอก หน้าตาหงอยเหมือนเด็กโดนผู้ใหญ่ดุ ไม่กล้าแม้แต่จะปริปากอะไรออกไป
และเมื่อเข้าไปในร้าน คิบอมพาไปนั่งที่โต๊ะริมหน้าต่างอย่างที่บอกไว้ บรรยากาศร้านดีแสนดี แต่บรรยากาศคน.. อย่าให้เซดดดด
คิบอมก็คงรู้ได้ถึงอาการเปลี่ยนไป ดงแฮไม่เคยหงอขนาดนี้ นี่คงเกิดอะไรขึ้น หรือเป็นอะไรอยู่แน่ๆ การดุของเขาแค่นี้ถึงทำให้ดงแฮรู้สึกแย่แบบนั้น
“เป็นอะไร”
“ก็.. ตัวเองดุ เค้ากลัว” น้องเล็กค่อยๆ ปริปากบอก
“ขอโทษ.. เจ็บเหรอ” คิบอมลุกจากเก้าอี้ของตัวเองมาจับช่วงขา และหัวเข่าที่เคยทำรอยสีเขียวไว้ แต่วันนี้ดองเฮใส่กางเกงขายาวจึงไม่สามารถถลกดูรอยพกช้ำได้ ทำได้แค่ลูบเบาๆ ที่หัวเข่าและช่วงขา
“มะ.. ไม่เจ็บอ่ะ ตัวเองทำดงแฮเจ็บบ่อยๆ เหรอ” ตอนนี้ดองเฮชักเห็นเค้านายหัวกับโสรยาตัวจริงแล้ว แอบจินตนาการไปว่า.. บางทีดงแฮอาจจะเป็นโสรยาตัวจริงก็ได้
“......” คิบอมไม่ตอบ แต่ลูบหัวเข่าด้วยความแผ่วเบา เหมือนจะผ่อนคลายความเจ็บที่เคยทำไว้ แล้วส่งยิ้มมาให้แทน ..รอยยิ้มหล่อๆ นั่น
“หายนะ” แล้วคิบอมก็บอกคำนั้น แม้ทุกอย่างของดงแฮจะดูแปลกไป..แต่ยังไงถ้าเป็นดงแฮ ต่อให้แปลกไปอีกสักร้อยอย่างพันอย่าง เขาก็จะดูแลปกป้อง
สำหรับคนไม่รู้อย่างคิบอม.. เขาผิดหรือไม่ ที่อ่อนโยนกับคนที่คิดว่าดองเฮคือคนรักของตน
สำหรับคนไม่คิดมากอย่างดองเฮ.. เขาทำถูกไหม ที่แอบกลัว แต่ชื่นชมในความอ่อนโยนปนแข็งกร้าวของแฟนพี่ชาย
และสุดท้าย
สำหรับคนที่เฝ้ามองอยู่ด้านนอกอย่างดงแฮ.. เขาผิดไหม ที่จะหึง และเสียน้ำตากับภาพที่เห็น คนรักลูบคลำคนอื่น..ที่คิดว่าเป็นตัวเอง รอยยิ้มที่เคยเป็นของเขาคนเดียว มันถูกแจกจ่ายให้คนอื่น.. ที่เหมือนกับตน
“เอ๊ย เค้าลืม..” แฝดเล็กรีบหยิบโทรศัพท์ออกมากดโทรหาพี่ชายคนกลาง ขณะที่คิบอมกำลังก้มๆ เงยๆ ที่หัวเข่าตัวเอง
“อะไร” คิบอมเงยหน้ามามอง
“เปล๊า.. ไม่มีอะไรหรอก เค้าไม่เจ็บหรอก ตัวเองนั่งเหอะ เค้าหิวแล้ว” ดองเฮโบกมือทำปากชิ่วๆ ให้คิบอมไปนั่ง
“อืม”
ดงแฮรับโทรศัพท์ทั้งน้ำตาไหล ไหนๆ มาถึงขั้นนี้แล้ว ฟังอยู่อีกหน่อยจะเป็นไรไป ภาพกับสิ่งที่เกิด..มันอาจจะไม่ใช่อย่างที่คิดก็ได้
เพราะคำนั้นมันยังฝังอยู่ในหู
“เป็นยังไง..ก็รัก”
ทั้งที่ควรจะคิดในในทางที่ดีว่า เขาเปลี่ยนไปถึงขนาดนั้น คิบอมยังอ่อนโยน ไม่ได้ตกใจจนหนีหายเตลิดเปิดเปิง แต่.. มันอดไม่ได้ที่จะเฉลียวใจคิดว่า.. บางที คิบอมอาจจะชอบอย่างที่ดองเฮเป็น ...มากกว่าดงแฮ
ดงแฮเอาหูแนบโทรศัพท์เงี่ยฟังสิ่งต่างๆ โดยตนเองไม่ปริปากพูดสิ่งใดให้อีกฝั่งได้ยิน หากเขาพูดเสียงเขาคงเล็ดลอดไปดังที่เครื่องของดองเฮ เมื่อเปิด Speaker Phone
“ตัวเองรัก..ดงแฮเหรอ” เสียงแฝดเล็กเจื้อยแจ้วถามอย่างไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะเขินอาย หรือทำใจลำบากในการตอบอย่างไร ดงแฮไม่เคยคิดจะถามคำถามนี้เลยด้วยซ้ำ..มันอาย
“อืม..” เสียงทุ้มๆ แบบนี้ตอบมา หลังจากนิ่งไปสักครู่ ดูจากท่าทางประกอบผ่านทางผนังกระจกของร้านแล้ว ดงแฮประเมิณสถานการณ์ได้ว่า คิบอมก็คงแปลกใจอยู่ไม่น้อย
“แล้ว.. ตัวเองชอบที่เค้าเป็นแบบนี้ หรือว่า..ชอบแบบ เอ่อ ที่ดงแฮคนก่อนเป็นล่ะ” ดองเฮพยายามพูดถามประโยคนี้ให้ดัง เพื่อให้เสียงชัดเจนจนพี่ชายคนกลางฟังในโทรศัพท์ได้ยินไม่ผิดเพี้ยน
“ทำไม” คิบอมไม่ตอบทันที แต่ตั้งคำถามกลับมาแทน
“ก็.. เค้าอยากรู้นี่ บอกหน่อยสิ นะนะนะ เค้าชอบแบบนี้ หรือว่า..ชอบแบบ..เก่า”
“คิดสิ” คำตอบชวนให้ปวดหัวอีกแล้ว
“ยังไงอ่า เค้างง”
“นานรึยัง” มีแต่คำถามกลับมา ไม่ได้ทีแต่คำตอบอย่างเคย..อย่างที่คุยกับดงแฮ
“คบกัน” ขยายความได้สั้นจับใจ
“งืม.. นาน..มั้ง” ดองเฮตอบมั่วๆ ไปก่อน เพราะไม่รู้จริงๆ ว่า พี่ดงแฮแอบไปมีแฟนตั้งแต่เมื่อไหร่
“ยังไม่รู้อีกเหรอ”
“เง้อ รู้อะไรอีกล่ะ ตัวเองอ่าพูดน๊อย..น้อย เค้าไม่รู้เรื่องหรอกนะ” แฝดเล็กชักโวยวาย ไอ้หล่อก็ดีอยู่หรอกนะ รักพี่ชายคนกลางก็ดีอยู่.. แต่ไอ้พูดน้อยจนจับใจความไม่ค่อยได้แบบนี้ ชักไม่ปลื้มแล้ว แรกๆ ก็ว่ามีเสน่ห์..ตอนนี้ชักรำคาญแล้ว
“ชอบใคร แบบไหน” คำตอบ.. คราวนี้มันเป็นคำตอบของคำถามที่ว่า.. ยังไม่รู้อีกเหรอ..ว่าชอบแบบไหน
ไม่ต้องแปลหรือพิสูจน์แล้ว ถึงดองเฮจะไม่เข้าใจ.. แต่ดงแฮเข้าใจ คงมีเพียงเขาเท่านั้นที่เข้าใจภาษาบ้าๆ ของคิบอม เขารู้แล้ว คุณล่ะ...รู้มั๊ยว่าเขาหมายถึงอะไร
น้ำตาซึมๆ เพราะความดีใจมันหยดอีกแล้ว ดีใจ..ที่คิบอมพูดแบบนั้น ไม่ต้องหวาน ไม่ต้องเอียน ไม่ต้องตอบแล้ว แค่นั้นก็ดีใจมากพอแล้ว
..
..
“ฟู่... ได้พักซักที วันนี้จะกินให้หายอยากเลย” ซีวอนลูบพุง ผจญกับคนไข้ช่วงเข้าไปเรียบร้อยแล้ว ได้เวลาที่สองหมอจะได้ทานอาหารกันบ้าง
“ว่าแต่.. นายคิดยังไงถึงได้ชวนชั้นออกมาทานข้าวนอกโรงพยาบาลวะฮัน”
“ตกลงกันไง เราต้องตกลงกัน” ฮันกยองตอบพร้อมเดินก้าวฉับๆ นำหน้า
“เรื่องอะไรวะ” ซีวอนยังตามไม่ทัน
“ก็เรื่องดองฮะ....เฮ”
‘ตายยากชิบหาย’ นี่ถ้าเป็นอย่างที่คนอื่นๆ คิดว่าคิดถึงก็ได้เจอคือเนื้อคู่กัน ฮันกยองสรุปได้เลยว่า..ดองเฮคือเนื้อคู่ตนเอง เพราะกำลังยืนน้ำตาซึมถือโทรศัพท์อยู่ด้านหน้าตนเอง ...ที่ด้านนอกของร้าน
“เฮ้ย.. นั่นสุดน่ารักของชั้นนี่หว่า” ซีวอนมองเห็นเหมือนกัน แม้จะทำสีผมเป็นสีเมททาลิกบลอนด์ แต่ก็จำได้ว่าหน้าตาแบบนี้น่ะ ดองเฮแน่นอน
“ใครว่าของนาย ของชั้นต่างหาก” ไม่ยอมแพ้ ฮันกยองไม่ยอมให้ซีวอนตู่เอาเป็นของซีวอนคนเดียว
“ทำสีผมมาใหม่ด้วย เฮ้ย เค้าร้องไห้ล่ะ ไม่ได้แล้ว เจ้าชายอย่างชั้นต้องรีบไปปลอบ นายรอนี่นะ” ซีวอนจะปราดเข้าไปปลอบใจเจ้าหญิงผมขาว แต่ก็มีเสียงตอบมาโดยไว
“เรื่องอะไรวะ นายต่างหากที่ต้องรอ”
แล้วสองหมอก็ปราดเข้าไปชิดตัวดงแฮ.. ที่คิดว่าเป็นดองเฮทันที ขนาบซ้ายขวา หมอว๊อนซ้าย หมอก๊องแก๊งขวา
“เด็กดีเป็นอะไรรึเปล่าครับ ร้องไห้ทำไม” ซีวอนเริ่มเกมส์
“นี่ คนที่โตแล้วเค้าไม่มาร้องไห้ข้างถนนแบบนี้หรอกนะ” แบบนี้ฮันกยองชัวร์
เสียงนี้ไม่ใช่แค่ดงแฮที่ได้ยิน แม้แต่ดองเฮที่เปิด Speaker Phone ก็ได้ยินเหมือนกัน เขาจำได้แม่นล่ะ สองหมอที่โทรมาหาทุกวันเนี่ย แต่นี่มัน..ดังจากการที่เขาโทรหาพี่ดงแฮไม่ใช่เหรอ งั้น... แสดงว่า ไอ้หยา.. ซี๊เลี้ยวอ่า
“เสียงใคร” คิบอมถามขึ้น
“แฮ่ๆ ไม่รู้สิ โต๊ะข้างๆ มั้ง ตัวเองรอแป๊บนะ เค้าไป...ห้องน้ำแป๊บนึง” ดองเฮคว้าโทรศัพท์มากดตัดสัญญาณการเชื่อมต่อทันที กลัวแผนแตก ทำไมไอ้สองหมอนั่นถึงไปอยู่กับพี่ดงแฮได้ล่ะ ตายๆๆๆๆๆ แฝดเล็กรีบลุกผลุนผลันจากโต๊ะอาหารวิ่งไปหลังร้าน เข้าห้องน้ำไปโทรหาพี่ชายคนกลางทันที
..
..
“ใคร.. พวกคุณหมายถึงใคร” ดองแฮตาขวางไปมองสองหมอที่อยู่ดีดีก็เข้ามาทักตัวเองแบบนั้น
“ก็เด็กดีไงล่ะครับ ร้องไห้แบบนี้หมอไม่สบายใจเลยนะครับ หยุดร้องนะคนดี” ซีวอนปลอบ แทบจะกอดเขาได้อยู่แล้ว
“เด็กดื้อโดนใครแกล้งมาล่ะ เอา..บอกมาสิ หมอจะสละเวลาอันมีค่าของหมอไปจัดการให้” ฮันกยองก็แพ้น้ำตาเหมือนกัน
À ¯¯¯¯¯
โทรศัพท์ในมือดงแฮดังซ้ำอีกครั้ง เขาไม่ทันรู้ตัวว่าดองเฮได้ตัดสายไปแล้ว เพราะตอนที่หมอสองคนเดินมาทักนั้น เขาเบนสายตามามองที่สองหมอหล่อนี่แล้ว
“โทรศัพท์มาน่ะครับ เด็กดีจะรับมั๊ย” ซีวอนบอก
“ถ้าไม่ลำบากใจจะรับ ให้หมอเคลียร์ให้ก็ได้นะ” ฮันกยองเดาไว้ก่อนว่า อาจจะมีสาเหตุจากการสนทนาโทรศัพท์ทำให้ร้องไห้ เพราะตอนที่เห็น ดองเฮ(ในความคิดของสองหมอ)ยืนเอาหูแนบโทรศัพท์แล้วมีน้ำตา
“รู้แล้วน่า จุ้นไม่เข้าเรื่อง พวกนายเป็นใครเนี่ย”
“อ๋า..” // “เห..”
“เดี๋ยวนะ เดี๋ยวพวกนายค่อยเคลียร์ รับโทรศัพท์แป๊บ... เออ ฮัลโหล” ดองเฮรับโทรศัพท์น้องก่อน ซ้ำยังชี้หน้าไว้แล้วว่า เดี๋ยวค่อยเคลียร์กันกับสองหล่อหมอว๊อนก๊องแก๊ง
“พี่ดงแฮ.. ตัวเองอย่าเพิ่งพูดอะไรนะ”
“เออ ว่าไง”
“ตัวเองอยู่กับหมอว๊อนกับหมอก๊องแก๊งใช่ป่ะ”
“ใครนะ”
“ก็หมอซีวอน กับหมอฮันกยองไง เค้าจำเสียงได้ ตัวเองอยู่กับผู้ชายสองคนที่สูงๆ หล่อๆ ใช่ป่ะ”
“อืม..แล้ว” ดงแฮพยายามรักษาอาการไม่ให้พูดมากตามคำบอกของน้องชาย
“ตัวเองเล่นละครเป็นเค้าไปก่อนนะ แล้ว.. ตัวเองเดินเข้ามาในร้านมาหาแฟนตัวเอง เดี๋ยวเค้าจะออกหลังร้าน วิ่งไปหาสองหมอนั่นเอง” ดองเฮบอกแผนการ ...ซึ่งไม่คิดบ้างรึไงว่า... คนเราจะสามารถเปลี่ยนสีผมได้ภายในสามนาทีห้านาทีได้ยังไง แต่อารามตกใจแบบนั้น เลยไม่ทันยั้งคิด.. ทั้งดองเฮและดงแฮ
“ได้ๆ อย่าช้าล่ะ” แล้วดงแฮก็ตัดสายไป หันมาแสยะยิ้ม..(ที่พยายาทำให้มันหวานและไร้เดียงสา หรือที่ชาวบ้านเค้าเรียกว่าแอ๊บแบ๊วแบบที่เจ้าแฝดเล็กมันทำ)
“ขอโทษนะหมอ ตะกี๊เค้า....” อย่างน้อยสรรพนามกับทำเสียงเล็ก ทำตาโตๆ เข้าไว้ คงพอกลบร่องรอยอะไรให้อีกฝ่ายเชื่อได้บ้าง
“ไม่สบายใจเหรอครับ ไปทานข้าวกับหมอดีกว่า ไหนๆ บ่ายนี้ก็จะไปตรวจกับหมออยู่แล้ว” ซีวอนเสนอ
“ไม่กินก็ไม่มีแรงสู้หรอกนะ” ฮันกยองเสริม
“เอ่อ.. คือ.. กะ..ก็ได้ แต่.. หมอรอเค้าตรงหัวมุมถนนได้ป่ะ เค้าไม่อยากกินข้าวร้านนี้ แต่เดี๋ยวเค้าเดินไปทำธุระในร้านแป๊บนึง แต่หมอห้ามมองเข้าไปนะ ไปรอตรงนู้นเลย” ดงแฮพยายามเลือกจุดให้สองหมอรอโดยที่ไม่เห็นว่า ในร้านเป็นยังไง
“แต่..” ซีวอนจะขัดขึ้น เพราะตั้งใจจะมาทานอาหารร้านนี้
“ได้ หมอจะไปรอตรงนั้น รีบทำให้เสร็จ หมอจะรอนะครับ” ฮันกยองไม่คิดจะขัด เห็นฮันกยองตามใจแบบนั้น ซีวอนก็ต้องรีบเปลี่ยนท่าทีตาม..จะปล่อยให้ฮันกยองทำคะแนนได้ยังไง
“ดี ได้ก็รีบเดินเซ่” ดงแฮเผลอหลุดนิสัยตัวเอง รีบตะครุบปากตัวเองแทบไม่ทัน
“เค้าหมายถึง หมอก็..ไปรอเค้าตรงนั้นนะ เค้าจะรอให้หมอเดินไปก่อนเค้าถึงจะเข้าไปในร้าน โอเคป่ะ” ทำแก้มป่องตีแบ๊วเข้าไว้.. เหนื่อยจริงๆ ไม่รู้ว่าดองเฮทำไปได้ยังไงทั้งวันทั้งคืน เหนื่อยจะตาย
“ครับๆ ได้ครับ” สองหมอทำตามความต้องการ เดินถอยไปรอยังจุดที่กำหนด จากนั้นดองเฮค่อยเปิดประตูก้าวเข้าไปในร้านอาหาร
..
..
แกร๊งๆ
เสียงโมบายหน้าประตูดังนิดๆ ตามแรงผลักประตูของคนที่เข้ามา คิบอมแทบจะกระอักอาหารในปาก ...ดะ..ดะ..ดงแฮ มาทางนี้ได้ยังไงกัน
ก็...ตะกี้ไปหลังร้าน เข้าห้องน้ำ แถม..สีผมยังกลับเป็นสีขาวอีกแล้ว คราวนี้ทำใจลำบาก ไม่ถึงสามนาทีห้านาที เปลี่ยนเป็นแบบนี้อีกแล้ว
....นี่แฟนกูเป็นยอดมนุษย์รึยังไงกันเนี่ย
ดงแฮเดินมาที่โต๊ะ ใช้มือขาวๆ นั่นงับปากของคิบอมที่อ้าค้างไว้ ...นี่เป็นครั้งแรกที่เห็นคิบอมมาดหลุด
“..ทำไม..เอ่อ” คงกลั้นความอยากรู้ไว้ไม่ไหวแล้วสินะ คิบอมชี้โบ้ชี้เบ้ไปสองทิศทางที่ประตู และห้องน้ำ
“จะตกใจทำไมฮะ..ห้วน ไหนบอกเป็นยังไงก็รัก” ดงแฮอารมณ์แจ่มใสแล้ว เรื่องที่เหลือนอกประตูร้านออกไปนั่น... ก็ให้เจ้าแฝดเล็กมันจัดการเอง ช่วยไม่ได้แล้ว
“ก็..ใช่”
“อยากได้คำอธิบายมั๊ย” ดงแฮถาม
“อืม..” คิบอมพยักหน้า พยายามรักษาความเป็นตัวเองไว้ให้ได้มากที่สุด
“เรื่องแรกสีผม ชั้นไปห้องน้ำ ถอดวิกสีดำออก แล้วเรื่องที่สอง..ชั้นเดินออกประตูหลัง ไปหลังร้าน เอามันไปทิ้ง แล้วเดินวกเข้ามาหน้าร้าน โอเค๊ะ” เชื่อไม่เชื่อไม่รู้ล่ะ ดงแฮหาเหตุผลได้เท่านี้
“อืม..” คิบอมก็ไม่ได้อยากจะเชื่อเท่าไหร่นัก แต่ถ้ามันคือสิ่งที่คนรักพูด เขาก็จะพยายามเชื่อมัน
“อีกอย่าง..” เหมือนนึกอะไรได้ ดงแฮจึงโพล่งขึ้น
“หืม”
“ขอบใจนะ ที่นายเลือกชั้น”
“เคยบอกแล้ว ยังไงก็รัก” คิบอมเขินนิดๆ ที่พูดคำนี้อีกแล้ว ไม่ได้อยากพูดบ่อย แต่มันเป็นคำที่เคยพูด ถ้าพูดซ้ำ คงเขินน้อยกว่าคำอื่นๆ กระมัง
“อืม.. เหมือนกัน” ดองแฮกุ้มหน้างุดๆ พูดคำนี้แผ่วเบา แล้วก้มหน้าก้มตาทานอาหารในจานของน้องชายที่เคยสวมรอยไว้
“อะไรนะ” ไม่อยากเชื่อหู คิบอมอยากจะฟังอีกซักครั้ง
“เออ.. เหมือนกัน พอได้แล้ว จะถามหาสวรรค์วิมานอะไร ได้ยินแล้วไม่ใช่เหรอ รีบกินเลยนะ เออ.. สั่งนี่ให้อีกจานด้วย น้ำส้มอีกแก้วด้วย ไม่อิ่มหรอกแค่เนี๊ยะ” โวยวายอีกแล้ว... คิบอมก็รู้อีกอยู่ดี..ว่าเขิน
“อืม.. กินเยอะๆ” แถมยังตักอาหารในจานตัวเอง..สิ่งที่ดงแฮชอบมาให้อีกหลายชิ้น
........................3P - Three Love........................
ความคิดเห็น