คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : Part X (100%)
3P – Three LovE
Title : 3P – Three LovE
Author : -BallOonzA-
Staring : Lee Dong Hae x ????
Part X
เพล๊ง... !!!!
จานแก้วเนื้อดีร่วงจากมือของสองคนที่ร่วมกันประคองมันอยู่ สองคนเผลอปล่อยมันเพราะความตกใจจากเสียงตะโกนที่มีปลุกตนเองให้ตื่นจากภวังค์ห้วงพิศวงที่หาคำตอบไม่ได้
“พี่ทงเฮ” // “ไอ้คยูฮยอน”
สองเสียงนี้ล่ะที่กระชากโอกาสอันน้อยนิดที่คยูฮยอนเฝ้าหวังว่าซักวันจะเกิดขึ้น
ภาพเหมือนในนิยายหรือภาพยนตร์อมตะต่างๆ ที่มักใช้กัน... พระเอกตัวสูงเอื้อมมือไปช่วยหยิบของบั้นแบบ Build In ที่แขวนบนผนังที่สูงให้นางเอกที่ตัวเล็กกว่า และเมื่อลดตัวลงมา..ใบหน้าของพระเอกจะอยู่ห่างจากนางเอกแค่ไม่กี่เซนติเมตร แม้ส่วนสูงจะทำให้ใบหน้าไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกัน แต่เมื่อร่างสูงก้มหน้าและร่างบางเงยหน้า กลับยิ่งทำให้บรรยากาศดูน่าหวั่นไหวมากกว่าอยู่ระดับเดียวกันเสียอีก
ถ้าหากเป็นในหนัง พระเอกกับนางเอกต้องหวั่นไหวและสั่นคลอนความรู้สึกจนไม่อาจทัดทานบรรยากาศ จนต้องจุมพิตกันดูดดื่มอย่างเผลอใจ
สิ่งนั้นกำลังจะเกิด คยูกำลังจะสมใจ ....ถ้าไม่ใช่สองแฝดนรกในสายตาของคยูฮยอนเข้ามาโวยวายจนตกใจทำจานแตก
อ๊ะ... !!! ทงเฮอุทานเบาๆ
“คยูฮยอน นายจะทำอะไรพี่ทงเฮ” ดงแฮจุดชนวนคนแรก
“ตัวเองกำลังจะทำมิดีมิร้ายพี่ทงเฮใช่มั๊ย” แฝดเล็กเสริมกำลังทันที
“อย่า !!!!” ทงเฮที่เรียกสติคืนมาได้ก่อนร้องบอกทุกคน
“อย่าเดินเข้ามา เศษแก้วจะบาดเอา ยืนนิ่งๆ ก่อนนะ ขอพี่เก็บกวาดก่อน คยูก็ห้ามเดินนะครับ เดี๋ยวบาดเท้าเอา” ทงเฮบอกน้ำเสียงละมุนละไมให้น้องทั้งสาม แล้วค่อยๆ ลดตัวลงไปเก็บเศษแก้วนั้นอย่างระวังมือ กระนั้นคมแก้วก็ยังทำร้ายมือนิ่มได้อยู่ดี
“โอ๊ย !!” ทงเฮครางเบาๆ แล้วถกมือขึ้นทันที คยูฮยอนและน้องแฝดกลางกับแฝดเล็กใจเสียเมื่อได้ยินเสียงร้องของพี่ชาย
“ดงแฮ เอาไม้กวาดกับที่ตักขยะมากวาดเศษชิ้นใหญ่ ส่วนดองเฮ เอาที่ดูดฝุ่นมาดูดเอาเศษเล็กๆ !!!” คยูฮยอนสวมบทคนพี่แทนทันที เสียงครวญครางเพียงนิดเดียวของทงเฮนั่นทำให้เลือดในกายสูบฉีดหลั่งสารอะดรินาลีนเต็มพิกัด คยูฮยอนเกิดอารมณ์ขึงขังแบบทันทีทันใด
ใบหน้าเอาจริงเอาจังของเด็กชายที่ได้ชื่อว่าเยาว์วัยที่สุดแต่ร่างกายสูงใหญ่ที่สุด ทำให้สามพี่น้องต้องอึ้ง กระทั่งทงเฮยังเบนความสนใจจากเลือดที่กำลังหลั่งให้มามองที่คยูฮยอน ....คยูดู...มีภาวะความเป็นผู้นำเต็มเปี่ยมอยู่ในตัว บางที..เขาอาจจะ.. ฝากชีวิตได้
“ยืนเซ่ออยู่ได้ รีบไปทำสิ ต้องรอให้พี่ทงเฮเลือดไหลหมดตัวรึไง” คยูฮยอนย้ำอีกครั้ง สองแฝดที่ได้รับคำสั่งเลยต้องทำตามแบบเอ๋อๆ ด้วยแรงกดดันบัญชาการจากเจ้าน้องชายที่เคยดูไร้สาระแล้วกลับมีอำนาจสั่งการฉับพลัน
ทงเฮอึ้งๆ เล็กน้อย แต่ก็รู้สึกอุ่นใจ เมื่อคยูฮยอนลดตัวลงมาแล้วประคองตัวเขาให้ยืนขึ้น แล้วจับมือไม้ของทงเฮขึ้นมาดูแผล
“เจ็บมากมั๊ยครับทงเฮ”
“มะ...ไม่เจ็บหรอกคยู”
“อย่าเพิ่งเดินนะครับ ให้เจ้าสองคนนั่นเก็บกวาดก่อน ทงเฮนี่สะเพร่าจริงๆ ใช้มือเปล่าไปหยิบจับได้ยังไงกันครับ ดูสิเลือดไหลใหญ่แล้ว” คยูฮยอนใช้มือบีบรัดตรงข้อนิ้วของทงเฮไว้ ไม่ให้เลือดไหลเดินสะดวกจนไหลเรี่ยราดออกมาจากนิ้ว อีกอย่าง .. คยูก็รู้ดีว่านี่คือชีวิตจริง ไม่นิยายที่จะได้ใช้ปากดูดเลือดให้หยุดไหล เชื้อโรคจากน้ำลายอาจจะเข้าไปในร่างกายของทงเฮผ่านทางบาดแผลนี้ได้ จึงทำได้แค่บีบรัดไว้ไม่ให้เลือดไหลมาก แล้วรอให้สองแฝดกลางเล็กทำความสะอาดให้เรี่ยมเร้ก่อนจะประคองทงเฮไปยังที่ล้างจาน เพื่อล้างบาดแผลให้สะอาด ไม่นานนัก..เลือดก็หยุดไหล
“เอ่อ ขอบคุณมากนะครับคยู” ทงเฮใจเต้นกับคยูไม่รู้ตั้งกี่ครั้งแล้วในวันนี้ เด็กตัวเล็กที่เคยกอดและหอมกันมาในแบบเด็กๆ จะมาทำให้หัวใจเต้นตูมตามตอนโตแบบนี้...มันไม่ใช่สิ่งที่เคยคาดไว้เลย
“ไม่เป็นไรครับ ผมยินดีดูแลทงเฮ ผมบอกแล้ว..ผมจะปกป้องทงเฮเอง” คำพูดเดิมๆ ที่คยูฮยอนเคยพูดบ่อยๆ ครั้งนี้มันดูศักดิ์สิทธิ์และเห็นเป็นรูปร่างชัดเจน แม้จะเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่มันก็ทำให้ทงเฮหวั่นไหวไม่น้อย
“เจ้าเด็กจิ้งจอก พี่ชายชั้นแค่นิ้วเจ็บนะเว่ย ดูพูดทำยังกับเพิ่งช่วยพี่ทงเฮจากตึกรัฐสภาถล่มลงใส่อย่างงั้นล่ะ” ดงแฮขัดขึ้นก่อนหลังจากนำเศษผงเศษแก้วจากถุงในเครื่องดูดฝุ่นไปทิ้งให้เรียบร้อย
คุณคิดว่าคยูฮยอนสนใจคำนั้นรึเปล่าล่ะ....???
.
.
.
ใช่ คุณคิดถูก คยูฮยอนแค่หันมาเหล่ตาเรียวๆ ใส่นิดหนึ่ง แล้วหันหน้าไปสนใจกับนิ้วของทงเฮตามเดิม แถมยังประคองทงเฮเดินผ่านเจ้าแฝดกลางและแฝดเล็กไปอย่างไม่ใยดีอะไร สำหรับคยูฮยอน...ทำแผลให้ทงเฮได้คะแนนดีกว่ามาต่อล้อต่อเถียงกับแฝดกลางและแฝดเล็กเสมอ
“ฮึ่ม.. !! เด็กเปรตเอ๊ย” ดงแฮสบถแค่นฟันด้วยความคับแค้นใจ เจ้าเด็กหน้าหื่นนั่นไม่ใยดีเขาสักนิด
“ช่ายๆ พี่ดงแฮ เจ้าเด็กนั่นมันเอาใหญ่แล้วนะ แบบนี้พี่ทงเฮต้องเสียรู้มันแน่เลยล่ะ เค้าล่ะกลัว พี่ทงเฮชอบมองคนในแง่ดี ซักวันเค้าว่ามันต้องล่อลวงพี่ทงเฮไปข่มขืนแหงๆ” น้องเล็กผู้ดูคล้ายจะอ่อนต่อโลก แต่แท้ที่จริงจินตนาการนำโลดกว่าใครๆ ไปแล้ว
“จะบ้าเหรอดองเฮ”
“หูย ...ตัวเองไม่รู้อะไร คยูรักพี่ทงเฮยังกับอะไรดี ถ้าพี่ทงเฮไม่รับรัก เค้าว่าเจ้าเด็กนั่นต้องลากไปข่มขืน...อ๊ากกก พี่ทงเฮต้องกลายเป็นโสรยาแน่ๆ เลย ตบจูบ ตบจูบ กักขังฉันเถิดกักขังไป...” ละครน้ำเน่าเข้าเส้นเลือดแฝดเล็กเต็มอัตรา จนดงแฮอยากจะเบิ๊ดกะโหลกน้องซักที
“นี่ ชั้นว่านายเลิกดูทีวีซักพักเถอะดองเฮ ชักเพ้อแล้วนะเรา ไหวป่ะเนี่ยถามจริง”
“ใครจะไปรู้ล่ะ ตัวเองก็ระวังไว้เถอะนะพี่ดงแฮ เดี๋ยวแฟนแก้มบวมตัวเองจะพาตัวเองไปข่มขืน ฮิฮิ” ดองเฮเห็นเป็นเรื่องสนุกไปหมดซะแล้วตอนนี้ ทั้งที่ตอนแรกซีเรียสกว่าใครด้วยซ้ำ พอได้คิดภาพต่างๆ นานากลับยิ้มจนน่ากลัว
“นายเลิกเพ้อเจ้อซักนาทีนึงเหอะ แล้วมาช่วยกันคิดดีกว่า..ว่าจะทำยังไงกับคยูฮยอน นายคงไม่อยากได้พี่เขยที่เคยเป็นลูกไล่ตัวเองหรอกนะ”
“ง่ะ ไม่เอาอ่า เค้าไม่อยากเรียกคยูว่าพี่อ่ะ กระดากปาก พี่ดงแฮเอาไงดีอ่า” น้องเล็กทำหน้าปูเลี่ยนๆ นี่ถ้าต้องเรียกคยูฮยอนว่า พี่คยูฮยอน บรึ๋ยส์...สยองพิลึก
“เราต้องหาแฟนให้พี่ทงเฮ !!!”
...
...
...
วันต่อมา
….. ♫ ♬ ♪ ♩ ♭ ♪ …………. ♫ ♬ ♪ ♩ ♭ ♪
คิบอมงัวเงียขึ้นมารับโทรศัพท์ในตอนสายๆ ของวัน เพราะจำได้ว่าเสียงเรียกเข้านี้...เป็นของใคร เป็นคนอื่นอาจจะนอนนิ่งไม่รับ แต่คนนี้..ต้องรับ
“ห้วน..ตื่นยัง”
“อืม..แล้ว” คิบอมหาวหวอดๆ แล้วตอบ
“เที่ยงนี้กินข้าวด้วยกันนะ”
“หืม...” คิบอมแอบแปลกใจเล็กๆ ที่ดงแฮโทรมาชวนไปกินข้าว เพราะปกติคิบอมจะเป็นคนชักชวนอะไรเสียมากกว่า
“กินข้าวไง จะกินรึเปล่า หรือปกติกินแต่หญ้ากินแต่ฟางแห้ง”
“กิน ...เอาที่ไหน” ถูกด่าเสียจนชิน คิบอมไม่สนใจคำด่าเท่าไหร่ ถามจุดประสงค์เลยดีกว่า
“ก็...แล้วแต่นาย อืม..ร้านเดิมก็ได้”
“สิบเอ็ดโมงครึ่งจะไปรับ” หนุ่มเสียงสั้นออกคำสั่งแล้วเตรียมตัววางหู
“เดี๋ยวๆ คิบอม....” ดงแฮรั้งไว้ก่อน
“หืม....”
“นาย... ห้ามเห็นใครสำคัญ นอกจากชั้นนะ”
“เอ๋...” คิบอมงง นี่ดงแฮกำลังอ้อนเค้าอยู่รึเปล่าเนี่ย
“สัญญาสิ ต่อให้มีใคร...เหมือนชั้น ก็ห้ามรัก นายต้องเห็นชั้นสำคัญคนเดียว ไม่ใช่แค่สำคัญที่สุด แต่ต้องเป็นคนเดียวที่สำคัญ สัญญามาเร็ว” ถึงจะรู้ว่ามันอาจจะเป็นแค่ลมปาก ..แต่ดงแฮก็อยากให้มีความมั่นใจจากคิบอมบ้าง..ก็เท่านั้น
“ดงแฮจะสำคัญ ..คนเดียว” คิบอมตกปากรับคำอย่างไม่รีรอ หัวใจเขามีแค่คนเดียวที่สำคัญอยู่แล้ว ถึงคำพูดจะดูน่าแปลกใจไปนิด แต่นี่คือเป็นความปลาบปลื้มปิติล้นพ้นของคิบอม..ที่ดงแฮอยากได้ยินคำพวกนี้จากปากของเขา ซึ่งนั่น มันก็อาจจะหมายถึงดงแฮ เห็นเขาสำคัญเช่นกัน
“ดี..นายรับปากชั้นแล้วนะ” แล้วดองเฮก็วางสายไปดื้อๆ คิบอมงงอยู่เหมือนกัน แต่พยายามไม่คิดอะไรมาก คิดแค่ว่า...นี่คืออารมณ์แปรปรวนของดงแฮ คนที่เขารัก
..
..
..
“โห.. สั่งเสียใหญ่เลยนะพี่ดงแฮ เค้าบอกแล้วไง แฟนตัวเองไม่มาชอบเค้าหรอกน่า” น้องเล็กแขว่ะพี่คนกลาง
วันนี้ดงแฮกับดองเฮตกลงกันว่า จะสลับตัวกันไปพบคิบอม เพื่อจะได้ให้ดงแฮพิสูจน์เลยว่า คิบอมรักตนเอง ไม่ได้ชอบนิสัยแบบดองเฮ คนที่ลุ้นตัวโก่งแล้วก็หวั่นไหวที่สุดคงจะเป็นดงแฮ... วันนี้คือวันชี้ขาดเกมส์ของเขาเลยทีเดียว
“สั่งเสียอะไรล่ะ เปล่าซะหน่อย แล้วนี่เตรียมมุขบอกไปรึยังว่าทำไมสีผมนายถึงไม่เหมือนชั้น” อายเหรอ.. เขินมากกว่า ที่น้องคนเล็กมาแซวเรื่องตนเองกับคนรัก
“โอ๊ย ตัวเองเปลี่ยนสีผมบ่อยจะตายพี่ดงแฮ เค้าก็แค่บอกว่า ลองเปลี่ยนสไตล์ดูแค่นั้นล่ะ แฟนตัวเองคงไม่สงสัยหรอกมั้ง”
“ให้มันจริงเหอะ ว่าแต่ถ้าวันนี้เราสองคนออกไปข้างนอก เจ้าเด็กจิ้งจอกนั่นก็ต้องอยู่กับพี่ทงเฮสองคนน่ะสิ” ดงแฮเพิ่งนึกถึงพี่ชายที่นอนตัวรุมๆ อยู่ข้างบนบ้าน จะบอกว่าเพราะพิษบาดแผลนิดหน่อยนั่นทำให้ป่วยก็คงจะเป็นคนอ่อนแอเกินกว่าจะมีชีวิตไหว ทงเฮไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้นหรอก แต่เป็นเพราะว่า...ทงเฮพักผ่อนน้อยเกินไปต่างหากช่วงนี้ พอร่างกายเกิดบาดแผลและเสียเลือด เลยทำให้ตัวรุมๆ ซึ่งคาดว่าทานยาแล้วพักผ่อนสักหน่อยก็คงหายดี
“เดี๋ยวพี่ทงเฮก็หาย แค่ตัวรุมๆ ไม่ได้ร้อนหรอก นี่ยังจะตื่นมาทำงานบ้านอีกต่างหาก เค้าก็เลยบอกว่าห้ามลุก ให้นอนไปก่อน คยูคงไม่กล้าทำอะไรพี่ทงเฮหรอกน่านะ” น้องเล็กแจงให้ทราบ
“แล้วใครล่ะเอาความคิดเรื่องโสรยาอะไรนั่นมาเป่าหูชั้นฮะ”
“แฮ่ๆ นั่นมันในละครนี่นา พี่ดงแฮโตแล้วจะมาเชื่ออะไรเค้าล่ะ ฮิฮิ” ตัวเล็กหัวเราะคิกคัก
“เออๆ ช่างเถอะ ว่าแต่เรื่องที่จะแนะนำสองหมอนั่นมาให้พี่ทงเฮเลือก ไปถึงไหนแล้ว”
“ก็เดี๋ยวพอเค้ากินข้าวเสร็จ เค้าก็จะไปโรงพยาบาลไปตรวจ เค้าจะแอบคุยกับหมอเอง ...แล้ว พี่ดงแฮไม่กลัวคนอื่นจะรู้ว่าตัวเองมีแฝดแล้วเหรอ"
“ไอ้กลัวก็กลัวอยู่หรอก แต่กลัวได้ไอ้เด็กบ้านั่นเป็นพี่เขยมากกว่า”
“เค้าก็เหมือนกันอ่า แต่เดี๋ยวนะ ถ้าหมอว๊อนกับหมอก๊องแก๊งเค้าไม่ชอบพี่ทงเฮล่ะ น่าสงสารพี่ทงเฮออก”
“นายไม่เชื่อใจในเสน่ห์ของพี่ทงเฮรึไงเล่า ขนาดเจ้าเด็กบ้านั่นยังหลงพี่ทงเฮหัวปักหัวปำ นับประสาอะไรกับหมอ 2 คนอะไรนั่นของนาย”
“แล้วอย่างงี้... ถ้าหมอรู้แล้ว วันหลังเค้าขี้เกียจไปเอายาแล้วให้พี่ทงเฮไป..ก็ไม่ได้แล้วอ่าสิ โหย..เค้าจะทำยังไงล่ะพี่ดงแฮ”
href="file:///C:\DOCUME~1\ADMINI~1\LOCALS~1\Temp\msohtml1\01\clip_filelist.xml" />
“ถ้านายอยากได้พี่เขยเป็นคยูฮยอนก็ตามใจดองเฮ”
“อ๊า... ไม่เอาอ่า งั้นเค้ายอมไปเอายาเองก็ได้”
….. ♫ ♬ ♪ ♩ ♭ ♪ …………. ♫ ♬ ♪ ♩ ♭ ♪
ยังไม่ทันจะเกี่ยงงอนกันเสร็จดี โทรศัพท์ของดองเฮก็ดังลั่นขัดจังหวะการเบาะแว้งของพี่น้อง ดองเฮรับโทรศัพท์แบบไม่ได้มองชื่อคนโทรเข้าอีกครั้ง
“ฮาโหล....”
“สวัสดีครับเด็กดี หมอเองนะครับ” เสียงกะลิ้มกะเหลี่ยที่ฟังดูก็รู้ว่าอารมณ์ดีนั้นทักทาย
“หมอไหนอ่า หมอดูป่ะฮะ เค้าไม่มีอารมณ์ดูดวงหรอกนะ เค้ากำลังเครียด” ด๊องแด๊งน้อยๆ หน้าหงิกๆ อยู่เพราะเพิ่งทะเลาะกับพี่คนกลาง
“ดองเฮนี่ตลกจังนะครับ นี่หมอซีวอนไงครับ หมอโทรมาเตือนว่าวันนี้อย่าลืมมาตรวจร่างกายนะครับ”
“อื้ม เค้ารู้แล้วน่า หมอเห็นเค้าเป็นอัลไซเมอร์รึไงล่ะฮะ” ความสนใจมาอยู่ที่คนในโทรศัพท์หมดแล้ว ดงแฮเห็นน้องคุยโทรศัพท์จึงปลีกตัวออกไปดูพี่ชายบนห้อง
“ไม่ได้เห็นเป็นอัลไซเมอร์ครับ แต่เป็น Unforgettable Donghae ต่างหาก”
“อ๊า.. หมออ่า พูดอะไรอ่ะ เค้าเขินนะ พูดอย่างกับชอบเค้าอย่างงั้นล่ะ” น้องเล็กหน้าขึ้นสีกับคำหวานที่ถูกหมอสุดหล่อส่งมาให้
“ก็ชอบไงครับ ไม่งั้นหมอไม่คอยดูแลเด็กดีหรอกนะครับ ดองเฮล่ะ ชอบหมอรึเปล่าครับ” ผู้เริ่มก่อนย่อมได้เปรียบ ซีวอนเห็นแล้วว่าฮันกยองกำลังมีคนไข้ตอนที่เขาเดินนำแฟ้มไปให้พยาบาลเพื่อพูดคุยกับ Case ของคนไข้ จึงได้รีบกลับมาโทรหาดองเฮก่อนฮันกยอง
“อืม... ม่ายรู้ เค้าไม่บอกหมอหรอก” เล่นลิ้นพลิกแพลง อ้อล้อออกไปเพราะมีแผนการณ์ใหญ่หาพี่เขยอยู่
“ว๊า... แบบนี้หมอก็แย่สิครับ หมอชอบดองเฮมากเลย แต่ดองเฮไม่ชอบหมอ” หนุ่มหล่อแกล้งเง้างอน
“เค้าไม่ได้บอกว่าไม่ได้ชอบหมอซะหน่อย”
“งั้นก็ชอบหมอสินะครับ”
“เค้าก็ไม่ได้พูดเหมือนกัน หมอคิดเอง แบร่ะ”
“ไม่เป็นไรครับ แค่มีโอกาสหมอก็ดีใจแล้วครับ” ขบวนการตื้อไล่จีบ ซีวอนถนัดถนี่ทีเดียว แม้จะหล่อจนไม่ต้องง้อหรือตามจีบใคร แต่ถ้าสนใจก็ทำได้ไม่แพ้เพลย์บอยมืออาชีพ
“อื้ม ดีแล้ว เค้าเป็นคนใจแข็งหมอก็พยายามหน่อยแล้วกัน อ๊ะ แป๊บนึงนะหมอว๊อน” ดองเฮบอกซีวอนก่อน เพราะมีอีกสายซ้อนเข้ามาและต้องรับโทรศัพท์สายนั้น
“ครับ” ซีวอนตอบรับเบาๆ ดองเฮจึงทำการสลับสาย
“ฮาโหล..” ดองเฮรับอีกสายหลังจากทำการพักสายหมอว๊อนของเค้าไปแล้ว
“ไง..เด็กดื้อ”
“เค้าไม่ได้ดื้อซักหน่อย อีกอย่างเค้าก็ไม่ได้เด็กแล้วนะ เค้าเรียนมหาวิทยาลัยแล้วด้วย” ดองเฮเถียงคอเป็นเอ็น
“จริงเหรอครับ ที่ว่าไม่เด็กน่ะ” เสียงขรึมๆ ตอบกลับมา
“ก็จริงน่ะสิ ตัวเองเป็นใครเนี่ย มาว่าเค้าอ่ะ เค้าไม่คุยกับตัวเองแล้วนะ” ดองเฮโวยวายเล็กน้อย
“อ๊ะๆ อย่าเพิ่งวางครับ นี่หมอฮันกยองไงครับ น้อยใจจัง ดองเฮจำเบอร์หมอไม่ได้”
“หมอก๊องแก๊งเหรอ แป๊บนึงนะ” ดองเฮไม่ได้รอคำอนุญาตจากฮันกยอง ทำการสลับสายทันที
“โหลๆ หมอว๊อน ...อยู่ป่าว”
“อยู่ครับ อยู่รอคุยกับคนน่ารัก”
“หมอว๊อนอ่า เค้าเขินนะ หมอว๊อนปากหวานอ่า”
“หมอว่าเด็กดีน่าจะหวานกว่านะครับ น่าจะหวานทั้งตัวด้วย ว่าแล้วหมอก็อยากจะชิมแล้วสิ”
“บ้า.. เค้าไม่คุยกับหมอแล้ว แค่นี้นะ เดี๋ยวเค้าไปตรวจ”
“ครับ พบกันนะครับเด็กดี”
“อื้มๆ แค่นี้นะ” ดองเฮรีบกดวางสาย เพราะยังติดสายอีกคนนึงอยู่ แต่พอวางสายซีวอนไปแล้ว กลับพบว่า...สายนั้นไม่ได้รอตนเองอยู่ วางสายไปแล้วเช่นกัน ดองเฮโกรธนิดๆ ที่ตาหมอก๊องแก๊งไม่อยู่รอตนเอง เลยรีบกดโทรกลับ แต่สัญญาณดังแค่แว๊บเดียวก็มีการตอบรับจากปลายสายทันที
“ครับดองเฮ” ฮันกยองรู้ว่านั่นคือหมายเลขใครจึงทักชื่อออกไป
“หมอก๊องแก๊งทำไมไม่รอเค้าล่ะ กล้าดียังไงมาวางสายเค้า” คนเอาแต่ใจโวยวายทันที
“ก็หมอนึกว่ามีธุระ หมอกลัวจะรบกวนดองเฮนี่ครับ” จริงๆ แล้วฮันกยองก็แค่ทำฟอร์มวางสาย เพราะรู้ว่าดองเฮต้องโทรมาโวยต่างหากเล่า กลยุทธ์ของเขาไม่เหมือนซีวอนแน่ เพราะถ้าหากเหมือนกัน โอกาสทำคะแนนก็คงเท่ากัน ฉะนั้น..ต้องหาทางชนะด้วยวิธีที่แตกต่าง
“ไม่รู้ล่ะ ต่อไปหมอห้ามวางสายเค้าถ้าเค้าไม่อนุญาต หมอเห็นเค้าไม่สำคัญใช่มั๊ย” อยากเป็นคนสำคัญไม่แพ้กับที่ดงแฮอยากจะเป็น แม้ความรักความอบอุ่นจะได้รับอย่างเต็มเปี่ยม แต่ยังไงสามพี่น้องก็เป็นโรคเดียวกันอยู่ดี ...โรคสำคัญลิสซึ่ม ปมด้อยของคนหน้าเหมือน
“ทำไมคิดอย่างงั้นล่ะครับ ถ้าไม่สำคัญหมอไม่โทรหาหรอก ดองเฮเป็นเด็กดื้อของผม ผมต้องดูแลสิครับ”
“แน่นะ” เสียงงุ้งงิ้งแหวดใส่ปลายสาย ฮันกยองไม่ได้คิดว่ามันน่ารำคาญแต่อย่างใด ตรงกันข้าม กลับคิดว่ามันน่ารักเสียอีก
“แน่สิครับ ดองเฮต่างหากล่ะ ที่เห็นหมอไม่สำคัญ คุยกับหมออยู่ดีดีก็ปล่อยหมอรอเก้อไปคุยกับคนอื่น”
“ก็เค้ามีธุระนี่ ต่อไปถ้าหมอเห็นเค้าสำคัญก็ต้องรอเค้า ไม่งั้นเค้าจะโป้งหมอตลอดชีวิตด้วย” นิสัยเด็กดื้อ... ชั้นทำได้ นายทำไม่ได้ คงเป็นทำนองนี้กระมัง คล้ายกับพ่อแม่ที่ห้ามลูกดื่มเหล้า แต่ตนเองดื่มได้
“ครับ ต่อไปหมอจะรอ ดองเฮก็ต้องเป็นเด็กดีกับหมอนะครับ”
“ไม่อ่ะ เค้าจะเป็นแบบนี้ จะเป็นเด็กดื้อ หมอไม่ชอบเค้าก็ไม่ต้องมาคุยกับเค้าเลย”
“ดื้อก็ดื้อครับ ขอแค่เป็นเด็กหมอก็พอ” ฮันกยองแฝงความนัยในคำพูดนั้น
“หมอพูดอะไรอ่ะ เค้าไม่ใช่เมียน้อยของเสี่ยนะ หมอพูดเหมือนเค้าเป็นเด็กเสี่ยเลยอ่ะ” คนน่ารักไม่ได้แบ๊วจนตามใครไม่ทันเสียหน่อย แต่แบ๊วแค่กริยาไม่ได้แบ๊วไปทั้งสมอง
“อ้าว.. หมอพูดอะไรออกไปน๊า สงสัยจิตใต้สำนึกจะบอกให้หมอพูด งั้นไม่ต้องเป็นเด็กหมอนะครับ เป็นแฟนหมอดีกว่า”
“ง่ะ” โดนขอเป็นแฟนแบบนี้ ดองเฮตั้งตัวไม่ทัน สติมาปัญญาเกิด ความเขินอายเฉิดฉายรัศมีพร้อมกับเลือดสูบฉีดทั่วร่างกาย
“ทำไมเงียบไปล่ะครับ ดองเฮรังเกียจหมอสินะครับ” ไม้ตายลูกต่อมาของฮันกยองถูกงัดมาใช้
“ป่าวซะหน่อย เค้าไม่เคยบอกอย่างงั้นนี่ หมอมั่ว”
“ไม่รังเกียจก็ชอบสินะครับ” ประโยคนี้คุ้นหูดองเฮจริงๆ สถาบันการแพทย์ที่ไหนมันหล่อหลอมให้หมอสองคนนี้เจ้าชู้เหมือนกันนะ กระทั่งวิธีอ้อนก็เหมือนกันในท้ายที่สุด
“หมอพูดเหมือนหมอว๊อนเลยอ่า”
“หืม หมอซีวอนน่ะเหรอครับ” พลาดแล้ว... ฮันกยองช้าไปก้าวนึงจริงๆ สินะ
“อื้ม หมอว๊อนพูดเหมือนหมอก๊องแก๊งเด๊ะเลยล่ะ”
“แล้ว.. ดองเฮชอบมั๊ยล่ะครับ”
“หมอหมายถึงอะไรเหรอฮะ...เค้างง”
“วิธีน่ะครับ” ฮันกยองยังไม่อยากรู้ว่า ดองเฮชอบตนเองหรือซีวอนมากกว่ากัน เพราะเกมส์พึ่งเริ่มจึงยังไม่อยากฟังคำตัดสิน
“อืม.. ก็ดีนะ แต่ถึงพูดเหมือนกันก็คนละคนอยู่ดีนั่นล่ะฮะ เค้าไม่ได้คิดว่าจะเหมือนกันหรอก เนอะหมอเนอะ”
“ครับ คนละคน ดองเฮอย่าลืมมาตรวจนะครับวันนี้ หมอจะรอ”
“อื้มๆ เดี๋ยวเค้าไป เค้าไปบ่ายๆ ได้ป่ะหมอ”
“ครับ ตอนไหนก็ได้ หมอขอทำงานก่อนนะครับเด็กดื้อของหมอ”
“ฮะ หมอทำงานเถอะ เดี๋ยวเค้าจะไปอาบน้ำแต่งตัวเหมือนกัน”
“แต่งตัวน่ารักๆ นะครับ หมอจะรอดู” ฮันกยองป้อนคำหวานเก่งพอพอกับเพื่อนรัก
“เค้าน่ารักอยู่แล้วล่ะน่า” แฝดเล็กแทบจะบิดเสื้อจนชายเสื้อย้วย มันเขินจริงๆ เวลาสองหมอนี่พูดคุยกับเขา
“คร้าบ หมอเชื่อ แล้วพบกันนะครับ สวัสดีครับ”
“อื้ม”
แล้วสองคนก็วางสายไป แฝดเล็กร่าเริงขึ้นไปหาเสื้อผ้าที่น่ารักๆ มาใส่ วันนี้เค้าต้องเจอตั้งสามคน แฟนพี่ชาย..ซึ่งเขาคิดว่าหล่อมาก ไหนจะหมอซีวอน..ก็หล่อมากๆ แล้วยังหมอฮันกยอง..ก็หล่อมากๆ ไม่แพ้กัน ทฤษฏีการหลอกล่อสองหมอมาเป็นพี่เขยกำลังจะเริ่มขึ้นต่อจากนี้ แต่สำหรับฮันกยอง...กำลังครุ่นคิดว่า เขามักช้ากว่าซีวอนหนึ่งก้าวเสมอ เขาควรจะทำยังไง เพื่อจะไม่เป็นผู้แพ้ในเกมส์นี้...
..
..
..
/>
“นี่..คยู เดี๋ยวพวกชั้นจะไม่อยู่บ้านนะ นายห้ามทำอะไรพี่ทงเฮรู้มั๊ย” ดองเฮที่ปลีกตัวออกมาจากน้องเล็กขึ้นมาดูพี่ออกกฎเหล็กให้คนที่กำลังนั่งมองทงเฮหลับ
“รู้แล้วน่า .. ชั้นไม่ได้หื่นขนาดนั้นซะหน่อย รับรองจะทะนุถนอมอย่างดีจนกว่าจะถึงวันเข้าหอเลยล่ะ” คยูฮยอนเถียงแฝดกลางออกไป ถึงไม่บอกเค้าก็ต้องรักและถนอมทงเฮจนสุดความสามารถอยู่ดี ...แต่ไอ้เรื่องแบบนั้นน่ะ..จะพยายามหักห้ามใจให้ได้มากที่สุดก็แล้วกัน ไม่อยากรับปาก
“ใครจะไปรู้ หน้านายหื่นยิ่งกว่าอะไรดี ถามจริงๆ เถอะ ติดใจอะไรนักหนาฮะ...พี่ทงเฮเนี่ย”
“แล้วนายรักพี่ทงเฮเพราะอะไรล่ะ ดงแฮ” เด็กตัวสูงที่สุดในบ้านถามคืนบ้าง
“อ้าว.. ก็พี่ทงเฮเป็นพี่ชายชั้น ไม่รักเค้าจะให้ไปรักสัตว์สงวนที่ไหนล่ะ ถามแปลก”
“ทงเฮก็เป็นของชั้น”
“บ๊ะ ไอ้นี่พูดไม่รู้เรื่อง นายจะทำให้พี่ทงเฮลำบากใจ ไม่รู้รึไง”
“เรื่องอะไรล่ะ”
“พี่ทงเฮเค้าเป็นคนยึดถือขนบธรรมเนียมจะตาย แค่เรื่องผู้ชายรักผู้ชายยังพอทำเนา แต่นายอย่าลืมสิ..ว่านายเป็นลูกชายของพี่สาวแม่ชั้น ลูกพี่ลูกน้องน่ะ เข้าใจม๊ะ”
“รู้สิ นายต่างหากที่ไม่รู้อะไร ไอ้เตี้ยหัวหงอก” คยูฮยอนหน้านิ่งตอบเต็มปากเต็มคำ
“เบื่อว่ะ ขี้เกียจคุยกับเด็ก ชั้นบอกนายได้เลยนะ ว่ายังไงพวกชั้นก็ไม่รับนายให้มาเป็นพี่เขยหรอก”
“ทำไมล่ะ ชั้นมันเลวมากเลยเหรอดงแฮ นายถึงได้คอยกีดกันชั้นกับทงเฮ”
“นายเด็กกว่าพี่ทงเฮ นายไม่มีอนาคต นายไม่มีอะไรดีที่จะทำให้ชั้นกับดองเฮเห็นเลยว่า นายจะปกป้องดูแลพี่ทงเฮได้ พี่ทงเฮน่ะเป็นคนดี เพียบพร้อม..เค้าเหมาะกับคนที่เป็นผู้ใหญ่ แล้วก็ดูแลเค้าได้ ซึ่งในสายตาของชั้น...นายไม่ใช่” ดงแฮอธิบายทุกอย่างให้อีกฝ่ายเข้าใจ
“วันนี้อาจจะไม่ แต่ซักวันชั้นจะทำให้พวกนายได้เห็นแน่ ไม่ต้องห่วงหรอก” คยูฮยอนยอมรับข้อกล่าวหาที่ดงแฮว่ามาทั้งหมด เขาไม่เถียงว่าเขาเด็กกว่า ยังไม่มีอนาคตที่ใครจะฝากชีวิตได้ แต่เขาบอกกับตัวเองไว้แล้วว่า..เขาจะดีพอสำหรับทงเฮ ในสักวัน
“อ้อ อีกอย่างนะคยู ถ้าเรื่องของนายกับพี่ทงเฮเป็นจริงขึ้นมา คนที่จะเจ็บปวดที่สุดก็คือพี่ทงเฮ นายอาจจะมองแต่ในแง่ของนาย แต่นิสัยพี่ทงเฮนายก็รู้..เค้าต้องแคร์ครอบครัวและคนรอบๆ ตัว นายคิดบ้างมั๊ยล่ะ ว่าพ่อแม่ของนายจะมองพี่ทงเฮยังไง ไหนจะพ่อแม่ชั้นอีก นายหัดคิดถึงพี่ทงเฮบ้างสิ”
“นายไม่ต้องพูดหรอกดงแฮ ชั้นรู้ ชั้นรู้ดีทุกอย่าง ถ้าชั้นไม่คิดถึงทงเฮชั้นคงไม่มาที่นี่หรอก นายรู้มั๊ยชั้นต้องพยายามหักห้ามใจไม่ให้คิดเตลิดเรื่องของทงเฮมากแค่ไหน กระทั่งวันที่ชั้นได้รู้ความจริง..ชั้นถึงมาที่นี่ นายอย่าเอาแต่คิดว่าคนที่อายุน้อยกว่าปีสองปีจะไม่มีสมองนักเลย นายนั่นล่ะ เคยคิดถึงทงเฮบ้างรึเปล่า”
“ทำไมจะไม่คิดล่ะ พี่ทงเฮเป็นพี่ชั้น ชั้นก็ต้องคิดถึงอยู่แล้ว” เป็นคราของดงแฮบ้างที่ต้องไม่เข้าใจกับคำพูดของคยูฮยอน
“นายแน่ใจเหรอ แล้วนายเคยรู้รึเปล่าล่ะ ว่าทงเฮต้องทำอะไรเพื่อนายบ้าง.. หึ ไม่เคยรู้สินะ” คยูฮยอนแอบเคืองในใจเรื่องดงแฮมานานแล้ว ทงเฮต้องอดทนไม่เผยเรื่องครอบครัวของตนเองกับใครมาเนิ่นนาน ทงเฮต้องใส่แว่นตาปลอมๆ เพื่อให้น้องรู้สึกว่าแตกต่างกับพี่ชาย ต้องพยายามทำตัวเชยๆ เพื่อไม่ให้ตนเองเป็นเป้าสายตาแข่งขันรัศมีกับดงแฮ ...ดงแฮเคยรู้บ้างรึเปล่า
“นายจะพูดอะไรกันแน่คยู” ดงแฮไม่เข้าใจเลยสักนิด
“ชั้นแค่จะบอกนายว่า ถ้าไม่รู้อะไร ก็อย่าพูดเลยดีกว่า นายจะไปข้างนอกไม่ใช่เหรอ จะไปไหนก็รีบไปสิ ชั้นดูแลทงเฮได้ไม่ต้องมาห่วงหรอก ห่วงตัวเองกับความสุขตัวเองก็พอแล้วล่ะ สำหรับนายน่ะ”
“โจวคยูฮยอน !! นายจะสื่ออะไรกันแน่” ยิ่งไม่เข้าใจก็ยิ่งหงุดหงิด ยิ่งหงุดหงิดก็ยิ่งฉุนเฉียว ดงแฮระเบิดอารมณ์ออกมาในที่สุด
“นายจะตะโกนให้ทงเฮตื่นทำไม ลีดงแฮ จะไปไหนก็ไป แต่อย่ามายุ่งเรื่องของชั้นกับทงเฮ ไม่งั้น...นายก็จะไม่ได้มีความสุขแน่” คยูฮยอนเจ้าอารมณ์ไม่ต่างกับดงแฮนัก เหมือนไฟเจอกับไฟโหมใส่กัน
“ทำไม.. นายจะทำอะไรชั้น”
“ชั้นไม่รู้หรอก รู้แต่ว่า ถ้าพวกนายสองคนทำให้ทงเฮไม่รักชั้น พวกนายสองคนก็อย่าหวังจะได้มีความสุขเลย จำไว้” แล้วคยูฮยอนก็เดินหนีจากการพูดคุยออกมาเสียดื้อๆ ....เขากลัวจะต้องพูดอะไรออกไปมากกว่านี้
“คยูฮยอน คยู กลับมาคุยกันให้รู้เรื่องเดี๋ยวนี้นะไอ้เด็กนรก คยูฮยอน” ดงแฮตะโกนสุดเสียงจนแฝดเล็กต้องวิ่งมาดู และเสียงนั้นเองก็ปลุกคนไม่สบายให้รู้สึกตัวเช่นกัน
“พี่ดงแฮ ตัวเองเป็นอะไรอ่า ทะเลาะอะไรกับคยูอ่ะ” ดองเฮตาตื่นมาดูพี่ชาย
“ก็ไอ้เด็กจิ้งจอกนั่นมันกวนประสาท พูดอะไรไม่รู้เรื่อง”
“แล้วตัวเองคุยอะไรกับคยูล่ะพี่ดงแฮ เค้าได้ยินเสียงดังลั่นบ้านเลย”
“ก็ชั้นบอกมันว่าตอนที่พวกเราไม่อยู่ห้ามทำอะไรพี่ทงเฮ มันก็สวนชั้นกลับมาน่ะสิ”
“ก็ตัวเองไปพูดแบบนั้นนี่นา ถ้าตัวเองว่าเค้าเค้าก็ต้องโกรธนั่นแหล่ะ เค้าต้องคิดว่าพี่ดงแฮหาว่าเค้าหื่นคอยจะปล้ำพี่ทงเฮแหงมๆ” แฝดแบ๊วเสนอความคิดแบบมองใจเขาใจเรา
“มันไม่แค่นั้นน่ะสิ ชั้นอุตส่าห์บอกเหตุผลแล้วนะ ว่าทำไมมันถึงไม่ควรจะรักพี่ทงเฮ มันกลับไม่ฟังอะไรเลย หันมาด่าชั้นฉอดๆ หาว่าชั้นต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงพี่ทงเฮ มันบ้าไปแล้วแน่ๆ”
“โหย.. ตัวเองอย่าไปสนใจเลยน่าพี่ดงแฮ รีบไปแต่งตัวดีกว่าน่า เร็วเข้า เค้าต้องไปกินข้าวกับแฟนตัวเองแล้วนะ หรือว่าจะอยู่เถียงกับเจ้าเด็กจิ้งจอกนั่นต่อ เค้าไปแอบสวีทกินข้าวกับแฟนตัวเองสองคนก็ได้นะ ฮิฮิ” ดองเฮพยายามทำร่าเริงให้พี่ชายหันเหความสนใจ
“ก็ได้ หนนี้พักไว้ก่อนก็ได้ เดี๋ยวกลับมาชั้นว่าเราสองคนต้องคุยกับคยูเป็นจริงเป็นจังเรื่องพี่ทงเฮแล้วนะดองเฮ” หนนี้ดงแฮยอมปล่อยไปก่อน แต่จะกลับมาเคลียร์ตอนเย็นให้รู้เรื่องรู้ราว
..
..
“อืม.. เสียงดังอะไรกันเหรอครับคยู” คนป่วยถูกปลุกขึ้นเพราะเสียงเอะอะมะเทิ่ง
“ไม่มีอะไรหรอกครับทงเฮ พักต่อนะครับ” คยูฮยอนถลามาประคองทงเฮให้นอนกลับลงไปตรงที่นอน ไม่อยากให้ตะเกียกตะตายลุกขึ้นมานั่ง แต่คนป่วยดื้อเกินกว่าจะบังคับใจ จึงยอมให้นั่งโดยใช้หมอนรองหลังแล้วพิงกับพนักหัวเตียง
“นอนเยอะแล้วล่ะครับ เดี๋ยวไปทำอาหารให้ทานกันดีกว่า ยังไม่ได้ทานอะไรกันไม่ใช่เหรอ น้องๆ คงหิวแย่แล้ว” พี่ชายคนโตต้องไปดูแลรับผิดชอบความเป็นอยู่ของน้องๆ แทนบิดามารดา แม้จะยังรู้สึกมึนหัวอยู่บ้าง แต่หน้าที่บังคับร่างกายให้ต้องลุกไปทำ
“ไม่ต้องห่วงหรอกครับ ตอนเช้าสั่งพิซซ่ามาทานกันแล้ว ส่วนของทงเฮ ผมออกไปซื้อโจ๊กมาไว้ให้แล้วครับ อีกอย่าง เจ้าสองแสบนั่นกำลังจะออกไปข้างนอก ทงเฮนอนให้สบายดีกว่านะครับ เดี๋ยวผมจะนั่งอยู่ข้างๆ ตรงนี้จนกว่าทงเฮจะหายนะครับ” คยูฮยอนจ้องมองลงไปในดวงตาของทงเฮ จนคนป่วยรู้สึกได้ถึงบางสิ่งที่คยูฮยอนสื่อสารที่มากกว่าคำพูด มันรู้สึกปั่นป่วน..ไม่สามารถจ้องตาลูกพี่ลูกน้องคนนี้ไอ้อีกต่อไป จึงเลี่ยงหลบตาไป
“ทงเฮครับ” บรรยากาศความเงียบมันเปิดโอกาสให้คยูฮยอนกระทำบางสิ่ง
“ครับคยู” ทงเฮค่อยๆ เงยหน้ามามองคยูฮยอนอีกครั้งตามคำเรียกขาน
“ผมรักทงเฮนะ”
เงียบ..... ตอนนี้สองคนหมดคำพูดจา ทั้งอึ้ง โล่ง และก็งวยงง สองคนมีอารมณ์สลับไปมา
“เอ่อ ก็เราเป็นพี่น้องกัน คยูก็ต้องรักทงเฮสินะครับ”
“เปล่า !!! ผมรักทงเฮ อย่างที่ผู้ชายคนหนึ่งจะรักคนรักได้” ความเด็ดเดี่ยวในน้ำเสียงของคยูฮยอนสะกดให้ทงเฮต้องฟัง และเข้าใจความหมายเสียที
“คยูพูดอะไรน่ะ เรา...เป็นพี่น้องกัน อีกอย่าง เอ่อ..” สิ่งที่พยายามไม่คิดมาตลอดมันวิ่งชนตรงหน้าเข้าอย่างจัง ทงเฮปันประสาทตนเองให้หาทางออกจากเหตุการณ์นี้ไม่ได้
“ก็แค่ลูกพี่ลูกน้อง อีกอย่าง......” คยูฮยอนเหมือนกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ก็กลับเงียบไปดื้อๆ เหมือนกับสิ่งที่กำลังจะหลุดปากนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ควรพูด
“เอ่อ ทงเฮ... ปวดหัว” เขาอาจจะกำลังฝันไปเพราะพิษไข้ หรือกำลังเพ้อไปแน่ๆ ขอหลบหนีเหตุการณ์ตรงหน้าแล้วหลับไป เมื่อตื่นขึ้นมาอาจจะได้พบกับความจริงว่า...ฝันไปก็ได้ ทงเฮรีบดันตัวเองให้ไถลลงไปกับที่นอนแล้วนอนเอาผ้าห่มมาคลุมตัว พลิกกายให้หันหลังกับทิศที่คยูฮยอนอยู่
“งั้น.. ทงเฮพักผ่อนนะครับ ผมจะไปเตรียมยากับผ้าชุบน้ำมาเช็ดตัวให้” อาจจะยังไม่ถึงเวลาที่สมควร คยูฮยอนกำลังตำหนิตนเองว่า..เขาใจร้อนเกินไป แต่ถ้าจะโทษ คยูฮยอนยกความผิดนี้ให้กับดงแฮกับดองเฮ ที่คิดจะขัดขวางความรักของเขา จนต้องรีบเผยความในใจออกไป...จนทงเฮปรับตัวไม่ทันแบบนี้
ความคิดเห็น