คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : WonHyuk Chapter 1
/>
Chapter 1
“แม่.. หนูบอกแล้วว่าไม่ต้องมาก็ได้”
เสียงสลดอ้อนวอนถึงไม่ดังมากแต่ก็พอจะทำให้คนแถบนั้นมองกันเป็นตาเดียว
“ไม่ได้หรอก แม่อยากรู้ว่าหนูอยู่สบายดีนี่คะ”
“หนูก็สบายดีนี่จ๊ะ”
“อร๊าย ลูกแม่น่ารักจังเลย”
มีแม่ไม่กี่คนในโลกที่อยากให้ลูกชายพูดจาจ๊ะจ๋า
มีแม่ไม่กี่คนที่อยากให้ลูกชายทำตัวน่ารัก ไม่หยาบกระด้างอย่างผู้ชายถึกๆ ทั่วไป
มีแม่ไม่กี่คนที่เกลียดผู้ชายจนไม่อยากให้ลูกชายคบกับเพื่อนที่นิสัยห้าวโหด
แต่ถ้าเรารู้จักกันดี คุณจะรู้ว่า แม่ผมคือคนไม่กี่คนนั้น
คุณแม่ของผมมีอดีตที่ไม่ดีนักกับเพศชายนัก
คุณพ่อแท้ๆ ของผมค่อนข้างจะติดเหล้า มีบ้านเล็กบ้านน้อย ชอบการพนัน และทำร้ายแม่
วันหนึ่งแม่ยืนหยัดเพื่อสิทธิสตรีด้วยการปกป้องตัวเอง แม่ตีหัวพ่อสลบ ยื่นฟ้องขอหย่า และดูแลผมมาด้วยตัวเอง
ผมรักแม่ แต่แม่ก็รักผมในทางที่ผิดนิดหน่อย
ผมไม่ได้โกรธแม่ที่อยากจะให้ผมเป็นคนนุ่มนิ่ม
ผมไม่ได้รู้สึกแย่ที่แม่อยากให้ผมน่ารัก
แต่..ไม่ใช่กับวันรับน้องแบบนี้
แม่ดึงผมเข้าไปกอด หอมแก้มไปมาฟัดอย่างกับผมเป็นลูกหมาหรือตุ๊กตาราคาแพงขนปุย
แม่ช่วยดูสายตาประชาชีหน่อยได้มั้ยล่ะฮะ คนเค้าคิดว่าผมเป็นเจ้าลูกแหง่ติดแม่อะไรทำนองนั้นหมดแล้ว
“อย่าฝืนเกินตัวนะลูก แม่มีหนูคนเดียว ถ้าหนูเป็นอะไรไปแม่คงแย่”
เฮ่อ ได้ยินแบบนั้นผมก็พูดอะไรไม่ออก กอดแม่แน่นๆ
“ไม่เป็นไรจ๊ะแม่ หนูจะดูแลตัวเอง แม่ขับรถกลับบ้านดีดีนะจ๊ะ หนูเป็นห่วง”
แถมการหอมแก้มแม่กลับไปสองที ผู้หญิงที่ดีที่สุดในโลก ผมสาบานกับตัวเองแล้ว ว่าชีวิตนี้ถ้าหาผู้หญิงที่ดีเท่าแม่ไม่ได้ ผมจะเป็นโสด ไม่ต่งไม่แต่งมันล่ะชาตินี้
“แม่ก็ห่วงหนูนะจ๊ะ ขอแม่ไปส่งหนูบนห้องก่อนได้ไหม อยากรู้ว่าหนูขาดเหลืออะไรหรือเปล่า”
เอาแล้วไง แม่จ๋า หอชายแม่จะขึ้นไปได้ยังไง โอ๊ย ผมจะทำยังไงดี กลัวแม่เสียใจ ถ้าหากว่าแม่ไม่ขึ้นไปดูแม่ไม่ยอมกลับบ้านด้วย อร๊ากกก อึนฮยอกอยากตาย
“แต่..มันเป็นเขตผู้ชาย เขาห้ามผู้หญิงขึ้นนะแม่จ๋า”
“แม่เตรียมพร้อมมาแล้ว นี่จ๊ะ”
มายก๊อด แม่เดินไปเปิดประตูรถ หยิบกล้องถ่ายภาพ โพลารอยด์ออกมายื่นให้ลูกชายอย่างผม พร้อมกระดาษอัดภาพ
“แม่ขึ้นไปไม่ได้ แต่ลูกก็บอกแม่ได้”
ผมจะทำอะไรได้นอกจากลืนน้ำลายที่ฝืดมากๆ ลงคอ
“จ..จ๊ะ จ๊ะแม่”
“อ้อ หนูอึนของแม่ อย่าลืม..แม่ขอรูปรูมเมทด้วยนะ”
นั่นล่ะสิ่งที่ผมกลัวที่สุด ถ้าเกิดว่ารูมเมทผมเป็นผู้ชายดิบเถื่อน การเรียนมหาวิทยาลัยนี้คงลำบากขึ้นอีกมหาศาลเลยล่ะ !!
ครั้งแรกที่เหยียบย่างเข้ามาในห้องพักของมหาวิทยาลัยซึ่งบังคับให้นักศึกษาชั้นปีที่ 1 ต้องมาพักอาศัยในมหาวิทยาลัย เพื่อความกลมเกลียว ซึ่งส่วนใหญ่ก็ยังคงอยู่ในหอพักของมหาวิทยาลัยจนจบนั่นล่ะ
ถือเป็นสิทธิ์ของนักศึกษาชั้นปีที่ 2 ขึ้นไปจึงจะสามารถสับเปลี่ยนห้องหรือรูมเมทได้หากต้องการ
มหาวิทยาลัยที่ผมกำลังจะเข้าเรียนนี้เป็นมหาวิทยาลัยที่ไม่ได้มีขนาดใหญ่ ไม่ใช่มหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงดังก้องโลก แค่ดังในบางคณะเท่านั้น ซึ่งเป็นคณะที่ผมอยากเรียนและเพียรพยายามจนได้เข้ามา
มันห่างไกลจากบ้านเดิม ผมไม่ได้ตั้งใจจะแยกจากแม่หรอกนะ แค่..อยากเป็นตัวของตัวเองสักพัก อยากค้นหาตัวเอง
ซึ่งผมอาจจะได้พบกับมันในเร็ววันนี้ก็ได้
“อ๊ะ มาแล้วเหรอ เข้ามาสิ”
มีใครบางคนนั่งรอทำหน้าสลอนอยู่ในห้องของผม แถมยังเรียกด้วยทีท่าระริกระรี้
เอ่อ มันไม่เข้ากับรูปร่างนั่นสักนิด
รู้ไหมว่าผมเจออะไร
ผมเจอกับปูที่ตัดหัวนางงามมาเสียบ
“ฉันทงเฮนะ อีทงเฮ นายชอบยกเวทไหม”
ไม่ต้องบอกก็รู้แล้วคุณอีทงเฮ เขากำลังออกกำลังกาย คงดูแลรูปร่างสุดพลัง แต่..แต่ช่วยดูหน้าหน่อยว่าคุณเหมือนนักกีฬาเพาะกายหญิงแห่งชาติแค่ไหน
“เอ่อ หวัดดี เราชื่ออึนฮยอกนะ”
“อื้ม ยินดีที่ได้รู้จัก คงเป็นเพื่อนร่วมห้องที่ดีต่อกันนะ”
“แฮ่ๆ ช่วยอะไรเราหน่อยได้ไหม”
ผมจำเป็นจะต้องขอร้องกันล่ะงานนี้ ถ้าแม่เห็นสิ่งที่คุณอีทงเฮเป็นทั้งหมดนี่ ชีวิตผมคงไม่สงบสุขแน่ รู้มั้ยผมขออะไร
“อะไรเหรอ ว่ามาสิ”
“ช่วยสวมเสื้อก่อนได้ไหม เอาแบบแขนยาว ตัวโคร่งๆ เลยนะ”
“ทำไมล่ะ กล้ามเนื้อพวกนี้มันสวยมากเลยนะ ฉันภูมิใจที่จะอวดมันมากเลยล่ะ”
“ก็..มันก็ดีนั่นล่ะ แต่..แม่เราชอบคนเรียบร้อย แล้วก็..ท่านค่อนข้าง” ผมไม่รู้จะเลือกใช้คำไหนให้ดูเหมาะสม “..ใส่ใจน่ะ ท่านอยากรู้ว่าเราอยู่ยังไง แล้วก็ ขอให้เราถ่ายรูปเพื่อนร่วมห้องไปให้ดู นาย..นายไม่คิดว่าเราเพี้ยนใช่ไหม”
แง.. เค้าต้องคิดว่าผมบ้า หรือไม่ก็ต้องมองว่าแม่ผมจู้จี้แน่เลย หน้าเค้าเอ๋อๆ ผมควรทำไงดี
“อืม..คิดว่าเข้าใจนะ เอาสิ”
โห..เค้าโค ตะ ระ เป็นคนดีเลยล่ะ เค้าเดินไปหยิบเสื้อมาสวมทับเสื้อกล้ามสายเล็กที่แทบจะปิดอะไรส่วนบนไม่ได้เลย
“อืม..เค้าอยากจะให้ฉันดูเหมือนนายใช่ไหม แม่ของนายน่ะ”
“เอ่อ ก็ทำนองนั้นล่ะมั้ง เรา..เราขอโทษจริงๆ”
“ไม่เอาน่า เพื่อความสบายใจของทุกคน แค่นี้เอง”
โอ้ว เค้าดูเข้าใจโลก น่ารักที่สุดเลยอีทงเฮ หน้าเค้าสวยมากด้วยล่ะ ถ้าเค้าเป็นผู้หญิงผมจีบแล้วนะเนี่ย หุหุ เผลอคิดอะไรชั่วร้ายอีกแล้วเรา
ผมถ่ายภาพห้องทุกมุม แล้วก็ถ่ายภาพอีทงเฮไปให้แม่ดูด้วย ซึ่งเขาบอกว่าเราควรจะถ่ายภาพร่วมกัน แสดงถึงความสนิทสนมให้ผู้ใหญ่ได้สบายใจ
ผมชอบคำนึงที่อีทงเฮถามมากเลยล่ะ เหมือนเค้าเป็นคนดีที่เข้าใจอารมณ์ผมมากๆ เลยล่ะฮะ เค้าถามว่า
“ให้เราแอ๊บแบ๊วมั้ย ผู้ใหญ่ส่วนใหญ่จะชอบเด็กน่ารัก”
ดูสิ อีทงเฮโคตรจะดีเลยอ่า
โอ้ว แม่เลี้ยงผมให้อ่อนไหวเกินไปแล้ว ผมหวั่นไหวกับคนแบบนี้
ผมเอารูปให้แม่ดูท่านพอใจมาก ทุกอย่างจึงจบด้วยดี
เอาสิ ผมต้องขอบคุณอีทงเฮเป็นอย่างสูงที่ทำให้ทุกๆ อย่างง่ายขึ้น งานนี้ต้องตอบแทนด้วยการเป็นเพื่อนที่ดีแล้วล่ะสิ
ผมไปส่งแม่ขึ้นรถกลับบ้าน ถูกแม่ฟัดไปสองสามที พร้อมกับซับน้ำตาให้แม่ด้วย แม่คงรักแล้วก็เป็นห่วงผมมาก
เฮ่อ ชีวิตนี้จะมีใครรักผมเท่ากับแม่
“หนูรักแม่ที่สุดเลยนะจ๊ะ ไม่ต้องห่วงนะแม่ หนูจะดูแลตัวเองดีดี แล้วก็คิดถึงแม่ทุกวันเลยจ้า”
ผมบอกลากับแม่ด้วยความตื้นตัน รีบกลับขึ้นห้องไปเพราะแม่จะรอดูว่าเห็นผมขึ้นไปบนห้องแล้วแม่ถึงจะยอมออกรถ
ทงเฮเค้ามาโผล่หัวให้เห็นหน้าบ๊ายบายแม่ แม่คงเชื่อหน้าหวานๆ ของทงเฮ เลยกลับไปเสียที
เอาล่ะ ทีนี้ชีวิตมหาวิทยาลัยของผมคงเริ่มต้นได้อย่างปกติสุขเสียที
ทีนี้จะใช้ชีวิตโฉด โหด แล้วก็เถื่อนสมอยากอย่างที่เคย want มาตลอด รอดจากสายตาแม่แล้ว กิ๊วๆๆ
ผมตั้งใจไว้อย่างแน่วแน่เลยว่าผมอาจจะเพาะกล้ามให้ได้อย่างทงเฮ แล้วก็เริ่มล่าสาวๆ แล้วก็..อะไรอีกเยอะแยะเลยที่ผมตั้งใจไว้
“เอ่อ ทงเฮ ขอโทษนะที่รบกวนตั้งมากมาย”
“เฮ้ย ไม่เป็นไร ชิวๆ ไปรู้จักเพื่อนฉันไหม กะว่าจะไปช่วยมันจัดของหน่อย”
“ใครเหรอ ?”
ผมถามก็เพราะผมรู้จักกับอีทงเฮวันแรก คุณคิดว่าผมจะตรัสรู้เองได้ไหมล่ะเค้ามีเพื่อนเป็นใครกันบ้าง ก็ต้องถามสิ
“อืม..เริ่มจากหัวหน้าชมรมเพาะกายคนแรกของมหาวิทยาลัยคนแรกเลยดีไหม”
“โหว..มีด้วยเหรอ ?”
น่าประหลาดใจอ่ะ มหาวิทยาลัยมีชมรมแบบนี้ด้วย เกินความคาดหมายที่จะคนอย่างผมจะคาดหวังได้จากมหาวิทยาลัยเล็กๆ แห่งนี้
“ก็เพราะไม่มีน่ะสิ มันเลยจะกลายเป็นคนแรก โดยมีฉันร่วมผลักดันแน่นอน”
“เอ่อ..เหอๆ”
ดูท่าคงจะกู่ไม่กลับซะแล้วรูมเมทผมคนนี้ แต่ก็นะ ถ้าเทียบกับหัวใจที่งดงามแล้ว มันก็พอจะถัวเฉลี่ยกันได้
“ป่ะไปดีกว่า”
“แล้วเค้าชื่ออะไรเหรอ”
“เชว ซี วอน มันชื่อ เชวซีวอน”
ความคิดเห็น