คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : 1st Meet
href="file:///C:\DOCUME~1\User\LOCALS~1\Temp\msohtml1\01\clip_filelist.xml" />
1st Meet
แกร๊ก..
ครึ่ก
ครึ่ก
ครึ่ก
ครืดดดด..ดดด..ดด
...ฉึ่บ !
กล่องบรรจุม้วนฟิล์มสีขาวลักษณะกลม ร่วงหลุดมือของใครบางคนที่ยืนตรงขั้นบนสุดของบรรบันไดในตรอกแคบๆ ตามลักษณะทั่วไปของตรอกซอยในภูมิประเทศของเกาหลี
เขาพลาดทำมันหลุดมือขณะบรรจุฟิล์มที่ใช้แล้วเข้าไปในกล่อง แล้วจะใส่ม้วนใหม่เข้าไปในตัวกล้องถ่ายรูปแบบ Manual ของเขา
มันเป็นกล้องลักษณะกึ่งเก่ากึ่งใหม่ที่ใช้มานานแล้วเกือบ 3 ปี ได้มาด้วยการเก็บหอมรอมริบออมค่าขนมของตนเองและกัดฟันซื้อกล้องมือ 2 ที่มีราคาถูกกว่าของใหม่ 100% แต่ยังคงใช้งานได้ดี
เขาภูมิใจกับสิ่งที่ได้มาด้วยหยาดเหงื่อและแรงงานชิ้นนี้มาก แม้ว่าการถ่ายรูปจะต้องทำให้แต่ละเดือนต้องสูญเงินไปมากกับค่าฟิล์ม ล้างอัดรูป หรือการดูแลรักษากล้องตัวนี้ แต่ด้วยความรักในการถ่ายภาพทำให้เขาไม่ปริปากบ่นแม้แต่นิดเดียว
แต่ตอนนี้ภาพถ่ายผลงานชิ้นเอกที่เขารู้สึกชอบมันที่สุด กลับกลิ้งลงไปตามแนวดิ่งของโลก กระเด็นกระดอนลงไปถึงขั้นล่างสุดของบันไดเสียแล้ว
ด้วยความกลมมนแบบท่อ PVC ที่ถูกตัดเป็นท่อนๆ ของกล่องฟิล์มนั้นยิ่งทำให้มันสามารถกลิ้งไปได้ไกลหากมีแรงส่งจากบางสิ่ง พลังงานศักย์พลังงานจลน์พลังงานสัปดนอะไรซักอย่างนี่ล่ะที่เขาเคยเรียนกำลังสำแดงเดชให้กล่องฟิล์มม้วนนั้นกลิ้งไปจนหยุดอยู่ที่เท้าใครบางคน
เขาใช้ขาสั้นนั้นรีบสาวลงไปตามขั้นบันไดที่ไม่ชันมากนักให้เร็วที่สุดเพื่อคว้ามันกลับคืนมา
หลายคนคงตระหนักดีว่า ภาพถ่ายนั้นอาจมิได้มีคุณค่าทางเงินตรา แต่มีคุณค่าทางความคิดและอารมณ์ เขาก็เช่นกันภาพถ่ายทุกภาพได้บันทึกเรื่องราวความทรงจำไว้เสมอ
แม้จะไม่ได้ถ่ายออกมาสวยงามดั่งช่างภาพมืออาชีพ ทว่าเขาก็รักภาพทุกภาพที่ตัวเขาได้ถ่ายออกมา และอยากจะเก็บไว้เป็นอนุสรณ์ความทรงจำว่าเคยได้ผ่านพ้นเรื่องราวหรือสถานที่ในภาพไว้
“ขอโทษครับ”
เขาก้มหัวขออภัยกับชายกลุ่มนั้นที่บังเอิญสิ่งของมีค่าของเขากลิ้งมาจนหยุดอยู่ที่ปลายเท้าของพวกเขา จากนั้นก็ก้มตัวลงเพื่อจะเก็บมัน สายตามองผ่านก้นบุหรี่หลายตัวที่ถูกสูบและดับอย่างหยาบๆ ด้วยปลายเท้า เขาเดาเอาจากสถานการณ์เพราะที่ก้นบุหรี่มีรอยเท้าอยู่
เขาช่างสังเกตเพื่อฝึกฝนสายตาเพื่อการเป็นช่างภาพมืออาชีพในอนาคต แม้ว่าเขาจะสายตาค่อนข้างสั้นก็ตาม
และมีบ่อยครั้งที่เขาอยากจะมองเห็นอะไรไกลๆ ด้วยการอาศัยกล้องถ่ายรูป มองผ่านเลนส์แล้วใช้การ Zoom เพื่อจะได้เห็นสิ่งที่อยากเห็น
แต่ก่อนที่เขาจะได้มัน มีมือของชายคนหนึ่งคว้ามันจากพื้นไปเสียก่อน เขาหยิบมันมาส่องกับแสงตะวันเพื่อวิเคราะห์ว่าด้านในนั้นมีอะไรอยู่กันแน่
“นายถ่ายอะไร ?” ชายหนุ่มคนนั้นยืนเต็มความสูงเพื่อถาม ในมือยังกำกล่องฟิล์มพลาสติกนั้นไว้ไม่ได้มีทีท่าว่าจะส่งคืนให้...หากไม่ได้คำตอบ
“เฮ้ย หรือว่ามันจะถ่ายรูปพวกเราสูบบุหรี่ ไม่ได้นะเว่ย ถ้าข้าโดนจับได้อีกทีโดนเล่นยับแน่” เพื่อนคนหนึ่งในกลุ่มโพล่งขึ้นอย่างร้อนตัว รีบทิ้งบุหรี่ในมือที่เขาเพิ่งจุดสูบได้ไม่เท่าไหร่ลงแล้วใช้ปลายเท้าขยี้ดับมัน สายตามองมายังหนุ่มน้อยตัวขาวที่ดูสั่นนิดๆ ดั่งกระต่ายน้อยที่ถูกรุมล้อมอยู่ด้วยฝูงหมาป่า
“ชั้นถามว่านายถ่ายอะไร ?”
“ก็.. ก็ถ่ายวิวทั่วไปฮะ” กระต่ายน้อยในสถานการณ์นี้ไม่กล้าแม้แต่จะสบตาผู้ถามหรือใครในกลุ่มนั้น ชุดฟอร์มนักเรียนช่างกลของชายกลุ่มนี้สร้างบารมีให้ดูเป็นพวกช่างมีเรื่อง หรือพร้อมจะทำร้ายเขาได้เสมอ
“ข้าไม่เชื่อ ค้นตัวมันซิว่ามีอะไรอีก ดีไม่ดีอาจจะเป็นสารวัตรนักเรียน” ไม่เพียงแค่พูด ชายที่กำลังดูลนลานกลัวการถูกจับได้กระชากกระเป๋าสะพายเบี่ยงบนตัวของชายตัวเล็กกว่านั้นออกไป แรงกระชากที่มีมากนั้นทำให้เจ้าของฟิล์มถึงกับล้มลงกับพื้น ได้แต่ปล่อยให้คนกลุ่มนั้นปู้ยี่ปู้ยำกับกระเป๋าเขาด้วยความไม่ปราณี
กระเป๋าถูกเททุกสิ่งภายในให้เผยความจริง สมุด หนังสือ ผ้าเช็ดหน้าและข้าวของอื่นๆ กระจัดกระจายอยู่ที่พื้นใกล้ๆ กับตัวของเจ้าของกระเป๋าที่ยังแหม่ะอยู่ที่พื้น
แต่จะทำอย่างไรได้ หากเทียบสัดส่วนกันแล้ว เขาเป็นเพียงผู้ชายตัวบาง ดูเล็กกว่าเด็กช่างกลกลุ่มนี้เป็นไหนๆ หากจะวัดเรื่องเรี่ยวแรงก็คงวัดกันไม่ติด
“ค้นที่ตัวมันซิ ดูในกล้องมันด้วยว่ามีรูปอะไรค้างอยู่รึเปล่า”
สิ้นคำสั่งของชายหนุ่มที่กุมถือกล่องฟิล์มพลาสติกนั่น ทุกคนก็กรูเข้ามาจะค้นหาอะไรบางอย่างกับร่างกายของหนุ่มน้อย
เขากลัวจนลนลาน สมองไม่สั่งงานให้เจรจาพาทีหรือกระทำการรอมชอมอะไรทั้งสิ้น ขามันกลับมีฮอร์โมนบางอย่างหลั่งจากจิตใต้สำนึกของสมองให้ทำงานอัตโนมัติ
วิ่ง
วิ่ง
วิ่ง
เสียงคำสั่งจากใครบางคนในตัว สั่งให้เขาวิ่ง วิ่งอย่างไม่คิดชีวิต เพราะไม่รู้ว่าอันตรายข้างหน้าจะเป็นเช่นไร ข้าวของเสียไปยังพอหาซื้อใหม่ได้ แต่ถ้าร่างกายพิกลพิการ..เขาจะไปซื้อหาได้จากไหน
ได้ยินเสียงจากตัวเองดังนั้นจึงทิ้งทุกอย่างแม้แต่กล้องถ่ายรูปที่รักปานดวงใจ แล้วออกวิ่งผ่านช่องแคบๆ ระหว่างตัวของชายกลุ่มนี้ที่ยังจะเหลือให้ตัวเขาสอดแทรกออกมาได้ ตัวเล็กกว่าก็มีประโยชน์วันนี้นี่เอง
“เฮ้ย !! มันหนีแล้ว ตาม” ใครสักคนร้องบอกเพื่อให้ทุกคนออกสตาร์ทตามคนที่วิ่งแบบ Non-stop
ไม่รู้ว่าใช้เวลากี่วินาทีคนทั้งหมดก็วิ่งออกจากตรอกแคบๆ ลับตาคนนั้นมาได้
ความเหนื่อยหอบทำให้ทั้ง 2 ฝ่ายหยุดลงดื้อๆ เพื่อหายใจ บางทีอาจเป็นผู้คนที่ดูขวักไขว่นั้นก็ได้ที่หยุดการกระทำของพวกเขา
ผู้ถูกล่า ออกตัวก่อนจึงไปได้ไกลกว่า เขาหยุดอยู่อีกฝั่งของถนน หายใจหอบเหนื่อยกับใบหน้าที่แดงระเรื่อเพราะการออกแรงมากๆ
ส่วนผู้ล่าหยุดอยู่อีกฝากฝั่งหนึ่งตรงข้าม สายตาทั้งหมดมองจ้องมาที่คนวิ่งหนี คนที่ดูเป็นหัวหน้ากลุ่มนั้นทำหน้าอย่างไรก็ไม่ทราบได้ เพราะตอนนี้คนที่เพิ่งหนีพ้นกำลังโฟกัสของรักของหวงของเขาเสียมากกว่า
กล้องที่รักอยู่ในมืออีกข้างของคนที่ถือกล่องฟิล์มพลาสติก
...เสียดาย
...อยากได้คืน
สองคำนี้ผุดขึ้นในหัวอย่างช้าๆ
แต่สิ่งที่เขาทำได้ก็เพียงแค่สายตาเว้าวอนที่ดูน่าสงสารในแบบฉบับของตนเองให้คนถือมันอย่างช่วยไม่ได้ แต่จะทำอย่างไรได้เล่า เขาไม่มีความกล้าพอที่จะเดินกลับไปเพื่อขอมันคืนอีกแล้ว
อีกฝ่ายคงจะไม่ได้มีจิตใจดีขนาดวิ่งเอามาคืนเป็นแน่ เขาเชื่ออย่างนั้น จึงได้แต่ยืนอาลัยกับของรักของหวงที่ตกอยู่ในมือผู้อื่นเสียแล้ว
ปี๊น ๆๆ
รถประจำทางคันใหญ่บีบแตรไล่เด็ก สองฟากที่ยืนอยู่ชิดริมถนนเกินไปนัก ความตกใจทำให้ขับไล่ความเหนื่อยออกไปได้บ้างและคงทำให้สติด้านปกติของมนุษย์ทำงาน
เมื่อรถคันใหญ่ผ่านไป ร่างของคนตัวขาวบางนั้นก็หายไปอย่างกับเล่นกล
“เฮ้ย ยุนโฮ เอาไง”
“ช่างแม่งเหอะ ไป กลับโว้ย”
“ขาสั้นๆ แม่งวิ่งไวชิบหาย” คำสบถแกมชื่นชมแถมก่นด่านี้ถูกถ่ายทอดออกมาจากหลายคน
“หึ นักกีฬาอย่างมึงยังตามไม่ทัน มึงควรพัฒนาตัวนะไอ้แจจุง”
“สัตว์ พูดมาก อย่ามาเทศนากูอีกได้ม๊ะ” ชายหนุ่มสูงโปร่งตัวขาวจัดตวัดสายตาไม่พอใจมายังคนบอก
“กูบอกแล้วว่าสูบวันนี้วันสุดท้าย แม่งยังอุตส่าห์ถูกถ่ายรูปไว้อีก ถ้าอาจารย์หรือโค้ชรู้กูได้หลุดจากทีมแน่ เหี้ยเอ๊ย” คนที่ชื่อแจจุงเตะเท้ากับระบายอารมณ์ทีสองที
“เดี๋ยวกูเช็คให้ กล้องกับฟิล์มนี่กูเอาไปดูเอง”
“ขอบใจ ไอ้ยุน” แจจุงตบบ่าเพื่อนเบาๆ
“เปลี่ยนเป็นรักกูแทนดีกว่า”
“เหี้ย มุขนรกนี่เลิกซักที กูบอกแล้วกูไม่ชอบมึง แทะจีบอยู่ได้เดี๋ยวจับกดกลางซอยนี่เลย ไอ้สัตว์”
ระหว่างทางเดินกลับไปในตรอก คำพูดอย่างสบายอารมณ์ของคนทั้งคู่ยังดำเนินต่อไป
“ใช่ไอ้ยุน กูบอกให้มาจีบกูนี่กูอยากมีเมียหน้าเล็กๆ ตัวล่ำๆ มานานแล้ว รับรองกูจะบริการมึงไม่ให้ขัดอารมณ์เลย” หนุ่มตัวสูงสูดผิวสีแทนคนหนึ่งเย้าหยอกเพิ่ม แต่ดูจากสายตาแล้วคงเป็นประเภทได้ก็เอาไม่ได้ก็แล้วไปเสียมากกว่า
“หุบปากไปเลยไอ้ชางมิน หื่นไม่เลิก กับเพื่อนกับฝูงยังจะเอา ไอ้เหี้ยนี่ เป็นเมียให้กูเอาเล่นๆ มั๊ยล่ะ ?” ยุนโฮถามกลับ
“เอาสิ ผลัดกัน” คำตอบนี้ทำเอาทุกคนเหวอไปเลยทีเดียว มันก็จริงอยู่ที่ชิมชางมินมีอุปนิสัยหื่นไม่เลือก แต่พอได้ยินแบบนี้เพื่อนทั้งกลุ่มก็อึ้งเหมือนกัน
“นรกแดก กูชักไม่อยากคบกับพวกมึงแล้ว ส้นตีน” แจจุงสบถ ก่อนจะเดินมารวบข้าวของที่เกลื่อนกลาดอยู่ตรงพื้น หยิบมาดูทีละชิ้น โดยมีเพื่อนๆ ทั้ง 3 คนร่วมกันพิสูจน์หลักฐานแต่ละชิ้น
...มีเพียงกล้องกับฟิล์มเท่านั้นที่ยุนโฮไม่ได้แจกต่อให้ใคร
เขายัดกล้องและกล่องฟิล์มไว้ในกระเป๋าเสื้ออย่างละข้าง เพื่อจะได้ใช้มือสะดวก หยิบจับสมุดเล่มหนึ่งที่มีตราโรงเรียนและชื่อในช่องที่เว้นไว้ให้กรอกชื่อนักเรียนขึ้นมาดู
“ปาร์ค ยู ชอน” เขาอ่านชื่อช้าๆ ก่อนจะมองไปยังปากซอย ที่สุดท้ายที่เขามองเห็นร่างกายนั่นอีกครั้ง
“สรุปชื่ออะไรวะ เล่มนี้เขียนว่า คิม จุน ซู” แจจุงมองหน้าเพื่อนที่มีสมุดหรือหนังสือเล่มอื่นๆ อยู่
“แต่ของกูเขียนว่า โจว คยู ฮยอน สรุปไงแน่วะเนี่ย” ชางมินนิ่วหน้ากับคนหลายชื่อนี้เหลือเกิน
-...Boy Meets Boy...-
ลองโหลดตัวหนังไปดูได้จากหน้าแรกนะจ๊ะ ^_^
ความคิดเห็น