ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Boy Meets Boy (TVXQ-2U-2KIM-MINKYU-YAOI)

    ลำดับตอนที่ #1 : 1st Meet

    • อัปเดตล่าสุด 23 มี.ค. 52



    href="file:///C:\DOCUME~1\User\LOCALS~1\Temp\msohtml1\01\clip_filelist.xml" />

    1st  Meet

     

     

     












    แกร๊ก..

               

    ครึ่ก

     

    ครึ่ก

     

    ครึ่ก

     

    ครืดดดด..ดดด..ดด  

     

    ...ฉึ่บ  !

     

    กล่องบรรจุม้วนฟิล์มสีขาวลักษณะกลม  ร่วงหลุดมือของใครบางคนที่ยืนตรงขั้นบนสุดของบรรบันไดในตรอกแคบๆ ตามลักษณะทั่วไปของตรอกซอยในภูมิประเทศของเกาหลี 

     

    เขาพลาดทำมันหลุดมือขณะบรรจุฟิล์มที่ใช้แล้วเข้าไปในกล่อง  แล้วจะใส่ม้วนใหม่เข้าไปในตัวกล้องถ่ายรูปแบบ Manual ของเขา

     

     

    มันเป็นกล้องลักษณะกึ่งเก่ากึ่งใหม่ที่ใช้มานานแล้วเกือบ 3 ปี  ได้มาด้วยการเก็บหอมรอมริบออมค่าขนมของตนเองและกัดฟันซื้อกล้องมือ 2 ที่มีราคาถูกกว่าของใหม่ 100%  แต่ยังคงใช้งานได้ดี

     

     

    เขาภูมิใจกับสิ่งที่ได้มาด้วยหยาดเหงื่อและแรงงานชิ้นนี้มาก  แม้ว่าการถ่ายรูปจะต้องทำให้แต่ละเดือนต้องสูญเงินไปมากกับค่าฟิล์ม  ล้างอัดรูป  หรือการดูแลรักษากล้องตัวนี้  แต่ด้วยความรักในการถ่ายภาพทำให้เขาไม่ปริปากบ่นแม้แต่นิดเดียว

     

     

    แต่ตอนนี้ภาพถ่ายผลงานชิ้นเอกที่เขารู้สึกชอบมันที่สุด  กลับกลิ้งลงไปตามแนวดิ่งของโลก  กระเด็นกระดอนลงไปถึงขั้นล่างสุดของบันไดเสียแล้ว 

     

     

    ด้วยความกลมมนแบบท่อ PVC ที่ถูกตัดเป็นท่อนๆ ของกล่องฟิล์มนั้นยิ่งทำให้มันสามารถกลิ้งไปได้ไกลหากมีแรงส่งจากบางสิ่ง  พลังงานศักย์พลังงานจลน์พลังงานสัปดนอะไรซักอย่างนี่ล่ะที่เขาเคยเรียนกำลังสำแดงเดชให้กล่องฟิล์มม้วนนั้นกลิ้งไปจนหยุดอยู่ที่เท้าใครบางคน

     

     

    เขาใช้ขาสั้นนั้นรีบสาวลงไปตามขั้นบันไดที่ไม่ชันมากนักให้เร็วที่สุดเพื่อคว้ามันกลับคืนมา 

     

     

    หลายคนคงตระหนักดีว่า  ภาพถ่ายนั้นอาจมิได้มีคุณค่าทางเงินตรา  แต่มีคุณค่าทางความคิดและอารมณ์  เขาก็เช่นกันภาพถ่ายทุกภาพได้บันทึกเรื่องราวความทรงจำไว้เสมอ 

     

     

    แม้จะไม่ได้ถ่ายออกมาสวยงามดั่งช่างภาพมืออาชีพ  ทว่าเขาก็รักภาพทุกภาพที่ตัวเขาได้ถ่ายออกมา  และอยากจะเก็บไว้เป็นอนุสรณ์ความทรงจำว่าเคยได้ผ่านพ้นเรื่องราวหรือสถานที่ในภาพไว้

     

     

    ขอโทษครับ 

    เขาก้มหัวขออภัยกับชายกลุ่มนั้นที่บังเอิญสิ่งของมีค่าของเขากลิ้งมาจนหยุดอยู่ที่ปลายเท้าของพวกเขา  จากนั้นก็ก้มตัวลงเพื่อจะเก็บมัน  สายตามองผ่านก้นบุหรี่หลายตัวที่ถูกสูบและดับอย่างหยาบๆ ด้วยปลายเท้า  เขาเดาเอาจากสถานการณ์เพราะที่ก้นบุหรี่มีรอยเท้าอยู่ 

    เขาช่างสังเกตเพื่อฝึกฝนสายตาเพื่อการเป็นช่างภาพมืออาชีพในอนาคต  แม้ว่าเขาจะสายตาค่อนข้างสั้นก็ตาม

    และมีบ่อยครั้งที่เขาอยากจะมองเห็นอะไรไกลๆ ด้วยการอาศัยกล้องถ่ายรูป  มองผ่านเลนส์แล้วใช้การ Zoom เพื่อจะได้เห็นสิ่งที่อยากเห็น

     

     

    แต่ก่อนที่เขาจะได้มัน  มีมือของชายคนหนึ่งคว้ามันจากพื้นไปเสียก่อน  เขาหยิบมันมาส่องกับแสงตะวันเพื่อวิเคราะห์ว่าด้านในนั้นมีอะไรอยู่กันแน่

     

     

    นายถ่ายอะไร ?  ชายหนุ่มคนนั้นยืนเต็มความสูงเพื่อถาม  ในมือยังกำกล่องฟิล์มพลาสติกนั้นไว้ไม่ได้มีทีท่าว่าจะส่งคืนให้...หากไม่ได้คำตอบ

    เฮ้ย  หรือว่ามันจะถ่ายรูปพวกเราสูบบุหรี่  ไม่ได้นะเว่ย  ถ้าข้าโดนจับได้อีกทีโดนเล่นยับแน่  เพื่อนคนหนึ่งในกลุ่มโพล่งขึ้นอย่างร้อนตัว  รีบทิ้งบุหรี่ในมือที่เขาเพิ่งจุดสูบได้ไม่เท่าไหร่ลงแล้วใช้ปลายเท้าขยี้ดับมัน  สายตามองมายังหนุ่มน้อยตัวขาวที่ดูสั่นนิดๆ ดั่งกระต่ายน้อยที่ถูกรุมล้อมอยู่ด้วยฝูงหมาป่า

     

     

    ชั้นถามว่านายถ่ายอะไร ?

    ก็.. ก็ถ่ายวิวทั่วไปฮะ  กระต่ายน้อยในสถานการณ์นี้ไม่กล้าแม้แต่จะสบตาผู้ถามหรือใครในกลุ่มนั้น  ชุดฟอร์มนักเรียนช่างกลของชายกลุ่มนี้สร้างบารมีให้ดูเป็นพวกช่างมีเรื่อง  หรือพร้อมจะทำร้ายเขาได้เสมอ 

     

     

    ข้าไม่เชื่อ  ค้นตัวมันซิว่ามีอะไรอีก  ดีไม่ดีอาจจะเป็นสารวัตรนักเรียน  ไม่เพียงแค่พูด  ชายที่กำลังดูลนลานกลัวการถูกจับได้กระชากกระเป๋าสะพายเบี่ยงบนตัวของชายตัวเล็กกว่านั้นออกไป  แรงกระชากที่มีมากนั้นทำให้เจ้าของฟิล์มถึงกับล้มลงกับพื้น  ได้แต่ปล่อยให้คนกลุ่มนั้นปู้ยี่ปู้ยำกับกระเป๋าเขาด้วยความไม่ปราณี 

     

     

    กระเป๋าถูกเททุกสิ่งภายในให้เผยความจริง  สมุด  หนังสือ  ผ้าเช็ดหน้าและข้าวของอื่นๆ กระจัดกระจายอยู่ที่พื้นใกล้ๆ กับตัวของเจ้าของกระเป๋าที่ยังแหม่ะอยู่ที่พื้น

     

     

    แต่จะทำอย่างไรได้  หากเทียบสัดส่วนกันแล้ว  เขาเป็นเพียงผู้ชายตัวบาง  ดูเล็กกว่าเด็กช่างกลกลุ่มนี้เป็นไหนๆ  หากจะวัดเรื่องเรี่ยวแรงก็คงวัดกันไม่ติด

     

     

    ค้นที่ตัวมันซิ  ดูในกล้องมันด้วยว่ามีรูปอะไรค้างอยู่รึเปล่า

    สิ้นคำสั่งของชายหนุ่มที่กุมถือกล่องฟิล์มพลาสติกนั่น  ทุกคนก็กรูเข้ามาจะค้นหาอะไรบางอย่างกับร่างกายของหนุ่มน้อย 

     

     

    เขากลัวจนลนลาน  สมองไม่สั่งงานให้เจรจาพาทีหรือกระทำการรอมชอมอะไรทั้งสิ้น  ขามันกลับมีฮอร์โมนบางอย่างหลั่งจากจิตใต้สำนึกของสมองให้ทำงานอัตโนมัติ

     

    วิ่ง 

     

    วิ่ง

     

    วิ่ง

     

    เสียงคำสั่งจากใครบางคนในตัว  สั่งให้เขาวิ่ง  วิ่งอย่างไม่คิดชีวิต  เพราะไม่รู้ว่าอันตรายข้างหน้าจะเป็นเช่นไร  ข้าวของเสียไปยังพอหาซื้อใหม่ได้  แต่ถ้าร่างกายพิกลพิการ..เขาจะไปซื้อหาได้จากไหน

     

     

    ได้ยินเสียงจากตัวเองดังนั้นจึงทิ้งทุกอย่างแม้แต่กล้องถ่ายรูปที่รักปานดวงใจ  แล้วออกวิ่งผ่านช่องแคบๆ ระหว่างตัวของชายกลุ่มนี้ที่ยังจะเหลือให้ตัวเขาสอดแทรกออกมาได้  ตัวเล็กกว่าก็มีประโยชน์วันนี้นี่เอง

     

     

    เฮ้ย !!  มันหนีแล้ว  ตาม  ใครสักคนร้องบอกเพื่อให้ทุกคนออกสตาร์ทตามคนที่วิ่งแบบ Non-stop

     

     

    ไม่รู้ว่าใช้เวลากี่วินาทีคนทั้งหมดก็วิ่งออกจากตรอกแคบๆ ลับตาคนนั้นมาได้ 

     

     

    ความเหนื่อยหอบทำให้ทั้ง 2 ฝ่ายหยุดลงดื้อๆ เพื่อหายใจ  บางทีอาจเป็นผู้คนที่ดูขวักไขว่นั้นก็ได้ที่หยุดการกระทำของพวกเขา

     

     

    ผู้ถูกล่า  ออกตัวก่อนจึงไปได้ไกลกว่า  เขาหยุดอยู่อีกฝั่งของถนน  หายใจหอบเหนื่อยกับใบหน้าที่แดงระเรื่อเพราะการออกแรงมากๆ

     

     

    ส่วนผู้ล่าหยุดอยู่อีกฝากฝั่งหนึ่งตรงข้าม  สายตาทั้งหมดมองจ้องมาที่คนวิ่งหนี  คนที่ดูเป็นหัวหน้ากลุ่มนั้นทำหน้าอย่างไรก็ไม่ทราบได้  เพราะตอนนี้คนที่เพิ่งหนีพ้นกำลังโฟกัสของรักของหวงของเขาเสียมากกว่า

     

     

    กล้องที่รักอยู่ในมืออีกข้างของคนที่ถือกล่องฟิล์มพลาสติก 

     

    ...เสียดาย

     

    ...อยากได้คืน

     

    สองคำนี้ผุดขึ้นในหัวอย่างช้าๆ

     

     

    แต่สิ่งที่เขาทำได้ก็เพียงแค่สายตาเว้าวอนที่ดูน่าสงสารในแบบฉบับของตนเองให้คนถือมันอย่างช่วยไม่ได้  แต่จะทำอย่างไรได้เล่า  เขาไม่มีความกล้าพอที่จะเดินกลับไปเพื่อขอมันคืนอีกแล้ว

     

     

    อีกฝ่ายคงจะไม่ได้มีจิตใจดีขนาดวิ่งเอามาคืนเป็นแน่  เขาเชื่ออย่างนั้น  จึงได้แต่ยืนอาลัยกับของรักของหวงที่ตกอยู่ในมือผู้อื่นเสียแล้ว

     

     

    ปี๊น ๆๆ

     

     

    รถประจำทางคันใหญ่บีบแตรไล่เด็ก สองฟากที่ยืนอยู่ชิดริมถนนเกินไปนัก  ความตกใจทำให้ขับไล่ความเหนื่อยออกไปได้บ้างและคงทำให้สติด้านปกติของมนุษย์ทำงาน

     

     

    เมื่อรถคันใหญ่ผ่านไป  ร่างของคนตัวขาวบางนั้นก็หายไปอย่างกับเล่นกล 

     

     

    เฮ้ย  ยุนโฮ  เอาไง

    ช่างแม่งเหอะ  ไป  กลับโว้ย

     

     

    ขาสั้นๆ แม่งวิ่งไวชิบหาย  คำสบถแกมชื่นชมแถมก่นด่านี้ถูกถ่ายทอดออกมาจากหลายคน

    หึ  นักกีฬาอย่างมึงยังตามไม่ทัน  มึงควรพัฒนาตัวนะไอ้แจจุง

     

     

    สัตว์  พูดมาก  อย่ามาเทศนากูอีกได้ม๊ะ  ชายหนุ่มสูงโปร่งตัวขาวจัดตวัดสายตาไม่พอใจมายังคนบอก  

    กูบอกแล้วว่าสูบวันนี้วันสุดท้าย  แม่งยังอุตส่าห์ถูกถ่ายรูปไว้อีก  ถ้าอาจารย์หรือโค้ชรู้กูได้หลุดจากทีมแน่  เหี้ยเอ๊ย  คนที่ชื่อแจจุงเตะเท้ากับระบายอารมณ์ทีสองที

     

     

    เดี๋ยวกูเช็คให้  กล้องกับฟิล์มนี่กูเอาไปดูเอง 

    ขอบใจ  ไอ้ยุน  แจจุงตบบ่าเพื่อนเบาๆ

     

     

    เปลี่ยนเป็นรักกูแทนดีกว่า

    เหี้ย  มุขนรกนี่เลิกซักที  กูบอกแล้วกูไม่ชอบมึง  แทะจีบอยู่ได้เดี๋ยวจับกดกลางซอยนี่เลย  ไอ้สัตว์ 

    ระหว่างทางเดินกลับไปในตรอก  คำพูดอย่างสบายอารมณ์ของคนทั้งคู่ยังดำเนินต่อไป

     

     

    ใช่ไอ้ยุน  กูบอกให้มาจีบกูนี่กูอยากมีเมียหน้าเล็กๆ ตัวล่ำๆ มานานแล้ว  รับรองกูจะบริการมึงไม่ให้ขัดอารมณ์เลย  หนุ่มตัวสูงสูดผิวสีแทนคนหนึ่งเย้าหยอกเพิ่ม  แต่ดูจากสายตาแล้วคงเป็นประเภทได้ก็เอาไม่ได้ก็แล้วไปเสียมากกว่า 

    หุบปากไปเลยไอ้ชางมิน  หื่นไม่เลิก  กับเพื่อนกับฝูงยังจะเอา  ไอ้เหี้ยนี่  เป็นเมียให้กูเอาเล่นๆ มั๊ยล่ะ ?  ยุนโฮถามกลับ

     

     

    เอาสิ  ผลัดกัน  คำตอบนี้ทำเอาทุกคนเหวอไปเลยทีเดียว  มันก็จริงอยู่ที่ชิมชางมินมีอุปนิสัยหื่นไม่เลือก  แต่พอได้ยินแบบนี้เพื่อนทั้งกลุ่มก็อึ้งเหมือนกัน

    นรกแดก  กูชักไม่อยากคบกับพวกมึงแล้ว  ส้นตีน  แจจุงสบถ  ก่อนจะเดินมารวบข้าวของที่เกลื่อนกลาดอยู่ตรงพื้น หยิบมาดูทีละชิ้น  โดยมีเพื่อนๆ ทั้ง 3 คนร่วมกันพิสูจน์หลักฐานแต่ละชิ้น 

     

    ...มีเพียงกล้องกับฟิล์มเท่านั้นที่ยุนโฮไม่ได้แจกต่อให้ใคร 

    เขายัดกล้องและกล่องฟิล์มไว้ในกระเป๋าเสื้ออย่างละข้าง  เพื่อจะได้ใช้มือสะดวก  หยิบจับสมุดเล่มหนึ่งที่มีตราโรงเรียนและชื่อในช่องที่เว้นไว้ให้กรอกชื่อนักเรียนขึ้นมาดู

     

     

    ปาร์ค ยู ชอน  เขาอ่านชื่อช้าๆ ก่อนจะมองไปยังปากซอย  ที่สุดท้ายที่เขามองเห็นร่างกายนั่นอีกครั้ง 

     

     

    สรุปชื่ออะไรวะ  เล่มนี้เขียนว่า คิม จุน ซู  แจจุงมองหน้าเพื่อนที่มีสมุดหรือหนังสือเล่มอื่นๆ อยู่

     

     

    แต่ของกูเขียนว่า โจว คยู ฮยอน  สรุปไงแน่วะเนี่ย  ชางมินนิ่วหน้ากับคนหลายชื่อนี้เหลือเกิน

     

     

    -...Boy  Meets  Boy...-

    ลองโหลดตัวหนังไปดูได้จากหน้าแรกนะจ๊ะ ^_^





    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×