ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Death Match

    ลำดับตอนที่ #1 : Death Match 1

    • อัปเดตล่าสุด 29 ก.ย. 53



    Death Match 1
     
     
                     กริ๊งงงงงงงงง
                    “นักเรียนทั้งหมด ทำความเคารพ”
                    “ขอบคุณครับ/ค่ะ คุณครู”
                    เสียงออดหมดคาบเรียนสุดท้ายของวันดังขึ้น แทบจะเป็นปฏิกิริยารีเฟคทันทีที่หัวหน้าห้องบอกทำความเคารพ อาจารย์พยักหน้าเนิบๆ แล้วบอกให้นักเรียนทุกคนโชคดี พร้อมกับเดินออกจากห้องเรียนไป
                    จบไปอีกวันสำหรับการเรียนที่หน้าเบื่อ ต่อจากนี้ไปก็เป็นช่วงเวลาเล่นเกมส์ของผม จะเล่นให้หน่ำใจเลย เพราะ โรงเรียนผมหยุดติดกัน 10 วัน !
                    “เฮ้ย เพื่อนนพ ทำไรวะ”
                    ในขณะที่ผมกำลังเก็บหนังสือ เสียงเป็ดๆของบดินก็ดังขึ้นข้างหลัง ผมหันไปมองหน้าที่กำลังยิ้มแฉ่งของเจ้าตัวอย่างงงๆ อารมณ์ดีมาจากไหนของเขาเนี่ย
                    “ก็เก็บหนังสือดิ จะกลับบ้าน”
                    “อะจะเฮ้ย ยังกลับไม่ได้เว้ย ฉันรู้ว่าแกเซ็งๆ ให้ป๋าดินผู้นี้ ช่วยเอาป่าว”
                    บดินว่าพลางยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ว่าแต่... แกจะช่วยอะไรฉันฟะ = =;;;;
                    “ไม่เอาเว้ย ฉันจะกลับบ้าน พึ่งได้เกมส์ใหม่มา ยังไม่เคลียร์เลย”
                    ผมเก็บหนังสือต่อไปอย่างไม่สนใจมัน แต่จู่ๆคุณเพื่อนคนนี้ก็ยึดกระเป๋าไปเสียดื้อๆ
                    “ฉันมีไรหนุกหนานกว่า เกมส์กิ๊กก๊อกที่แกพึ่งได้มาอีกนะ เอาน่า อย่าพึ่งกลับ รับรองมันส์”
                    ว่าจบ มันก็เอามือมาตีไหล่ขวาผม แล้วก็วิ่งออกไปนอกห้องเฉย
                    เอ่อ...เรื่องสนุกๆที่ว่านั่นมันคืออะไร ทำไมพูดจากำกวงจังวะครับ = = เรื่องที่มันกำลังจะทำ ผมไม่ยุ่งด้วยได้มั้ย ชักมีลางสังหรณ์แปลกๆซะด้วยสิ แล้วไม่ทราบว่าเจ้าคนพูดมันหายเฮดไปไหนฟะเนี่ย
                    แก๊ก...แก๊ก...
                    เสียงลำโพงดังกอกแกกเหมือนจะมีใครประกาศอะไรที่ห้องศูนย์สื่อ
                    วี้ดดดดดดดดดดดดดด...
                    ตามด้วยเสียงหอนของไมค์ที่ส่งมาตามสาย
                    “กึกกึก...อะแฮ่มๆ หนึ่งสองสามสี่...”
                    ผมว่าเสียงคนประกาศมันคุ้นๆยังไงไม่รู้แฮะ
                    “ห้าหกเจ็ดแปด....”
                    ใครเอาคนบ้าที่ไหนมาออกไมค์ฟะ - -* จะมาโชว์นับเลขหลังเลิกเรียนรึไง เสร็จแล้วคงท่องสูตรคูรต่อเลยสินะ จึ๊ๆ
                    “สวัสดีค้าบบบบบบบบบบ เพื่อนๆผมบดิน ห้อง 2-B นะค้าบบบบบ”
                    โนคอมเมนต์แล้วครับพี่น้อง (เพื่อนตูเองนี่หว่า อ๊ากก)
                    ห้อง 2-B คือห้องที่ผมอยู่ เลขสองคือเลขบอกช่วงชั้น ส่วน B ก็คือห้อง แบ่งตาม ระดับกันไป A-F ห้องเทพหน่อยก็ A ส่วนห้องเทพน้อยๆ ก็ B ลดหลันกันไปตามระดับ
                    “วันนี้บดินมีอะไรสนุกๆมาให้ทุกคนทำด้วยล่ะครับ ต่อจากนี้ อาคาร ม.2 แห่งนี้จะไม่เงียบเหงาอีกต่อไป~ ถ้าหากว่าไม่รีบกลับบ้านก็แวะมาที่ห้อง 2-B ของพวกเราด้วยนะคร้าบ~ แล้วเจอกัน กิ๊ก...”
                    เสียงไมค์ดับไปแล้ว
                    อะโหย ไอ้เรื่องสนุกที่ว่าต้องทำเป็นหมู่คณะด้วยเหรอครับ ชักจะยังไงๆแล้วแฮะ = =a ผมควรเชื่อใจมันดีมั้ยนะ
                    อาจารย์ทุกคนคงกำลังตามล่าบดินอยู่แน่ๆ แล้วใครใช้ให้ไปประกาศแบบนั้นฟะ!
                    ดีหน่อยที่อาคารที่เราเรียน แยกเป็น ม.ต้น ม.ปลาย ถ้าเป็นอาคารรวม ได้มีเฮฮาสนุกสนานการยิงกันแน่ๆ แล้วก็นับว่าโชคดีที่ อาคาร ม.ต้น แยกเป็น อาคาร ม.1 ม.2 ม.3 ความอับอาย จึง รู้กันอยู่แค่ ช่วงชั้น ม.2 ที่ผมอยู่
                   
                    ครืดดดด
                    ประตูห้องเรียนเปิดพร้อมกับร่างไอ้ตัวแสบนามบดิน ทันทีที่หมอนั่นก้าวเท้าเข้าห้องเท่านั้นแหละ เสียงโฮฮิ้วก็ดังขึ้น เจ้านั่นเดินไปตบมือเพื่อนคนโน้นคนนี้ อย่างกับว่าตัวเองเป็นคนดังยังไงยังงั้น เหอๆ เชื่อเขาเลย
                    “โหยยยย เพื่อนดิน แกทำอะร้ายยยย~!!”
                    “ฉันก็หาเพื่อนร่วมอุดมการ์ณไง *-*”
                    บดินว่า ด้วยดวงตาที่เปล่งประกาย ท่าทางจะตื่นเต้นมากเลยนะนั่น
                    เอาวะ ลองดูซักหน่อยว่ามันจะมีทีเด็ดอะไร หวังว่าไอเรื่องสนุก ทำกันเป็นหมู่คณะของมันคงจะปลอดภัยนะ
     
                    1 ชม. ต่อมา...
     
                    “เฮ้ย รอมาชั่วโมงกว่าๆแล้วไหนเพื่อนร่วมอุดมการณ์ของเอ็งวะบดิน”
                    ผมพูดขณะมองกลุ่มนักเรียนที่คาดว่าเป็นกลุ่มสุดท้ายเดินออกจากโรงเรียนไป ผ่านทางหน้าต่าง
                    ตอนนี้ทั่วท้องฟ้าถูกฉาบไปด้วยแสงสีส้มของพระอาทิตย์ และแสงของมันส่องตาผมจนต้องทำตาหยี เมื่อชั่วโมงที่แล้ว มีเพื่อนในห้องบางคนอยากร่วมวงเจ้าบดินก็จริง แต่สุดท้าย ก็ชิ่งหนีไปก่อน เอ๊ะ หรือว่าพวกนั้นจะรู้ว่าภัยร้ายที่แท้จริงคืออะไร = =;;;;;;;
                    “รออีกนิดสิว้า...ทำเป็นวัยรุ่นไปได้” บดินว่าพลางเดินไปเดินมารอบห้อง
                    “= =;;;;”
                    น้าน ดูมัน ยังมั่นใจ ช่างกล้าจริงๆ ว่าแต่...ทำไมต้องเดินรอบห้องด้วยนะ ยืนนิ่งๆไม่เป็นรึไงฟะ ผมชักเริ่มกลัวขึ้นมานิดๆแล้วนะ (กลัวอะไร !? : Ballad4tears)
     
                    ครึ่งชั่วโมงต่อมา
     
                    “ฉันว่าแกเลิกเหอะว่ะ อย่ามัวชักช้า ตกลงจะให้ทำอะไร”
                    ไม่เห็นมีใครมาซักคน เสียเวลาเล่นเกมส์ผมมั้ยคร้าบคุณบดิน
                    ผมอาจจะโง่ที่ตัดสินใจถามมันออกไปตรงๆ ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับผู้ชายนาม มานพ ผู้นี้ คุณผู้อ่านอย่าลืมอุทิศส่วนกุศลให้ผมด้วยนะครับ แว๊กก นี่ผมพูดเรื่องบ้าอะไรเนี่ย = =
                    “เฮ้ย รอคนก่อน อย่าใจร้อนดิ๊”
                    ยังมีรอคน = =;;;; นี่ตกลงต้องทำเป็นหมู่คณะจริงๆเหรอวะครับ
                    “งั้นฉันกลับล่ะ”
                    ผมว่าพลางยกกระเป๋าขึ้นมาสะพาย ต้องรีบชิ่งก่อนที่ทุกอย่างจะสาย แสงอาทิตย์ก็ใกล้จะดับรำไรๆ ไม่ปลอดภัยยิ่งนัก
                    “เหวยๆ เดี๋ยวสิคร้าบเพื่อนนพ มาๆ ไม่ยึกยักละ เข้าเรื่องดีกว่า”
                    “...?”
                    เข้าเรื่องซักที แต่ผมยังอดหวั่นใจไม่ได้จริงๆ
                    “ก็คือฉันพึ่งได้เกมส์ตัวใหม่ที่พี่ชายฉันพัฒนามาเว้ย เป็นเกมส์แนวยิงผี ชื่อว่า Death Match”
                    "ฟู่..." ผมลอบถอนหายใจออกมาเบาๆอย่างโล่งอก
                    "ถอนหายใจทำไมวะ = =;;;;" บดินถามออกมางงๆ แกไม่ต้องเข้าใจฉันหรอก รู้แค่ว่าฉันยังไม่พร้อมก็พอ = =;;;;(เอ็งพูดอะไรคุณมาพน! - -;;;(ชักหวั่นใจ พระเอกนิยายตูจะไหวมั้ยเนี่ย) : Ballad4tears)
                     "หะ ถอนหายใจอะไร ใครถอนหายใจ ไม่มี๊ ตาฝาดป่าวเอ็ง"
                     "- -+"
                     พูดแค่นั้นก็ถึงบางอ้อแล้วครับคุณเพื่อนบดิน ปล่อยให้ตูคิดอะไรไปไกลได้ตั้งนาน เอ๋? ผมคิดอะไรน่ะเหรอครับ ไม่มีนิ ^^;;; ผมก็แค่พร่ามไปเรื่อยเท่านั้น ผมน่ะใสซื่อจะตาย *-*
                    แต่ถ้าเป็นเรื่องเกมส์ ก็ไม่มีอะไรน่าสนใจนี่นา ให้ผมกลับไปเล่นเกมส์ของตัวเองยังดีกว่าเยอะเลยแฮะ
                    “ถ้าแกจะพูดถึงเรื่องเกมส์ พอแค่นั้นแหละ ไม่น่าสนใจเลย กลับละ”
                    พอผมพูดแบบนั้น บดินก็ทำเสียงจิ้งจก พลางส่ายหัวไปมา
                    “จึ๊กๆ ไม่รู้จักของดี ถ้าพลาดแล้วจะเสียใจ~ แกคิดว่าท่านบดินผู้นี้ จะหาเกมส์กระจอกๆมาให้ไงวะ หึหึ ...อย่าดูถูก เกมส์นี้ใช้ตัวเราเล่นเลยนะเว้ย เป็นเกมส์ที่เราเข้าไปเล่นในโลกนั้นได้จริงๆอะ”
                    “...”
                    ไม่อยากโกหกเลยครับ ว่าผมชักแอบสนใจนิดๆ = =;;;
                    “แต่ตอนนี้มันยังเป็นแค่รุ่นทดลอง ที่พี่ฉันกำลังศึกษาอยู่ แต่ฉันจิ๊กมาเล่นก่อน ฮ่าๆๆ”
                    แล้วจะไปรอดมั้ยเนี่ย พึ่งรุ่นทดลองซะด้วย จะมีเทคโนโลยีอะไรที่สามารถดึงคนเข้าไปเล่นในเกมส์จริงๆ ยังจินตนาการไม่ออกเลย
                    “ไม่น่าปลอดภัยเลยอะ = = ไม่เล่นได้มั้ยวะ”
                    “โหยย นี่ฉันมีเพื่อนป๊อดตั้งแต่เมื่อไหร่ว้า~ ห้ามปฏิเสธเว้ย ไม่งั้นโครงงานวิทย์เอ็งโดนตัดชื่อออกแน่ๆ ^__,^*”
                    บดินพูดเสียงเหี้ยม ตลกตายเลยเพื่อน โครงงานนั้น ถ้าจำไม่ผิด มีผมทำอยู่คนเดียวไม่ใช่เรอะ เอ๊ะ หรือผมจำผิด แต่... ไม่นะ คิดว่าจำไม่ผิด
                    “ตลกละ”
                    “ตลกก็ขำดิ๊ มาๆ ไม่ต้องเล่นตัวเลย ดูนี่นะ ฉันจะพูดแค่ครั้งเดียว”
                    บดินว่าพลางหยิบเครื่องอะไรบางอย่างออกมาจากกระเป๋า “ฉันจะกดสวิตช์ตรงนี้ แล้วมันจะสร้างสนามแม่เหล็กไฟฟ้า เปลี่ยนให้สภาพแวดล้อมเป็นโลกของเกมส์ แล้วเราก็จะเล่นได้ อธิบายแค่นี้นะ เพราะพี่ฉันบอกมาแค่นี้ = =a”
                    บดินว่าพลางเกาหัวแกรกๆ แล้วมันจะไหวมั้ยเนี่ย
                    “แล้วถ้าเกิดมันสร้างสนามแม่เหล็กไฟฟ้าออกมาจริง พวกเราไม่โดนช๊อตตายไงวะ”
                    “ตายดิ...เอ้ย ไม่ใช่ - -* เราก็แค่จะหลับเป็นเจ้าชายนิทราเท่านั้น ในโลกความจริงอะนะ พอเราออกเกมส์ เราก็ตื่นขึ้นไง” บดินว่าพลาง จะกดสวิตช์เจ้าเครื่องแปลกๆนั่น
                    ในขณะนั้นความคิดบางอย่างแล่นเข้ามาภายในหัวสมองของผม
                    “เดี๋ยว แกแน่ใจเหรอวะว่าปลอดภัย ถ้าเกมส์โอเวอร์แล้วจะเป็นยังไง”
                    ผมถามบดิน มันมองหน้าผม ก่อนจะยิ้มที่แฝงนัยอะไรบางอย่างไว้
                    “ก็คงหมายถึงชีวิต...ล่ะมั้ง”
                    “…!!”
                    “รู้ใช่เปล่าว่าฉันพูดเล่น ฮ่าๆ ดูทำหน้าเดะ เชื่อใจกันหน่อยๆ”
                    บดินพูดก่อนจะกดสวิตช์
                  วื้ดดดดด
                    ผมได้ยินเสียงวื้ดเบาๆจากตัวเครื่อง...ผมควรจะเชื่อใจดีรึเปล่าล่ะ
                    ทำไมถึงรู้สึกถึงลางสังหรณ์แปลกๆด้วยนะ
                    ผมควรจะเล่นเกมส์นี้ จริงๆน่ะเหรอ?  ถ้ามันเป็นจริงอย่างที่บดินพูดล่ะ แล้วจะทำยังไง
                    เทคโนโลยีแปลกๆแบบนี้มันมีจริงๆบนโลกเหรอ?
                    ผมคงต้องบ้าแน่ ถ้ามัวแต่คิดเรื่องพวกนี้ จะเชื่อหรือไม่เชื่อนั้น ตอนนี้ ทุกๆอย่างมันมืดมิดไปหมดแล้ว... ถูกความมืดกลืนกินหายไป
                    มันเกิดอะไรขึ้น... ตอนนี้เราเข้าเกมส์กันมาแล้วงั้นเหรอ? แล้วร่างจริงๆของเราในตอนนี้จะเป็นยังไงล่ะ จะหลับเป็นเจ้าชายนิทราจริงๆน่ะเหรอ?
                    ผมชักเริ่มกลัว เพราะตอนนี้รู้สึงได้เพียงแค่ร่างกายตัวเองกำลังติดอยู่ในห้วงความมืดที่ว่างเปล่าเพียงเท่านั้น
                    “ยินดีตอนรับผู้เล่นสู่โลกของ Death Match กรุณาระบุความสามารถ และอาวุธที่ต้องการ...”
     
                    #ณ บ้านหลังหนึ่ง เวลา 17.00 น.
                    “อ่าว บดินยังไม่กลับมาจากโรงเรียนอีกเหรอครับแม่”
                    บันดาล ชายหนุ่มวัยทำงาน 20 ต้นๆ ถามผู้เป็นแม่ ใน ขณะถอดรองเท้าออกที่ประตูหน้าบ้าน เขาทำงานอยู่ที่บริษัทพัฒนาเกมส์ชื่อดังแห่งหนึ่ง และได้เกมส์มาทดสอบบ่อยๆนับไม่ถ้วน
                    วันนี้เอง ที่เขารีบกลับบ้าน เพราะจะให้น้องชายตัวแสบทดลองเกมส์ ซึ่งกำลังอยู่ในช่วงทดสอบระบบ แต่ดูท่าทางเจ้าน้องชายของเขาจะยังไม่กลับบ้าน
                    “เอ่... เห็นน้องว่าได้เกมส์ใหม่มา จะอยู่เล่นกับเพื่อนที่ โรงเรียนน่ะจ่ะ”
                    ว้า...เสียดายจัง อุส่าห์ได้เกมส์ตัวใหม่มาแท้ๆ จะให้ลองเล่นก่อนวางตลาดซักหน่อย
                    “เกมส์ใหม่? เกมส์อะไรเหรอครับ” ชายหนุ่มถาม เผื่อไว้ว่าผู้เป็นแม่จะรู้คำตอบบ้าง
                    “เห็นว่าเป็นเกมส์ยิงผีอะไรซักอย่าง... แม่ก็ไม่แน่ใจ”
                    “!!”
                    เมื่อได้ฟังดังนั้น บันดาลก็ฉุดนึกบางอย่างขึ้นได้ทันที เกมส์ที่เขาพึ่งพัฒนาให้ที่บริษัท มีอยู่เกมส์หนึ่งซึ่งทางบริษัทบอกว่าไม่เหมาะสมแก่ผู้เล่น พร้อมอนุมัติให้เลิกทดสอบ และพัฒนาระบบ ในวันนี้!
                    หวังว่าคงไม่ใช่เกมส์นั่นหรอกนะ!
                    เขารีบวิ่งไปดูบนห้องนอนของตัวเองทันทีว่าเกมส์ที่ว่ายังอยู่มั้ย แล้วก็ต้องถอนหายใจโล่งอก
                    ฟู่...ยังอยู่
                    XXXX Evil เกมส์ยิงผีเพื่อช่วยสาว ติดเรทเยอะเสียจนทางบริษัทระงับการพัฒนา ด้วยเหตุผลว่า ถ้าได้ตกไปอยู่ในมือเยาวชนมีเปอร์เซ็นสูงที่จะก่อให้เกิดเหตุอาชญากรรมในรูปแบบแปลกๆ
                    ถูกสร้างให้สามารถนำผู้เล่นไปสู่โลกจริงๆในเกมส์ได้ เขาเคยเล่า รายละเอียดให้น้องของเขารู้ไปบ้างแล้ว นับว่าเป็นเกมส์ที่มีระบบดีที่สุดในช่วงนี้ แต่ติดตรงที่มีฉากไม่เหมาะสม
                    เขาเองยังนึกเสียดาย เพราะเป็นเกมส์แรกที่เขาได้พัฒนาอย่างจริงจัง แถมเป็นเกมส์ที่นำผู้เล่นเข้าไปเล่นจริงๆได้ แต่ต้องถูกระงับไปซะนี่!
                  โชคดีชะมัด ที่น้องตัวแสบของเขายังไม่เอามันไปเล่น!
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×