คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : -บทที่1-
เส้นทางที่ถูกล้อมไปด้วยต้นซากุระที่ขึ้นอย่างหนาแน่นนั้น ตอนนี้ก็ย่างเข้าเดือนมิถุนายนแล้ว ดอกซากุระจึงได้ร่วงโรยราลงจนหมด แต่ถ้าเกิดเป็นช่วงฤดูใบไม้ผลิใหม่ๆนั้น เส้นทางสายนี้คงสวยน่าดูชมเลยทีเดียว แต่ตอนนี้ผมไม่มีเวลาที่จะคิดถึงเรื่องอะไรอีกแล้ว ผมรีบมองไปที่นาฬิกาข้อมือทันที เข็มสั้นนั้นชี้ไประหว่างเลข8กับเลข9 ส่วนเข็มสั้นนั้น...ชี้เกือบจะถึงเลข6อยู่มะรอมมะ-ร่ออยู่แล้ว
แว้ก!!! ซวยแล้ว สายสุดๆเลยนะเนี่ย
หลังจากเดินออกมาจากสถานีรถไฟมาประมาณ10นาทีก็จะถึงโรงเรียนที่ผมจะต้องเรียน
เมื่อเดินเข้าไปในรั้วโรงเรียนแล้วนั้น จะพบกับต้นซากุระที่ตั้งขึ้นเรียงรายอย่างสวยงาม แต่ตอนนี้ผมไม่มีอารมณ์มาดูวิวทิวทัศน์ของโรงเรียนแล้ว-เหมือนกัน ผมจึงได้แต่รีบวิ่งขึ้นตึกเรียนไปทันที
เมื่อผมเดินขึ้นมาถึงชั้น4ซึ่งเป็นชั้นเรียนของนักเรียนม.ปลายปี1อย่างพวกผม ผมก็ได้เจอกับอาจารย์ประจำชั้นของผมยืนอยู่ตรงหน้าผมนั่นเอง เมื่ออาจารย์เจอผม เธอมองผมอย่างตาไม่กระพริบ ผมจึงได้เดินเข้าไปหาเขาด้วยอารมณ์ที่เตรียมพร้อมโดนอาจารย์ดุอยู่แล้ว ก่อนที่ผมจะค่อยๆเดินเข้าไปใกล้อาจารย์อย่างช้าๆ
อาจารย์ครับ โทษทีครับ รถมันติดนิดหน่อยน่ะครับ
ผมแถอาจารย์ไปอย่างนิ่มๆ เพราะถ้าขืนผมบอกไปตรงๆว่า ผมตื่นเต้นกับโรงเรียนใหม่จนนอนดึกเลยตื่นสาย คงไม่แคล้วโดนอาจารย์สวดยับแน่
อ้าว ดนัยคุง ครูนึกว่าเธอจะไม่มาแล้วนะเนี่ย แต่ก็เอาเถอะ ปะ รีบไปเถอะ เพื่อนในห้องรอเธอกันอยู่แน่ะ
อาจารย์ของผมนั้นเป็นผู้หญิงอายุอานามก็น่าจะขึ้นเลข3แล้ว แต่เธอกลับเชื่อคำแถของผมได้อย่างนิ่มๆ อย่างนี้เลยเนี่ยนะ...
และเมื่อผมกับครูเดินมาถึงหน้าห้องเรียนแล้วนั้น ครูก็ได้สั่งให้ผมรออยู่ที่หน้าห้องก่อนสักพัก ก่อนที่ครูจะเข้าไปแนะนำเรื่องของผมให้เพื่อนในห้องฟัง
...ผมได้ย้ายมาเรียนต่อกลางคันที่ญี่ปุ่นนี่ก็เพราะสาเหตุบางสาเหตุ หวังว่าอีกไม่นานผมก็คงมีโอกาสได้เล่าให้ฟังกันนะครับ
...ขณะที่ผมยืนรอครูอยู่หน้าห้องนั้น ผมก็ได้ยินเพื่อนถามเรื่องเกี่ยวกับผมต่างๆนานา เช่น ครูคะ นักเรียนใหม่หล่อมั้ยคะ ครูครับ นักเรียนใหม่เป็นคนยังไงครับ ยิ่งผมได้ยินประโยคพวกนี้มากเท่าไหร่ใจมันก็ยิ่งเต้นแรงขึ้นทุกที หลังจากนั้นไม่นานครูเขาก็เรียกผมให้เขาไปในห้อง ผมเตรียมใจอยู่ซักพัก ก่อนที่จะค่อยๆเลื่อนเปิดประตูห้องอย่างช้าๆ และเมื่อผมเดินเข้าไปในห้องนั้น สายตาของเพื่อนทุกคนในห้องต่างก็จ้องมาที่ผม ทำให้ผมยิ่งใจเต้นยิ่งขึ้นไปอีก ผมจึงได้เดินขึ้นไปตรงกระดานดำ ก่อนที่จะค่อยๆเขียนชื่อของผมลงบนกระดานดำและแนะนำตัวทันที
ผมชื่อดนัย ดนัย วิเชษฐ์วรกานต์ครับ ผมเพิ่งย้ายมาเรียนจากประเทศไทย หวังว่าผมคงจะไม่ทำอะไรให้พวกคุณลำบากใจกันนะครับ ผมขอฝากตัวด้วยละกันครับ
หลังจากที่ผมพูดเสร็จ เพื่อนๆก็ได้ตบมือให้กับผมทันทีทำเอาผมโล่งใจไปเปราะหนึ่งเลยทีเดียว
ดนัยคุงไปนั่งตรงที่ว่างตรงนั้นนะ
ครูพูดพลางชี้ไปที่ว่างตรงริมหน้าต่างทันที
ครับผม
ผมพูดสั้นๆก่อนที่ผมจะเดินไปนั่งตรงที่ของผมทันที
...หลังจากนั้นไม่นานครูที่เข้ามาสอนคาบ1ก็ได้เข้ามาสอนทันที ซึ่งผมก็เข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้าง เนื่องจากผมยังไม่ค่อยเก่งภาษาญี่ปุ่นมากเท่าไหร่นักทำเอาผมคิดหนักเลยว่า การสอบมิดเทอมผมจะสอบผ่านหรือป่าวเนี่ย...
......หลังจากนั้น เมื่อถึงตอนพักเพื่อนๆหลายคนก็ได้เข้ามาล้อมกรูที่ผมทันที
นี่ๆ ดนัยคุง เขาว่าดนัยคุงตามพ่อที่เป็นยากูซ่ามาเพื่อรับกิจการต่อน่ะจริงหรอ
เอ่อ ชั้นไม่รู้หรอกนะว่าพวกเธอได้ข่าวมาได้ไง แต่มันไม่จริงหรอกนะ
แล้วที่ว่า หนีคดีจากเมืองไทยมาน่ะ จริงป่าว
ชั้นไม่ใช่พวกผู้ร้ายหลบหนีคดีข้ามชาติเหมือนไอ้หน้าปี๊บหรอกนะ
ท่าทางแลจะมีข่าวลือเกี่ยวกับผมมาเยอะแฮะ แต่เอาเถอะ เดี๋ยวค่อยแก้ข่าว-ลือของผมทีหลังก็ได้ ยังมีเวลาอีกตั้งเยอะ
เอ่อ...
คือว่า ดนัยคุง...
เอ่อ ฉะ ฉัน...
เสียงของผู้หญิงคนหนึ่งเรียกผมทำเอาผมหันไปมองเธออย่างช้าๆ ผู้หญิงคนนั้นเป็นผู้หญิงที่ผมเรียกได้อย่างเต็มปากว่าน่ารัก ผมที่สั้นยาวสลวยอยู่ที่ไหปลาร้า ผิวที่ขาวนวลราวกับน้ำนม ดวงตาที่มองผ่านกรอบแว่นของเธอนั้นช่างกลมโตจริงๆ ริมฝีปากที่เข้ารูปกับหน้าสีชมพูระเรื่อๆ จมูกที่โด่งได้รูป แก้มที่มีสีแดงระเรื่อๆเล็กน้อย ถ้าเกิดพวกคลั่งสาวแว่นมาเห็นล่ะก็คงยกเป็นเทพเจ้าแหงๆ ถ้าใครจิตไม่ผิดปกติล่ะก็ต้องบอกว่าน่ารักทุกคนแน่ๆ ถ้าเอาเกณฑ์ของทานิงุจิมาวัดล่ะก็ เอาไปเลยAAA!!!
...สาวน้อยแสนสวยคนนี้มองผมพลางหลบสายตาไปพลาง เธอมีอะไรกับผมกันแน่นะ
เอ่อ มีอะไรกับผมหรอครับ
ผมพูดไปด้วยน้ำเสียงที่พยายามทำให้ดูดีที่สุดเท่าที่จะมากได้ ก่อนที่จะค่อยๆเดินไปหาเธอคนนั้นอย่างช้าๆ และเมื่อเธอสังเกตเห็นผมเธอสะดุ้งตัวขึ้นมาเล็กน้อย
เอ่อ...ดนัยคุง ไม่ทราบว่าตอนเย็นนี้...เอ่อ...ว่างหรือป่าวคะ
เท่าที่ผมสังเกตเธอดูท่าทางเธอคงเป็นพวกขี้อายมากเลยสินะ
เพราะเธอพูดโดยไม่มองหน้าผมได้แต่ก้มหน้างุดๆจนคางอยู่ติดกับคอ และถ้าเกิดมองดีๆจะพบว่าหน้าเธอนั้นแดงมากกว่าตอนครั้งแรกซะอีก
เอ่อ ถ้าเกิดจะว่าว่างมันก็ว่างนะครับ แต่มีอะไรหรอครับ
คือว่า...ถ้าเกิดไม่รบกวน...เอ่อ...ตอนเย็นนี้เจอกันที่ร้านกาแฟหน้าสถานีนะคะ!!!
เธอพูดออกมา...ไม่สิ ต้องเรียกว่าตะโกนมากกว่าถึงจะถูก เสียงตะโกนของเธอนั้น ทำเอาเพื่อนๆในห้องต่างจ้องมองมาที่พวกผมสองคนเป็นสายเดียวกัน แต่เอ... ทำไมถึงนัดเจอผมหลังเลิกเรียนนะ หรือว่า เธอจะเห็นผมตั้งแต่แว้บแรกจึงรู้สึกได้ว่าคนๆนี้แหละคือเนื้อคู่ของฉัน เลยจะนัดเจอกันเพื่อสารภาพรัก ไม่จริงน่า
ฉะ...ฉัน มีเรื่องที่อยากจะบอกคุณอยู่น่ะค่ะ ไม่ทราบว่าจะรบกวนคุณหรือป่าวคะ
เธอพูดออกมาด้วยสีหน้าที่เหมือนขอร้อง อึ๊ก!! น่ารักเกินบรรยายครับ น่ารักซะจนทำเอาผมแทบจะล้มทั้งยืนเลยล่ะ
เอ่อ...ดะ ได้ครับ มีอะไรผมยินดีช่วยเต็มที่เลยครับ เอ่อ...
อะ อ๋อ คานะค่ะ ฮิรายูกิ คานะค่ะ เรียกคานะเฉยๆก็ได้นะคะ
อึ๊ก!!! อีกแล้วรอยยิ้มนี้มันสามารถฆ่าคนได้เลยนะเนี่ย อย่างน้อยก็ผมคนหนึ่งแล้วล่ะ
งั้น ตอนเย็นเจอกันนะคะ ดนัยคุง
คร๊าบบบบบบ!!
เหอๆๆๆ ในโลกนี้ยังมีคนน่ารักแบบนี้อยู่อีกสินะ ต้องขอบคุณพระผู้เป็นเจ้าสินะ ขอบคุณมากครับ พระผู้เป็นเจ้า ที่ทำให้ผมเกิดมาบนโลกใบนี้ ขอบคุณมากครับ
ดนัย เป็นไรฟะ ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เชียว
เหวอ
ผู้ชายที่นั่งอยู่ข้างหน้าผม หันมาคุยกับผมด้วยสีหน้าระรื่น ทำเอาผมสะดุ้งเล็กน้อย
ผู้ชายคนนี้เป็นผู้ชายที่เรียบร้อยมาก เสื้อผ้าก็ใส่อย่างเรียบร้อย ไม่หลุดลุ่ย ผู้ชายคนนี้มีชื่อว่า คาตายามะ ไซโตะ เป็นเพื่อนรักของผมเอง
ผมรู้จักกับมันเมื่อประมาณ1สัปดาห์ที่ผ่านมา เพราะบ้านของมันอยู่ใกล้บ้านผมนั่นเอง
ไม่มีไรหรอกเว้ย ...ว่าแต่วันนี้แกก็ยังเรียบร้อยเหมือนเดิมสินะ
ใครจะเหมือนแกล่ะ สารรูปหยั่งกะนักเลง เสื้อก็หลุดลุ่ย ผมก็ย้อม หูก็เจาะ ใครเห็นก็บอกอย่างนี้ทั้งนั้นแหละ
เรื่องของฉันน่า เออ ว่าแต่...คานะเค้าเป็นคนยังไงฟะ
อ๋อ ฮิรายูกิซังน่ะหรอ อืม ก็เรียกได้ว่าสุดๆเลยว่ะ ผลการเรียนก็ติดท็อปไฟว์ทุกปี หน้าตาก็น่ารักเวอร์ ได้ยินว่าได้จดหมายรักมาไม่ขาดสายเลยนา
อืม งั้นหรอวะ...
ถ้าเกิดได้รับจดหมายรักมาไม่ขาดสายก็แสดงว่าอาจจะมีแฟนแล้วสินะ เอ หรือว่ายังไม่มีแฮะ ถ้างั้นเดี๋ยวตอนเย็นผมจะต้องถามเธอให้ได้เลยล่ะ
เออ ว่าแต่ผู้หญิงของชั้นม.ปลายมีใครที่น่ารักมั่งฟะ
อืม ถ้าเกิดมองจากสายตาของชั้นน่ะนะ เยอะฟ่ะ เออ แต่มีคนหนึ่งแกห้ามไปยุ่งกับเธอเลยนะว้อย
จู่ๆหน้าตาของไอ้ไซโตะก็เครียดขึ้นมาทันตาเห็น
หืม ใครวะ
เธอเป็นรุ่นพี่ปี2ที่มีชื่อว่าชิสะ ซาโอริ.....
หลังจากนั้นไอ้ไซโตะก็เริ่มสาธยายเรื่องที่เกี่ยวกับรุ่นพี่ เริ่มจากหน้าตาที่ดี น่ารัก ตัวก็เล็ก ถูกใจสาวกโลลิค่อน แต่นิสัยกลับเอาแต่ใจ โหดสุดๆ และก็อีกมากมาย เรียกได้ว่าเป็นเหมือนไทกะคนที่2เลยก็ว่าได้
ที่นี้ แกรู้แล้วสินะ ว่าเค้าเป็นคนยังไงน่ะ เพราะฉะนั้นฉันเตือนแกไว้ก่อนเลยนะ อย่าไปยุ่งกับเขาซะล่ะ ถ้าเกิดยังไม่อยากซวยน่ะนะ
เออ
ถ้าเกิดผมยังไม่ลืมซะก่อนน่ะนะ
....หลังจากที่เลิกเรียนเสร็จปุ๊บผมก็ได้รีบเก
ความคิดเห็น