ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    พี่น้อง ความฝัน และพวกพ้อง All is Me

    ลำดับตอนที่ #1 : บทที่ 1:จุดเริ่มต้นของเรื่องทั้งหมด

    • อัปเดตล่าสุด 24 ส.ค. 56


    บทที่ 1:จุดเริ่มต้นของเรื่องทั้งหมด
         ...ในห้องขังที่มืดและหนาวเน็บ มีแสงจากพระจันทร์ที่ลอดผ่านช่องเล็กๆที่มีลูกกรงนั้นเข้ามาทำให้เห็นใบหน้าของเด็กชาย 2 คนที่มีผมสีเงิน และพรุ่งนี้ก็จะอายุ 11 ปีในพอดี ทั้งสองคนกำลังนั่งหลับอยู่ในมุมหนึ่งของห้องขังแห่งนี้ มีผ้าผืนบางๆผืนเดียวที่ที่ทำให้อบอุ่นได้เพียงเล็กน้อย เด็กชายผู้หนึ่งที่มีผมปิดตาข้างซ้ายนั้นลืมตาขึ้นตาของเขานั้นเป็นสีเหลืองซึ่งดวงตานั้นบงบอกถึงความเกลียดชัง...
         "เสด็จพ่อ! เสด็จแม่!"เด็กชายฝาแฝดวิ่งเข้ามาในห้องโถง เพื่อมาหาเสด็จพ่อและเสด็จแม่ในวันที่เป็นวันเกิดอายุครบ 10 ปีของพวกเขา
         "ดูนี่สิครับ"ฝาแฝดผู้พี่ที่มีผมสีเงินตาซ้ายสีเหลือง ผมปกตาข้างขวาเอาไว้ เด็กชายกางมือออกทันใดนั้นจากห้องโถงของพระราชวังกลับกลายเป็นทุ่งหญ้า และท้องฟ้าสีครามแล้วต่อมาประมาณ 1-2 นาทีก็กลับกลายเป็นห้องโถงเหมือนเดิม
         "ไม่น่ะออซลูก...ไม่น่ะ"เสียงของเสด็จแม่ที่สั่นคลอ
         "ดูของผมบ้างสิ"ฝาแฝดพผู้น้องที่มีตาสีแดงพูดขึ้นทันใดนั้นของทุกอย่างที่อยู่ในห้องโถงนี้ก็ลอยขึ้นแล้วก็วางลงกลับที่เก่าที่มันอยู่
         "มะ...มิเรคุงลูก..."เสียงสั่นๆของเสด็จแม่ที่พูดยังไม่จบก็มีเสียงของเสด็จพ่อดังขึ้น
         "ทหารมาจับตัวเด็ก 2 คนนี้ไปนี้ไม่ใช่ลูกของข้า!!"ทหารวิ่งกันเข้ามาจับผมและน้องชาย
         "ทะ...ทำไมกันเสด็จพ่อ"เสียงของน้องที่กำลังจะร้องไห้ และผมไม่สามารถพูดอะไรได้มีแต่เงียบแล้วทหารก็พาไปห้องขัง เมื่อผ่านไปประมาณอาทิตย์หนึ่ง พวกผมก็พอทำใจได้หลังจากที่ไม่พูดอะไรเลย พวกผมตัดสินใจถามยามเฝ้าห้องขังว่า'ทำไมพวกผมจึงถูกขังเขาก็เลยตอบมาว่า'
         "...เจ้าเคยได้ยินไหมที่หลายปีก่อนน่ะ มีคนที่มีพลังเหมือนพวกเจ้า เมื่อเขาเกิดขึ้นมาก็ไม่มีใครยอมรับในพลังนั้น และเขาก็ถูกขับไล่ออกจากเมือง แล้วพระราชาจะยอมให้ประชาชนรู้หรือ ว่ามีลูกของเขามีพลังน่ะ รู้ไหมตอนนี้เขาประกาศออกไปว่าพวกเจ้าน่ะมีโรคประจำตัวแล้วมันกำเริบตายไปแล้ว ฮ่า ฮ่า ถ้าพวกเจ้าไม่มีพลังนั้นล่ะก็พวกเจ้าคนใดคนหนึ่งคงได้ขึ้นครองราชต่อไปอย่างแน่นอนคงไม่ต้องมาอยู่ในห้องขังแบบนี้ ฮ่า ฮ่า..." ผมจำทุกคำพูด ทุกประโยคที่ผู้คุมห้องขังพูดออกมา'มันเป็นเหมือนเข็มหลายพันเล่มทีแทงเข้ามาเรื่อยๆผมยังจำได้มันเจ็บปวดมาก ผมนิ่งและเงียบมากในตอนนั้นผมไม่สามารถพูดออกมาได้ ส่วนน้องมิเรก็ได้แต่ร้องไห้ พอผ่านไปได้เกือบครึ่งปีพวกผมก็วางแผนกัน เพื่อที่จะหนีออกจากห้องขังนี้ออกจากพระราชวัง ออกจากเมืองนี้ ผมวางแผนกันนานหลายเดือนจนมาวันนี้วันที่พวกผมจะหนีออกไป ซึ่งวันนี้เป็นวันที่พวกเราจะอายุครบ 11 ปี วันที่เมื่อหนึ่งปีก่อนเป็นวันที่พวกผมถูกจับมาไว้ที่นี้
         วันนี้พระจันทร์นั้นสวยมากเท่าที่ผมจำได้ผมไม่เคยเห็นมันสวยขนาดนี้มาก่อน แสงจันทร์ที่ผ่านช่องเล็กๆที่มีลูกกรงนั้นมา คุณรู้ไหมลูกกรงนั้นน่ะเป็นสิ่งที่ผมสร้างขึ้นมาด้วยภาพมายาของผม มันถูกทำลายไปเมื่อตอนที่พวกเราเริ่มวางแผนกัน มิเรได้เอาลูกกรงนั้นออกมาและทำลายมันจนเป็นผงละเอียดด้วยพลังที่เขามี ผมรู้เลยว่าพลังของพวกเราจะทำให้พวกเราออกจากที่นี่ได้อย่างแน่นอนและพวกเราก็วางแผนกันจนมาถึงวันนี้วันที่พวกผมจะเป็นอิสระ
         "มิเรเรามาเริ่มแผนกันเถอะ"ผมปลุกมิเรที่นอนอยู่
         "ได้ครับพี่ออซ"มิเรตอบผมด้วยใบหน้าที่ดีใจมากใครมันจะไม่ดีใจล่ะที่จะออกไปจากเมืองนี้
         "เอ้ามิเรใช้พลังทำลายประตูเลย!"ผมพูดพร้อมกับชี้ไปที่ประตูเหล็ก มิเรเริ่มใช้พลังทันใดนั้นประตูก็สลายไปเหลือแต่เศษฝุ่นละออง แล้วมันก็ถูกพัดมันหายไป คนเฝ้าประตูที่หลับไม่รู้เรื่องอะไรก็ยังหลับต่อไป ผมใช้ภาพมายาสร้างประตูและร่างของผมและมิเรให้เหมือนกับพวกผมกำลังหลับอยู่ หลังจากสร้างภาพมายาเสร็จ พวกผมก็วิ่งออกมาจากพระราชวัง ผ่านบ้านเรือนของประชนมากมายพวกผมวิ่งมาถึงประตูที่จะทำให้ออกจากเมืองนี้ได้ผมหยุดและพูดกับมิเร
        "มิเรอยากจะออกไปกับพี่จริงใช่ไหม"ผมถามน้อง
        "แน่สิครับยังไงผมก็จะไปกับพี่"
        "งั้นเราก็ออกไปกันเถอะ"พวกผมวิ่งออกไปมันเป็นทางเดินยาวออกไปเมื่อพวกผมวิ่งมาถึงข้างหน้าของป่าพวกผมก็ตัดสินใจหยุดพักที่นั้น พวกผมนั่งพิงต้นไม้ที่สูงมากๆต้นหนึ่ง
        "มิเรที่พี่รู้มาถ้าเราเดินผ่านป่านี้ไปได้เราก็จะไปเจออีกเมืองแล้วคราวนี้เราห้ามบอกไปว่าเรามีพลังไม่งั้นเราได้ตายแน่"ผมพูดกับมิเรพร้อมทั้งหอบไปพร้อมๆกับเพราะเหนื่อยจากการวิ่งมามันเป็นระยะทางประมาณ 7 กิโลเมตร จากตรงนี้พวกผมสามารถเห็นเมืองที่จากมาเล็กมากๆ "ได้ครับพี่"มิเรตอบกลับมาและก็หอบเหมือนผม
        "วันนี้เราก็พักกันที่นี่แหละน่ะ"ผมพูดพร้อมกับใช้ภาพมายาสร้างผ้าห่มขึ้นมาถึงมันจะเป็นเพียงแค่ภาพมายาแต่มันก็ยังให้ความอุ่นกับพวกเราได้ ทันใดนั้นก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมา
        "สวัสดีท่านมิเรและท่านออซ"มันเป็นเสียงที่น่าจะพูดออกมาจากชายวัยกลางคน
        "ใครกัน!?"ผมพูดด้วยความตกใจ
        "ไม่ต้องกลัว ไม่ต้องกลัว"ชายผู้นั้นเดินออกมาจากหลังต้นไม้เขาใส่ผ้าคลุมซึ่งปิดหน้าของเขาไว้
        "คุณต้องการอะไร"ผมพูดโดยตัวนั้ยสันเทาส่วนมิเรก็อึ่งเป็นอย่างมาก
        "ฉันมีข้อเสนอให้น่ะแล้วแต่ว่าจะรับไม่รับ แต่ต้องมีข้อแลกเปลี่ยน
        "ชายผู้นั้นพูดขึ้นในขณะที่พวกผมยังทำอะไรไม่ถูก
        "..."ผมเงียบและรอฟังข้อเสนอนั้นคืออะไร
        "ฉันจะพาพวกคุณไปอีกมิติซึ่งพวกเธอต้องไปเอาชีวิตรอดเอาเอง ถ้าไม่ตกลงพวกคุณก็จะไปอีกเมืองใช่ไหมซึ่งที่นั้นได้รู้ว่าพวกเธอตายจากข่าว พวกคุณจึงไม่ควรไป"
        "..."ใช่อย่างที่เขาพูดผมลืมคิดถึงเรื่องนี้ไป
        "ว่าไงล่ะ"
        "ข้อแลกเปลี่ยนที่เราต้องทำล่ะ"
        "เมื่อพวกคุณไปก็รู้เอง"
        "มิเรเอาไง"ผมหันไปถามน้องที่เงียบไป
        "แล้วแต่พี่ครับ"มิเรยังหลบหลังผมต่อไป
        "นั้นสิน่ะงั้นเราตกลง"
        "งั้นเดินเข้าไปในนี้น่ะ"เขาผายมือออกไปแล้วก็เกิดประตูขึ้นมา
        "..."ผมเดินเข้าไปพร้อมกับมิเรในนั้นมืดสนิท...

    ...ผมลืมตาขึ้นมาเห็นซากุระที่ร่วงโรยลงมา ทำไมเปลือกตามันหนักอึ้งอย่างงี้น่ะแล้วผมก็หลับตาลงอีกครั้ง...
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×