ตำนานรักสายเลือด
เมื่อพ่อของตนถูกฆ่าแล้วเข้าใจว่าเข้าใจว่าเป็นคนอื่นฆ่าที่จิงแล้วเป็นคนใกล้ตัวอยากรู้หรือไม่ว่าใครเป็นคนฆ่าถ้าอย่ารู้ต้องติดตามนะคะ.......
ผู้เข้าชมรวม
177
ผู้เข้าชมเดือนนี้
0
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ตำนานรักสายเลือด
“แม่คะ พ่อไม่รู้ใช่ไหมคะว่าหนูจะไปเซอร์ไพร์อะคะ” วันนี้เป็นวันเกิดพ่อของฉันคะ ฉันรวมหัวกับแม่ฉันว่าจะไปเซอร์ไพร์คุณพ่อ โดยฉันโกหกคุณพ่อว่าฉันไม่ว่างฉันจะไปงานวันเกิดเพื่อนโดยทำเป็นแกล้งลืมงานวันเกิดคุณพ่อคะ
“แน่นอนสิลูกฝีมือระดับแม่นะ” แม่ฉันก็รู้เห็นเป็นใจกับฉันโดยการแกล้งคุณพ่อไม่รู้ว่าคุณพ่อรู้ พ่อจะโกรธฉันไหมเนี่ย
พ่อฉันไปจัดงานที่น้ำตกแห่งหนึ่ง น้ำตกแห่งนี้อยู่ในป่าไม่ลึกมากนัก แต่บรรยากาศสวยงามมากๆ ฉันกำลังเดินเข้าไปที่น้ำตกอีกนิดเดียว พ่อจะต้องเซอร์ไพร์แน่ๆ ฉันค่อยๆแอบย่องเข้าไปในงาน เอ๋ !แต่คนหายไปไหนกันหมด ไม่มีใครมาเลยหรอ แล้วพ่อละ หายไปไหน พ่ออยู่ไหนนะ ฉันวิ่งหาทั่วงาน ฉันลองออกไปหาในป่าดู นั่นไง ใครกำลังทำอะไรพ่อฉันอยู่ เลือดกองนองเต็มพื้นเลย ฉันไปวิ่งดูใกล้ๆ มันเป็นพวกแวมไพม์ มันกำลังกินเลือดพ่อของฉันอยู่ ฉันวิ่งเข้าไปกระโดดถีบตัวของแวมไพม์ออกจากตัวพ่อของฉัน ฉันมองดูพ่อที่อยู่ในอ้อมแขนของฉัน พ่อฉันดูซุบเซียวแล้ว ลมหายใจก็เหลือน้อยเต็มที่ ฉันนั่งเรียกพ่ออยู่นานพ่อดูแล้วพ่อก็จากฉันไป ฉันหันกลับไปมองแวมไพม์ตนนั่น มันก็รีบวิ่งหนีไป ฉันจะวิ่งตามแต่ก็วิ่งไม่ทันมัน
ฉันกับแม่จัดงานศพให้คุณพ่ออย่างสมเกียรติ วันนี้เป็นวันฝั่งพ่อของฉัน ฉันจะเห็นหน้าพ่อของฉันเป็นวันสุดท้าย ฉันยืนร้องไห้กับแม่ของฉัน แวมไพม์บ้า แกเป็นคนทำให้พ่อของฉันตาย ฉันจะต้องฆ่าแกให้ได้ คอยดูเถอะ
“อ๊ะ แม่หนูรู้สึกแปลกๆนะ มันร้อนไปทั้งตัวเลยอะ โอ้ย.............”ฉันลงไปนั่งกองอยู่กับพื้น ด้วยความปวดแสบปวดร้อนไปทั้งตัว
“เอมิลี่ เมื่อเช้าหนูได้กินยาหรือเปล่า”แม่วิ่งมาพยุงฉันให้อยู่ในอ้อมแขนของแม่ สั่งคนรถให้ไปเอายาที่รถมาแล้วเอายาให้ฉันกิน นี่มันเป็นโรคประจำตัวของฉัน ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าฉันเป็นอะไร ฉันต้องกินยาทุกๆวัน เป็นยาที่แม่ฉันทำขึ้นเอง มันเป็นยาชนิดแค็บซูล ฉันก็ไม่เคยรู้ตัวยาข้างในเหมือนกันว่ามันเป็นอะไร พอฉันได้กินอาการปวดแสบปวดร้อนก็หายไปเลย
ฉันเริ่มทำการออกตามหาตัวแวมไพร์ตนนั้น แต่ก็ไม่มีใครเคยพบเห็น ฉันเลยลองออกตามหาด้วยตัวเองดู ฉันเดินตระเวรทุกๆคืน แต่ก็ไม่มีอะไร แล้วก็มีอยู่คืนหนึ่ง ฉันก็เดินไปเรื่อยๆ ฉันได้ยินเสียงร้องโวยวายของคน ฉันเลยวิ่งไปดู มันเป็นแวมไพร์ตัวเดียวกับที่มันฆ่าพ่อฉัน ฉันเลยเข้าไปช่วยผู้หญิงคนหนึ่ง ที่มันกำลังกินเลือดอยู่ ฉันเข้าไปกระโดดถีบให้มันกระเด็นออกไป แล้วมันก็วิ่งหนี ฉันก็วิ่งตามมันไป เอ๋ !แล้วมันหายไปไหนแล้วละ เมื่อกี้เห็นหลังไวๆอยู่เลย ฉันเดินลาดตระเวนอยู่หลายรอบ แต่ก็หาไม่เจอ มันหายไปไหนของมันนะ ฉันเดิมอยู่สักพัก ฉันก็เอะใจ เหมือนกับมีคนมองฉันอยู่ตลอด ฉันเห็นเงาไหวๆที่อยู่ในซอกตึก ฉันเห็นนัยน์ตาสีแดงฉานมองออกจากซอกตึก ฉันแน่ใจแล้วว่าต้องเป็นแวมไพร์แน่นอน ฉันวิ่งเข้าใส่เจ้าของในตาสีแดง ฉันกับมันเกิดการต่อสู้กัน แต่ดูเหมือนว่าฉันจะเป็นฝ่ายกระทำอย่างเดียว หมอนี่ทำแต่เพียงป้องกันตัว หลบการปะทะ แต่ไม่เคยต่อสู้กลับ ฉันมีความรู้สึกว่าฉันต่อสู้มานานมากๆ ฉันลงไปนั่งกองอยู่ที่พื้น ด้วยความเหนื่อยล้า หมอนั่นก็ยืนมองหน้าฉันโดยไม่พูดไม่จา แถมยังไม่ทำร้ายฉันอีกด้วย
“ฉันไม่ได้ฆ่าพ่อของเธอ” ในที่สุดหมอนี่ก็พูด นายไม่ได้ฆ่าพ่อของฉันใครจะไปเชื่อ เห็นนายดูเลือดพ่อฉันอยู่อย่างนั้น
“ใครจะไปเชื่อ คำพูดของแวมไพร์ไม่มีน้ำหนักพอหรอก”ฉันพูดจบฉันก็พุงตัวเข้าหาหมอนี่ทันที มันก็หลบการปะทะเหมือนเดิม แล้วหนีไป ฉันไม่มีกำลังที่จะตามมันไปแล้ว แต่ก่อนที่มันไปมันพูดไว้ประโยคนึงคือ
“ฉันจะพิสูจน์ให้เธอเห็นว่าฉันไม่ได้เป็นคนฆ่าพ่อของเธอ”แล้วเค้าก็จากไป เหลืออีกเพียงแค่เอื้อมทำไมฉันสู้มันไม่ได้ ฆ่ามันไม่ได้ อีกนิดเดียวเท่านั้น มันมาอยู่ตรงหน้าของฉันแล้วแต่ฉันกลับทำไม่ได้ ฉันไม่มีฝีมือเลยจริงๆ
ฉันนั่งร้องไห้อยู่อย่างนั้น แค่เพียงแก้แค้นให้พ่อ ฉันยังทำไม่ได้ ฉันสมเพสตัวเอง ทำไมฉันเป็นคนไม่เอาไหนอย่างนี้นะ ไม่ได้เรื่องได้ราว ฉันจะต้องฝึกฝนตัวเองแล้วไปแก้แค้นให้พ่อให้ได้
“แม่คะหนูเจอมันด้วยแหละคะ หนูเจอมันแล้ว แต่หนูก็ทำอะไรมันไม่ได้เลย” ฉันไปกอดแม่แล้วก็ร้องให้กับแม่
“ไม่ร้องนะลูก หนูเจอใคร”
“แวมไพร์ตัวนั้นคะ แวมไพม์ที่ฆ่าพ่อคะ”แม่ไม่พูดอะไรแม่ลูบหลับฉันแล้วก็พูดปลอบฉันจนหลับไป
หลังจากคืนนั้น ฉันก็ออกไปลาดตระเวรทุกๆคืน แต่ก็ไม่เคยได้เจอหมอนั่นอีกเลย และวันนี้ก็เหมือนทุกวันไม่ได้เจอหมอนั้นอีกตามเคย ฉันกลับบ้านเร็วกว่าปรกติแล้วฉันก็ได้พบกับสิ่งที่ฉันไม่คาดฝัน แม่ของฉันยืนคุยกับแวมไพร์ที่ฆ่าพ่อของฉัน ฉันเลยแอบไปฟังว่าแม่คุยอะไรกับหมอนั่น
“เธอชื่อว่าอะไรจ๊ะ”ทำไมแม่ต้องพูดเพาะๆกับคนที่ฆ่าพ่อด้วย
“กาชิเอโล”หมอนี่นายกล้ายังไงเข้ามาถึงบ้านของฉัน นายจะต้องตายอยู่ที่นี่แหละวันนี้
“ในที่สุดฉันก็หาเจอแวมไพร์อีกตัว กาชิเอโล่เธอรู้ไหมว่าเผ่าพันธุ์ของเราใกล้จะสูญพันธ์แล้วนะ เหลือเพียงฉันกับเธอเท่านั้น”หมายความว่ายังไง แม่ของฉันเป็นแวมไพร์หรอ ไม่จริงๆ ฉันเป็นลูกของแวมไพร์ ไม่.....ฉันไม่ต้องการ ฉันไม่อยากได้สายเลือดเผ่าพันธุ์ที่ฆ่าพ่อของฉัน
“คุณฆ่าพ่อของผู้หญิงคนนั้นทำไม”หมายความว่ายังไงกันอย่าบอกนะว่าแม่เป็นคนฆ่าพ่อนะ
“ก็สามีเง้าของฉันมันแส่รู้ พอมันรู้ว่าฉันเป็นแวมไพร์มันก็จะฆ่าฉัน ฉะนั้นฉันก็ต้องฆ่ามันก่อน แต่ยังดีนี่เอมิลี่ยังไม่รู้ถ้ารู้คงเกียดฉันตายเลย”แม่ แม่ทำไมทำอย่างนี้ละ ทำไมแม่ต้องฆ่าพ่อ แค่หนูมีสายเลือดแวมไพร์หนูก็รังเกียดจะแย่อยู่แล้ว แล้วนี่อะไร เป็นสายเลือดของคนที่ฆ่าพ่อของหนู หนูรับไม่ไวแล้วนะเรื่องอย่างนี้ มันเกินทนแล้วนะ
“แม่หนูรู้แล้ว แม่ไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว แม่ทำไปได้ยังไง ทำไมอะคะ ทำไม”ฉันพูดแล้วก็วิ่งหนีไป ฉันไม่รู้จะไปไหน ฉันก็เลยมาที่โบสถ์ ฉันมาวิ่งวอนกับแม่พระ ขอให้เรื่องที่เกิดขึ้นในคืนนี้เป็นเพียงแค่ความฝันเท่า ตื่นมาพรุ่งนี้ขอให้กลับมาเป็นเหมือนเดิม มีพ่อ มีแม่อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาเหมือนเดิม แต่มันคงเป็นไปไม่ได้ นี่มันเป็นความจริงที่ไม่อาจปฏิเสธได้จริงๆ ฉันต้องสู้กับมันต่อไป แต่วันนี้ฉันเหนื่อยจริงๆฉันไม่ไหวแล้ว ขออยู่ที่นี่สักพัก ขอให้ฉันได้พักบ้าง
ฉันตื่นขึ้นมาฉันพบว่าฉันนอนอยู่ที่เตียงของใครสักคนแล้วก็ไม่รู้ ฉันมองไปรอบๆก็ไม่มีใครอยู่ ฉันมองออกไปนอกหน้าต่าง เป็นสวนดอกไม้ที่สวยงามมากๆ แล้วก็มีลมพัดอ่อน สายลมพัดความหอมของดอกไว้เข้ามา ทำให้รู้สึกสบายมากๆ กลิ่นหอมๆของดอกไม้ กับภาพของสวนดอกไม้ที่สวยงาม
“ตื่นแล้วหรอ”ฉันหันไปมองตามเสียง นี่มันหมอนั่นนี่หน่า
“อืม... ทำไมฉันมาอยู่ที่นี่ได้ละ”
“ก็เห็นคุณนอนอยู่ในโบสถ์คงไม่สบายเลยพามานอนที่เตียงหน้าจะสบายมากกว่า”เค้าพูดพร้อมกับยกถาดอาหารวางให้ฉันที่โต๊ะริมหน้าต่าง “กินซะนะครับ ผมวางไว้ตรงนี้นะ”
“นี่ห้องนายหรอ สวยดีนะ แล้วนายอยู่ที่โบสถ์นี่หรอ” ฉันต้องมองนายใหม่แล้วแหละ นายไม่ใช่คนที่ฆ่าพ่อของฉัน แถมพาฉันมานอนที่เตียงของเค้าอีก ทั้งๆที่ครั้งนั้นฉันพยายามจะฆ่าเค้าแท้ๆ แต่เค้ากลับยังมาช่วยฉัน ฉันละอายต่อเค้าจริงๆ
“ใช่ครับ แล้วคุณไม่ต้องกังวลเรื่องแม่ของคุณนะครับ ผมไม่ได้บอกท่าน”นายนี่เป็นคนดีจริงๆเลย
“อืมขอบใจนะ เรียกฉันเอมี่ก็ได้ อย่าเรียกคุณเลยฟังดูห่างเหินยังไงไม่รู้ นายชื่อไรนะ กาซิเอโล่ใช่ไหม ชื่อเรียกยากจัง แถมยาวด้วย งั้นฉันเรียกนาย เอโล ละกันนะ ไม่ว่ากันใช่ไหม”ฉันพูดแบบเป็นมิตรสุดๆ
“แล้วแต่ครับยังไงก็ได้”นายนี่พูดเพราะตลอดเลยหรือยังไงกัน สุภาพอะไรอย่างนี้ แต่ก็ดี ฟังเพาะดี
ฉันอยู่กับเอโลเป็นอาทิตย์ เอโล เป็นคนไม่ค่อยพูด แต่ก็รู้สึกสบายใจดี ฉันเล่าอะไรให้เค้าฟังตั้งหลายเรื่อง เวลาว่างๆฉันก็ชอบพูดแย่เค้าเล่น เวลา เอโล อายเนี่ยน่ารักมากๆเลย เค้าดูแล่ฉันดีมากๆ วันวันฉันไม่ต้องทำอะไรเลย เค้าทำให้ฉันหมดทุกอย่าง ฉันก็อยากช่วยเค้าเหมือนกันแต่เค้าไม่ยอมให้ฉันทำเนี่ยสิ มาอยู่กับเค้าแล้วยังไม่ช่วยทำอะไรอีก ฉันรู้สึกไม่ค่อยดีเลย ฉันอยู่กับเค้าจากวัน เป็นอาทิตย์ จากอาทิตย์เป็นเดือน ฉันอยู่กับเค้ามาหลายเดือนแล้ว ฉันไม่ได้ติดต่อไปหาแม่อีกเลย เพราะฉันไม่อยากกลับไปหาความทรงจำอย่างนั้นอีกแล้ว ฉันจะเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง โดยที่ไม่มีเรื่องนั้น ฉันจะลืมมันไปซะ ฉันว่าฉันเจอคนที่ฉันรักแล้วนะ เอโล คะ ฉันอยู่กับเค้าทำให้ฉันรู้สึกสบายใจมากๆ เค้าเคยไม่เคยถามเรื่องของแม่ฉันอีกเลย ฉันจะเริ่มต้นใหม่กับเค้าที่นี่ละคะ แต่ฉันยังไม่เคยบอกเค้าเลยว่าฉันรักเค้านะคะ ฉันก็ไม่รู้ว่าเค้าคิดกับฉันยังไง แต่สักวัน วันที่ฉันแน่ใจจริงๆแล้วว่าเค้าใช่ ฉันจะบอกกับเค้า
“เอโล เอโล ช่วยฉันด้วย ฉันร้อนไปทั้งตัวเลย เหมือนตัวฉันจะไหมเลย เอโล”โรคเดิมฉันกำเริ่บอีกแล้วคะ ยาแม่ของฉันหมดพอดี ฉันเลยไม่ได้กินยาเมื่อเช้า
“เอมี่ เอมี่เป็นอะไร”เอโล เข้ามาพยุงฉัน ฉันรู้สึกร้อนมากๆ ฉันดิ้นทุรนทุราย
“ฉันไม่รู้ ยาฉันหมดพอดี ถ้าฉันไม่ได้กินยาฉันก็จะเป็นอย่างนี้ แต่ฉันก็ไม่เคยปล่อยไว้นานอะ”ฉันก็คงยังดิ้น ทุรนทุรายอยู่
“แต่ผมว่าอาการอย่างนี้เหมือนกับการจะกายร่างแต่ ทำได้ไม่สมบูรณ์นะ แต่ผมไม่อยากให้คุณเป็นแบบผม”เอโลพูดแล้วก็ทำหน้าตาลังเล ฉันก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าที่เค้าพูดหมายความว่ายังไง ไม่อยากให้เป็นแบบเค้า แล้วแบบเค้ามันเป็นยังไงหรอ แต่ฉันไม่ไหวแล้ว มันร้อนมากเหมือนตัวจะละลายแล้ว
“เอโล ฉันไม่ไหวแล้ว มันทรมาน มันทรมานมากๆ”ฉันดิ้นทุรนทุราย แล้วเอโลก็เดินไปเอามีดปอกผลไม้ ที่วางอยู่ในตะกล้า แล้วก็กรีดที่ข้อมือของตัวเอง แล้วเลือดสดๆสีแดงก็ไหลใส่แก้วใบหนึ่ง แล้วเค้าหยิบแก้วใบที่มีเลือดของเค้าอยู่มาจะป้อนฉัน
“ให้ฉันกินเลือดหรอ ฉันไม่เอา ฉันไม่กิน”ฉันเบือนหน้าหนี ทั้งๆที่ยังทุรนทุรายอยู่
“ถ้าคุณไม่กินคุณอาจจะตายได้นะ เร็วกินเข้าไปเถอะ ผมว่ายาที่คุณกินทุกวันนั้นก็คือเลือดนั่นแหละแต่แม่คุณอาจทำให้มันเป็นเม็ดเพื่อไม่ให้คุณรู้ เร็วกินเค้าไปเถอะ”ที่แม่ให้ฉันกินยาทุกวันเป็นเลือดอัดแค็บซูลหรอ ฉันกินเลือดมาตลอดหรือเนี่ยไม่อยากจะเชื่อ ก็ใช่สิฉันเป็นลูกครึ่งแวมไพม์นี่ ถ้าไม่กินเลือดก็แปลกแล้ว ฉันพยายามทำใจยอมรับที่จะต้องกินเลือดสดๆ เอโลค่อยๆป้อนเลือดในแก้วให้ฉันกิน ฉันก็ค่อยๆรู้สึกดีขึ้น สักพักฉันรู้สึกเหมือน ตัวฉันเบา สบายมากๆ ไม่ใช่หมายความว่าสมัยก่อนหนักนะ แต่มัน เดินเหินสะดวกกว่าเก่า เอ๋! ฉันว่าฉันรู้สึกในปากฉันมันแปลกๆนะ ฉันเดินไปหน้ากระจกยีฟันดู ว้าย!ฉันมีเขี้ยวด้วยอะ อ๊าย! ดูตาฉันสิสีแดงเหมือนของเอโลตอนนั้นเลย แล้วดูเล็บฉันสิยาวและแหลมเปี้ยวเลย สีดำอีกต่างหาก ฉันมองตัวเองในกระจกเหมือนสัตว์ประหลาดเลย
“เอโล ทำไมฉันกลายเป็นสภาพแบบนี้อะ”ฉันไม่ยอมว่างสายตามองตัวเองที่อยู่ในกระจก
“ไม่เป็นไรเดียวก็หาย สักพักนะ เดี๋ยวก็กลับมาเป็นเหมือนเดิม ตอนนี้เอมี่เป็นพันธุ์แท้แล้ว เอมี่จะไม่มีอาการปวดแสบปวดร้อนเหมือนเดิม แล้วเพราะคุณได้กลายร่างอย่างสมบูรณ์แล้ว แต่เอมี่คุณจะต้องกินเลือดเป็นอาหารแทน”ฉันต้องกินเลือดคนหรอ ไม่เอาแล้วไม่เอานะ “แต่ไม่ต้องกินเลือดคนก็ได้ เลือกสัตว์ก็เหมือนกัน แต่จริงๆแล้วเลือดคนอร่อยกว่านะ ฮาฮา”ฉันไม่ขำด้วยหรอกนะเอโลบ้า ยังมาทำเป็นเล่นอีก จากที่ฉันเคยกินอาหารแล้วให้ฉันมากินเลือด พูดแล้วขนลุก แต่ก็ยังดีที่กินเลือดสัตว์แทนได้ สักพักฉันก็กลับมาเป็นร่างเดิมค่อยยังชั่วหน่อยให้อยู่ร่างเมื่อกี้ฉันละรับไม่ได้จริงๆ ฉันมองตัวเองยังหน้ากลัวเลย
ชัยโย วันนี้เป็นเกิดของฉัน เอโล เค้าบอกว่าจะมีอะไรให้ฉันด้วยแหละ ตื่นเต้นจังเลย เอโลจะให้อะไรฉันหว่า ลุ้นจังเลย
“เอมี่มานี่หน่อยสิครับ”เรียกฉันทำไมละเนี่ย แต่ฉันก็เดินไปหาเค้าโดยดีละนะ “ผมมีอะไรให้คุณแต่ ต้องหลับตาก่อนนะครับ”ฉันพยักหน้า เอโล จะให้อะไรฉันเนี่ย ตื่นเต้นจัง เอโลจะพาฉันไปไหนละเนี่ย แต่ฉันก็เดินตามที่เค้าลากฉันไปละนะ แล้วเค้าก็หยุดลงเค้าเปิดตาฉัน ว้าย! ทำไมเอโลน่ารักอย่างนี้นะ แค่นี้ฉันก็รักจะแย่อยู่แล้ว เค้าทำเค้กให้ฉันคะ เป็นรูปหัวใจด้วย เค้าต้องการจะบอกอะไรฉันหรือเปล่านะ แต่ก็ช่างเถอะฉันอาจจะคิดไปเองก็ได้ แต่ยังไงฉันก็รักเค้าอยู่ดี เค้าร้องเพลงวันเกิดแล้วฉันก็เป่าเป่าเค้ก
“เอมี่”ฉันหันหน้าไปตามเสียงของเค้า “คือผม...” จะพูดอะไรนะฉันก็มองหน้าเค้าประมาณว่าพูดมาสิ “คะ คะ คือ ผะผมรักคุณ” อึกอักอยู่ตั้งนานกว่าจะพูดออกมาได้ ฉันโผเข้ากอดเอโลเอาไว้ ฉันดีใจจริงๆนะ ฉันรอคำนี้จากปากเค้ามานานมากแต่เค้าก็ไม่เคยพูดสักที ฉันสบตากับเอโล แล้วหน้าเราก็ขยับเข้ามาใกล้ๆกันจนปากของเราก็ประกบกัน ฉันลืมสิ่งรอบข้างๆไปหมด ฉันไม่รู้ว่าเราจุมพิตกันนานแค่ไหน จนกระทั่ง กรี้ด....เสียงร้องโหวกเหวกโวยวายของคนดังมา มันเกิดอะไรขึ้น ฉันกับเอโลวิ่งออกไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น มีคนตะโกนว่าปีศาจมา มันเกิดอะไรขึ้นนะ ฉันหันไปมองเอโล ตาของเอโล กลายเป็นสีแดง เล็บก็เริ่มยาวออกมา แถมครั้งนี้แปลกกว่าเดิมด้วย มีปีกงอกออกมาด้วย แล้วฉันละ ฉันมองมือของตัวเองเล็บฉันก็ยาวออกมาเหมือนกัน แล้วก็เหมือนมีปีกเหมือนกัน ทำไมละวันนั้นฉันก็แปลงร่างสมบูรณ์แล้วไม่ใช่หรอ มันไม่มีปีกนิ
“เอโล ทำไมวันนี้ถึงมีปีกละ” เอโลมองขึ้นไปบนท้องฟ้า ฉันก็มองตามเค้า ก็ไม่มีอะไรนี่ วันนี้พูดถึงพระจันทร์สวยจังเลย ดวงกลมโตเชียว
“วันนี้เป็นวันพระจันทร์เต็มดวง นี่แหละคือร่างที่แท้จริงของพวกแวมไพร์ ผมว่าแม่ของคุณเองก็คนเป็นเหมือนกัน คืนนี้เป็นคืนที่พวกเราแข็งแกร่งที่สุดและเป็นคืนที่แวมไพร์ส่วนใหญ่ออกล่าอาหารกัน ถ้าคืนนี้มีใครได้กินเลือดของมนุษย์เข้าไปก็จะไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ แม้กระทั่งเครื่องเงินก็ทำอะไรไม่ได้ นอกจากจะแทงเข้าที่หัวใจ” ที่พวกเรายังควบคุมตัวเองได้ก็เพราะว่าพวกเราไม่ได้กินเลือดมนุษย์นี่เอง “แล้วที่เมื่อกี้มีคนบอกว่าปีศาจ ผมว่าอาจเป็นแม่ของคุณก็เป็นได้ เพราะแม่ของคุณไม่มีทางกินเลือดสัตว์แน่ๆ”ฉันก็ว่านะสมัยก่อนฉันอยู่กับแม่ฉันเห็นแม่กินไวน์แดงๆทุกๆมื้อเลย แสดงว่านั่นคือเลือดสินะ
“แล้วจะทำยังไงละเอโล เราต้องทำยังไงหรอ ฉันไม่อยากให้มีคนตายนะ”จะทำยังไงดีแล้วถ้าต้องการจะหยุดแม่ฉันเท่ากับว่าต้องฆ่าวิธีเดียวใช่ไหม “เอโล ถ้าถึงขั้นที่จะต้องฆ่าแม่ฉันอะ ฉันขอเป็นคนทำเองนะ”ฉันบอกเอโลไว้ก่อน ฉันมีลางสังหรณ์ว่ามันต้องมาถึงแน่ๆ
ฉันกับเอโลออกไปตามหาตัวแวมไพร์อีกตัวแต่ก็ยังไม่แน่ใจว่าจะเป็นแม่ของฉันหรือเปล่า พวกเราบินออกตามหา “นั่นไงเอโล”ฉันเห็นแวมไพร์กำลังกินเลือดของมนุษย์อยู่คนหนึ่ง ฉันกับเอโลรีบบินเข้าไปหยุดแวมไพร์ตัวนั้น แวมไพร์ตัวนั้นหันหน้ามา นี่มันแม่ฉัน ฉันอุทานออกมาเบาๆ แต่ฉันรู้ว่าคนที่อยู่หน้าฉันไม่สติพอที่จะจำฉันได้แล้วว่าฉันเป็นลูกของเค้า แม่ฉันเข้ามาทำร้ายฉันกับเอโล ฉันกระโดดหลบไป เอโลเค้าเข้าไปสู้กับแม่ฉัน ดูท่าเอโลจะสู้แม่ฉันไม่ได้ ฉันเลยเข้าไปช่วย แม่ฉันนี่เร็วเคลื่อนไหวได้เร็วมากๆ โอ๊ย!ฉันโดนเล็บแม่ฉันข่วนเอาเป็นแผลลึกเลย ฉันมองไปดูเอโลฉันเห็นเค้าเลือดไหลเต็มตัวเลย ฉันว่าถ้าเอโลต่อสู้ต่อไปเค้าต้องตายแน่ๆ ฉันจะทำยังไง ฉันไม่อยากให้ทั้งเอโลและแม่ฉันจากฉันไป ฉันจะทำยังไงดี ฉันต้องทำยังไงถ้าไม่ฆ่าแม่ต้องมีคนอีกหลายคนตายแน่ๆ เอโล ฉันร้องเรียกชื่อเค้า แล้วก็วิ่งไปขวางเอาไว้ เพราะว่าแม่ฉันกำลังจะฆ่า เอโล แม่ฉันหยุดการเคลื่อนไหวนิดไหวนิดนึง ฉันฉวยโอกาสนี้พอเอโลออกมา เอโลเลือดเต็มตัวเลย แม่ฉันตามมาแล้ว ฉันหนีแม่ไม่ทันแน่นอน มีทางเดียวคือฉันต้องสู้ ต้องสู้อย่างเดียวเท่านั้น ฉันหยุดหนีแล้วก็รอให้แม่ฉันมา พอแม่ฉันมาฉันไม่รอช้าฉันพุ่งตัวเข้าไปหาแม่โดยเร็ว เราต่อสู้กันบนกลางอากาศ ฉันเสียท่าแม่ฉันล็อคคอฉันไว้ แม่กำลังจากัดคอฉันแล้ว แล้วแม่ก็ชะงักไป ฉันใช้จังหวะนั้นใช้มือทะลวงเข้าไปที่หัวใจของแม่ ฉันดึงหัวใจของแม่ออกมา แล้วแม่ก็ล่วงลงไปที่พื้น ฉันก็บินตามร่างของแม่ไป ฉันเข้าไปดูร่างของแม่ที่ยังพอมีลมหายใจอ่อนๆ
“ลูกแม่ แม่หาลูกตั้งนาน แม่ระ ระรักลูกนะ”แล้วแม่ก็สินใจไป ฉันนั่งกอดศพแม่อยู่อย่างนั้น
หลังจากคืนนั้นฉันก็จัดงานศพให้แม่ ส่วนเอโล ก็บาดเจ็บหนัก ฉันก็คอยอยู่ดูแลเค้า เอโลบอกฉันว่าเมื่อเรื่องร้ายๆผ่านไป เราจะต้องได้พบกับเรื่องดีๆแน่ ฉันก็ว่าและนะหลังจากพ่อฉันตายแล้วก็รู้ว่าแม่เป็นคนฆ่า แต่หลังจากนั้นฉันก็ได้เจอคนที่ฉันรัก เอโล นั่นเอง และต่อมาฉันก็เป็นคนฆ่าแม่ด้วยมือฉันเอง ครอบครัวฉันไม่เหลือใครอีกแล้วมีฉันเพียงคนเดียว แต่ยังดีที่ยังเหลือเอโล
“เอมี่เรื่องดีๆที่กำลังจะเข้ามา คุณรู้หรือเปล่าว่าคืออะไร”ใครจะไปรู้ละ ฉันส่ายหน้า แล้วเอโลก็คุกเข่าลงตรงหน้าฉัน ฉันตกใจเลยพยายามฉุดเค้าให้ลุกขึ้น “เดี๋ยวก่อนสิเอมี่ ขอทำใจนิดนึง มาได้แหละ แต่งงานกับผมนะ”อะไรนะฉันได้ยินไม่ผิดใช่ไหม ขอฉันแต่งงานหรอ ฉันอึ่งไปสักพักนึง แล้วก็พยักหน้า เอโลดึงฉันเค้าไปกอด
วันนี้เป็นวันแต่งงานของฉันคะไม่มีแขกมาหรอกคะเพราะว่าพ่อแม่ฉันก็ไม่อยู่แล้ว พ่อแม่ของเอโลเองก็ไม่มี เราก็ทำพิธีกันในโบสถ์ มีเพียง หลวงพ่อ ฉันและก็เอโล ในที่สุดเราก็เป็นสามีภรรยากันแล้ว วันนี้ฉันมีความสุขมากๆ ฉันไม่คิดว่าฉันจะมีวันนี้จริงๆ
เราใช่ห้องนอนที่ฉันนอนกันเอโลอยู่ทุกๆวันเป็นห้องหอ ฉันกำลังยืนมองสวนด้านนอกอยู่ เอโลเข้ามากอดฉันจากด้านหลัง อ้อมกอดของเค้าอบอุ่นเป็นที่สุด ฉันหันกลับไปกอดเค้าแล้วเค้าก็ก้มลงมาจุมพิตฉัน แล้วเสียงทุกๆอย่างก็หายไป รวมทั้งเสียงลมหายใจของฉันและเอโลก็ได้หายไปจากโลกนี้
ตำนานรักของเอโลและเอมี่ได้จบลงโดยการทั้งคู่ได้กลายเป็นหินกันไปทั้งคู่ เนื่องจากเป็นความที่ไม่รู้กฎของทั้งคู่ว่าถ้าอายุไม่ถึงหนึ่งร้อยปีห้ามเกิดความสัมพันธุ์ใดๆทั้งสิ้น ถึงว่าอายุของทั้งคู่จะไม่ยืนยาวและไม่ได้อยู่ด้วยกันแต่ความรักของทั้งคู่นั้นจะยังคงตราตึงอยู่ในหัวใจของทั้งคู่ชั่วนิรันดร
ผลงานอื่นๆ ของ laborthinking ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ laborthinking
ความคิดเห็น